Share

บทที่ 1494

Author: โมเนโต้
"อะไรนะ? คุณฆ่านักสู้ชั้นยอดหกคนที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ?”

เซเลน่าอ้าปากค้างกับข่าวที่เพิ่งรู้ สงสัยว่าเธอได้ยินผิดไปหรือเปล่า เฟนด์ สามีของเธอ เขาเพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงเมื่อไม่นานนี้ไม่ใช่หรือ? เขาจะฆ่านักสู้ชั้นยอดหกคนด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง?

“อย่าไปฟังผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งเลย เขาพูดเรื่องไร้สาระ! ถ้าไม่ใช่เพราะเขากับพ่อช่วยถ่วงเวลาอีกสี่คนไว้ ผมจะฆ่าพวกเขาหกคนด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง?”

เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาคาดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งจะพูดให้สถานการณ์เกินจริงถึงขนาดนี้

“ถึงอย่างนั้นมันก็ทรงพลังมากเหมือนกัน!”

เซเลน่ายืนนิ่ง ๆ และปิดท้ายด้วยการยิ้มให้เฟนด์ “เอาล่ะ ไปพักผ่อนกันก่อน อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ดูตามเนื้อตัวของคุณสิ เลือดเต็มไปหมด!”

“เอาล่ะ งั้นเราจะไม่รบกวนพวกเขาสองคน ออกไปกันเถอะ! พักผ่อนให้เต็มที่เพื่อวันที่กำลังจะมาถึง อีกสิบวันข้างหน้าเราจะต้องออกเดินทางอีกครั้ง!”

แนชยิ้มและจากไปพร้อมกับเคนเนธ

จากนั้นเฟนด์รีบเข้าไปในบ้าน อาบน้ำอุ่น เปลี่ยนเสื้อผ้า นอนลงบนเตียงและงีบหลับไป

เหตุการ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1495

    "ว้าว! เจ๋งสุด ๆ ไปเลย! ในที่สุดหนูก็ได้ขี่ดาบบินแล้ว!” ไคลี่ซึ่งตอนนี้นั่งอยู่บนดาบบิน มองไปที่แสงนับหมื่นดวงเบื้องล่าง เธออดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเสียงดัง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เช้าวันต่อมา ลิลลี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอสงสัยว่าทำไมผู้อาวุโสทั้งหกคนถึงยังไม่กลับมา“ที่รัก ทำไมพวกเขาทั้งหกยังไม่กลับมาอีกล่ะ? ตามแผนแล้ว พวกเขาน่าจะกลับมาถึงเช้านี้หนิ? แต่ตอนนี้จะเที่ยงแล้ว ทำไมยังไม่มีใครกลับมาเเลย!” ลิลลี่เดินเข้าไปหาโจเอล หน้าบึ้งและขมวดคิ้วสงสัย “เฮ้ จะรีบไปไหนล่ะ? มันไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับพวกเขาทั้งหกที่จะฆ่าหนอนสามตัวนั่น! พวกเขาคงหาที่ดื่มและฉลองหลังจากชนะการต่อสู้ ไม่ต้องกังวลไปหรอก! ตอนบ่ายพวกเขาจะกลับมาแน่นอน!” โจเอลยักไหล่และยิ้มอย่างเมินเฉย ไม่กังวลเลยสักนิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้อาวุโสทั้งหกที่เขาส่งไปหรือไม่อย่างไรก็ตาม ในตอนบ่าย โจเอลเองก็เริ่มกังวลเล็กน้อยเมื่อผู้อาวุโสทั้งหกคนยังไม่กลับมาจากนั้นโจเอลก็ส่งคนกลุ่มหนึ่งไปตามหาพวกเขาทั้งหกคนทันทีในทุกสถานที่ที่เป็นไปได้ รวมถึงบริเวณและเส้นทางไปบ้านพักของตระกูลวู๊ด เขาเชื่อว่าตราบใดที่มีการต่อสู้มันต้อ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1496

    “เจ้าตำหนัก เราไม่แน่ใจในเรื่องนี้ เราจึงยืนยันไม่ได้ พื้นที่นั้นล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ และแทบจะไม่มีอะไรอยู่รอบ ๆ เลย เราจึงไม่มีทางตรวจสอบได้ว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น!”ชายชรายิ้มอย่างขมขื่น สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก “นั่นหมายความว่าสถานที่ที่ทั้งหกคนเลือกนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะวางกับดักและสังหารแนช วู๊ดกับพรรคพวก แต่ทำไมจู่ ๆ สัตว์อสูรจึงปรากฏตัวขึ้นและฆ่าพวกเขาไปจนหมดได้ มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!”ชายชราหยุดชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะพูดต่อ "โอ้ ใช่แล้ว ความเสียหายในที่เกิดเหตุนั้นอาจบอกอะไรเราไม่ได้มากนัก เนื่องจากการต่อสู้ส่วนใหญ่น่าจะเกิดขึ้นบนท้องฟ้า”“สัตว์อสูรชนิดใดกันที่สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหกคนได้? แม้ว่าสัตว์อสูรเหล่านี้จะมีอยู่ในระดับเทพแท้จริง แต่แน่นอนว่าคงไม่ง่ายที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหกคนได้ แม้ว่าคนของเราอาจจะไม่สามารถเอาชนะสัตว์อสูรได้ แต่ก็น่าจะมีคนที่สามารถหลบหนีมาได้หากหนึ่งหรือสองคนในนั้นถ่วงเวลาสัตว์อสูรไว้ไม่ใช่หรือ? นี่หมายความว่าสัตว์อสูรตัวนั้นต้องมีพลังสูงกว่าพวกเขามาก!”โจเอลใบหน้าถอดสี นักสู้ทั้งหกของเขาเสียชีวิตไปเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้ตำหนักนภาจะอ่อนแอที่สุดในบรรดาส

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1497

    “ที่สำคัญกว่านั้น ถ้าชายสามคนจากตระกูลวู๊ดเห็นศพของพวกเขา พวกนั้นคงจะเดาออกว่าผมส่งคนไปซุ่มโจมตีพวกมัน หากเป็นเช่นนั้น ต่อจากนี้ไปพวกมันจะระวังตัวแจอย่างแน่นอน!”ชายชรากล่าวเสริมหลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้"เอาล่ะ วันนี้ทุกคนคงเหนื่อยกันมามากแล้ว แยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อน!”โจเอลโบกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนลงไป“เฮ้อ การสูญเสียครั้งนี้มันมากเกินไป ด้วยเหตุนี้เราคงจะไม่อาจเชิดหน้าชูคอสู้กับอีกสามเผ่าโบราณที่เหลือได้!”หลังจากที่คนออกไปหมดแล้วโจเอลก็ถอนหายใจออกมา เขามองไปที่ลิลลี่และความเสียใจผุดขึ้นในหัวใจของเขา เธอเป็นคนสวย แต่น่าเสียดายที่ตำหนักของเขาต้องสูญเสียครั้งใหญ่เพราะเธอในที่สุดโจเอลก็นั่งลงข้าง ๆ “ขอบคุณพระเจ้าที่ยังมีคนในขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงในตำหนักของเราอีกหลายคน” เขากล่าว “ในช่วงหลังมานี้พวกเขาฝึกยุทธอย่างหนัก หากมีสักหนึ่งหรือสองคนสามารถบรรลุไปอีกขั้นได้ก็คงจะดี”เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันเวลาล่วงเลยผ่านไปแปดวันก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไปเยี่ยมตระกูลคาเบลโล จู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งรีบวิ่งไปยืนหัวเราะอยู่กลางอากาศ “ฮ่าฮ่า นี่มันดีจริง ๆ ผมทำสำเร็จแล้ว ในที่สุดผมก็บรร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1498

    "ไม่มีทาง ผู้อาวุโสลำดับที่สองก็บรรลุเช่นกันเหรอ?”ทุกคนสูดหายใจเข้าอย่างแรงเมื่อจำคนที่วิ่งออกมาได้ เกิดอะไรขึ้นบนโลกนี้กัน? ผู้อาวุโสที่อยู่ขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงสองคนบรรลุเข้าสู่ขั้นสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เนื่องจากยังไม่มีวิธีที่จะบรรลุเข้าสู่ระดับเทพสูงสุด ดังนั้นจุดสูงสุดของระดับเทพแท้จริงคือระดับการบ่มเพาะขั้นสูงสุด"อัศจรรย์นัก!"คนบางคนที่อยู่ขั้นกลางของระดับเทพแท้จริงชื่นชมพวกเขา ผู้ที่ไปถึงขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงได้นั้นเปรียบเสมือนเทพเจ้าสำหรับพวกเขา“คุณก็บรรลุแล้วเช่นกันหรือ?”ผู้อาวุโสลำดับที่สองเห็นแลนสล็อตและตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตัว“ฮ่าฮ่า ผมเร็วกว่าคุณสักหนึ่งหรือสองนาทีได้ คุณออกมาหลังจากที่ผมทำสำเร็จแทบจะในทันที!”แลนสล็อตพูดพลางหัวเราะ“นี่เป็นสิ่งที่ดีมาก ฮ่า ๆ มันยอดเยี่ยมมาก! ไม่คิดว่าเราสองคนจะบรรลุไปได้ ถ้าเป็นแบบนี้เราจะไปกลัวใครทำไม เราไม่ต้องกลัวตระกูลฮันท์อีกต่อไปแล้ว ฮ่าฮ่า!”เวสตัน ผู้อาวุโสลำดับที่สองหัวเราะด้วยความอิ่มเอมใจ ในชั่วพริบตา พวกเขาก็มีนักสู้ในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงเพิ่มขึ้นอีกสองคน พลังการต่อ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1499

    “ฮ่าฮ่า คุณยังไม่รู้ว่านี่มันหมายถึงอะไรเหรอ พ่อหนุ่ม? มันก็หมายความว่าตอนนี้คุณเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุชั้นนำแล้วอย่างไรเล่า!”ไททัสหัวเราะและพูดต่อผู้อาวุโสลำดับแรกเห็นว่าเฟนด์ดูเหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์และอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้ คนเพียงคนเดียวที่สามารถเล่นแร่แปรธาตุได้คือนายน้อยลำดับที่สองตระกูลฮันต์และผู้อาวุโสลำดับแรกตระกูลคาเบลโล เราชื่นชมพวกเขามาเป็นเวลานาน และเมื่อเราได้ยินว่าคุณฝึกเล่นแร่แปรธาตุด้วย เราก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่นายน้อยลำดับที่สองตระกูลฮันต์เสียชีวิต ก็มีเพียงคุณและผู้อาวุโสลำดับแรกของตระกูลคาเบลโลเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ก็เป็นเพียงนักเล่นแร่แปรธาตุฝึกหัดเท่านั้น!”ตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสลำดับแรกหยุดชั่วขณะก่อนที่จะพูดต่อ “ผู้อาวุโสลำดับแรกของตระกูลคาเบลโลเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นต้นระดับสอง ซึ่งก็น่าประทับใจพอแล้ว แต่ตอนนี้คุณกลับเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นกลางระดับสอง ก็หมายความว่าตอนนี้คุณเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่เหรอ?”"ไม่มีทาง ผมคิดว่าผู้อาวุโสลำดับแรกของตระกูลคาเบลโลอยู่ในระดับที่สูงมาก!”หลังจากที่เฟนด์ได้ยินเรื่องน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1500

    ว่ากันตามตรง ซาเวียร์รู้สึกกังวลเพราะเมื่อพลังของลิลลี่หมดลง เขาก็กังวลว่าเธอจะถูกฆ่าโดยใครบางคนบนท้องถนน หรือเธออาจจะประสบอุบัติเหตุ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาส่งเธอกลับไปในระหว่างทาง บางครั้งเขาก็พยายามแลกเปลี่ยนความรู้สึกบางอย่างกับลิลลี่ โดยหวังว่าเธอจะไม่เก็บงำความขุ่นเคืองใจต่อตระกูลวู๊ดไว้ เขาบอกเธอว่าเธอทำผิด และหวังว่าทั้งสองตระกูลจะลืมเรื่องนี้ไปทว่าลิลลี่ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เธอจมอยู่ในความโศกเศร้า และเขาไม่รู้ว่าคำพูดของเขามีผลกระทบต่อลิลลี่หรือไม่ถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่ลิลลี่จะไม่ใส่ใจคำพูดของเขา แต่เธอยังเกลียดตระกูลวู๊ดมากจนอยากจะฆ่าล้างตระกูลนี้เขาหมดหนทาง เขารู้ว่าแนชเป็นคนดี แต่เขาก็กลัวว่าสมาชิกในตระกูลวู๊ดจะไม่พอใจกับเขา เพราะเขาพาลิลลี่กลับบ้านแต่หลังจากที่เขากลับมา เขาตระหนักได้บางอย่างว่าสมาชิกในตระกูลวู๊ด ดูเหมือนจะไม่โกรธเคืองเขาเพราะเรื่องนี้แม้แต่น้อย พวกเขายังให้ทรัพยากรยุทธที่เขาต้องการ และตอนนี้เขายังได้เป็นผู้พิทักษ์ อีก นอกจากนี้เขายังบรรลุเข้าสู่ขั้นต้นของระดับเทพแท้จริงเมื่อเดือนที่แล้วนี้ด้วยเฟนด์มองไปที่เขาและพูดว่า "เอาล่ะ ผู้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1501

    ซาเวียร์ยิ้มอย่างขมขื่น เขาตระหนักดีในขอบเขตความสามารถของตนและคิดว่าในช่วงชีวิตปัจจุบันนี้เขาไม่มีความหวังมากนัก นอกจากนี้ แม้ว่าเฟนด์จะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ แต่เขาก็คงไม่อาจทนที่จะเสียโอสถที่ได้ไป“ทุกคนควรมีเป้าหมาย ไม่งั้นเราจะต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว ทุกคนไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”เฟนด์มองไปที่ฝูงชนและพูดในขณะที่หัวเราะ"ใช่ ฮ่าฮ่า!”ทุกคนหัวเราะ อนาคตทั้งหมดของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวัง“ลูกให้โอสถแก่ทุกคน แล้วตอนนี้ลูกจะใช้อะไรเพื่อฝึกฝนตัวเองล่ะ? ลูกไม่ได้พูดว่าลูกจะบรรลุไปยังขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงก่อนที่จะไปที่เขตของตระกูลคาเบลโลเหรอ?”แนชมองไปที่เฟนด์และยิ้มอย่างขมขื่น“อย่ากังวลไปเลยพ่อ ผมยังพอมีเวลาอีกหน่อยไม่ใช่หรือ? วันนี้และพรุ่งนี้ผมจะบ่มเพาะโอสถอีกสองสามเม็ด จากนั้นผมก็จะพยายามฝึกยุทธต่อไป ผมตัดสินใจแล้วว่าแม้ว่าผมจะล้มเหลวในครั้งนี้ก็ไม่เป็นไร ผมจะลองอีกรอบในครั้งต่อไป!”เฟนด์ยิ้มหวานและถามทุกคนอีกครั้ง "โอ้ ใช่ ผมคิดว่าคงจะไม่มีข่าวอะไรอีกแล้วใช่ไหม? หากไม่มี ทุกคนควรฝึกฝนให้หนักกับเวลาที่เหลืออยู่ สำหรับผู้ที่สามารถก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่งได้ จงสร้างความก้าวหน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1502

    สองวันก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไปยังเขตของตระกูลคาเบลโล แนชและผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งกำลังรออยู่ที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อพวกเขาทุกคนอยากรู้ว่าเฟนด์จะทำสำเร็จหรือไม่ ในเมื่อเขาต้องฝึกฝนการเล่นแร่แปรธาตุและพยายามฝึกยุทธให้ก้าวหน้าภายในเวลาอันสั้นอีกอย่างหนึ่ง หากเขาออกเดินทางช้าไปกว่านี้ พวกเขาก็จะไม่สามารถไปถึงที่หมายได้ทันเวลา เพราะเขตที่ดินของตระกูลคาเบลโลนั้นอยู่ห่างจากที่ดินของตระกูลวู๊ดเป็นระยะทางไกลพอสมควรขณะที่ความวิตกกังวลกำลังเข้าครอบงำพวกเขา ในที่สุดประตูก็ค่อย ๆ แง้มเปิดออก เฟนด์เดินออกมา“นายน้อยเฟนด์ในที่สุดคุณก็ออกมาแล้ว คุณบรรลุไปอีกขั้นแล้วหรือยัง?”ผู้อาวุโสลำดับแรก พ่อบ้านไททัสและคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองที่เฟนด์อย่างคาดหวัง พวกเขาทุกคนรู้ว่าเฟนด์มีความสามารถในการต่อสู้ที่น่ากลัว หากเฟนด์สามารถบรรลุเข้าสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงได้ พวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัวในขณะที่สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เขา เฟนด์ก็พยักหน้าเล็กน้อย “ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวล ผมทำได้แล้ว!”ขณะที่เฟนด์พูด เขาค่อย ๆ ปล่อยรัศมีในร่างกายของเขาออกมา ให้มันกระจายออกไปในบรรยากาศ“พระเจ้า รุนแรงเหลือเกิน! นี่

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status