เมื่อมองไป ที่นี่ราวกับเป็นพระราชวังอย่างไรอย่างนั้นที่นี่คือที่อยู่ของเว่ยเหล่าหู่ คฤหาสน์หู่เสี้ยว!เย่เฟิงมาถึงที่นี่ภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที หลังจากที่ลูกน้องของเว่ยเหล่าหู่ยืนยันแล้วว่าเขามาคนเดียว ก็พาเย่เฟิงเข้าไปข้างในราวกับคุมผู้ต้องขัง!ในลานกว้างที่จัดไว้เป็นอย่างดี เว่ยเหล่าหู่นั่งอยู่บนแท่น โดยมีเว่ยเสี่ยวตง และฆาตกรเลือดเย็นอยู่ข้างหลัง รวมทั้งนักสู้มือทองอีกไม่กี่คนส่วนที่อยู่ข้างล่างแท่นสูงทั้งสองฝั่ง มีลูกน้องชุดดำทั้งตัวยืนเป็นแถวสองแถว แต่ละคนออร่าดุดัน น่าเกรงขามมาก!เมื่อเห็นเย่เฟิงที่ถูกลูกน้องนำตัวเข้ามาแล้ว เว่ยเหล่าหู่ก็เผยรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา“แกน่ะ กล้ามาคนเดียวจริงๆ นะ!”เย่เฟิงยืนอยู่ข้างล่าง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไมถึงต้องไม่กล้าด้วย?”พูดจบ เขาก็กวาดตามองรอบๆ แล้วถามเสียงขรึมว่า “ลูกสาวฉันอยู่ไหน?”“คุกเข่าก้มกราบขอโทษฉัน แล้วตัดเอ็นมือเอ็นเท้าตัวเองซะ แล้วฉันจะให้แกเจอหน้าลูกสาว!”เว่ยเสี่ยวตงตะคอกเสียงโหด เต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้นและเกลียดชังสิ้นเสียง ลูกน้องคนหนึ่งที่พาเย่เฟิงเข้ามาก็หยิบกรรไกรเล่มหนึ่งโยนให้กับเย่เฟิง“เป
เมื่อเห็นเว่ยเหล่าหู่กดโทรศัพท์ นัยน์ตาของเย่เฟิงก็ฉายแววกังวล แล้วจ้องที่อีกฝ่ายเขม็งเรื่องที่เกี่ยวกับนั่วนั่ว เย่เฟิงไม่สามารถใจเย็นได้เลย“เฮยโก่ว แกเป็นอะไรไป? ทำไมยังไม่กลับมาสักที?”เว่ยเหล่าหู่ถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติโทษแต่พอสิ้นเสียง เสียงที่ตอบมาจากปลายสายกลับไม่ใช่เสียงของเฮยโก่ว“เว่ยเหล่าหู่?”อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หืม? แกเป็นใคร?”สีหน้าของเว่ยเหล่าหู่เปลี่ยนไป“ฉันหลีหย่วนพ่อแกไง! ไอ้คนแซ่เว่ย แต่ก่อนฉันนับถือแกเป็นรุ่นพี่ เรียกแกว่านายท่านเว่ย แต่วันนี้แกกลับกล้ามายุ่งกับพี่เขยฉัน มายุ่งกับหลานสาวของฉัน!”หลีหย่วนขบฟันกล่าว“แล้วยังไง?”เว่ยเหล่าหู่หัวเราะแห้งแล้วถาม“พี่เขยฉันอยู่กับแกใช่ไหม?”หลีหย่วนถามด้วยน้ำเสียงเจือเป็นห่วงเล็กน้อยหลังจากที่ช่วยนั่วนั่วไว้ได้แล้ว เขาก็คิดอยากติดต่อหาเย่เฟิงแล้ว แต่กลับโทรหาอีกฝ่ายไม่ได้เลยสิ่งที่เขาไม่รู้คือ เพราะเย่เฟิงรีบร้อนมาที่นี่มากเกินไป โทรศัพท์ตกหล่นกลางทาง ก็ยังไม่รู้ตัว“ใช่!” เว่ยเหล่าหู่ตอบเย็นชา“ปล่อยตัวพี่เขยฉันซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเฮยโก่วซะ!”หลีหย่วนพูดแบล็กเมล์“แกคิดมากเกินไปแล้ว! วัน
กลุ่มคนชุดดำทั้งสองแถวนั่นหยิบขวานออกมาจากตัว แล้วมุ่งเป้าไปที่เย่เฟิงด้วยรังสีสังหารขณะเดียวกัน ก็มีคนของเว่ยเหล่าหู่พุ่งออกมาจากรอบๆ ทั้งสี่ด้านของคฤหาสน์แต่ละคนถืออาวุธไว้ในมือ เต็มไปด้วยกลิ่นอายเหี้ยมโหด!เมื่อมองไป ก็เห็นแต่หัวคน อย่างต่ำประมาณสามสี่ร้อยคนพวกเขาล้อมเย่เฟิงเอาไว้ราวกับกระแสน้ำดำไม่เพียงเท่านั้น นักสู้มือทองที่อยู่ข้างหลังเว่ยเหล่าหู่อีกหลายคน ก็ตามลงมาด้วยพวกเขาแผ่ซ่านรังสีสังหารอันโหดเหี้ยมออกมาเสมอ ถึงแม้ฝีมือจะสู้เฮยจินกังไม่ได้ แต่ก็เป็นยอดฝีมือระดับพลังแสงสว่างเหมือนกัน“ไอ้หนุ่ม ถึงแกจะฆ่าเฮยจินกังได้ แต่ว่ายุงเยอะก็สามารถล้มช้างได้ วันนี้นายถูกกำหนดไม่ให้รอดออกไปแล้วว่ะ!”เว่ยเหล่าหู่กล่าวยิ้มเยาะ“ไอ้หมา กูจะฆ่ามึง!”“ไปตายซะ! ฮ่าๆ…”เว่ยเสี่ยวตงหัวเราะลั่นออกมาอย่างปล่อยตัว“นี่แหละความสามารถของเว่ยเหล่าหู่ คนพวกนี้ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของคฤหาสน์หู่เสี้ยวเท่านั้น ฉันใช้ชีวิตอยู่ในหยุนเฉิงมาหลายสิบปีแล้ว ไอ้เด็กไม่อย่าน้ำนมอย่างแกยังกล้ามาท้าทายอำนาจฉันงั้นเหรอ?”“ฉันเว่ยเหล่าหู่มีกำลังคนเยอะ เงินเยอะ มีดเยอะ ฆ่าแกน่ะ ก็เหมือนฆ่ามดเท่านั้นแห
เว่ยเหล่าหู่ต้องรู้จักผู้บัญชาการมู่อยู่แล้ว!พวกนักเลงสามารถทำตัวกร่างได้ แต่ต้องเช็ดดวงตาให้สะอาด รู้ว่าใครที่สามารถบาดหมางได้ ใครที่ไม่สามารถบาดหมางได้ แบบนี้ถึงจะมีชีวิตอยู่ในวงการนักเลงได้ยืนยาวมู่จ้านเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์ของเขตรักษาความปลอดภัยหยุนเฉิง ดังนั้นย่อมถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนที่ไม่สามารถบาดหมางได้อยู่แล้ววันนี้ เมื่อเห็นว่าผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์นำกองทหารมาที่คฤหาสน์ส่วนตัวแห่งนี้ด้วยตัวเองแล้วก็มีความรู้สึกหวาดกลัวออกมาจากหัวใจของเว่ยเหล่าหู่ต่อมา เมื่อเขาเห็นผู้บัญชาการมู่เดินแหวกผู้คนมาตรงหน้าเย่เฟิง หัวใจของเขาก็ตกอยู่ที่ตาตุ่มไม่น่าล่ะ ตนไม่ได้ไปบาดหมางกับผู้บัญชาการคนนี้สักหน่อย!อีกฝ่ายมาเพราะเย่เฟิงสินะ?“น้องเย่ นายเป็นยังไงบ้าง? ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม?”มู่จ้านถามเย่เฟิงอย่างเป็นห่วงเย่เฟิงในขณะนี้ ทำหน้างงงันเช่นเดียวกันเขาเตรียมตัวจะเปิดศึกสังหารแล้ว จู่ๆ มู่จ้านก็นำกองทหารเขตรักษาความปลอดภัยบุกมาที่นี่ได้ยังไง?“ผู้บัญชาการมู่ คุณมาได้ยังไงครับเนี่ย?”เย่เฟิงถามเรียบนิ่งเมื่อได้ยินสรรพนามที่เย่เฟิงเรียกตนแล้ว มู่จ้านก็แอบถอนหายใจเบาๆ
เขาเว่ยเหล่าหู่ก็คงสามารถทำตัวอำนาจบาตรใหญ่ และเพลิดเพลินกับความรุ่งโรจน์และมั่งคั่งต่อไปได้!เว่ยเสี่ยวตงเอามือปิดหน้า ไม่กล้าพูดอะไรออกมา“ย่อตัวลง! เอามือกุมหัว!”เวลานี้ ทหารหลายคนเอาปืนจ่อเข้าที่ศีรษะของเว่ยเหล่าหู่ และเว่ยเสี่ยวตงเว่ยเหล่าหู่ที่ยังทำตัวไม่กลัวฟ้าดินเหมือนดั่งราชาเมื่อครู่นี้ ก็ต้องย่อตัวลงอย่างเชื่อฟัง“น้องเย่ จัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ช่วยไปที่เขตรักษาความปลอดภัยกับฉันหน่อยได้ไหม? มีทหารหลายคนที่ถูกศัตรูต่างถิ่นทำร้ายมา ตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว อยากขอให้นายช่วยที!”มู่จ้านหันกลับไปพูดด้วยน้ำเสียงรีบร้อนใจเย่เฟิงเลิกคิ้ว พูดในใจว่าเป็นอย่างนี้นี่เองไม่น่าล่ะผู้บัญชาการคนนี้ถึงได้พาทหารบุกมาช่วยตนต่อกรกับเว่ยเหล่าหู่ ที่แท้ก็มีเรื่องวานให้ตนช่วยนี่เอง?“ขอโทษนะครับ แต่ตอนนี้ผมไม่ว่าง!”เย่เฟิงปฏิเสธด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ถึงแม้คนของเว่ยเหล่าหู่จะไม่สามารถจับตัวไปได้ แต่เขาก็ยังไม่ได้เจอหน้านั่วนั่ว จึงยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านั่วนั่วแล้ว“น้องเย่ ฉันรู้ว่าก่อนหน้านี้ฉันทำให้นายไม่พอใจ แต่ไม่ว่ายังไงวันนี้ฉันกืถือว่าช่วยนา
เมื่อเห็นยอดฝีมือคิดจะโจมตีเย่เฟิง แล้วผู้บัญชาการมู่ช่วยเอาไว้นั้น เขากลับรู้สึกดีใจโดยเฉพาะตอนที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือระดับพลังแปรสภาพ เขาพลันส่งเสียง ‘ตกใจ’ ออกไปทันทีไม่ใช่เพราะตกใจในความสามารถของอีกฝ่าย แต่ตั้งใจส่งเสียงดังให้เย่เฟิงได้ยินต่างหากหรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ ‘ดูสิ ยอดฝีมือระดับพลังแปรสภาพจะฆ่านายเชียวนะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันช่วยเอาไว้ นายได้ตายแหง่แก๋!’คราวนี้ นายจะยังไม่ไปช่วยชีวิตคนกับฉันอีกเหรอ?ต่อจากนี้ ก็เป็นฉากการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือระดับพลังแปรสภาพทั้งสองคน ณ คฤหาสน์ฮั่วหู่แห่งนี้ปึง! ปัง! ปึงปัง…เสียงหมัดเสียงเท้าสู้กันดังขึ้นชัดเจน ผู้บัญชาการมู่ และฆาตกรเลือดเย็นสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใครบริเวณที่ทั้งสองสู้กันถูกเหยียบย่ำจนเป็นรอยเท้าอันน่าสะพรึงกลัว แถมรอบๆ รอยเท้ายังมีรอยเส้นเหมือนใยแมงมุมปรากฏขึ้นอีกด้วย“นี่น่ะเหรอ…ยอดฝีมือระดับพลังแปรสภาพ? แกร่งมาก!”“ยอดฝีมือระดับพลังแปรสภาพหายากมาก ความสามารถขนาดนี้คงมากพอที่จะไร้เทียมทานในเมืองหลวงแล้วมั้ง?”“…”เหล่าทหารจากเขตรักษาความปลอดภัย รวมทั้งลูกน้องของเว่ยเหล่าหู่ต่างก็เผยสีหน้าตะลึงงันพวกเ
แต่วินาทีต่อมา ฉากที่ทำให้ผู้บัญชาการมู่ต้องตะลึงตาค้างเกิดขึ้นแล้ว!เพราะฝ่ามือโลหิตของฆาตกรเลือดเย็น ห้านิ้วแยกออกมุ่งไปหาเย่เฟิงพลังนั่นน่ากลัวเหลือเกิน!แต่ในชั่วพริบตาเดียว เย่เฟิงก็ฟาดฝ่ามือออกไปเช่นเดียวกัน!โครม!หลังจากเสียงดังประดุจสายฟ้าลั่นดังขึ้น ฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวของฆาตกรเลือดเย็นก็ถูกเย่เฟิงฟาดออกอย่างเหี้ยมโหดโดยตรงจากนั้น เย่เฟิงก็ฉวยโอกาสตอนที่ฆาตกรเลือดเย็นเปิดช่องว่างให้โจมตีฟาดฝ่ามือลงบนศีรษะของเขาแรงๆ อีกทีหนึ่งเพี๊ยะ!แขวก!เสียงดังกรอบนี้ยังแฝงด้วยเสียงอะไรบางอย่างแตกหักอย่างรุนแรง!บริเวณส่วนหัวของฆาตกรเลือดเย็นเต็มไปด้วยหมอกโลหิต ร่างกายกระเด็นลอยออกไปตามด้วยเสียงร่วงหล่นพื้น หลังจากที่ยอดฝีมือระดับพลังแปรสภาพคนนี้ล้มลงกับพื้นนั้น ร่างกายของเขาก็กระตุกไปหลายที แล้วสิ้นลมหายใจในบัดดลเมื่อมองไปบริเวณส่วนล่างศีรษะของอีกฝ่าย จะเห็นคราบสีแดงสีขาวไหลนองอยู่ผืนหนึ่ง!นั่นคือเศษซากศีรษะที่ถูกเย่เฟิงระเบิดในฝ่ามือเดียวซี๊ด…ทันใดนั้น ทุกคนในที่เกิดเห็นเงียบสงัดสถานที่เกิดเหตุที่มีคนนับพันต่างเงียบไม่พูดอะไรสักคน!เว่ยเหล่าหู่ เว่ยเสี่ยวตง แล
เย่เฟิงพูดแล้วยื่นมือไปทุบๆ บนตัวของเว่ยเหล่าหู่ตามด้วยทุบที่แผ่นอกของเว่ยเสี่ยวตงเบาๆ สองทีการกระทำของเย่เฟิง ทำเว่ยเหล่าหู่ และเว่ยเสี่ยวตงสองพ่อลูกตกใจจนขวัญแทบหลุดออกมากลัวว่าเย่เฟิงจะฆ่าตนด้วยฝ่ามือเดียว!เข้าคุกไป พวกเขายังมีชีวิตรอดได้เป็นปี ไม่แน่อาจจะถูกปล่อยตัวออกมาก็ได้นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์การบริหารจัดการมาหลายปี รวมทั้งอำนาจที่สั่งสมมาหลายปีนี้ เผลอๆ เขาออกมายังสามารถใช้ชีวิตมั่งคั่งได้อีกด้วยแต่ถ้าถูกเย่เฟิงฆ่าตายด้วยฝ่ามือเดียวล่ะก็ จบบริบูรณ์แน่นอน“น้องเย่ อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม!”มู่จ้านเบิกตากว้าง แล้วเอ่ยเตือนเสียงขรึม จากนั้นก็โบกมือให้กับทหารใต้บังคับบัญชา “ยังไม่รีบพาคนไปอีก!”การฆ่าฆาตกรเลือดเย็นด้วยฝ่ามือเดียวไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมาก!เพราะการที่ถูกคนโหดร้ายและอันตรายสุดขีดโจมตีแบบนี้ จึงฆ่าอีกฝ่ายทิ้ง ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแต่เว่ยเหล่าหู่ และเว่ยเสี่ยวตงถูกจับตัวไว้แล้ว ถ้าหากเย่เฟิงลงมือต่อพวกเขา จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเห็นเหล่าทหารเปิดทางคุมตัวเว่ยเหล่าหู่สองพ่อลูก และลูกน้องคนอื่นๆ ไป ในตาลึกๆ ของเย่เฟิงก็ฉายแววเย็
“ยันต์สังหาร! หลังจากใช้งาน มันจะปลดปล่อยการโจมตีหนึ่งครั้งที่สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งระดับพลังแปรสภาพช่วงท้ายได้ในทันที...” เย่เฟิงอธิบายคุณสมบัติและวิธีใช้ยันต์นี้อย่างละเอียด!ยันต์นี้เป็นสิ่งที่เย่เฟิงสร้างขึ้นด้วยตัวเอง!โดยใช้วิชาวาดยันต์จากวิชาการแอบมองนภามังกร เขาได้ผนึกพลังปราณมังกรไว้ในยันต์นี้ ทำให้มันสามารถปลดปล่อยพลังเทียบเท่ากับแปดส่วนของพลังเต็มที่ของเย่เฟิงได้ ชายวัยกลางคนที่ฟังอยู่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “อืม... ฉันไม่สามารถตัดสินได้ด้วยตัวเอง คงต้องให้คนมาช่วยตรวจสอบก่อน” ไม่นานนัก ชายวัยกลางคนก็กลับมาพร้อมยันต์ในมือ เขายิ้มแห้งๆ พร้อมกล่าวว่า “คุณครับ ยันต์ของคุณ ไม่มีใครในทีมของเราสามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นของแท้หรือไม่แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือ มันมีคลื่นพลังงานอยู่จริง ดังนั้นเราจะอนุญาตให้นำไปประมูลได้” “คุณต้องการตั้งราคาขั้นต่ำเท่าไหร่ครับ?”ชายวัยกลางคนถาม “เริ่มต้นที่ 250 ล้านแล้วกัน”เย่เฟิงตอบหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง “250 ล้าน? ราคาสูงขนาดนี้เลยเหรอ?” ชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะเบะปาก “มีปัญหาอะไรรึเปล่า? ถ้าประสิทธิภาพของยันต์นี้เ
...หลายวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว!ในวันนี้ เย่เฟิงเดินทางมายังงานประมูลที่จัดขึ้นโดยตระกูลกู่พร้อมกับหลีหย่วนณ คฤหาสน์ส่วนตัวขนาดใหญ่กว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองทางตะวันตกของหยุนเฉิงซึ่งเป็นที่อยู่ของตระกูลกู่ และเป็นสถานที่จัดงานประมูลที่แห่งนี้ปกติจะไม่เปิดรับแขกทั่วไป ยกเว้นในวันจัดงานประมูลเท่านั้นตั้งแต่เช้าเวลา 8 โมง รถหรูหลากหลายรุ่นก็จอดเรียงรายอยู่ทั้งภายในและภายนอกพื้นที่ เย่เฟิงและหลีหย่วนจอดรถไว้ด้านนอก และเดินเข้ามาหลังจากผ่านการตรวจสอบ "อาหย่วน ช่วงนี้เจอปัญหาอะไรหรือเปล่า?"ระหว่างเดิน เย่เฟิงเหลือบมองหลีหย่วนก่อนจะเอ่ยถามตอนที่เย่เฟิงเห็นอีกฝ่ายวันนี้ ก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายมีเรื่องหนักใจบางอย่าง และขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา“ครับ?”หลีหย่วนชะงัก แล้วส่ายศีรษะ “ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่มีปัญหาเล็ก ๆ ผมจัดการเองได้""ถ้ามีอะไรก็บอกฉันได้นะ บางทีฉันอาจช่วยได้!" เย่เฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "รู้แล้วครับ ถ้าผมมีปัญหาจริงๆ จะมาหาพี่แน่นอน ฮ่าๆ..."หลีหย่วนตอบพร้อมหัวเราะเบา ๆ สิ่งที่หลีหย่วนไม่ได้บอกเย่เฟิง คือช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้คนที่ตระกูลหลี
อาจารย์คงในตอนนี้เริ่มเข้าใจสถานการณ์ จึงอธิบายให้สองพ่อลูกตระกูลเฉาฟังว่า "ก็เหมือนอาหารบางชนิดที่ไม่มีอันตรายเมื่ออยู่ลำพัง แต่ถ้ากินพร้อมกันอาจทำให้เกิดพิษได้!บ่อน้ำ ปลาที่ว่ายในน้ำ และกระจกแปดเหลี่ยม เมื่อแยกกันนั้นถือว่าเป็นของมงคล และบางครั้งยังช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อนำมาจัดวางรวมกันในรูปแบบนี้ กลับกลายเป็น ค่ายกลฮวงจุ้ยสังหาร! ไม่รู้ว่าใครกันที่มีฝีมือสูงส่ง แต่จิตใจกลับโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเย่ที่มองออก เชื่อเถอะว่าบ้านของประธานเฉาอาจไม่มีวันสงบสุขอีกต่อไป! พูดตรง ๆ นะครับ ถึงจะล้มละลาสยก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย!”คำพูดนี้ทำให้สองพ่อลูกตระกูลเฉาถึงกับตัวสั่น และแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว "หรือจะเป็นนักออกแบบสวนคนนั้น?" เฉาเหนียนสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ยังคิดไม่ตกว่าทำไมอีกฝ่ายถึงต้องการทำร้ายครอบครัวเขา ในใจเขาตั้งมั่นว่าจะตามหานักออกแบบสวนคนนั้นให้พบ และทำให้เรื่องนี้กระจ่าง แต่ในขณะเดียวกัน เฉาเริ่นกลับมองเย่เฟิงด้วยสายตาสงสัยเต็มเปี่ยม "คนแซ่เย่! แม้แต่อาจารย์คงยังดูไม่ออกเลย แล้วนายมาถึงก็จับได้ทันทีส
"ไม่ใช่ว่าคุณจะเอา 1.5 พันล้านหรือไง? ผมกับพ่อให้คุณ รีบช่วยแม่ฉันสิ!""นี่แกทำได้จริงไหมเนี่ย?"เฉาเริ่นที่ยืนอยู่ข้างๆ เร่งเย่เฟิงด้วยความร้อนรนจนแทบจะเสียสติ เย่เฟิงแค่นเสียงเย็น ๆ ก่อนจะกระทืบเท้ากระโดดออกจากหน้าต่างชั้นสองเมื่อถึงพื้น เขากระโดดอีกครั้ง และต่อยหมัดตรงไปยังกระจกแปดเหลี่ยมที่แขวนอยู่หน้าประตู เพล้ง!กระจกแปดเหลี่ยมทองเหลืองแตกละเอียดด้วยหมัดของเย่เฟิง!"คุณทำบ้าอะไรน่ะ? นั่นมันเอาไว้ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายนะ!"เฉาเริ่นที่มองลงมาจากหน้าต่างชั้นสองถามด้วยความตกใจและสงสัย "เรียบร้อยแล้ว!" "คุณนายปลอดภัยแล้ว!" ทันใดนั้น มีเสียงร้องตะโกนดังขึ้น เพียงเห็นคุณนายเฉาที่ก่อนหน้านี้ยังคลุ้มคลั่งพยายามผูกคอตาย พอหลังจากกระจกแตก เธอก็ร่างอ่อนลงและหมดสติไปทันที เฉาเหนียนรีบเข้าไปตรวจดูอาการภรรยา และถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก เธอในตอนนี้หายใจได้ปกติ เพียงแค่หมดสติเท่านั้น ไม่นานหลังจากที่แน่ใจว่าอาการของคุณนายเฉาไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนก็ออกมาพูดคุยกันที่สวน "คุณเย่ ขอบคุณมาก! ขอบคุณจริง ๆ!" เฉาเหนียนกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงจริงใจ "ไม่ต้องขอบคุณหรอ
เย่เฟิงกำลังนอนหลับฝันดี จู่ๆ ก็ได้รับสายจากเบอร์แปลกหน้า“ใครครับ?”เย่เฟิงถามสะลึมสะลือ เมื่อมองเวลาถึงจะรู้ว่ามันดึกแล้ว“คุณเย่ คุณช่วยแม่ผมได้จริงเหรอ?”ในโทรศัพท์ น้ำเสียงที่รีบร้อนพลันดังขึ้นเย่เฟิงตอบ ‘หืม?’ ไปเบาๆ แล้วรู้ทันที “เฉาเริ่น?”“ใช่! ฉันเอง!”“ถือว่านายทำนายแม่น! แม่ฉันเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ นายช่วยแม่ฉันได้จริงๆ ใช่ไหม?”เฉาเริ่นลังเลเล็กน้อย แล้วถามเสียงขรึมเขาได้รับเบอร์ติดต่อของเย่เฟิงมาจากถงซวี่เย่“ได้สิ! แต่ฉันบอกแล้วว่าถ้ามาหาผมอีกราคาเพิ่มเป็น 1.5 พันล้าน!”เย่เฟิงตอบนิ่งๆ“ได้! ได้ๆ!”เฉาเริ่นกัดฟัน แล้วตอบตกลงถึงแม้จะโกรธที่เย่เฟิงเรียกร้องเงินแบบไม่มีเหตุผล แต่ตอนนี้เรื่องความปลอดภัยของแม่สำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น ถ้าจำเป็นก็ต้องยอมไปก่อน! หนึ่งชั่วโมงให้หลัง เย่เฟิงถูกเฉาเริ่นพาตัวมายังคฤหาสน์ของตระกูลเฉา สมกับเป็นตระกูลที่ทำธุรกิจก่อสร้าง ตัวคฤหาสน์ส่วนตัวกินพื้นที่กว้างขวางมาก การจัดตกแต่งภายในสวนก็ดูพิถีพิถันสุดๆ ทั้งบ่อน้ำ สวนหิน สระว่ายน้ำ มีครบทุกอย่าง! “คนนี้คือคุณเย่ใช่ไหม?” เฉาเหนียนออกมาต้อนรับ แต่เมื่อเห็นเย่เฟิงที่เด
"งั้นก็ถือว่าเป็นเกียรติแล้ว!" อาจารย์คงกล่าวพลางยิ้มรับ หลังจากนั้น เฉาเหนียนสั่งให้พ่อครัวในคฤหาสน์จัดเตรียมอาหารมื้อดึกอย่างประณีต พร้อมนั่งร่วมโต๊ะกับเฉาเริ่นและอาจารย์คงเพื่อดื่มกินกันอย่างเพลิดเพลิน บรรยากาศในห้องอาหารเป็นไปอย่างรื่นรมย์ แต่แล้ว เสียงดังแปลกๆ ก็ดังขึ้นจากชั้นบน จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของหญิงสาวเสียงร้องไห้ครั้งนี้ฟังดูเจ็บปวดและหวาดเสียวกว่าเดิม ทำให้ผู้คนขนลุกซู่ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องอาหารต่างหน้าซีดเผือด รีบพากันขึ้นไปชั้นบน คุณนายเฉาในสภาพผมยุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่ำและมีน้ำตาเป็นสีเลือดไหลรินออกมาไม่หยุดขณะนี้ เธอนำผ้าปูเตียงที่ตัดเป็นเส้นๆ มาเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นเชือกยาว แล้วแขวนไว้กับโคมไฟกลางห้อง "ฮือ... ฮือๆ..." ในขณะที่ร้องไห้ เธอก็ปีนขึ้นไปบนขอบเตียง ตั้งท่าจะนำคอเข้าไปในบ่วงเชือกนั้นเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังพยายามปลิดชีวิตตัวเอง! "ที่รัก!" เฉาเหนียนร้องเสียงหลง สีหน้าซีดเผือด รีบพุ่งเข้าไปห้ามเธอ แต่แรงของคุณนายเฉาในตอนนั้นเหมือนไม่ใช่ของมนุษย์ธรรมดา เธอถีบเฉาเหนียนกระเด็นไปกระแทกกำแพง แล้วทิ้งตัวแขวนคออยู่กับเชือก ท่อนขา
กลางดึกคืนนั้น เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นในคฤหาสน์ส่วนตัวของตระกูลเฉา “ฮือ...ฮือๆ...”ในคฤหาสน์ส่วนตัวของตระกูลเฉา เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้ ฟังดูน่าขนลุกเฉาเริ่นและเฉาเหนียนผู้เป็นพ่อยืนอยู่ในห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจและสงสัย เบื้องหน้าของทั้งสองคือคุณนายเฉา ที่นั่งอยู่บนพื้นห้องในสภาพเสียสติ ร้องไห้ไม่หยุด แถมยังใช้กรรไกรตัดผ้าปูที่นอนจนขาดเป็นเส้นๆ “นี่มันอะไรกัน? ที่รัก คุณเป็นอะไรไป?”เฉาเหนียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สะท้านไปด้วยความหวาดกลัว การที่คนข้างกายลุกขึ้นมากลางดึกและเริ่มแสดงพฤติกรรมแปลกประหลาดเช่นนี้ ย่อมทำให้ใครก็ต้องขนลุก ส่วนคุณนายเฉาไม่เพียงแต่แค่ร้องไห้เท่านั้น แต่ยังดูเสียสติด้วยเธอร้องไห้ไปด้วยถือกรรไกรไปด้วย พร้อมกับตัดผ้าปูเป็นเส้นๆแต่ไม่ว่าจะเรียกหรือถามอย่างไร คุณนายเฉาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตอบ ไม่ว่าเฉาเหนียนและลูกชายเฉาเริ่นจะเรียกเธอยังไง เธอก็ไม่ตอบสนองคล้ายเป็นคนเสียสติ“พ่อ...หรือว่าแม่จะโดนของ?”เฉาเริ่นถามด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวและเต็มไปด้วยความสับสน “เร็วเข้า! เรียกอาจารย์คงมาดูหน่อย!”เฉาเหนียนรีบร้อนสั่งลูกชาย
ถงซวี่เย่ยิ้มพลางถาม เฉาเริ่นหน้าตึงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดกับเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจนัก “ขอบใจ!” เย่เฟิงได้ยินแล้วก็ยิ้มเยาะเล็กน้อย พลางถามกลับ “ขอบคุณยังไงล่ะ?” เขาไม่ได้ติดเรื่องช่วยคนอื่น แต่ติดเรื่องช่วยเหลือคนอื่นแล้ว อีกฝ่ายยังแสดงท่าทีไม่รู้บุญคุณอีกดังนั้น เขาเองก็ไม่ไว้หน้าเฉาเริ่นเช่นกัน!เมื่อได้ยินดังนั้น เฉาเริ่นถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วถามกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ “แล้วนายอยากให้ขอบคุณยังไง? จะเอาเงินรึไง?” ในน้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด!แต่เย่เฟิงกลับพยักหน้าตอบหน้าตาย “เอาสิ! ขอสัก 90 ล้านแล้วกัน”ได้ยินดังนั้น เฉาเริ่นเบิกตากว้าง มองเย่เฟิงด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธจัด ถงซวี่เย่เองก็อึ้งไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าเย่เฟิงจะพูดเอาเงินตรงๆ แบบนี้ “นายนี่กล้าดีจริงๆ นะ ยังจะ 90 ล้านอีก? นี่นายจนจนคลั่งไปแล้วใช่ไหม? หรือว่าคุณหนูใหญ่หลีไม่ให้เงินใช้?” เฉาเริ่นพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “ถ้าเกิดอุบัติเหตุในไซต์งานนี้ นายต้องจ่ายค่าชดเชยไปเท่าไหร่? ไหนจะค่าเสียหายจากการหยุดงาน และผลกระทบในแง่ลบต่อชื่อเสียงบริษัทอีก? บร
“ถ้าขุดเจออะไรสกปรกจริงๆ ฉันจะกินมันเข้าไปเลย!”อาจารย์คงพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แสดงออกถึงความเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง “เล่นใหญ่ขนาดนี้เชียว?”เย่เฟิงส่ายหัวพลางถอนหายใจ รถขุดเริ่มทำงานตามจุดที่เย่เฟิงชี้ไว้ขณะที่เย่เฟิงยืนดูอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ถงซวี่เย่เองก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาจับจ้องไม่กะพริบส่วนเฉาเริ่นกับอาจารย์คงยืนกอดอกอยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ขุดลึกลงไปได้สี่ถึงห้าเมตร แต่กลับพบเพียงก้อนหินรกๆ เท่านั้น“ตลกจริงๆ! ไอ้ที่นายบอกมันอยู่ไหนล่ะ? ไม่รู้รึไงว่าฉันมีชื่อเสียงขนาดไหนในวงการฮวงจุ้ย กล้ามาสงสัยในฝีมือฉันเนี่ยนะ? ไอ้หนุ่ม จ่ายค่าเสียหายมาเลย ฉันไม่เอาเยอะ สักห้าล้านพอ!”อาจารย์คงพูดด้วยความภูมิใจ “คุณเย่ ถ้าคุณไม่มีเงินจ่าย ก็ขอโทษอาจารย์คงซะ เดี๋ยวผมจะช่วยพูดให้ แล้วปล่อยให้เรื่องนี้จบๆ ไปอย่ากลับไปขอเงินคุณหลีเลยนะ แบบนั้นมันไม่ดี” เฉาเริ่นพูดพลางเย้ยหยัน “คุณชายเฉา จะขุดต่อไหมครับ?”คนงานของเขาเอียงศีรษะออกมาถาม“ขุดต่อไป!” เย่เฟิงพูดเสียงเรียบ ไม่สนใจคำพูดของอาจารย์คงและเฉาเริ