แชร์

บทที่ 38

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ภายในห้องนอน ใช้เวลาเพียงไม่นานหลังจากที่ฟังเรื่องราวของเฟนด์ ไคลีก็เผลอหลับไป

ทันย่าก็มาถึงบ้านของครอบครัวเดรกแล้ว เธอเข้าไปหาพ่อของเธอ

"เป็นยังไงบ้าง แกเจอผู้ชายที่ชื่อเฟนด์ไหม"

เจมส์ถามทันย่าอย่างกระตือรือร้นทันทีที่เห็นเธอ

ทันย่ารินไวน์ให้ตัวเองครึ่งแก้ว เธอหมุนแก้วไปรอบ ๆ ก่อนจะจิบ แล้วเธอก็พูดว่า “ใช่ หนูเจอเขา เขาค่อนข้างดูดี และเป็นสุภาพบุรุษมาก!”

เจมส์พูดไม่ออก "ฉันขอให้แกชื่นชมใบหน้าของเขางั้นหรือ ฉันให้แกติดต่อเขาแล้วตีสนิทกับเขา ฉันคิดว่ามันมีเพื่อนอีกคน ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ดีเท่าเทพเจ้าแห่งสงครามลาน่า แต่พวกเขาก็คล้ายกันมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาและลาน่าสนิทกัน การตีสนิทกับพวกเขาหมายความว่าเราจะรู้จักเทพเจ้าแห่งสงครามมากขึ้น”

ทันย่าจิบไวน์ของเธออีกครั้ง เธอวางแก้วของเธอลงบนโต๊ะและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "พ่อ หนูไม่เข้าใจถ้าเราอยากประจบประแจงเทพเจ้าแห่งสงครามจากอาณาเขตกลาง ทำไมเราไม่ตามไปตอแยลาน่าไปซะเลย ทั้ง ๆ ที่สถานะของเฟนด์ก็ไม่ได้สูงและเขาไม่สามารถเก่งไปกว่าเทพเจ้าแห่งสงครามใช่ไหม?”

“ฮ่า ๆ แกนี่ไม่รู้อะไรเลย"

ดวงตาของเจมส์แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของสติปัญญา เขา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 39

    “อีวานมีเรื่องอะไร? ลูกนัดทุกคนมารวมตัวกันเวลาเช้าขนาดนี้ มีเรื่องอะไรสำคัญที่จะบอกพวกเรางั้นเหรอ?”ธีโอดอร์ หัวหน้าครอบครัวเทย์เลอร์ ถามด้วยความสับสนขณะที่เขามองไปที่ลูกชายของเขา“ผมมีข่าวดีสำหรับทุกคน ผมได้รับโปรเจกต์ใหญ่ในครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือเราไม่เคยทำงานในโปรเจกต์ราคาแพงขนาดนี้มาก่อน ผมคาดว่าเราจะมีรายได้อย่างน้อย 300 ล้านดอลลาร์จากโปรเจกต์นี้"อีวานยิ้มขณะที่เขาพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจเขาเชื่อว่าไมเคิลเป็นคนพูด เขาจึงไม่สามารถกลั้นความตื่นเต้นที่มีอยู่นั้นได้ มือได้ของเขาสั่น เขาเรียกทุกคนมาแล้วเล่าสิ่งนี้ให้ฟัง“ยอดเยี่ยมไปเลย นี่มันจะต้องเป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่จริง ๆ !"“ถูกต้อง นายน้อยอีวานเป็นคนเก่ง เขาสามารถทำให้เราได้โปรเจกต์ใหญ่ขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลกำไร มันต้องสูงมากแน่นอนญาติบางคนจากครอบครัวเทย์เลอร์ ต่างเอ่ยปากชื่นชมอีวาน"จริงเหรอนี่? ลูกได้เซ็นสัญญารึเปล่า?"นายใหญ่เทย์เลอร์ มีความสุขมากหลังจากที่ได้ยินข่าว มันจะเป็นผลกำไรมหาศาล เป็นเวลานานพอสมควรที่ครอบครัวเทย์เลอร์เคยได้รับโปรเจกต์ครั้งสุดท้าย ซึ่งมีมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสนใจกับโป

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 40

    “คุณต้องการเชิญพวกบ้านนอกมา? นายน้อยอีวาน คุณกำลังจะพยายามโอ้อวดใช่ไหม? เซซิลีอา ก้าวไปข้างหน้าไม่ทันคาดคิด และเปิดเผยความตั้งใจของอีวานจนหมดอีวานหน้าเสียทันที เขาอธิบายอย่างรีบร้อน “พูดเรื่องไร้สาระอะไร? ฉันดูเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”อีวานเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ยังไงซะ เซเลน่าก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเทย์เลอร์ เธอก็เป็นหลานสาวของคุณปู่เช่นกัน งานนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัวเทย์เลอร์ การเชิญเธอมาร่วมงานก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเราเช่นกัน ผู้ที่มีอิทธิพลรอบข้าง จะได้ไม่มองว่าเราแล้งน้ำใจ ถ้าพวกเขารู้ว่าเราไม่ได้เชิญเธอมา ถึงจะเพิ่มมาอีกสักสองสามคน ก็คงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอะไรมากมายจริงไหม?นายใหญ่เทย์เลอร์ รู้สึกพึงพอใจ “ที่จริงอีวานก็เริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น วันนี้แกโตเป็นผู้ใหญ่ เริ่มมีความคิดแล้ว แกต้องรักษาความคิดนี้เอาไว้ หากแกต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตหลังจากนั้น ช่วงเวลาห้าปีหลาย ๆ คนก็ลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไปแล้ว คงไม่แปลกหรอกที่จะชวนพวกเขามากินอาหารร่วมกัน!” “คุณปู่พูดถูกจริง ๆ นั่นคือความตั้งใจของผม ผมอยากให้พวกเขารู้ว่าเรามีน้ำใจต่อพวกเขาม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 41

    “ฮ่า ฮ่า นี่มันเป็นของแม่ แม่เอาไปเลย!”เฟนด์ หัวเราะและนำเงินไปก้อนนั้นไปไว้ในมือของโจแอน ดวงตาของฟีโอน่าเปล่งประกายขึ้นทันทีเมื่อเธอเห็นสิ่งนี้ เธอเดินไปเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “นี่ไอ้เด็กเหลือขอ แกให้เงินแม่ของแกแค่บางส่วนเท่านั้นเหรอ? แล้วพวกฉันล่ะ? ฉันดูแลลูกของแก แถมยังต้องทนทุกข์ทรมาน ทำไมถึงไม่ให้อะไรกับพวกฉันเป็นค่าตอบแทน? แกควรจะให้เงินที่ฉันต้องหมดไปกับการเลี้ยงดูลูกของแก มันถูกต้องใช่หรือไม่?”เจนนี่ คนรับใช้ไม่สามารถอยู่เฉยได้อีก เธอพึมพำขึ้นมา “ตลอดช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา คูณไม่ได้ออกไปทำงานเลย แล้วคุณจะเอาเงินมาจากไหนมาดูแลหนูไคลี เงินที่ดูแลหนูไคลีก็ได้มาก็ได้จากแม่ของเธอเก็บขยะขาย และโจแอนที่ออกไปทำงานนอกบ้าน คุณไม่ได้ควักเงินสักบาทแล้วคุณจะกล้าขอค่าตอบแทนได้อย่างไร?”หลังจากได้ยินแบบนั้น ฟีโอน่าพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “นังโง่ แกกำลังพูดถึงอะไร? เป็นแค่สาวอย่ามาเสนอหน้ายุ่งเรื่องของเจ้านาย”“แม่! จริง ๆ แล้วถ้าแม่ต้องการเงิน แม่แค่ยอมรับว่าที่ลูกเขยคนนี้ไม่เห็นมีอะไรยากเลย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะให้เงินแม่ไปทำไม”เซเลน่าเดินมาหาแม่ของเธอ เธอกลอกตามองไปที่แม่ขอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 42

    “ฮ่า ฮ่า แม่ไม่ต้องห่วง ผมหมายความอย่างที่ผมพูด! เอาเงินนี้ไปซื้อของใช้ของเซเลน่า และลงทะเบียนเรียนของไคลี ที่โรงเรียน!” เฟนด์พูดอย่างอารมณ์ดีกล่าวฟีโอน่าเย้ยหยัน “ฮึ! ยังดีที่แกยังรู้ตัว!”ก่อนที่เงินสดจะถูกหยิบขึ้นมาทั้งหมด อยู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กสาวที่มีรอยสักบนแขนทั้งคู่ดูเหมือนจะอายุประมาณ 18 หรือ 19 ปีชายหนุ่มผมสีบลอนด์ เขาเจาะหูข้างนึง“ว้าว...เงินสดเยอะมาก!”ชายหนุ่มวิ่งเข้าเมื่อเห็นเงินสด เขาหยิบมันขึ้นมาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พระเจ้านี่มันเงินทั้งนั้น! ยังมีบางส่วนอยู่ในกระเป๋าด้วย ต้องมีเงินเป็นล้านนี่ใช่มั้ย? ฉันไม่ได้เห็นเงินมากขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้ว!”“แกเป็นใคร? วางมันลง!”เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มทำหน้าโกรธ เฟนด์จ้องมองตรงไปที่ชายคนนั้นและพูดอย่างเย็นชา“คุณ… คุณเป็นใคร”ชายหนุ่มมองกลับไปที่เฟนด์ Fane และตกใจมากกับสายตาที่เฉียบคมของเฟนด์ ทำให้เขาทิ้งเงินสดที่ถืออยู่ในมือ“เฟนด์คุณโกรธอะไร? คุณจำเบ็นไม่ได้อีกแล้วเหรอ”ฟีโอน่ามองไปที่เฟนด์“เบ็น?”เฟนด์ งงไปชั่วขณะก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ “อ้อ เบ็นนี่เอง ตอนที่ผมจากไป ตอนนั้นเขาอายุแค่ 1

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 43

    “ยิ่งไปกว่านั้นเฟนด์ เป็นคนที่ทำให้พี่ตกอยู่ในสภาพนี้ แต่พี่ก็ยังจะเข้าข้างเขา ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเธอคิดอะไรอยู่” เบ็นยังคงพูดออกตัวแทนซีน่า“ถึงยังไงเราก็มีทะเบียนสมรส เราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นเราจึงเป็นครอบครัวเดียวกัน! นายพูดเองว่าซีน่ายังไม่ได้แต่งงานกับนาย ในอนาคตเราจะเป็นครอบครัวเดียว แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ควรเข้ามายุ่งเรื่องของครอบครัวเราในตอนนี้!”เซเลน่ายืนกอดอกและจ้องมองเธอ ดูเหมือนว่าเธอมีจะอคติกับซีน่า“ฉันไม่สนใจมันอยู่แล้ว มันคือความสุขของเธอ หากเธอเต็มใจที่จะแต่งงานกับทหารผู้ชายที่ไร้ประโยชน์ เราจะทำอะไรกับมันได้!”“เขาไม่ใช่สาเหตุของการที่เธอมาอยู่แบบนี้ในวันนี้หรือ? ถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้ทำเรื่องโง่ ๆ ป่านนี้เธอคงจะเป็นประธานของ เทย์เลอร์ กรุ๊ป ไปแล้วในตอนนี้! น่าเสียดายจัง ที่ไม่ได้เป็นอีกต่อไปแล้ว!” ซีน่าพูดพลางกอดอกแล้วมองที่หน้าของเธอ“ถ้าไม่อยากสนใจ ก็เงียบปากไปซะ!” เฟนด์พูดอย่างเย็นชาหลังจากเห็นว่าเธอปฏิบัติต่อเซเลน่าอย่างไร"แก… "ซีน่าโกรธมาก เธอจนหายใจเข้าอย่างแรง การแสดงออกของเธอดูน่ากลัว“แกมันเลว แกทำให้ครอบครัวของ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 44

    "แม่ครับ แม่ได้เงินมาจากไหน" ซีน่าวิ่งเข้ามาและเรียกฟีโอน่าว่า "แม่" ฟีโอน่า อึ้งไปสักพักหนึ่งก่อนจะดูตอบเธอว่า “เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ? ก่อนหน้านี้ เธอไม่ใช่เรียกฉันว่าคุณน้าหรอกเหรอ”ซีน่า เริ่มรู้สึกละอาย เธอพูดด้วยความกระดากใจว่า “น้าคะ หนูขอโทษ ที่จริงหนูอยากเรียกน้าว่า ‘แม่’ มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่หนูไม่กล้าพอที่จะทำแบบนั้น ฉันเพิ่งจะมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ฉันอยากทำตอนนี้!”“ดีมากลูกสาว หนูควรเรียกจะฉันว่า "แม่" ไม่ใช่ "น้า" ฉันรู้สึกชอบหนู งั้นต่อไปนี้หนูเรียกฉันว่า "แม่" ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าหนูจริงจังกับเบ็น ยังไงอนาคตข้างหน้าก็ต้องได้แต่งงานสักวันหนึ่งถูกไหม” ฟีโอน่า ยิ้มอย่างมีความสุขมาก ใบหน้าของเธอมีแต่รอยยิ้ม“แม่ แม่ยังไม่ได้บอกเลยว่าเอาเงินมาจากไหน? ทำไมมีเงินมากมายขนาดนี้ เป็นไปได้ไหมว่าจะมีนายน้อยที่ไหน มาขอพี่สาวแต่งงาน แล้วยกเงินนี้ให้เป็นสินสอด” เบ็นถามอย่างตื่นเต้น เขาอยากจะให้พี่สาวของเขาแต่งงานอีกครั้งกับคนรวย เพื่อที่ชีวิตครอบครัวของเขาจะได้ดีขึ้นอีกครั้ง “มันไม่ใช่สินสอด!”ฟีโอน่าฝืนยิ้มก่อนที่จะมองเฟนด์แล้วพูดว่า “มันเป็นเงินของไคลี เขาให้เงิน 950,000

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 45

    ฟีโอน่าเอาเงินอีก 50,000 เหรียญให้พร้อมรอยยิ้ม "ขอบคุณค่ะแม่!" ซีน่า ขอบคุณ ฟีโอน่า อย่างดีใจ เฟนด์ไม่สนใจพวกเขา เขาเข้าหาไปแอนดรูว์ “พ่อ ผมรักษาขาของคุณได้!” “นายทำได้จริงเหรอ”แน่นอนว่าแอนดรูว์อยากให้ขาของเขาฟื้นตัว เมื่อเฟนด์พูดถึงมันดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาก็สว่างขึ้น“แกพูดเกินจริงหรือเปล่า? แม้แต่หัวหน้าโรงพยาบาลกระดูกที่รักษาขาของพ่อ เขายังบอกว่าไม่มีอะไรรักษาได้ แล้วแกจะรักษาได้อย่างไร”เบ็นเดินเข้ามาและพูดว่า “ฉันจำได้ว่านายเคยเป็นเด็กส่งของก่อนที่จะรับใช้ในกองทัพ หลังจากเป็นทหารมาห้าปีตอนนี้คุณรู้วิธีรักษาคนแล้วหรือ? เป็นไปได้ไหมที่คุณเข้าร่วมทีมแพทย์เพื่อรักษาผู้บาดเจ็บ”“ไม่น่าแปลกใจที่เขาทำให้มันดีขึ้นมาได้หลังจากใช้เวลาห้าปีในสมรภูมิ เขาไม่ได้เป็นกองหน้าเลยเขาแค่รักษาผู้บาดเจ็บ!”ซีน่า ยืนกอดอกต่อหน้าหน้าเขา เธอและพูดอย่างประชดประชันว่า “ฉันก็คิดว่าเขาเป็นฮีโร่ แต่เขาก็เป็นแค่ตัวสำรอง ฮ่า ฮ่า!”เฟนด์ ไม่ได้ให้ความสนใจทั้งคู่ และพูดกับแอนดรูว์ว่า “พ่อไม่ต้องกังวล คุณเป็นพ่อของเซเลน่าและนั่นก็ทำให้คุณเป็นพ่อของผมเช่นกัน ผมจะไม่ทำร้ายคุณ!”หลังจากได้ยินคำพูดที่จริง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 46

    “โรงแรมดอร์เซต? ใช่โรงแรมดอร์เซตที่มีชื่อเสียงใจกลางเมือง? โรงแรมระดับห้าดาวที่มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำหนึ่งแสนเหรียญ?”ซีน่า ถามอย่างตื่นเต้นหลังจากได้ยินเรื่องนี้“แน่นอน โรงแรมดอร์เซต ที่มีสาขาอีกมากมายหลายแห่ง?”ใบหน้าของฟีโอน่าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เธอคร่ำครวญ “ในที่สุดนายใหญ่ ก็ยอมปล่อยให้พวกเราไปทานอาหารกลางวันกัน เขาไม่เคยโทรหาเราเพื่อฉลองอะไรแบบนี้มาก่อน!”“เยี่ยมไปเลยค่ะ ดูเหมือนว่า นายใหญ่เทย์เลอร์ จะค่อย ๆ ยอมรับพวกคุณแล้ว!”ซีน่า ยิ้มอย่างตื่นเต้นก่อนจะพูดอย่างเขิน ๆ ว่า “แม่คะ หนูขอไปด้วยคนได้ไหม”ฟีโอน่าลอยตัวจากการถูกเรียกว่า ‘แม่’ เธอพยักหน้า “แน่นอนจ้ะ หนูเป็นแฟนของลูกชายฉัน และว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตของฉัน หนูสามารถทานอาหารกลางวันกับเราได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องกังวล!”“มันยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ!”ฟีโอน่านึกถึงบางสิ่งบางอย่างและพูดว่า “ใช่แล้วมันยังพอมีเวลาอยู่ เบ็น พา ซีน่า ไปซื้อของสิลูก เธออุตส่าห์มาหาลูกในวันนี้!”"ใช่! ไปกันเลย!”เบ็น คว้าเงินห้าหมื่นเหรียญและจากไปพร้อมกับ ซีน่า ทันที“แม่คะ มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะคะที่จะพา ซีน่า ไปด้วย?”หลังจากทั้งคู่จากไ

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status