ทันทีที่เย่เฟิงพูดเช่นนี้ จุดเกิดเหตุก็เกิดความโกลาหล“คุณพูดอะไร? ให้ฉันหายไปจากคุณหลี?”ชิวอี้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และถามด้วยใบหน้าที่มืดมน"ใช่!"เย่เฟิงพยักหน้าดวงตาที่สวยงามของหลีเอียนฉายแววด้วยความสงสัย เธอเปิดปาก และสุดท้ายก็ยืนอยู่ที่นั่นและมองดูอย่างเงียบ ๆเธออยากจะดุเย่เฟิงโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อคำพูดนั้นมาถึงริมฝีปากของเธอ เธอก็กลืนมันลงไปเมื่อนึกถึงการแสดงออกที่น่าประหลาดใจ และน่าทึ่งหลายอย่างของชายคนนี้ หลีเอียนก็อยากรู้ว่าเย่เฟิงกำลังจะทำอะไรเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คงไม่มีเป้าหมายอะไรใช่ไหม?ในขณะนี้ชิวอี้ยิ้มเยาะและชี้ไปที่เย่เฟิงแล้วพูดว่า"คุณคิดว่าคุณเป็นใคร คุณเป็นเพียงลูกเขยหุ่นเชิด คุณคิดว่าคุณเป็นคนจริงๆหรอ?คุณยังขอให้ฉันหายไปจากประธานหลี ทำไมคุณถึงมีสิทธิ์ไล่ฉันออก?หรือคุณอยากที่จะเป็นวังหลังที่อยากจะแสดงอำนาจล่ะ? หืม?"ทันทีที่คำพูดหลุดออกไปก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น!“วังหลังที่อยากจะแสดงอำนาจหรอ ฮ่าๆ พี่ชิวเก่งจังเลย!”“ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคู่หมั้นคนที่สามของคุณหลี เขาเป็นไม่วังหลังใช่เหรอ?”"น่าขำสิ้นดี……"พนักงานหลายคนพึมพำอย่างเงียบ ๆ“
ใต้โต๊ะทำงาน รูสกรูผนัง เบาะด้านในโซฟา และแม้กระทั่งใต้พื้น!พูดได้เลยว่า ที่พวกนี้ได้ลึกลับมาก การติดตั้งก็เป็นมือาชีพแต่ก็ ได้ถูกเย่เฟิงหาออกมาได้!เมื่อเห็นแบบนั้น หลีเอียนที่นั่งอยู่สีหน้าก็ดูไม่ดีขึ้นใบหน้าที่เรียวเล็กนั้น ก็ได้เยือกเย็นเอามาก!ไฟโทสะในใจ แค่เดาก็รู้ก็มากขนาดไหนและชิวอี้นอกประตู มีเหงื่อเย็นไหลออกมาจากหน้าผากแล้ว!สายตาของเย่เฟิง ทั้งน่ากลัวและโหดร้าย!เขาคิดไม่ถึงว่า ที่วันนี้เย่เฟิงมาหาหลีเอียน เพื่อพูดเรื่องนี้หมอนี้รู้ได้ไง??และพนักงานคนอื่น อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน และก็พากันซุบซิบ“นี่คือสิ่งที่ผมเจอบนตัวของเลขาเหลียงในวันนี้ เป็นอุปกรณ์ดักฟังในรูปกระดุม!”“ที่รัก รอบตัวคุณมีหนอนบ่อนใส้ ผมคงไม่ต้องพูดอะไรมากใช่ไหม! ในห้องทำงานของคุณ นอกจากคุณ ยังมีคนที่เข้ามาบ่อยๆได้?”เย่เฟิงถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“อาชิว เลขาเหลียง!”เสียงของหลีเอียนเต็มไปด้วยความเยือกเย็น!วินาทีถัดมา เห็นผู้หญิงแกร่งเย็นชาคนนี้ โยนรองเท้าส้นสูงอีกข้างของเธอไปด้านข้าง แล้วเดินออกจากห้องทำงานเท้าเปล่า“ประธารหลี ไม่ใช่ฉันค่ะ! ไม่ใช่ฉัน! วันนี้คุณเย่ก็เจออุปกรณ์ดักฟังบนเ
เมื่อเย่เฟิงบอกว่าจะดูโทรศัพท์ ทางรอดสุดท้ายของชิวอี้ก็ได้หายไปติดตามหลีเอียนมานานขนาดนี้ แน่นอนว่าเขารู้ว่าหลีเอียนทุ่มเทมากแค่ไหน พยายามมากเท่าไหร่กับสัญญาสองปีนี้!ดังนั้น ดังนั้นถ้าความจริงได้ถูกเปิด เขาตกอยู่ในมือของหลีเอียน เข้าคุกก็ถือว่าบุญมากแล้วแต่คนที่รักพี่สาวอย่างคุณชายหลี ต้องฆ่าเขาแน่นอน!ดังนั้น ชิวอี้จะไม่มีวันยอมให้ตัวเองถูกจับ!ดังนั้นเขาจึงลงมือ!ตรงไปหาหลีเอียน!เพียงแค่จับอีกฝ่ายมาเป็นตัวประกัน ก็จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาถ้าวันนี้รอดไปได้ ชิวอี้เชื่อว่าด้วยความสามารถของเขาเองเขาจะทำอะไรก็ได้อีกอย่าง ฉู่เทียนหลงก็จะปกป้องเขาด้วย!ความเร็วในการลงมือของชิวอี้ นับว่าเร็วมาก!เขามาจากทหารกองกําลังพิเศษ ค่อนข้างมีทักษะไม่น้อย ไม่อยากนั้นก็ไม่มีทางมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของหลีเอียนแต่เมื่อมือของเขาจะจับหลีเอียนในวินาทีต่อมา ก็ได้มีมืออีกมือก็ได้เข้ามาอย่างรวดเร็ว!เพี๊ยะ!“โอ้ย!”เสียงตบที่คมชัดพร้อมกับเสียงกรีดร้องเพราะความเจ็บปวด ร่างของชิวอี้กระะเด็นออกไปมือขวาก็ได้บิดจนเปลี่ยนรูป กระดูกของแขนทั้งหมดหักเป็นส่วนๆ!หน้าตาที่สวยของหลีเอียน ก็ได้มีคว
วินาทีถัดมา เธอใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้โทรออก“เป็นไงบ้าง?มีข่าวอะไรใหม่?”ปลายสาย ก็ได้มีเสียงต่ำเข็มได้ดังขึ้น“ฉู่เทียนหลง นายใช้แผนที่สกปรกแบบนี้สนุกไหม?”หลีเอียนกัดฟันถามทางนั้นก็ได้เงียบไปสองสามวิ จากนั้นก็ได้วางสายไปใบหน้าที่เรียวเล็กของหลีเอียนก็ได้เคร่งขรึมลง จากนั้นก็ถามคนรอบข้างด้วยน้ําเสียงเย็นชา:“ยังอยู่ตรงนี้อีกทำไม? ไม่ต้องไปทำงานเหรอ?”เมื่อพูดจบ พนักงานก็รีบแยกย้ายกันไปประธานหลีประธานภูเขาน้ําแข็งนี้ค่อนข้างเข้มงวดพอสมควร……ครู่ต่อมาห้องทำงานประธานหลีเอียนได้โทรไปยังตระกูลหลี ให้คนเอาตัวชิวอี้ไปจัดการกับคนทรยศแบบนี้ แน่นอนว่าเธอจะไม่เลือกโทรแจ้งตํารวจ ในตระกูลมีวิธีการจัดการของตระกูล“คุณรู้ได้ไงว่ารอบตัวของฉันมีเครื่องดักฟัง?”ดวงตาที่สวยงามหลีเอียนจ้องมองเย่เฟิงและถาม“อ่อ ผมเคยเป็นทหารมาก่อน”เย่เฟิงก็แค่หาข้ออ้างพูดเถไป“เชอะ! ไม่อยากพูดก็ช่าง!”หลีเอียนเบะปากเธอ ก็ได้พูดอย่างงอนๆในเวลานี้ เธอก็ได้แสดงท่าทางสาวน้อยอย่างไม่เคยมีมาก่อนเมื่อมองไปที่ชายที่อยู่ตรงหน้า หลีเอียนยอมรับว่าเธอเริ่มอยากรู้อยากเห็นในตัวเขา แต่เพราะความหยิ่งผยองข
วันนี้ หลีเอียนจงใจออกจากบริษัทก่อนเวลา และไปที่โรงเรียนอนุบาลกับเย่เฟิงเพื่อรับนั่วนั่วรถที่ขับเป็นเบนท์ลีย์มุลซาน แต่คนขับได้เป็นเย่เฟิงบนถนน หลีเอียนขอให้เย่เฟิงหยุดและซื้อนาฬิกาอัจฉริยะที่ระบุบตำแหน่งได้ให้นั่วนั่วตามที่หลีเอียนว่า เจอกันที่้ห้องพักคนไข้ครั้งก่อนไม่นับ ครั้งนี้ถือว่าได้เจอกันเป็นครั้งแรก ตามหลักการเธอต้องส่งของขวัญให้นั่วนั่วเย่เฟิงไม่ได้พูดอะไร ก็แค่คิดในใจว่าผู้หญิงที่เกิดมาในตระกูลใหญ่ พวกมารยาทพิธีการมักจะรอบคอบ"พ่อค่ะ!"หลังเลิกเรียน นั่วนั่วเห็นเย่เฟิงในทันทีและวิ่งไปหาด้วยความสุขดูร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาหา เย่เฟิงยิ้มก็ได้ยิ้มอย่างอ่อนโยนเอามากเมื่อเห็นว่านั่วนั่วสามารถกระโดดโล่เต้นได้แบบนี้ ก็ต่างกับเด็กน้อยที่นอนรอความตายบนเตียงราวคนละคน เขาถือรู้สึกถึงความอ่อนโยนและความโชคดีในใจหลีเอียนยืนอยู่ข้างๆ มองดวงตาของเย่เฟิงในเวลานี้ ไม่รู้ว่าทําไมมันถึงรู้สึกหึงในใจตอนนี้ชายคนนี้ก็ได้ต่างกับ ชายที่ทำร้ายให้ชิวอี้พิการไปอย่างโหดเหี้ยมราวกับเป็นคนละคนไม่รู้ว่าทําไม หลีเอียนนึกถึงพ่อของเธอก็ได้รู้สึกแย่อยู่พักหนึ่ง มันจะดีแค่ไหนที่พ่อของตนนั้นจ
“นั่วนั่วอยากกินหม้อไฟ!”ดวงตาของเจ้าน้อยสว่างขึ้นและเลียลิ้นของตัวเอง หัวเหมือนแมวตะกละตัวน้อย“ฮ่าฮ่า ได้ครับ งั้นพวกเราไปกินหม้อไฟกัน!”เย่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มหลีเอียนไม่ได้ขัด แม้ว่าเธอจะเย็นชา แต่เธอจะไม่ทำแบบนั้นกับเด็กยี่สิบนาทีต่อมา...ตามที่หลีเอียนแนะนำ เย่เฟิงขับรถมาที่ร้านหนึ่งในหยุนเฉิง ชื่อร้าน“ความรักเดือด”เมื่อเทียบกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่างไหตี่เลา ร้านหม้อไฟแห่งนี้มีความโดดเด่นกว่า มีคุณภาพสูงกว่า และได้สดใหม่และซอสอร่อยกว่าแน่นอน ราคาก็สูงกว่าเช่นกัน!เมื่อเทียบกับกับไหตี่เลา คนที่มีหน้ามีตาในในหยุนเฉิงชอบมากินหม้อไฟที่นี่“โยว่!นี่คุณหนูใหญ่หลีไม่ใช่เหรอ? ช่างบังเอิญจริงๆ!”ตอนที่สามคนลงรถ เดินไปที่ประตูร้านหม้อไฟ เสียงที่ดูเสียดสีก็ได้ดังขึ้นก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยอัญมณี ควงชายหัวล้าน ซึ่งบังเอิญได้พบกับพวกเย่เฟิงสามคนที่ประตูพอดีสายตาที่ผู้หญิงคนนั้นมองหลีเอียน ก็เต็มไปด้วยการยั่วยุและการล้อเลียนสีหน้าของชายหัวล้านก็ไม่เป็นมิตรเช่นกัน!ตระกูลหลีในเมืองหยุนเฉิง และถือได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่ และคนส่วนใหญ่มักจะให้เกียรติ์ตระกูลหลีหลีเอ
เมื่อเห็นเย่เฟิงปกป้องเธอจากด้านหน้า ได้ยินคําพูดของผู้ชายคนนี้ หัวใจของหลีเอียนก็สงบลงเล็กน้อยเธอรู้ เรื่องในวันนี้ เธอไม่ต้องออกหน้าก็ได้เธอถนัดเรื่องในโลกธุรกิจ แต่กับเรื่องแบบนี้ หลีเอียนไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง“เจ้าหนุ่ม แกพูดอะไร?”เติ้งเหว่ยเหมาจ้องมองเย่เฟิงและถาม“หมาตัวนี้มาจากไหน เจ้านายแกยังไม่พูดอะไรเลย แกเห่าอะไร?”และใบหน้าของซุนหงน่าก็แดงมาก และเธอชี้ไปที่จมูกของเย่เฟิงแล้วก็ด่าอย่างหงุดหงิด“ผู้หญิงสกปรก ด่าพ่อของฉันไม่ได้นะ!”เมื่อนั่วนั่วได้ยินพ่อของเธอถูกด่า ก็ได้โมโหทันทีใบหน้าเล็กๆ ก็ได้ตะโกนด้วยความโกรธ“เด็กเวรนี่มาจากไหน? กล้ามาด่าฉัน? ฉันตีแกตายแน่!”ซุนหงน่าพูดเสียงแหลม ก็ได้จะตบนั่วนั่วเย่เฟิงจะปล่อยให้นั่วนั่วโดนตบได้ยังไง ก็ได้รีบดึงเจ้าตัวเล็กไปข้างหลังเวลาเดียวกัน สายตาก็ได้เยือกเย็นขึ้น!“หมาอย่างแกมองอะไรอยู่ห๊ะ? นี่คือลูกสาวของแกเหรอ? พ่อชอบเห่า ลูกก็ได้เลียนแบบใช่ไหม?”ซุนหงน่าด่าได้น่าเกลียดเอามากๆเย่เฟิงพูดประโยคนั้น เหมือนว่าจะได้ไปเหยียบหางของเธอเข้าแล้ววินาทีถัดมา เธอมองไปที่หลีเอียนด้วยรอยยิ้นเย็นชา :“คุณหนูหลี คิดไม่ถึง
ขณะที่เขาพูด เขายกมือขึ้นเพื่อตบเย่เฟิงเย่เฟิงรีบหลบ:“อย่าแตะต้องฉัน มันสกปรก!”“เจ้าหนุ่ม ทางที่ดีแกพูดออกมาให้ชัดเจน ! โรคอะไร มึงแม่งหมายความว่าอะไร?”ใบหน้าของเติ้งเหว่ยเหมาเปลี่ยนไป สีหน้าของเขาก็ได้ตึงเครียด“ถ้าฉันเดาไม่ผิด ภรรยาของแกไม่ได้ให้แกแตะมานานกว่าสามเดือนแล้วใช่ไหม? เพราะเธอได้โรคสกปรก และเธอจะไม่กล้าให้แกแตะจนกว่าเธอจะหาย ถ้าแกไม่เชื่อ แกสามารถเปิดเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาดูด้วยตัวเอง!ส่วนเป็นโรคนี้ได้ยังไง ฉันไม่ต้องพูดอะไรมากแล้วใช่ไหม? หึๆ……”เย่เฟิงมีสีหน้าเรียบๆเมื่อพูดจบ ซุนหงน่าที่ได้โวยวายมาตลอด ก็ได้มองเย่เฟิงด้วยสายตาที่น่าหวาดกลัวชายคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าเธอเป็นโรคสกปรก?ซุนหงน่าแต่งงานกับเติ้งเหว่ยเหมาซึ่งแก่กว่าเธอมากกว่า 20 ปีเพื่อเงินไม่ว่ายังไงเติ้งเหว่ยเหมาก็แก่แล้ว ชีวิตสามีภรรยาของพวกเขาก็ไม่กลมกลืนกันมากนัก และซุนหงน่าก็ได้เป็นหญิงที่อยากมาตลอดเธอเอาเงินของเติ้งเหว่ยเหมา ไปเลี้ยงหนุ่มอายุน้อยด้านนอกโรคของเธอ ก็ได้มาอย่างนี้“น่าน่า! นี่มันเรื่องอะไร? ”เติ้งเหว่ยเหมาถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“ที่รัก คุณอย่าฟังเรื่องไร้สาระของเขา! ฉัน
ส่วนสถานการณ์ของเจ้าสามและเจ้าสี่ไม่ชัดเจนนักผู้อาวุโสหลีหน้าเสียต่อหน้าหลีเอียนและเย่เฟิงมานักต่อนัก สุดท้ายยังต้องยอมจำนนอย่างน่าอับอายอีกเธอในตอนนี้ไม่ถูกกับครอบครัวลูกชายคนโตเลยแม้แต่นิด!ดังนั้นเธอย่อมต้องสนับสนุนคนที่ไม่ถูกกับอีกฝ่ายเช่นเดียวกันอยู่แล้วซึ่งคนคนนั้น ก็มีเพียงหลีเทียนกัง ลูกชายคนรองเท่านั้น…หลังจากที่กลับจากคฤหาสน์ตระกูลหลี ทันทีที่หลีเทียนกังขึ้นรถไป หลี่เยว่ผิวและหลีถิงที่รออยู่บนรถก่อนแล้วก็เอ่ยถามอย่างรอไม่ไหว“ที่รัก ผู้อาวุโสเป็นยังไงบ้าง? ใกล้จะไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”ภรรยาคนนี้ทำหน้าตั้งตารอ“พ่อคะ พ่อต้องทำให้ย่าเขียนพินัยกรรมมอบหุ้นส่วนทั้งหมดให้พ่อก่อนที่ท่านจะตายนะคะ!”หลีถิงเองก็ทำหน้าโลภมากหลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชา แล้วโบกมืออย่างอารมณ์เสีย “คิดอะไรอยู่น่ะ? ผู้อาวุโสยังไม่ตายเร็วๆ นี้หรอก หมอบอกว่าแค่พักผ่อนดีๆ รักษาอาการป่วยให้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง!”เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เยว่ผิงและหลีถิงก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมาหลีเทียนกังเห็นดังนั้น ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า “แต่ผมขู่ผู้อาวุโสไป ให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วแล
เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายคนรอง ผู้อาวุโสหลีก็รู้สึกไม่ดี!ท่าทีของอีกฝ่าย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตนใกล้จะตายแล้วอย่างไรอย่างนั้น"เป็นอะไรกันแน่? บอกมา!"ผู้อาวุโสหลีถามเสียงเข้ม สีหน้ายิ่งแดงก่ำกว่าเดิมพร้อมไอเป็นครั้งคราว"แม่ ไม่มีอะไรจริงๆ แม่พักผ่อนให้สบายเถอะ"หลีเทียนกังพยายามปลอบแต่ผู้อาวุโสหลียังจับตาดูลูกชายอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจ "เฮ้อ…ฉันเองก็อายุมากแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่แปลก! เพียงแต่…ฉันไม่ยอม!"เธอพูดพลางตบโต๊ะด้วยความโกรธหลังจากใช้ชีวิตอย่างเด็ดเดี่ยวมาตลอด สุดท้ายเธอกลับพ่ายแพ้ให้กับหลานสาวตัวเอง จนถึงขั้นเสียบริษัทยาไปทั้งหมดความรู้สึกนี้ยากที่จะทำใจยอมรับได้ แม้จะเป็นวาระสุดท้ายก็ตาม!"แม่ครับ ผมจะช่วยกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้แม่เอง!"หลีเทียนกังกัดฟันและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นครั้งนี้ไม่ใช่การแสร้งทำ!เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ครอบครัวเขาหน้าด้านหน้าทนไปขอหลีเอียน แต่กลับถูกขับไล้ออกมาอย่างไร้เยื่อใย ในใจเขาเองก็รู้สึกอับอายและโกรธมากเช่นกัน"แม่ ถึงแม้เราจะเสียเปรียบเรื่องบริษัทยา แต่เราสามารถหาวิธีอื่นจัดการครอบครัวพี่ใหญ่ได้นี่ครับ!หลีหย่วนยังไงก็
“ราคาสูง? สูงแค่ไหน?”เย่เฟิงขมวดคิ้วถาม“ยกตัวอย่างเช่น ยาหนึ่งเม็ดจากตระกูลนี้ ราคาก็สูงถึงหลักสิบล้าน ส่วนทักษะวิชาการต่อสู้บางเล่มอาจทะลุไปถึงร้อยล้านเลย...”หลีหยวนเล่าความเป็นมาของตระกูลกู่นี้ให้เย่เฟิงฟังตระกูลกู่เป็นตระกูลที่เงียบสงบและไม่เผยตัวต่อสาธารณะ แต่ก็แข็งแกร่งมากพวกเขาไม่ทำธุรกิจข้างนอก แต่ก็ร่ำรวยมหาศาลลำพังแค่งานประมูลหนึ่งครั้ง ก็สามารถทำรายได้ถึงหลายพันหลายหมื่นล้านแล้วยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญฝีมือสูงที่สามารถรับงานต่างๆ ได้ แต่ค่าจ้างก็แพงมากเช่นกันแน่นอนว่าความสามารถของยอดฝีมือที่ส่งไปนั้น ก็เก่งกาจมากเช่นกันเฉินจิงเทียนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียง ยังอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญบางคนในตระกูลนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเท่านั้นหลังจากที่หลีหย่วนพูดจบแล้ว เย่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและรู้สึกหนักใจตระกูลกู่จะมีผู้เชี่ยวชาญหรือยอดฝีมืออะไรไม่เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือของประมูลราคาสูงลิ่วที่หลีหย่วนพูดถึงตามที่หลีหย่วนกล่าว ราคาของหยกพลังวิญญาณนั่น เผลอๆ อาจสูงถึงร้อยล้านเลยก็ได้
ใช่แล้ว หลีเอียนรู้เรื่องจี้หยกรูปมังกรของเย่เฟิงตอนที่เย่เฟิงโดนรถของเธอชนแล้วกระเด็นไป ตอนนั้นเขากำจี้หยกชิ้นนั้นไว้แน่น หลีเอียนจึงจำมันได้ขึ้นใจอีกทั้งตอนที่เย่อินเสวียนหยิบภาพวาดออกมา หลีเอียนเองก็สงสัยอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อได้ยินคำขู่ของหลีเอียน สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาแฝงด้วยความเย็นชา “คุณกำลังขู่ผมอยู่เหรอ?”หลีเอียนที่เห็นสายตาเย็นชาของเย่เฟิง ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความไม่พอใจ เธอจ้องมองเขาอย่างน้อยใจ“ใช่ ฉันขู่คุณ แล้วจะทำไม? ยังจะกล้าขัดคำสั่งฉันไหม?”เย่เฟิงถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ สุดท้ายเขาก็ยอมจำนน“โอเคๆ ผมจะทำตามที่คุณบอก โอเคไหม คุณภรรยาผู้ยิ่งใหญ่ของผม...แต่คุณต้องช่วยผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ”หลีเอียนจ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “ก็ต้องดูพฤติกรรมของคุณแล้ว”“ผมว่าผมก็ทำตัวดีมาตลอดนะ”“แย่สุดๆ!”หลีเอียนกัดฟันและพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาทำให้เย่เฟิงได้แต่นั่งหน้าหมอง พร้อมคิดในใจว่า(ผู้หญิง เหอะๆ…เปลี่ยนอารมณ์ง่ายเหมือนเปลี่ยนหน้าหนังสือเลย!
สวี่ซีเหยียนหน้าซีดด้วยความกลัว "เย่เฟิง ช่วยหน่อยเถอะนะ เห็นแก่ที่ฉันกับเอียนเอียนเป็นเพื่อนกัน นายอย่าถือสาฉันเลยนะ ช่วยฉันด้วย…ฉันไม่อยากโดนหนอนพิษ..."เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างพากันตกใจกลัว ร้องขอความช่วยเหลืออย่างหมดท่า"หึๆ ตอนนี้รู้สึกกลัวแล้วเหรอ? ไม่ต้องตกใจไป หนอนพิษเพิ่งเข้าไปไม่นาน ยังอยู่แค่ในกระเพาะอาหารของพวกเธอ ยังไม่เข้ากระแสเลือดกลับไปเอาผงสารส้มละลายน้ำร้อน แล้วก็ล้วงคอให้อาเจียนออกมา อาเจียนออกมาให้หมดจนไม่มีอะไรเหลือค้างอยู่"เย่เฟิงพูดนิ่งๆเมื่อพูดจบ เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ต่างรีบพุ่งออกจากห้อง ไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียวเซียวคุนกับถงซวี่เย่ยิ่งรู้สึกศรัทธาและเคารพเย่เฟิงมากขึ้นไปอีกหลังจากนั้น เซียวคุนก็เปลี่ยนห้องเพื่อทานอาหารกันสี่คนแบบเรียบง่ายหนึ่งชั่วโมงต่อมา...เย่เฟิงและหลีเอียนออกมาจากร้านเชียนเว่ยเซวียน กำลังจะขึ้นรถไปส่งบอสสาวสวยกลับบ้านหลีเอียนเดินตามหลังเย่เฟิง มองเย่เฟิงที่เดินนำหน้าไปอย่างไม่สนใจใยดีด้วยสายตาที่มีแววขุ่นเคืองตอนทานอาหารเมื่อครู่ หลีเอียนเห็นเซียวคุนหลงใหลและอ่อนโยนกับเย่อินเสวียน ก็รู้สึกแปลกๆ แล้วแม้จะรู้ว่าเซ
หลังจากหายใจได้ไม่กี่อึดใจ เซียวคุนก็รู้สึกถึงความขมคาวในลำคอของเขา"แหวะ!" ทันใดนั้น เขาก็อาเจียนออกมา!พบว่ามีหนอนสีแดงสดตัวหนึ่งถูกอาเจียนออกมาจากปากของเขา!"อ๊า!" ฉากนี้ทำให้หญิงสาวบางคนในที่นั้นกรีดร้องออกมาส่วนคนอื่นๆ ก็มองด้วยความตกใจกลัว รู้สึกขนลุกและหัวใจเต้นแรงเซียวคุนที่ตอนนี้สีหน้ากลับมาเป็นปกติ แววตาที่เคยหลงใหลในเย่อินเสวียนหายไป แทนที่ด้วยความสับสนสงสัยเขามองดูหนอนพิษที่ตัวเองอาเจียนออกมาอย่างตกใจและโมโห "เสวียนเอ๋อร์ ฝีมือคุณจริงๆ เหรอ?"แต่เย่อินเสวียนกลับไม่สนใจเขาเลย สำหรับเธอแล้ว เซียวคุนก็แค่เครื่องมือเท่านั้นในเมื่อเครื่องมือถูกทำลาย เธอก็มองเย่เฟิงด้วยความโกรธแค้น"ไอ้ผู้ชายบ้า มาขัดขวางฉันอีกแล้ว! วอนหาที่ตาย!”เธอด่าด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะเคลื่อนไหวพุ่งตรงไปหาเย่เฟิงอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งทำเป็นมีดแล้วฟันไปที่คอของเขา ส่งเสียงฟาดลมอันดุดันออกมาเย่เฟิงเบิกตากว้าง แล้วรีบรับมือทันที!ปัง! ปัง! ปัง...ทั้งสองกระโดดเหยียบบนโต๊ะ ต่อสู้กันไปมาสามครั้งในพริบตาเดียว เย่อินเสวียนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะถอยร่นกลับด้วยแรงผลักจากนั้นใช้
ดูเหมือนจะรู้สึกโกรธเย่เฟิงขึ้นมาเล็กน้อย"พี่เย่ พี่หมายความว่าไง? เสวียนเอ๋อร์ทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ หรือว่าผมไปทำอะไรให้พี่?”คุณชายเซียวถามด้วยสีหน้ามืดมนหลีเอียนเองก็มองเย่เฟิงอย่างไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ได้แตะต้องแก้วเหล้านั้น เพราะเธอเชื่อว่าเย่เฟิงคงไม่พูดหรือทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลรวมถึงถงซวี่เย่ เขาลังเลเล็กน้อยแล้ววางแก้วลงด้วยเช่นกันลูกชายคนสำคัญของถงฟากรุ๊ปยังคงมีความเยือกเย็นอยู่บ้างเนื่องจากเย่เฟิงเพิ่งรักษาแม่ของเขาให้หาย ถงซวี่เย่จึงมีความไว้วางใจที่ยากจะอธิบายต่อเย่เฟิง เมื่อเย่เฟิงบอกว่าอย่าดื่ม เขาจึงไม่ดื่มและรอดูสถานการณ์ในขณะนั้นเอง เย่เฟิงก็แสดงสีหน้าจริงจังและพูดกับเย่อินเสวียนทีละคำว่า "ฟ่งหวงเตี่ยนโถว (ฟินิกซ์พยักหน้า)! เป็นเทคนิคสุดยอดในการใช้หนอนพิษแห่งมู่เจียง! คุณเย่ คุณคือใครกันแน่? แล้วมาที่หยุนเฉิงเพื่อจุดประสงค์อะไร?"เมื่อคำพูดจบลง คนอื่นๆ บนโต๊ะต่างแสดงสีหน้าไม่แน่ใจ"ฟ่งหวงเตี่ยนโถวอะไรกัน? หนอนพิษอะไร? นายพูดเหลวไหลอะไรอยู่น่ะ?"สวี่ซีเหยียนหัวเราะเยาะและถามคนอื่นๆ ก็มองเย่เฟิงเหมือนว่าเขาเป็นคนบ้าเช่นกันส่วนเย่อินเสวียนก็แสดงสีหน้าใส
เย่เฟิงจะไม่เคยเห็นได้อย่างไร!จี้หยกรูปมังกรที่อยู่ในภาพนั้นก็คือสมบัติตกทอดของตระกูลที่ปู่และพ่อของเขาเคยให้ไว้!เพราะจี้หยกนี้ ทำให้เขาเปลี่ยนชะตาชีวิตและได้รับความสามารถพิเศษหลายอย่างทุกวันนี้ แม้จี้หยกนี้จะหมดแสงเงางดงามไปนานแล้ว แต่เย่เฟิงก็ยังเก็บรักษามันไว้ในตู้เซฟที่บ้านของเขาเป็นอย่างดีคาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีใครบางคนมาตามหาจี้หยกนี้?แถมที่บังเอิญยิ่งกว่าคือ คนที่ตามหา ก็แซ่เย่เหมือนเขาด้วย!แต่ด้วยความที่เย่เฟิงไม่ไว้วางใจเย่อินเสวียน เขาจึงไม่คิดจะบอกความจริงกับเธอ"อา น่าเสียดายจังค่ะ!"เย่อินเสวียนกล่าวด้วยความเสียดาย พร้อมกับส่ายหัวเบาๆ"คุณเย่เลือกคนถามได้ดีจริงๆ ทุกคนที่นี่ไม่รู้ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง?"สวี่ซีเหยียนหันปากค่อนขอดเย่เฟิงอีกครั้งแม้ว่าเซียวคุนและถงซวี่เย่จะดูเกรงใจเย่เฟิงมาก แต่เธอกลับมองว่าเย่เฟิงยังคงเป็นแค่คนที่ต้องพึ่งพาผู้หญิงอยู่ ฟลานเดอร์ทำให้เธอเสียหน้าไปมาก เธอจึงไม่อยากเห็นสามีของหลีเอียนได้หน้ามากไปกว่าเธอด้วยความรู้สึกเช่นนี้ เธออยากจะทำให้เย่เฟิงต่ำตมมากจริงๆ"ใช่ครับ ผมไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว"เย่เฟิงยักไหล่ ไม่สนใจคำพูดของ
หลีเอียนหลุดขำเบาๆ พลางส่ายหัวสวี่ซีเหยียนหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย เธอหันไปตบฟลานเดอร์เต็มแรง "ไอ้เลว! แกกล้าหลอกฉันเหรอ? ออกไป! ไปให้พ้น! ฉันเสียหน้าเพราะแกคนเดียว!"ฟลานเดอร์ยกมือขึ้นจับหน้าที่โดนตบ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างหมดสภาพแต่ทันทีที่เขาออกไป เขาก็ถูกผู้จัดการเถิงพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาขวางเอาไว้เพราะบัตรวีไอพีระดับเพชรที่เขาใช้ มันไม่ใช่ของเขาจริงๆ แต่เป็นของลูกค้าคนหนึ่งที่ทำหายไว้"ซีเหยียน ผู้ชายดีๆ ในเยียนเซียมีตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ทำไมเธอถึงเลือกคบกับคนต่างชาติที่เป็นนักต้มตุ๋นแบบนี้ล่ะ? ยังไงซะ ตระกูลสวี่ก็นับว่าเป็นตระกูลใหญ่ในหยุนเฉิง เธอเองก็เป็นคุณหนูของตระกูลสวี่ จะไปภูมิใจอะไรกับแฟนชาวต่างชาตินักหนา?สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่ภาพลักษณ์ แต่เป็นศักดิ์ศรีของคนเยียนเซีย!"หลีเอียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“เธอ…ฉัน…”สวี่ซีเหยียนรู้สึกอับอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีแต่คนในงานวันนี้ล้วนแต่เป็นลูกหลานคนสำคัญในหยุนเฉิงทั้งนั้น เธอจึงไม่กล้าเดินออกไป"เอาล่ะๆ คุณสวี่ก็โดนหลอกเหมือนกันนี่นา! ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม งั้นเรามาสั่งอาหารกันดีกว่า"เย