“สามีเหรอ?” พวกอันธพาลทั้งสามพูดขึ้นพร้อมกัน ขณะที่พวกเขาหันไปมองกันและกัน ทันใดนั้นความสับสนงุนงงของพวกเขาก็กลายเป็นการมุ่งร้ายอย่างรวดเร็วขณะที่พวกเขาเริ่มถลึงตามมองคนหนุ่มคนนั้น “เดี๋ยวนะ ฉันไม่ใช่สามีของเธอ!” คนหนุ่มคนนั้นตอบกลับขณะที่เขาโบกมือของเขาอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัว เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็พบว่าตัวเองกำลังกรอกตาอยู่ ขณะที่เธอคิดกับตัวเอง ‘แม่งเอ้ย! ใครจะขี้ขลาดได้มากขนาดนี้กัน?’ พวกอันธพาลเองก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันที ขณะที่หนึ่งในพวกเขากล่าว “ปรากฏว่าเธอก็ค่อนข้างฉลาดนะ สาวน้อย! พวกเราจะทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสอนบทเรียนที่ดีให้เธอในภายหลัง!” และในขณะที่พวกเขากำลังจะพุ่งเข้าใส่ทั้งสองคน คนหนุ่มคนนั้นก็หันหลังกลับ ทันใดนั้นเขาก็ชี้ไปยังทางเข้าของซอยก่อนจะตะโกนขึ้นมา “ตำรวจ!” ทันทีที่พวกเขาได้ยินแบบนั้น พวกอันธพาลที่กำลังเมาอยู่ทั้งสามคนก็หยุดชะงักทันทีและหันหลังให้ทั้งสองคน โดยนั่งยอง ๆ ลงหลังจากนั้นทันที พร้อมกับยกมือไว้หลังหัวของพวกเขา! “พ พวกเราจะไม่ทำอีกแล้วดังนั้นโปรดปล่อยพวกเราไปเถอะครับ!” เมื่อเห็นว่าพวกอันธพาลกำลังถูกทำให้วอกแวกในตอนนี้ ค
มื้อค่ำเหรอ? อย่างบังเอิญ เจอรัลด์เองก็คิดที่จะไปหาข้าวทาน เมื่อเขาวางแผนที่จะหนีไปจากเธอได้ในที่สุด “…ผมตกลง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยการพยักหน้า เนื่องจากเขาจะถูกเลี้ยงมื้ออาหาร เขาก็อาจยอมรับข้อเสนอเพื่อประหยัดเงินได้เช่นกัน “คุณ!” ถึงแม้ มิสตี้ แซคชารีเพียงเสนอความคิดนี้ตามมารยาท แต่เธอก็ไม่ได้คาดหวังจริง ๆ ว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอของเธอ การตอบสนองฉับพลันของเธอพิสูจน์เรื่องนั้นได้ ไม่ว่าจะยังไง ผู้หญิงก็มักจะชื่นชมบุคคลที่เป็นวีรบุรุษอยู่แล้ว และแม้เจอรัลด์ไม่ใช่วีรบุรุษในแนวทางดั้งเดิมอย่างแน่นอน แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเขาได้ช่วยเหลือเธอไว้จริง ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ค่อนข้างหล่อเหลา และสิ่งนั้นสิ่งเดียวก็ทำให้คนอื่น ๆ รวมถึงมิสตี้เอง ค่อนข้างหวั่นไหวง่าย ที่อยากจะทำความรู้จักเขาให้ดีขึ้นสักเล็กน้อย เมื่อออกนอกเส้นทางมา มิสตี้จึงนำเจอรัลด์ไปยังร้านอาหารใกล้เคียงที่พวกเขาได้ทาน และพูดคุยกันตลอดมื้อค่ำของพวกเขา ตามปกติแล้ว ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้ทำความรู้จักกันและกันมากขึ้น “อย่างไรก็ตามช่างบังเอิญอะไรอย่างงี้ที่คุณเลือกสถานแห่งนี้เพื่อท่องเที่ยว!” มิสตี้กล่าว “แล้วทำไมล่ะ?” “เมื
จากนั้นเจอรัลด์ก็แกล้งทำเป็นเหมือนว่าเขาประหลาดใจต่อไปโดยพูดขึ้นมา “คุณเป็นพนักงานขายบางอย่างหรือเปล่า? คุณกระตุ้นความสนใจของผมสักพักแล้วนะ! ฮ่าฮ่า!” “…อะไรนะ? เฮ้ ฉันเป็นนักบัญชีที่ทำงานให้บริษัทภายใต้ตระกูลเลิฟเวลล์ต่างหาก รู้ไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทของฉันคือผู้จัดงานหลักสำหรับงานแลกเปลี่ยนประจำปี! และอีกครั้งนะ ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกคุณ! คุณแค่รู้ไว้ว่าฉันเพียงแบ่งปันเรื่องทั้งหมดนี้กับคุณ ก็เพราะคุณช่วยฉันไว้เท่านั้น อย่าปล่อยข่าวนี้ไปทั่วล่ะ! แต่อีกนั่นแหละ มันก็ไม่เหมือนกับว่าจะมีคนเชื่อคุณอยู่ดี” มิสตี้ตอบกลับ ขณะที่เธอจิบเครื่องดื่มของตัวเอง “ดังนันเมื่อเห็นว่าคุณสนใจในงานนี้ คุณอาจจะอยากไปชมดูหรือเปล่า?” มิสตี้กล่าวเสริม “วิธีที่คุณพูดมันเกือบจะเหมือนแนะนำว่าผมสามารถไปสถานที่เช่นนั้นได้อย่างอิสระงั้นแหละ ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้นที่จะได้ตั๋วเข้างานมา ใช่ไหม?” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง แต่โชคดีสำหรับคุณ ฉันเป็นคนไม่ชอบติดหนี้น้ำใจใคร เนื่องจากคุณช่วยฉันไว้มากขนาดนี้แล้ว ฉันสามารถมอบตั๋วเข้างานให้คุณภายใต้เงื่อนไขที่ฉันจะตอบแทนความมีน
หลังจากทักทายกลับ จากนั้นมิสตี้ก็หันไปมองกลุ่มของเธอก่อนจะพูดขึ้น “มาแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า นี่คือเจอรัลด์ และฉันได้รู้จักเขาเมื่อวานนี้ เขาค่อนข้างเป็นคนดี และเขายังช่วยฉันไว้อีกด้วยซ้ำ รู้ไหม?” “ฮึ่ม! เช่นนั้นนี่คือผู้ชายคนนั้นเองสินะ! ถ้าเขารู้ว่าพวกเราจะเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนสมบัติกัน งั้นทำไมถึงยังเลือกแต่งตัวแบบนี้ล่ะ?” หนึ่งในผู้หญิงคนอื่นพูดอย่างดูถูก ขณะที่เธอเอามือกอดอกไว้ ความเห็นของเธอมีสาเหตุจากข้อเท็จจริงที่ว่า งานแลกเปลี่ยนสมบัตินี้เป็นงานชุมนุมประเภทที่ส่วนใหญ่แล้วถูกสงวนไว้ให้สำหรับบุคคลที่มีเกียรติเท่านั้น เนื่องจากมีเพียงคนเหล่านั้นที่มีอำนาจและทรงอิทธิพลเท่านั้นที่ถูกคาดหวังให้เข้าร่วมงาน ชุดสูทและรองเท้าหนังจึงถือว่าเป็นมาตรฐานสำหรับงานเช่นนี้ เพราะเจอรัลด์เป็นคนเดียวที่แต่งกายเหมือนกับนักท่องเที่ยว มันจึงไม่แปลกที่ทำไมเพื่อน ๆ ของมิสตี้พบว่าเขาค่อนข้างน่าอับอายขายหน้า ไม่ใช่เธอคนเดียวเหมือนกัน เพื่อนของเธอหลายคนก็คิดเกี่ยวกับสิ่งเดียวกันนี้เช่นกัน “ไม่เป็นไรหรอก ใช่ไหม? พวกเราจะแค่สนุกไปด้วยกัน!” มิสตี้ตอบกลับ เธอที่ดูเหมือนไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเธอไม่ชอบเ
‘มีบางอย่างผิดปกติกับแผ่าเหล็กนั้นอย่างแน่นอน…’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง “เอาน่า เจอรัลด์ ไปกันเถอะ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” มิสตี้ถาม โดยสงสัยว่าทำไมเขาถึงยังยืนอยู่กับที่อยู่ “…อ่า อืม ทำไมพวกคุณไม่ไปกันก่อนล่ะ? ผมอยากจะดูรอบ ๆ ด้วยตัวเองน่ะ!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะมองไปยังทิศทางที่ชายชราจากไปต่อไป “อืม…ก็ได้! แต่ฉันจะโทรหาคุณอีกครั้งเมื่อใกล้เวลาเที่ยงเพื่อที่พวกเราจะได้ทานอาหารด้วยกันแล้วกัน!” มิสตี้ที่สังเกตเห็นในตอนนี้เองว่าเพื่อน ๆ ของเธอได้เมินเฉยกับเจอรัลด์มาโดยตลอด กล่าวขึ้นมา หลังจากตกลงกับแผนการแล้ว เจอรัลด์ก็ตามชายชราคนนั้นไปทันที ทันทีที่เขาไปแล้ว ผู้หญิงจากกลุ่มของมิสตี้ก็เริ่มนินทาลับหลังเขาในทันที “ฮึ่ม! ทำไมเธอถึงต้องรู้จักกับคนแบบนี้ด้วยล่ะ มิสตี้? เขาน่าขายหน้ามากที่จะอยู่ใกล้ ๆ ด้วย!” “ใช่ไหมล่ะ? ช่างเป็นคนไม่เอาไหนอะไรอย่างนี้! มันยากที่จะสนุกกันเมื่อเขาอยู่ใกล้ ๆ!” “ใช่! โปรดอย่าพาเขามาทานข้าวด้วยกันกับพวกเราในภายหลังเลย! ฉันหมายความว่า แค่เทียบสิ่งที่พวกเราสวมใส่กับสิ่งที่เขาสวมสิ! เนื่องจากเขาช่วยเหลือเธอไว้ แน่นอนว่าเธอจะไม่ต้องการให้เขา
“นอกจากนี้อะไร…? อีกอย่าง เดี๋ยวนะ หนุ่มน้อย คุณจริงจังหรือเปล่า?” ชายชราตอบกลับ สายตาของเขาเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เจอรัลด์เพียงส่ายหัวของเขาก่อนจะถามเลขบัญชีของชายชรา ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา หลังจากกการโทรสั้น ๆ ชายชราก็ถึงกับตกใจอย่างสุดขีด เมื่อห้านาทีต่อมาตอนที่เขาเห็นเงิน 770,000 ดอลลาร์ถูกฝากเข้าอยู่ในบัญชีของเขาจริง “ข ขอบคุณนะ หนุ่มน้อย!” ชายชรากล่าว ขณะที่เขายิ้มกว้าง ความปิติยินดีของเขาไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็คงไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะขายแผ่นเหล็กนั้นในราคาสูงเช่นนี้ได้จริง ๆ เจอรัลด์ที่ได้ซื้อเอง ก็เพราะแม้ว่าแผ่นเหล็กจะไม่ได้ดูเหมือนมีอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาเกี่ยวกับมัน มันทำให้เจอรัลด์รู้สึกคล้ายกับตอนที่เขาเห็นรูปวาดดวงอาทิตย์เป็นครั้งแรกเมื่อครึ่งปีก่อน มันอาจเป็นเพียงความรู้สึกลางสังหรณ์เท่านั้น แต่เจอรัลด์ก็เลือกที่จะเชื่อมัน ในขณะนั้น คนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยทั้งคนต่างชาติและคนท้องถิ่งที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา ก็เริ่มเดินมาหาเจอรัลด์และชายชรา เมื่อพวกเขามาอยู่ตรงหน้าทั้งคู่แล้ว ชายชราอีกคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้
“เป็นอะไรไป เคเลป?” “…ย ยังไงกัน…?” เคเลปพึมพำ ขณะที่เขามองไปที่มือทั้งคู่ของเขา เห็นได้ชัดว่ายังคงมึนงงอยู่ “อธิบายมาสิ เคเลป คุณหมายความว่ายังไง ‘ยังไงน่ะ’?” “ผ ผมใช้กำลังภายในก่อนหน้านี้ตอนที่ผมคว้าจับข้อมือของชายหนุ่มคนนั้น… อย่างไรก็ตามกำลังภายในของผมก็ยุติลงครึ่งทาง! นั่นจะเป็นไปได้ยังไงกัน?” เคเลปยังคงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง รู้สึกงงงวยอย่างที่สุด ขณะที่เขาครุ่นคิดถึงความความรู้สึกแปลก ๆ ที่เขาได้ประสบก่อนหน้านี้ “คุณแน่ใจนะว่า คุณไม่ได้แค่คิดมากเกินไป?” โซลตันถาม ขณะที่เขามองไปที่ชายชราผมขาว เนื่องจากพ่อของเขาเป็นคนเชิญเคเลปที่น่าลึกลับมาที่นี่ โซลตันจึงเคารพเขามาก “ไม่…ผมแน่ใจว่ามีบางอย่างผิดปกติกับชายหนุ่มคนนั้น!” เคเลปตอบกลับ ขณะที่เขาหันไปมองอย่างเย็นชายังทิศทางซึ่งเจอรัลด์ได้จากไปเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ เจอรัลด์เองก็เดินถึงริมฝั่งแม่น้ำที่อยู่ไม่ไกลมากเกินไป เมื่อเขามั่นใจว่าเขาอยู่คนเดียวแล้ว เขาก็จับแผ่นเหล็กนั้นไว้แน่นก่อนจะใช้กำลังภายในกับมัน ทำให้แผ่นเหล็กนั้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ! ขณะที่ชิ้นส่วนของเหล็กตกลงบนพื้น ดาบสั้นที่ดูโบราณก็เผยตัวเองออกมาเช่นกั
“นี่เป็นความผิดของนายเองที่รนหาที่ตาย! เตรียมตัวถูกฆ่าตายได้เลย!” ผู้ชายหัวโล้นคนนั้นคำรามใส่ ขณะที่หนึ่งในคนของเขาเผยดาบสั้นออกมาทันที และมุ่งเป้าไปที่หน้าอกของเจอรัลด์! เมื่อพุ่งเข้าหาเจอรัลด์ ผู้โจมตีคนนั้นใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อตระหนักได้ว่าแม้ดาบสั้นของเขาจะพุ่งเข้าใส่ตรงจุดที่เขาเล็ง แต่ด้วยเหตุผลที่เลวร้ายบางอย่าง ใบมีดไม่สามารถแทงทะลุหน้าอกของเจอรัลด์ได้! “อะไรเนี่ย?” มันเป็นการตอบสนองเพียงอย่างเดียวที่ผู้ชายมึนงงคนนั้นพูดได้ ขณะที่เจอรัลด์ตอบกลับอย่างฉุนเฉียว “อย่าบอกว่าฉันไม่ได้เตือนพวกนายล่ะ!” หลังจากกล่าวไปแบบนั้น เจอรัลด์ก็ตอบโต้ด้วยการตบหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างแรง! แม้มันเป็นเพียงการตบครั้งเดียว แต่ผู้ชายคนนั้นก็ถูกส่งบินลอยไปในอากาศ! สิ่งสุดท้ายที่ผู้ชายคนนั้นเข้าใจได้ก็คือหัวของเขาผิดรูปไปแล้ว ขณะที่เลือดไหลทะลักออกมาจากดวงตาของเขา เมื่อตกลงในแอ่งโคลนที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ฟุต ผู้ชายคนนั้นก็เท่ากับตายไปแล้ว “…เขารู้ศิลปะการต่อสู้!” ผู้ชายหัวโล้นประกาศออกมา รู้สึกตกใจอย่างสุดขีดกับการพลิกผันของเหตุการณ์ อย่างไรก็ตามเขาปรับตัวเองได้ในทันที ขณะที่เขาแสดงท่าทางด้ว