เย่อินเสวียนปล่อยมือจากคอของเย่เฟิงอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ขึ้นรถขับจากไป เย่เฟิงยืนอยู่ตรงนั้น มองตามรถของเธอที่ค่อยๆ หายลับไปจากสายตาเหมือนหลงใหลแต่ทันทีที่เขาหันหลังเดินจากไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที ในตอนนี้ เย่อินเสวียนคิดว่าเย่เฟิงตกอยู่ในอำนาจของเธอเรียบร้อยแล้ว แต่เธอไม่รู้เลยว่า พิษปลิดวิญญาณ ที่เธอส่งเข้าไปในตัวของเย่เฟิงนั้น ถูกพลังปราณมังกรที่อยู่ในร่างเขาปิดผนึกเอาไว้ตั้งแต่แรก เย่เฟิงลังเลเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำลายพิษนั้นในทันที!“แม่สาวน้อย หวังว่าเธอจะช่วยฉันตามหาพ่อแม่ได้จริงๆ ถึงตอนนั้น ฉันต้องขอบคุณเธออย่างสุดซึ้งแน่!” “เธอตามหาสร้อยหยกมังกร? หรือว่าเธอจะรู้ความลับของหยกเส้นนั้น...หรือบางทีอาจเกี่ยวข้องกับชาติกำเนิดของฉันก็ได้?” “อ้างว่าเป็นญาติฉัน? เชื่อก็บ้าแล้ว” ... ในคืนนั้น เย่เฟิงออกจากบ้านพัก เดินทางไปยังยอดเขาที่ไร้ผู้คน ก่อนจะนั่งลงในท่าขัดสมาธิ หินหยกศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่เบื้องหน้าเขา แสงสีเรืองรองที่ส่องประกายอย่างนุ่มนวลทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ พลังปราณที่บริสุทธิ์ค่อยๆ ไหลออกมาจากหยกนั้น ตามจังหวะลมหายใจของเย่เ
เย่เฟิงจำเอกสารฉบับนั้นได้ดี! นี่มันคือ สัญญาแต่งงานหลอกๆ ที่หลีเอียนเคยเซ็นไว้กับเขาในตอนแรกไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่มันอะไร...ฉีกมันทิ้งไปแบบนี้เนี่ยนะ? "นี่หมายความว่ายังไง? หรือว่าคุณไม่พอใจที่ผมดูแลคุณไม่ดีเลยคิดจะจบเรื่องทั้งหมดตรงนี้?" เย่เฟิงขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มไม่สู้ดีถามออกไป ไม่เข้าใจเลยว่าอยู่ดีๆ ทำไมเธอถึงฉีกสัญญาทิ้ง "คนโง่!" เมื่อได้ยินคำถามนี้ หลีเอียนก็หันมาด่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ จากนั้นก็พูดเสียงเย็นๆ ว่า "ตอนบ่ายฉันจะเคลียร์เวลาไว้ ไปเลือกชุดแต่งงานกับเครื่องประดับแต่งงานด้วยกันสิ" "เอ่อ..." เย่เฟิงได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง แต่พอได้สติกลับมาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ "ที่แท้ คุณจะทำให้ผมกลายเป็นสามีจริงๆ นี่เอง?" ใบหน้าที่สวยงามของหลีเอียนขึ้นสีแดงระเรื่อ เธอเบือนหน้าหนีเล็กน้อยก่อนพูดเสียงกระด้าง "อย่ามโนไปเอง! ใครบอกจะให้คุณเป็นสามีจริงๆ ของฉัน?ที่ทำแบบนี้ก็เพราะพ่อแม่ของฉันทั้งนั้น! ก็แค่ทำให้พวกเขาพอใจเฉยๆ!" เย่เฟิงยิ้มออกมาอีกครั้ง "ถูกต้อง เราต้องทำให้พวกเขาพอใจ" "ไอ้บ้า! หุบปากไปเลย!"เห็นเย่เฟิงยิ้มกวนประสาท หลีเอียนถึงกับเขินจนเตะหน้าเขา
จะให้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้จริงๆ เหรอ? ในตอนนั้นจิตใจของหลีเอียนก็ปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก แต่เพียงชั่วพริบตา เมื่อเธอหันไปมองเย่เฟิงที่อยู่ข้างๆ จู่ๆ ความวุ่นวายในใจเธอกลับสงบลง ภาพของเจ้าชายในฝันที่เธอเคยจินตนาการ ค่อยๆ ทับซ้อนกับภาพของผู้ชายคนนี้อย่างน่าประหลาด "ไม่มีอะไร เราเข้าไปเลือกชุดแต่งงานกันเถอะ" หลีเอียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้ม ดวงตาคลอไปด้วยหยดน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง เย่เฟิงรู้สึกหัวใจเต้นแรงในวินาทีนั้น เขารู้สึกว่า หลีเอียนในตอนนี้ช่างงดงามจนแทบลืมหายใจ แต่ในขณะเดียวกัน เสียงที่ไม่น่าฟังเสียงหนึ่งกลับดังขึ้นขัดจังหวะ "โอ๊ะ! พี่? ควงไอ้หน้าขาวมาดูชุดแต่งงานเหรอ?" เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทั้งหลีเอียนและเย่เฟิงต่างขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ "ใช่แล้ว! พ่อกับแม่ฉันบอกว่าต้องฉลองสองงานพร้อมกัน หลังจากที่ฉันได้บริษัทกลับมา เราก็จะจัดงานแต่งงานกัน พอดีเลยว่าจะเลือกชุดแต่งงานสักหน่อย ถิงถิง ไม่คิดจะเลิกนิสัยปากร้ายบ้างเหรอ? แบบนี้ใครจะอยากได้ไปเป็นเมียกัน?" หลีเอียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ทุกคำพูดกลับจี้ใจดำของหลีถิงจนหน้าบึ้งตึง เมื่อได
"ผมก็มีเงินนะ แต่ถ้าภรรยาผมจะซื้อเสื้อผ้าให้ มันผิดตรงไหน?"เย่เฟิงเอ่ยเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ หลีถิงหัวเราะเยาะ "แกมีเงิน? เงินของแกก็คือเงินที่พี่ฉันให้มาไง เย่เฟิง แกไม่อายบ้างหรือไง เกาะผู้หญิงกินแล้วยังทำตัวหน้าชื่นตาบานอีก นี่สินะที่เขาว่าผู้ชายเหมือนกัน แต่ต่างกันราวฟ้ากับเหว” พูดจบ หลีถิงก็หันไปอวดต่อหน้าหลีเอียน"พี่ พี่คงไม่รู้สินะว่าฉันก็จะแต่งงานแล้ว! คุณกัวขอฉันแต่งงานแล้วล่ะอ้อ พี่อาจจะลืมไปแล้ว เขาคือทายาทของกลุ่มบริษัทส่งออกหยกใหญ่ที่สุดในมณฑลเจียงนะพ่อสามีของฉันมีทรัพย์สินหลายหมื่นล้านเชียวล่ะ" ส่วนบริษัทยาเล็กๆ ของพี่ ถึงจะกำไรดีแค่ไหน ก็ต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะเทียบได้กับบ้านฉันล่ะ?" หลีเอียนฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว พลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา "จะต้องใช้เวลากี่ปีก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็เป็นเงินที่ฉันหาเอง เธออย่าลืมว่าบ้านแฟนเธอมันไม่ใช่เงินของเธอซะหน่อย มีอะไรน่ามาอวด?" “ฮ่าๆ นี่พี่กำลังอิจฉาฉันอยู่หรือเปล่า? ที่ไม่มีปัญญาหาบ้านสามีดีๆ ได้อย่างฉัน!วันๆ เอาแต่ทำตัวสูงส่ง ถ้ายอมแต่งกับคุณชายใหญ่ฉู่แต่แรก คงสบายกว่าเลือกไอ้หน้าขาวนี่แล้ว "ยัง
แต่เมื่อกัวอี้หมิงเดินเข้ามา เขากลับแสดงท่าทีสุภาพอย่างยิ่งต่อเย่เฟิงและหลีเอียน! เมื่อได้ยินกัวอี้หมิงพูดว่าตนและหลีเอียนเป็นครอบครัวเดียวกัน หลีถิงจึงคิดว่าอีกฝ่ายทำเพื่อเห็นแก่ตนเลยไม่อยากทำให้ญาติลำบากใจดังนั้นจึงรีบพูดให้ชัดเจนว่าเธอไม่เกี่ยวข้องกับเย่เฟิงและหลีเอียน!“ได้ยินหรือยัง? ครอบครัวของเรากับหล่อนไม่มีวันญาติดีกัน!” เย่เฟิงยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปพูดกับกัวอี้หมิง สีหน้าของกัวอี้หมิงเปลี่ยนไปในทันทีแม่งเอ้ย!นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?หลีถิงกับคุณเย่ไม่มีทางญาติดีกัน?ถ้าเขายังดันทุรังแต่งงานกับหล่อน ไม่เท่ากับว่าเขาจะกลายเป็นศัตรูกับคุณเย่ไปด้วยเหรอ?งานหมั้นระหว่างเขากับหลีถิง เป็นความคิดของหลีถิงเองหลีถิงมองว่าครอบครัวกัวอี้หมิงร่ำรวยมหาศาล มีทรัพย์สินหลายหมื่นล้าน และเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียว หากแต่งงานกับเขา หล่อนจะมีอนาคตมั่นคงแม้ตระกูลหลีจะล้มลง ก็ยังมีเงินใช้ตลอดชีวิต หลังจากที่หลีถิงเสนอออกมา กัวอี้หมิงก็นำเรื่องนี้ไปบอกพ่อของเขากัวไป๋ชวน ทั้งสองก็ไม่ได้ลังเลอะไร และตอบตกลงทันทีเพราะพวกเขาไม่ได้สนใจฐานะของหลีถิง แต่สนใจในตัวเย่เฟิง!แม้ว่ากัวอี้
"ไปกันเถอะที่รัก เราเข้าไปเลือกชุดแต่งงานกัน!" เย่เฟิงพูดพร้อมกับยักไหล่ แล้วหันไปบอกกับหลีเอียน หลีเอียนมองหลีถิงที่ยังนั่งอยู่กับพื้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอีก เธอเดินตามเย่เฟิงเข้าไปในร้านชุดแต่งงาน สำหรับครอบครัวของลุงรอง หลีเอียนไม่มีความรู้สึกดีใดๆ เหลืออยู่อีกต่อไป เมื่อเห็นหลีถิงถูกทิ้ง หล่อนก็ไม่รู้สึกเห็นใจแต่อย่างใดแต่ในใจก็ยังสงสัยว่า ทำไมกัวอี้หมิงถึงดูหวาดกลัวเย่เฟิงนัก "เย่เฟิง แกคอยดูเถอะ ฉันจะทำให้แกได้รับผลกรรม!" หลีถิงพูดอย่างเคียดแค้น ขณะที่ความอับอายจากสายตาของคนรอบข้างทำให้เธออยากหายตัวไปจากตรงนี้ "ได้สิ! แต่จำไว้ว่าคุณยังต้องเรียกผมว่าพ่ออยู่นะ!" เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา คำพูดนั้นทำให้หลีถิงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่อาจทนอยู่ที่นี่ต่อได้อีกเธอ รีบลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับคว้ากระเป๋าและวิ่งหนีไป หลังจากใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ทั้งคู่ก็เลือกชุดแต่งงานและชุดสูทเสร็จเรียบร้อย เย่เฟิงและหลีเอียนเดินออกจากห้าง "ทำไมกัวอี้หมิงถึงกลัวคุณขนาดนั้น?" ระหว่างขับรถ หลีเอียนถามออกมาด้วยความอยากรู้ เมื่อนึกถึงท่าทางของกัวอี้หมิงตอนอยู่ต
เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ และพูดต้องไปอยู่แล้ว!แม้วันนี้คำพูดของหลีถิงจะไม่ทำให้หลีเอียนคิดมาก แต่เย่เฟิงกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ ตอนนี้ยังเป็นเวลาบ่ายสาม หลีเอียนยังต้องกลับไปทำงานต่อที่บริษัท หลังจากเย่เฟิงส่งหลีเอียนกลับบริษัทแล้ว เขาก็ตัดสินใจไปที่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลเหวินเฟิงเพื่อรอรับนั่วนั่วล่วงหน้า หลังเลิกเรียน เย่เฟิงก็เห็นกลุ่มเด็กตัวน้อยๆ วิ่งออกมาด้วยความสนุกสนาน เย่เฟิงมองหาจนเห็นร่างเล็กๆ ของนั่วนั่วในกลุ่มนั้นทันที “พ่อ!” เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งออกมาพร้อมจับมือเย่เฟิงและเรียกอย่างดีใจ ดูเหมือนเธอจะตื่นเต้นมาก แต่เย่เฟิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามนั่วนั่ว“ลูก พ่อถามหน่อย บนหน้าของหนูเกิดอะไรขึ้น? ใครมาทำร้ายหนู?” บนใบหน้าของนั่วนั่วมีรอยฟกช้ำ แถมดวงตาข้างหนึ่งก็เป็นรอยช้ำดำ…สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเย่เฟิงเจ็บปวดอย่างมาก! “ไม่ใช่คนอื่นมาตีนั่วนั่วหรอกค่ะ แต่เป็นนั่วนั่วตีพวกเขาต่างหาก! ฮ่าๆๆ…” นั่วนั่วพูดพลางทำท่าทางอย่างกระตือรือร้น ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ “หนูตีคนอื่น? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลังจากเย่เฟิงอุ้มนั่วนั่วขึ้นรถ เ
“ไม่เป็นไรนะลูก คนพวกนี้แค่กำลังแสดงหนังแอคชั่นกันอยู่” เย่เฟิงเห็นนั่วนั่วร้องไห้ด้วยความตกใจ จึงรีบปลอบลูกทันที ได้ยินเช่นนั้น พวกชายฉกรรจ์ก็หัวเราะกันเสียงดัง ชายผมเปียยิ้มเหี้ยมพลางด่า “หนังแอคชั่นบ้านแกสิ!” ทันใดนั้น เขาชี้ไม้เบสบอลไปที่นั่วนั่วพร้อมด่าอย่างดุดัน “ไอ้เด็กเวรจะร้องไห้ทำไม? รอให้พ่อแกพิการก่อน แล้วฉันจะเอาแกไปขายในซอกเขา!” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นั่วนั่วถึงกับหน้าซีดและพยายามซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนเย่เฟิงอย่างสุดแรง “พ่อ…พ่อคะ พวกเขาเป็นคนร้าย!” คำพูดของชายผมเปียทำให้ความเย็นชาแผ่ซ่านขึ้นในดวงตาของเย่เฟิง เย่เฟิงโอบลูกสาวแน่นก่อนปลอบว่า “ไม่ต้องกลัวนะลูก ลุงคนนี้เล่นบทตัวร้ายได้เหมือนมาก นั่วนั่วไม่ต้องกลัว พ่อเป็นพระเอกของหนังเรื่องนี้ เดี๋ยวพ่อจะจัดการพวกเขาเอง” นั่วนั่วกระพริบตาปริบๆ ก่อนถามว่า “จริงเหรอคะ?” โครม! จังหวะนั้นมีคนอีกคนใช้แรงฟาดรถบริเวณประตูฝั่งคนขับ “ไอ้เวร! ฉันบอกให้แกลงมา ได้ยินไหม?” เย่เฟิงลูบหัวนั่วนั่วเบาๆ แล้วเปิดประตูลงจากรถพร้อมสีหน้าที่เย็นเยียบ “พวกนายเป็นพวกที่ครอบครัวของหัวโจกในโรงเรียนจ้างมาหรือเปล่า
ครั้งนี้ลุงรองหลีเทียนกังไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เพราะเขาไม่สามารถวนเวียนอยู่รอบตัวผู้อาวุโสหลีได้ตลอดเวลาแต่ในช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญ เขาต้องคอยจับตาดูสถานการณ์ของผู้อาวุโสหลีตลอดพูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขารอให้ผู้อาวุโสเสียชีวิตนั่นเอง!ดังนั้น หลี่เยว่ผิงและหลีถิง อย่างน้อยก็ต้องมีคนหนึ่งคอยอยู่ข้างกายผู้อาวุโสหลีตลอดเวลาผู้อาวุโสหลีที่กำลังนั่งตากแดดอยู่ เมื่อเห็นเย่เฟิง หลีเทียนหยาง และหลีเอียนเดินเข้ามา สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที“พวกเธอมาที่นี่ทำไม?”“ใครอนุญาตให้พวกเธอมา? ออกไป!”เสียงของผู้อาวุโสหลีเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว สั่งไล่ลูกชายคนโตและคนอื่นๆ ออกไปอย่างไม่เกรงใจโดยเฉพาะเมื่อสายตาของเธอตกลงที่เย่เฟิง ความโกรธแค้นในแววตาก็ยิ่งชัดเจน!เพราะยอดฝีมือตระกูลหลีถูกเย่เฟิงเล่นงานจนบาดเจ็บหนัก ตระกูลหลีจึงตกอยู่ในสภาพที่บอบช้ำ!แผนการที่จะทำลายหลีหย่วนก็พังทลาย!ตั้งแต่หลีเอียนหลานสาวคนโตพาเย่เฟิงเข้ามาในฐานะลูกเขย ผู้อาวุโสหลีที่เคยใช้อำนาจในตระกูลอย่างเบ็ดเสร็จ ก็เริ่มพบกับความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า!ผู้อาวุโสหลีจึงเกลียดเย่เฟิงถึงขั้นฝังลึกในกระดูก!“แค่กๆๆ...แค่กๆ…”ผู
"นายท่านใหญ่ คุณหนูหลีเอียน พวกคุณจะทำอะไรครับ?"ยามคนหนึ่งถามหลีเทียนกังและหลีเอียน"ฉันมาหาแม่ฉัน จะมาทำอะไรได้? หลีกไป!"หลีเทียนกังที่ถูกขวางหน้า แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน เขาสั่งเสียงเข้ม"ขอโทษครับนายท่านใหญ่ ผู้อาวุโสสั่งไว้ว่า ห้ามให้ครอบครัวของคุณเข้าไปในบ้านตระกูลหลี!"ยามตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลีเทียนกังและหลีเอียนก็เปลี่ยนไปทันที"เรามาเยี่ยมคุณย่า แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ?"หลีเอียนขมวดคิ้วถามหลีเทียนกังโกรธยิ่งกว่าเดิม "ถ้ารู้ว่าฉันเป็นใครก็หลีกไป! ฉันมาหาแม่ฉัน!""ขอโทษครับ ผู้อาวุโสบอกว่า พวกคุณไม่ใช่คนตระกูลหลีอีกต่อไป ตามกฎแล้ว พวกคุณไม่สามารถเข้าไปในบ้านตระกูลหลีได้ครับ!"ยามส่ายหัวและยังคงยืนกรานไม่ว่าหลีเทียนกังและหลีเอียนจะพูดเกลี้ยกล่อมอย่างไร ยามทั้งสองคนก็ไม่ยอมขยับพ่อลูกทั้งสองคนถึงกับโกรธจนแทบระเบิดพวกเขารู้ว่ายามเหล่านี้ก็รู้จักตัวตนของพวกเขาดี แต่ก็จงใจไม่ให้เข้าไป!ในขณะที่ทั้งสองยังพยายามโต้เถียง เย่เฟิงกลับดึงหลีเอียนมาหลบอยู่ด้านหลังของเขา"หลีกไป!"เย่เฟิงพูดเสียงเย็นใส่ยามทั้งสองยามทั้งสองสบตากันอย่างลั
ยามเย็น เย่เฟิงพานั่วนั่วมาที่บริษัทผลิตยาเพื่อรับหลีเอียนเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก หลีเอียนก็ขมวดคิ้ว “เย่เฟิง นั่วนั่วเป็นอะไรไป? มีใครรังแกเธอหรือเปล่า?”เห็นได้ชัดว่านั่วนั่วมีคราบน้ำตาติดบนใบหน้า ราวกับเพิ่งร้องไห้มา“น้าหลีเอียน…”แม้ว่าเด็กหญิงจะยังงอนเย่เฟิงอยู่ แต่เมื่อเห็นหลีเอียน เธอก็เบะปากและทักทายด้วยมารยาท“นั่วนั่วเด็กดี! บอกน้าหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”หลีเอียนเดินเข้าไปอุ้มนั่วนั่วขึ้นมาด้วยความอ่อนโยน พร้อมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็กทำหน้าตาเศร้าหมอง น้ำตาคลอเบ้า และเบะปากทักทายอย่างน่าสงสาร หัวใจของหลีเอียนก็แทบจะละลายเธอรู้สึกว่านั่วนั่วน่ารักจนใครๆ ก็ต้องหลงรัก แต่ก็ดูน่าสงสารจนอดเอ็นดูไม่ได้“ไม่ต้องสนใจเธอหรอก เด็กก็งอแงแบบนี้แหละ”เย่เฟิงพูดพลางโบกมือด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย“นั่วนั่วน่ารักขนาดนี้ จะงอแงอะไรได้? เย่เฟิง เลี้ยงเด็กต้องมีความอดทน! ถ้าคุณไม่มีความอดทน ก็ให้นั่วนั่วมาอยู่กับฉันเถอะ!”หลีเอียนมองบนใส่เย่เฟิงด้วยความไม่พอใจ พร้อมปกป้องนั่วนั่วอย่างลำเอียงเธอคิดว่าเย่เฟิงเป็นผู้ชาย อาจจะขาดความอดทนไปบ้างเย่เฟิงยักไ
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น"คุณชายฉู่!"ทนายลวีรีบรับสาย ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนอบน้อม"คุณจัดการเย่เฟิงไปแล้วหรือยัง?"เสียงเย็นเยียบของฉู่เทียนหลงถามกลับมาทนายลวีได้ยินคำถามนั้น เสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อย "ยัง... ยังครับ""ไร้ประโยชน์! ไร้ประโยชน์จริงๆ!คราวก่อน คุณประมูลยันต์สังหารมาได้แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงยังจัดการไอ้หน้าขาวนั่นไม่ได้อีก?"ฉู่เทียนหลงด่ากราดอย่างโกรธจัด"คุณชายฉู่...ผม...ผมไม่แน่ใจว่ายันต์สังหารนั้นเป็นของจริงหรือเปล่าน่ะครับ! ถ้ามันเป็นของปลอมล่ะ ผม..."ทนายลวีพูดพลางทำหน้าขมขื่นแม้ว่าเขาจะได้ยินมาจากปากของคนในตระกูลกู่ ว่ายันต์สังหารนั้นมีพลังงานบางอย่างอยู่จริง และยังเคยถามเย่อินหลินแล้วด้วยแต่ทนายลวีเป็นคนขี้ขลาดกลัวตาย จึงยังไม่กล้าเสี่ยง…"ไปตายซะ! ไร้ประโยชน์! ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า คุณเอาเงินห้าพันล้านของผมไปแล้วแอบเก็บไว้เอง จริงๆ แล้วไม่ได้เอาไปประมูลของชิ้นนั้นมาเลยใช่ไหม?"ฉู่เทียนหลงกัดฟันถามได้ยินดังนั้น ทนายลวีก็ตกใจสะดุ้ง รีบแก้ตัว "ผมไม่กล้าหรอกครับ! คุณชายฉู่ ถึงจะให้ความกล้าผมอีกสักร้อยเท่า ผมก็ไม่กล้าทำแบบนั้
เย่เฟิงมีสีหน้าเคร่งขรึม มองดูนั่วนั่ววิ่งไปหาโจวชิ้ง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขัดขวางตอนนี้การห้ามนั่วนั่วไม่ให้ติดต่อกับโจวชิ้ง จะมีแต่ทำให้เกิดผลลบ"นั่วนั่ว เด็กดี! คิดถึงแม่ไหม?"โจวชิ้งยื่นแขนออกมา ถามนั่วนั่วฟิ้ว!ในขณะนั้นเอง ก็มีกระถางต้นไม้หล่นลงมาจากฟ้า!จากความเร็วและวิถีการตก ดูเหมือนว่าจะหล่นใส่นั่วนั่วเย่เฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบจะปกป้องลูกสาวแต่ปฏิกิริยาของโจวชิ้งกลับเร็วกว่าเย่เฟิง เธอพุ่งไปหานั่วนั่วอย่างรวดเร็ว อุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนป้องกันเอาไว้ฟิ้ว!ผ่านไปครู่หนึ่ง กระถางต้นไม้ตกลงมาใกล้จะกระแทกหัวโจวชิ้งโจวชิ้งหลับตา ในใจต่อสู้กับความลังเล แต่สุดท้ายก็กัดฟันไม่ขยับเธอรู้ว่านี่เป็นเพียงกระถางเปล่า!หากโดนตกใส่ อย่างมากก็แค่หัวแตกเย็บไม่กี่เข็ม ร้ายแรงสุดกฌคงกระทบกระเทือนทางสมองเล็กน้อย แต่ไม่ถึงตายเย่เฟิงมองดูการกระทำของโจวชิ้งในตอนนี้ ดวงตาของเขาหดแคบลงเล็กน้อยปัง!ในที่สุด ก่อนที่กระถางต้นไม้จะกระแทกหัวโจวชิ้ง เย่เฟิงก็ลงมือ!เขาตบกระถางต้นไม้จนแตกเป็นผุยผง กระจายไปทั่วตัวของโจวชิ้งแต่สุดท้ายก็ไม่มีภาพเหตุการณ์ที่เธอต้อ
"ได้! ผมอยากรู้เหมือนกันว่าคุณอยากจะพูดอะไร"โจวชิ้งมองเย่เฟิงด้วยสายตาที่ซับซ้อน ก่อนจะเดินนำไปก่อนเย่เฟิงกระตุกยิ้มเย็นพร้อมกับจูงมือนั่วนั่วตามไปเขาอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไร?หลังจากเดินมาได้สักพัก!โจวชิ้งหยุดอยู่ในย่านที่เต็มไปด้วยอะพาร์ตเมนต์เก่า 6 ชั้นใกล้กับโรงเรียนอนุบาลเหวินเฟิงไม่รู้ว่าเธอเดินมาไกลเพราะไม่อยากถูกมอง หรือมีเหตุผลอื่น"อยากพูดอะไรก็ว่ามา"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์เขาจูงมือนั่วนั่วไว้แน่น ยืนอยู่ใต้อะพาร์ตเมนต์เก่าพร้อมกับโจวชิ้ง"อาเฟิง…ให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม?""ช่วงที่ผ่านมาฉันเพิ่งเข้าใจว่าชีวิตฉันที่ไม่มีคุณกับลูก ฉันอยู่ต่อไปไม่ได้เลย""ฉันคิดถึงพวกคุณทั้งกลางวันและกลางคืน ในฝันฉันก็ยังเห็นหน้าคุณกับนั่วนั่ว…"โจวชิ้งพูดพลางสะอื้น น้ำตาคลอเบ้าเธอย่อตัวลงไปหานั่วนั่ว พยายามจะจับมือลูก "นั่วนั่ว หนูคิดถึงแม่บ้างไหม?"ทันใดนั้น เย่เฟิงดึงนั่วนั่วมาอยู่ข้างหลังเขาทันที น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือก "อย่ามาแตะต้องลูก!"โจวชิ้งมองเย่เฟิงด้วยสีหน้าทุกข์ใจ เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ครั้งที่แล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายลูกเ
บ่ายวันนั้น!ขณะที่เย่เฟิงไปรับนั่วนั่วจากโรงเรียนอนุบาล เขาพบว่าคุณครูซู ซึ่งเป็นครูประจำชั้นที่มีนิสัยประจบสอพลอ ถูกแทนที่ด้วยครูสาวคนใหม่ที่ดูอ่อนเยาว์และสดใสดูเหมือนว่าคุณครูซูจะถูกไล่ออกแล้วแต่ในขณะที่เย่เฟิงจูงมือนั่วนั่วเดินออกจากโรงเรียน เขากลับเจอคนที่เขาไม่อยากพบที่สุดในตอนนี้"เย่เฟิง…"เสียงที่เจือความรู้สึกซับซ้อนดังขึ้น"ลูกเขย หลานสาวสุดที่รัก!""หลานสาวคนดี มาให้คุณตาอุ้มหน่อยเร็ว!"โจวชิ้งพร้อมกับจ้าวเหม่ยฟ่ง และโจวเพ่ยหยิน เดินตรงเข้ามาหาด้วยท่าทีที่ดูอบอุ่นโจวเพ่ยหยินถึงกับนั่งยองๆ ตบมือเรียกนั่วนั่วเหมือนกำลังแสดงความรักอันล้นหลามแต่นั่วนั่วกลับจับมือเย่เฟิงแน่น แล้วถอยหลังไปหลบหลังเขาเล็กน้อยโดยเฉพาะตอนที่มองไปที่โจวชิ้ง เด็กน้อยดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดเธอไม่ลืมเหตุการณ์ครั้งก่อนที่โจวชิ้งพาเธอไปยังที่ลับตา และเกือบส่งตัวเธอให้คนแปลกหน้า"นั่วนั่ว เป็นอะไรไปลูก? นี่หนูจำแม่กับคุณตาคุณยายไม่ได้แล้วเหรอจ๊ะ?"จ้าวเหม่ยฟ่งพูดพร้อมรอยยิ้ม "ใจดี"เย่เฟิงมองคนทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "โจวชิ้ง เธอคิดจะทำอะไรอีก?"ผู้ห
"ติดต่อกันบ่อยๆ นะ ครั้งหน้าฉันจะพาภรรยามาแนะนำให้รู้จัก เธอสองคนต้องได้เป็นเพื่อนสนิทกันแน่ๆ!"เย่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น แต่คำพูดกลับแฝงไปด้วยนัยบางอย่างเจียงหว่านชะงักไปเล็กน้อย ก่อนถามด้วยความสงสัย "ภรรยาของนาย? นาย…ไม่ได้หย่าหรอกเหรอ?""แต่งงานใหม่น่ะ…"เย่เฟิงตอบพร้อมหัวเราะเจียงหว่าน "อ๋อ" ออกมาเบาๆ ดวงตาเธอฉายแววหม่นหมองหมอนี่แต่งงานใหม่แล้วสินะ…เหอะๆ นี่ฉันคิดไปเองอีกแล้ว!ก็จริง ตอนนี้เย่เฟิงประสบความสำเร็จขนาดนี้ จะขาดผู้หญิงได้ยังไง?"ได้สิ ติดต่อกันบ่อยๆ นะ!"เจียงหว่านพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืนเล็กน้อยเย่เฟิงมองเจียงหว่าน ผู้หญิงที่เขาเคยแอบชอบในอดีต ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงและความอ่อนล้า"ติดต่อกันนะ! ถ้าเธอมีปัญหาอะไร สามารถมาหาฉันได้เสมอบางที…ฉันอาจจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง"เจียงหว่านพยักหน้า "อืม" ก่อนจะบอกลาและเดินจากไปแต่ไม่รู้ว่าเธอจะเก็บคำพูดของเย่เฟิงไว้ในใจจริงๆ หรือเปล่าสองชั่วโมงต่อมา…เหอปิง หลี่เวย และเจี่ยอี้ เดินออกมาจากโรงแรมโกลด์เดนรอยัล ในสภาพย่ำแย่ปากของพวกเขาบวมเป่งจนแทบมองไม่ได้ พวกเขารีบโทรเรียกรถพยาบาลทันทีที่ออกมา
ทันทีที่ทั้งสามคนคิดว่าจะหนีรอดได้ ก็ต้องชะงักเมื่อเย่เฟิงเรียกพวกเขาไว้!เหอปิง หลี่เวย และเจี่ยอี้ ตัวสั่นด้วยความกลัว ใบหน้าซีดเผือด"เย่… เย่เฟิง…คุณเย่ ฉัน…ฉันแค่พูดเล่นน่ะ ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน คุณ…คงไม่คิดจริงจังใช่ไหม?"หลี่เวยพูดตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัว"เย่เฟิง ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องมีอนาคตที่สดใส! และดูเหมือนฉันจะคิดถูกฉัน… ยังไงฉันก็เคยเป็นครูของนาย…"เหอปิงพยายามฝืนยิ้มและพูดอ้อนวอนด้วยเสียงต่ำคนอย่างพวกเธอที่ชอบดูถูกคนจนและประจบคนรวย ย่อมเปลี่ยนท่าทีได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ!แต่การที่เย่เฟิงเรียกพวกเธอให้หยุด กลับทำให้ทั้งสองคนกลัวแทบหัวใจวาย"พวกเธอ…ช่วยพูดอะไรแทนครูหน่อยสิ!"เหอปิงร้องขอเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ด้วยเสียงสะอื้นแต่ไม่มีใครกล้าออกหน้า ทุกคนรีบหนีออกไปจากห้องราวกับกลัวว่าจะเดือดร้อนเมื่อเห็นว่าไม่มีใครช่วย สีหน้าของเหอปิงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เธอมองเย่เฟิงด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้ง"เย่เฟิง…คุณเย่! ฉันเป็นครูของนาย นายทำแบบนี้กับฉันไม่…”"อุ๊บ…"คำพูดยังไม่ทันจบ เย่เฟิงก็คว้าเก้าไม้ออกมา หักที่พักแขนจนขาด จากนั้นใช้มือเปล่าบีบมันจ