ใบหน้าของเย่เฟิงน่ากลัว ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายฟิ้ว!ในเวลานั้น ฆาตกรคนหนึ่งวิ่งเข้ามา มีดคมในมือของเขาก็ตรงไปที่หน้าท้องของเย่เฟิงทักษะของเขามีความคล่องตัว เห็นได้ชัดว่าได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพแต่ว่า ต่อให้เป็นมืออาชีพขนาดไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทะลุขีดจํากัดของร่างกายมนุษย์แต่เย่เฟิงตรงหน้าพวกเขา ภายใต้การหล่อเลี้ยงของพลังมังกร ก็ราวกับว่าเป็นเหมือน“ยอดมนุษย์”และทุกวันนี้เขายังไม่หยุดฝึกฝน“วิญญาณมังกรมุ่งมั่นสู่เส้นทางเซียน”นอกจากร่างกายที่ฟัดแทงไม่ได้แล้ว เย่เฟิงยังเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้เชิงรุกและการฆ่าแล้วเพี๊ยะ!ระหว่างสายฟ้าฟาด เย่เฟิงคว้าข้อมือของนักฆ่าได้อย่างแม่นยําแค่ออกแรง กระดูกมือของอีกฝ่ายก็ได้แตกละเอียดมีดคมในมือของฝ่ายตรงข้ามก็หลุดออกมา และเย่เฟิงก็แย่งมันไปในทันที!ตึง!มีเสียงใบมีดบาดเข้าเนื้อหนัง และมีดก็ได้แทงไปที่ลําคอของนักฆ่าความเจ็บปวดของกระดูกมือแตก ทําให้นักฆ่าอยากกรีดร้องตามสัญชาตญาณ แต่เสียงกรีดร้องหยุดลงอย่างกะทันหันดวงตาของนักฆ่าเบิกกว้าง และเลือดพุ่งออกมาจากลําคอของเขา ซึ่งทำได้เพียงออกเสียง“อึก อึก”เท่านั้น ใบหน้านั้นก็ได้เต็
เย่เฟิงไม่รู้ ว่าได้มีคนกำลังมาหาเรื่องตนในห้องนั้น ก็ได้เต็มไปด้วยแรงอาฆาต!หลีเอียนดูฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าของเธอ ก็ตกตะลึงไปแล้ว!ช่วงเช้า เธอเห็นเย่เฟิงทำให้ชิวอี้ที่ มาจากทหารกองกำลังพิเศษพิการ ก็ได้ประหลาดใจพอแล้วแต่เมื่อเทียบกับความตกใจ ตอนนี้ ก็เหมือนกับแม่มดตัวน้อยปะทะกับแม่มดตัวใหญ่ใบมีด ได้สั่นไหว เลือดก็ได้สาดไปทั่ว!เย่เฟิงได้เอามีดที่ได้แย่งมา แล้วก็ต่อสู้กับนักฆ่าอีกเจ็ดคนที่เหลือแต่ว่า ตำแหน่งของนัก ล่าและเหยื่อนั้นได้ถูกสลับกัน!ตึง!และก็ได้มีเสียงแทงดังขึ้น นักฆ่าคนที่เจ็ดก็ได้จับคอของตัวเองแล้วล้มลง ตรงนั้นเหมือนว่าได้มีหลุดแผลเพิ่มขึ้นดูเหมือนว่าเขากลัวจริงๆว่าเสียงกรีดร้องของนักฆ่าเหล่านี้จะปลุกนั่วนั่วตื่น เย่เฟิงก็ได้โจมตีไปที่คอของพวกเขาทั้งหมด!ในที่สุด ก็เหลือชายหนุ่มผมยาวคนนั้นคนเดียว!เห็นว่าอีกฝ่ายเต็มไปด้วยแรงอาฆาต มือก็ได้แกว่งมีดอย่างแรง อาศัยตอนที่เย่เฟิงฆ่าอีกคน ก็ได้แทงไปที่กลางหลังของเย่เฟิงชายหนุ่มผมยาว ก็เป็นนักฆ่าที่ไม่ควรประเมิณความสามารถของเขาต่ำ ความสามารถของเขาก็ได้ถึงระดับพลังแสงสว่าง!พรึด!ในเวลาต่อมา มีดของเขาก็ได
ก่อนที่จะโยนมีดทิ้ง เย่เฟิงได้ใส่พลังมังกรในนั้น จากนั้นควบคุมมีดผ่านพลังมังกรชายหนุ่มผมยาวมองไปที่มือขวาที่บินออกไป ดวงตาของเขาเกือบหลุดออกมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความน่าไม่เชื่อและความสยดสยองตอนที่ตั้งสติได้ กําลังจะกรีดร้อง ก็ได้มีอะไรแวบไป มือที่เหมือนกับเหล็กไหล ได้ไปบีบที่คอของเขา“ชู่ว!”คลิก!เย่เฟิงทําท่าเงียบ จากนั้นก็หักคอของหนุ่มผมยาวอย่างไร้ความปราณี“เฮ้อๆ ก็ว่ากันว่าปืนเร็วกว่ามีด ฉันจะไม่เชื่อได้อย่างไร?”เย่เฟิงยิ้มชั่วร้าย มองลงมาที่ชายหนุ่มผมยาวที่ยังไม่ได้ตายทันทีตรงพื้นชายหนุ่มผมยาวอ้าปาก และคนสุดท้ายก็ตายก่อนตายมีเพียงสองคําในความคิด: ปรมาจารย์!ใส่พลังลงวัตถุ แล้วก็ควบคุมมันมาฆ่าคน!นี่คือวิธีการของปรมาจารย์!คุณชายฉู่ ส่งพวกเขามามาฆ่าปรมาจารย์!“ไม่เป็นไรแล้ว ผมได้ฆ่าพวกเขาได้หมดแล้ว แต่ว่า คุณจะเก็บกวาดเรื่องพวกนี้ไหวไหม?”เย่เฟิงในเวลานี้ หยิบทิชชู่เปียกจากโต๊ะอาหาร ถามไปพร้อมกับเช็ดเลือดที่กระเด็นมาบนใบหน้าของเขาหลีเอียนใช้เวลานานกว่าจะตั้งสติได้ดวงตาสวยงามคู่นั้น มีความประหลาดใจและความหวาดหวั่นตน ได้หาปีศาจแบบไหนมาแสร้งทําเป็นคู่หมั้
หลีเอียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นคนเหล่านี้ยืนอยู่นอกประตูด้วยความงุนงงหลังจากพังประตูศพในสถานที่แห่งนี้ ถ้ามีคนเห็นมากเกินไป มันมักจะเป็นปัญหา!“ที่แท้ก็เป็นคุณเติ้งและเฮียปา พวกคุณมาทําอะไรที่นี่?”หลีเอียนอุ้มนั่วนั่วไว้ในอ้อมแขน และถามด้วยใบหน้าเย็นชาเย่เฟิงโยนทิชชู่เปียกที่เช็ดเลือดทิ้ง มองไปที่คนพวกนั้นด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกต้นขาเติ้งเหว่ยเหมาสั่น เมื่อเขารู้สึกถึงสายตาของเย่เฟิง หัวใจของเขาก็เกือบจะหลุดออกมาเวลานี้มีแค่พวกเย่เฟิงเพียงสามคนในห้อง ต่อให้สมองมีแค่ขี้ก็รู้ว่า ศพพวกนี้ใครเป็นคนจัดการไม่มีทางเป็นหลีเอียน! เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้!หรือก็คือ คนเหล่านี้……เย่เฟิงเป็นคนฆ่าทั้งหมด!“ผะ ผมมาที่นี่เพื่อ……มาขอบคุณคุณเย่ครับ!”เสียงของเติ้งเหว่ยเหมาสั่น รอยยิ้มที่น่าเกลียดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา“อ้อ มาขอบคุณผม?”เย่เฟิงเลิกคิ้วและถามอย่างสนุก“ใช่ ใช่ครับ! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเย่ ช่วยผมกระชากหน้ากากของซุนหงน่าไอ้ตัวเมียนั่น ผมคงยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอสวมเขาผมเลย ดีไม่ดีผมอาจจะติดโรคนั้นมาก็ได้คุ
“คุณหนูหลี คุณเย่! ผม……ผม……ไม่เกี่ยวกับผมนะครับ!”“ผมสัญญา ผมจะไม่พูดอะไรออกไป!”เจ้าของร้านหม้อไปเกือบจะคุกเข่าลง“อย่าตื่นตะหนกไป ช่วยเปลี่ยนห้องอาหารให้เราหน่อย!”หลีเอียนพูดออกไปเรียบๆ……สิบนาทีต่อมา!หลีเอียนก็ได้โทรศัพท์ให้ผู้คนมากําจัดศพเหล่านั้น ส่วนทางร้านหม้อไฟ ก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อระงับกดข่างเรื่องนี้ที่จริงต่อให้ไปรบกวนตำรวจ เย่เฟิงก็ไม่เป็นไรแต่ว่า ไม่ว่ายังไงก็ยุ่งยากเล็กน้อย เพราะต้องจัดการตามขั้นตอนเมื่อถึงห้องอาหารอีกห้อง เย่เฟิงก็ได้ลูบหัวของนั่วนั่ว และเจ้าตัวเล็กก็ตื่นขึ้นในเวลานี้ อาหารแสนอร่อยทุกชนิดถูกวางไว้บนโต๊ะ เจ้าของร้านก็ได้ได้ให้เมนูพิเศษมาเพิ่มนั่วนั่วกระพริบตา ดูขี้เกียจ และพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย:“นั่วนั่วหลับไปได้ยังไงคะ ?นั่วนั่วอยากกินของอร่อยนะ!”ขณะที่พูด เจ้าตัวเล็กมองไปที่ของบนโต๊ะ ก็ได้กลืนน้ำลายเย่เฟิงยิ้มและลูบหัวของนั่วนั่ว:“อยากกินอะไรครับ พ่อลวกให้!”“อืม อืม!” นั่วนั่วพยักหน้าหน้าเล็ก ๆ ของเธอหลีเอียนนั่งข้างๆ มองไปที่เย่เฟิงที่มีใบหน้าที่อ่อนโยนและดูเอ็นดูในเวลานี้ ก็คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นคว
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว เย่เฟิงก็ขับรถไปส่งหลีเอียนกลับไปที่ชุมชนคฤหาสน์หยู่กวงตี่ที่อาศัยอยู่ จากนั้นสองพ่อลูกก็กลับไปที่บ้านเช่าเย่เฟิงคำนวณในใจว่า อีกไม่กี่วันควรซือบ้าน แล้วมีบ้านเป็นของตัวเองได้แล้วเช่าบ้านอยู่ไปตลอดแบบนี้ ก็ไม่ใช่วิธีที่ดี!สิ่งสําคัญที่สุดคือ เย่เฟิงต้องมีเงินอยู่ในมือวันนั้นที่ตระกูลซ่ง แม้ว่าเย่เฟิงหลบปกฏิเสธยังไง ซ่งเหล่าเย๋ก็ยังเอาบัตรสองใบให้เขานั่นก็คือ บัญชีของเย่เฟิงได้มีเงินมากกว่ายี่สิบล้าน ซื้อบ้านได้สบายเมื่อพวกเขาสองพ่อลูกกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้วทันทีที่ลงจากรถ ก็เห็นร่างหนึ่งอยู่ที่ประตูเมื่อเห็นคนนี้ เย่เฟิงก็ขมวดคิ้วและแอบพูดในใจว่าว่าเธอทําอะไรที่นี่?นั่วนั่วกระพริบตาโต ประหลาดใจก่อน แล้วก็ได้ดีใจ“คุณแม่! คุณแม่มาแล้ว!”“พ่อค่ะดูสิ คือคุณแม่!”เย่เฟิงเห็นว่าลูกสาวของเขามีความสุขเช่นนี้ เขาจึงได้แต่ฝืนยิ้มและพยักหน้าวินาทีต่อมา นั่วนั่วก็ปลดเข็มขัดนิรภัยด้วยตัวเอง เปิดประตูรถแล้วกระโดดลงไป!“คุณแม่!”ร่างเล็ก ๆ วิ่งตรงไปที่คนข้างหน้า อีกฝ่ายไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโจวชิ้ง ?เด็กยังไงก็เป็นเด็ก ไม่ว่าโจวชิ้งจะใจร้า
“เชอะ ยังซ่อนอยู่อีก?”โจวชิ้งพูด แล้วก็เดินเข้าไปหาเย่เฟิงเย่เฟิงผลักเธอออกไปและพูดอย่างเย็นชา:“เธอมีเรื่องอะไรกันแน่? ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็ไสหัวไป !”เมื่อได้ยินแบบนั้น นัยน์ตาโจวชิ้งก็ได้มีความหงุดหงิดเล็กน้อย แล้วพูดอย่างน้อยใจว่า:“ที่รัก ที่คุณทำอะไรอ่ะ?”“เธอเรียกฉันว่าอะไร? เราหย่ากันแล้ว และสามีของเธอตอนนี้คือหลิวหาว! อย่าเรียกคนอื่นไปมั่วๆ !”เย่เฟิงยิ้มอย่างเยือกเย็น“ที่รัก คุณคงไม่ได้คิดว่า ฉันจะชอบคนอื่นจริงๆใช่ไหม ? ที่จริงฉันนั้นรักคุณมาตลอด ที่ฉันหย่ากับคุณ ก็เพื่อที่จะไปเอาเงินของหลิวหาว มารักษานั่วนั่วคุณรู้ถึงความพยายามของฉันไหม?ในตอนแรก คุณถูกกดดันจนขายโรงงาน เราล้มละลาย คุณรู้ไหมว่าฉันรู้สึกสงสารคุณมากแค่ไหน?ดังนั้นฉันจึงทำใจหย่ากับคุณอยู่กับหลิวหาว! คุณรู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหน ที่ฉันต้องพยายามฝืนยิ้มต่อหน้าหลิวหาว ?”โจวชิ้งน้ําตาคลอ คว้าแขนของเย่เฟิง พูดออกไปอย่างน่าสงสารเย่เฟิงเห็นเธอแบบนี้ ก็ได้หวั่นไหวเล้กน้อยแม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าโจวชิ้งน่าจะแสดงละครอยู่ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดีเล็กน้อยโจวชิ้งหย่ากับตน เพื่อที่จะได้เงินสําหรับการรักษาน
เย่เฟิงที่ได้เจอความเย็นชาและความสิ้นหวังของสังคม ก็ทำให้เขานั้นได้มีเหตุผลมากเขานึกถึง ตอนที่โจวชิ้งเจอนั่วนั่วเมื่อกี้ยัยหนูน้อยได้กางแขนและวิ่งเข้าหาแม่ของเธออย่างมีความสุข แต่โจวชิ้งแค่ลูบหัวของนั่วนั่วอย่างไม่แยแสแต่กลับจ้องมองรถเบนท์ลีย์ มุลซานของหลีเอียน!นี่คือปฏิกิริยาของแม่ที่ทนความอัปยศอดสูเพื่อรักษาอาการป่วยของลูกสาวเหรอ?ณ ตอนนั้น สายตาที่หวั่นไหวของเย่เฟิง ก็สงบลงอีกครั้งก็ได้มองโจวชิ้งแสดงอย่างเย็นชา“ชิ้งชิ้ง เธอได้เงินจากหลิวหาวมาเท่าไหร่? รีบเอามาให้ฉัน!”เย่เฟิงผลักโจวชิ้งออก คว้าไหล่ของอีกฝ่ายและพูดอย่างกังวลด้วยสีหน้าคาดหวังเทื่อพูดจบ โจวชิ้งก็ได้“อา?”อย่างงงๆ สีหน้ามองเย่เฟิงอย่างแปลกประหลาด!เธอเห็นเย่เฟิงขับรถเบนท์ลีย์ เห็นตอนที่เขานั้นได้อยู่กับเฮียป้าวอย่างโดดเด่น ก็คิดว่าเย่เฟิงไม่ได้ขาดแคลนเงินไม่รู้ว่าเย่เฟิงไปเจอโอกาสอะไร ก็ได้กลายเป็นคนที่มีหน้ามีตาแล้ว !ดังนั้นเธอถึงได้คิด ที่จะกลับมาคืนดีกับเย่เฟิงแน่นอน ทางหลิวหาวเธอก็ยังไม่ตัดขาด รอตอนที่เธออยู่กับเย่เฟิงจริงๆแล้ว ค่อยเขี่ยหลิวหาวออกไปแต่เธอก็คิดไม่ถึงว่า เย่เฟิงจะเปิดปากขอเงิ
“ถ้าขุดเจออะไรสกปรกจริงๆ ฉันจะกินมันเข้าไปเลย!”อาจารย์คงพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แสดงออกถึงความเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง “เล่นใหญ่ขนาดนี้เชียว?”เย่เฟิงส่ายหัวพลางถอนหายใจ รถขุดเริ่มทำงานตามจุดที่เย่เฟิงชี้ไว้ขณะที่เย่เฟิงยืนดูอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ถงซวี่เย่เองก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาจับจ้องไม่กะพริบส่วนเฉาเริ่นกับอาจารย์คงยืนกอดอกอยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ขุดลึกลงไปได้สี่ถึงห้าเมตร แต่กลับพบเพียงก้อนหินรกๆ เท่านั้น“ตลกจริงๆ! ไอ้ที่นายบอกมันอยู่ไหนล่ะ? ไม่รู้รึไงว่าฉันมีชื่อเสียงขนาดไหนในวงการฮวงจุ้ย กล้ามาสงสัยในฝีมือฉันเนี่ยนะ? ไอ้หนุ่ม จ่ายค่าเสียหายมาเลย ฉันไม่เอาเยอะ สักห้าล้านพอ!”อาจารย์คงพูดด้วยความภูมิใจ “คุณเย่ ถ้าคุณไม่มีเงินจ่าย ก็ขอโทษอาจารย์คงซะ เดี๋ยวผมจะช่วยพูดให้ แล้วปล่อยให้เรื่องนี้จบๆ ไปอย่ากลับไปขอเงินคุณหลีเลยนะ แบบนั้นมันไม่ดี” เฉาเริ่นพูดพลางเย้ยหยัน “คุณชายเฉา จะขุดต่อไหมครับ?”คนงานของเขาเอียงศีรษะออกมาถาม“ขุดต่อไป!” เย่เฟิงพูดเสียงเรียบ ไม่สนใจคำพูดของอาจารย์คงและเฉาเริ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนท้ายที่เย่เฟิงพูดเชิงเย้ยหยันด้วยแก้วเหล้านั้น ทำให้เฉาเริ่นยิ่งรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก “ผมเรียกพี่เย่มาช่วยดูฮวงจุ้ยหน่อยน่ะ” ถงซวี่เย่พูดด้วยรอยยิ้ม พอได้ยินเช่นนั้น เฉาเริ่นก็ขมวดคิ้วทันที “คุณชายถง เรื่องงานก่อสร้างนี่ปล่อยให้ตระกูลเฉาของเราจัดการเถอะ คุณไม่ต้องกังวลหรอก!”“ผมคอยดูสักหน่อยดีกว่า” ถงซวี่เย่ตอบ “คุณชายถง คุณไม่เชื่อใจผมแล้วเหรอ?”เฉาเริ่นพูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ขณะนั้นเอง ชายชราที่ดูมีลักษณะคล้ายคนมีวิชาในชุดกี่เพ้าเหลืองก็แค่นเสียงดังอย่างไม่พอใจ เฉาเริ่นแนะนำถงซวี่เย่ว่า “นี่คืออาจารย์คง ท่านเป็นอาจารย์ฮวงจุ้ยชื่อดังแห่งหยุนเฉิง ก่อนเริ่มงานก่อสร้างอะไรที่บ้านผมก็มักจะเชิญท่านอาจารย์คงมาดูให้เสมอ มีอาจารย์คงอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเชิญใครที่ไม่ได้เรื่องมาดูอีกหรอกคุณชายถง คุณพาคุณเย่กลับไปเถอะ”พูดจบ เฉาเริ่นก็หันไปมองเย่เฟิงด้วยสายตาเหยียดหยามพร้อมโบกมือไล่ อาจารย์คงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนพูดด้วยความหยิ่งยโส “ผมตรวจดูที่นี่แล้ว ฮวงจุ้ยดีมาก มีแสงแห่งโชคลาภปกคลุม สามารถเริ่มงานก่อสร้างอย่างสบายใจได้เลยพลังชั่ว
เมื่อได้ยินหลีเทียนกังพูดเช่นนี้ หลี่เยว่ผิงก็ฉายแววดีใจออกมาหลีถิงกลับเผยสีหน้าตกใจ “พ่อคะ ไม่…ไม่จริงหรอกใช่ไหมคะ? พ่อเองก็อยาก…”หลีเทียนกังขรึมหน้าลง แล้วจ้องหลีถิงเขม็ง “ถิงถิง แกอย่าพูดออกไปมั่วซั่วล่ะ! ถ้าย่าของแกตาย นั่นก็เพราะหลีเอียนกับไอ้หน้าขาวแซ่เย่! เข้าใจไหม?”หลีถิงตัวสะดุ้ง แล้วพยักหน้าด้วยความหวาดกลัว “เข้า…เข้าใจแล้วค่ะ!”วินาทีต่อมา หลีเทียนกังพลันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกดโทรหาเบอร์หนึ่งในฐานะที่เป็น ‘คุณชายรอง’ ของตระกูลหลี อำนาจของเขาในตระกูลย่อมมีคนสนิทคนหนึ่งอยู่แล้ว“หลีปา จัดการหมอหลี่ที่มาดูอาการผู้อาวุโสวันนี้ซะ! จัดการให้สะอาดล่ะ!”หลังจากวางสาย หลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชาไปทีหนึ่งก่อนจะกล่าวเสียงขรึมว่า “เรื่องนี้จะต้องหาแพทย์แผนจีนที่เก่งกาจคนหนึ่ง และต้องทำแบบเงียบๆ ไร้ร่องรอยด้วย!”หลี่เยว่ผิงกล่าวด้วยสายตาเป็นประกาย “จริงสิคะที่รัก ฉันได้ยินมาว่าหมอเทวดาจู้จากโม๋ตูคนนั้นมาที่หยุนเฉิงแล้ว ไม่กี่วันก่อนยังมารักษาที่คลินิกจู้คังด้วย หรือว่า…จะหาเขาดี?”คลินิกจู้คังที่หมอเทวดาจู้คนนี้ก่อตั้งขึ้นเป็นคลินิกลูกโซ่ ตอนนี้มีคลินิกย่อยอยู่ทั่วประเทศแล้ว
ส่วนสถานการณ์ของเจ้าสามและเจ้าสี่ไม่ชัดเจนนักผู้อาวุโสหลีหน้าเสียต่อหน้าหลีเอียนและเย่เฟิงมานักต่อนัก สุดท้ายยังต้องยอมจำนนอย่างน่าอับอายอีกเธอในตอนนี้ไม่ถูกกับครอบครัวลูกชายคนโตเลยแม้แต่นิด!ดังนั้นเธอย่อมต้องสนับสนุนคนที่ไม่ถูกกับอีกฝ่ายเช่นเดียวกันอยู่แล้วซึ่งคนคนนั้น ก็มีเพียงหลีเทียนกัง ลูกชายคนรองเท่านั้น…หลังจากที่กลับจากคฤหาสน์ตระกูลหลี ทันทีที่หลีเทียนกังขึ้นรถไป หลี่เยว่ผิวและหลีถิงที่รออยู่บนรถก่อนแล้วก็เอ่ยถามอย่างรอไม่ไหว“ที่รัก ผู้อาวุโสเป็นยังไงบ้าง? ใกล้จะไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”ภรรยาคนนี้ทำหน้าตั้งตารอ“พ่อคะ พ่อต้องทำให้ย่าเขียนพินัยกรรมมอบหุ้นส่วนทั้งหมดให้พ่อก่อนที่ท่านจะตายนะคะ!”หลีถิงเองก็ทำหน้าโลภมากหลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชา แล้วโบกมืออย่างอารมณ์เสีย “คิดอะไรอยู่น่ะ? ผู้อาวุโสยังไม่ตายเร็วๆ นี้หรอก หมอบอกว่าแค่พักผ่อนดีๆ รักษาอาการป่วยให้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง!”เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เยว่ผิงและหลีถิงก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมาหลีเทียนกังเห็นดังนั้น ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า “แต่ผมขู่ผู้อาวุโสไป ให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วแล
เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายคนรอง ผู้อาวุโสหลีก็รู้สึกไม่ดี!ท่าทีของอีกฝ่าย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตนใกล้จะตายแล้วอย่างไรอย่างนั้น"เป็นอะไรกันแน่? บอกมา!"ผู้อาวุโสหลีถามเสียงเข้ม สีหน้ายิ่งแดงก่ำกว่าเดิมพร้อมไอเป็นครั้งคราว"แม่ ไม่มีอะไรจริงๆ แม่พักผ่อนให้สบายเถอะ"หลีเทียนกังพยายามปลอบแต่ผู้อาวุโสหลียังจับตาดูลูกชายอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจ "เฮ้อ…ฉันเองก็อายุมากแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่แปลก! เพียงแต่…ฉันไม่ยอม!"เธอพูดพลางตบโต๊ะด้วยความโกรธหลังจากใช้ชีวิตอย่างเด็ดเดี่ยวมาตลอด สุดท้ายเธอกลับพ่ายแพ้ให้กับหลานสาวตัวเอง จนถึงขั้นเสียบริษัทยาไปทั้งหมดความรู้สึกนี้ยากที่จะทำใจยอมรับได้ แม้จะเป็นวาระสุดท้ายก็ตาม!"แม่ครับ ผมจะช่วยกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้แม่เอง!"หลีเทียนกังกัดฟันและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นครั้งนี้ไม่ใช่การแสร้งทำ!เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ครอบครัวเขาหน้าด้านหน้าทนไปขอหลีเอียน แต่กลับถูกขับไล้ออกมาอย่างไร้เยื่อใย ในใจเขาเองก็รู้สึกอับอายและโกรธมากเช่นกัน"แม่ ถึงแม้เราจะเสียเปรียบเรื่องบริษัทยา แต่เราสามารถหาวิธีอื่นจัดการครอบครัวพี่ใหญ่ได้นี่ครับ!หลีหย่วนยังไงก็
“ราคาสูง? สูงแค่ไหน?”เย่เฟิงขมวดคิ้วถาม“ยกตัวอย่างเช่น ยาหนึ่งเม็ดจากตระกูลนี้ ราคาก็สูงถึงหลักสิบล้าน ส่วนทักษะวิชาการต่อสู้บางเล่มอาจทะลุไปถึงร้อยล้านเลย...”หลีหยวนเล่าความเป็นมาของตระกูลกู่นี้ให้เย่เฟิงฟังตระกูลกู่เป็นตระกูลที่เงียบสงบและไม่เผยตัวต่อสาธารณะ แต่ก็แข็งแกร่งมากพวกเขาไม่ทำธุรกิจข้างนอก แต่ก็ร่ำรวยมหาศาลลำพังแค่งานประมูลหนึ่งครั้ง ก็สามารถทำรายได้ถึงหลายพันหลายหมื่นล้านแล้วยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญฝีมือสูงที่สามารถรับงานต่างๆ ได้ แต่ค่าจ้างก็แพงมากเช่นกันแน่นอนว่าความสามารถของยอดฝีมือที่ส่งไปนั้น ก็เก่งกาจมากเช่นกันเฉินจิงเทียนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียง ยังอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญบางคนในตระกูลนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเท่านั้นหลังจากที่หลีหย่วนพูดจบแล้ว เย่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและรู้สึกหนักใจตระกูลกู่จะมีผู้เชี่ยวชาญหรือยอดฝีมืออะไรไม่เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือของประมูลราคาสูงลิ่วที่หลีหย่วนพูดถึงตามที่หลีหย่วนกล่าว ราคาของหยกพลังวิญญาณนั่น เผลอๆ อาจสูงถึงร้อยล้านเลยก็ได้
ใช่แล้ว หลีเอียนรู้เรื่องจี้หยกรูปมังกรของเย่เฟิงตอนที่เย่เฟิงโดนรถของเธอชนแล้วกระเด็นไป ตอนนั้นเขากำจี้หยกชิ้นนั้นไว้แน่น หลีเอียนจึงจำมันได้ขึ้นใจอีกทั้งตอนที่เย่อินเสวียนหยิบภาพวาดออกมา หลีเอียนเองก็สงสัยอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อได้ยินคำขู่ของหลีเอียน สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาแฝงด้วยความเย็นชา “คุณกำลังขู่ผมอยู่เหรอ?”หลีเอียนที่เห็นสายตาเย็นชาของเย่เฟิง ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความไม่พอใจ เธอจ้องมองเขาอย่างน้อยใจ“ใช่ ฉันขู่คุณ แล้วจะทำไม? ยังจะกล้าขัดคำสั่งฉันไหม?”เย่เฟิงถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ สุดท้ายเขาก็ยอมจำนน“โอเคๆ ผมจะทำตามที่คุณบอก โอเคไหม คุณภรรยาผู้ยิ่งใหญ่ของผม...แต่คุณต้องช่วยผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ”หลีเอียนจ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “ก็ต้องดูพฤติกรรมของคุณแล้ว”“ผมว่าผมก็ทำตัวดีมาตลอดนะ”“แย่สุดๆ!”หลีเอียนกัดฟันและพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาทำให้เย่เฟิงได้แต่นั่งหน้าหมอง พร้อมคิดในใจว่า(ผู้หญิง เหอะๆ…เปลี่ยนอารมณ์ง่ายเหมือนเปลี่ยนหน้าหนังสือเลย!
สวี่ซีเหยียนหน้าซีดด้วยความกลัว "เย่เฟิง ช่วยหน่อยเถอะนะ เห็นแก่ที่ฉันกับเอียนเอียนเป็นเพื่อนกัน นายอย่าถือสาฉันเลยนะ ช่วยฉันด้วย…ฉันไม่อยากโดนหนอนพิษ..."เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างพากันตกใจกลัว ร้องขอความช่วยเหลืออย่างหมดท่า"หึๆ ตอนนี้รู้สึกกลัวแล้วเหรอ? ไม่ต้องตกใจไป หนอนพิษเพิ่งเข้าไปไม่นาน ยังอยู่แค่ในกระเพาะอาหารของพวกเธอ ยังไม่เข้ากระแสเลือดกลับไปเอาผงสารส้มละลายน้ำร้อน แล้วก็ล้วงคอให้อาเจียนออกมา อาเจียนออกมาให้หมดจนไม่มีอะไรเหลือค้างอยู่"เย่เฟิงพูดนิ่งๆเมื่อพูดจบ เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ต่างรีบพุ่งออกจากห้อง ไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียวเซียวคุนกับถงซวี่เย่ยิ่งรู้สึกศรัทธาและเคารพเย่เฟิงมากขึ้นไปอีกหลังจากนั้น เซียวคุนก็เปลี่ยนห้องเพื่อทานอาหารกันสี่คนแบบเรียบง่ายหนึ่งชั่วโมงต่อมา...เย่เฟิงและหลีเอียนออกมาจากร้านเชียนเว่ยเซวียน กำลังจะขึ้นรถไปส่งบอสสาวสวยกลับบ้านหลีเอียนเดินตามหลังเย่เฟิง มองเย่เฟิงที่เดินนำหน้าไปอย่างไม่สนใจใยดีด้วยสายตาที่มีแววขุ่นเคืองตอนทานอาหารเมื่อครู่ หลีเอียนเห็นเซียวคุนหลงใหลและอ่อนโยนกับเย่อินเสวียน ก็รู้สึกแปลกๆ แล้วแม้จะรู้ว่าเซ
หลังจากหายใจได้ไม่กี่อึดใจ เซียวคุนก็รู้สึกถึงความขมคาวในลำคอของเขา"แหวะ!" ทันใดนั้น เขาก็อาเจียนออกมา!พบว่ามีหนอนสีแดงสดตัวหนึ่งถูกอาเจียนออกมาจากปากของเขา!"อ๊า!" ฉากนี้ทำให้หญิงสาวบางคนในที่นั้นกรีดร้องออกมาส่วนคนอื่นๆ ก็มองด้วยความตกใจกลัว รู้สึกขนลุกและหัวใจเต้นแรงเซียวคุนที่ตอนนี้สีหน้ากลับมาเป็นปกติ แววตาที่เคยหลงใหลในเย่อินเสวียนหายไป แทนที่ด้วยความสับสนสงสัยเขามองดูหนอนพิษที่ตัวเองอาเจียนออกมาอย่างตกใจและโมโห "เสวียนเอ๋อร์ ฝีมือคุณจริงๆ เหรอ?"แต่เย่อินเสวียนกลับไม่สนใจเขาเลย สำหรับเธอแล้ว เซียวคุนก็แค่เครื่องมือเท่านั้นในเมื่อเครื่องมือถูกทำลาย เธอก็มองเย่เฟิงด้วยความโกรธแค้น"ไอ้ผู้ชายบ้า มาขัดขวางฉันอีกแล้ว! วอนหาที่ตาย!”เธอด่าด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะเคลื่อนไหวพุ่งตรงไปหาเย่เฟิงอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งทำเป็นมีดแล้วฟันไปที่คอของเขา ส่งเสียงฟาดลมอันดุดันออกมาเย่เฟิงเบิกตากว้าง แล้วรีบรับมือทันที!ปัง! ปัง! ปัง...ทั้งสองกระโดดเหยียบบนโต๊ะ ต่อสู้กันไปมาสามครั้งในพริบตาเดียว เย่อินเสวียนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะถอยร่นกลับด้วยแรงผลักจากนั้นใช้