เธอเองก็รู้สึกเป็นไปไม่ได้พระหยกขนาดใหญ่เท่านี้มูลค่าต้องสูงมากแน่ๆ!ถ้าจะบอกว่าเย่เฟิงซื้อของราคาแพงขนาดนี้ให้กับตน อย่างไรสวีเพ่ยเพ่ยก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอนพอพูดออกไปเช่นนั้น แม่สามีผู้มีเสน่ห์คนนี้ก็จ้องเย่เฟิงเขม็งพร้อมกับวางไว้ใต้ขา โดยไม่แม้แต่จะมองพระหยกรูปนี้อย่างละเอียดราวกับว่ากลัวป้าใหญ่จะเข้ามาดูให้ละเอียด เพื่อเปิดโปงเย่เฟิงอย่างไรอย่างนั้น“แม่คะ พระหยกรูปนี้เป็นของจริงค่ะ ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงเอง!”หลีเอียนรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเย่เฟิงในตอนนี้“อืม แม่รู้แล้ว!”แต่สวีเพ่ยเพ่ยก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน แล้วโบกมือลวกๆซ้ำยังส่งสายตาให้กับลูกสาว ให้หลีเอียนหยุดพูดต่อไปได้แล้ว เดี๋ยวจะขายหน้าคนอื่นเอาได้ประธานเวินจากเวินซื่อจิวเวอรี่กรุ๊ปเป็นคนให้เย่เฟิงงั้นเหรอ?ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย?“เหอะๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าของผมหรือคุณกันแน่ที่ปลอม?ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ คุณทำงานที่บริษัทขายส่งหินหยกไป๋ชวนสินะ? ประธานของคุณคือกัวไป๋ชวนใช่ไหม?ทันใดนั้นเอง เย่เฟิงกลับส่งเสียงหัวเราะออกมานิ่งๆ แล้วถามเหอเสี้ยวตงเหอเสี้ยวตงตกตะลึง จากนั้นพยักหน้าตอบว่า “
น้ำเสียงของกัวไป๋ชวนเบาบางดูให้เกียรติและระมัดระวังเป็นพิเศษแต่สิ่งที่ดังเข้าหูคนอื่นกลับเป็นเหมือนสายฟ้าผ่าสะท้านโลกา!สวีเพ่ยเพ่ยและหลีเทียนหยางเบิกตากว้างยืนนิ่งอยู่กับที่!ป้าใหญ่ ลุงเขยใหญ่ และลูกพี่ลูกน้องเสิ่นม่านต่างก็ตะลึงงันส่วนสีหน้าไม่พอใจของเหอเสี้ยวตงนั้นแข็งทื่ออยู่แบบนั้นในทันทีปกติ เขาประจบสอพลอประธานกัวสุดขีดถึงขนาดอีกฝ่ายผายลมเป็นกลิ่นอะไร เขาก็จำใส่ใจไว้ไม่ลืมเขาจะจำเสียงของกัวไป๋ชวนไม่ได้ได้ยังไง?คนที่อยู่นอกประตูคือประธานกัวจริงเหรอ?ประธานกัวจะมาคารวะเหล้าให้สวีเพ่ยเพ่ยจริงๆ งั้นเหรอ?“เข้ามาสิ!”เย่เฟิงส่งเสียงพูดขึ้นนิ่งๆเมื่อเทียบกับความตกใจสะท้านของคนอื่นๆ แล้ว เย่เฟิงและหลีเอียนดูเรียบนิ่งกว่ามากสิ้นเสียง ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก กัวไป๋ชวนเดินเข้ามาพร้อมกับถือของขวัญมีมูลค่ามากมายไว้ในมือ ส่วนอีกมือถือแก้วที่มีเหล้าขาวอยู่เต็มแก้ว“คุณเย่ คุณหลี ไม่ได้รบกวนพวกคุณใช่ไหม?”กัวไป๋ชวนถามอย่างนอบน้อม“ไม่ๆ!”หลีเอียนส่ายศีรษะ แต่เย่เฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆ ด้วยท่าทีเย่อหยิ่งเต็มสิบไม่หัก“ถ้างั้นก็ดีครับ! ถ้างั้นก็ดี…”กัวไป๋ชวนยิ้ม แล้
เวลานี้ สีหน้าของกัวไป๋ชวนมืดมนในทันใด แล้วเดินเข้าไปหาเหอเสี้ยวตงด้วยท่าทีโกรธจัด“ประ…ประธานกัว ฟังผมอธิบายก่อน! ผม…”เหอเสี้ยวตงเห็นดังนั้น ก็ลนลานและหวาดกลัวขึ้นมาเพี๊ยะ!ไม่รอให้เขาพูดจบ กัวไป๋ชวนก็ตบหน้าเหอเสี้ยงตงอย่างแรกทีหนึ่ง“มึงนี่มันวอนหาที่ตายจริงๆ! กูบอกให้มึงไปจัดการทิ้งหินชั้นต่ำพวกนี้ซะ แต่มึงกลับเอามาหลอกลวงแม่ภรรยาของคุณเย่?”“กูไม่เอามึงไว้แน่!”กัวไป๋ชวนกัดฟันกรอดวินาทีต่อมา เขาก็มองไปที่เย่เฟิง แล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้ารู้สึกผิดและกระวนกระวายใจ “คุณเย่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมนะ!”“ไม่เป็นไร ผมรู้ครับ”เย่เฟิงโบกมือกัวไป๋ชวนโล่งใจไปเฮือกหนึ่ง จากนั้นชี้เหอเสี้ยวตง แล้วถามว่า “คุณเย่ ไอ้ระยำนี่มีความสัมพันธ์อะไรกับคุณหรือเปล่าครับ?”เขาเห็นว่าเหอเสี้ยวตงอยู่ในห้องนี้ด้วย ดังนั้นจึงถามออกไปอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบไม่พึงประสงค์ในอนาคต“ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้น”เย่เฟิงส่ายศีรษะทันใดแค่แฟนพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของหลีเอียนเฉยๆ น่ะ จะมีความสัมพันธ์อะไรกันได้?ถึงจะมี ก็คงเป็นแค่ความสัมพันธ์วอนบาทาเท่านั้นแหละ!กัวไป๋ชวนได้ยิ
“ใช่เย่เฟิง ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน! นาย…ช่วยหน่อยสิ?”เสิ่นม่านเองก็หน้าด้านถามเมื่อได้ยินป้าใหญ่และเสิ่นม่านถามแบบนั้น ลุงเขยใหญ่กับเหอเสี้ยวตงเองก็มองเย่เฟิงด้วยสีหน้าน่าสงสารยุคสมัยนี้ การที่สามารถทำงานได้เงินเดือนห้าหมื่นนั้นไม่ง่ายเลย ถ้าเสียงานนี้ไป เหอเสี้ยวตงมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเลยด้วยซ้ำ“น้องเขย นายมีหน้ามีตา! เมื่อกี้นี้ฉันตาบอดเอง อย่าถือสาพี่เขยเลยนะ?”เหอเสี้ยวตงปั้นหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นท่าทีของครอบครัวป้าใหญ่ เย่เฟิงก็หัวเราะเยาะออกมา แล้วหันกลับไปหาสวีเพ่ยเพ่ย “แม่ครับ แม่ว่ายังไง? ผมจะทำตามที่แม่ว่า”เมื่อได้ยินดังนั้น สวีเพ่ยเพ่ยก็สะใจสุดขีดมองดูครอบครัวป้าใหญ่ที่ก่อนหน้านี้ยังทำตัวหยิ่งยโส เผยหน้าซะใจต่อหน้าพวกเขาแล้ว เธอกับหลีเทียนหยางก็รู้สึกเหมือนได้แก้แค้นแล้วอย่างไรอย่างนั้นเย่เฟิงลูกเขยคนนี้กู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้ตน“ช่างเถอะ ยังไงก็เป็นญาติกัน! ฉันจะถือสาเด็กคนหนึ่งได้ยังไง ถ้างั้นเสี่ยวเย่ นายช่วยไปพูดกับประธานกัวให้เขาหน่อยเถอะ”สวีเพ่ยเพ่ยโบกมือยิ้มๆ แล้วพูดอย่างใจกว้างที่สำคัญคือ ครอบครัวป้าใหญ่กลับย้อนมาขอร้องตนเอง ทำให้เธอรู้สึกซะใจเ
เย่เฟิงไม่มีเบอร์ติดต่อของกัวไป๋ชวน แต่อีกฝ่ายกลับยังให้เกียรติเย่เฟิงขนาดนี้แบบนี้หมายความว่าอะไร? หมายความว่ากัวไป๋ชวนกำลังประจบเย่เฟิงฝ่ายเดียวไงล่ะเย่เฟิงไม่มีเบอร์ติดต่อของอีกฝ่าย ดูเหมือนแค่ไม่สำคัญพอที่จะบันทึกไว้เท่านั้น!ส่วนสวีเพ่ยเพ่ยและหลีเทียนหยาง ตอนนี้ยิ้มจนปากแทบถึงหูแล้ว ไม่ต้องพูดเลยว่ามีหน้ามีตามากแค่ไหนเป็นลูกเขยเหมือนกัน แต่ทำไมถึงได้ต่างกันขนาดนี้ล่ะ?ลูกเขยของตนเพียงแค่พูดประโยคเดียว ว่าที่ลูกเขยของป้าใหญ่ก็ถูกจัดการในทันที!“เอ๋? ป้าใหญ่ ลุงเขยใหญ่? มาได้ยังไงครับ?”ทันใดนั้นเอง ในที่สุดหลีหย่วนก็จัดแจงงานวันเกิดของแม่เสร็จ โดยมีพนักงานหลายคนเดินตามหลังมา“เจ้าเด็กนี่มาถึงสักที! ป้าใหญ่ของแกมาเลี้ยงฉลองวันเกิดให้แม่น่ะสิ พร้อมมาขอร้องพี่เขยแกสักหน่อย ใช่ไหมพี่ใหญ่?”สวีเพ่ยเพ่ยพูดด้วยสีหน้าชนะ“ใช่…ใช่สิ!”ป้าใหญ่ยิ้มตอบอย่างไม่เป็นธรรมชาติ“ฮ่าๆ ป้าใหญ่ พวกป้าก็รู้เหรอว่าพี่เขยเก่งแค่ไหน?”หลีหย่วนได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรมาก เพียงแค่ยิ้มๆเมื่อได้ยินดังนั้น ป้าใหญ่ทั้งครอบครัวก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาอีกครั้งหลีหย่วนที่ดื้
"โอเค ถ้างั้นพี่เหรินจัดการเองเลย! ยาแพงๆ แบบนั้น หยุดผลิตไปก็ไม่เป็นไร!"เย่เฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา"อืม! ไม่เพียงแต่ผู้ค้าสมุนไพรยาเมื่อคราวก่อนเท่านั้น แต่ผมจะใช้การเครือข่ายความสัมพันธ์ของผมทั้งหมด เพื่อไม่ให้บริษัทยาตระกูลหลีหาซัพพลายเออร์วัตถุดิบยารายใหม่ได้อีก!อย่างน้อยผู้ค้าสมุนไพรยาในมณฑลนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องไปติดต่อแล้ว! ความพยายามของคุณเย่จะกลายเป็นเครื่องมือดูดเลือดและทำกำไรให้คนอื่นได้ยังไง?" เหรินลี่ชวิ๋นพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงสูง "แบบนี้... จะส่งผลต่อกำไรของคุณไหม?” เย่เฟิงถาม“ไม่เป็นไรเลย! ลูกของผมเองก็เป็นผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว และผมก็เกลียดราคายาที่แพงลิบลิ่วด้วย ผมเกลียดพวกนักธุรกิจใจดำที่ทำกำไรมากมาย ภายใต้ความลำบากของคนป่วยพวกนั้นจนเข้าไส้! คุณเย่ คุณไม่ต้องห่วง!”เหรินลี่ชวิ๋นพูดอย่างหนักแน่นแล้วเปลี่ยนน้ำเสียง "จริงสิ คุณเย่ ตอนนี้คุณกับคุณหลีเอียนกำลังทำอะไรอยู่? มีความคิดที่จะออกยาใหม่หรือก่อตั้งบริษัทใหม่ไหมครับ?"เขาถามอย่างคาดหวัง“กำลังดำเนินการอยู่ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเลย! ถึงตอนนั้น ถ้าเป็นไปตามแผน คงต้องรบกวนเรื่องวัตถุดิบยาจากพี่เหรินอ
เมื่อได้ยินว่าตัวเองหายดีแล้ว ความมืดมนนั้นก็เหมือนถูกแทนที่ด้วยแสงสว่าง กลายเป็นคนสดใสในบัดดลเย่เฟิงเห็นนั่วนั่วแบบนี้ ในใจก็ตัดสินใจว่าจะหาสาเหตุให้เจอ!ถึงครั้งนี้จะล้มเหลว แต่เย่เฟิงก็สามารถถ่ายทอดปราณมังกรให้กับนั่วนั่ว เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไรไม่ต้องกินยา เด็กน้อยก็จะไม่รู้ความจริงถ้าลูกสาวสามารถมีความสุขได้โดยไม่ต้องมีเรื่องกังวลก็คงดี…เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เฟิงส่งนั่วนั่วไปที่โรงเรียนอนุบาลเสร็จ ก็ขับรถไปรับหลีเอียนที่หยู่กวงตี่เมื่อมาถึง หลีเอียนก็เตรียมตัวเสร็จแล้ววันนี้บอสสาวสวยแต่งตัวชุดออกกำลังกายสบายๆ ดูเย็นชาน้อยกว่าปกติ แต่ให้ความรู้สึกขี้เล่น และมีชีวิตชีวามากหลายส่วนแบบนี้กลับทำให้ดูเหมือนน้องสาวข้างบ้านอย่างไรอย่างนั้น“ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ?”เย่เฟิงถามอย่างแปลกใจ“หลายๆ เรื่องในโรงงานตอนนี้ ฉันต้องจัดการเองทั้งหมด จะให้ฉันใส่ส้นสูงไปหรือไง? ทำไม แบบนี้ไม่สวยเหรอ?”หลีเอียนถาม แววตาคู่งามแฝงไปด้วยความกังวลไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอเริ่มใส่ใจภาพลักษณ์ของตนต่อหน้าเย่เฟิง“สวย! คุณใส่อะไรก็สวยหมดแหละ!”เย่เฟิงพูดยิ้มๆ“ปากมันลิ้นลื่นจริ
"เพียงเห็นหลีเอียนที่เผชิญหน้ากับการสารภาพรักของเถียนอวี่เซวียน ใบหน้าสวยของเธอก็ยังคงเย็นชาไร้อารมณ์ราวกับน้ำแข็งในวินาทีถัดมา เธอก็เดินอ้อมผ่านเถียนอวี่เซวียนที่คุกเข่าอยู่ไป เปิดประตูและเข้าไปในรถทันทีเธอปิดประตูแรงเสียงดัง ‘ปัง’เย่เฟิงที่เห็นดังนั้น แววตาพลันสั่นไหวเล็กน้อยไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงรู้สึกโล่งใจบอกไม่ถูกแม้ว่าเขาจะเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลีเอียนนั้นไม่ใช่สามีภรรยาที่แท้จริง แต่หลังจากผ่านเรื่องราวมามากมาย เขาก็ไม่อาจทำเป็นไม่สนใจได้เลยเย่เฟิงต้องยอมรับว่า เมื่อครู่นี้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยเพราะในใจลึกๆ เขาไม่เห็นหลีเอียนรับคำสารภาพนั้นเลย“เอียนเอ๋อร์! เอียนเอ๋อร์ ขอร้องล่ะ ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะนะ!” เมื่อเถียนอวี่เซวียนเห็นหลีเอียนเดินจากไป สีหน้าที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งของเขาก็แข็งทื่อไปทันที เขาลุกขึ้นยืน พยายามที่จะตามไปรั้งหลีเอียนไว้แต่ในขณะนั้น เย่เฟิงก็ขยับตัวบังเขาไว้ทันที“ขอโทษทีนะ แต่ดูเหมือนว่าภรรยาของผมจะไม่อยากสนใจคุณนะ!”เย่เฟิงพูดพลางยิ้มเย้ย “ภรรยา?”เมื่อเถียนอวี่เซวียนได้ยินคำว่า ‘ภรรยา’ สีหน้าของเขา