“นั่นน่ะสิ ไล่ออก! คนอื่นเขามีบัตรเชิญ จะถูกไล่ได้ยังไง?”หลีเทียนหยางเองก็ปั้นหน้าขรึม แล้วเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเย็นชา “อีกอย่าง อย่าคิดนะว่าฉันกับแม่ของเอียนเอ๋อร์จะยอมรับแกแล้ว! หึ!”เดิมทีที่ผู้ค้าสมุนไพรยาเหล่านั้นไม่ส่งของให้กับบริษัทยาอีก หลีเทียนหยางกับสวีเพ่ยเพ่ยก็สะใจอยู่หรอกแต่พอได้ยินงานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้าในวันพรุ่งนี้แล้ว พวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง บวกกับเย่เฟิงยัง ‘คุยโวโอ้อวด’ ยิ่งทำให้ทั้งสองคนไม่มั่นใจอีกต่อไปตระกูลหลีได้รับบัตรเชิญ แต่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาแล้ว!เฮ้อ…“เย่เฟิง ทำไมคุณต้องพูดแบบนั้นไปด้วย? ก็แค่งานประชุมแลกเปลี่ยนสินค้า ไม่ได้ไปก็ไม่ได้ไปสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่จำเป็นต้องประชดประชันกับพวกลุงรองเลย”หลีเอียนเองก็กล่าวติเตียนทว่าเย่เฟิงกลับหัวเราะออกมา “ที่รัก เชื่อผมสิ! พรุ่งนี้คุณแค่วางใจไปงานกับผมก็พอ ไม่มีใครกล้าไล่พวกเราออกแน่”หลีเอียนได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงแปลกใจออกมา เมื่อเห็นเย่เฟิงมั่นใจขนาดนั้น เธอจึงพยักหน้า “โอเค ฉันเชื่อคุณ!”ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอกลายเป็นคนที่เชื่อใจเย่เฟิงโดยไม่มีเหตุผลไปแล้วเย่เฟิงพยักหน
“หา? หมายความว่าไม่ได้ทำงานอะไรเลยน่ะสิ? ได้ยินม่านม่านพูดว่าน้องเอียนเอ๋อร์แต่งสามีเข้าบ้านมาคนหนึ่ง ดูท่าแล้วจะจริงนะเนี่ย!นี่น้องชาย ฉันล่ะอิจฉานายจริงๆ ที่ไม่ต้องพยายามด้วยตัวเองไม่เหมือนฉัน ทำงานเป็นหัวหน้าหลักดูแลคลังเก็บของบริษัทส่งออกหินหยกเจ้าหนึ่ง วันๆ ทำงานเหนื่อยจะตาย!ถึงเถ้าแก่เขาจะเอ็นดูฉันให้เงินเดือนห้าหมื่นต่อเดือน แต่ก็เทียบความอิสระแบบนี้ของนายไม่ได้ ฮ่าๆ…”หมอนี่พูดจายิ้มเยาะ แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ว่าเป็นพวกเกาะผู้หญิงกินเขาตกใจเรื่องหลีเอียนจริงๆ แล้วแอบด่าไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ว่าทำไมถึงแต่งงานกับนางฟ้าแบบนี้ได้ด้วยความอิจฉาริษยาแบบนี้ เขาจึงแอบด่าเย่เฟิงอ้อมๆ ไปทีหนึ่งทันใดนั้น พี่สาวลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านก็เชิดคางพูดกับหลีเอียนว่า “เอียนเอียน หาผู้ชายน่ะต้องหาคนที่หวังพึ่งได้ เอาการเอางานสิ ไม่คาดหวังว่าเขาจะหาเงินได้เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีงานประจำหน่อยไหม?”หลีเอียนปั้นหน้าขรึม แล้วตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เย่เฟิงเขาหวังพึ่งได้มาก ความจริงแล้วเขาเป็นคนมอบโรงงานของฉันตอนนี้ให้ด้วย”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าใหญ่ก็ส่งเสียงแปลกใจออ
ลักษณะของหินดิบก้อนนี้บอกได้ว่าเป็นของดีที่สุดแน่ๆ แต่ทว่าบนนั้นดูเหมือนจะมีร่องรอยจากการถูกผ่ามาก่อนถึงแม้จะทำการขัดแล้ว แต่ก็ยังสามารถมองเห็นได้สวีเพ่ยเพ่ยเห็นหินดินก้อนนี้แล้ว สายตาพลันเป็นประกายลุกวาวขึ้นมาเธอชอบหินหยก ดังนั้นจึงพอมีความรู้เรื่องหยกอยู่บ้างของขวัญจากเหอเสี้ยวตงชิ้นนี้ ทำให้เธอใจเต้นจริงๆ“น้ารอง หินดิบก้อนนี้ เถ้าแก่ของผมได้มาจากประเทศพม่า เพราะว่าผมทำงานดี เขาก็เลยให้ผมเป็นของขวัญ!ผมได้ยินมาว่าน้าชอบหินหยก ก็เลยนำมาให้น้าโดยเฉพาะ!ด้วยลักษณะของหินดิบก้อนนี้ต้องผ่าออกมาเจอหยกชิ้นดีแน่นอน ถึงตอนนั้นน้าชอบแบบไหน ก็ขึ้นรูปแบบไหนได้เลย”เหอเสี้ยวตงพูดยิ้มแย้ม“น้ารองคะ เห็นว่าหินดิบก้อนนี้สามารถประมูลได้ถึงสิบล้านเชียวนะ เสี้ยวตงของเรานำมาให้เป็นของขวัญวันเกิดของน้าถือว่าทุ่มเทไปไม่น้อยเลยนะคะ”เสิ่นม่านคล้องแขนเหอเสี้ยวตง แล้วพูดจาภาคภูมิใจ“เสี่ยวเหอเอ๋อร์มีใจแล้ว! แต่ว่ามันล้ำค่าเกินไป ช่างมันเถอะ!”สวีเพ่ยเพ่ยแม้จะใจเต้นของสิ่งของ แต่ก็ปฏิเสธไปลูกเขยของพี่ใหญ่ให้ของขวัญล้ำค่าขนาดนี้ให้มันหมายความว่าอะไร?ถ้าตนรับไว้ ก็เหมือนว่าใช้ชีวิตดีสู้คนอื่
เธอเองก็รู้สึกเป็นไปไม่ได้พระหยกขนาดใหญ่เท่านี้มูลค่าต้องสูงมากแน่ๆ!ถ้าจะบอกว่าเย่เฟิงซื้อของราคาแพงขนาดนี้ให้กับตน อย่างไรสวีเพ่ยเพ่ยก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอนพอพูดออกไปเช่นนั้น แม่สามีผู้มีเสน่ห์คนนี้ก็จ้องเย่เฟิงเขม็งพร้อมกับวางไว้ใต้ขา โดยไม่แม้แต่จะมองพระหยกรูปนี้อย่างละเอียดราวกับว่ากลัวป้าใหญ่จะเข้ามาดูให้ละเอียด เพื่อเปิดโปงเย่เฟิงอย่างไรอย่างนั้น“แม่คะ พระหยกรูปนี้เป็นของจริงค่ะ ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงเอง!”หลีเอียนรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเย่เฟิงในตอนนี้“อืม แม่รู้แล้ว!”แต่สวีเพ่ยเพ่ยก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วโบกมือลวกๆซ้ำยังส่งสายตาให้กับลูกสาว ให้หลีเอียนหยุดพูดต่อไปได้แล้ว เดี๋ยวจะขายหน้าคนอื่นเอาได้ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงงั้นเหรอ?ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย?“เหอะๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าของผมหรือคุณกันแน่ที่ปลอม?ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ คุณทำงานที่บริษัทขายส่งหินหยกไป๋ชวนสินะ? ประธานของคุณคือกัวไป๋ชวนใช่ไหม?ทันใดนั้นเอง เย่เฟิงกลับส่งเสียงหัวเราะออกมานิ่งๆ แล้วถามเหอเสี้ยวตงเหอเสี้ยวตงตกตะลึง จากนั้นพยักหน้าตอบว่า “
น้ำเสียงของกัวไป๋ชวนเบาบางดูให้เกียรติและระมัดระวังเป็นพิเศษแต่สิ่งที่ดังเข้าหูคนอื่นกลับเป็นเหมือนสายฟ้าผ่าสะท้านโลกา!สวีเพ่ยเพ่ยและหลีเทียนหยางเบิกตากว้างยืนนิ่งอยู่กับที่!ป้าใหญ่ ลุงเขยใหญ่ และลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านต่างก็ตะลึงงันส่วนสีหน้าไม่พอใจของเหอเสี้ยวตงนั้นแข็งทื่ออยู่แบบนั้นในทันทีปกติ เขาประจบสอพลอประธานกัวสุดขีดถึงขนาดอีกฝ่ายผายลมเป็นกลิ่นอะไร เขาก็จำใส่ใจไว้ไม่ลืมเขาจะจำเสียงของกัวไป๋ชวนไม่ได้ได้ยังไง?คนที่อยู่นอกประตูคือประธานกัวจริงเหรอ?ประธานกัวจะมาคารวะเหล้าให้สวีเพ่ยเพ่ยจริงๆ งั้นเหรอ?“เข้ามาสิ!”เย่เฟิงส่งเสียงพูดขึ้นนิ่งๆเมื่อเทียบกับความตกใจสะท้านของคนอื่นๆ แล้ว เย่เฟิงและหลีเอียนดูเรียบนิ่งกว่ามากสิ้นเสียง ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก กัวไป๋ชวนเดินเข้ามาพร้อมกับถือของขวัญมีมูลค่ามากมายไว้ในมือ ส่วนอีกมือถือแก้วที่มีเหล้าขาวอยู่เต็มแก้ว“คุณเย่ คุณหลี ไม่ได้รบกวนพวกคุณใช่ไหม?”กัวไป๋ชวนถามอย่างนอบน้อม“ไม่ๆ!”หลีเอียนส่ายศีรษะ แต่เย่เฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆ ด้วยท่าทีเย่อหยิ่งเต็มสิบไม่หัก“ถ้างั้นก็ดีครับ! ถ้างั้นก็ดี…”กัวไป๋ชวนยิ้ม แล้
เวลานี้ สีหน้าของกัวไป๋ชวนมืดมนในทันใด แล้วเดินเข้าไปหาเหอเสี้ยวตงด้วยท่าทีโกรธจัด“ประ…ประธานกัว ฟังผมอธิบายก่อน! ผม…”เหอเสี้ยวตงเห็นดังนั้น ก็ลนลานและหวาดกลัวขึ้นมาเพี๊ยะ!ไม่รอให้เขาพูดจบ กัวไป๋ชวนก็ตบหน้าเหอเสี้ยงตงอย่างแรกทีหนึ่ง“มึงนี่มันวอนหาที่ตายจริงๆ! กูบอกให้มึงไปจัดการทิ้งหินชั้นต่ำพวกนี้ซะ แต่มึงกลับเอามาหลอกลวงแม่ภรรยาของคุณเย่?”“กูไม่เอามึงไว้แน่!”กัวไป๋ชวนกัดฟันกรอดวินาทีต่อมา เขาก็มองไปที่เย่เฟิง แล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้ารู้สึกผิดและกระวนกระวายใจ “คุณเย่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมนะ!”“ไม่เป็นไร ผมรู้ครับ”เย่เฟิงโบกมือกัวไป๋ชวนโล่งใจไปเฮือกหนึ่ง จากนั้นชี้เหอเสี้ยวตง แล้วถามว่า “คุณเย่ ไอ้ระยำนี่มีความสัมพันธ์อะไรกับคุณหรือเปล่าครับ?”เขาเห็นว่าเหอเสี้ยวตงอยู่ในห้องนี้ด้วย ดังนั้นจึงถามออกไปอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบไม่พึงประสงค์ในอนาคต“ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้น”เย่เฟิงส่ายศีรษะทันใดแค่แฟนพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของหลีเอียนเฉยๆ น่ะ จะมีความสัมพันธ์อะไรกันได้?ถึงจะมี ก็คงเป็นแค่ความสัมพันธ์วอนบาทาเท่านั้นแหละ!กัวไป๋ชวนได้ยิ
“ใช่เย่เฟิง ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน! นาย…ช่วยหน่อยสิ?”เสิ่นม่านเองก็หน้าด้านถามเมื่อได้ยินป้าใหญ่และเสิ่นม่านถามแบบนั้น ลุงเขยใหญ่กับเหอเสี้ยวตงเองก็มองเย่เฟิงด้วยสีหน้าน่าสงสารยุคสมัยนี้ การที่สามารถทำงานได้เงินเดือนห้าหมื่นนั้นไม่ง่ายเลย ถ้าเสียงานนี้ไป เหอเสี้ยวตงมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเลยด้วยซ้ำ“น้องเขย นายมีหน้ามีตา! เมื่อกี้นี้ฉันตาบอดเอง อย่าถือสาพี่เขยเลยนะ?”เหอเสี้ยวตงปั้นหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นท่าทีของครอบครัวป้าใหญ่ เย่เฟิงก็หัวเราะเยาะออกมา แล้วหันกลับไปหาสวีเพ่ยเพ่ย “แม่ครับ แม่ว่ายังไง? ผมจะทำตามที่แม่ว่า”เมื่อได้ยินดังนั้น สวีเพ่ยเพ่ยก็สะใจสุดขีดมองดูครอบครัวป้าใหญ่ที่ก่อนหน้านี้ยังทำตัวหยิ่งยโส เผยหน้าซะใจต่อหน้าพวกเขาแล้ว เธอกับหลีเทียนหยางก็รู้สึกเหมือนได้แก้แค้นแล้วอย่างไรอย่างนั้นเย่เฟิงลูกเขยคนนี้กู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้ตน“ช่างเถอะ ยังไงก็เป็นญาติกัน! ฉันจะถือสาเด็กคนหนึ่งได้ยังไง ถ้างั้นเสี่ยวเย่ นายช่วยไปพูดกับประธานกัวให้เขาหน่อยเถอะ”สวีเพ่ยเพ่ยโบกมือยิ้มๆ แล้วพูดอย่างใจกว้างที่สำคัญคือ ครอบครัวป้าใหญ่กลับย้อนมาขอร้องตนเอง ทำให้เธอรู้สึกซะใจเ
เย่เฟิงไม่มีเบอร์ติดต่อของกัวไป๋ชวน แต่อีกฝ่ายกลับยังให้เกียรติเย่เฟิงขนาดนี้แบบนี้หมายความว่าอะไร? หมายความว่ากัวไป๋ชวนกำลังประจบเย่เฟิงฝ่ายเดียวไงล่ะเย่เฟิงไม่มีเบอร์ติดต่อของอีกฝ่าย ดูเหมือนแค่ไม่สำคัญพอที่จะบันทึกไว้เท่านั้น!ส่วนสวีเพ่ยเพ่ยและหลีเทียนหยาง ตอนนี้ยิ้มจนปากแทบถึงหูแล้ว ไม่ต้องพูดเลยว่ามีหน้ามีตามากแค่ไหนเป็นลูกเขยเหมือนกัน แต่ทำไมถึงได้ต่างกันขนาดนี้ล่ะ?ลูกเขยของตนเพียงแค่พูดประโยคเดียว ว่าที่ลูกเขยของป้าใหญ่ก็ถูกจัดการในทันที!“เอ๋? ป้าใหญ่ ลุงเขยใหญ่? มาได้ยังไงครับ?”ทันใดนั้นเอง ในที่สุดหลีหย่วนก็จัดแจงงานวันเกิดของแม่เสร็จ โดยมีพนักงานหลายคนเดินตามหลังมา“เจ้าเด็กนี่มาถึงสักที! ป้าใหญ่ของแกมาเลี้ยงฉลองวันเกิดให้แม่น่ะสิ พร้อมมาขอร้องพี่เขยแกสักหน่อย ใช่ไหมพี่ใหญ่?”สวีเพ่ยเพ่ยพูดด้วยสีหน้าชนะ“ใช่…ใช่สิ!”ป้าใหญ่ยิ้มตอบอย่างไม่เป็นธรรมชาติ“ฮ่าๆ ป้าใหญ่ พวกป้าก็รู้เหรอว่าพี่เขยเก่งแค่ไหน?”หลีหย่วนได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรมาก เพียงแค่ยิ้มๆเมื่อได้ยินดังนั้น ป้าใหญ่ทั้งครอบครัวก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาอีกครั้งหลีหย่วนที่ดื้