Share

บทที่ 2

Author: โมเนโต้
ขณะที่เฟนด์กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่มีใบหน้ามอมแมมกำลังเดินขึ้นไปที่ประตูและแอบมองเข้าไปข้างใน

หนูน้อยตัวเล็กดูค่อนข้างผอมแห้ง ดูเหมือนเธออายุจะราวๆ สี่หรือห้าขวบ มีผิวสีเหลืองเล็กน้อย เหมือนร่างกายของเธอจะขาดสารอาหาร

“หนูน้อยคนนี้ดวงตาของเธอนั้นดูคล้าย เซลีน่า!”

เมื่อเห็นท่าทางน่ารักของหนูน้อยคนนี้เฟนด์ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้

สาวใช้คนหนึ่งของครอบครัวเทย์เลอร์ออกมา เธอมองไปที่การ์ดที่ยืนอยู่ข้างประตู เธอดึงหนูน้อยไปอีกมุมนึง

ด้วยเหตุผลบางอย่างอาจจะเป็นเพราะหนูน้อยนั้นมีความคล้ายคลึงกับเซลีน่าจึงทำให้เฟนด์เกิดความความสนใจขึ้นมา เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาพวกเธอ

จากนั้นเขาก็เห็นสาวใช้หยิบขนมปังสองชิ้นออกมาจากกระเป๋าของเธออย่างระมัดระวัง และส่งให้หนูน้อยคนนั้น “ไคลี วันนี้มีแค่สองชิ้นนะ!”

“ขอบคุณค่ะ พี่สาวคนสวย!”

หนูน้อยกลืนน้ำลายลงคอ เห็นได้ชัดว่าเธอหิวโหย

“เร็วเข้า รีบกินซะ!”

สาวใช้ลูบหัวของหนูน้อยเบา “เฮ้อ, นายน้อยเทย์เลอร์ช่างโหดร้ายเกินไป!”

“ไม่ หนูจะกลับบ้านไปกินกับคุณแม่ คุณปู่ และคุณย่า!”

หนูน้อยหยิบขนมปังขึ้นมาก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุข สำหรับเธอแล้วขนมปังสองก้อนในมือของเธอนั้นคล้ายกับสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

รถสปอร์ตแล่นเข้ามาด้านข้างอย่างรวดเร็ว ตามด้วยรถออดี้ A6s อีกจำนวนหกคัน

“อีวาน เทย์เลอร์?”

เฟนด์จำชายคนนั้นได้ทันที หลังจากห้าปีผ่านไปนายน้อยเทย์เลอร์ ดูโตขี้น อย่างไรก็ตามถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เขายังคงขี้ขลาดอยู่เหมือนเคย

“หึๆ ชาวน่าเธอซ่อนอะไรอยู่ตรงนั้น? เอามันออกมาให้ฉันดู!”

อีวานถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

“มะ-มะ-ไม่มีอะไรค่ะ…”

สาวใช้ส่ายหัวซ้ำๆ ในขณะเดียวกันไคลีตัวน้อยก็ก้มหัวลงราวกับว่าเธอทำผิดพลาด

“ไคลีไหนเธอช่วยบอกฉันทีว่าพี่สาวคนสวยคนนี้เอาอะไรมาให้เธอ”

อีวานก้มลงและถามหนูน้อยตัวเล็ก ๆ

“หนูไม่ขอบอกคุณ คุณเป็นคนไม่ดี คุณเป็นคนเลวมากๆ”

ไคลี เงยหน้าขึ้นพร้อมกับเม้มริมฝีปาก

“คนเลว?”

อีวาน หัวเราะเบา ๆ “แม่ของแกทำลายชื่อเสียงตระกูลเทย์เลอร์ของเราด้วยการให้กำเนิดแก แม่ของแกคือตัวซวย!”

ด้วยคำพูดนั้น อีวานลุกขึ้นและจ้องมองไปที่การ์ดทั้งสองคน

“ชาวน่าแกมันหน้าด้าน แกกล้าเอาอาหารมาให้ลูกนอกคอกนี่ได้ยังไง? แกอยากตายนักใช่ไหม?”

อีวานยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นก็ใช้หลังมือตบเข้าไปที่ใบหน้าของชาวน่า

“อย่ามาตีพี่สาวนะ คุณใจร้าย!”

เมื่อเห็นอย่างนั้นหนูน้อยตัวเล็กๆ ก็วิ่งเข้าไปจับขาของอีวานทันทีแและกัดมันแน่น

“อ๊าก!”

อีวาน กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและผลักไคลีลงไปที่พื้น “แกเกิดปีหมารึไง? ไอ้หมาบ้า แกกล้ากัดฉันได้ยังไง”

“ฮือ..ฮื..อ… คุณเป็นคนไม่ดี คุณมันเลวมาก!”

ไคลี ถูกผลักลงไปที่พื้นและเริ่มร้องไห้

“นี่คือขนมปังที่พี่สาวที่น่ารักของแกเอามาให้แกกิน มากินมัน แกและพี่สาวของแกแบ่งกันกินคนละอัน”

จากนั้นเขาก็โยนขนมปังลงบนพื้น และบดขยี้มันด้วยรองเท้าหนังของเขา จากนั้นอีวานก็พูดว่า “ถ้าแกไม่กิน ฉันก็จะทุบมือของมันและของแกด้วย!”

“นายน้อยฉันจะกินมันเอง อย่าทำให้เด็กตัวเล็กๆต้องลำบากได้ไหมคะ ฉันขอร้อง? ไคลียังคงเป็นลูกสาวของคุณเซลีน่า เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณ!”

ชาวน่า คุกเข่าลงบนพื้นและคว้าขนมปังขณะที่เธอเงยหน้ามองขึ้นไปที่ใบหน้าของอีวาน เทย์เลอร์ ที่สูงและยิ่งใหญ่ด้วยสีหน้าน่าสมเพช

“ลูกสาว...ของเซเลน่า?”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นความคิดของเฟนด์ก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สรุปเซลีน่าจะมีลูกสาวได้อย่างไร? นอกจากนี้เซลีน่าเธอยังเป็นลูกสาวของนายท่านเทย์เลอร์ ลูกสาวของเธอจะเป็นเหมือนขอทานไปได้อย่างไร?

“เธอบอกว่าจะรอฉันไม่ใช่เหรอ? เป็นไปได้ไหมที่เธอแต่งงานใหม่ทันทีหลังจากที่ฉันเข้าสู่สงคราม?”

ตาของเฟนด์เปลี่ยนเป็นสีแดง เขาหัวเราะอย่างขมขื่นในใจและรู้สึกว่าเขาช่างไร้เดียงสาจริงๆ เขาคิดได้อย่างไรว่าเซเลน่าจะรอเขาจริงๆ

“ฮ่าๆ พ่อของแกเสียชีวิตในสนามรบไปนานแล้ว ใครจะไปรู้ว่ากี่ปีแล้ว แกก็เป็นแค่ลูกนอกคอกเท่านั้น!”

“นอกจากนี้ในตอนแรกเราได้จัดการให้เซลีน่าปลอมการแต่งงานของเธอกับเด็กส่งของที่ไร้ประโยชน์คนนั้น แต่ปรากฎว่าเธอท้องกับเด็กถังขยะคนนั้นจริงๆ เราบอกให้เธอทำแท้งลูกของมันซะ แต่เธอก็ยืนยันที่จะเก็บมันไว้!”

“เธอสมควรได้รับชะตากรรมในวันนี้ทั้งหมด นี่คือชะตากรรมของคนที่ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลเราพังทลาย!”

อีวานหัวเราะเสียงดังลั่น

ในตอนนั้นหัวใจของเฟนด์ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย หนูน้อยเนื้อตัวมอมแมมสกปรกที่ใส่เสื้อผ้าขาดๆเป็นลูกสาวของเขาเองงั้นเหรอ?

เขากำหมัดแน่น ขณะที่ความโกรธเข้าครอบงำเขา เซเลน่าจะเจอกับอะไรบ้างในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้?

“เธอจะกินมันหรือไม่? ถ้าไม่กิน อย่าแม้แต่คิดที่จะออกไปจากตรงนี้!”

อีวานคว้าขนมปังสกปรกที่เขาเหยียบขึ้นมา แล้วอุ้มไคลีขึ้นด้วยมือเดียว จากนั้นเขาก็ยัดขนมปังเข้าไปในปากของเด็กหญิง

“ฮือ, ฮืออ… ผู้ใหญ่ใจร้าย หนูไม่กิน หนูไม่กิน…”

เท้าของเด็กหญิงเตะลอยไปในอากาศ โดยขาข้างหนึ่งในนั้นเกี่ยวกับเสื้อผ้าของอีวาน

“ไอ้เด็กเวร แกกำลังร้องหาความใช่ไหม แกรู้ไหมว่าเสื้อผ้าของฉันราคาแพงขนาดนั้นไหน?”

อีวานมองไปที่มันจากนั้นก็เหวี่ยง ไคลี ออกไปอย่างแรง

“คุณมันน่ารังเกียจ! เธอเป็นหลานสาวของคุณนะ!”

เส้นเลือดของ เฟนด์ ปูดออกมาจากขมับของเขา ไคลีเป็นเด็กตัวเล็ก ถ้าเธอถูกโยนลงไปแบบนั้นและกระแทกพื้น เธอจะไม่เป็นไรได้อย่างไร?

เขาก้าวเดินออกไป, จากนั้นก็กลายเป็นภาพเบลอและปรากฏตัวต่อหน้า อีวาน จากนั้นเขาก็ยื่นแขนไปจับไคลี ที่เพิ่งถูกโยนออกไป

“อ๊าา!”

ไคลี ตกตะลึง เธอเบิกตาโตของเธอและจ้องมองไปที่ชายที่กล้าหาญผู้นั้น

“ คุณลุงคะะ...คุณเป็นใคร”

ไคลีจ้องไปที่เฟนด์ด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ต้องกลัวไคลี จะไม่มีใครกล้ารังแกคุณหรือแม่ของคุณได้อีกในอนาคต!”

หัวใจของ เฟนด์ สั่นสะท้านเมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกของครอบครัวเขาที่ถูกชะล้าง นี่คือลูกสาวของเขาเอง เธอคือลูกสาวของเขากับเซเลน่า

“มันเป็นใครวะ? ใครมันช่างกล้าที่จะมายุ่งเรื่องของตระกูลเทย์เลอร์

อีวานโกรธมากหลังจากถูกจับได้ และเขาเกิดความแปลกประหลาดใจอย่างมาก

ในช่วงห้าปีเฟนด์ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เขาเปลี่ยนจากเด็กส่งของธรรมดามาเป็นนักรบสูงสุดคนเดียวของดัสเซีย อีวานไม่สามารถจำเขาได้ในช่วงเวลาสั้นๆนั้นได้

“วันนี้ฉันขอมีส่วนร่วมในเรื่องนี้แน่นอน!”

เฟนด์ยิงเขาด้วยแววตาที่เย็นชา กลิ่นอายของเขาที่ปนเปื้อนไปด้วยการนองเลือดนับไม่ถ้วนทำให้ อีวาน ก้าวถอยหลังออกไปสองสามก้าวด้วยความหวาดกลัว

“ไคลี ไม่ต้องกลัว ฉันจะปกป้องหนูเอง!”

เฟนด์ มองไปที่ไคลีที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วยความรักจากนั้นค่อยๆวางเธอลงบนพื้น

“พวกแกยืนงงทำอะไรกัน? ไปหักแขนขาของมันมาเดี่ยวนี้!”

เมื่อจ้องมองไปที่การ์ดที่สูงและแข็งแกร่งทำให้ อีวาน รู้สึกมั่นใจ

“ไอ้สารเลว แกมันหน้าด้านจริงๆ แกกล้าดียังไง ที่กล้ามายุ่งเรื่องของนายน้อยเทย์เลอร์!”

การ์ดหลายสิบคนรุมล้อมรอบเฟนด์

ปัง, ปัง, ปัง!

น่าเสียดายที่ก่อนที่อีวานจะมองเห็นได้ชัดเจน การ์ดทั้งหมดก็นอนลงบนพื้นซะแล้ว

“อ๊ากกก, มือของฉันหัก!”

“ขาฉัน! ขาของฉัน!”

เมื่อเห็นการ์ดที่ล้มนอนอยู่บนพื้น อีวานก็รู้สึกกลัวและใบหน้าของเขาก็เริ่มถอดสี

“นะ-นะ-นาย นายเป็นใคร ฉันเป็นนายน้อยเทย์เลอร์ของตระกูลเทย์เลอร์ ทุกสิ่งจะไม่จบลงด้วยดีหากนายทำให้ฉันไม่พอใจ!” อีวานกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเสียงของเขาสั่นเทา

"ฉันเป็นใครนะเหรอ? หึๆ ฉันเป็นคนที่ไปสนามรบแทนแก!”

การจ้องมองของเฟนด์นั้นดูดุดันน่ากลัว “อีวาน เทย์เลอร์ ฉันต่อสู้เพื่อแกและเผชิญหน้ากับความตายแทนแก มีหลายสิบครั้งที่ฉันเกือบจะตาย แต่แกอยู่ที่นี่กับให้อาหารลูกสาวของฉันกิน ด้วยการกินขนมปังที่ถูกแกเหยียบงั้นเหรอ?”

“นายคือเฟนด์? เป็นไปไม่ได้ ตลอดเวลาห้าปีไม่เคยมีข่าวคราวใดๆ นายจะมีชีวิตรอดกลับมาได้ยังไง?”

ไม่เพียงแต่ครอบครัวเทย์เลอร์เท่านั้น แม้แต่ผู้คนในเมืองอาณาเขตกลาง ก็คิดว่า เฟนด์ ได้เสียชีวิตแล้ว ตามรายงานการสู้รบเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามันดูโหดร้ายเกินไปและมีผู้เสียชีวิตมากมาย

“ฉันขอโทษ แต่โชคชะตาเข้าข้างฉัน ทำให้ฉันตายไม่ได้!” เฟนด์ยิ้มเยาะจากนั้นเตะส่งให้เขาทันที

อีวาน ทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณหัวเข่าทำให้ร้องด้วยความเจ็บปวด

“กินขนมปังสองชิ้นนั้นซะ ไม่อย่างนั้น ฉันไม่สนว่าแกจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซเลน่าหรือไม่ ฉันจะทำกับแกเหมือนเป็นสัตว์แบบที่แกชอบเป็น!”

เฟนด์ หยิบขนมปังที่คลุกไปด้วยดินทั้งสองลูกและโยนมันให้ อีวาน กินด้วยสายตาที่ไร้ความปราณี

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 3

    “เฟนด์ คุณบ้าไปแล้วเหรอ? อย่าลืมความเป็นตัวของตัวเอง คุณเป็นเพียงคนที่แค่มาแต่งงานกับตระกูลของเรา อย่าคิดว่าเพียงเพราะแค่คุณเป็นทหารมาสองสามปี แล้วคุณจะสามารถมาล้อเล่นกับฉันด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้งั้นเหรอ” อีวานกัดฟันและพยายามยืนขึ้นปัง!เฟนด์ตอบโต้ด้วยการเตะและผลักเขากลับลงไปปัดฝุ่นในพื้นที่“ฉันจะไม่พูดซ้ำอีก!”เฟนด์บิดหลังมืดของอีวาน"อ๊ากก!" อีวานร้องเสียงหลง เขารู้สึกราวกับว่ากระดูกของเขาถูกบดขยี้ออกเป็นเสี่ยง ๆ “ไอ้ลูกนอก...” อีวานเงยหน้าขึ้นและกลัวจนพูดไม่ออกเมื่อเงยหน้าขึ้นไปพบกับใบหน้าที่โหดเหี้ยม ไร้ความปรานีของเฟนด์“แกจะกินมันไหม? ถ้าแกไม่ทำ ฉันจะฆ่าแกทิ้งทันที!” เฟนด์ประกาศอย่างเย็นชา“กะ-กะ-กิน ฉันจะกินมัน!”ครั้งนี้อีวานรู้สึกกลัวเฟนด์อย่างที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะฝืนกัดขนมปังที่เต็มไปด้วยดินและยัดเข้าปากไป“ชาวน่าขอบคุณมากสำหรับการดูแลไคลีอย่างดี เซเลน่าอยู่ที่นี่ไหม?”เฟนด์เดินไปหาสาวใช้ เขาจำได้ว่าชาวน่าเคยเป็นสาวใช้ส่วนตัวของเซเลน่าที่สนิทกับเธอมาก“คุณผู้หญิง ถูกเนรเทศให้ออกจากตระกูลเทย์เลอร์ค่ะ เนื่องจากครอบครัวต่อต้านกา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 4

    “เหลืออีกหกนาที คนที่เหลืออยู่รีบจัดการสถานที่นี้ เนื่องจากพวกคุณได้กระทำผิด อย่าคิดที่จะเรียกเก็บค่าบริการเด็ดขาด!”เฟนด์จ้องมองคนที่เหลืออย่างเย็นชาถึงแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเช่นกัน แต่พวกเขาก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับมังกรดำ จึงไม่มีใครกล้ามอง เฟนด์“ทุกคนออกไปเดี่ยวนี้!”พวกเขาเริ่มตะโกนโหวกเหวกทันที เห็นได้ชัดว่าลูกค้าคนอื่นๆ รู้สึกหวาดกลัวต่างจากเมื่อก่อนและวิ่งหนีไปราวกับว่าชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายพวกเขาไม่รู้ว่ามังกรดำตายได้อย่างไร ราวกับว่ามีสิ่งที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นภายในไม่ถึงหนึ่งนาทีโรงอาบน้ำทั้งหมดก็ว่างเปล่า!พนักงานสาวสวยเดินออกมาอย่างอ่อนโยน หลังจากถูกคนเฝ้าประตู ส่งสัญญาณและถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “นายท่านคะ ที่นี่ไร้ซึ่งผู้คนแล้ว เราจะให้บริการคุณอย่างไรดีคะ”“ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ และอาหารอร่อยๆ ให้ลูกสาวของฉัน ถ้าไม่ทำอย่าคิดที่มีชีวิตจากที่นี่!”เฟนด์อุ้มไคลีเข้าไปข้างใน ทำให้พนักงานบริการและคนเฝ้าประตูมีสีเลือดแล่นผ่านบนใบหน้า“แน่นอนค่ะท่าน เราจะดำเนินการทันที!”พนักงานบริการสาวสวยฟื้นจากความงุนงงและก้มหัวอย่างนอบน้อมไปที่หลังของเฟนด์เฟนด์พาไคลีเข้าไปด้าน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 5

    ชาวน่าพาเฟนด์ไปยังที่ประตูของบ้านหลังเล็กที่ดูเก่าทรุดโทรมที่ลานกว้างมีต้นไทรต้นใหญ่ เมื่อมองเข้าไปที่นั่นดูเงียบสงบ ยังไงซะสถานที่นั้นดูทรุดโทรมเกินไป“เธอกำลังบอกฉันว่าแม่ของฉัน แม่ของเซเลน่าและสะใภ้อยู่กันที่นี่?”เมื่อเห็นบ้านที่อยู่ตรงหน้าเฟนด์ก็รู้สึกสงสารพวกเขาขึ้นมาทันทีเซเลน่าเป็นลูกสาวของนายท่านเทย์เลอร์ เธอมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำที่หน้าตาดี น่าทึ่งและน่าภาคภูมิใจ มีคนมาติดพันเธอนับไม่ถ้วนแค่เพียงการที่เธอตัดสินใจที่จะเก็บเด็กไว้ ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกมาจากบ้านเพื่ออยู่ในสถานที่แห่งนี้!”ชาวน่า ยิ้มอย่างขมขื่น “มีลูกพี่ลูกน้องของเธอด้วย!” เขายังเด็กนัก เมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ตอนนี้เขาอายุ 19 ปีและอยู่ที่นี่ด้วยกัน”“หลายคนเลยงั้นเหรอ!”ตาของเฟนด์เปลี่ยนเป็นสีแดง “เซเลน่าคงต้องผ่านปัญหามาเยอะเหลือเกิน!”อย่างไรก็ตามพวกเขาสังเกตเห็นรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดอยู่ที่ลานข้างในบ้าน“ทำไมถึงมีรถเบนท์ลีย์อยู่ที่นี่”เฟนด์นิ่วหน้าอย่างสงสัย“ฉันก็ไม่ทราบค่ะ หลังจากนั้นฉันแทบจะไม่มาที่นี่เลย เฮ้อ มีหลายอย่างเกิดขึ้นตลอดห้าปี คุณเซเลน่า เธอรอค

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 6

    “ถูกต้อง คุณพูดได้ถูกจริง ๆ พูดตามตรงฉันไม่ค่อยชอบสาวน้อยคนนี้อยู่แล้ว!”ฟิโอน่า พยักหน้าตอกย้ำ ๆ “สุดท้ายเธอไม่ควรที่จะมีตัวตน”เมื่อได้เฟนด์ได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขารู้สึกอยากจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดให้ตายในการลงมือเพียงครั้งเดียวยังไงซะลึก ๆ แล้วเขาพยายามเตือนตัวเองให้สงบสติอารมณ์ ท้ายที่สุดฟีโอน่า ก็คือแม่ของเซเลน่าแม่ภรรยาของเขาสถานที่แห่งนี่ไม่ใช้สนามรบที่เขาต้องสังหารฆ่าฟัดตามที่เขาต้องการอีกต่อไป ฟีโอน่าและแอนดรูว์อย่างน้อยก็ไม่ใช่ศัตรูของเขาขาของแอนดรูว์ที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ในปัจจุบัน เกิดจากการกระทำที่บุ่มบ่ามของเขา ในคืนงานแต่งงานของเซเลน่าความเกลียดชังของพวกเขา ที่มีต่อเขานั้นสมเหตุสมผลมีบุคคลภายนอกเข้ามากำลังเข้ามาเฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วจ้องมองไปที่นายน้อยคลาร์ก “ไคลีเป็นลูกสาวของฉัน เธอไม่ใช่ภาระและเธอก็ไม่ใช่เด็กนอกคอก แกต้องคุกเข่าและขอโทษสำหรับคำพูดของแกเมื่อกี้!”เมื่อถึงจุดนั้น เฟนด์หยุดอยู่ชั่วขณะแล้วพูดต่อว่า “ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าฉันไม่อยากทำให้บ้านต้องมาแปดเปื้อน ของการกลับวันแรกของฉัน แกก็คงจะได้ตายแล้วตอนนี้!”“ฮ่า ๆ บัดซบ! ฉันได้ยินแกกำลังขู่ฉันอยู่ห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 7

    “วันนี้ฉันจะตายใช่ไหม ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้น!”เฟนด์ไม่สะทกสะท้าน เขามองออกไปข้างนอกและเห็นว่าชาวน่า ได้พาไคลีมาหลังจากที่ไปเล่นที่ใต้ต้นไทรมาแล้ว“ฮึ...ฉันจะดูว่าแกวางแผนทำตัวแข็งกร้าวได้ภายหลังอย่าง!”นายน้อยคลาร์กไม่สนใจที่พูดคุยกับเฟนด์ เพราะเขาเชื่อว่าเฟนด์จะต้องเสียใจอีกในไม่ช้าสักครู่นึงมีรถสองสามคันพุ่งเข้ามาจอดที่ด้านนอก แดน เจมสัน นักสู้อันดับหนึ่งของตระกูลคลาร์ก เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายกล้ามโตสองสามคนขณะที่เขาเดินเข้ามาภายในบ้าน แดนก็ตะโกนถามว่า “ใครกันที่มันกล้ามารังแกนายน้อยของเรา? แกอยากตายใช่ไหม”ตอนนี้แดนกำลังโมโหมากเมื่อเขาได้เข้าไปหาเรื่องใครบางคนที่เขาไม่สามรถจะเอาชนะได้ จนทำให้เขาต้องเสียนิ้วมือไปเขาเพิ่งรักษาบาดแผลจากที่โรงพยาบาลเสร็จ นายของเขาก็โทรหาเขาอีกครั้ง โดยบอกว่านายน้อยคลาร์กถูกคนทำร้ายให้เขาไปจัดการจัดเรื่องนี้“มันคือถังขยะที่ชื่อ เฟนด์ วู๊ด เป็นแค่ทหารเกษียณตัวเหม็น ที่ยังมากล้าทำตัวหยิ่งต่อหน้าฉัน!”นายน้อยคลาร์กเริ่มพูดออกมาทันทีเมื่อเขาเห็นแดนเดินเข้ามาใกล้เขา“ไอพวกสวะ นี่มันจริง ๆ” แดนร้องเสียงหลงขณะที่เขากำลังจะลงมือเพื่อระบายความโมโห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 8

    “แม่ไม่ว่าแม่จะพูดยังไงเขาก็ยังคงเป็นพ่อของไคลีและลูกเขยของแม่ อย่าไปเยาะเย้ยเขาแบบนั้นอีกได้ไหม!”“เรื่องมันผ่านไปแล้ว มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว เราควรจะหยุดพูดถึงมัน!”เซเลน่าเป็นคนใจดีและเข้าใจคนอื่นเหมือนเดิม“พอกันที! เราไม่มีความจำเป็นต้องนับเขาเป็นลูกเขยของเรา!” ฟีโอน่าตอบโต้กลับ“ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะแก ขาของฉันก็คงไม่อยู่ในสภาพแบบนี้!” แอนดรูว์กลั้นความเสียใจที่เกิดขึ้นไว้ในแบบเดียวกัน“แต่เขาทำผิดอะไร? ย้อนกลับไปหนูนอนกับเขาทั้ง ๆ ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาท้อง!”เซเลน่ารู้สึกทำอะไรไม่ถูก มันเป็นการกระทำที่หน้าไม่อายของเธอเองที่ทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะไปทำแท้งเด็กได้สถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญจนถึงจุดนี้ถือเป็นการชดเชยความผิดพลาดที่เธอทำในตอนนั้น“แกไม่ต้องมาอุ้มเด็ก แก...แกกำลังพยายามทำให้ฉันหัวใจวายจริง ๆ” ฟีโอน่ากระแทกเท้าด้วยความหงุดหงิด“ไม่เป็นไร มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว ตอนนี้เขากลับมาจากสงครามแล้ว มาดูกันว่าเขาจะหาอะไรทำในอนาคตได้ไหม ไม่แน่ชีวิตเราอาจจะดีขึ้นในที่สุด!”“แอนดรูว์หยิบบุหรี่ออกมาแล้วจุดไฟ เขาโกรธมากเมื่อเห็นเฟนด์ แต่ตอนนี้เขาไม่ส

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 9

    “ใช่ คนเหล่านี้กำลังพูดถึงสงคราม และการนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศ กลายเป็นเรื่องตลก!”เจ้าหนุ่มอีกคนก็แอบมองตามปัง ปัง!ในชั่วพริบตาถัดไป เด็กทั้งสองเห็นเพียงภาพเบลอจากนั้นก็ถูกส่งให้ลอยไปและกระแทกติดเข้ากับกำแพงด้านหลังทำให้มันพัง“อั๊ก!”ทั้งคู่พ่นเลือดสด ๆ ออกมาเต็มปาก ขาของพวกเขาแข็งทื่อจากนั้นก็หยุดเคลื่อนไหว“อ๊า! ฆาตกร!”หญิงสาวทั้งสองร้องเสียงหลงราวกับเพิ่งเห็นผี พวกเธอวิ่งหนีทันที“โอ้ว! เฟนด์คุณฆ่าคนตาย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาเป็นบุคคลสำคัญหรืออยู่ในองค์กรบางแห่ง เราจะทำยังไงกันดี”เมื่อเห็นทั้งสองคนนอนนิ่งอยู่ที่นั่นโจแอนก็หน้าซีด “คุณมันหัวร้อนเกินไป ที่นี่ไม่ใช่สนามรบ มีคนบางคนที่เราไม่สามารถทำให้ไม่ขุ่นเคืองใจได้ คุณยังคิดว่าตัวเองยังอยู่ในสนามรบสามารถฆ่าใครก็ได้เป็นเรื่องปกติเหรอ “ทำไมคุณถึงเก็บอารมณ์ไม่ได้? พวกเขาพูดแต่เพียงไม่กี่คำ!”เซเลน่าก็หงุดหงิดมาก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีเมื่อเขาเห็นผู้หญิงสองคนที่รักและดูแลเป็นห่วงเขามากที่สุด เฟนด์ก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาอบอุ่นขึ้น“แม่ เซเลน่าไม่ต้องกังวล พวกเขาแค่สลบไป ฉันรู้วิธีที่จะอดทนกับมัน สักพักพวกเขาจะต

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 10

    “สามคนนี้มีสติดีไหม? พวกเขาดูสกปรกมาก ดูผู้หญิงที่สวมเครื่องแบบพนักงานทำความสะอาดถนนและหมวกสานของเธอสิ พระเจ้า! นี่เป็นร้านพิเศษสำหรับแบรนด์ชื่อดังต่าง ๆ อย่างนั้นหรือ”หญิงสาวที่ดูร่ำรวยมีฐานะหัวเราะเยาะเย้ยเธอ ขณะที่มองไปแล้วหยิบเสื้อผ้าของเธอ เธอใช้กระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรู“ฉันขอโทษนะคะคุณนาย ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้!”พนักงานขายสาวสวยข้าง ๆ เธอตอบทันทีด้วยรอยยิ้มตามธรรมเนียม จากนั้นหันกลับไปสั่งพนักงานขายคนอื่นว่า “ไป เขาพวกเขาออกไปจากที่นี่ อย่าปล่อยให้พวกเขาลดระดับร้านค้าของเรา!”พนักงานบริการรีบสวมรองเท้าส้นสูงของเธอและเดินเข้าไปหากลุ่มของเฟนด์ “สวัสดีค่ะ คุณมาที่นี่เพื่อซื้อเสื้อผ้าใช่ไหมคะ? เราเป็นร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ ผลิตภัณฑ์ของเรามาจากต่างประเทศและมีคุณภาพสูง... ”พนักงานขายคนนี้เป็นพนักงานที่มีประสบการณ์ เธอแน่ใจว่าเมื่อทำแบบนี้คนยากไร้เหล่านั้นจะตระหนักว่าพวกเขามาผิดที่และจากไปอย่างเงียบ ๆอย่างไรก็ตามครั้งนี้เธอได้ทำผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัดเฟนด์มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “ดูหรูหราดี ฉันกำลังหาซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้แม่และภรรยา ฉันจะไม่รับของเกรดต่ำพวกนั้น”“อะไรนะ?!”พนักงานบริ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status