“เอาล่ะครับ ในตอนนั้น ท่านลอร์ดเองก็รู้สึกยุ่งยากกับปีศาจภายในของเขา เป็นผลให้เขาค้นหาไปทั่วทุกที่เพื่อหาวิธีที่จะควบคุมอารมณ์ของเขาได้ดีขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ตระหนักได้อย่างเต็มที่ว่า จนกว่าเขาจะจัดการพรมังกรได้อย่างง่ายดายและอย่างชำนาญ เขาจะไม่สามารถบรรลุสถานะของบุคคลในตำนานได้อย่างแท้จริง” “เขาเริ่มโดยการไปเยี่ยมพระภิกษุและนักบวชคนอื่น ๆ ท่านลอร์ดแอบไปที่เวสตันเช่นกัน เพื่อค้นหาปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงสองสามคนด้วยความหวังว่าเขาจะสามารถได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาของเขา อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากการค้นหาของเขาเริ่มต้นขึ้น ในวันหนึ่งท่านลอร์ดก็ลงเอยด้วยการฆ่าใครบางคนเพียงเพราะบุคคลนั้นพูดบางอย่างผิดไป!” “ด้วยเหตุนี้ เขาจึงหยุดพยายามที่จะเสาะหาความช่วยเหลือ ด้วยความกลัวว่าเขาจะลงเอยด้วยการเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์อีกคน ช่างน่าประหลาดแท้ ที่ว่าเขาพบคำตอบของคำถามของเขาเองในวันหนึ่ง ในช่วงเวลาการรู้แจ้งของเขา เขาผนึกกำลังของเขาไว้และกลับไปใช้ชีวิตปกติอย่างมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เขาก็ดูเหมือนกับชายชราผู้โดดเดี่ยว ท่านลอร์ดไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่
“เฮ้ หวัดดี! พวกเราพบกันอีกแล้ว!” ฮาเวน เลิฟเวลล์ หนึ่งในผู้หญิงที่มีเสน่ห์กล่าว ขณะที่เธอโบกมือให้คนหนุ่มคนั้น “ใช่ แน่นอน…” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เขาปิดประตูด้านหลังเขา โดยวางกระเป๋าของเดินทางเขาไว้ตรงบริเวณที่กำหนดไว้เป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว จากนั้นเจอรัลด์ก็มุ่งหน้าไปยังโต๊ะว่างที่บังเอิญอยู่ติดกับโต๊ะของฮาเวนพอดี ขณะที่เจอรัลด์นั่งลง ฮาเวนก็พูดเสริม “คุณจำบทสนทนาเล็ก ๆ ของพวกเราบนรถไฟก่อนหน้านี้ได้ไหม? มันดีมากจนฉันอยากจะขอเบอร์ไลน์ของคุณด้วยซ้ำในที่นี้! ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่มีเคยคาดคิดเลยว่าจะพบคุณอีกครั้งเร็วขนาดนี้…ฉันคิดว่าการพบกันของพวกเราต้องถูกกำหนดมาจากฟากฟ้าแล้ว!” “พอได้แล้ว ฮาเวน เขามาที่นี่เพื่อทานอาหาร ดังนั้นอย่าไปรบกวนเขาอีกต่อไปเลย” ซารีนา พี่สาวของฮาเวนกล่าว ขณะที่เธอเตะเท้าของฮาเวนเบา ๆ โดยเตือนให้เธอมีมารยาทบ้าง “เธอพูดถูก ฮาเวน ทำไมเธอถึงจะขอเบอร์ไลน์ของเขาด้วยล่ะ?” ควินตินกล่าวเสริม เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็เพียงแค่ส่ายหัวของเขาก่อนจะยิ้มขบขันแกมเหน็บแนม อย่างที่ฮาเวนพูดไป เจอรัลด์บังเอิญพบกับพี่น้องเลิฟเวลล์ทั้งสามคนก่อนหน้า
“สามีเหรอ?” พวกอันธพาลทั้งสามพูดขึ้นพร้อมกัน ขณะที่พวกเขาหันไปมองกันและกัน ทันใดนั้นความสับสนงุนงงของพวกเขาก็กลายเป็นการมุ่งร้ายอย่างรวดเร็วขณะที่พวกเขาเริ่มถลึงตามมองคนหนุ่มคนนั้น “เดี๋ยวนะ ฉันไม่ใช่สามีของเธอ!” คนหนุ่มคนนั้นตอบกลับขณะที่เขาโบกมือของเขาอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัว เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็พบว่าตัวเองกำลังกรอกตาอยู่ ขณะที่เธอคิดกับตัวเอง ‘แม่งเอ้ย! ใครจะขี้ขลาดได้มากขนาดนี้กัน?’ พวกอันธพาลเองก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันที ขณะที่หนึ่งในพวกเขากล่าว “ปรากฏว่าเธอก็ค่อนข้างฉลาดนะ สาวน้อย! พวกเราจะทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสอนบทเรียนที่ดีให้เธอในภายหลัง!” และในขณะที่พวกเขากำลังจะพุ่งเข้าใส่ทั้งสองคน คนหนุ่มคนนั้นก็หันหลังกลับ ทันใดนั้นเขาก็ชี้ไปยังทางเข้าของซอยก่อนจะตะโกนขึ้นมา “ตำรวจ!” ทันทีที่พวกเขาได้ยินแบบนั้น พวกอันธพาลที่กำลังเมาอยู่ทั้งสามคนก็หยุดชะงักทันทีและหันหลังให้ทั้งสองคน โดยนั่งยอง ๆ ลงหลังจากนั้นทันที พร้อมกับยกมือไว้หลังหัวของพวกเขา! “พ พวกเราจะไม่ทำอีกแล้วดังนั้นโปรดปล่อยพวกเราไปเถอะครับ!” เมื่อเห็นว่าพวกอันธพาลกำลังถูกทำให้วอกแวกในตอนนี้ ค
มื้อค่ำเหรอ? อย่างบังเอิญ เจอรัลด์เองก็คิดที่จะไปหาข้าวทาน เมื่อเขาวางแผนที่จะหนีไปจากเธอได้ในที่สุด “…ผมตกลง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยการพยักหน้า เนื่องจากเขาจะถูกเลี้ยงมื้ออาหาร เขาก็อาจยอมรับข้อเสนอเพื่อประหยัดเงินได้เช่นกัน “คุณ!” ถึงแม้ มิสตี้ แซคชารีเพียงเสนอความคิดนี้ตามมารยาท แต่เธอก็ไม่ได้คาดหวังจริง ๆ ว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอของเธอ การตอบสนองฉับพลันของเธอพิสูจน์เรื่องนั้นได้ ไม่ว่าจะยังไง ผู้หญิงก็มักจะชื่นชมบุคคลที่เป็นวีรบุรุษอยู่แล้ว และแม้เจอรัลด์ไม่ใช่วีรบุรุษในแนวทางดั้งเดิมอย่างแน่นอน แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเขาได้ช่วยเหลือเธอไว้จริง ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ค่อนข้างหล่อเหลา และสิ่งนั้นสิ่งเดียวก็ทำให้คนอื่น ๆ รวมถึงมิสตี้เอง ค่อนข้างหวั่นไหวง่าย ที่อยากจะทำความรู้จักเขาให้ดีขึ้นสักเล็กน้อย เมื่อออกนอกเส้นทางมา มิสตี้จึงนำเจอรัลด์ไปยังร้านอาหารใกล้เคียงที่พวกเขาได้ทาน และพูดคุยกันตลอดมื้อค่ำของพวกเขา ตามปกติแล้ว ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้ทำความรู้จักกันและกันมากขึ้น “อย่างไรก็ตามช่างบังเอิญอะไรอย่างงี้ที่คุณเลือกสถานแห่งนี้เพื่อท่องเที่ยว!” มิสตี้กล่าว “แล้วทำไมล่ะ?” “เมื
จากนั้นเจอรัลด์ก็แกล้งทำเป็นเหมือนว่าเขาประหลาดใจต่อไปโดยพูดขึ้นมา “คุณเป็นพนักงานขายบางอย่างหรือเปล่า? คุณกระตุ้นความสนใจของผมสักพักแล้วนะ! ฮ่าฮ่า!” “…อะไรนะ? เฮ้ ฉันเป็นนักบัญชีที่ทำงานให้บริษัทภายใต้ตระกูลเลิฟเวลล์ต่างหาก รู้ไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทของฉันคือผู้จัดงานหลักสำหรับงานแลกเปลี่ยนประจำปี! และอีกครั้งนะ ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกคุณ! คุณแค่รู้ไว้ว่าฉันเพียงแบ่งปันเรื่องทั้งหมดนี้กับคุณ ก็เพราะคุณช่วยฉันไว้เท่านั้น อย่าปล่อยข่าวนี้ไปทั่วล่ะ! แต่อีกนั่นแหละ มันก็ไม่เหมือนกับว่าจะมีคนเชื่อคุณอยู่ดี” มิสตี้ตอบกลับ ขณะที่เธอจิบเครื่องดื่มของตัวเอง “ดังนันเมื่อเห็นว่าคุณสนใจในงานนี้ คุณอาจจะอยากไปชมดูหรือเปล่า?” มิสตี้กล่าวเสริม “วิธีที่คุณพูดมันเกือบจะเหมือนแนะนำว่าผมสามารถไปสถานที่เช่นนั้นได้อย่างอิสระงั้นแหละ ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้นที่จะได้ตั๋วเข้างานมา ใช่ไหม?” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง แต่โชคดีสำหรับคุณ ฉันเป็นคนไม่ชอบติดหนี้น้ำใจใคร เนื่องจากคุณช่วยฉันไว้มากขนาดนี้แล้ว ฉันสามารถมอบตั๋วเข้างานให้คุณภายใต้เงื่อนไขที่ฉันจะตอบแทนความมีน
หลังจากทักทายกลับ จากนั้นมิสตี้ก็หันไปมองกลุ่มของเธอก่อนจะพูดขึ้น “มาแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า นี่คือเจอรัลด์ และฉันได้รู้จักเขาเมื่อวานนี้ เขาค่อนข้างเป็นคนดี และเขายังช่วยฉันไว้อีกด้วยซ้ำ รู้ไหม?” “ฮึ่ม! เช่นนั้นนี่คือผู้ชายคนนั้นเองสินะ! ถ้าเขารู้ว่าพวกเราจะเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนสมบัติกัน งั้นทำไมถึงยังเลือกแต่งตัวแบบนี้ล่ะ?” หนึ่งในผู้หญิงคนอื่นพูดอย่างดูถูก ขณะที่เธอเอามือกอดอกไว้ ความเห็นของเธอมีสาเหตุจากข้อเท็จจริงที่ว่า งานแลกเปลี่ยนสมบัตินี้เป็นงานชุมนุมประเภทที่ส่วนใหญ่แล้วถูกสงวนไว้ให้สำหรับบุคคลที่มีเกียรติเท่านั้น เนื่องจากมีเพียงคนเหล่านั้นที่มีอำนาจและทรงอิทธิพลเท่านั้นที่ถูกคาดหวังให้เข้าร่วมงาน ชุดสูทและรองเท้าหนังจึงถือว่าเป็นมาตรฐานสำหรับงานเช่นนี้ เพราะเจอรัลด์เป็นคนเดียวที่แต่งกายเหมือนกับนักท่องเที่ยว มันจึงไม่แปลกที่ทำไมเพื่อน ๆ ของมิสตี้พบว่าเขาค่อนข้างน่าอับอายขายหน้า ไม่ใช่เธอคนเดียวเหมือนกัน เพื่อนของเธอหลายคนก็คิดเกี่ยวกับสิ่งเดียวกันนี้เช่นกัน “ไม่เป็นไรหรอก ใช่ไหม? พวกเราจะแค่สนุกไปด้วยกัน!” มิสตี้ตอบกลับ เธอที่ดูเหมือนไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเธอไม่ชอบเ
‘มีบางอย่างผิดปกติกับแผ่าเหล็กนั้นอย่างแน่นอน…’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง “เอาน่า เจอรัลด์ ไปกันเถอะ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” มิสตี้ถาม โดยสงสัยว่าทำไมเขาถึงยังยืนอยู่กับที่อยู่ “…อ่า อืม ทำไมพวกคุณไม่ไปกันก่อนล่ะ? ผมอยากจะดูรอบ ๆ ด้วยตัวเองน่ะ!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะมองไปยังทิศทางที่ชายชราจากไปต่อไป “อืม…ก็ได้! แต่ฉันจะโทรหาคุณอีกครั้งเมื่อใกล้เวลาเที่ยงเพื่อที่พวกเราจะได้ทานอาหารด้วยกันแล้วกัน!” มิสตี้ที่สังเกตเห็นในตอนนี้เองว่าเพื่อน ๆ ของเธอได้เมินเฉยกับเจอรัลด์มาโดยตลอด กล่าวขึ้นมา หลังจากตกลงกับแผนการแล้ว เจอรัลด์ก็ตามชายชราคนนั้นไปทันที ทันทีที่เขาไปแล้ว ผู้หญิงจากกลุ่มของมิสตี้ก็เริ่มนินทาลับหลังเขาในทันที “ฮึ่ม! ทำไมเธอถึงต้องรู้จักกับคนแบบนี้ด้วยล่ะ มิสตี้? เขาน่าขายหน้ามากที่จะอยู่ใกล้ ๆ ด้วย!” “ใช่ไหมล่ะ? ช่างเป็นคนไม่เอาไหนอะไรอย่างนี้! มันยากที่จะสนุกกันเมื่อเขาอยู่ใกล้ ๆ!” “ใช่! โปรดอย่าพาเขามาทานข้าวด้วยกันกับพวกเราในภายหลังเลย! ฉันหมายความว่า แค่เทียบสิ่งที่พวกเราสวมใส่กับสิ่งที่เขาสวมสิ! เนื่องจากเขาช่วยเหลือเธอไว้ แน่นอนว่าเธอจะไม่ต้องการให้เขา
“นอกจากนี้อะไร…? อีกอย่าง เดี๋ยวนะ หนุ่มน้อย คุณจริงจังหรือเปล่า?” ชายชราตอบกลับ สายตาของเขาเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เจอรัลด์เพียงส่ายหัวของเขาก่อนจะถามเลขบัญชีของชายชรา ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา หลังจากกการโทรสั้น ๆ ชายชราก็ถึงกับตกใจอย่างสุดขีด เมื่อห้านาทีต่อมาตอนที่เขาเห็นเงิน 770,000 ดอลลาร์ถูกฝากเข้าอยู่ในบัญชีของเขาจริง “ข ขอบคุณนะ หนุ่มน้อย!” ชายชรากล่าว ขณะที่เขายิ้มกว้าง ความปิติยินดีของเขาไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็คงไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะขายแผ่นเหล็กนั้นในราคาสูงเช่นนี้ได้จริง ๆ เจอรัลด์ที่ได้ซื้อเอง ก็เพราะแม้ว่าแผ่นเหล็กจะไม่ได้ดูเหมือนมีอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาเกี่ยวกับมัน มันทำให้เจอรัลด์รู้สึกคล้ายกับตอนที่เขาเห็นรูปวาดดวงอาทิตย์เป็นครั้งแรกเมื่อครึ่งปีก่อน มันอาจเป็นเพียงความรู้สึกลางสังหรณ์เท่านั้น แต่เจอรัลด์ก็เลือกที่จะเชื่อมัน ในขณะนั้น คนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยทั้งคนต่างชาติและคนท้องถิ่งที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา ก็เริ่มเดินมาหาเจอรัลด์และชายชรา เมื่อพวกเขามาอยู่ตรงหน้าทั้งคู่แล้ว ชายชราอีกคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ