“นั่นน่ะสิ ไล่ออก! คนอื่นเขามีบัตรเชิญ จะถูกไล่ได้ยังไง?”หลีเทียนหยางเองก็ปั้นหน้าขรึม แล้วเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเย็นชา “อีกอย่าง อย่าคิดนะว่าฉันกับแม่ของเอียนเอ๋อร์จะยอมรับแกแล้ว! หึ!”เดิมทีที่ผู้ค้าสมุนไพรยาเหล่านั้นไม่ส่งของให้กับบริษัทยาอีก หลีเทียนหยางกับสวีเพ่ยเพ่ยก็สะใจอยู่หรอกแต่พอได้ยินงานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้าในวันพรุ่งนี้แล้ว พวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง บวกกับเย่เฟิงยัง ‘คุยโวโอ้อวด’ ยิ่งทำให้ทั้งสองคนไม่มั่นใจอีกต่อไปตระกูลหลีได้รับบัตรเชิญ แต่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาแล้ว!เฮ้อ…“เย่เฟิง ทำไมคุณต้องพูดแบบนั้นไปด้วย? ก็แค่งานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้า ไม่ได้ไปก็ไม่ได้ไปสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่จำเป็นต้องประชดประชันกับพวกลุงรองเลย”หลีเอียนเองก็กล่าวติเตียนทว่าเย่เฟิงกลับหัวเราะออกมา “ที่รัก เชื่อผมสิ! พรุ่งนี้คุณแค่วางใจไปงานกับผมก็พอ ไม่มีใครกล้าไล่พวกเราออกแน่”หลีเอียนได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงแปลกใจออกมา เมื่อเห็นเย่เฟิงมั่นใจขนาดนั้น เธอจึงพยักหน้า “โอเค ฉันเชื่อคุณ!”ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอกลายเป็นคนที่เชื่อใจเย่เฟิงโดยไม่มีเหตุผลไปแล้วเย่เฟิงพยักหน
“หา? หมายความว่าไม่ได้ทำงานอะไรเลยน่ะสิ? ได้ยินม่านม่านพูดว่าน้องเอียนเอ๋อร์แต่งสามีเข้าบ้านมาคนหนึ่ง ดูท่าแล้วจะจริงนะเนี่ย!นี่น้องชาย ฉันล่ะอิจฉานายจริงๆ ที่ไม่ต้องพยายามด้วยตัวเองไม่เหมือนฉัน ทำงานเป็นหัวหน้าหลักดูแลคลังเก็บของบริษัทส่งออกหินหยกเจ้าหนึ่ง วันๆ ทำงานเหนื่อยจะตาย!ถึงเถ้าแก่เขาจะเอ็นดูฉันให้เงินเดือนห้าหมื่นต่อเดือน แต่ก็เทียบความอิสระแบบนี้ของนายไม่ได้ ฮ่าๆ…”หมอนี่พูดจายิ้มเยาะ แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ว่าเป็นพวกเกาะผู้หญิงกินเขาตกใจเรื่องหลีเอียนจริงๆ แล้วแอบด่าไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ว่าทำไมถึงแต่งงานกับนางฟ้าแบบนี้ได้ด้วยความอิจฉาริษยาแบบนี้ เขาจึงแอบด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ไปทีหนึ่งทันใดนั้น พี่สาวลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านก็เชิดคางพูดกับหลีเอียนว่า “เอียนเอียน หาผู้ชายน่ะต้องหาคนที่หวังพึ่งได้ เอาการเอางานสิ ไม่คาดหวังว่าเขาจะหาเงินได้เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีงานประจำหน่อยไหม?”หลีเอียนปั้นหน้าขรึม แล้วตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เย่เฟิงเขาหวังพึ่งได้มาก ความจริงแล้วเขาเป็นคนมอบโรงงานของฉันตอนนี้ให้ด้วย”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าใหญ่ก็ส่งเสียงแปลกใจออ
ลักษณะของหินดิบก้อนนี้บอกได้ว่าเป็นของดีที่สุดแน่ๆ แต่ทว่าบนนั้นดูเหมือนจะมีร่องรอยจากการถูกผ่ามาก่อนถึงแม้จะทำการขัดแล้ว แต่ก็ยังสามารถมองเห็นได้สวีเพ่ยเพ่ยเห็นหินดินก้อนนี้แล้ว สายตาพลันเป็นประกายลุกวาวขึ้นมาเธอชอบหินหยก ดังนั้นจึงพอมีความรู้เรื่องหยกอยู่บ้างของขวัญจากเหอเสี้ยวตงชิ้นนี้ ทำให้เธอใจเต้นจริงๆ“น้ารอง หินดิบก้อนนี้ เถ้าแก่ของผมได้มาจากประเทศพม่า เพราะว่าผมทำงานดี เขาก็เลยให้ผมเป็นของขวัญ!ผมได้ยินมาว่าน้าชอบหินหยก ก็เลยนำมาให้น้าโดยเฉพาะ!ด้วยลักษณะของหินดิบก้อนนี้ต้องผ่าออกมาเจอหยกชิ้นดีแน่นอน ถึงตอนนั้นน้าชอบแบบไหน ก็ขึ้นรูปแบบไหนได้เลย”เหอเสี้ยวตงพูดยิ้มแย้ม“น้ารองคะ เห็นว่าหินดิบก้อนนี้สามารถประมูลได้ถึงสิบล้านเชียวนะ เสี้ยวตงของเรานำมาให้เป็นของขวัญวันเกิดของน้าถือว่าทุ่มเทไปไม่น้อยเลยนะคะ”เสิ่นม่านคล้องแขนเหอเสี้ยวตง แล้วพูดจาภาคภูมิใจ“เสี่ยวเหอเอ๋อร์มีใจแล้ว! แต่ว่ามันล้ำค่าเกินไป ช่างมันเถอะ!”สวีเพ่ยเพ่ยแม้จะใจเต้นของสิ่งของ แต่ก็ปฏิเสธไปลูกเขยของพี่ใหญ่ให้ของขวัญล้ำค่าขนาดนี้ให้มันหมายความว่าอะไร?ถ้าตนรับไว้ ก็เหมือนว่าใช้ชีวิตดีสู้คนอื่
เธอเองก็รู้สึกเป็นไปไม่ได้พระหยกขนาดใหญ่เท่านี้มูลค่าต้องสูงมากแน่ๆ!ถ้าจะบอกว่าเย่เฟิงซื้อของราคาแพงขนาดนี้ให้กับตน อย่างไรสวีเพ่ยเพ่ยก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอนพอพูดออกไปเช่นนั้น แม่สามีผู้มีเสน่ห์คนนี้ก็จ้องเย่เฟิงเขม็งพร้อมกับวางไว้ใต้ขา โดยไม่แม้แต่จะมองพระหยกรูปนี้อย่างละเอียดราวกับว่ากลัวป้าใหญ่จะเข้ามาดูให้ละเอียด เพื่อเปิดโปงเย่เฟิงอย่างไรอย่างนั้น“แม่คะ พระหยกรูปนี้เป็นของจริงค่ะ ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงเอง!”หลีเอียนรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเย่เฟิงในตอนนี้“อืม แม่รู้แล้ว!”แต่สวีเพ่ยเพ่ยก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วโบกมือลวกๆซ้ำยังส่งสายตาให้กับลูกสาว ให้หลีเอียนหยุดพูดต่อไปได้แล้ว เดี๋ยวจะขายหน้าคนอื่นเอาได้ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงงั้นเหรอ?ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย?“เหอะๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าของผมหรือคุณกันแน่ที่ปลอม?ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ คุณทำงานที่บริษัทขายส่งหินหยกไป๋ชวนสินะ? ประธานของคุณคือกัวไป๋ชวนใช่ไหม?ทันใดนั้นเอง เย่เฟิงกลับส่งเสียงหัวเราะออกมานิ่งๆ แล้วถามเหอเสี้ยวตงเหอเสี้ยวตงตกตะลึง จากนั้นพยักหน้าตอบว่า “
น้ำเสียงของกัวไป๋ชวนเบาบางดูให้เกียรติและระมัดระวังเป็นพิเศษแต่สิ่งที่ดังเข้าหูคนอื่นกลับเป็นเหมือนสายฟ้าผ่าสะท้านโลกา!สวีเพ่ยเพ่ยและหลีเทียนหยางเบิกตากว้างยืนนิ่งอยู่กับที่!ป้าใหญ่ ลุงเขยใหญ่ และลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านต่างก็ตะลึงงันส่วนสีหน้าไม่พอใจของเหอเสี้ยวตงนั้นแข็งทื่ออยู่แบบนั้นในทันทีปกติ เขาประจบสอพลอประธานกัวสุดขีดถึงขนาดอีกฝ่ายผายลมเป็นกลิ่นอะไร เขาก็จำใส่ใจไว้ไม่ลืมเขาจะจำเสียงของกัวไป๋ชวนไม่ได้ได้ยังไง?คนที่อยู่นอกประตูคือประธานกัวจริงเหรอ?ประธานกัวจะมาคารวะเหล้าให้สวีเพ่ยเพ่ยจริงๆ งั้นเหรอ?“เข้ามาสิ!”เย่เฟิงส่งเสียงพูดขึ้นนิ่งๆเมื่อเทียบกับความตกใจสะท้านของคนอื่นๆ แล้ว เย่เฟิงและหลีเอียนดูเรียบนิ่งกว่ามากสิ้นเสียง ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก กัวไป๋ชวนเดินเข้ามาพร้อมกับถือของขวัญมีมูลค่ามากมายไว้ในมือ ส่วนอีกมือถือแก้วที่มีเหล้าขาวอยู่เต็มแก้ว“คุณเย่ คุณหลี ไม่ได้รบกวนพวกคุณใช่ไหม?”กัวไป๋ชวนถามอย่างนอบน้อม“ไม่ๆ!”หลีเอียนส่ายศีรษะ แต่เย่เฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆ ด้วยท่าทีเย่อหยิ่งเต็มสิบไม่หัก“ถ้างั้นก็ดีครับ! ถ้างั้นก็ดี…”กัวไป๋ชวนยิ้ม แล้
เวลานี้ สีหน้าของกัวไป๋ชวนมืดมนในทันใด แล้วเดินเข้าไปหาเหอเสี้ยวตงด้วยท่าทีโกรธจัด“ประ…ประธานกัว ฟังผมอธิบายก่อน! ผม…”เหอเสี้ยวตงเห็นดังนั้น ก็ลนลานและหวาดกลัวขึ้นมาเพี๊ยะ!ไม่รอให้เขาพูดจบ กัวไป๋ชวนก็ตบหน้าเหอเสี้ยงตงอย่างแรกทีหนึ่ง“มึงนี่มันวอนหาที่ตายจริงๆ! กูบอกให้มึงไปจัดการทิ้งหินชั้นต่ำพวกนี้ซะ แต่มึงกลับเอามาหลอกลวงแม่ภรรยาของคุณเย่?”“กูไม่เอามึงไว้แน่!”กัวไป๋ชวนกัดฟันกรอดวินาทีต่อมา เขาก็มองไปที่เย่เฟิง แล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้ารู้สึกผิดและกระวนกระวายใจ “คุณเย่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมนะ!”“ไม่เป็นไร ผมรู้ครับ”เย่เฟิงโบกมือกัวไป๋ชวนโล่งใจไปเฮือกหนึ่ง จากนั้นชี้เหอเสี้ยวตง แล้วถามว่า “คุณเย่ ไอ้ระยำนี่มีความสัมพันธ์อะไรกับคุณหรือเปล่าครับ?”เขาเห็นว่าเหอเสี้ยวตงอยู่ในห้องนี้ด้วย ดังนั้นจึงถามออกไปอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบไม่พึงประสงค์ในอนาคต“ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้น”เย่เฟิงส่ายศีรษะทันใดแค่แฟนพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของหลีเอียนเฉยๆ น่ะ จะมีความสัมพันธ์อะไรกันได้?ถึงจะมี ก็คงเป็นแค่ความสัมพันธ์วอนบาทาเท่านั้นแหละ!กัวไป๋ชวนได้ยิ
“ใช่เย่เฟิง ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน! นาย…ช่วยหน่อยสิ?”เสิ่นม่านเองก็หน้าด้านถามเมื่อได้ยินป้าใหญ่และเสิ่นม่านถามแบบนั้น ลุงเขยใหญ่กับเหอเสี้ยวตงเองก็มองเย่เฟิงด้วยสีหน้าน่าสงสารยุคสมัยนี้ การที่สามารถทำงานได้เงินเดือนห้าหมื่นนั้นไม่ง่ายเลย ถ้าเสียงานนี้ไป เหอเสี้ยวตงมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเลยด้วยซ้ำ“น้องเขย นายมีหน้ามีตา! เมื่อกี้นี้ฉันตาบอดเอง อย่าถือสาพี่เขยเลยนะ?”เหอเสี้ยวตงปั้นหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นท่าทีของครอบครัวป้าใหญ่ เย่เฟิงก็หัวเราะเยาะออกมา แล้วหันกลับไปหาสวีเพ่ยเพ่ย “แม่ครับ แม่ว่ายังไง? ผมจะทำตามที่แม่ว่า”เมื่อได้ยินดังนั้น สวีเพ่ยเพ่ยก็สะใจสุดขีดมองดูครอบครัวป้าใหญ่ที่ก่อนหน้านี้ยังทำตัวหยิ่งยโส เผยหน้าซะใจต่อหน้าพวกเขาแล้ว เธอกับหลีเทียนหยางก็รู้สึกเหมือนได้แก้แค้นแล้วอย่างไรอย่างนั้นเย่เฟิงลูกเขยคนนี้กู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้ตน“ช่างเถอะ ยังไงก็เป็นญาติกัน! ฉันจะถือสาเด็กคนหนึ่งได้ยังไง ถ้างั้นเสี่ยวเย่ นายช่วยไปพูดกับประธานกัวให้เขาหน่อยเถอะ”สวีเพ่ยเพ่ยโบกมือยิ้มๆ แล้วพูดอย่างใจกว้างที่สำคัญคือ ครอบครัวป้าใหญ่กลับย้อนมาขอร้องตนเอง ทำให้เธอรู้สึกซะใจเ
เย่เฟิงไม่มีเบอร์ติดต่อของกัวไป๋ชวน แต่อีกฝ่ายกลับยังให้เกียรติเย่เฟิงขนาดนี้แบบนี้หมายความว่าอะไร? หมายความว่ากัวไป๋ชวนกำลังประจบเย่เฟิงฝ่ายเดียวไงล่ะเย่เฟิงไม่มีเบอร์ติดต่อของอีกฝ่าย ดูเหมือนแค่ไม่สำคัญพอที่จะบันทึกไว้เท่านั้น!ส่วนสวีเพ่ยเพ่ยและหลีเทียนหยาง ตอนนี้ยิ้มจนปากแทบถึงหูแล้ว ไม่ต้องพูดเลยว่ามีหน้ามีตามากแค่ไหนเป็นลูกเขยเหมือนกัน แต่ทำไมถึงได้ต่างกันขนาดนี้ล่ะ?ลูกเขยของตนเพียงแค่พูดประโยคเดียว ว่าที่ลูกเขยของป้าใหญ่ก็ถูกจัดการในทันที!“เอ๋? ป้าใหญ่ ลุงเขยใหญ่? มาได้ยังไงครับ?”ทันใดนั้นเอง ในที่สุดหลีหย่วนก็จัดแจงงานวันเกิดของแม่เสร็จ โดยมีพนักงานหลายคนเดินตามหลังมา“เจ้าเด็กนี่มาถึงสักที! ป้าใหญ่ของแกมาเลี้ยงฉลองวันเกิดให้แม่น่ะสิ พร้อมมาขอร้องพี่เขยแกสักหน่อย ใช่ไหมพี่ใหญ่?”สวีเพ่ยเพ่ยพูดด้วยสีหน้าชนะ“ใช่…ใช่สิ!”ป้าใหญ่ยิ้มตอบอย่างไม่เป็นธรรมชาติ“ฮ่าๆ ป้าใหญ่ พวกป้าก็รู้เหรอว่าพี่เขยเก่งแค่ไหน?”หลีหย่วนได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรมาก เพียงแค่ยิ้มๆเมื่อได้ยินดังนั้น ป้าใหญ่ทั้งครอบครัวก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาอีกครั้งหลีหย่วนที่ดื้
เย่เฟิงที่มองเห็นบาดแผลของคุณชายกู่เมื่อครู่ ก็รู้แน่ชัดว่าโรงพยาบาลนี้ไม่มีทางรักษาเขาได้แน่!หึๆ ท่าทีของสวี่ซีเหยียนกับพ่อของเธอ ทำให้เย่เฟิงรู้สึกถึงโอกาสที่จะฆ่าคนได้อยากให้คุณชายกู่รอดชีวิตงั้นเหรอ?ชักจะสนุกแล้วสิ!หลังจากนั้น เย่เฟิงก็ทุ่มสมาธิช่วยหลี่ชื่อต่อไป โดยส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างของเขา พร้อมกับใช้วิชาเข็ม “เก้าพลิกฟื้นพลังหยาง” จากคัมภีร์มังกรทองหลี่ชื่อที่เดิมทีแพทย์ตัดสินว่าไม่มีทางรอด ตอนนี้กลับฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน...หลี่ชื่อค่อยๆ ลุกจากเตียง แม้ใบหน้าจะยังซีดเล็กน้อย แต่เขากลับสามารถยืนและเดินได้แล้ว"พักฟื้นอีกสักระยะ แล้วนายจะหายดี!"เย่เฟิงยิ้มพลางพูดหลี่ชื่อจ้องมองเย่เฟิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า แววตาเต็มไปด้วยความสำนึกบุญคุณทันใดนั้น เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น "คุณเย่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม! ผมไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณได้เลย!"เย่เฟิงรีบดึงเขาขึ้นมา "พูดแบบนั้นทำไม? ฉันช่วยนายก็เพราะนายบาดเจ็บเพื่อปกป้องลูกสาวของฉัน"หลี่ชื่อยิ้มกว้างอย่างซื่อๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยความแน่วแน่ "แต่สำหรับผม คุณเย่คือผู้ให้ชีวิตใหม่ ผมยอมมอบชีวิตนี้ให
หลีเอียนรีบดึงนั่วนั่วให้ถอยออกมา ดวงตาจ้องไปยังอีกฝ่ายด้วยความโกรธ เธอไม่คิดเลยว่าฝ่ายนั้นจะหยิ่งยโสถึงขั้นใช้กำลังโดยไม่พูดจาเย่เฟิงแค่นหัวเราะเบาๆ มือข้างหนึ่งยังคงส่งพลังมังกรเข้าสู่ร่างหลี่ชื่อ ส่วนแขนอีกข้างสะบัดออกไปปัง!เสียงกระแทกดังสนั่น พร้อมกับแรงลมสะท้าน แขนของเย่เฟิงปะทะกับขาของชายวัยกลางคนในชุดขาวอย่างจังตึง ตึง ตึง!ชายวัยกลางคนถอยหลังไปสามก้าว ก่อนจะทรงตัวได้แต่เย่เฟิงยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง ราวกับภูผาที่ไม่สะทกสะท้าน"อยากจะหยิ่งยโส ก็ต้องมีความสามารถพอด้วย!""ฉันบอกแล้วว่าเพื่อนของฉันยังต้องรักษาตัวอยู่ที่นี่""ไสหัวไป!"เย่เฟิงพูดเสียงเย็น น้ำเสียงแฝงอำนาจสุดขีดชายวัยกลางคนในชุดขาวมีสีหน้าหนักใจ จ้องมองเย่เฟิงด้วยความลังเล"ไอ้หนุ่ม แกรู้ไหมว่าแกกำลังหาเรื่องกับใคร?""ตอนนี้คุณชายของฉันกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ฉันจะยังไม่จัดการแกตอนนี้""แต่เรื่องวันนี้ ฉันจะจำไว้แน่นอน!"เขากัดฟันพูด ก่อนจะหันไปสั่งหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน "ยังจะยืนเซ่ออยู่ทำไม? ย้ายไปห้องฉุกเฉินห้องอื่นเดี๋ยวนี้!""ครับๆ ได้เลยครับ!"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินรีบพยักหน้า สีหน้าแสดงความ
หัวหน้าแผนกฉุกเฉินเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและร้อนรน!ด้านหลังของเขามีทีมแพทย์และพยาบาลหลายคนกำลังเข็นเตียงคนไข้เข้ามาบนเตียงนั้นมีชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดนอนอยู่ สภาพของเขาดูอาการสาหัสมากข้างๆ และด้านหลังเตียงคนไข้มีคนติดตามมาด้วยหลายคน ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด“เร็ว! ช่วยคุณชายของพวกเราด้วย!”ชายวัยกลางคนในชุดขาวที่ดูมีภูมิฐานตะโกนด้วยน้ำเสียงร้อนรน“รีบช่วยคุณชายกู่สิ! ทำไมในห้องฉุกเฉินยังมีคนอื่นอยู่? รีบไล่พวกมันออกไป!”เสียงแหลมสูงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและก้าวร้าว“พวกนี้เป็นใครกัน? รีบไล่พวกเขาออกไปซะ! ถ้าการรักษาคุณชายกู่ล่าช้า โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบ!”ชายวัยกลางคนในชุดสูทพูดด้วยน้ำเสียงเผด็จการเมื่อได้ยินเสียงอึกทึก เย่เฟิงที่กำลังรักษาหลี่ชื่ออยู่ก็หันกลับไปมองด้วยสายตาเย็นชาดวงตาอันแหลมคมของเขาหรี่ลงเล็กน้อย แววเย็นยะเยือกฉายชัดบนใบหน้าผู้หญิงสวยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ด้วยท่าทีร้อนรนและหวาดกลัวสวี่ซีเหยียน!ผู้หญิงคนนี้!เธอดูโทรม ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าเลอะเปรอะไปด้วยคราบเลือ
"โอเค ลูกรัก ไม่ร้องนะ พ่อจะเข้าไปดู แล้วจะไม่ปล่อยให้คุณลุงหลี่ต้องตายแน่นอน"เย่เฟิงเช็ดน้ำตาบนแก้มนั่วนั่ว จากนั้นรีบเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินหลีเอียนก็รีบตามเขาไปทันทีขณะนั้นเอง หมอที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินเมื่อครู่ได้ยินสิ่งที่เย่เฟิงพูด ก็พากันส่ายหน้าพวกเขาเชื่อว่าเย่เฟิงแค่พูดปลอบใจเด็กเท่านั้น"ถ้าคนไข้แบบนี้ยังช่วยได้ล่ะก็ เขาต้องเป็นเทพเจ้าแล้ว! เราเองยังช่วยไม่ได้ เขาจะเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ?"หัวหน้าแผนกฉุกเฉินพูดพลางมองเย่เฟิงด้วยความไม่พอใจภายในห้องฉุกเฉินหลี่ชื่อยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง เลือดซึมออกมาจากปากและจมูกอุปกรณ์และท่อทุกอย่างถูกถอดออกหมดแล้ว มีเพียงผ้าขาวคลุมร่างไว้!เห็นได้ชัดว่าทางโรงพยาบาลยอมแพ้ในการรักษาและเตรียมจะเก็บศพแต่ในขณะนั้นเอง ราวกับมีบางสิ่งดลใจ หรือไม่ก็เป็นอาการฟื้นตัวชั่วคราวก่อนตายเมื่อเย่เฟิงเข้ามา หลี่ชื่อที่หมดสติไปแล้ว กลับลืมตาขึ้นมาเขามองเห็นเย่เฟิงและนั่วนั่วที่ยืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี"คุณ...คุณเย่ คุณช่วย...คุณหนูนั่วนั่ว...กลับมาได้แล้วใช่ไหมครับ?""ผมมันไม่ได้เรื่อง...ทำให้คุณเย่ผิดหวัง...แต่คุ
รถ SUV หลายคันกำลังแล่นอยู่บนถนนมุ่งหน้าจากหยุนเฉิงไปยังเมืองหลวงของมณฑลในรถคันหนึ่ง ฉู่เทียนหลงยกมือขึ้นกุมหน้าที่บวมแดง สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและบิดเบี้ยวดวงตาของเขาแหลมคมและดูป่วยไข้เหมือนกับสภาพจิตใจที่ผิดปกติของเขา“ไอ้แก่บ้า กล้าตบหน้าฉันเพื่อปกป้องคนนอก!”ฉู่เทียนหลงกัดฟันพูดอย่างเจ็บแค้นทันใดนั้น เขาหันไปมองทนายลวีที่นั่งข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโหดร้าย “นาย ลงไปจากรถเดี๋ยวนี้!”ทนายลวีสะดุ้งด้วยความตกใจ รีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว “คะ…คุณชายฉู่ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”“ฉันต้องการให้นายอยู่ที่หยุนเฉิงต่อไป และใช้ภรรยาเก่าของเย่เฟิงสร้างปัญหาระหว่างเขากับหลีเอียน!”ดวงตาของฉู่เทียนหลงเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ทนายลวีได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดทันที “คะ…คุณชายฉู่ เย่เฟิงจะฆ่าผมเอาได้นะครับ!”“ไอ้เวร! ฉันไม่ได้ให้นายไปสู้กับเขา! ถ้านายไม่ทำ ฉันจะฆ่านายตอนนี้เลย!”“อย่าคิดว่าไม่ช่วยฉันแล้วเย่เฟิงจะไว้ชีวิตนาย!”ฉู่เทียนหลงดึงผมของทนายลวีแล้วตะโกนใส่ด้วยความโกรธทนายลวีตัวสั่นไปทั้งร่าง “ครับ...ครับ!”ไม่กี่วินาทีถัดมา รถหยุดลง ทนายลวีกระโดดลงจากรถทันทีในใจของเขาทั้งก
ใบหน้าของเป่ยเหล่าเต็มไปด้วยความรู้สึกละอายและสำนึกผิด เขาพูดอ้อนวอนอย่างจริงใจว่า “ผมปล่อยอาหลงไปแล้ว! ผมรู้ว่าถ้าคุณเย่เจอเขาเข้า จะต้องฆ่าเขาแน่ๆแต่ยังไงเขาก็เป็นหลานชายของผมนะ!คุณเย่ ผมได้ลงโทษเขาอย่างหนักแล้ว ตระกูลฉู่จะชดเชยให้คุณอย่างสาสม!เห็นแก่ที่หลีเอียนและลูกสาวของคุณปลอดภัยไม่เป็นอันตราย เห็นแก่หน้าผมเถอะ ได้ไหมครับ ปล่อยอาหลงไปสักครั้งเถอะ?ถือว่าผมยอมเสียหน้า ขอร้องคุณแล้ว!”หลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากแล้วพูดอ้อนวอนเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เย่เฟิง ฉันรับรองว่าพี่เทียนหลงจะไม่ก่อเรื่องอีกแล้ว! เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา ปล่อยเขาสักครั้งเถอะนะคุณปู่ตั้งใจจะ…”เธอเล่าแผนการที่เป่ยเหล่าวางไว้ให้เย่เฟิงฟัง“พี่เทียนหลงมีปัญหาด้านร่างกายตั้งแต่เด็ก ทำให้จิตใจเขาออกจะสุดโต่ง แต่จริงๆ แล้วเขาน่าสงสารมาก!ครั้งนี้เขาแค่หุนหันพลันแล่นไปหน่อย คุณ...ช่วยอย่าจัดการเขาถึงตายได้ไหม?”หลิงเอ๋อร์กล่าวหลังจากฟังจบ เย่เฟิงหัวเราะเย็นชา สีหน้าบ่งบอกถึงความโกรธ “เขาน่าสงสารงั้นเหรอ? แล้วคนที่ถูกเขาทำร้ายล่ะ ไม่มีใครน่าสงสารหรือไง?ร่างกายมีปัญหา มันคือข้ออ้างให้เขาเป็นคนชั่วได้หร
เมื่อหลีเอียนเห็นฉู่เทียนหลงถูกคุณปู่ของเขาเองไล่ออกไปอย่างน่าอับอาย ความรู้สึกตกใจในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจภาคภูมิใจในตัวผู้ชายของเธอ!แม้ว่าเย่เฟิงจะไม่ได้มาเอง แต่ก็เหมือนเขาสามารถปกป้องเธอจากที่ไกลๆ ได้หลีเอียนไม่คาดคิดเลยว่า การที่คุณปู่และน้องสาวของฉู่เทียนหลงมาที่นี่จะเป็นเพราะเรื่องของเย่เฟิง ทั้งยังสั่งสอนฉู่เทียนหลงอย่างหนักพร้อมไล่เขาไปด้วยในขณะเดียวกัน อีกฝั่งหนึ่ง เย่เฟิงขับรถพานั่วนั่วมาถึงที่หมายและค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่กลับไม่พบร่องรอยของฉู่เทียนหลงใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเครียดและไม่สบายใจ!เขารู้ตัวว่ามาช้าไป ฉู่เทียนหลงได้ย้ายที่ไปเรียบร้อย!เมื่อคิดว่าหลีเอียนตกอยู่ในมือของสัตว์เดรัจฉานอย่างฉู่เทียนหลง เย่เฟิงก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายถ้าหลีเอียนได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใดๆ เขาไม่มีทางให้อภัยตัวเอง และฉู่เทียนหลงจะต้องตายอย่างโหดเหี้ยม!แม้กระทั่งทั้งตระกูลฉู่ ก็จะต้องถูกกวาดล้างจนไม่เหลือใคร!แต่ในขณะนั้นเอง ก็มีเงาสามร่างเดินเข้ามาเป่ยเหล่าและหลิงเอ๋อร์พาหลีเอียนมาที่นี่!“เย่เฟิง…”หลีเอียนมองเย่เฟิงที่มาตามหาเธอที่นี่ เสียงของเธอสั่นเล็
แต่ทำไมใบหน้าของเขาถึงกลับมาปกติได้ขนาดนี้??ก่อนหน้านี้ในสายโทรศัพท์ เป่ยเหล่าเคยบอกฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาได้รักษาใบหน้าที่เสียโฉมของเขาให้กลับมาปกติแต่ฉู่เทียนหลงไม่คิดเลยว่า ผลลัพธ์จะดีขนาดนี้!ทันใดนั้นเขายิ่งคาดหวังที่จะได้เจอกับหมอเทวดาผู้นี้มากขึ้นไปอีก“คุณปู่ พวกเด็กๆ ด้านนอกอาจไม่รู้จักคุณปู่กับหลิงเอ๋อร์ คุณปู่บอกผมสิ ผมจะได้ลงไปรับเอง!”“ทำไมต้องถึงขั้นมีเรื่องกับพวกไร้ประโยชน์นั่นด้วย?”ฉู่เทียนหลงคิดว่าคนพวกนั้นมีตาหามีแววไม่ ที่ขวางทางคุณปู่และหลิงเอ๋อร์ไม่ให้เข้ามา ดังนั้นทั้งสองจึงได้บุกเข้ามาทันทีเขาพูดพร้อมหัวเราะ ก่อนจะมองไปข้างหลังเป่ยเหล่า “คุณปู่ หมอเทวดาคนนั้นอยู่ไหนล่ะครับ?”เพี๊ยะ!ยังไม่ทันพูดจบ เป่ยเหล่าก็ฟาดฝ่ามือลงไปที่หน้าของฉู่เทียนหลงอย่างแรง!ฉู่เทียนหลงถึงกับหมุนตัวไปหนึ่งรอบ ครึ่งหน้าบวมฉึ่ง มองปู่ด้วยความตกตะลึงและไม่เข้าใจ“คุณปู่ ตบหน้าผมทำไมครับ?”ใบหน้าของเป่ยเหล่ามืดครึ้มราวกับพายุ เขาชี้ไปที่หลีเอียนซึ่งถูกมัดอยู่บนเตียง ก่อนตะโกนใส่ฉู่เทียนหลง “ทำไมถึงตบแกน่ะเหรอ? แกมันไอ้สัตว์นรก ใครให้แกจับภรรยาของคุณเย่มาไว้ที่นี่? แกบ้าหรือ
ก่อนหน้านี้เป่ยเหล่าเคยบอกกับฉู่เทียนหลงว่า หมอเทวดาที่จะมารักษาเขานั้นไม่เพียงแค่เก่งเรื่องการแพทย์ แต่ยังมีฝีมือในวิชาต่อสู้ที่น่าทึ่งในสายโทรศัพท์เมื่อครู่ เป่ยเหล่าก็พูดถึงเรื่องนี้กับฉู่เทียนหลงอีกครั้งอย่าง “มีนัย”ทันใดนั้น ฉู่เทียนหลงก็รู้สึกถึงความหวังที่จะกำจัดเย่เฟิงอีกครั้ง!หมอเทวดาที่สามารถต่อกรกับมหาปรมาจารย์ทั้งสี่?คนระดับนี้ การฆ่าเย่เฟิงคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรดังนั้นตอนนี้ ฉู่เทียนหลงจึงกลับมามีท่าทีไร้ยางอายอีกครั้ง!เขาถึงขั้นวางแผนว่าหลังจากคุณปู่พาหมอเทวดามาแล้ว จะโทรเรียกเย่เฟิงมาเพื่อจัดการเขาให้ตายตรงนี้ท่าทีบ้าคลั่งและมั่นใจเกินเหตุของฉู่เทียนหลง ทำให้หลีเอียนมองเขาด้วยความไม่แน่ใจและตกใจอะไรนะ?ฉู่เทียนหลงยังมีทางหายอดฝีมือแบบนี้ได้อีกเหรอ?“ฉู่เทียนหลง ไอ้สัตว์เดรัจฉาน! ถ้าแกกล้าทำร้ายเย่เฟิง ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่ ถึงจะเป็นผีก็ไม่เว้น!”หลีเอียนกัดฟันด่าออกมา“ฮ่าๆๆ รอให้ไอ้หน้าขาวตาย แล้วเธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน เธอจะเปลี่ยนใจเอง”ฉู่เทียนหลงยิ้มกว้างด้วยความลำพองใจทันใดนั้น เขากลืนน้ำลายอีกครั้ง มองหลีเอียนด้วยแววตาเร่าร้อนและกระหายคุณชาย