“มีบางอย่างเกิดขึ้นงั้นเหรอ?” เบอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลเยลแมนให้เจอรัลด์ต่อไปพูดสั้น ๆ ตระกูลเยลแมน ที่ไม่มีความสุขกันอยู่แล้ว เพิ่งจะถูกตระกูลหลงแทงข้างหลังอีกครั้งตระกูลหลงได้ตั้งเป้าหมายไว้กับแหล่งรายได้หลักของตระกูลเยลแมน ซึ่งเป็นโครงการการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเหลืออยู่ในมือแม้ว่าในข้อเท็จจริงที่การเงินของตระกูลเยลแมนจะมีโครงสร้างที่ดีพอสำหรับพวกเขาที่จะตอบโต้กลับได้แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งคู่ได้ควบคุมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งกระตุ้นความต้องการเงินทุนเพิ่มเติมที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพวกเขานี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจประเภทที่ตระกูลของพวกเขาเกี่ยวข้องโดยตรง มันเป็นวิถีจรรโลงชีวิตของตระกูลเยลแมน ซึ่งถ้าไม่มีมันพวกเขาก็จะไม่มีตัวตนอีกต่อไปโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ถูกแย่งไปจากมือของพวกเขามันจึงเป็นปกติที่พวกเขาจะรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างแรกเมื่อท่านผู้หญิงเยลแมนตำหนิโรสสำหรับความผิดพลาดของเธอ เธอก็โยนความผิดให้คนอื่นไปถ้าจะพูดให้ถูก เธอกดดันเบในการให้ได้โครงการใหม่เพื่อบริษัทแทนท่านผู้หญิงเยลแมนหงุดหงิดมากจนเธอเอ่ยปากว่าใครก็ตามที่เกียจคร้าน และไม่เต็มใจที
“เป็นพวกคุณเหรอ?” เบขมวดคิ้วทันทีที่เห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ตรงนั่นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากครอบครัวลุงคนโตและยังมครอบครัวของป้าสองเช่นกันสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก่อให้เกิดความเกลียดชังที่เบมีต่อโรส และคนที่เหลือของตระกูลเยลแมน“เธอช่างหยาบคายเสียจริงนะ เบ เธอไม่ควรกล่าวทักทายผู้ใหญ่เมื่อเธอเห็นพวกเขาหรอกเหรอ? เธอไม่มีมารยาทหรือแม้แต่มารยาทพื้นฐานบ้างเลยหรือไง!?” การตอบสนองของโรสก็เย็นชาเหมือนอย่างเคยยูม่าก็เหลือบมองเธอด้วยสีหน้าโกรธ“เธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” เขาซักถาม“หนูมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องโครงการให้พวกเราค่ะ!” เบมีกระเป๋าที่เธอกำลังถืออยู่ ทุกคนในพื้นที่วีไอพีทั้งหมดต่างก็เป็นเจ้านายหรือผู้ประกอบการท้องถิ่นกันทั้งนั้น หรือไม่พวกเขาก็เป็นเจ้าของสถานประกอบการชั้นรองตามลำดับ ก็เหมือนลุงใหญ่ของเธอเธอเป็นเพียงคนเดียวที่แต่งตัวเหมือนพนักงานธรรมดา ๆ คนหนึ่ง“ฮึ่ม! เธอพูดว่าไงนะ? เธอมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องโครงการงั้นเหรอ?” โรสถาม ในขณะที่หัวเราะใส่หน้าของเธอเธอจ้องไปที่เบราวกับว่าเธอกำลังมองคนโง่อยู่“เธอรู้ไหมว่านี่คือทรัสเดค กรุ๊ป ที่พวกเรากำลังพูดถึงอยู่? ทำไมเธอไม่มองไปรอบ ๆ
เบกล่าวอย่างประหม่าเล็กน้อย“ลูกพี่ลูกน้องของคุณเหรอคะ? ดิฉันขอทราบได้ไหมคะว่าเขาเป็นใคร? เขาขอให้คุณมามองหาใครที่นี่เหรอคะ?” พนักงานต้อนรับที่ทำงานแผนกต้อบรับมีการแสดงออกทางอารมณ์ที่ดีมาก และมันชัดเจนว่าเธอได้รับการฝึกสำหรับการให้บริการลูกค้าของพวกเขา เธอปฏิบัติต่อทุกคนในห้องด้วยความเคารพ แม้แต่เบที่แต่งกายอย่างเรียบง่าย“เขาชื่อเจอรัลด์ คลอฟอร์ดค่ะ เขาบอกให้ฉันมาที่นี่ และมองหาผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าคุณเคย์เดน เซลลี!”พนักงานต้อนรับตรงแผนกต้อนรับส่ายหัวของเธอและด้วยรอยยิ้มเวทนา เธอบอกเบว่า “ดิฉันขอโทษค่ะแต่ไม่มีใครที่ชื่อเคย์เดน เซลลีที่นี่ พวกเราไม่เคยได้ยินใครก็ตามชื่อเจอรัลด์ คลอฟอร์ดเหมือนกัน คุณแน่ใจใช่ไหมคะว่าคุณไม่ได้จำผิด?” “อะไรนะ?”ความตื่นกลัวของเบพุ่งขึ้นเมื่อได้ยินการตอบสนองของพนักงานต้อนรับ นี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเพราะทุกคนจับจ้องสายตามายังเธอ เธอจึงเริ่มหน้าแดงขึ้นมาด้วยความอับอาย“พระเจ้า! ฉันเพิ่งพูดอะไรไปนะ? พระเจ้า ข่างน่าอายเสียจริง! เธอช่างโง่อะไรอย่างงี้ที่มาถึงที่นี่น่ะ!” อย่างพูดไม่ออก อิซาเบลปิดหน้าของเธอเพื่อซ่อนตัวเองจากบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้
“เป็นใครกัน?” ขณะที่คนอื่น ๆ มองกันและกันด้วยความตกตะลึง ผู้จัดการฮัดเดล ที่ใช้ประโยชน์ในเวลาว่างของเขา ก็เข้ามาในห้องวีไอพี ทันทีที่ยูม่าเห็นเขา เขาก็มอบรอยยิ้มจาง ๆ ให้ก่อนจะพูดขึ้นมา “ผู้จัดการฮัดเดลครับ!” “ขอโทษจริง ๆ นะครับสำหรับการละเลยขนาดนี้ต่อคุณในวันนี้ ประธานเยลแมน มีหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำน่ะครับ! ผมจึงหวังว่าคุณจะรอผมได้สักครู่หนึ่ง” ผู้จัดการฮัดเดลตอบกลับ เมื่อได้ยินแบบนั้น จากนั้นยูม่าก็กล่าว “คุณกำลังทำตัวจริงใจมากเกินไปแล้วครับ ผมรู้ดีว่าทรัสเดค กรุ๊ป นั้นยุ่งกันมากในทุก ๆ วัน! แม้จะเป็นอย่างงั้น แต่คุณก็ยังคงใช้เวลาในการเข้าร่วม และผมก็ขอบคุณจริง ๆ!” ในการตอบสนอง ผู้จัดการฮัดเดลถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้นมา “เมื่อพูดแล้วก็ ประธานเยลแมนครับ ผมถามไปทั่วเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คุณเอ่ยถึงในตอนนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามันเกี่ยวข้องกับการประมูลและข้อเสนอ ประธานเซลลี ผู้บังคับบัญชาของผม ไม่มีเวลาที่จะตรวจเช็คดูในเวลานี้! คุณอาจต้องรอไปสักพักก่อนที่เขาจะสนใจฟังในเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นนะครับ!” “ไม่เป็นไรครับ ผู้จัดการฮัดเดล! ผมไว้วางใจในความสามารถของคุณที่จะทำการจัดเตรียมนี
ยูราถามคำถามนั้นด้วยความไม่เชื่ออย่างเต็มที่ “ถูกต้อง! เมื่อคิดว่าเธอยังอ้างว่าเป็นเพราะเส้นสายของเจอรัลด์ด้วยซ้ำ…เขาจะไปรู้จักคนตำแหน่งสูงเช่นนี้ได้ยังไงกัน? เรื่องพวกนี้เป็นไปได้ยังไง?” อิซาเบลค่ำครวญอย่างอิจฉาริษยา หลังจากถูกทำให้ขายหน้าแบบนั้น จึงแน่นอนว่าตอนนี้ทุกคนกำลังมองมาที่สองครอบครัวด้วยสายตาที่เยาะเย้ยกัน โรสเองตอนนี้ก็กำลังคิดถึงว่าเจอรัลด์ถอนเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ไปเมื่อวันก่อนได้อย่างไร เธอยังนึกถึงตอนที่ยูราเล่าให้เธอฟังถึงเสื้อผ้าของเจอรัลด์เช่นกัน บวกกับความจริงที่เธอได้เห็นในตอนนี้ ด้วยตาของเธอเอง ว่าเจอรัลด์มีความสามารถที่จะใช้เส้นสายภายในทรัสเดค กรุ๊ปนั้น เธอจึงมั่นใจมากว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป “เดี๋ยวนะ!” โรสขัดจังหวะขึ้นมา ในขณะที่อิซาเบลและแม่ของเธอยังคงโต้ตอบคำพูดที่ริษยาด้วยความรำคาญของพวกเธอ “เป็นไปได้ไหมว่าพวกเราไม่ได้ตรวจสอบภูมิหลังของเจอรัลด์อย่างละเอียดพอ? จริง ๆ แล้วเขาไม่ใช่คนยากไร้เลยหรือเปล่า? เขาจะมีความฟุ่มเฟือยเช่นนี้ได้ยังไงอีกล่ะ? นั่นถึงอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงมีเส้นสายที่มีอำนาจมากมายขนาดนี้เช่นกัน!” โรสกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่
“หนูไม่รู้ค่ะ ทำไมคุณไม่ไปถามเขาด้วยตัวเองล่ะคะ?” เบกล่าวก่อนจะจากไปทันที “มัน…มันจบแล้วตอนนี้ เบได้สร้างผลงานที่ใหญ่ที่สุดในคราวนี้อย่างแน่นอน!” ยูราตะเบ็งเสียงออกมา “ทำไมถึงวิตกกังวลขนาดนี้ล่ะ? เบอาจจะไม่สามารถทำอะไรยิ่งใหญ่จากมันก็ได้! ดังนั้นเธอไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ สิ่งสำคัญที่พวกเราต้องกังวลถึงก็คือ ลูกชายของนังบ้าคนนั้น เจอรัลด์! พวกเราจำเป็นต้องรู้ให้ได้ว่าเขามีอำนาจที่แท้จริงมากแค่ไหนกัน!” โรสประกาศ วินาทีที่เธอกล่าวไปแบบนั้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ได้รับข้อความในกลุ่มแชทของตระกูล พ่อบ้านของตระกูลเพิ่งออกการประชุมครอบครัว และพวกเขาจะต้องมารวมตัวกันที่ห้องประชุมของตระกูลเยลแมนภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ “เห็นไหม? เบขอความเชื่อถืออย่างรวดเร็วขนาดนี้! การประชุมต้องเกี่ยวกับโครงการในตอนนี้แลอย่างแน่นอน!” ป้าสองกล่าวออกมาเสียงดัง จากนั้นโรสก็เอามือกอดอก และยิ้มอย่างเย็นชาก่อนจะพูดขึ้นมา “ตอนนี้ก็กลับบ้านกันเถอะ…ฉันอยากจะเห็นว่าเด็กคนนี้จะลงเอยด้วยการทำความยุ่งเหยิงแบบไหน!” เมื่อหนึ่งชั่วโมงนั้นเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลก็อยู่ในห้องประชุมของตระกูลเยลแมนกันแล้ว อย่าลืมว่าการป
น้ำเสียงของเธอโกรธมาก เมื่อเธอพูดเรื่องทั้งหมดนั้น “ไม่ว่าเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของมันหรือไม่ก็ตาม อย่าลืมว่าเธอคือคนที่มีอำนาจในที่นี้ ทรัสเดค กรุ๊ป ร่วมมือกับเธอ ไม่ใช่ยูรา” เจอรัลด์กล่าวเตือน “…ถูกต้อง ฉันไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว! เมื่อพูดแล้วก็ ลูกพี่ลูกน้อง ฉันเห็นนายเตรียมกล่องของขวัญที่นั่น สำหรับของใครเหรอ?” เบถาม ขณะที่เธอนั่งบนโซฟาในขณะที่มองไปที่เขา เมื่อได้ยินคำถามของเธอ เจอรัลด์ก็เช็ดมือของเขาให้สะอาดและหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาก่อนจะพูดว่า “ฉันวางแผนที่จะไปเยี่ยมคุณยาย เมื่อการประชุมของเธอจบลงนะ” เดิมทีเจอรัลด์ต้องการพบปะเธอก่อนหน้านี้แต่เมื่อเขาพบว่าเยลแมนกำลังมีการประชุมกันอยู่ เขาจึงเลื่อนแผนการของเขาไป ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อยากจะรับมือกับป้าหนึ่งและคนอื่น ๆ “ดังนั้นเธอคงไม่ได้สงสัยหรอกใช่ไหม เธอคิดว่ามันคือของขวัญสำหรับเธอใช่ไหม?” เจอรัลด์กล่าวเสริมด้วยรอยยิ้มทะลึ่งบนใบหน้าของเขา ในขณะนั้นเขาจำได้ว่าวันเกิดของเบคืออีกสองวันถัดไป ในการตอบกลับ เบแลบลิ้นก่อนจะพูดขึ้นมา “ไม่ ไม่ใช่ซะหน่อย!” “ไม่ว่าจะยังไง เนื่องจากการประชุมสิ้นสุดแล้ว ฉันจะไปเยี่ยมคุณยายใ
“เพราะสภาพร่างกายของคุณยายไม่ค่อยดีนักเมื่อไม่นานมานี้ ผมจึงซื้ออาหารเสริมสุขภาพมาให้ครับ!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาวางของขวัญไปข้าง ๆ เมื่อเขาเข้ามา “ฮึ่ม! ช่างหายากเหลือเกินที่เธอทำตัวช่างคิดเช่นนี้!” ท่านผู้หญิงเยลแมนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม อย่าลืมว่าเจอรัลด์ก็มามือเปล่าในวันเกิดจริง ๆ ของเธอวันนั้น ไม่ว่าจะยังไง แม้มันเป็นความจริงที่เธอตัดแม่ลูกกับยูเลีย แต่เธอก็ต้องยอมรับว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตัดสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น เจอรัลด์และเจสสิก้าทั้งคู่ก็เป็นหลานแท้ ๆ ของเธอ ในฐานะยาย เอาตามตรงเธอก็อยากจะมีการติดต่อพวกเขาสักรูปแบบหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นว่าเจอรัลด์ดูน่าสมเพชอย่างไรในตอนแรก เธอจึงนึกถึงดีแลนขึ้นมาทันที ทั้งพ่อและลูกชายเหมือนกันมาก… นิสัยของพวกเขาก็คล้ายคลึงกันเหมือนกัน พวกเขาเป็นคนประเภทที่ไม่เคยโต้ตอบ หรือสู้กลับคนอื่น ๆ แม้ว่าพวกเขาจะถูกด่าว่าหรือทุบตีก็ตาม หลังจากความเงียบที่ทรมานเล็กน้อย ท่านผู้หญิงเยลแมนก็ถามขึ้นมา “…แม่ของเธอมีชีวิตที่ดีตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้หรือเปล่า เจอรัลด์?” “ครับ พู
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ