เย่อินเสวียนปล่อยมือจากคอของเย่เฟิงอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ขึ้นรถขับจากไป เย่เฟิงยืนอยู่ตรงนั้น มองตามรถของเธอที่ค่อยๆ หายลับไปจากสายตาเหมือนหลงใหลแต่ทันทีที่เขาหันหลังเดินจากไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที ในตอนนี้ เย่อินเสวียนคิดว่าเย่เฟิงตกอยู่ในอำนาจของเธอเรียบร้อยแล้ว แต่เธอไม่รู้เลยว่า พิษปลิดวิญญาณ ที่เธอส่งเข้าไปในตัวของเย่เฟิงนั้น ถูกพลังปราณมังกรที่อยู่ในร่างเขาปิดผนึกเอาไว้ตั้งแต่แรก เย่เฟิงลังเลเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำลายพิษนั้นในทันที!“แม่สาวน้อย หวังว่าเธอจะช่วยฉันตามหาพ่อแม่ได้จริงๆ ถึงตอนนั้น ฉันต้องขอบคุณเธออย่างสุดซึ้งแน่!” “เธอตามหาสร้อยหยกมังกร? หรือว่าเธอจะรู้ความลับของหยกเส้นนั้น...หรือบางทีอาจเกี่ยวข้องกับชาติกำเนิดของฉันก็ได้?” “อ้างว่าเป็นญาติฉัน? เชื่อก็บ้าแล้ว” ... ในคืนนั้น เย่เฟิงออกจากบ้านพัก เดินทางไปยังยอดเขาที่ไร้ผู้คน ก่อนจะนั่งลงในท่าขัดสมาธิ หินหยกศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่เบื้องหน้าเขา แสงสีเรืองรองที่ส่องประกายอย่างนุ่มนวลทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ พลังปราณที่บริสุทธิ์ค่อยๆ ไหลออกมาจากหยกนั้น ตามจังหวะลมหายใจของเย่เ
เย่เฟิงจำเอกสารฉบับนั้นได้ดี! นี่มันคือ สัญญาแต่งงานหลอกๆ ที่หลีเอียนเคยเซ็นไว้กับเขาในตอนแรกไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่มันอะไร...ฉีกมันทิ้งไปแบบนี้เนี่ยนะ? "นี่หมายความว่ายังไง? หรือว่าคุณไม่พอใจที่ผมดูแลคุณไม่ดีเลยคิดจะจบเรื่องทั้งหมดตรงนี้?" เย่เฟิงขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มไม่สู้ดีถามออกไป ไม่เข้าใจเลยว่าอยู่ดีๆ ทำไมเธอถึงฉีกสัญญาทิ้ง "คนโง่!" เมื่อได้ยินคำถามนี้ หลีเอียนก็หันมาด่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ จากนั้นก็พูดเสียงเย็นๆ ว่า "ตอนบ่ายฉันจะเคลียร์เวลาไว้ ไปเลือกชุดแต่งงานกับเครื่องประดับแต่งงานด้วยกันสิ" "เอ่อ..." เย่เฟิงได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง แต่พอได้สติกลับมาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ "ที่แท้ คุณจะทำให้ผมกลายเป็นสามีจริงๆ นี่เอง?" ใบหน้าที่สวยงามของหลีเอียนขึ้นสีแดงระเรื่อ เธอเบือนหน้าหนีเล็กน้อยก่อนพูดเสียงกระด้าง "อย่ามโนไปเอง! ใครบอกจะให้คุณเป็นสามีจริงๆ ของฉัน?ที่ทำแบบนี้ก็เพราะพ่อแม่ของฉันทั้งนั้น! ก็แค่ทำให้พวกเขาพอใจเฉยๆ!" เย่เฟิงยิ้มออกมาอีกครั้ง "ถูกต้อง เราต้องทำให้พวกเขาพอใจ" "ไอ้บ้า! หุบปากไปเลย!"เห็นเย่เฟิงยิ้มกวนประสาท หลีเอียนถึงกับเขินจนเตะหน้าเขา
จะให้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้จริงๆ เหรอ? ในตอนนั้นจิตใจของหลีเอียนก็ปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก แต่เพียงชั่วพริบตา เมื่อเธอหันไปมองเย่เฟิงที่อยู่ข้างๆ จู่ๆ ความวุ่นวายในใจเธอกลับสงบลง ภาพของเจ้าชายในฝันที่เธอเคยจินตนาการ ค่อยๆ ทับซ้อนกับภาพของผู้ชายคนนี้อย่างน่าประหลาด "ไม่มีอะไร เราเข้าไปเลือกชุดแต่งงานกันเถอะ" หลีเอียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้ม ดวงตาคลอไปด้วยหยดน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง เย่เฟิงรู้สึกหัวใจเต้นแรงในวินาทีนั้น เขารู้สึกว่า หลีเอียนในตอนนี้ช่างงดงามจนแทบลืมหายใจ แต่ในขณะเดียวกัน เสียงที่ไม่น่าฟังเสียงหนึ่งกลับดังขึ้นขัดจังหวะ "โอ๊ะ! พี่? ควงไอ้หน้าขาวมาดูชุดแต่งงานเหรอ?" เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทั้งหลีเอียนและเย่เฟิงต่างขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ "ใช่แล้ว! พ่อกับแม่ฉันบอกว่าต้องฉลองสองงานพร้อมกัน หลังจากที่ฉันได้บริษัทกลับมา เราก็จะจัดงานแต่งงานกัน พอดีเลยว่าจะเลือกชุดแต่งงานสักหน่อย ถิงถิง ไม่คิดจะเลิกนิสัยปากร้ายบ้างเหรอ? แบบนี้ใครจะอยากได้ไปเป็นเมียกัน?" หลีเอียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ทุกคำพูดกลับจี้ใจดำของหลีถิงจนหน้าบึ้งตึง เมื่อได
"ผมก็มีเงินนะ แต่ถ้าภรรยาผมจะซื้อเสื้อผ้าให้ มันผิดตรงไหน?"เย่เฟิงเอ่ยเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจ หลีถิงหัวเราะเยาะ "แกมีเงิน? เงินของแกก็คือเงินที่พี่ฉันให้มาไง เย่เฟิง แกไม่อายบ้างหรือไง เกาะผู้หญิงกินแล้วยังทำตัวหน้าชื่นตาบานอีก นี่สินะที่เขาว่าผู้ชายเหมือนกัน แต่ต่างกันราวฟ้ากับเหว” พูดจบ หลีถิงก็หันไปอวดต่อหน้าหลีเอียน"พี่ พี่คงไม่รู้สินะว่าฉันก็จะแต่งงานแล้ว! คุณกัวขอฉันแต่งงานแล้วล่ะอ้อ พี่อาจจะลืมไปแล้ว เขาคือทายาทของกลุ่มบริษัทส่งออกหยกใหญ่ที่สุดในมณฑลเจียงนะพ่อสามีของฉันมีทรัพย์สินหลายหมื่นล้านเชียวล่ะ" ส่วนบริษัทยาเล็กๆ ของพี่ ถึงจะกำไรดีแค่ไหน ก็ต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะเทียบได้กับบ้านฉันล่ะ?" หลีเอียนฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว พลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา "จะต้องใช้เวลากี่ปีก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็เป็นเงินที่ฉันหาเอง เธออย่าลืมว่าบ้านแฟนเธอมันไม่ใช่เงินของเธอซะหน่อย มีอะไรน่ามาอวด?" “ฮ่าๆ นี่พี่กำลังอิจฉาฉันอยู่หรือเปล่า? ที่ไม่มีปัญญาหาบ้านสามีดีๆ ได้อย่างฉัน!วันๆ เอาแต่ทำตัวสูงส่ง ถ้ายอมแต่งกับคุณชายใหญ่ฉู่แต่แรก คงสบายกว่าเลือกไอ้หน้าขาวนี่แล้ว "ยัง
แต่เมื่อกัวอี้หมิงเดินเข้ามา เขากลับแสดงท่าทีสุภาพอย่างยิ่งต่อเย่เฟิงและหลีเอียน! เมื่อได้ยินกัวอี้หมิงพูดว่าตนและหลีเอียนเป็นครอบครัวเดียวกัน หลีถิงจึงคิดว่าอีกฝ่ายทำเพื่อเห็นแก่ตนเลยไม่อยากทำให้ญาติลำบากใจดังนั้นจึงรีบพูดให้ชัดเจนว่าเธอไม่เกี่ยวข้องกับเย่เฟิงและหลีเอียน!“ได้ยินหรือยัง? ครอบครัวของเรากับหล่อนไม่มีวันญาติดีกัน!” เย่เฟิงยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปพูดกับกัวอี้หมิง สีหน้าของกัวอี้หมิงเปลี่ยนไปในทันทีแม่งเอ้ย!นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?หลีถิงกับคุณเย่ไม่มีทางญาติดีกัน?ถ้าเขายังดันทุรังแต่งงานกับหล่อน ไม่เท่ากับว่าเขาจะกลายเป็นศัตรูกับคุณเย่ไปด้วยเหรอ?งานหมั้นระหว่างเขากับหลีถิง เป็นความคิดของหลีถิงเองหลีถิงมองว่าครอบครัวกัวอี้หมิงร่ำรวยมหาศาล มีทรัพย์สินหลายหมื่นล้าน และเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียว หากแต่งงานกับเขา หล่อนจะมีอนาคตมั่นคงแม้ตระกูลหลีจะล้มลง ก็ยังมีเงินใช้ตลอดชีวิต หลังจากที่หลีถิงเสนอออกมา กัวอี้หมิงก็นำเรื่องนี้ไปบอกพ่อของเขากัวไป๋ชวน ทั้งสองก็ไม่ได้ลังเลอะไร และตอบตกลงทันทีเพราะพวกเขาไม่ได้สนใจฐานะของหลีถิง แต่สนใจในตัวเย่เฟิง!แม้ว่ากัวอี้
"ไปกันเถอะที่รัก เราเข้าไปเลือกชุดแต่งงานกัน!" เย่เฟิงพูดพร้อมกับยักไหล่ แล้วหันไปบอกกับหลีเอียน หลีเอียนมองหลีถิงที่ยังนั่งอยู่กับพื้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอีก เธอเดินตามเย่เฟิงเข้าไปในร้านชุดแต่งงาน สำหรับครอบครัวของลุงรอง หลีเอียนไม่มีความรู้สึกดีใดๆ เหลืออยู่อีกต่อไป เมื่อเห็นหลีถิงถูกทิ้ง หล่อนก็ไม่รู้สึกเห็นใจแต่อย่างใดแต่ในใจก็ยังสงสัยว่า ทำไมกัวอี้หมิงถึงดูหวาดกลัวเย่เฟิงนัก "เย่เฟิง แกคอยดูเถอะ ฉันจะทำให้แกได้รับผลกรรม!" หลีถิงพูดอย่างเคียดแค้น ขณะที่ความอับอายจากสายตาของคนรอบข้างทำให้เธออยากหายตัวไปจากตรงนี้ "ได้สิ! แต่จำไว้ว่าคุณยังต้องเรียกผมว่าพ่ออยู่นะ!" เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา คำพูดนั้นทำให้หลีถิงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอไม่อาจทนอยู่ที่นี่ต่อได้อีกเธอ รีบลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับคว้ากระเป๋าและวิ่งหนีไป หลังจากใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ทั้งคู่ก็เลือกชุดแต่งงานและชุดสูทเสร็จเรียบร้อย เย่เฟิงและหลีเอียนเดินออกจากห้าง "ทำไมกัวอี้หมิงถึงกลัวคุณขนาดนั้น?" ระหว่างขับรถ หลีเอียนถามออกมาด้วยความอยากรู้ เมื่อนึกถึงท่าทางของกัวอี้หมิงตอนอยู่ต
เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ และพูดต้องไปอยู่แล้ว!แม้วันนี้คำพูดของหลีถิงจะไม่ทำให้หลีเอียนคิดมาก แต่เย่เฟิงกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ ตอนนี้ยังเป็นเวลาบ่ายสาม หลีเอียนยังต้องกลับไปทำงานต่อที่บริษัท หลังจากเย่เฟิงส่งหลีเอียนกลับบริษัทแล้ว เขาก็ตัดสินใจไปที่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลเหวินเฟิงเพื่อรอรับนั่วนั่วล่วงหน้า หลังเลิกเรียน เย่เฟิงก็เห็นกลุ่มเด็กตัวน้อยๆ วิ่งออกมาด้วยความสนุกสนาน เย่เฟิงมองหาจนเห็นร่างเล็กๆ ของนั่วนั่วในกลุ่มนั้นทันที “พ่อ!” เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งออกมาพร้อมจับมือเย่เฟิงและเรียกอย่างดีใจ ดูเหมือนเธอจะตื่นเต้นมาก แต่เย่เฟิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามนั่วนั่ว“ลูก พ่อถามหน่อย บนหน้าของหนูเกิดอะไรขึ้น? ใครมาทำร้ายหนู?” บนใบหน้าของนั่วนั่วมีรอยฟกช้ำ แถมดวงตาข้างหนึ่งก็เป็นรอยช้ำดำ…สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเย่เฟิงเจ็บปวดอย่างมาก! “ไม่ใช่คนอื่นมาตีนั่วนั่วหรอกค่ะ แต่เป็นนั่วนั่วตีพวกเขาต่างหาก! ฮ่าๆๆ…” นั่วนั่วพูดพลางทำท่าทางอย่างกระตือรือร้น ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ “หนูตีคนอื่น? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลังจากเย่เฟิงอุ้มนั่วนั่วขึ้นรถ เ
“ไม่เป็นไรนะลูก คนพวกนี้แค่กำลังแสดงหนังแอคชั่นกันอยู่” เย่เฟิงเห็นนั่วนั่วร้องไห้ด้วยความตกใจ จึงรีบปลอบลูกทันที ได้ยินเช่นนั้น พวกชายฉกรรจ์ก็หัวเราะกันเสียงดัง ชายผมเปียยิ้มเหี้ยมพลางด่า “หนังแอคชั่นบ้านแกสิ!” ทันใดนั้น เขาชี้ไม้เบสบอลไปที่นั่วนั่วพร้อมด่าอย่างดุดัน “ไอ้เด็กเวรจะร้องไห้ทำไม? รอให้พ่อแกพิการก่อน แล้วฉันจะเอาแกไปขายในซอกเขา!” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นั่วนั่วถึงกับหน้าซีดและพยายามซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนเย่เฟิงอย่างสุดแรง “พ่อ…พ่อคะ พวกเขาเป็นคนร้าย!” คำพูดของชายผมเปียทำให้ความเย็นชาแผ่ซ่านขึ้นในดวงตาของเย่เฟิง เย่เฟิงโอบลูกสาวแน่นก่อนปลอบว่า “ไม่ต้องกลัวนะลูก ลุงคนนี้เล่นบทตัวร้ายได้เหมือนมาก นั่วนั่วไม่ต้องกลัว พ่อเป็นพระเอกของหนังเรื่องนี้ เดี๋ยวพ่อจะจัดการพวกเขาเอง” นั่วนั่วกระพริบตาปริบๆ ก่อนถามว่า “จริงเหรอคะ?” โครม! จังหวะนั้นมีคนอีกคนใช้แรงฟาดรถบริเวณประตูฝั่งคนขับ “ไอ้เวร! ฉันบอกให้แกลงมา ได้ยินไหม?” เย่เฟิงลูบหัวนั่วนั่วเบาๆ แล้วเปิดประตูลงจากรถพร้อมสีหน้าที่เย็นเยียบ “พวกนายเป็นพวกที่ครอบครัวของหัวโจกในโรงเรียนจ้างมาหรือเปล่า
รถ SUV หลายคันกำลังแล่นอยู่บนถนนมุ่งหน้าจากหยุนเฉิงไปยังเมืองหลวงของมณฑลในรถคันหนึ่ง ฉู่เทียนหลงยกมือขึ้นกุมหน้าที่บวมแดง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบิดเบี้ยวดวงตาของเขาแหลมคมและดูป่วยไข้เหมือนกับสภาพจิตใจที่ผิดปกติของเขา“ไอ้แก่บ้า กล้าตบหน้าฉันเพื่อปกป้องคนนอก!”ฉู่เทียนหลงกัดฟันพูดอย่างเจ็บแค้นทันใดนั้น เขาหันไปมองทนายลวีที่นั่งข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโหดร้าย “นาย ลงไปจากรถเดี๋ยวนี้!”ทนายลวีสะดุ้งด้วยความตกใจ รีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว “คะ…คุณชายฉู่ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”“ฉันต้องการให้นายอยู่ที่หยุนเฉิงต่อไป และใช้ภรรยาเก่าของเย่เฟิงสร้างปัญหาระหว่างเขากับหลีเอียน!”ดวงตาของฉู่เทียนหลงเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ทนายลวีได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดทันที “คะ…คุณชายฉู่ เย่เฟิงจะฆ่าผมเอาได้นะครับ!”“ไอ้เวร! ฉันไม่ได้ให้นายไปสู้กับเขา! ถ้านายไม่ทำ ฉันจะฆ่านายตอนนี้เลย!”“อย่าคิดว่าไม่ช่วยฉันแล้วเย่เฟิงจะไว้ชีวิตนาย!”ฉู่เทียนหลงดึงผมของทนายลวีแล้วตะโกนใส่ด้วยความโกรธทนายลวีตัวสั่นไปทั้งร่าง “ครับ...ครับ!”ไม่กี่วินาทีถัดมา รถหยุดลง ทนายลวีกระโดดลงจากรถทันทีในใจของเขาทั้งก
ใบหน้าของเป่ยเหล่าเต็มไปด้วยความรู้สึกละอายและสำนึกผิด เขาพูดอ้อนวอนอย่างจริงใจว่า “ผมปล่อยอาหลงไปแล้ว! ผมรู้ว่าถ้าคุณเย่เจอเขาเข้า จะต้องฆ่าเขาแน่ๆแต่ยังไงเขาก็เป็นหลานชายของผมนะ!คุณเย่ ผมได้ลงโทษเขาอย่างหนักแล้ว ตระกูลฉู่จะชดเชยให้คุณอย่างสาสม!เห็นแก่ที่หลีเอียนและลูกสาวของคุณปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เห็นแก่หน้าผมเถอะ ได้ไหมครับ ปล่อยอาหลงไปสักครั้งเถอะ?ถือว่าผมยอมเสียหน้า ขอร้องคุณแล้ว!”หลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากแล้วพูดอ้อนวอนเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เย่เฟิง ฉันรับรองว่าพี่เทียนหลงจะไม่ก่อเรื่องอีกแล้ว! เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา ปล่อยเขาสักครั้งเถอะนะคุณปู่ตั้งใจจะ…”เธอเล่าแผนการที่เป่ยเหล่าวางไว้ให้เย่เฟิงฟัง“พี่เทียนหลงมีปัญหาด้านร่างกายตั้งแต่เด็ก ทำให้จิตใจเขาออกจะสุดโต่ง แต่จริงๆ แล้วเขาน่าสงสารมาก!ครั้งนี้เขาแค่หุนหันพลันแล่นไปหน่อย คุณ...ช่วยอย่าจัดการเขาถึงตายได้ไหม?”หลิงเอ๋อร์กล่าวหลังจากฟังจบ เย่เฟิงหัวเราะเย็นชา สีหน้าบ่งบอกถึงความโกรธ “เขาน่าสงสารงั้นเหรอ? แล้วคนที่ถูกเขาทำร้ายล่ะ ไม่มีใครน่าสงสารหรือไง?ร่างกายมีปัญหา มันคือข้ออ้างให้เขาเป็นคนชั่วได้หร
เมื่อหลีเอียนเห็นฉู่เทียนหลงถูกคุณปู่ของเขาเองไล่ออกไปอย่างน่าอับอาย ความรู้สึกตกใจในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจภาคภูมิใจในตัวผู้ชายของเธอ!แม้ว่าเย่เฟิงจะไม่ได้มาเอง แต่ก็เหมือนเขาสามารถปกป้องเธอจากที่ไกลๆ ได้หลีเอียนไม่คาดคิดเลยว่า การที่คุณปู่และน้องสาวของฉู่เทียนหลงมาที่นี่จะเป็นเพราะเรื่องของเย่เฟิง ทั้งยังสั่งสอนฉู่เทียนหลงอย่างหนักพร้อมไล่เขาไปด้วยในขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง เย่เฟิงขับรถพานั่วนั่วมาถึงที่หมายและค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่กลับไม่พบร่องรอยของฉู่เทียนหลงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเครียดและไม่สบายใจ!เขารู้ตัวว่ามาช้าไป ฉู่เทียนหลงได้ย้ายที่ไปเรียบร้อย!เมื่อคิดว่าหลีเอียนตกอยู่ในมือของสัตว์เดรัจฉานอย่างฉู่เทียนหลง เย่เฟิงก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายถ้าหลีเอียนได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใดๆ เขาไม่มีทางให้อภัยตัวเอง และฉู่เทียนหลงจะต้องตายอย่างโหดเหี้ยม!แม้กระทั่งทั้งตระกูลฉู่ ก็จะต้องถูกกวาดล้างจนไม่เหลือใคร!แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเงาสามร่างเดินเข้ามาเป่ยเหล่าและหลิงเอ๋อร์พาหลีเอียนมาที่นี่!“เย่เฟิง…”หลีเอียนมองเย่เฟิงที่มาตามหาเธอที่นี่ เสียงของเธอสั่นเล็
แต่ทำไมใบหน้าของเขาถึงกลับมาปกติได้ขนาดนี้??ก่อนหน้านี้ในสายโทรศัพท์ เป่ยเหล่าเคยบอกฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาได้รักษาใบหน้าที่เสียโฉมของเขาให้กลับมาปกติแต่ฉู่เทียนหลงไม่คิดเลยว่า ผลลัพธ์จะดีขนาดนี้!ทันใดนั้นเขายิ่งคาดหวังที่จะได้เจอกับหมอเทวดาผู้นี้มากขึ้นไปอีก“คุณปู่ พวกเด็กๆ ด้านนอกอาจไม่รู้จักคุณปู่กับหลิงเอ๋อร์ คุณปู่บอกผมสิ ผมจะได้ลงไปรับเอง!”“ทำไมต้องถึงขั้นมีเรื่องกับพวกไร้ประโยชน์นั่นด้วย?”ฉู่เทียนหลงคิดว่าคนพวกนั้นมีตาหามีแววไม่ ที่ขวางทางคุณปู่และหลิงเอ๋อร์ไม่ให้เข้ามา ดังนั้นทั้งสองจึงได้บุกเข้ามาทันทีเขาพูดพร้อมหัวเราะ ก่อนจะมองไปข้างหลังเป่ยเหล่า “คุณปู่ หมอเทวดาคนนั้นอยู่ไหนล่ะครับ?”เพี๊ยะ!ยังไม่ทันพูดจบ เป่ยเหล่าก็ฟาดฝ่ามือลงไปที่หน้าของฉู่เทียนหลงอย่างแรง!ฉู่เทียนหลงถึงกับหมุนตัวไปหนึ่งรอบ ครึ่งหน้าบวมฉึ่ง มองปู่ด้วยความตกตะลึงและไม่เข้าใจ“คุณปู่ ตบหน้าผมทำไมครับ?”ใบหน้าของเป่ยเหล่ามืดครึ้มราวกับพายุ เขาชี้ไปที่หลีเอียนซึ่งถูกมัดอยู่บนเตียง ก่อนตะโกนใส่ฉู่เทียนหลง “ทำไมถึงตบแกน่ะเหรอ? แกมันไอ้สัตว์นรก ใครให้แกจับภรรยาของคุณเย่มาไว้ที่นี่? แกบ้าหรือ
ก่อนหน้านี้เป่ยเหล่าเคยบอกกับฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาที่จะมารักษาเขานั้นไม่เพียงแค่เก่งเรื่องการแพทย์ แต่ยังมีฝีมือในวิชาต่อสู้ที่น่าทึ่งในสายโทรศัพท์เมื่อครู่ เป่ยเหล่าก็พูดถึงเรื่องนี้กับฉู่เทียนหลงอีกครั้งอย่าง “มีนัย”ทันใดนั้น ฉู่เทียนหลงก็รู้สึกถึงความหวังที่จะกำจัดเย่เฟิงอีกครั้ง!หมอเทวดาที่สามารถต่อกรกับมหาปรมาจารย์ทั้งสี่?คนระดับนี้ การฆ่าเย่เฟิงคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรดังนั้นตอนนี้ ฉู่เทียนหลงจึงกลับมามีท่าทีไร้ยางอายอีกครั้ง!เขาถึงขั้นวางแผนว่าหลังจากคุณปู่พาหมอเทวดามาแล้ว จะโทรเรียกเย่เฟิงมาเพื่อจัดการเขาให้ตายตรงนี้ท่าทีบ้าคลั่งและมั่นใจเกินเหตุของฉู่เทียนหลง ทำให้หลีเอียนมองเขาด้วยความไม่แน่ใจและตกใจอะไรนะ?ฉู่เทียนหลงยังมีทางหายอดฝีมือแบบนี้ได้อีกเหรอ?“ฉู่เทียนหลง ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ถ้าแกกล้าทำร้ายเย่เฟิง ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่ ถึงจะเป็นผีก็ไม่เว้น!”หลีเอียนกัดฟันด่าออกมา“ฮ่าๆๆ รอให้ไอ้หน้าขาวตาย แล้วเธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน เธอจะเปลี่ยนใจเอง”ฉู่เทียนหลงยิ้มกว้างด้วยความลำพองใจทันใดนั้น เขากลืนน้ำลายอีกครั้ง มองหลีเอียนด้วยแววตาเร่าร้อนและกระหายคุณชาย
เขาเพิ่งให้คนพาหลีเอียนไปที่ห้องนอน ก็ได้รับโทรศัพท์จากเป่ยเหล่า“คุณปู่ โทรมาหาผมเวลานี้มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เทียนหลงปรับลมหายใจแล้วรับสาย ถามด้วยความแปลกใจ“แกอยู่ไหน? ถึงหยุนเฉิงแล้วใช่ไหม? ฉันจะพาหมอเทวดาไปหาเดี๋ยวนี้เลย!”เป่ยเหล่าพูดเสียงต่ำ พยายามคุมโทนเสียงให้นิ่งที่สุด“ห๊ะ? นี่มันจะตีสี่แล้วนะครับ คุณปู่จะพาหมอเทวดามาตอนนี้?”ฉู่เทียนหลงชะงักไปครู่หนึ่ง ถามด้วยสีหน้าสงสัย“แกไม่เข้าใจหรอก! หมอเทวดาบอกแล้วว่า ข้อบกพร่องด้านนี้ของแก จำเป็นต้องอาศัยการปรับสมดุลหยินหยาง! ดังนั้นจึงต้องรักษาตอนพระอาทิตย์ขึ้น ช่วงเวลาที่กลางวันกับกลางคืนสลับกัน!ถ้าไม่มาช่วงนี้ แล้วจะมาช่วงไหน?แกอยู่หยุนเฉิงหรือยัง? ถ้ายัง ก็รีบออกเดินทางเดี๋ยวนี้เลย เผื่อจะทันเวลา!ไม่งั้นก็ต้องเลื่อนไปอีกวัน!”เป่ยเหล่าตอบกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดต้องยอมรับว่าเป่ยเหล่าหาเหตุผลมาได้แนบเนียนจนฟังดูน่าเชื่อถือเมื่อฉู่เทียนหลงได้ยินเช่นนั้น ก็ไม่คิดจะสงสัยอะไร นอกจากรู้สึกคาดหวังและตื่นเต้น“ถึงแล้วครับ ถึงแล้ว!”“งั้นปู่รีบพาหมอเทวดามาเลยนะครับ ผมอยู่ที่…”เขารีบให้ที่อยู่กับคุณปู่ของเขาจากนั้นสอง
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เทียนหลง สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันทีหลีเอียน!เธอถูกจับตัวไปโดยฉู่เทียนหลงด้วยอย่างนั้นเหรอ?“ไอ้สารเลว! นายจะทำอะไรหลีเอียน?”“ฉันบอกไว้เลย ถ้านายแตะต้องเธอแม้แต่นิดเดียว ฉันจะทำให้นายไม่มีที่ฝังศพแน่!”ฉู่เทียนหลงหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง ความบิดเบี้ยวในจิตใจที่เกิดจากปมด้อยในวัยเด็กทำให้เขามีความต้องการแก้แค้นที่รุนแรงขึ้นแม้จะได้เห็นถึงพลังอันน่าสะพรึงของเย่เฟิงแล้ว แต่แทนที่ฉู่เทียนหลงจะหวาดกลัว เขากลับยิ่งมีความต้องการแก้แค้นที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม“ฮ่าๆๆ...งั้นเหรอ? มาสิ! มาฆ่าฉันเลย!”“นายอยู่ที่ไหน? บอกมา!”เย่เฟิงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน“นายคิดว่าฉันจะบอกเหรอ? ลองหาเอาเองละกัน!ถ้าหาฉันไม่เจอก่อนที่ฉันจะเล่นสนุกกับหลีเอียน...ก็เสียใจด้วยนะ ฮ่าๆๆ!”ฉู่เทียนหลงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งพูดจบก็วางสายทันทีเย่เฟิงยืนนิ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปมาหลายครั้งก่อนจะหันไปจ้องลูกน้องของฉู่เซียวคนหนึ่งที่กำลังร้องโอดครวญเพราะขาหักขาของชายคนนั้นถูกทำลายจนใช้การไม่ได้ เขากำลังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด แต่ทันทีที่สายตาเย็นยะเยือกของเย่เฟิงจ้องมาที
ยันต์สังหารผืนนั้น นายเป็นคนโง่ที่ขายออกไปเอง!นายคงคิดไม่ถึงใช่ไหม มันสามารถปลดปล่อยพลังระดับจอมยุทธ์ได้!นายจะต้องตายในมือของสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้น! นายจะต้องตายอย่างน่าสมเพช!”ฉู่เซียวพูดด้วยความมั่นใจ แต่เย่เฟิงแค่นเสียงเยาะ พร้อมกับส่ายหัว “ไอ้โง่! ในสายตานาย จอมยุทธ์คงเป็นที่สุดของพลังแล้วใช่ไหม?”ฉู่เซียวตะโกนลั่น “ตายซะ!”เขาฉีกยันต์ในมือออกทันทีตัวอักษร ‘ปราบ’ บนยันต์เรืองแสงขึ้นทันที พลังอันมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมา ตัวอักษรนั้นก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างชัดเจน ก่อนพุ่งเข้าใส่เย่เฟิง“ตายซะ!”ฉู่เทียนหลงที่ดูผ่านหน้าจอคำรามออกมาด้วยความตื่นเต้นทนายลวีมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเหี้ยมเกรียมและคาดหวัง “ตายซะ เย่เฟิง!”แต่ในชั่วพริบตาถัดมา รอยยิ้มของพวกเขาก็แข็งค้างปัง!เย่เฟิงยื่นหมัดออกไปต้านรับตัวอักษร "ปราบ" ที่พุ่งเข้าใส่พลังที่สะสมไว้แปรเปลี่ยนเป็นละอองพลังงานและสลายหายไปในอากาศถูกเย่เฟิงจัดการในหมัดเดียว!ฉู่เซียวตาค้างมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความไม่เชื่อ ก่อนความตื่นตระหนกจะครอบงำจิตใจ“นาย…นายทำได้ยังไง…”เย่เฟิงแค่นเสียงหัวเราะ พร้อมเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“นายรู้
โครม! โครม! โครม…ภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงเย่เฟิงใช้มือข้างหนึ่งอุ้มนั่วนั่วไว้อย่างมั่นคง ส่วนอีกมือหนึ่งจับแขนของฉู่สยง ก่อนจะเหวี่ยงร่างของเขาลงกับพื้นอย่างแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับกำลังเหวี่ยงถุงผ้าที่ไร้ค่าฉู่เซียวและลูกน้องที่ยืนมองอยู่ถึงกับอึ้งค้าง เช่นเดียวกับฉู่เทียนหลงและทนายลวีที่เฝ้าดูจากหน้าจอหลีเอียนซึ่งก่อนหน้านี้ยังมองหน้าจอด้วยความกังวล ตอนนี้ถอนหายใจโล่งอก และหันไปมองฉู่เทียนหลงด้วยสายตาเย้ยหยัน“นายให้ฉันดูอะไรล่ะ? วิธีที่คนของนายตายอย่างน่าสมเพชงั้นเหรอ?”“ฮึ! ตายได้อนาถจริงๆ!”หลีเอียนกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันฉู่เทียนหลงหันมาจ้องหลีเอียนด้วยดวงตาแดงก่ำ พร้อมคำรามเสียงดัง “มันเป็นไปได้ยังไง! ทำไมถึงเป็นแบบนี้! ทำไม!”ทนายลวีที่เช็ดเหงื่อพลางพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “คุณชายอย่ากังวลไป! แม้ฉู่สยงจะแพ้ แต่เรายังมี ยันต์สังหาร ที่อยู่ในมือฉู่เซียว! ยันต์นี้สามารถปลดปล่อยพลังระดับจอมยุทธ์ได้ ต้องฆ่าเย่เฟิงได้แน่!”เมื่อได้ยิน ฉู่เทียนหลงตั้งสติและพยักหน้าอย่างดุดัน “ใช่! ยันต์สังหารจะจัดการไอ้เวรเย่เฟิงได้!”“หลีเอียน ดูไว้ให้ด