Share

บทที่ 1243

Author: โมเนโต้
นายท่านแม็ควิ่งแจ้นมาที่โรงแรมของตระกูลของเขาอย่างรวดเร็ว เขาพุ่งไปหาพนักงานดูแลทันทีเพื่อหาไวน์วานรของเขา

อย่างไรก็ตาม เขาโกรธจัดหลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่ง เขารีบโทรหาลูกชายของเขาทันที “ไวน์ของพ่ออยู่ไหน? มันมีสามขวด ทำไมเหลือแค่ขวดเดียวล่ะ?”

นายน้อยแม็คยิ้มแหย เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น “ผมให้ไวน์ลูกค้าของเราไปสองขวดครับพ่อ!”

นายท่านแม็คโกรธจนแทบกระอักเลือด เมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ ไวน์นั่นมีค่ามากเสียจนเขาแทบจะไม่แตะมันด้วยซ้ำ แต่ลูกชายของเขาเพิ่งจะให้มันไปกับลูกค้า ถึงเขาจะอนุญาตให้ลูกค้าดื่ม แต่มันก็ควรจะแลกมาด้วยเงินจำนวนมหาศาล ไม่ใช่ให้ไปเฉย ๆ แบบนี้

“ชอบใจที่เห็นพ่อโกรธนักรึไง? นี่เป็นสมบัติล้ำค่าของพ่อนะ พ่อเก็บมาตั้งหลายปี แล้วแกก็เพิ่งให้คนอื่นไปน่ะนะ?”

นายท่านแม็คโกรธัด เขามองไปที่ลูกชายของเขาด้วยสายตาดุร้าย “ไอ้ลูกเนรคุณ!”

นายน้อยแม็คยิ้มอย่างขมขื่น “พ่ออย่าโทษผมเรื่องนั้นเลย” เขาอธิบายอย่างหมดหวัง “พ่อจะต้องบูชาผมแน่ ถ้าพ่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วพ่อจะรู้ ว่าไวน์สองขวดที่ให้ไปมันคุ้มค่าขนาดไหน!”

“คุ้ม?”

นายท่านแม็คโกรธมากจนพูดไม่ออก "ก็ได้ อธิบายทุกอย่างมา” เขาโมโห “มา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1244

    ไดอาเนียลล่าอาบน้ำอาบท่า หลังจากที่เธอถอดรองเท้าของเฟนด์เสร็จแล้ว เธอก็นั่งลงบนเตียงข้าง ๆ เขาเธอเริ่มประหม่าขึ้นทุกทีที่มองหน้าเขาเขากำลังหลับอยู่ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอจะนอนข้างผู้ชาย นอกจากนี้แล้ว เขายังเป็นผู้ชายที่เธอชอบอีก เธอจะไม่ประหม่าได้ยังไงล่ะ?“ถ้าฉันจูบเขา เขาคงไม่รู้หรอกมั้ง ใช่ไหม?”จู่ ๆ ความคิดที่กล้าหาญก็แล่นเข้ามาในหัวของไดอาเนียลล่าอย่างรวดเร็วเธอทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอคลานเข้าไป ก่อนจะคร่อมเฟนด์ แล้วจูบเขาที่แก้มเธอรีบนอนลงอย่างรวดเร็วหลังจากจูบเขา หัวใจของเธอถึงกับเต้นผิดจังหวะ เธอประหม่ามากจนแทบจะตายอยู่แล้ว“นั่น นั่นคือจูบแรกของฉัน!”ไดอาเนียลล่ารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังจะระเบิดออกมา เธอไม่เคยกล้าขนาดนี้มาก่อนเลยตลอดชีวิตทว่า เธอก็คิดขึ้นมาได้ว่านี่ไม่ใช่จูบแรกของเธอ ต้องจูบกันตรง ๆ เท่านั้นถึงจะนับ เพราะฉะนั้นจูบครั้งนี้ถือว่าไม่นับหลังจากที่เธอครุ่นคิด ไดอาเนียลล่าก็เอนตัวพิงร่างของเฟนด์อีกครั้ง สายตาของเธอมองไปที่ริมฝีปากของเขาหลังจากที่เธอคิดแล้วคิดอีก เธอก็กัดฟัน ยันตัวเองขึ้นอีกครั้ง แล้วจูบที่ริมฝีปากของเขาความอบอุ่นแผ่ซ่านไป

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1245

    ไดอาเนียลล่าถึงกับอึ้ง จู่ ๆ ความคิดสกปรก ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ เธอล้อเขาเล่นดีกว่า จะได้ดูด้วยว่าเฟนด์มีปฏิกริยายังไงหลังจากวางแผนอันชั่วร้ายได้สำเร็จ ไดอาเนียลล่าจงใจพยักหน้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “ฉันเป็นผู้หญิงของคุณแล้ว คุณ...คุณต้องรับผิดชอบฉัน!”“อะไรนะ…ไม่มีทาง จริงเหรอ? เราทั้งคู่หรือทำอย่างงั้นจริง ๆ เหรอ…”เฟนด์พูดไม่ออก เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้จะทำยังไงดี แล้วเขาจะบอกภรรยาเขาว่าอะไรดีล่ะคราวนี้?“เมื่อคืนผ้าปูที่นอนเปื้อนสีแดง ฉันต้องขอให้แม่บ้านเปลี่ยนผ้าปู คุณทำตัวเหมือนคนป่าเถื่อน คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำกับผู้หญิงเบา ๆ ยังไง…” ไดอาเนียลล่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เขินอายมากขึ้นหัวเฟนด์ตื้อไปหมดเขาหัวหมุน เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะทำแบบนั้นกับไดอาเนียลล่าหลังจากที่เขาเมาเฟนด์ ใช้เวลาครู่นึง ก่อนที่เขาจะตอบสนองเธอ “ทำไมคุณไม่นอนห้องพิเศษล่ะ? อีกอย่าง ผมเมา ทำไมคุณไม่ผลักผมออกไปล่ะ?” เขามองไปที่ไดอาเนียลล่าอย่างหมดหวังไดอาเนียลหน้าเสียทันทีเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงความกังวลใจของเฟนด์ “ตอนนี้เอาไงล่ะ? เฟนด์ ฉันไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้นะ! ฉันให้ครั้งแร

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1246

    เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออก ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว เขาทำได้เพียงใจเย็น แล้วพยายามไม่คิดถึงเรื่องนี้ก่อน แล้วหวัง ว่าจะมีโอกาสได้บอกเซเลน่าในเร็ว ๆ นี้หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทั้งสองก็ขี่ม้ามังกรโลหิต และมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หลักของตระกูลวู๊ดอย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้สึกอึกอักอีกต่อไป เมื่อเขาจับเอวของไดอาเนียลล่าจากด้านหลังบนหลังม้า บางที อาจจะเป็นเพราะมันเกิดเรื่องเมื่อคืนขึ้นก็ได้ เฟนด์เลยรู้สึกสงบในทางตรงกันข้าม เขารู้สึกว่าเธอทำตัวแข็งทื่อและกระอักกระอ่วนต่อหน้าเขา แก้มของเธอกลายเป็นสีชมพู รวมไปถึงหูของเธอด้วยในไม่ช้า ทั้งคู่ก็มาถึงตีนเขา และทั้งสองคนก็กระโดดลงจากหลังม้า“นายน้อยเฟนด์!”บอดี้การ์ดสองคนที่ประตูตกใจมากที่เฟนด์กลับมาก่อนเวลา เฟนด์ควรที่จะไปที่ตระกูลสาขาของตระกูลวู๊ดด้วยตัวเอง เพื่อที่จะเลือกอัจฉริยะวัยรุ่นมาที่ตระกูลหลัก แต่เขาจะกลับมาในเวลาเพียงแค่ยี่สิบกว่าวันได้ยังไงกัน? แถมยังพาสาวสวยกลับมาด้วยอีก!สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจมากที่สุด คือทั้งคู่ขี่ม้ามาด้วยกัน“แค่ก แค่ก! นี่คือนายหญิงน้อยคนที่สามของตระกูลคาเบลโล บังเอิญว่าฉันบังเอิญเจอเธอ ฉันเลยช่วยเธอให้พ้นจากเงื้อมมือ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1247

    เฟนด์อุ้มไคลี่ที่กำลังวิ่งมาหาเขา ก่อนจะหอมแก้มที่จ้ำม่ำของเธอ การกระทำของเขา ล้วนเต็มไปด้วยความรัก และความหลงไหล“อืมมม!”ไคลี่พยักหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา “แม่บอกว่า แม่จะขอพ่อให้พาหนูไปเมืองข้างล่าง เราจะได้สนุกกันตอนพ่อกลับมา!”“ฮ่าฮ่า ก็ได้ ก็ได้! พ่อจะพาไคลี่ตัวน้อย กับคุณแม่ไปในเมืองแล้วเรามาเล่นกันนะ!”เฟนด์หัวเราะอย่างสุดใจ“นี่ลูกสาวของคุณเหรอ? เธอน่ารัก และดูดีมาก ๆ เลย!”ไดอาเนียลล่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เฟนด์ อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนเมื่อเห็นพ่อลูกแสดงความรักต่อกัน“ใช่ เธอชื่อไคลี่ล่ะ!”เฟนด์ยิ้มออกมา เขาอุ้มไคลี่ไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินไปทางลาน่า ฟีโอน่า และคนอื่น ๆ "เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว สาวสวยคนนื้คือภรรยาคุณ ฉันพูดถูกไหม? หุ่นดีมาก!”ก่อนที่เฟนด์จะแนะนำคนอื่น ๆ ให้รู้จักกับไดอาเนียลล่า เธอมองลาน่าอยากพิถีพิถัน ก่อนจะพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มลาน่าได้สติขึ้นมาทันที เธอหน้าแดง "ไม่ ไม่นะ ฉันไม่ใช่ภรรยาของเขานะ ฉันเป็นลูกศิษย์ของเขาล่ะ! ฉันชื่อลาน่า!” เธอรีบอธิบายหลังจากอธิบายเสร็จ ลาน่าก็มองไปที่เฟนด์ ก่อนจะถามว่า “อาจารย์ แล้วผู้หญิงคนนี้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1248

    “แน่นอน อยากสิ! มันคงดีมาก ถึงจะเป็นผู้ฝึกยุทธระดับแรกก็ตาม อย่างน้อยร่างกายของเราก็จะแข็งแรงขึ้น ไม่เป็นหวัดหรือป่วยง่าย หลังจากฝึกแล้ว ร่างกายคงแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปแน่นอน!”แต่ฟีโอน่ากลับยิ้มอย่างขมขื่น และพูดว่า “โชคไม่ดี ที่เฟนด์บอกว่าเราผ่านวัยที่จะเป็นผู้ฝึกยุทธมานานแล้ว พอแก่แล้ว ก็จะเป็นผู้ฝึกยุทธไม่ได้ มันไม่ใช่แค่ความสามารถ แต่ร่างกายที่แก่แล้วก็มีผลด้วยเหมือนกัน เราชำระล้างร่างกายไม่ได้!”อย่างไรก็ตาม ไดอาเนียลล่ายิ้มหวาน จนทำให้ทุกคนตกใจ "เอาล่ะ แต่มีวิธีที่จะทำให้ทั้งคู่เป็นผู้ฝึกยุทธได้ค่ะ! แล้วฉันก็รู้ด้วยว่าทำยังไง!”เฟนด์อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างกับคำพูดของเธอ “เป็นไปไม่ได้! คุณมีวิธีอะไรอีกล่ะ ที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ฝึกยุทธได้น่ะ?”“คุณพูดจริงรึเปล่า? วิเศษไปเลย! คุณคาเบลโล คุณมีวิธีจริง ๆ ใช่ไหม? คงดีมากเลย ถ้าเราฝึกและได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธบ้าง!”แอนดรูว์สัมผัสได้ความหวังที่เกิดขึ้นในตัวเขา เมื่อเขาได้ยินคำพูดของไดอาเนียลล่า เขาถามด้วยความตื่นเต้น ไดอาเนียลล่าพยักหน้าอีกครั้งเพื่อยืนยัน ในขณะเดียวกัน เธอก็กลอกตาไปที่เฟนด์ “จุ๊ จุ๊ เฟนด์ คุณยังไม่มีประสบการณ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1249

    ความสุขของฟีโอน่าเบ่งบานราวกับดอกไม้ เธอยิ้ม “ใช่ คุณกับเฟนด์เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะงั้นถ้าว่างเมื่อไหร่ก็มาที่ตระกูลวู๊ดแล้วมานั่งคุยกันสิ! ทำตัวให้เหมือนอยู่บ้านเลย มาบ่อย ๆ สิ!”“แม่ พูดเรื่องอะไรน่ะ? ตระกูลคาเบลโลกับตระกูลวู๊ดไม่ค่อยถูกกันอยู่นะ ผมว่ามันไม่เหมาะหรอก”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกกับการกระทำของฟีโอน่า เขาเลยเตือนเธอในทางกลับกัน ไดอาเนียลล่ากลับกลอกตาใส่เฟนด์ และพูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ฉันมาที่นี่ตอนไหนก็ได้ ไม่ได้หรือไง?”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกอีกครั้ง “แน่นอน ต้องยกเว้นคุณอยู่แล้วสิ!” เขายิ้มอย่างกระอักกระอ่วนลาน่าดูฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าของเธอย่างพิถีพิถัน เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย ทำไมเธอรู้สึกเหมือนเฟนด์กลัวอะไรไดอาเนียลล่าสักอย่างอย่างงั้นล่ะ? หรือมันเป็นภาพลวงตาหรืออะไรกันแน่?“เฟนด์ ลูกกลับมาแล้ว!”ในตอนนี้เอง โจแอนที่กำลังเดินเล่นอยู่กับแนชก็เข้ามาร่วมวง“ครับแม่ ผมคิดว่าการแข่งขันจะเริ่มในไม่ช้าแล้ว ก็เลยรีบกลับมาก่อน!”เฟนด์ตอบพลางยิ้ม“นี่…นี่ไม่ใช่นายหญิงน้อยที่สามของตระกูลคาเบลโลหรอกเหรอ? ไดอาเนียลล่า คาเบลโล ใช่ไหม? ฉันขอทราบหน่อ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1250

    “เป็นอะไรไป? คุณไม่รู้เหรอ ว่าเฟนด์เป็นลูกชายของฉันน่ะ?”แนชเลิกคิ้ว เขางงกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไดอาเนียลล่าตามลูกชายของเขากลับมาที่ตระกูลวู๊ด แต่กลับไม่รู้ว่าเฟนด์เป็นลูกชายของเขางั้นเหรอ? ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่มีพิษภัยอะไรสินะบางที เฟนด์อาจจะรู้ก็ได้ว่าเธอเป็นคนจิตใจดี และไม่ได้มีความคิดชั่วร้ายอะไรเลยยอมให้เธอมากับเขาด้วย“ฉันไม่รู้ค่ะ! เขาไม่บอกฉันเลย!”ไดอาเนียลล่ากลอกตามองเฟนด์อีกครั้ง “เอ๊ะ? เดี๋ยวนะคะ! คุณมีลูกชายคนเดียว ชื่อแลนซ์ วู๊ด ไม่ใช่เหรอคะ?”“คุณคาเบลโล ผมจะอธิบายให้คุณฟังเป็นการส่วนตัวทีหลัง ส่วนเรื่องที่ไม่ได้บอกว่าเป็นลูกของหัวหน้าตระกูล ก็เพราะคุณไม่ได้ถามนี่!”เฟนด์ยิ้มหวานและตอบกลับไปไดอาเนียลล่าหัวเราะ “ฉันคิดว่าคุณอาจจะเป็นลูกชายของผู้อาวุโสหรือผู้พิทักษ์ ฉันไม่คิดว่าคุณจะสูงส่งขนาดนี้จริง ๆ !”“ยังไงก็เถอะ คุณคาเบลโล ขอฉันทราบหน่อยสิ ว่ามาทำอะไรที่ตระกูลวู๊ด?”แนชเผยความสงสัยในใจออกมาพลางยิ้มจาง ๆ“ฉันบังเอิญไปเจอโจรชั่วเข้าค่ะ ระหว่างเดินทาง พวกเขาจับตัวฉัน และนายน้อยเฟนด์ก็เข้ามาช่วยฉันจากเงื้อมมือพวกเขา อีกอย่าง ฉันสงสัยด้วยค่ะ ว่าตระกูลวู๊ดอย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1251

    “เฮ้ ไม่มีอะไรหรอกน่า เฟนด์เคยช่วยชีวิตฉันไว้ ตอนนี้เขาเป็นเหมือนพี่ชายของฉัน เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน! ถือว่ามันเป็นรางวัลสำหรับสิ่งที่เฟนด์เคยทำก็แล้วกัน อย่าใส่ใจนักเลยค่ะ!” ไดอาเนียลล่าหัวเราะเบา ๆ ขณะอธิบาย เธอวางมือบนไหล่ของเฟนด์พลางยิ้มกว้างออกมาบนใบหน้า ราวกับว่าพวกเขาเป็นพี่น้องในสนามรบกัน “คุณกำลังพูดถึงน้ำชำระล้างไขกระดูกใช่ไหม? น้ำนี่มันล้ำค่าเกินไป! แม้ว่าคนในตระกูลคาเบลโลที่เริ่มฝึกฝนตั้งแต่เด็กก็ยังไม่ได้รับน้ำนี่เลย บ่อน้ำอันล้ำค่าของตระกูลคาเบลโลก็ไม่ได้ผลิตน้ำได้มากขนาดนั้นในหนึ่งปีสำหรับพวกเขา จริงไหม? ยิ่งไปกว่านั้น น้ำชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ฝึกวรยุทธ ใครก็ตามที่ได้รับมันจะทำให้ระดับพลังยุทธของพวกเขาก้าวหน้าขึ้นมาก!” แนชประหลาดใจกับข้อเสนอของไดอาเนียลล่าที่จะให้น้ำชำระล้างไขกระดูกบางส่วนแก่พวกเขา คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน เขาพูดต่อว่า “ตระกูลคาเบลโลคงจะต้องเก็บสมบัติดังกล่าวไว้อย่างปลอดภัย และมอบให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญเท่านั้น อีกอย่าง บ่อน้ำนั่นก็สามารถผลิตน้ำได้เพียงแค่สำหรับห้าถึงหกคนต่อปีไม่ใช่เหรอ? ฉันเกรงว่าพ่อของคุณจะไม่เห็นด้วยกับความคิดง่าย ๆ แบ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status