แชร์

บทที่ 1488

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เฟนด์ ไป! หนีไป!"

แนชกับเคนเนธยังไม่ตาย แต่ทั้งสองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่มีพลังต่อสู้เหลืออยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็ตะโกนบอกเฟนด์ ขอร้องให้เขาหนีไป เฟนด์ฆ่าคู่ต่อสู้สองคนด้วยตัวเองได้แล้ว และตอนนี้ทางเขามีโอกาสแล้ว มันเป็นโอกาสทองที่จะหลบหนี และมันจะดีกว่าถ้าเขาหนีไปด้วยดาบบิน

“พ่อ ไม่มีทางที่ผมจะทิ้งพ่อกับผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งไว้ข้างหลังแน่!”

แต่เฟนด์ก็ปฏิเสธข้อเสนอนั้นไป สีหน้าของเขาเคร่งขรึม เขาหันกลับไปและในพริบตาก็ปรากฏตัวต่อหน้าแนชและเคนเนธ หยุดไม่ให้อีกสี่คนฆ่าแนชกับเคนเนธ

“ไอ้เด็กนอกคอกนี่ทรงพลังมาก เขาฆ่าทั้งผู้อาวุโสชอว์และผู้อาวุโสเลคได้!”

เมื่อชายทั้งสี่ชำเลืองมองศพทั้งสองที่อยู่บนพื้น มุมปากของพวกเขาก็กระตุกอย่างไม่ได้ตั้งใจ จุดจบแบบนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงเลย

“ไอ้นอกคอกนี่เพิ่งอยู่ในขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงเท่านั้น ถ้าเขาทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงได้ มันคงเป็นปัญหาแน่! เมื่อถึงตอนนั้น ฉันเกรงว่าแม้แต่เจ้าตำหนักของเราก็อาจจะสู้เขาไม่ได้!”

หนึ่งในสี่พูดขณะที่พวกเขาเหาะไปยังอีกด้านหนึ่งของเฟนด์ ทั้งสี่คนล้อมรอบเฟนด์ไว้ ทำให้ตอนนี้เฟนด์อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1489

    อีกด้านหนึ่ง ชายชราอีกคนก็หัวเราะเยาะกับสถานการณ์นี้ “ฮ่าฮ่าฮ่า! การกระทำของเขาไม่ต่างจากฆ่าตัวตายเลย จริงไหม? ตอนแรกเขามีโอกาสที่จะหนี แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสอีกแล้ว! ร่วมมือฆ่าเขากันเถอะ! พอเขาตาย แนชกับเคนเนธก็จะหนีไม่รอดเหมือนกัน!” จากระยะไกล แนชกับเคนเนะซึ่งยืนอยู่บนดาบบิน ต่างก็กินโอสถเพื่อรักษาแผล จากนั้นพวกเขาก็นั่งลงบนดาบและพักผ่อน สีหน้าของพวกเขาดูเคร่งขรึมขณะมองไปยังทางที่เฟนด์และอีกสี่คนอยู่“นายท่านแนช ทำไมนายน้อยเฟนด์ถึงทำแบบนี้? นี่ไม่เท่ากับว่าหาเรื่องตายเหรอ? สถานกาณ์อย่างนั้น มันไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย!” เคนเนธถอนหายใจอีกครั้ง สีหน้าของเขาหมองลง “นายน้อยเฟนด์ ครั้งนี้เขาประมาทเกินไป!” แนชก็มีสีหน้าเศร้าหมองลงเช่นกัน หลังจากไตร่ตรองเรื่องนี้แล้วเขาก็วิเคราะห์ออกมาว่า "แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมเฟนด์ถึงอยากให้เราปลอดภัยก่อน แต่ฉันเชื่อมั่นในตัวเขา บางทีเขาอาจจะมีแผนการบางอย่างที่….”ขณะที่แนชแสดงความเห็นออกมา เสียงของเขาก็เบาลงเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าเขาก็ไม่ค่อยมั่นใจในคำพูดของตัวเองเหมือนกัน แม้แต่เขาก็คิดว่า เฟนด์คงไม่มีโอกาสชนะ เพราะนอกจากดาบบิน เฟนด์จะมีอะไรอีก?

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1490

    “กรร!” เฟนด์ซึ่งตอนนี้แปลงร่างเป็นมังกรเขียว เริ่มแสดงการเคลื่อนไหวของเทคนิคนี้เป็นครั้งแรกหลังจากแปลงร่าง เขารู้สึกได้ถึงพลังและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นภายในร่างกายของเขา ทั้งความหนาแน่นและความสมบูรณ์ของพละกำลังโดยรวมของเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของเขายังแข็งแรงและทรงพลังกว่าเดิมมาก เขาเชื่อว่าความสามารถในการป้องกันการโจมตีของเขาก็ต้องดีขึ้นมากด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่เขากังวลอยู่ตอนนี้ก็คือ ร่างกายของเขาใหญ่และแข็งแรงขึ้นก็จริง แต่ความเร็วและความว่องไวของเขาจะลดลง เขาคงจะไม่รวดเร็วเท่าเมื่อก่อน“ฆ่ามัน!” หญิงชราตะโกนออกมาอย่างฉุนเฉียว เธอถ่ายเทฉีเข้าไปในดาบแล้วเหวี่ยงแขนของเธอ ส่งการโจมตีด้วยดาบสองครั้งติดกันตรงไปยังเฟนด์กรร! หลังจากเห็นการโจมตีของหญิงชรา มังกรเขียวก็ส่งเสียงคำรามดังลั่นอีกครั้งและพุ่งเข้าโจมตีใส่หญิงชราโดยตรง “ฆ่ามันซะ!”อีกสามคนตวัดดาบทันทีเพื่อร่วมต่อสู้ ปล่อยออร่าดาบหลายอันพุ่งเข้าใส่เฟนด์ที่อยู่ในร่างมังกรเขียวขนาดยักษ์เฟนด์ไม่สนใจออร่าดาบพวกนั้นเลย เขายังคงพุ่งเข้าใส่หญิงชราคนนั้นต่อปัง! ปัง! ออร่าของดาบทั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1491

    เสียงตุ้บดังขึ้นสองครั้ง ชายสองคนถูกกระแทกลอยไปไกลหลายเมตร แต่ละคนกระอักเลือดออกมาเต็มปากและได้รับบาดเจ็บ กรร! อย่างไรก็ตาม มังกรเขียวก็ไม่หยุดการโจมตีแม้แต่วินาทีเดียว เฟนด์สะบัดร่างของเขาและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมที่จะโฉบลงมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พุ่งลงไปทางของชายอีกคนหนึ่งที่ยังคงปล่อยฉีโจมตีใส่เขา หลังจากที่รู้ว่าอีกสามคนได้รับบาดเจ็บ ชายคนนี้ก็สุ่มโจมตีอีกสองสามครั้ง แต่ผลกระทบและความเสียหายบนร่างของเฟนด์ก็มีไม่มากนัก มังกรเขียวพุ่งตรงเข้าใส่เขาด้วยความเร็วและพละกำลังเต็มที่ ใบหน้าของเขาขาวซีด เขารีบวิ่งไปทางหญิงชราและชายอีกสองคน “ทุกคน เร็วเข้า! โจมตีมัน! เร็วเข้า…” เขาพูดขณะที่วิ่ง กรร! อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่ก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าและคว้าจับตัวเขาไว้ด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว บดขยี้เขาจนเป็นเหมือนเนื้อบด นักสู้ชั้นยอดที่มีพลังยุทธอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงก็ตายไปแบบนั้น เฮือก! อีกสามคนไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาอ้าปากค้าง ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าพวกเขาถูกกรงเล็บมังกรจับตัวไป พวกเขาคงจะต้องจบลงเหมือนชายคนนั้นที่อยู่ตรงห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1492

    “นายน้อยเฟนด์ เป็นอะไรหรือเปล่า? อาการบาดเจ็บของคุณเป็นยังไงบ้าง? มันร้ายแรงไหม?” เมื่อเห็นเฟนด์ในสภาพเช่นนี้ เคนเนธรู้สึกกังวลเล็กน้อยในใจ เพราะกลัวว่าเฟนด์จะได้รับบาดเจ็บสาหัส “ผมไม่เป็นไร ทักษะการแปลงร่างมนุษย์เป็นมังกรจะทำได้ก็ต่อเมื่อเข้าสู่ะดับเทพแท้จริงแล้วเท่านั้น และผมก็ใช้มันได้แค่ครู่เดียว ข้อดีของทักษะนี้คือ พลังการต่อสู้และความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นมาก แต่ข้อเสียคือ มันใช้พลังฉีมากเกินไป!”เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นนิด ๆ ก่อนที่จะอธิบายว่า “ตอนนี้ผมต้องเติมพลังฉีก่อน ขอพักสักหนึ่งหรือสองชั่วโมงนะ!”“ดีจริง ๆ ที่คุณไม่เป็นไร ฉันดีใจมาก!" แนชกับเคนเนธถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันทีเมื่อได้ยินว่าเฟนด์ไม่เป็นไร ในที่สุดก้อนหินที่หนักอึ้งในใจของพวกเขาก็ถูกยกออกไป หลังจากพักไประยะหนึ่ง อาการบาดเจ็บของทุกคนก็ดีขึ้น และพลังฉีของเฟนด์ก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นเขาจึงกลับไปยังสถานที่ต่อสู้เมื่อกี้แล้วรวบรวมแหวนและอาวุธของผู้เสียชีวิตหกคนอย่างไรเสีย ทั้งหกคนนี้ล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่งในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริง และเนื่องจากพวกเขาเป็นผู้อาวุโสของตำหนักนภา ดังนั้นแหวนจอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1493

    หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว แนชก็ยิ้มออกมา“หึ ๆ ฉันพนันได้เลยว่าครั้งนี้คนของตำหนักนภาคงจะร้องไห้แทบตาย ที่นักสู้หกคนในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงเสียชีวิตไปในคราวเดียว นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับพวกเขา! ในตอนแรก อาจพูดได้ว่าสี่เผ่าโบราณมีพลังและอำนาจเท่าเทียมกัน แต่ตอนนี้ ตำหนักนภา คงเป็นได้แค่ 'น้องเล็ก' ต่อหน้าเผ่าโบราณอีกสามเผ่าเท่านั้น!”เคนเนธรู้สึกตื่นเต้นนิด ๆ เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาและการแสดงออกของเจ้าตำหนักนภา โจเอล คอลลินส์ เมื่อเขารู้ว่านักสู้ชั้นยอดของเขาทั้งหกคนตายไปแล้ว“ฉันไม่สนใจว่าโจเอลจะมีปฏิกิริยายังไง แต่ฉันอยากรู้มากกว่าว่าลิลลี่จะมีปฏิกิริยายังไงหลังจากที่เธอรู้เรื่องนี้!”แนชยิ้มตาม “บางทีพวกเขาอาจจะไม่คิดว่าเราเป็นคนฆ่าด้วยซ้ำ พวกเขาอาจคิดว่าคนจากสามเผ่าโบราณที่เหลือเป็นคนลงมือ!” "ใช่แล้ว พวกเขาคงไม่คิดว่า พวกเราสามคนสามารถฆ่านักสู้ชั้นยอดทั้งหกคนนนั้นได้!”เคนเนธพยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่าเขาจะยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขที่แก้แค้น หลังจากเหาะมาได้ไม่ถึงชั่วโมง ในที่สุดที่บ้านพักของตระกูลวู๊ดก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเฟนด์กับคนอื่นๆเซเลน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1494

    "อะไรนะ? คุณฆ่านักสู้ชั้นยอดหกคนที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ?”เซเลน่าอ้าปากค้างกับข่าวที่เพิ่งรู้ สงสัยว่าเธอได้ยินผิดไปหรือเปล่า เฟนด์ สามีของเธอ เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงเมื่อไม่นานนี้ไม่ใช่หรือ? เขาจะฆ่านักสู้ชั้นยอดหกคนด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง?“อย่าไปฟังผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งเลย เขาพูดเรื่องไร้สาระ! ถ้าไม่ใช่เพราะเขากับพ่อช่วยถ่วงเวลาอีกสี่คนไว้ ผมจะฆ่าพวกเขาหกคนด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง?” เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาคาดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งจะพูดให้สถานการณ์เกินจริงถึงขนาดนี้“ถึงอย่างนั้นมันก็ทรงพลังมากเหมือนกัน!” เซเลน่ายืนนิ่ง ๆ และปิดท้ายด้วยการยิ้มให้เฟนด์ “เอาล่ะ ไปพักผ่อนกันก่อน อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ดูตามเนื้อตัวของคุณสิ เลือดเต็มไปหมด!” “เอาล่ะ งั้นเราจะไม่รบกวนพวกเขาสองคน ออกไปกันเถอะ! พักผ่อนให้เต็มที่เพื่อวันที่กำลังจะมาถึง อีกสิบวันข้างหน้าเราจะต้องออกเดินทางอีกครั้ง!”แนชยิ้มและจากไปพร้อมกับเคนเนธ จากนั้นเฟนด์รีบเข้าไปในบ้าน อาบน้ำอุ่น เปลี่ยนเสื้อผ้า นอนลงบนเตียงและงีบหลับไป เหตุการ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1495

    "ว้าว! เจ๋งสุด ๆ ไปเลย! ในที่สุดหนูก็ได้ขี่ดาบบินแล้ว!” ไคลี่ซึ่งตอนนี้นั่งอยู่บนดาบบิน มองไปที่แสงนับหมื่นดวงเบื้องล่าง เธออดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเสียงดัง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เช้าวันต่อมา ลิลลี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอสงสัยว่าทำไมผู้อาวุโสทั้งหกคนถึงยังไม่กลับมา“ที่รัก ทำไมพวกเขาทั้งหกยังไม่กลับมาอีกล่ะ? ตามแผนแล้ว พวกเขาน่าจะกลับมาถึงเช้านี้หนิ? แต่ตอนนี้จะเที่ยงแล้ว ทำไมยังไม่มีใครกลับมาเเลย!” ลิลลี่เดินเข้าไปหาโจเอล หน้าบึ้งและขมวดคิ้วสงสัย “เฮ้ จะรีบไปไหนล่ะ? มันไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับพวกเขาทั้งหกที่จะฆ่าหนอนสามตัวนั่น! พวกเขาคงหาที่ดื่มและฉลองหลังจากชนะการต่อสู้ ไม่ต้องกังวลไปหรอก! ตอนบ่ายพวกเขาจะกลับมาแน่นอน!” โจเอลยักไหล่และยิ้มอย่างเมินเฉย ไม่กังวลเลยสักนิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้อาวุโสทั้งหกที่เขาส่งไปหรือไม่อย่างไรก็ตาม ในตอนบ่าย โจเอลเองก็เริ่มกังวลเล็กน้อยเมื่อผู้อาวุโสทั้งหกคนยังไม่กลับมาจากนั้นโจเอลก็ส่งคนกลุ่มหนึ่งไปตามหาพวกเขาทั้งหกคนทันทีในทุกสถานที่ที่เป็นไปได้ รวมถึงบริเวณและเส้นทางไปบ้านพักของตระกูลวู๊ด เขาเชื่อว่าตราบใดที่มีการต่อสู้มันต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1496

    “เจ้าตำหนัก เราไม่แน่ใจในเรื่องนี้ เราจึงยืนยันไม่ได้ พื้นที่นั้นล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ และแทบจะไม่มีอะไรอยู่รอบ ๆ เลย เราจึงไม่มีทางตรวจสอบได้ว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น!”ชายชรายิ้มอย่างขมขื่น สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก “นั่นหมายความว่าสถานที่ที่ทั้งหกคนเลือกนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะวางกับดักและสังหารแนช วู๊ดกับพรรคพวก แต่ทำไมจู่ ๆ สัตว์อสูรจึงปรากฏตัวขึ้นและฆ่าพวกเขาไปจนหมดได้ มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!”ชายชราหยุดชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ "โอ้ ใช่แล้ว ความเสียหายในที่เกิดเหตุนั้นอาจบอกอะไรเราไม่ได้มากนัก เนื่องจากการต่อสู้ส่วนใหญ่น่าจะเกิดขึ้นบนท้องฟ้า”“สัตว์อสูรชนิดใดกันที่สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหกคนได้? แม้ว่าสัตว์อสูรเหล่านี้จะมีอยู่ในระดับเทพแท้จริง แต่แน่นอนว่าคงไม่ง่ายที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหกคนได้ แม้ว่าคนของเราอาจจะไม่สามารถเอาชนะสัตว์อสูรได้ แต่ก็น่าจะมีคนที่สามารถหลบหนีมาได้หากหนึ่งหรือสองคนในนั้นถ่วงเวลาสัตว์อสูรไว้ไม่ใช่หรือ? นี่หมายความว่าสัตว์อสูรตัวนั้นต้องมีพลังสูงกว่าพวกเขามาก!”โจเอลใบหน้าถอดสี นักสู้ทั้งหกของเขาเสียชีวิตไปเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้ตำหนักนภาจะอ่อนแอที่สุดในบรรดาส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status