แชร์

บทที่ 46

ผู้แต่ง: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“โรงแรมดอร์เซต? ใช่โรงแรมดอร์เซตที่มีชื่อเสียงใจกลางเมือง? โรงแรมระดับห้าดาวที่มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำหนึ่งแสนเหรียญ?”

ซีน่า ถามอย่างตื่นเต้นหลังจากได้ยินเรื่องนี้

“แน่นอน โรงแรมดอร์เซต ที่มีสาขาอีกมากมายหลายแห่ง?”

ใบหน้าของฟีโอน่าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เธอคร่ำครวญ “ในที่สุดนายใหญ่ ก็ยอมปล่อยให้พวกเราไปทานอาหารกลางวันกัน เขาไม่เคยโทรหาเราเพื่อฉลองอะไรแบบนี้มาก่อน!”

“เยี่ยมไปเลยค่ะ ดูเหมือนว่า นายใหญ่เทย์เลอร์ จะค่อย ๆ ยอมรับพวกคุณแล้ว!”

ซีน่า ยิ้มอย่างตื่นเต้นก่อนจะพูดอย่างเขิน ๆ ว่า “แม่คะ หนูขอไปด้วยคนได้ไหม”

ฟีโอน่าลอยตัวจากการถูกเรียกว่า ‘แม่’ เธอพยักหน้า “แน่นอนจ้ะ หนูเป็นแฟนของลูกชายฉัน และว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตของฉัน หนูสามารถทานอาหารกลางวันกับเราได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องกังวล!”

“มันยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ!”

ฟีโอน่านึกถึงบางสิ่งบางอย่างและพูดว่า “ใช่แล้วมันยังพอมีเวลาอยู่ เบ็น พา ซีน่า ไปซื้อของสิลูก เธออุตส่าห์มาหาลูกในวันนี้!”

"ใช่! ไปกันเลย!”

เบ็น คว้าเงินห้าหมื่นเหรียญและจากไปพร้อมกับ ซีน่า ทันที

“แม่คะ มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยนะคะที่จะพา ซีน่า ไปด้วย?”

หลังจากทั้งคู่จากไ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 47

    "นี่เธอ พูดจริงใช่ไหม ถ้าเขาไม่หายอย่างที่เธอพูดในตอนนั้นเธอจะต้องหายไป!” ฟีโอน่าพูดขณะที่เธอจับคอเสื้อของเฟนด์ เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน“แม่ ก็จะได้รู้ว่ามันกลับมาใช้งานได้ภายในสองวันจริงหรือไม่!” เฟนด์ตอบด้วยรอยยิ้ม“ตกลง พวกเราจะรอดู!”หลังจากพูดอย่างนั้นฟีโอน่าก็มองไปที่กระเป๋าที่ใส่เงินสดแล้วเอากลับเข้าไปเก็บในบ้านเพื่อหาที่ซ่อนเมื่อใกล้ถึงเวลาเที่ยง เบ็น ก็กลับมาพร้อมกับ ซีน่า และเสื้อผ้าอีกสองสามชุด เธอดูสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมไคลี เองแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ เฟนด์ เลือกให้เมื่อวานนี้ เธอดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมากหลังจากทำการซักแห้งชุดที่ซื้อมาเมื่อวานนี้ เซเลน่า สวมชุดสง่างามและทำให้ภาพลักษณ์อันหรูหรางดงามของเธอ บดบังรัศมีของ ซีน่า อย่างเห็นได้ชัดในทันที“พี่สาว คุณดูสง่างามมากและคู่ควรกับตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดของเมืองเราจริง ๆ ถึงแม้ว่าลูกของคุณอายุก็ไม่น้อยแล้วและร่างกายของคุณยังดูน่านึ่งมากอยู่ดี ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณผ่านการแต่งงานมาแล้ว!” ซีน่า เดินไปและเริ่มกล่าวชม เซเลน่า ทันที“ฉันคงสู้สาว ๆ แบบเธอไม่ได้หรอก เธอดูสดใสมากกว่าฉันอีกนะ!” เซเลน่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 48

    "เฮ้ เฮ้ มันเกิดอะไรขึ้น? นายน้อยวิลสัน ทำไมคุณถึงฉีกมัน? วันนี้เราตกลงเซ็นสัญญากันไม่ใช่เหรอ”อีวาน ตกตะลึงในสิ่งที่เกิดขึ้น สัญญาณบางอย่างดังเตือนในหัวของเขา ตระกูลเทย์เลอร์ กำลังรอให้เขากลับบ้านและเฉลิมฉลอง แต่ทั้งหมดนี้อาจจะพังพินาศใช่หรือไม่?“เซ็นชื่อห่าเหวอะไร!”นายท่านวิลสัน นั่งบนโซฟาและพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “เมื่อคืนฉันไม่ได้ดื่มกาแฟหรือทำอะไรที่อยากทำเลย ไม่เพียงแค่นั้นแต่ชื่อเสียงของฉันถูกทำลาย แม้แต่ร้านอาหารของฉันก็ถูกทำลายทิ้ง และฉันไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรสักคำตลอดการเหตุการณ์นั้น!”“เป็นไปได้ยังไง? เกิดอะไรขึ้น?"“ผมรู้แล้วเพราะ ไอ้สารเลวเฟนด์ ใช่หรือเปล่า? ไอ้คนที่กล้าทำลายร้านอาหารของคุณทิ้งใช่ไหม”“เดี๋ยวก่อนมันไม่ถูกต้อง ลูกน้องของคุณอยู่ที่ไหนกันหมด คุณมีลูกน้องพวกนี้เยอะไม่ใช่เหรอ? พวกเขาไม่สามารถสู้กับ เฟนด์ ได้หรือ?”อีวาน สูดหายใจเข้าอย่างแรง เขาคิดว่าเมื่อคืน ไมเคิล คงจะประสบความสำเร็จในเรื่องของเซเลน่า และคาดไม่ถึงว่าจะมันจะไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเขาไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ถึงจะได้รับความยินยอมจาก เซเลน่า แล้วก็ตามไมเคิลรู้สึกโกรธเมื่อคิดถึ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 49

    “ใช่ แม้แชมเปญจะหมด นายท่านใหญ่ก็จะใช้เงินเหล่านี้หมดเงินไปกับงานฉลองคราวนี้ให้โต๊ะละล้านเหรียญอย่างฟุ่มเฟือยไปมากแค่ไหนกัน!”“อีวาน ทำให้พ่อของเขาภูมิใจในครั้งนี้ กำไรจากโครงการนี้เพียงอย่างเดียวคือสามร้อยล้านเหรียญ ดูเหมือนว่าโครงการนี้จะใหญ่มากเลยทีเดียว!”ตระกูลเทย์เลอร์ กำลังพูดถึงอีวานในขณะที่ ธีโอดอร์ ดูจะมั่นใจประตูห้องส่วนตัวก็ได้เปิดออก ฟีโอน่าและแอนดรูว์เดินเข้ามาพร้อมกับเซเลน่าและคนอื่น ๆ“ฟีโอน่าเธอไม่ใช่คนสำคัญมากพอที่จะทำให้พวกเราทุกคนต้องรอเธอนะ!”เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องญาติคนหนึ่งก็เยาะเย้ยและพูดเสียงดังฟีโอน่ายิ้มด้วยความลำบากใจและพูดว่า “พอดีมันมีปัญหาเล็กน้อยระหว่างทางที่มาที่นี่!”เซซิเลีย มองไปที่ เซเลน่า ที่เสื้อผ้าแบรนด์ต่างประเทศที่สวมใส่แล้วพูดว่า “จุ๊ ๆ เซเลน่า เธอไร้ยางอายใช่ไหม ถึงกล้าที่จะสวมใส่ของปลอมนี้ออกจากบ้าน ถ้าเป็นฉันละก็ ฉันคงจะไม่กล้าใส่ด้วยซ้ำ น่าอายขนาดไหน ถ้ามีคนจับได้ว่าเป็นของปลอมคงไม่น่าอายมากใช่ไหมล่ะ?”ฟีโอน่าไม่สามารถทนต่อสิ่งที่เธอได้ยินได้อีกต่อไป เธอเดินเข้ามาและพูดว่า “เซซิเลียคุณไม่เชื่อหรอก นี่คือเรื่องจริง แม้ว่าครอบครัว

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 50

    การแสดงออกของ นายใหญ่ตระกูลเทย์เลอร์ มืดลงเช่นกัน เขาพูดว่า “เฟนด์ คุณคิดว่าฉันแค่ล้อเล่นอยู่หรือ?”“เฟนด์ มันไม่เด็กเกินไปหรือที่ทำแบบนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะกล้าตอบคำถามจากผู้เฒ่าผู้แก่อย่างไม่จริงใจได้อย่างไร!”“ถูกต้อง แล้วความเคารพต่อ นายใหญ่อยู่ที่ไหน? คุณจำไม่ได้หรือว่าถ้าไม่ใช่เพราะนายใหญ่ให้คุณยืมเงินเป็นล้านเหรียญในตอนนั้นแม่ของคุณคงจะต้องตายไปแล้ว!”สมาชิกบางคนจาก ตระกูลเทย์เลอร์ เริ่มพูดกับ เฟนด์ ด้วยความโกรธ“นายใหญ่ ผมกำลังพูดความจริง เฮ้อ แต่ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็ลืมไปซะเถอะ!”เฟนด์ ยักไหล่เขาไม่ต้องการที่จะอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกถ้าไม่ใช่เพราะกังวลว่าวันนี้ เซเลน่า อาจถูกรังแกเขาก็คงจะไม่มาที่นี่ด้วยซ้ำ“เดี๋ยวก่อนผู้หญิงคนนี้คือใคร”ในตอนแรก เซซิเลีย ต้องการสร้างปัญหาให้กับ เซเลน่า แต่ไม่ได้คาดหวังว่า เฟนด์ จะได้รับการยกย่องคุณงามความดี เสื้อผ้าของเธออาจจะเป็นของจริงดังนั้น เซซิเลีย จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมถอยหลังจากนั้นไม่นานเธอก็รู้ว่ามีใบหน้าของคนแปลกหน้าอยู่ในห้องด้วย“โอ้ เซซิเลีย ฉันจะแนะนำเธอให้ทุกคนรู้จัก นี่คือแฟนของฉัน ซีน่า แจ็คสัน เขาคบกันมาระยะหนึ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 51

    เซเลน่าขมวดคิ้ว ขณะที่เธอเดินไปข้างหน้าเพื่อที่จะถามข้อข้องใจ“งานนี้เป็นงานเลี้ยงสำคัญเหรอคะพ่อ? เขาถึงได้เตรียมแชมเปญไว้มากมายแบบนี้?”แอนดรูว์ก็รู้สึกงงงวยเช่นกัน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้มีการจัดงานฉลองครั้งยิ่งใหญ่วันนี้!“เรากำลังมีข่าวดี บางอย่างที่ควรค่าแกการเลี้ยงฉลอง อีวานกำลังจะเซ็นสัญญาทางธุรกิจขนาดใหญ่ ผลกำไรครั้งนี้เราจะได้ถึง 300 ล้านเหรียญ! กำไรมหาศาลแบบนี้ เท่ากับผลกำไรที่เราหาได้ภายในหนึ่งปี!”นายใหญ่ยิ้มขณะที่กำลังพูดให้พวกเขาฟัง“ใช่แล้ว! ในที่สุดอีวานก็สามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับเราได้ เขาสามารถติดต่อเจรจาเกี่ยวกับธุรกิจสำคัญได้สำเร็จในที่สุด!”ธีโอดอร์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยกระซิบกระซาบ“ผมไม่แน่ใจนะครับพ่อ ว่าเขาทำสัญญาข้อตกลงกับตระกูลไหน”เซเลน่ารู้สึกว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ กับผู้ชายคนนี้ เขาไม่เคยจริงจังกับการทำงาน ทำไมเขาถึงสามารถทำมันให้เกิดขึ้นได้กันนะ? เธอรู้สึกงุนงงกับเรื่องนี้“นายน้อยวิลสัน เขาตกลงกับอีวานที่จะเซ็นสัญญากันทางโทรศัพท์เมื่อคืนนี้ ฉันคิดว่าอีกสักพักอีวานก็คงจะกลับมาหลังจากที่เซ็นสัญญาเรียบร้อย!”

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 52

    “ไมเคิล เขาจะทำตัวแบบนั้นได้ยังไง? อยู่ดี ๆ เขาจะมาเปลี่ยนใจแบบไม่มีเหตุผลหลังจากที่ตกลงกันแล้วอย่างนั้นเหรอ?”“เขาช่างน่ารังเกียจจริง ๆ เขากล้าที่จะล้อเล่นกับเรื่องสำคัญเช่นนี้จริง ๆ เหรอ?ทุกคนในตระกูลเทย์เลอร์ เริ่มรู้สึกโกรธและไม่พอใจกับสิ่งที่ไมเคิลทำอีวานเมื่อสังเกตเห็นว่าไม่มีใครชี้นิ้วมาที่เขา เขาก็รู้สึกโล่งใจเฟนด์ที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ปัญหาทั้งหมดนี้ไม่น่าจะง่ายอย่างทีคิด ไม่ง่ายเลยที่ฟีโอน่า จะได้รับโอกาสดี ๆ แบบนี้ ดังนั้นเธอจึงรีบคว้ามันทันที เธอพูดขึ้นมาว่า “เฮ้อ นายน้อยอีวาน ครอบครัวของเรารอข่าวดีจากคุณอยู่ที่นี่ เราคิดว่าคุณสามารถเจรจาทำสัญญาทางธุรกิจมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์นี้ให้กับตระกูลเทย์เลอร์ของเราได้ พวกเราไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะกลายเป็นความว่างเปล่า!”ทันทีที่เธอพูดจบ ใบหน้าของอีวานก็ดูกล้ำกลืนกับความอัปยศที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้อย่างไม่น่าเชื่อ เดิมทีเขาตั้งใจชวนฟีโอน่า และทุกคนมาที่นี่เพื่อโอ้อวดความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเขานี้ต่อหน้าทุกคน แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าทุกอย่างที่เขาตั้งใจทำมันจะย้อนกลับเข้ามาหาเขาเขาจ้องมองไปที่เฟนด์ ที่ยืนอยู่ด้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 53

    เฟนด์ยิ้มอย่างอ่อนโยน ความจริงก็คือตอนที่เขากำลังจะปลดประจำการ เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามีคนจำนวนมากแค่ไหนที่พยายามติดต่อเขา และพยายามเสนอเงินทองให้เขามากมาย แต่เขาก็ได้ปฏิเสธสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดด้วยเหตุผลนี้ ข้อเสนอของอีวานจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยอมรับ เงินจำนวน 4,000 เหรียญในการยื่นข้อเสนอมาให้เขานั้น มันเหมือนเป็นการดูถูกเขา"ใช่สินะ นายเป็นเจ้านาย นายมีส่วนร่วมที่สร้างคุณงามความดีให้กับประเทศ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเสนอเงินจำนวนมหาศาลให้กับนายใช่ไหม? ฮ่า ๆ จากภาพลักษณ์ภายนอกที่เห็น พวกเราตาไม่มีแววเองที่เป็นห่วงนาย!”อีวานพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวเฟนด์ไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด และเบี่ยงเบนความสนใจไปที่แชมเปญบนโต๊ะแทน จากนั้นเขาก็ถามนายใหญ่เทย์เลอร์ว่า “พวกเราจะไม่ฉลองกันแล้วใช่ไหม? ถ้าเราไม่กินอาหารกันในตอนนี้ อาหารก็จะเย็นหมดแล้ว!”มุมปากของนายใหญ่เทย์เลอร์ กระตุกอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะที่เฟนด์พูดขึ้นมา เขาจงใจพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด และตั้งใจทำให้พวกเทย์เลอร์รู้สึกอับอาย ถึงแม้ว่าวันนี้แต่เดิมจะถูกวางแผนให้แต่การจัดฉลองก็ตาม“ฉันคิดว่านาย คงจะไม่เคยเห็นอาหารดี ๆ แบบนี้มาก่อน ตอนนี้แค่ม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 54

    การดื่มยกย่องในครั้งแรก คือ การให้ความเคารพที่เฟนด์ มีส่วนร่วมในการปกป้องประเทศ ครั้งที่สองคือ อวยพรให้เฟนด์ และเซเลน่า เหตุผลเหล่านี้ทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธที่จะดื่มได้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง บุคคลนั้นเป็นผู้อาวุโสมากกว่าเขา ถ้าเฟนด์ปฏิเสธข้อเสนอของเขา เขาจะดูเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลอย่างเห็นได้ชัดดังนั้นสิ่งที่เฟนด์ ทำได้คือยิ้มและรับคำเยินยอที่พวกเขามอบให้ ในขณะที่พวกเขาดื่มสิ่งเดียวที่เฟนด์ไม่คาดคิดมาก่อน ถึงแม้จะมาดื่มอวยพรติดต่อกันถึงสามครั้ง แต่ผู้ชายตรงหน้าก็ไม่คิดที่จะจากไป เพราะสักพักก็มีผู้ชายอีกคนเขามาอวยพรแล้วพากันดื่มมากขึ้น เฟนด์ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เขาเริ่มรู้สึกได้ว่าเรื่องทั้งหมดมันแปลก ๆคนเหล่านี้มักจะดูถูกเขา และตอนนี้พวกเขาทั้งหมดพยายามที่จะดื่มกับเขา? ทั้งหมดนี้มันดูแปลกอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาตั้งใจที่จะทำให้เขาเมาอย่างไรก็ตาม ที่พวกเขาพยายามจะวางแผนต่อต้านเขานั้น เขาไม่เคยใส่ใจกับมันเลยห้าปีที่เขาใช้เวลาทนอยู่ในสภาพที่โหดร้ายจากสงคราม ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมาก ยิ่งไปกว่านั้นเขากลับยิ่งค้นพบว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขานั้นจะทำให้เขาเมา หลังจากนั้นก็ม

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status