สีหน้าอึดอัดฉายชัดบนใบหน้าของทุกคนเมื่อได้ยินคำพูดของแลนสล็อต มุมปากของพวกเขากระตุกหลายครั้งเมื่อได้ยินข่าวนี้ มีใครบางคนบุกทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดอย่างรวดเร็วได้ขนาดนั้นเชียวหรือ? “แลนสล็อต จริงเหรอ? เขาคือใคร? และบุคคลนั้นใช้อะไรในการพัฒนาระดับพลังยุทธ? มันเป็นผลวิญญาณหรือเปล่า?” แนชก้าวไปข้างหน้าและถามกลับ “นายท่านวู๊ด มันไม่ใช่ผลวิญญาณ แต่เป็นทักษะยุทธ! ได้ยินมาว่าเขาคือนายท่านแซคคารี! ในวันที่สองที่เขาและคนของเขาเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ เขาก็พบเข้ากับตำรายุทธและได้รับทักษะมาจากมัน และในไม่ช้า เขาก็ทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดได้! หลังจากบุกเข้าไปในระดับเทพสูงสุด เขาก็กลายเป็นคนหยิ่งยโสและถือตัว เพื่อให้ได้หญ้าและทรัพยากรล้ำค่า เขาฆ่าคนจากตระกูลซีเมเนส และตระกูลคาเบลโลไปมากมาย! เฮ้อ! โดยเฉพาะตระกูลซีเมเนส ในอดีตพวกเขาใกล้ชิดกับตระกูลแซคคารีมาก!” แลนสล็อตตอบกลับ ชายหนุ่มคนหนึ่งร้องขึ้น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “พวกเราเห็นพวกเขาจากที่ไกล ๆ พวกเราจึงรีบบินหนีมาทันที! อีกทั้งเรายังได้ค้นพบสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับระดับเทพสูงสุดด้วย! เมื่อมีใครทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุด พลังฉีที
เมื่อความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเขา ทันใดนั้นดวงตาของแลนสล็อตก็สว่างวาบขึ้น ด้วยการพลิกฝ่ามือ เขาหยิบหญ้าวิญญาณระดับสามออกมาหลายต้น "ขอบคุณ!" หลังจากประเมินหญ้าวิญญาณอย่างรอบคอบแล้วเฟนด์ก็เลือกพวกมันมาสองต้นและเก็บมันไว้ในแหวนยุทธของเขา “ผมเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นสูงระดับสอง และผมจะบ่มเพาะและปรับแต่งการเล่นแร่แปรธาตุขั้นต้นระดับสามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” “นายน้อยเฟนด์ คุณสามารถฆ่านักสู้ในระดับเทพสูงสุดขั้นที่หนึ่งได้ถึงสองคน ดังนั้นนี่ก็เป็นนัยว่าเราจะไม่ต้องกลัวตระกูลแซคคารีหากต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา” นักสู้รุ่นเยาว์ของตระกูลวู๊ดถามด้วยความตื่นเต้นในดวงตาของเธอ "เป็นเรื่องที่พูดยาก ตอนนี้ทุกคนกำลังแข่งกับเวลา การทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุดนั้นอาจยากขึ้น แต่เมื่อก้าวข้ามผ่านไปได้ พลังฉีของคุณจะยิ่งมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ยังไม่รวมว่ามีหญ้าวิญญาณระดับสามจำนวนมากที่นี่ ดังนั้นถ้านายท่านแซคคารีใช้หญ้าวิญญาณและฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก เขาจะสามารถทะลวงเข้าไปในขั้นที่สองของระดับเทพขั้นสูงสุดหรือสามได้อย่างง่ายดาย!” เฟนด์ฉายรอยยิ้มแห้ง ๆ และอธิบายต่อ “นอกจากนี้ มันเป็นความจริง
แลนสล็อตหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาเย้าแหย่เฟนด์ จากนั้นเขาก็บินขึ้นไปเหนือต้นไม้ใหญ่ เมื่อเขามองเห็นสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายลิงขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาก็อดที่จะกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ เมื่อพิจารณาจากภาพตรงหน้า รัศมีของสัตว์อสูรนั้นดูคล้ายจะเป็นพละกำลังในขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุด มันแพร่กระจายแรงกดดันออกมาอย่างท่วมท้น "อะไรกัน! สัตว์อสูรตัวนั้นสูงเกือบยี่สิบเมตร ความแข็งแกร่งและพลังของมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก!” แนชบินขึ้นและหยุดอยู่ข้าง ๆ แลนสล็อตเช่นกัน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดมนและเคร่งขรึมหลังจากมองดูสถานการณ์ข้างหน้า “เฟนด์ สัตว์อสูรตัวนั้นแข็งแกร่งมาก! พ่อไม่คิดว่าลูกจะเอาชนะมันได้!” แนช หันไปหาเฟนด์น้ำเสียงจริงจัง คิ้วของเฟนด์ขมวดเข้าหากัน “ถึงผมจะไม่สามารถเอาชนะมันได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมที่จะเข้าไปถ่วงเวลาไว้สักพัก ขณะที่ฉันกำลังขัดขวางสัตว์อสูร พวกคุณก็เข้าไปชิงตัวสมาชิกตระกูลคาเบลโล และหนีไปซะ คุณเห็นภูเขาลูกใหญ่ข้างหน้าทางขวามือไหม? เราจะพบกันที่นั่น!” เฟนด์กล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น เฟนด์หยุดนิ่งอีกสองสามวินาที จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวและขี่ดาบบินพุ่งเข้าหาสัตว
ในขณะนั้น ร่างอันหล่อเหลาที่เธอคิดถึงตลอดเวลาก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ ร่างนี้มีออร่าที่แน่วแน่ แม้ว่าเขาจะอยู่ในโหมดจริงจังและไร้อารมณ์ขัน แต่เขาก็มักจะปรากฏตัวในช่วงเวลาวิกฤตเพื่อช่วยเธอเสมอ น่าเสียดายที่เธอจะไม่ได้เห็นรูปร่างที่มีเสน่ห์นี้อีกแล้ว เมื่อกำปั้นขนาดมหึมาเข้าใกล้ ดาเนียลล่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร เธอเห็นเงาแวบวาบต่อหน้าเธอ ก่อนมันจะชนเข้ากับกำปั้นขนาดมหึมา 'นั่นใครน่ะ? โจมตีกับสัตว์อสูรโดยตรงเช่นนี้ ไม่กลัวตายรึอย่างไร?' ทันทีที่ภาพเงาสะท้อนต่อหน้าเธอ ความคิดบ้า ๆ ก็ผุดขึ้นมาในใจของดาเนียลล่า เธอแน่ใจว่าพ่อของเธออยู่ไกลจากเธอและไม่มีทางที่จัมาช่วยเธอได้ทัน เธอจึงสงสัยว่าเงานั้นเป็นผู้ใด ในวินาทีถัดมา ดาเนียลล่ารู้สึกคุ้นเคยกับภาพเงาตรงหน้าเธอ และในไม่ช้าเธอก็ตระหนักได้ ภาพเงาที่อยู่ตรงหน้าเธอคือร่างที่มีเสน่ห์ซึ่งปรากฏขึ้นในความคิดเมื่อครู่ ภาพเงาและรูปร่างที่มีเสน่ห์หลอมรวมเข้าด้วยกันและกลายเป็นบุคคลนั้น “เฟนด์!” อเล็กซานเดอร์ซึ่งอยู่ห่างจากดาเนียลล่ารู้สึกงงงวยกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเฟนด์ เขาหยิกแก้มตัวเองเพื่อดูว่านี่เป็นความฝันห
“นายท่านวู๊ด ทำไม… ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่?” หลังจากหนีจากบินหนีลิงยักษไปข้างหน้าได้ไม่กี่นาที อเล็กซานเดอร์และกลุ่มของเขาก็มองเห็นแนช และพรรคพวก คิ้วของแนชขมวดเข้าหากัน จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปและพูดว่า “ไปที่นั่นกันเถอะ ผมเชื่อมั่นในตัวลูกชายของผม เขาต้องจัดการกับเจ้าวานรตัวนี้ได้อย่างแน่นอน และเขาบอกให้เราไปที่ด้านล่างของภูเขาและรอเขาที่นั่น เขาจะต้องมีชีวิตอยู่และตามเราทันได้ในไม่ช้า!” “ลุงแนช เฟนด์…เฟนด์กำลังต่อสู้กับสัตว์อสูรเพียงลำพัง ฉันเป็นห่วงเขา…” ดาเนียลล่าดึงริมฝีปากล่างสีชมพูอมชมพูของตัวเอง และระหว่างคิ้วมีเส้นยับย่นปรากฏขึ้น "ไม่ต้องกังวล ถึงอยู่ต่อไปเราวยอะไรเฟนด์ไม่ได้มากนัก ไปกันเถอะ!" ขณะที่แนชพูดเขายิ้มอย่างอบอุ่นบนใบหน้า “พี่เซเลน่า รอยดำบนใบหน้าพี่มันอะไรกัน?” พวกเขาเดินทางไปยังภูเขาลูกใหญ่ด้วยกัน และหลังจากนั้นไม่นาน ดาเนียลล่าก็สังเกตเห็นรอยดำบนใบหน้าที่สวยงามของเซเลน่า เธอถามด้วยความตกใจในน้ำเสียง เห็นได้ว่ามันไม่ใช่แค่ไฝดำธรรมดาอย่างแน่นอน และหากเป็นไฝธรรมดา มันก็ไม่สามารถเติบโตบนใบหน้าของผู้ฝึกวรยุทธ์ได้! นอกจากนี้ ด้ว
หลังจากคำรามเสียงดัง ลิงยักษ์ร่ายพลังฉีบนฝ่ามืออัดแน่นจนเป็นลูกบอลแสงสีแดงอ่อน หลังจากปรากฏเป็นรูปเป็นร่างแล้ว มันก็ลอยไปหาเฟนด์“สัตว์อสูรตัวนี้รู้วิธีโจมตีเป็นอย่างดี!” เฟนด์ไม่กล้าทำอะไรเลินเล่อหลังจากที่เขาเห็นว่าสัตว์อสูรตรงหน้าทำอะไร เขาเริ่มใช้กระบวนท่าคลื่นประกายดาบอีกครั้ง และสามารถป้องกันการโจมตีของลิงยักษ์ได้ด้วยความยากลำบากเขามองไปยังทิศทางที่อเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ กำลังหลบหนีไป หลังจากที่เขาสกัดกั้นการโจมตีได้เขานึกโล่งใจเป็นที่สุด เมื่ออเล็กซานเดอร์และคนอื่น ๆ บินไปไกลแล้ว ลิงยักษ์คงจะไม่อาจไล่ตามพวกเขาทันได้ง่าย ๆ ถ้าเขาซื้อเวลาไว้อีกสักระยะ เซเลน่าและคนอื่น ๆ ก็จะปลอดภัยไปด้วยแต่แน่นอนว่า พวกเขาจะปลอดภัย ถ้าไม่บังเอิญเจอเข้ากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าระหว่างทาง ป่าแห่งนี้มีสิ่งของล้ำค่ามากมาย แต่ก็ต้องแลกมากับการมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอยู่มากมายด้วยเช่นกัน ยังไม่รวมว่าที่นี่มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งในระดับเทพสูงสุดอีกต่างหาก'ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรตัวนี้ต่อไปแล้ว ฉันสามารถหลบหนีได้หลังจากเล่นงานให้ลิงตัวนี้ชะงักเพราะสัตว์อสูรตัวนี้ค่อนข้างเทอะทะ แม้จะเคล
คำว่าทักษะยุทธทำให้หัวใจของเฟนด์ลุกโชนด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เขาบินตามเสียงนั้นไป เขาก็พบว่ามีปรมาจารย์หลายคนกำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสิ่งของที่อยู่ตรงนั้นในหมู่พวกเขาเป็นผู้อาวุโสจากตระกูลเล็ก ๆ หลายตระกูล ผู้อาวุโสหลายคนจากทั้งตระกูลซีเมเนสและตระกูลแซคคารีก็อยู่ที่นั่นด้วยที่ตรงกลางมีแท่นหินโบราณและลูกบอลเรืองแสงสีฟ้าอยู่บนนั้น มีตำราโบราณเล่มหนึ่งลอยอยู่ในลูกบอลเรืองแสงและเห็นได้ชัดว่าเป็นทักษะยุทธ'ดูเหมือนว่าป่าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการค้นหาสิ่งของล้ำค่า ที่นี่มีทักษะยุทธอยู่จริง ๆ!' เฟนด์บินออกไปในทันทีแต่ในตอนนั้นเอง หัวหน้าตระกูลแซคคารีก็ได้รีบวิ่งออกมาจากป่าจากอีกทางหนึ่งและกำลังมุ่งหน้าไปข้างหน้า“ฮ่าฮ่า… นั่นมันทักษะยุทธ! ทักษะยุทธจริง ๆ! ทักษะยุทธนี้ควรเป็นของตระกูลแซคคารีของเราด้วย!” หัวหน้าตระกูลแซคคารีหัวเราะออกมาเสียงดังและกำลังมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว"ฝันไปเถอะ!" ผู้อาวุโสคนหนึ่งจากตระกูลซีเมเนสซึ่งกำลังอยู่ขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงและมีทักษะในการต่อสู้ค่อนข้างดีตะโกนขึ้น เขาไม่รู้เลยว่าหัวหน้าตระกูลแซคคารีจะเข้ามาโจมตีเขาในตอนที่เขาอยู่ห่างจากตำราทักษะ
“พ่อหนุ่ม ไม่ได้ยินหรือว่าฉันอยู่ในระดับเทพสูงสุดแล้ว?” ไนเจลกัดฟันเมื่อเขารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ไว้หน้าเขา“เฟนด์?” ทันใดนั้นเองเฟนด์หันกลับมาอย่างช้า ๆ และไนเจลก็จำได้ทันทีว่าบุคคลตรงหน้านี้คือใคร“นายท่านไนเจล ของชิ้นนี้จะเป็นของใครก็ได้ ตอนนี้มันอยู่ในมือผมแล้ว ดังนั้นของชิ้นนี้เป็นของผม!”เฟนด์ยิ้มอย่างไม่แยแสและพูด ในขณะที่มองไปที่ไนเจลที่อยู่ตรงหน้า“ฮ่าฮ่า… น้องชายเฟนด์ใครจะคิดว่าเป็นคุณ!” ผู้อาวุโสอีกคนจากตระกูลแซคคารีซึ่งอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงเริ่มหัวเราะเสียงดัง “ตอนอยู่ที่โลกข้างนอกนั่น คุณมีพลังยุทธสูงสุด และทุกคนให้เกียรติคุณเพราะจนปัญญา แม้แต่หัวหน้าตระกูลของเราหรือพวกเจ้าตำหนักของสี่ชนเผ่าโบราณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ นั่นคือเหตุผลที่ทุกคนเชื่อฟังในสิ่งที่คุณพูด!”ผู้อาวุโสหยุดลงหนึ่งอึดใจก่อนที่จะพูดต่อด้วยรอยยิ้มเย็นชาที่แต่งแต้มบนใบหน้า “แต่หลังจากที่เราเข้ามาในพื้นที่นี้แล้ว สถานการณ์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้หัวหน้าตระกูลของเราเป็นปรมาจารย์ในระดับเทพสูงสุด คุณยังคิดว่าเราจะกลัวคุณอยู่อีกหรือ?”เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาหลังจากได้ยินสิ่งนี้ เขาไม่ย