สมาชิกหลายคนรู้สึกไม่พอใจเล็ก ๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเธอต้องการเดินทางกับบุคคลต้นแบบของพวกเธออย่างเฟนด์ แต่พวกเธอก็เข้าใจสถานการณ์เช่นกัน สิ่งที่เมโลดี้และสมาชิกอีกคนพูดก็สมเหตุสมผลแล้ว พวกเราไม่ได้มาจากเผ่าเดียวกัน ดังนั้นหากยังคงติดตามเฟนด์ไปเรื่อย ตำหนักของพวกเธอจะต้องไม่พอใจกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน “ทำไมพวกเธอถึงจากไปล่ะ?” เซเลน่าอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกับการจากไปของเมโลดี้ สีหน้าของเธอดูสับสน “มันจะไม่ปลอดภัยกว่าหรือหากพวกเธอเดินทางไปกับเรา” แต่เฟนด์กลับส่งรอยยิ้มที่ขมขื่นไปให้เซเลน่า “พวกเรามาจากต่างตระกูลกัน พวกเราคือตระกูลวู๊ด และพวกเขาเป็นสมาชิกของตำหนักเทพยดา ยังไม่รวมว่าผู้คนจากสี่ชนเผ่าโบราณที่ยิ่งใหญ่มักดูถูกตระกูลลึกลับเช่นเรา ดังนั้นการที่พวกเธอจะติดตามเราและซ่อนตัวอยู่ใต้ปีกของเราเพื่อรับความคุ้มครองเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องน่าอาย ยิ่งไปกว่านั้น หากเราเดินทางร่วมกันและพบกับสิ่งของล้ำค่าที่นำไปสู่ระดับเทพสูงสุด เราจะต้องสู้กันเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา เมื่อถึงเวลานั้น จะไม่เหลือสันติภาพและความปรองดองระหว่างเราอีกต่อไป!” ในที่สุดเซเลน่าก็เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการจากลา "โอ้! อย่าง
จากนั้นแนชก็เล่าเรื่องตอนที่เกิดขึ้นกับพวกเขาให้สมาชิกในตระกูลวู๊ดฟังโดยไม่บอกรายละเอียด "อะไรนะ? คนของเผ่ากระหายเลือดเหล่านี้ทำไมถึงได้น่ารังเกียจนัก? พวกเขากล้าที่จะสาปแช่งคุณหนูเซเลน่าของเรา!” ขณะที่เคนเนธมองไปที่ก้อนเนื้อสีดำบนใบหน้าของเซเลน่า ความโกรธก็พุ่งทะลุเส้นเลือด เขากำหมัดแน่น เซเลน่ามีชื่อเสียงในด้านความงามของเธอ และการที่มีจุดสีดำขนาดใหญ่บนใบหน้าของเธอนั้นได้ทำลายใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเธอไป แค่คิดก็ทำให้ทุกคนโกรธได้แล้ว ส่วนที่น่าผิดหวังที่สุดคือพวกเขามีเวลาในการลบคำสาปนี้เพียงหนึ่งปี ถ้ากำจัดมันออกไปไม่ได้ เซเลน่าจะตาย ข้อมูลที่เพิ่งได้รู้นี้ทำให้พวกเขาระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธ “ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้แล้ว เราไม่รู้ว่าเผ่ากระหายเลือดนี้แข็งแกร่งเพียงใด สาวกที่อ่อนแอที่สุดของพวกเขาอาจอยู่ในระดับเทพสูงสุด และแน่นอนว่าพวกเขายังมีคนอีกหลายคนที่อยู่ในระดับทะลวงวิญญาณ เราไม่มีความสามารถพอที่จะต่อสู้กับพวกเขาได้ในตอนนี้ แม้ว่าเราจะต้องการก็ตาม!” รอยยิ้มอันขมขื่นผุดขึ้นบนใบหน้าของแนชขณะที่เขาพูด จากนั้นสมาชิกตระกูลวู๊ดยังคงค้นหาหญ้าวิญญาณต่อไป ในตอนเย็นเฟนด์และพรรคพวก
สีหน้าอึดอัดฉายชัดบนใบหน้าของทุกคนเมื่อได้ยินคำพูดของแลนสล็อต มุมปากของพวกเขากระตุกหลายครั้งเมื่อได้ยินข่าวนี้ มีใครบางคนบุกทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดอย่างรวดเร็วได้ขนาดนั้นเชียวหรือ? “แลนสล็อต จริงเหรอ? เขาคือใคร? และบุคคลนั้นใช้อะไรในการพัฒนาระดับพลังยุทธ? มันเป็นผลวิญญาณหรือเปล่า?” แนชก้าวไปข้างหน้าและถามกลับ “นายท่านวู๊ด มันไม่ใช่ผลวิญญาณ แต่เป็นทักษะยุทธ! ได้ยินมาว่าเขาคือนายท่านแซคคารี! ในวันที่สองที่เขาและคนของเขาเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ เขาก็พบเข้ากับตำรายุทธและได้รับทักษะมาจากมัน และในไม่ช้า เขาก็ทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดได้! หลังจากบุกเข้าไปในระดับเทพสูงสุด เขาก็กลายเป็นคนหยิ่งยโสและถือตัว เพื่อให้ได้หญ้าและทรัพยากรล้ำค่า เขาฆ่าคนจากตระกูลซีเมเนส และตระกูลคาเบลโลไปมากมาย! เฮ้อ! โดยเฉพาะตระกูลซีเมเนส ในอดีตพวกเขาใกล้ชิดกับตระกูลแซคคารีมาก!” แลนสล็อตตอบกลับ ชายหนุ่มคนหนึ่งร้องขึ้น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “พวกเราเห็นพวกเขาจากที่ไกล ๆ พวกเราจึงรีบบินหนีมาทันที! อีกทั้งเรายังได้ค้นพบสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุดด้วย! เมื่อมีใครทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุด พลังฉีที
เมื่อความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเขา ทันใดนั้นดวงตาของแลนสล็อตก็สว่างวาบขึ้น ด้วยการพลิกฝ่ามือ เขาหยิบหญ้าวิญญาณระดับสามออกมาหลายต้น "ขอบคุณ!" หลังจากประเมินหญ้าวิญญาณอย่างรอบคอบแล้วเฟนด์ก็เลือกพวกมันมาสองต้นและเก็บมันไว้ในแหวนยุทธของเขา “ผมเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นสูงระดับสอง และผมจะบ่มเพาะและปรับแต่งการเล่นแร่แปรธาตุขั้นต้นระดับสามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” “นายน้อยเฟนด์ คุณสามารถฆ่านักสู้ในระดับเทพสูงสุดขั้นที่หนึ่งได้ถึงสองคน ดังนั้นนี่ก็เป็นนัยว่าเราจะไม่ต้องกลัวตระกูลแซคคารีหากต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา” นักสู้รุ่นเยาว์ของตระกูลวู๊ดถามด้วยความตื่นเต้นในดวงตาของเธอ "เป็นเรื่องที่พูดยาก ตอนนี้ทุกคนกำลังแข่งกับเวลา การทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดนั้นอาจยากขึ้น แต่เมื่อก้าวข้ามผ่านไปได้ พลังฉีของคุณจะยิ่งมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ยังไม่รวมว่ามีหญ้าวิญญาณระดับสามจำนวนมากที่นี่ ดังนั้นถ้านายท่านแซคคารีใช้หญ้าวิญญาณและฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก เขาจะสามารถทะลวงเข้าไปในขั้นที่สองของระดับเทพขั้นสูงสุดหรือสามได้อย่างง่ายดาย!” เฟนด์ฉายรอยยิ้มแห้ง ๆ และอธิบายต่อ “นอกจากนี้ มันเป็นความจริง
แลนสล็อตหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาเย้าแหย่เฟนด์ จากนั้นเขาก็บินขึ้นไปเหนือต้นไม้ใหญ่ เมื่อเขามองเห็นสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายลิงขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาก็อดที่จะกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ เมื่อพิจารณาจากภาพตรงหน้า รัศมีของสัตว์อสูรนั้นดูคล้ายจะเป็นพละกำลังในขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุด มันแพร่กระจายแรงกดดันออกมาอย่างท่วมท้น "อะไรกัน! สัตว์อสูรตัวนั้นสูงเกือบยี่สิบเมตร ความแข็งแกร่งและพลังของมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก!” แนชบินขึ้นและหยุดอยู่ข้าง ๆ แลนสล็อตเช่นกัน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดมนและเคร่งขรึมหลังจากมองดูสถานการณ์ข้างหน้า “เฟนด์ สัตว์อสูรตัวนั้นแข็งแกร่งมาก! พ่อไม่คิดว่าลูกจะเอาชนะมันได้!” แนช หันไปหาเฟนด์น้ำเสียงจริงจัง คิ้วของเฟนด์ขมวดเข้าหากัน “ถึงผมจะไม่สามารถเอาชนะมันได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมที่จะเข้าไปถ่วงเวลาไว้สักพัก ขณะที่ฉันกำลังขัดขวางสัตว์อสูร พวกคุณก็เข้าไปชิงตัวสมาชิกตระกูลคาเบลโล และหนีไปซะ คุณเห็นภูเขาลูกใหญ่ข้างหน้าทางขวามือไหม? เราจะพบกันที่นั่น!” เฟนด์กล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น เฟนด์หยุดนิ่งอีกสองสามวินาที จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวและขี่ดาบบินพุ่งเข้าหาสัตว
ในขณะนั้น ร่างอันหล่อเหลาที่เธอคิดถึงตลอดเวลาก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ ร่างนี้มีออร่าที่แน่วแน่ แม้ว่าเขาจะอยู่ในโหมดจริงจังและไร้อารมณ์ขัน แต่เขาก็มักจะปรากฏตัวในช่วงเวลาวิกฤตเพื่อช่วยเธอเสมอ น่าเสียดายที่เธอจะไม่ได้เห็นรูปร่างที่มีเสน่ห์นี้อีกแล้ว เมื่อกำปั้นขนาดมหึมาเข้าใกล้ ดาเนียลล่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร เธอเห็นเงาแวบวาบต่อหน้าเธอ ก่อนมันจะชนเข้ากับกำปั้นขนาดมหึมา 'นั่นใครน่ะ? โจมตีกับสัตว์อสูรโดยตรงเช่นนี้ ไม่กลัวตายรึอย่างไร?' ทันทีที่ภาพเงาสะท้อนต่อหน้าเธอ ความคิดบ้า ๆ ก็ผุดขึ้นมาในใจของดาเนียลล่า เธอแน่ใจว่าพ่อของเธออยู่ไกลจากเธอและไม่มีทางที่จัมาช่วยเธอได้ทัน เธอจึงสงสัยว่าเงานั้นเป็นผู้ใด ในวินาทีถัดมา ดาเนียลล่ารู้สึกคุ้นเคยกับภาพเงาตรงหน้าเธอ และในไม่ช้าเธอก็ตระหนักได้ ภาพเงาที่อยู่ตรงหน้าเธอคือร่างที่มีเสน่ห์ซึ่งปรากฏขึ้นในความคิดเมื่อครู่ ภาพเงาและรูปร่างที่มีเสน่ห์หลอมรวมเข้าด้วยกันและกลายเป็นบุคคลนั้น “เฟนด์!” อเล็กซานเดอร์ซึ่งอยู่ห่างจากดาเนียลล่ารู้สึกงงงวยกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเฟนด์ เขาหยิกแก้มตัวเองเพื่อดูว่านี่เป็นความฝันห
“นายท่านวู๊ด ทำไม… ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่?” หลังจากหนีจากบินหนีลิงยักษไปข้างหน้าได้ไม่กี่นาที อเล็กซานเดอร์และกลุ่มของเขาก็มองเห็นแนช และพรรคพวก คิ้วของแนชขมวดเข้าหากัน จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปและพูดว่า “ไปที่นั่นกันเถอะ ผมเชื่อมั่นในตัวลูกชายของผม เขาต้องจัดการกับเจ้าวานรตัวนี้ได้อย่างแน่นอน และเขาบอกให้เราไปที่ด้านล่างของภูเขาและรอเขาที่นั่น เขาจะต้องมีชีวิตอยู่และตามเราทันได้ในไม่ช้า!” “ลุงแนช เฟนด์…เฟนด์กำลังต่อสู้กับสัตว์อสูรเพียงลำพัง ฉันเป็นห่วงเขา…” ดาเนียลล่าดึงริมฝีปากล่างสีชมพูอมชมพูของตัวเอง และระหว่างคิ้วมีเส้นยับย่นปรากฏขึ้น "ไม่ต้องกังวล ถึงอยู่ต่อไปเราวยอะไรเฟนด์ไม่ได้มากนัก ไปกันเถอะ!" ขณะที่แนชพูดเขายิ้มอย่างอบอุ่นบนใบหน้า “พี่เซเลน่า รอยดำบนใบหน้าพี่มันอะไรกัน?” พวกเขาเดินทางไปยังภูเขาลูกใหญ่ด้วยกัน และหลังจากนั้นไม่นาน ดาเนียลล่าก็สังเกตเห็นรอยดำบนใบหน้าที่สวยงามของเซเลน่า เธอถามด้วยความตกใจในน้ำเสียง เห็นได้ว่ามันไม่ใช่แค่ไฝดำธรรมดาอย่างแน่นอน และหากเป็นไฝธรรมดา มันก็ไม่สามารถเติบโตบนใบหน้าของผู้ฝึกวรยุทธ์ได้! นอกจากนี้ ด้ว
หลังจากคำรามเสียงดัง ลิงยักษ์ร่ายพลังฉีบนฝ่ามืออัดแน่นจนเป็นลูกบอลแสงสีแดงอ่อน หลังจากปรากฏเป็นรูปเป็นร่างแล้ว มันก็ลอยไปหาเฟนด์“สัตว์อสูรตัวนี้รู้วิธีโจมตีเป็นอย่างดี!” เฟนด์ไม่กล้าทำอะไรเลินเล่อหลังจากที่เขาเห็นว่าสัตว์อสูรตรงหน้าทำอะไร เขาเริ่มใช้กระบวนท่าคลื่นประกายดาบอีกครั้ง และสามารถป้องกันการโจมตีของลิงยักษ์ได้ด้วยความยากลำบากเขามองไปยังทิศทางที่อเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ กำลังหลบหนีไป หลังจากที่เขาสกัดกั้นการโจมตีได้เขานึกโล่งใจเป็นที่สุด เมื่ออเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ บินไปไกลแล้ว ลิงยักษ์คงจะไม่อาจไล่ตามพวกเขาทันได้ง่าย ๆ ถ้าเขาซื้อเวลาไว้อีกสักระยะ เซเลน่าและคนอื่น ๆ ก็จะปลอดภัยไปด้วยแต่แน่นอนว่า พวกเขาจะปลอดภัย ถ้าไม่บังเอิญเจอเข้ากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าระหว่างทาง ป่าแห่งนี้มีสิ่งของล้ำค่ามากมาย แต่ก็ต้องแลกมากับการมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอยู่มากมายด้วยเช่นกัน ยังไม่รวมว่าที่นี่มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งในระดับเทพสูงสุดอีกต่างหาก'ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรตัวนี้ต่อไปแล้ว ฉันสามารถหลบหนีได้หลังจากเล่นงานให้ลิงตัวนี้ชะงักเพราะสัตว์อสูรตัวนี้ค่อนข้างเทอะทะ แม้จะเคล