หลังจากนั้นไม่นาน เสียงร้องของความทุกข์ทรมานก็ค่อย ๆ หายไป จากนั้นเจอรัลด์ ยูกิ และคนของเขาก็กลับเข้าไปในคฤหาสน์ เมื่อมาถึงที่นั่น เจอรัลด์ก็บอกให้ยูกินอนลงและพักผ่อนก่อน เมื่อหันไปมองเวลสัน จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “เช่นนั้น ในเวลานี้สเวนอยู่ที่ไหนกัน?” “หลังจากตรวจสอบดู พวกเราพบว่าเขาจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมเมืองเฮฟเวินลีในขณะนี้ครับ เขาได้เชิญผู้มีอิทธิพลหลายคนจากเมืองเฮฟเวินลีไปที่นั่น เพราะเขาต้องการให้พวกเขามาต้อนรับการกลับมาของเขา นอกจากนี้ พวกเราก็พบว่าแม้ว่าเดรก, ไทสัน และวิสเลอร์จะถูกทรมาน แต่ชีวิตของพวกเขาก็ยังคงไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ อย่างน้อยก็สำหรับตอนนี้” “จากการสืบสวนของพวกเรา พวกเรายังรู้มาเช่นกันว่าสเวนได้ไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อครึ่งปีก่อน เพื่อทำให้ตัวเองแข็งแรงขึ้น ด้วยเหตุนั้นในตอนนี้เขาจึงมีทักษะที่ยอดเยี่ยมมากในด้านแสนยานุภาพของเขา” เวลสันตอบกลับ ขณะที่เขายิ้มอย่างค่อนข้างขมขื่น “เข้าใจแล้ว งั้นพวกเราควรจัดการกับเขาตอนนี้ก่อนที่เขาจะมีโอกาสมาก่อเรื่องใด ๆ ในอนาคต คุณอยู่ที่นี่ดูแลยูกิให้ผม ในขณะที่ผมไปช่วยคนของเขาแล้วกัน เวลสัน” เจอรัลด์
“โอ๊ย ขอร้องล่ะ บอกชื่อพวกเรามาสิ!” จูเลียตตอบกลับ ในขณะที่ตอนนี้ประหม่าอย่างมาก “ฉันพบเจอรัลด์!” ทิวลิปอธิบาย “…อะไรนะ?” ทั้งไฮดี้และจูเลียตตอบกลับ ขณะที่สายตาของพวกเธอเบิกกกว้างขึ้น “…แกพบเขาแล้วยังไงล่ะ? ทำไมแกถึงกลัวขนาดนั้น?” ไฮดี้ถาม “…พ เพราะ” อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทิวลิปจะทันได้พูดอีกคำ สเวนผู้จัดงานเลี้ยงของคืนนี้ ก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีสูงก่อนจะพูดขึ้น “สุภาพชนทั้งหลาย กรุณาเงียบสักครู่” เมื่อยกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบลง ทั้งห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบ “ในที่สุดผมก็กลับมาแล้วในวันนี้ สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย อย่างแรกให้ผมแสดงความรู้สึกขอบคุณของผมก่อนเนื่องจากทั้ง ๆ ที่ผมไม่อยู่ครึ่งปี พวกคุณมากมายก็ยังคงเลือกที่จะแสดงการสนับสนุนของคุณต่อผมอยู่โดยการเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ ช่วงเวลาที่ผมไม่อยู่ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ขอบคุณที่ในที่สุดทุกอย่างก็สิ้นสุดลงได้ อีกอย่างหนึ่ง อาณาเขตของสเวน เวสต์มอร์กรุ๊ป ตอนนี้ก็มีขนาดเป็นสองเท่าแล้วเมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน! ผมหวังว่าคุณจะยังคงให้ความสนับสนุนผมตั้งแต่นี้ต่อไปนะครับ” สเวนประกาศ แม้โทนเสียงของเขาฟังดูเป็นมิตร แต่การเ
“ใคร…ใครรับผิดชอบสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้?!” สเวนคำราม เขารู้สึกโกรธจัด ขณะที่เขากระแทกหมัดของเขาลงกับโต๊ะตรงหน้าเขา โดยส่งผลให้มันถูกทุบเป็นชิ้น ๆ! แม้แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาก็กำลังกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ เนื่องจากคนเป็นพ่อคนนั้นคำรามด้วยความโกรธ แม้สถานะในปัจจุบันของสเวนน่ากลัวอย่างแน่นอน แต่นักธุรกิจหลาย ๆ คนก็แอบสะใจกัน หลังจากพวกเขาตระหนักได้ว่าตอนนี้สเวนเจ็บปวดมากแค่ไหน ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นแหละ และมันก็ถึงเวลาซะทีที่สเวนจะได้รับบทลงโทษที่เขาสมควรได้รับในที่สุด แม่ลูกโยเวลล์เองตอนนี้ก็กำลังเกาะกลุ่มกันไว้อย่างใกล้ชิดด้วยความตกใจกลัว “โอ้ว ว้าว! ผมไม่คาดคิดเลยว่ามันจะชีวิตขีวาขนาดนี้ในที่นี่!” เสียงหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างดัง ขณะที่ประตูขนาดใหญ่ของห้องโถงเหวี่ยงเปิดออก ขณะที่ทุกคนหันไปมองว่าใครที่กล้าพอจะพูดแบบนั้น พวกเขาทั้งหมดต่างก็ช็อกมากที่เห็นเจอรัลด์เดินเข้ามาในห้องโถงด้วยกันกับกลุ่มคนของเขา แม้ยังคงรู้สึกประหลาดใจ แต่กองกำลังที่มีอิทธิพลหลาย ๆ กองในห้องโถงก็ลุกขึ้นและโค้งคำนับทันที โดยยอมจำนนต่ออำนาจของเจอรัลด์ ขณะที่พวกเขาตะโกนขึ้นในเวลาเดียวกัน “คุณคลอฟอร์ด!” “…เ
ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความโกลาหล เนื่องจากผู้คนภายในพยายามหาทางจัดการกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็นด้วยตาอย่างไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ในขณะที่หลายคนสามารถรักษาภาวะจิตปกติของพวกเขาได้ โดยการขดตัวเป็นลูกบอลใกล้กับมุมห้อง แต่คนเหล่านั้นที่โชคไม่ดีกลับลงเอยด้วยการมีน้ำลายฟูมปากอยู่กับพื้น เนื่องจากความหวดกลัวอย่างที่สุดที่พวกเขากำลังรู้สึกอยู่ จูเลียตเองก็ตกใจกลัวมากจนเธอร้องไห้ออกมาทันทีในตอนนี้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากความหวาดกลัวสุด ๆ เธอจึงไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวเลยด้วยซ้ำ ในทางตรงกันข้าม เจอรัลด์เพียงหลับตาลงก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก เกิดความเงียบสงัด เขาอยู่แบบนั้นชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่ในที่สุดจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ในตอนนั้นนัยน์ตาแดงสยองขวัญก็หายไปแล้ว เมื่อค่อย ๆ เดินไปหาพ่อบ้านจากก่อนหน้านี้ จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา “คุณขังสหายของผมไว้ที่ไหน?” แทนที่จะมอบคำตอบให้ อย่างไรก็ตาม พ่อบ้านก็เริ่มตัวสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรงในทันที ก่อนในท้ายที่สุดจะอาเจียนเป็นเลือดและล้มลงกับพื้น! แม้ร่างของพ่อบ้านยังคงกระตุกต่อไปอีกชั่วครู่สั้น ๆ แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็หยุดเคลื่อนไหวไปตลอดกาล เนื่องจากความเชี่ยวช
“เอาล่ะครับ ในตอนนั้น ท่านลอร์ดเองก็รู้สึกยุ่งยากกับปีศาจภายในของเขา เป็นผลให้เขาค้นหาไปทั่วทุกที่เพื่อหาวิธีที่จะควบคุมอารมณ์ของเขาได้ดีขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ตระหนักได้อย่างเต็มที่ว่า จนกว่าเขาจะจัดการพรมังกรได้อย่างง่ายดายและอย่างชำนาญ เขาจะไม่สามารถบรรลุสถานะของบุคคลในตำนานได้อย่างแท้จริง” “เขาเริ่มโดยการไปเยี่ยมพระภิกษุและนักบวชคนอื่น ๆ ท่านลอร์ดแอบไปที่เวสตันเช่นกัน เพื่อค้นหาปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงสองสามคนด้วยความหวังว่าเขาจะสามารถได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาของเขา อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากการค้นหาของเขาเริ่มต้นขึ้น ในวันหนึ่งท่านลอร์ดก็ลงเอยด้วยการฆ่าใครบางคนเพียงเพราะบุคคลนั้นพูดบางอย่างผิดไป!” “ด้วยเหตุนี้ เขาจึงหยุดพยายามที่จะเสาะหาความช่วยเหลือ ด้วยความกลัวว่าเขาจะลงเอยด้วยการเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์อีกคน ช่างน่าประหลาดแท้ ที่ว่าเขาพบคำตอบของคำถามของเขาเองในวันหนึ่ง ในช่วงเวลาการรู้แจ้งของเขา เขาผนึกกำลังของเขาไว้และกลับไปใช้ชีวิตปกติอย่างมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เขาก็ดูเหมือนกับชายชราผู้โดดเดี่ยว ท่านลอร์ดไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่
“เฮ้ หวัดดี! พวกเราพบกันอีกแล้ว!” ฮาเวน เลิฟเวลล์ หนึ่งในผู้หญิงที่มีเสน่ห์กล่าว ขณะที่เธอโบกมือให้คนหนุ่มคนั้น “ใช่ แน่นอน…” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เขาปิดประตูด้านหลังเขา โดยวางกระเป๋าของเดินทางเขาไว้ตรงบริเวณที่กำหนดไว้เป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว จากนั้นเจอรัลด์ก็มุ่งหน้าไปยังโต๊ะว่างที่บังเอิญอยู่ติดกับโต๊ะของฮาเวนพอดี ขณะที่เจอรัลด์นั่งลง ฮาเวนก็พูดเสริม “คุณจำบทสนทนาเล็ก ๆ ของพวกเราบนรถไฟก่อนหน้านี้ได้ไหม? มันดีมากจนฉันอยากจะขอเบอร์ไลน์ของคุณด้วยซ้ำในที่นี้! ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่มีเคยคาดคิดเลยว่าจะพบคุณอีกครั้งเร็วขนาดนี้…ฉันคิดว่าการพบกันของพวกเราต้องถูกกำหนดมาจากฟากฟ้าแล้ว!” “พอได้แล้ว ฮาเวน เขามาที่นี่เพื่อทานอาหาร ดังนั้นอย่าไปรบกวนเขาอีกต่อไปเลย” ซารีนา พี่สาวของฮาเวนกล่าว ขณะที่เธอเตะเท้าของฮาเวนเบา ๆ โดยเตือนให้เธอมีมารยาทบ้าง “เธอพูดถูก ฮาเวน ทำไมเธอถึงจะขอเบอร์ไลน์ของเขาด้วยล่ะ?” ควินตินกล่าวเสริม เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็เพียงแค่ส่ายหัวของเขาก่อนจะยิ้มขบขันแกมเหน็บแนม อย่างที่ฮาเวนพูดไป เจอรัลด์บังเอิญพบกับพี่น้องเลิฟเวลล์ทั้งสามคนก่อนหน้า
“สามีเหรอ?” พวกอันธพาลทั้งสามพูดขึ้นพร้อมกัน ขณะที่พวกเขาหันไปมองกันและกัน ทันใดนั้นความสับสนงุนงงของพวกเขาก็กลายเป็นการมุ่งร้ายอย่างรวดเร็วขณะที่พวกเขาเริ่มถลึงตามมองคนหนุ่มคนนั้น “เดี๋ยวนะ ฉันไม่ใช่สามีของเธอ!” คนหนุ่มคนนั้นตอบกลับขณะที่เขาโบกมือของเขาอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัว เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็พบว่าตัวเองกำลังกรอกตาอยู่ ขณะที่เธอคิดกับตัวเอง ‘แม่งเอ้ย! ใครจะขี้ขลาดได้มากขนาดนี้กัน?’ พวกอันธพาลเองก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันที ขณะที่หนึ่งในพวกเขากล่าว “ปรากฏว่าเธอก็ค่อนข้างฉลาดนะ สาวน้อย! พวกเราจะทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสอนบทเรียนที่ดีให้เธอในภายหลัง!” และในขณะที่พวกเขากำลังจะพุ่งเข้าใส่ทั้งสองคน คนหนุ่มคนนั้นก็หันหลังกลับ ทันใดนั้นเขาก็ชี้ไปยังทางเข้าของซอยก่อนจะตะโกนขึ้นมา “ตำรวจ!” ทันทีที่พวกเขาได้ยินแบบนั้น พวกอันธพาลที่กำลังเมาอยู่ทั้งสามคนก็หยุดชะงักทันทีและหันหลังให้ทั้งสองคน โดยนั่งยอง ๆ ลงหลังจากนั้นทันที พร้อมกับยกมือไว้หลังหัวของพวกเขา! “พ พวกเราจะไม่ทำอีกแล้วดังนั้นโปรดปล่อยพวกเราไปเถอะครับ!” เมื่อเห็นว่าพวกอันธพาลกำลังถูกทำให้วอกแวกในตอนนี้ ค
มื้อค่ำเหรอ? อย่างบังเอิญ เจอรัลด์เองก็คิดที่จะไปหาข้าวทาน เมื่อเขาวางแผนที่จะหนีไปจากเธอได้ในที่สุด “…ผมตกลง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยการพยักหน้า เนื่องจากเขาจะถูกเลี้ยงมื้ออาหาร เขาก็อาจยอมรับข้อเสนอเพื่อประหยัดเงินได้เช่นกัน “คุณ!” ถึงแม้ มิสตี้ แซคชารีเพียงเสนอความคิดนี้ตามมารยาท แต่เธอก็ไม่ได้คาดหวังจริง ๆ ว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอของเธอ การตอบสนองฉับพลันของเธอพิสูจน์เรื่องนั้นได้ ไม่ว่าจะยังไง ผู้หญิงก็มักจะชื่นชมบุคคลที่เป็นวีรบุรุษอยู่แล้ว และแม้เจอรัลด์ไม่ใช่วีรบุรุษในแนวทางดั้งเดิมอย่างแน่นอน แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเขาได้ช่วยเหลือเธอไว้จริง ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ค่อนข้างหล่อเหลา และสิ่งนั้นสิ่งเดียวก็ทำให้คนอื่น ๆ รวมถึงมิสตี้เอง ค่อนข้างหวั่นไหวง่าย ที่อยากจะทำความรู้จักเขาให้ดีขึ้นสักเล็กน้อย เมื่อออกนอกเส้นทางมา มิสตี้จึงนำเจอรัลด์ไปยังร้านอาหารใกล้เคียงที่พวกเขาได้ทาน และพูดคุยกันตลอดมื้อค่ำของพวกเขา ตามปกติแล้ว ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้ทำความรู้จักกันและกันมากขึ้น “อย่างไรก็ตามช่างบังเอิญอะไรอย่างงี้ที่คุณเลือกสถานแห่งนี้เพื่อท่องเที่ยว!” มิสตี้กล่าว “แล้วทำไมล่ะ?” “เมื
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ