เมื่อหลีเทียนกังวางสายโทรศัพท์สายสุดท้าย ใบหน้าของเขามืดครึ้มจนแทบจะมีน้ำหยดลงมาเหล่าลูกน้องเก่าของเขา ไม่มีใครเลือกที่จะตามเขาไปเลย พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะอยู่กับบริษัทยาตระกูลหลี่ต่อไปบางคนถึงขนาดไม่รับสายเขาด้วยซ้ำ“ที่รัก เกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีเรื่องอะไรเหรอ?”หลี่เยว่ผิงถามด้วยความกังวล“เย่เฟิง! เป็นไอ้เย่เฟิงนั่น! พวกกลับกลอกพวกนี้คุยกับไอ้เย่เฟิงคนเดียวแล้วพวกมันก็เปลี่ยนใจทันที!!”หลีเทียนกังพูดด้วยใบหน้าที่เขียวคล้ำ“อะไรนะ? ไอ้หนุ่มหน้าหล่อที่อยู่ข้างๆ หลีเอียนคนนั้นน่ะเหรอ? เป็นไปได้ยังไง? แค่หนุ่มหน้าหล่อคนหนึ่ง จะมีความสามารถขนาดนั้นได้ยังไง?"”หลีถิงเบิกตากว้าง ไม่อยากจะเชื่อ“ใครจะไปรู้ว่าเขาใช้วิธีสกปรกอะไร! ที่น่าขำที่สุดคือ เขายังอวดอ้างว่าจะมีการสั่งซื้อมูลค่าอย่างน้อยเป็นห้าร้อยล้านในเร็วๆ นี้! ให้ตายเถอะ หรือเป็นเพราะเรื่องนี้? พวกกลับกลอกพวกนั้นเชื่อจริงๆ งั้นเหรอ?"”หลีเทียนกังมีสีหน้าที่ไม่แน่นอนเหล่าผู้บริหารของบริษัทเหล่านั้น แน่นอนว่าไม่มีทางพูดถึงเรื่องที่พวกเขาทำผิดอยู่เบื้องหลัง พวกเขาจึงเอาคำสัญญาลมๆ แล้งๆ ที่เย่เฟิงวาดไว้มาใช้แก้ตัว“ฮ่าคำ
“เอ่อ ผมลืมว่าที่นี่ก็ไม่มีคนอื่น”!”เย่เฟิงจับจมูกและพูดด้วยสีหน้าเขินอาย “งั้นคุณหนูหลี ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ?”ทันทีที่เขาพูดจบ สาวสวยผู้ที่เพิ่งจะดูอารมณ์ดีอยู่เมื่อไม่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้า ก็มีสีหน้าเย็นชาลงทันทีหลีเอียนมองเย่เฟิงด้วยสายตาดุๆแล้วพูดว่า “ไปเถอะ! เห็นหน้าคุณแล้วฉันหงุดหงิด!”เย่เฟิงเหงื่อแตกพลั่กในใจ คิดว่าผู้หญิงคนนี้... ทำไมอารมณ์ถึงได้แปรปรวนขนาดนี้?จิตใจของผู้หญิงนั้นยากแท้หยั่งถึงจริงๆ!หลังจากออกจากบริษัทเย่เฟิงก็แวะไปที่ร้านขายยาหลายแห่ง และซื้อยาจำนวนมากในเมื่อเขาตัดสินใจจะช่วยหลีเอียนแล้ว ก็ต้องเริ่มลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้เขาเลือกยาสี่ชนิดเพื่อเตรียม "ปรับแต่ง"ประกอบด้วยยารักษารอยแผลเป็นและเพื่อความงาม ยาปลูกผมและย้อมผม ยาห้ามเลือดอย่างรวดเร็ว และยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ที่เรียกว่า "ปรับแต่ง" ไม่ใช่ "ปรับปรุง" เพราะเย่เฟิงมีแผนที่จะลดประสิทธิภาพของสองตำรับยาชนิดแรกลงเล็กน้อยสำหรับสมุนไพรบางชนิดที่มีราคาแพง เย่เฟิงจะใช้สมุนไพรที่ราคาถูกกว่ามาทดแทนเพื่อลดต้นทุน ทำให้เหมาะสมกับการผลิตในปริมาณมากแน่นอนว่า ถึงแม้จะลดประสิทธิภาพ
หลังจากวางสาย คิ้วของมู่จ้านก็ขมวดแน่น สีหน้าไม่สามารถซ่อนความผิดหวังได้มู่ซินเฟยที่อยู่ข้างๆ ถอนหายใจพร้อมพูดว่า "นึกว่าเขาเป็นคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง ที่ไหนได้ เขาก็แค่คนที่หวังผลประโยชน์ พึ่งพาความสัมพันธ์กับพ่อเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง ช่างน่าผิดหวังจริงๆ!”บุตรสาวของท่านผู้บัญชาการส่ายหัวด้วยความไม่พอใจ คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความดูถูกเย่เฟิง “เฮ้อ พ่อเองก็ไม่คิดว่าเย่เฟิงจะกระหายผลประโยชน์ถึงขนาดนี้ พยายามจะใช้ความสัมพันธ์ของพ่อเพื่อโปรโมตยาห้ามเลือดของเขาในกองทัพ?”มู่จ้านส่ายหัว ความประทับใจที่มีต่อเย่เฟิงลดลงอย่างมาก“พ่ออย่าช่วยเขานะ! ฮึ่ม!” มู่ซินเฟยพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย“ไว้ว่ากันเขาบอกว่าจะทำตัวอย่างยาให้พ่อลองใช่ไหม? ถ้าผลลัพธ์ธรรมดา พ่อจะปฏิเสธเขา แต่ถ้าผลลัพธ์ดีจริงๆ พ่อก็อาจจะช่วยเขาได้บ้าง แต่ก็แค่ตามมารยาทเท่านั้น!”ผู้บังคับบัญชามู่พูดด้วยสีหน้าหนักแน่น“อืม รอดูตอนที่เขานำตัวอย่างมาแล้วกัน! หนูไม่เชื่อหรอกว่ายาของเขาจะดีกว่ายาห้ามเลือดของทหารที่เราใช้ในปัจจุบัน”มู่ซินเฟยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจทางด้านเย่เฟิง เมื่อวางสาย เขาก็รู้สึกถึงกา
ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์หรือการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ล้วนต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะประสบความสำเร็จ เย่เฟิงยังอายุน้อยแต่ทักษะทางการแพทย์ของเขาก็ยอดเยี่ยมแล้วแน่นอนว่าเขาคงมุ่งมั่นศึกษาเรื่องการแพทย์อย่างเต็มที่ ไม่อาจมีเวลาไปเรียนรู้สิ่งอื่นเย่เฟิงเห็นสีหน้าไม่สนใจของหลิงเอ๋อร์ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยในขณะนั้น หลิงเอ๋อร์ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไร ใบหน้าที่สวยงามของเธอเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อหลังจากลังเลอยู่พักใหญ่ หลิงเอ๋อร์ก็ลองถามอย่างระมัดระวัง "จริงสิ เย่เฟิง คุณมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ไม่รู้ว่าสามารถรักษา... เรื่องทางนั้นได้หรือเปล่า?"“ทางไหน ?”เย่เฟิงแปลกใจและขมวดคิ้ว“ก็……เรื่องนั้นไง โอ๊ยนี่……”หลิงเอ๋อร์กระทืบเท้าด้วยความเขินอายเย่เฟิงมองหลิงเอ๋อด้วยสีหน้าแปลกๆ แล้วตอบพร้อมมีเหงื่อออก "คุณออกจะร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคภัยอะไรนะ"“ไม่ใช่ฉัน! และมันก็ไม่ใช่โรคภัย คือมัน... มันใช้การไม่ค่อยได้! เป็นลูกพี่ลูกน้องฉันที่เป็นผู้ชาย เคยได้รับบาดเจ็บตรงนั้นตอนเด็กๆ คุณ... สามารถรักษาได้ไหม?"หลิงเอ๋อร์ขบกัดริมฝีปากและหน้าแดงจัด“แบบนี้นี่เอง……น่าจะได้ไม่มีปัญหา!”เ
เว่ยเสี่ยวตงปิดหน้าตัวเองแล้วลุกขึ้น ร่างกายเข้าเซเล็กน้อย ฝ่ามือเย่เฟิงนั้นทำเอาเขาเห็นดาวเลยทีเดียว ใบหน้าซีกหนึ่งก็บวมขึ้นมาความเคียดแค้นและความเกลียดชังปรากฏขึ้นในดวงตาคู่นั้นของเขาเหล่าลูกน้องและบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายเขามองด้วยความตกใจในหมู่บ้านฮั่วหูนี้และในเมืองหยุนเฉิง ไม่คิดว่าจะมีใครขัดใจตบคุณชายปลิวได้?“เอาให้มันหมดสภาพ โยนแม่งออกไป!”เว่ยเสี่ยวตงพูดเน้นย้ำทีละคํา"ครับ!"พวกสุนัขรับใช้ตอบอย่างพร้อมเพรียงกันแล้วล้อมรอบเย่เฟิ่งแล้วจู่โจมโดยไม่พูดอะไรแต่ละคนดูมีออร่าชั่วร้ายและน่ากลัว“พวกแกคิดจะทําอะไร?”หลิงเอ๋อร์รีบเข้ามาขว้างด้านหน้าเย่เฟิงแล้วออกโรงสกัดกั้น!เธอเป็นคนเรียกเย่เฟิงมา แล้วก็เป็นคนก่อเรื่องนี้ หลิงเอ๋อร์เธอไม่อาจยืนดูเฉยๆได้หลังจากนั้น สาวสวยที่ดูอ่อนหวานคนหนึ่งก็เริ่มต่อสู้กับกลุ่มชายกำยำ“ลุย!ลุยไปพร้อมกันเลย!”เมื่อเห็นว่าหลิงเอ๋อร์ปกป้องเย่เฟิง เขาเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องต้องมีเมตตาของสตรีด้วยสิ เขาตะโกนใส่ลูกน้องผู้หญิงสําหรับเขาแล้วก็แค่เอาไว้เล่นสนุกแค่นั้นอย่างไรก็ตาม หลิงเอ๋อร์หญิงสาวคนนี้พละกำลังไม่เลวเลย ถึงโดนรุมสิบคนก็ยัง
เย่เฟิงหรี่ตาลง รอยยิ้มชั่วร้ายค่อยๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าเขาวินาทีถัดมา เขาดึงตัวหลิงเอ๋อร์ที่กำลังต่อสู้อยู่:“ให้เป็นหน้าที่ผมเถอะ คุณไปพักสักพักไป!”“ทำอะไรน่ะ อย่าเกะกะ! รีบวิ่งดิ!”หลิงเอ๋อร์ที่กำลังลงมือกับใครบางคนอยู่นั้น มาถูกเย่เฟิงดึงไว้แบบนี้จนแทบเสียการทรงตัว เธอตวาดขึ้นมาอย่างอารมณ์เสียขึ้นมาทันทีฟังเสียงพูดคุยของคนรอบๆเธอ ในใจของหลิงเอ๋อร์ก็เริ่มมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคนคนนี้อยู่บ้างถ้าไม่ใช่เย่เฟิงรักษาใบหน้าที่เสียโฉมของปู่เธอล่ะก็หลิงเอ๋อร์แทบไม่อยากจะสนใจเขาด้วยซ้ำชายผู้หนึ่งใช้โอกาสจู่โจมตอนหลิงเอ๋อร์หยุดชะงัก เขายกหมัดเข้าใส่สายตาเธอเห็นหมัดที่กำลังจะปะทะเข้าร่างเธอเพี๊ยะ!ทว่าเพียงพริบตาเดียวก็มีเงาปรากฏขึ้น จู่ๆร่างของชายผู้นั้นก็ลอยกระเด็นออกไปทันใดนั้นก็ปรากฏเป็นฉากที่ทำให้หลิงเอ๋อร์และทุกคนต้องพากันตะลึงตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ……เย่เฟิงดึงหลิงเอ๋อร์ไปไว้ด้านหลังเขา ก่อนที่เขาจะออกโรงต่างจากการต่อสู้ที่ยากลำบากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง เผชิญหน้ากับกลุ่มชายร่างใหญ่นี้ เย่เฟิงแค่ซัดพวกเขากระเด็นไปทีละคนลงมือครั้งเดียวอย่างเรียบง่ายแต่กลับรุนแรงขั้นสุดทุก
หลังจากจัดการลูกสมุนของเว่ยเสี่ยวตง และซัดคึนไปทีหนึ่ง เย่เฟิงก็พาหลิงเอ๋อร์ออกจากหมู่บ้านฮั่วหู“คิดไม่ถึงว่าคุณจะเก่งกังฟูขนาดนี้!อาจารย์คุณคือใครล่ะ?”หลิงเอ๋อร์ถามพร้อมดวงตาสวยที่เปล่งประกาย“ผมไม่มีอาจารย์หรอก เรียนด้วยตนเองน่ะ!”เย่เฟิงยิ้มได้ยินแบบนี้ หลิงเอ๋อร์ก็กลอกตามองบนอย่างอดไม่ได้: “เจ๋งนี่!”เดิมทีเธอก็มีหน้าตาที่งดงามและน่ารักอยู่แล้ว ขนาดกลอกตามองบนยังสวยมีเสน่ห์หาที่เปรียบ เย่เฟิงที่เห็นนั้นก็แอบใจสั่น หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองก็เปลี่ยนร้านอาหารเพื่อกินข้าว หลิงเอ๋อร์เอ่ยถามขึ้นเรื่องของปู่เธอ ครั้งก่อนเย่เฟิงเคยพูดว่า “เป่ยเหล่า เดือนหน้ายังต้องรักษาอีกครั้งถึงจะหายดี” ครั้งนี้เธอนัดหมายเวลาที่แน่นอนสำหรับคุณปู่ไว้แล้วขณะรับประทานอาหารไปได้ไม่เท่าไหร่ เย่เฟิงก็ได้รับโทรศัพท์“คุณเย่หรือเปล่าครับ ผมเป็นคนของใต้เท้ามู่ เรื่องวิลล่าที่สวนจักรพรรดิ์ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ โฉลดกับกุญแจอีกสักครู่ผมจะส่งไปให้นะครับ ไม่ทราบว่าช่วงบ่ายสะดวกมาเจอกันไหมครับ?”อีกฝ่ายเอ่ยถามอย่างสุภาพแม้ว่าท่าทีของมู่จ้านที่มีต่อเย่เฟิงจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่สัญญาไว้ไม
ทันใดนั้นพนักงานขายอสังหาริมทรัพย์หญิงคนหนึ่งก็เดินออกมาจากสำนักงานขาย และพูดอย่างสุภาพว่า:"ทั้งสองท่านมาดูวิลล่าใช่ไหมคะ?”ไม่พูดคงไม่ได้ว่าพนักงานขายผู้หญิงที่นี่นั้นล้วนเป็นสาวงามที่หาจับยากยังไงวิลล่าที่สวนจักรพรรดิ์นี่ก็มีราคาเริ่มต้นหลายสิบล้านถึงพันล้านบาท สามารถซื้อบ้านที่นี่ได้นั้นต่างก็เป็นคนที่ร่ำรวยจริงๆทั้งนั้นจะต้อนรับลูกค้าระดับนี้ทั้งที จะเอาคนไม่สวยมาได้ยังไงเมื่อพนักงานขายเห็นว่าเย่เฟิงนั้นขับเบนท์ลีย์มา ท่าทีของเธอก็เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด เธอคิดว่าเย่เฟงคงเป็นลูกชายของคนรวยคนหนึ่งแม้ว่าเขาจะแต่งตัวค่อนข้างธรรมดา แต่ในปัจจุบันคนรวยที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายก็มีมากมายอีกทั้งหลิงเอ๋อร์ที่อยู่ข้างเย่เฟิงนั้นก็งดงามเสียจนพนักงานขายรู้สึกต้อยต่ำไปเลยข้างกายมีสาวงามระดับนี้อยู่จะมาธรรมดาๆได้ไงกัน?“ผมมีบ้านที่นี้แล้วครับ แค่ยังไม่ได้เข้าอยู่ วันนี้แค่มาดูเฉยๆ! คุณไปจัดการงานตัวเองเถอะ”เย่เฟิงอธิบายด้วยรอยยิ้ม“โอ้ งั้นเชิญคุณชายตามสบายเลยนะคะ”เมื่อพนักงานขายได้ยินเช่นนี้ แววตาผิดหวังของเธอก็ฉายแววขึ้นมาอ๋อ……ที่แท้เขาก็มีบ้านที่นี่แล้วไม่งั้นนะถ้าขายวิลล่าไ
เย่เฟิงที่มองเห็นบาดแผลของคุณชายกู่เมื่อครู่ ก็รู้แน่ชัดว่าโรงพยาบาลนี้ไม่มีทางรักษาเขาได้แน่!หึๆ ท่าทีของสวี่ซีเหยียนกับพ่อของเธอ ทำให้เย่เฟิงรู้สึกถึงโอกาสที่จะฆ่าคนได้อยากให้คุณชายกู่รอดชีวิตงั้นเหรอ?ชักจะสนุกแล้วสิ!หลังจากนั้น เย่เฟิงก็ทุ่มสมาธิช่วยหลี่ชื่อต่อไป โดยส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างของเขา พร้อมกับใช้วิชาเข็ม “เก้าพลิกฟื้นพลังหยาง” จากคัมภีร์มังกรทองหลี่ชื่อที่เดิมทีแพทย์ตัดสินว่าไม่มีทางรอด ตอนนี้กลับฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน...หลี่ชื่อค่อยๆ ลุกจากเตียง แม้ใบหน้าจะยังซีดเล็กน้อย แต่เขากลับสามารถยืนและเดินได้แล้ว"พักฟื้นอีกสักระยะ แล้วนายจะหายดี!"เย่เฟิงยิ้มพลางพูดหลี่ชื่อจ้องมองเย่เฟิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า แววตาเต็มไปด้วยความสำนึกบุญคุณทันใดนั้น เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น "คุณเย่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม! ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณได้เลย!"เย่เฟิงรีบดึงเขาขึ้นมา "พูดแบบนั้นทำไม? ฉันช่วยนายก็เพราะนายบาดเจ็บเพื่อปกป้องลูกสาวของฉัน"หลี่ชื่อยิ้มกว้างอย่างซื่อๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยความแน่วแน่ "แต่สำหรับผม คุณเย่คือผู้ให้ชีวิตใหม่ ผมยอมมอบชีวิตนี้ให
หลีเอียนรีบดึงนั่วนั่วให้ถอยออกมา ดวงตาจ้องไปยังอีกฝ่ายด้วยความโกรธ เธอไม่คิดเลยว่าฝ่ายนั้นจะหยิ่งยโสถึงขั้นใช้กำลังโดยไม่พูดจาเย่เฟิงแค่นหัวเราะเบาๆ มือข้างหนึ่งยังคงส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างหลี่ชื่อ ส่วนแขนอีกข้างสะบัดออกไปปัง!เสียงกระแทกดังสนั่น พร้อมกับแรงลมสะท้าน แขนของเย่เฟิงปะทะกับขาของชายวัยกลางคนในชุดขาวอย่างจังตึง ตึง ตึง!ชายวัยกลางคนถอยหลังไปสามก้าว ก่อนจะทรงตัวได้แต่เย่เฟิงยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง ราวกับภูผาที่ไม่สะทกสะท้าน"อยากจะหยิ่งยโส ก็ต้องมีความสามารถพอด้วย!""ฉันบอกแล้วว่าเพื่อนของฉันยังต้องรักษาตัวอยู่ที่นี่""ไสหัวไป!"เย่เฟิงพูดเสียงเย็น น้ำเสียงแฝงอำนาจสุดขีดชายวัยกลางคนในชุดขาวมีสีหน้าหนักใจ จ้องมองเย่เฟิงด้วยความลังเล"ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าแกกำลังหาเรื่องกับใคร?""ตอนนี้คุณชายของฉันกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ฉันจะยังไม่จัดการแกตอนนี้""แต่เรื่องวันนี้ ฉันจะจำไว้แน่นอน!"เขากัดฟันพูด ก่อนจะหันไปสั่งหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน "ยังจะยืนเซ่ออยู่ทำไม? ย้ายไปห้องฉุกเฉินห้องอื่นเดี๋ยวนี้!""ครับๆ ได้เลยครับ!"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินรีบพยักหน้า สีหน้าแสดงความ
หัวหน้าแผนกฉุกเฉินเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและร้อนรน!ด้านหลังของเขามีทีมแพทย์และพยาบาลหลายคนกำลังเข็นเตียงคนไข้เข้ามาบนเตียงนั้นมีชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดนอนอยู่ สภาพของเขาดูอาการสาหัสมากข้างๆ และด้านหลังเตียงคนไข้มีคนติดตามมาด้วยหลายคน ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด“เร็ว! ช่วยคุณชายของพวกเราด้วย!”ชายวัยกลางคนในชุดขาวที่ดูมีภูมิฐานตะโกนด้วยน้ำเสียงร้อนรน“รีบช่วยคุณชายกู่สิ! ทำไมในห้องฉุกเฉินยังมีคนอื่นอยู่? รีบไล่พวกมันออกไป!”เสียงแหลมสูงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและก้าวร้าว“พวกนี้เป็นใครกัน? รีบไล่พวกเขาออกไปซะ! ถ้าการรักษาคุณชายกู่ล่าช้า โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบ!”ชายวัยกลางคนในชุดสูทพูดด้วยน้ำเสียงเผด็จการเมื่อได้ยินเสียงอึกทึก เย่เฟิงที่กำลังรักษาหลี่ชื่ออยู่ก็หันกลับไปมองด้วยสายตาเย็นชาดวงตาอันแหลมคมของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แววเย็นยะเยือกฉายชัดบนใบหน้าผู้หญิงสวยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ด้วยท่าทีร้อนรนและหวาดกลัวสวี่ซีเหยียน!ผู้หญิงคนนี้!เธอดูโทรม ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าเลอะเปรอะไปด้วยคราบเลือ
"โอเค ลูกรัก ไม่ร้องนะ พ่อจะเข้าไปดู แล้วจะไม่ปล่อยให้คุณลุงหลี่ต้องตายแน่นอน"เย่เฟิงเช็ดน้ำตาบนแก้มนั่วนั่ว จากนั้นรีบเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินหลีเอียนก็รีบตามเขาไปทันทีขณะนั้นเอง หมอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเมื่อครู่ได้ยินสิ่งที่เย่เฟิงพูด ก็พากันส่ายหน้าพวกเขาเชื่อว่าเย่เฟิงแค่พูดปลอบใจเด็กเท่านั้น"ถ้าคนไข้แบบนี้ยังช่วยได้ล่ะก็ เขาต้องเป็นเทพเจ้าแล้ว! เราเองยังช่วยไม่ได้ เขาจะเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ?"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินพูดพลางมองเย่เฟิงด้วยความไม่พอใจภายในห้องฉุกเฉินหลี่ชื่อยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง เลือดซึมออกมาจากปากและจมูกอุปกรณ์และท่อทุกอย่างถูกถอดออกหมดแล้ว มีเพียงผ้าขาวคลุมร่างไว้!เห็นได้ชัดว่าทางโรงพยาบาลยอมแพ้ในการรักษาและเตรียมจะเก็บศพแต่ในขณะนั้นเอง ราวกับมีบางสิ่งดลใจ หรือไม่ก็เป็นอาการฟื้นตัวชั่วคราวก่อนตายเมื่อเย่เฟิงเข้ามา หลี่ชื่อที่หมดสติไปแล้ว กลับลืมตาขึ้นมาเขามองเห็นเย่เฟิงและนั่วนั่วที่ยืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี"คุณ...คุณเย่ คุณช่วย...คุณหนูนั่วนั่ว...กลับมาได้แล้วใช่ไหมครับ?""ผมมันไม่ได้เรื่อง...ทำให้คุณเย่ผิดหวัง...แต่คุ
รถ SUV หลายคันกำลังแล่นอยู่บนถนนมุ่งหน้าจากหยุนเฉิงไปยังเมืองหลวงของมณฑลในรถคันหนึ่ง ฉู่เทียนหลงยกมือขึ้นกุมหน้าที่บวมแดง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบิดเบี้ยวดวงตาของเขาแหลมคมและดูป่วยไข้เหมือนกับสภาพจิตใจที่ผิดปกติของเขา“ไอ้แก่บ้า กล้าตบหน้าฉันเพื่อปกป้องคนนอก!”ฉู่เทียนหลงกัดฟันพูดอย่างเจ็บแค้นทันใดนั้น เขาหันไปมองทนายลวีที่นั่งข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโหดร้าย “นาย ลงไปจากรถเดี๋ยวนี้!”ทนายลวีสะดุ้งด้วยความตกใจ รีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว “คะ…คุณชายฉู่ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”“ฉันต้องการให้นายอยู่ที่หยุนเฉิงต่อไป และใช้ภรรยาเก่าของเย่เฟิงสร้างปัญหาระหว่างเขากับหลีเอียน!”ดวงตาของฉู่เทียนหลงเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ทนายลวีได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดทันที “คะ…คุณชายฉู่ เย่เฟิงจะฆ่าผมเอาได้นะครับ!”“ไอ้เวร! ฉันไม่ได้ให้นายไปสู้กับเขา! ถ้านายไม่ทำ ฉันจะฆ่านายตอนนี้เลย!”“อย่าคิดว่าไม่ช่วยฉันแล้วเย่เฟิงจะไว้ชีวิตนาย!”ฉู่เทียนหลงดึงผมของทนายลวีแล้วตะโกนใส่ด้วยความโกรธทนายลวีตัวสั่นไปทั้งร่าง “ครับ...ครับ!”ไม่กี่วินาทีถัดมา รถหยุดลง ทนายลวีกระโดดลงจากรถทันทีในใจของเขาทั้งก
ใบหน้าของเป่ยเหล่าเต็มไปด้วยความรู้สึกละอายและสำนึกผิด เขาพูดอ้อนวอนอย่างจริงใจว่า “ผมปล่อยอาหลงไปแล้ว! ผมรู้ว่าถ้าคุณเย่เจอเขาเข้า จะต้องฆ่าเขาแน่ๆแต่ยังไงเขาก็เป็นหลานชายของผมนะ!คุณเย่ ผมได้ลงโทษเขาอย่างหนักแล้ว ตระกูลฉู่จะชดเชยให้คุณอย่างสาสม!เห็นแก่ที่หลีเอียนและลูกสาวของคุณปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เห็นแก่หน้าผมเถอะ ได้ไหมครับ ปล่อยอาหลงไปสักครั้งเถอะ?ถือว่าผมยอมเสียหน้า ขอร้องคุณแล้ว!”หลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากแล้วพูดอ้อนวอนเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เย่เฟิง ฉันรับรองว่าพี่เทียนหลงจะไม่ก่อเรื่องอีกแล้ว! เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา ปล่อยเขาสักครั้งเถอะนะคุณปู่ตั้งใจจะ…”เธอเล่าแผนการที่เป่ยเหล่าวางไว้ให้เย่เฟิงฟัง“พี่เทียนหลงมีปัญหาด้านร่างกายตั้งแต่เด็ก ทำให้จิตใจเขาออกจะสุดโต่ง แต่จริงๆ แล้วเขาน่าสงสารมาก!ครั้งนี้เขาแค่หุนหันพลันแล่นไปหน่อย คุณ...ช่วยอย่าจัดการเขาถึงตายได้ไหม?”หลิงเอ๋อร์กล่าวหลังจากฟังจบ เย่เฟิงหัวเราะเย็นชา สีหน้าบ่งบอกถึงความโกรธ “เขาน่าสงสารงั้นเหรอ? แล้วคนที่ถูกเขาทำร้ายล่ะ ไม่มีใครน่าสงสารหรือไง?ร่างกายมีปัญหา มันคือข้ออ้างให้เขาเป็นคนชั่วได้หร
เมื่อหลีเอียนเห็นฉู่เทียนหลงถูกคุณปู่ของเขาเองไล่ออกไปอย่างน่าอับอาย ความรู้สึกตกใจในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจภาคภูมิใจในตัวผู้ชายของเธอ!แม้ว่าเย่เฟิงจะไม่ได้มาเอง แต่ก็เหมือนเขาสามารถปกป้องเธอจากที่ไกลๆ ได้หลีเอียนไม่คาดคิดเลยว่า การที่คุณปู่และน้องสาวของฉู่เทียนหลงมาที่นี่จะเป็นเพราะเรื่องของเย่เฟิง ทั้งยังสั่งสอนฉู่เทียนหลงอย่างหนักพร้อมไล่เขาไปด้วยในขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง เย่เฟิงขับรถพานั่วนั่วมาถึงที่หมายและค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่กลับไม่พบร่องรอยของฉู่เทียนหลงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเครียดและไม่สบายใจ!เขารู้ตัวว่ามาช้าไป ฉู่เทียนหลงได้ย้ายที่ไปเรียบร้อย!เมื่อคิดว่าหลีเอียนตกอยู่ในมือของสัตว์เดรัจฉานอย่างฉู่เทียนหลง เย่เฟิงก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายถ้าหลีเอียนได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใดๆ เขาไม่มีทางให้อภัยตัวเอง และฉู่เทียนหลงจะต้องตายอย่างโหดเหี้ยม!แม้กระทั่งทั้งตระกูลฉู่ ก็จะต้องถูกกวาดล้างจนไม่เหลือใคร!แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเงาสามร่างเดินเข้ามาเป่ยเหล่าและหลิงเอ๋อร์พาหลีเอียนมาที่นี่!“เย่เฟิง…”หลีเอียนมองเย่เฟิงที่มาตามหาเธอที่นี่ เสียงของเธอสั่นเล็
แต่ทำไมใบหน้าของเขาถึงกลับมาปกติได้ขนาดนี้??ก่อนหน้านี้ในสายโทรศัพท์ เป่ยเหล่าเคยบอกฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาได้รักษาใบหน้าที่เสียโฉมของเขาให้กลับมาปกติแต่ฉู่เทียนหลงไม่คิดเลยว่า ผลลัพธ์จะดีขนาดนี้!ทันใดนั้นเขายิ่งคาดหวังที่จะได้เจอกับหมอเทวดาผู้นี้มากขึ้นไปอีก“คุณปู่ พวกเด็กๆ ด้านนอกอาจไม่รู้จักคุณปู่กับหลิงเอ๋อร์ คุณปู่บอกผมสิ ผมจะได้ลงไปรับเอง!”“ทำไมต้องถึงขั้นมีเรื่องกับพวกไร้ประโยชน์นั่นด้วย?”ฉู่เทียนหลงคิดว่าคนพวกนั้นมีตาหามีแววไม่ ที่ขวางทางคุณปู่และหลิงเอ๋อร์ไม่ให้เข้ามา ดังนั้นทั้งสองจึงได้บุกเข้ามาทันทีเขาพูดพร้อมหัวเราะ ก่อนจะมองไปข้างหลังเป่ยเหล่า “คุณปู่ หมอเทวดาคนนั้นอยู่ไหนล่ะครับ?”เพี๊ยะ!ยังไม่ทันพูดจบ เป่ยเหล่าก็ฟาดฝ่ามือลงไปที่หน้าของฉู่เทียนหลงอย่างแรง!ฉู่เทียนหลงถึงกับหมุนตัวไปหนึ่งรอบ ครึ่งหน้าบวมฉึ่ง มองปู่ด้วยความตกตะลึงและไม่เข้าใจ“คุณปู่ ตบหน้าผมทำไมครับ?”ใบหน้าของเป่ยเหล่ามืดครึ้มราวกับพายุ เขาชี้ไปที่หลีเอียนซึ่งถูกมัดอยู่บนเตียง ก่อนตะโกนใส่ฉู่เทียนหลง “ทำไมถึงตบแกน่ะเหรอ? แกมันไอ้สัตว์นรก ใครให้แกจับภรรยาของคุณเย่มาไว้ที่นี่? แกบ้าหรือ
ก่อนหน้านี้เป่ยเหล่าเคยบอกกับฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาที่จะมารักษาเขานั้นไม่เพียงแค่เก่งเรื่องการแพทย์ แต่ยังมีฝีมือในวิชาต่อสู้ที่น่าทึ่งในสายโทรศัพท์เมื่อครู่ เป่ยเหล่าก็พูดถึงเรื่องนี้กับฉู่เทียนหลงอีกครั้งอย่าง “มีนัย”ทันใดนั้น ฉู่เทียนหลงก็รู้สึกถึงความหวังที่จะกำจัดเย่เฟิงอีกครั้ง!หมอเทวดาที่สามารถต่อกรกับมหาปรมาจารย์ทั้งสี่?คนระดับนี้ การฆ่าเย่เฟิงคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรดังนั้นตอนนี้ ฉู่เทียนหลงจึงกลับมามีท่าทีไร้ยางอายอีกครั้ง!เขาถึงขั้นวางแผนว่าหลังจากคุณปู่พาหมอเทวดามาแล้ว จะโทรเรียกเย่เฟิงมาเพื่อจัดการเขาให้ตายตรงนี้ท่าทีบ้าคลั่งและมั่นใจเกินเหตุของฉู่เทียนหลง ทำให้หลีเอียนมองเขาด้วยความไม่แน่ใจและตกใจอะไรนะ?ฉู่เทียนหลงยังมีทางหายอดฝีมือแบบนี้ได้อีกเหรอ?“ฉู่เทียนหลง ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ถ้าแกกล้าทำร้ายเย่เฟิง ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่ ถึงจะเป็นผีก็ไม่เว้น!”หลีเอียนกัดฟันด่าออกมา“ฮ่าๆๆ รอให้ไอ้หน้าขาวตาย แล้วเธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน เธอจะเปลี่ยนใจเอง”ฉู่เทียนหลงยิ้มกว้างด้วยความลำพองใจทันใดนั้น เขากลืนน้ำลายอีกครั้ง มองหลีเอียนด้วยแววตาเร่าร้อนและกระหายคุณชาย