น้ำเสียงของเธอโกรธมาก เมื่อเธอพูดเรื่องทั้งหมดนั้น “ไม่ว่าเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของมันหรือไม่ก็ตาม อย่าลืมว่าเธอคือคนที่มีอำนาจในที่นี้ ทรัสเดค กรุ๊ป ร่วมมือกับเธอ ไม่ใช่ยูรา” เจอรัลด์กล่าวเตือน “…ถูกต้อง ฉันไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว! เมื่อพูดแล้วก็ ลูกพี่ลูกน้อง ฉันเห็นนายเตรียมกล่องของขวัญที่นั่น สำหรับของใครเหรอ?” เบถาม ขณะที่เธอนั่งบนโซฟาในขณะที่มองไปที่เขา เมื่อได้ยินคำถามของเธอ เจอรัลด์ก็เช็ดมือของเขาให้สะอาดและหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาก่อนจะพูดว่า “ฉันวางแผนที่จะไปเยี่ยมคุณยาย เมื่อการประชุมของเธอจบลงนะ” เดิมทีเจอรัลด์ต้องการพบปะเธอก่อนหน้านี้แต่เมื่อเขาพบว่าเยลแมนกำลังมีการประชุมกันอยู่ เขาจึงเลื่อนแผนการของเขาไป ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อยากจะรับมือกับป้าหนึ่งและคนอื่น ๆ “ดังนั้นเธอคงไม่ได้สงสัยหรอกใช่ไหม เธอคิดว่ามันคือของขวัญสำหรับเธอใช่ไหม?” เจอรัลด์กล่าวเสริมด้วยรอยยิ้มทะลึ่งบนใบหน้าของเขา ในขณะนั้นเขาจำได้ว่าวันเกิดของเบคืออีกสองวันถัดไป ในการตอบกลับ เบแลบลิ้นก่อนจะพูดขึ้นมา “ไม่ ไม่ใช่ซะหน่อย!” “ไม่ว่าจะยังไง เนื่องจากการประชุมสิ้นสุดแล้ว ฉันจะไปเยี่ยมคุณยายใ
“เพราะสภาพร่างกายของคุณยายไม่ค่อยดีนักเมื่อไม่นานมานี้ ผมจึงซื้ออาหารเสริมสุขภาพมาให้ครับ!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาวางของขวัญไปข้าง ๆ เมื่อเขาเข้ามา “ฮึ่ม! ช่างหายากเหลือเกินที่เธอทำตัวช่างคิดเช่นนี้!” ท่านผู้หญิงเยลแมนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม อย่าลืมว่าเจอรัลด์ก็มามือเปล่าในวันเกิดจริง ๆ ของเธอวันนั้น ไม่ว่าจะยังไง แม้มันเป็นความจริงที่เธอตัดแม่ลูกกับยูเลีย แต่เธอก็ต้องยอมรับว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตัดสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น เจอรัลด์และเจสสิก้าทั้งคู่ก็เป็นหลานแท้ ๆ ของเธอ ในฐานะยาย เอาตามตรงเธอก็อยากจะมีการติดต่อพวกเขาสักรูปแบบหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นว่าเจอรัลด์ดูน่าสมเพชอย่างไรในตอนแรก เธอจึงนึกถึงดีแลนขึ้นมาทันที ทั้งพ่อและลูกชายเหมือนกันมาก… นิสัยของพวกเขาก็คล้ายคลึงกันเหมือนกัน พวกเขาเป็นคนประเภทที่ไม่เคยโต้ตอบ หรือสู้กลับคนอื่น ๆ แม้ว่าพวกเขาจะถูกด่าว่าหรือทุบตีก็ตาม หลังจากความเงียบที่ทรมานเล็กน้อย ท่านผู้หญิงเยลแมนก็ถามขึ้นมา “…แม่ของเธอมีชีวิตที่ดีตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้หรือเปล่า เจอรัลด์?” “ครับ พู
“บัว…บัวหิมะงั้นเหรอ?” ท่านผู้หญิงเยลแมนตอบกลับ น้ำเสียงของเธอสั่นเทา ขณะที่เธอยังคงจ้องไปที่ของขวัญด้วยความงุนงงต่อไป “เจอรัลด์จะซื้อสิ่งของที่แพงและมีค่าเช่นนี้มาได้ยังไงกัน…? พ่อบ้านเองก็เพียงก้มหน้าลง หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่สั้น ๆ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “…มีบางอย่างอยู่ในใจของผมครับ ผมไม่มั่นใจว่าผมควรพูดมันหรือไม่ ท่านประธาน” “พูดต่อสิ!” “จากสิ่งที่ผมสามารถสังเกตได้ คุณคลอฟอร์ดดูไม่เหมือนจะเป็นคนธรรมดาเลยนะครับ ถ้าจะพูดให้ถูก เขาดูเหมือนจะแสดงออกถึงอารมณ์ของคนชั้นสูง! มีบางอย่างเกี่ยวกับวิธีที่เขาพูด…นี่อาจดูเหมือนไกลเกินจริง แต่คุณเคยคิดไหมครับว่าบางที แค่อาจจะนะครับ…คุณคลอฟอร์ดอาจเป็นคนลึกลับคนนั้น…” “…นายกำลังบอกเป็นนัยว่าเจอรัลด์คือคุณคลอฟอร์ด จากตระกูลคลอฟอร์ดงั้นเหรอ?” ท่านผู้หญิงเยลแมนตอบกลับ รู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ได้ยินคำชี้แนะแบบนั้น ในการตอบสนอง เชลดอนเพียงชี้ไปที่บัวหิมะอีกครั้ง นั่นเพียงอย่างเดียวก็ทำให้หัวใจของท่านผู้หญิงเยลแมนเต้นผิดจังหวะแล้ว “…นั่น…นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? นายก็เห็นว่าดีแลนดูเป็นยังไงในปีนั้นเหมือนกันใช่ไหม? ไม่มีทางหรอกน่า!” ท่านผู
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็ลงเอยด้วยการตบหัวของเบเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา “ฉันจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังในอนาคตแล้วกัน ไม่ว่าจะยังไง พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเธอ! ฉันจะเตรียมบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เธอ ดังนั้นก็คาดหวังที่จะรู้สึกประหลาดใจอย่างน่ายินดี เมื่อเธอได้รับของขวัญของฉันเถอะ!” “ฮะ? ของขวัญอะไรเหรอ?” เบถาม ขณะที่เธอแลบลิ้นออกมาอย่างขี้เล่น “มันจะไม่เป็นเซอร์ไพรส์ถ้าฉันบอกคำตอบเธอตอนนี้ใช่ไหม? แค่รอให้ถึงวันพรุ่งนี้แล้วกัน” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะกลับไปห้องของเขา แม้เขากำลังยิ้มขณะที่เขาจากไป แต่เบก็รู้สึกได้ว่าเจอรัลด์เหงาหงอยอย่างแท้จริงอย่างไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอสังเกตเห็นมันเหมือนกัน แม้ลูกพี่ลูกน้องของเธอมักจะทำตัวเหมือนเป็นพี่ชายที่เอาใจใส่อยู่เสมอ แต่เธอก็บอกได้เลยว่าเขามีเรื่องหนักใจบางอย่างอยู่ในใจของเขาตลอดมา เขาไม่เคยดูเหมือนมีความสุขอย่างแท้จริงเลย เบคาดคิดว่ามันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและพี่สะใภ้ที่เป็นไปได้ของเธอ อย่างไรซะเนื่องจากเขาปฏิเสธที่จะคุยกับเธอ เบจึงไม่ได้ถามเขาต่อไปด้วยความเคารพ การเป็นลูกพี่ลูกน้อง
ขณะที่เธอนำสมาชิกครอบครัวคนอื่นจากไป ยูราก็หัวเราะก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชาให้เบ “ระวังปากให้ดีไม่อย่างงั้นนายจะต้องชดใช้มันอย่างหนัก ยูรา! ลบรอยยิ้มเยาะนั้นออกไปจากหน้าของนายซะ!” เบคำรามใส่ ขณะที่เธอหันหลังจากไป อย่างไรก็ตามทันทีที่เธอหันหลังกลับ เธอก็เห็นเจอรัลด์อยู่ที่นั่น ในมือของเขาคือเค้กขนาดเล็กสูงประมาณหกนิ้ว หลังจากเห็นเขาเท่านั้นเธอถึงสงบจิตใจได้ “นายมาสายนะ ลูกพี่ลูกน้อง!” เบกล่าวอย่างค่อนข้างมีความสุข “อืม ฉันต้องสั่งเค้กนี้เพื่อวันเกิดของเธอไง!” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขายกเค้กในมือขึ้นมาเพื่อให้เธอดู “ฮึ! นายมาจากชนบทอย่างแท้จริง! ใครจะยังคงกินเค้กในระหว่างงานวันเกิดอยู่อีก? ไม่ได้เรื่อง!” ยูรากล่าวด้วยรอยยิ้มดูถูก “ฉันชอบกินเค้ก นายมีปัญหากับเรื่องนั้นหรือไง?” เบตอบกลับ “ฮึ่ม! ฉันจะไม่สนใจเธออีกต่อไปแล้วด้วยซ้ำ!” ยูรายิ้มเยาะ “เฮ้ เบหนิ!” ขณะนั้นเอง น้ำเสียงหนึ่งก็ดังมาจากรถที่เพิ่งมาหยุดอยู่ตรงทางเข้าของบ้านตระกูลเยลแมน ผู้หญิงห้าคน ที่ดูเหมือนจะอายุพอ ๆ กับเบกันทั้งหมด ค่อย ๆ ก้าวลงมาจากรถคันนั้น พวกเธอทุกคนต่างก็สวยและตัวสูงพอ ๆ กัน “เม! เยเซเนีย! พว
ในทางกลับกัน เบรู้สึกไม่มีความสุขที่ได้ยินแบบนั้น ท้ายที่สุดแล้วจากสิ่งที่เธอสามารถบอกได้ เขาอาจจะคาดเดาได้ว่าเธอเชิญเพื่อนร่วมชั้นเก่าของเธอมาเพื่อแนะนำพวกเธอให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอโดยเฉพาะ ยูราจึงทำแบบนี้อย่างจงใจอย่างแน่นอน “เธอจะสนุกมากกว่าเมื่ออยู่กับฉัน! ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเดินเล่นกับพวกเขาหรอก!” เบกล่าวอย่างฉันเฉียว เมื่อเห็นว่าเธอโมโหแค่ไหน เพื่อนร่วมชั้นของเธอจึงมองกันและกันก่อนจะมุ่ยปาก ขณะที่พวกเธอเข้าไปในบ้านกับเบ ขณะที่พวกเขาเดินผ่านสวนหลังบ้าน เจอรัลด์จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าเบคิดจะทำอะไร แม้เขาเข้าใจว่าเธอเพียงต้องการหาเพื่อนให้เขาด้วยความสงสารเท่านั้นก็ตาม แต่เขาก็ไม่มีอารมณ์ที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนผู้หญิงคนไหน ๆ ไปมากกว่านี้จริง ๆ ในขณะนี้ อย่าลืมว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแพ้ภัยตัวเองจากการผูกพันกันมากเกินไปกับเพื่อนผู้หญิงของเขา อลิซเป็นตัวอย่างแบบเรียนของเรื่องนั้น เพราะเช่นนั้นเจอรัลด์จึงเพียงปฏิบัติต่อคนสวยเหล่านี้ด้วยมุมมองของพี่ชายเท่านั้น แม้กระนั้น สาว ๆ เองก็ไม่ได้สนใจในการพูดคุยกับเขาเลยด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีพวกเธอคนไหน
ความจริงที่ว่าแขกผู้มีเกียรติเช่นนี้กำลังมาที่นี่ จึงทำให้เชลดอนเย็นสันหลังวาบขึ้นมาเลยทีเดียว เมื่อในที่สุดรถมาหยุดตรงหน้าเชลดอน ครอบครัวสี่คนก็ก้าวลงมาจากหนึ่งในรถหรูเหล่านั้น พวกเขาประกอบไปด้วยคู่รักวัยกลางคน ลูกชาย และลูกสาวของพวกเขา “ขอบคุณสำหรับการเข้าร่วมงานเลี้ยงตระกูลเยลแมนนะครับ ยินดีอย่างยิ่งที่มีคุณอยู่กับเรา คุณอาจเป็น…ประธานแจ็กเกอร์หรือเปล่าครับ?” เชลดอนกล่าว รู้สึกแปลกใจที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงเช่นนี้มา “ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกันครับ! แล้วก็ใช่ ผมโบรดี้ แจ็กเกอร์!” “ช่างเป็นเกียรติอะไรเช่นนี้ครับ! ไม่เพียงคุณจะมีชื่อเสียงที่น่าอัศจรรย์ใจ แต่คุณก็ยังรำ่รวยมากที่สุดในบรรดาคนที่ร่ำรวยที่สุดทั้งสี่คนในแจ็คสันวิลล์อีกด้วย เชลดอนรู้สึกกระตือรือร้นอย่างยิ่งในตอนนี้ เขาจะไม่เป็นอย่างงั้นได้ยังไง? ชายที่ร่ำรวยมากที่สุดจากแจ็คสันวิลล์ตอนนี้กำลังยืนอยู่ต่อหน้าเขา! เขาไม่สามารถหยุดมือจากการสั่นเทาได้เลยด้วยซ้ำ เนื่องจากเยลแมนไม่สามารถประจบประธานแจ็คเกอร์และคนของเขาก่อนหน้านี้ การมาถึงของเขาในวันนี้จึงน่าประหลาดใจอย่างยินดีแน่นอน ก่อนที่เชลดอนจะทันได้ฟื้นคืนจากอาการช็อก
“ข ขอบคุณสำหรับของขวัญค่ะ คุณเชลเวอร์!” เบกล่าว ขณะที่เธอได้รับของขวัญอีกชิ้นจากผู้มีอิทธิพลอีกคน เมและหญิงสาวคนอื่น ๆ รู้สึกตกตะลึงและอิจฉาเบไปในเวลาเดียวกัน ขณะที่พวกเธอมองไปที่ของขวัญทั้งหมดที่เธอกำลังได้รับ “เหล่านี้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณหรือเปล่าคะ คุณเยลแมน? พวกเธอทั้งหมดต่างก็สวยกันเช่นนี้! ช่างน่าเสียดายที่พวกเราไม่มีของขวัญเพียงพอสำหรับทุกคน! รอสักครู่แล้วกัน ในขณะที่ฉันสั่งให้คนส่งของขวัญมาที่นี่! ถือว่าพวกมันเป็นของขวัญในการทำความรู้จักกันแล้วกันนะคะ!” คุณนายแจ็กเกอร์กล่าว ขณะที่เธอยิ้ม “…ฮะ? พวกเราก็จะได้ของขวัญเหมือนกันเหรอคะ?” สาว ๆ ตอบกลับ รู้สึกประหลาดใจกัน “แน่นอนสิ! ฮ่าฮ่า!” “เอาล่ะค่ะ! ขอบคุณนะคะ ประธานแจ็กเกอร์! คุณนายแจ็กเกอร์!” เมและเพื่อน ๆ ของเธอตะโกนขึ้นมา โดยไม่สามารถความคุมความรู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกขอบคุณได้ อย่าลืมว่าเนื่องจากคนทั้งหมดมีอิทธิพลกันอย่างมาก ของขวัญใด ๆ ที่พวกเขามอบให้นั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน! “เร็วเข้า เสริฟ์เครื่องดื่มของพวกเขาให้ประธานกันสิ เบ!” เมและคนอื่น ๆ ร้องเสียงแหลมกันอย่างตื่นเต้น “ได้เลย!” “ไม่มีความจำเ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ