โรสกล่าว“ฮึ่ม! เธอสามารถไปได้ถ้าเธอต้องการจะไป! ยิ่งไกลจากสายตา ก็ยิ่งเลือนลางในสมอง!” ท่านผู้หญิงเยลแมนตอบสนองอย่างเย็นชาจากนั้นเธอก็หันหลังกลับเพื่อดูสถานการณ์ของงานเลี้ยง“เกิดอะไรขึ้นกัน? มีแขกผู้มีเกียรติมากมายในงานเลี้ยงวันเกิดของฉันเมื่อปีก่อน ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดไปไหนกันล่ะในปีนี้?” ท่านผู้หญิงเยลแมนตระหนักถึงเรื่องบางอย่างที่ผิดปกติขึ้นมาได้ฉับพลันยูม่าตอบกลับ “ครับ มันรู้สึกค่อนข้างแปลก ๆ ทำไมถึงมีแขกไม่กี่คนที่นี่ในวันนี้กัน? ผมหมายถึง ผมเชิญพวกเขาเป็นการส่วนตัวให้มางานเลี้ยงแล้วไม่ใช่หรือไง?” บนใบหน้าของท่านผู้หญิงเยลแมนมีสีหน้าบูดบึ้งเธอส่งสัญญาณให้พ่อบ้านของเธอ เชลดอน ให้ก้าวออกมาข้างหน้าเธอถามเขาเกี่ยวกับระดับผู้ที่มาร่วมงานที่ตกต่ำสำหรับแขกที่พวกเขาได้เชิญโดยเฉพาะให้มางานเลี้ยงนี้เชลดอนตอบกลับ “ท่านผู้หญิงเยลแมน ผมขอโทษครับแต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น แขกผู้มีเกียรติและหุ้นส่วนมากมายที่พวเราเชิญต่างก็โทรมาบอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน และพวกเขาไม่สามารถมาที่นี่ได้อีกต่อไป พวกเขาเพียงขอให้ผมแสดงความยินดีกับคุณในนามของพวกเขา!
ยังคงมีกล่องของขวัญที่ยังไม่ได้เปิดอีกมากมายนี่ทำให้ทุกคนในตระกูลเยลแมน รวมถึงท่านผู้หญิงเยลแมนเอง รู้สึกตื่นตาตื่นใจกันมากมันคงจะไม่เป็นการพูดเกินจริงที่จะบรรยายว่าของขวัญเหล่านี้แต่ชิ้นและทุก ๆ ชิ้นนั้นเป็นทรัพย์สมบัติที่หายากของขวัญทุกชิ้นมีเรื่องราวในตัวมันเองที่จะเล่า และทั้งหมดก็มีประวัติศาสตร์อันมีค่าอย่างเหลือเชื่อ พวกมันทั้งหมดสุดที่จะประเมินราคาได้! ท่านผู้หญิงเยลแมนรู้สึกเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในวัยชราแปดสิบปี ก็เห็นได้ชัดว่าเธออยู่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ในชีวิตเธอไม่เคยเห็นฉากที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลย! “ท่านผู้หญิงเยลแมน นี่คือรายชื่อของของขวัญที่ถูกนำเสนอในวันนี้ โปรดดูด้วยครับ!” ชายหนุ่มที่เดินนำคณะพ่อบ้านมอบรายการนั้นให้ท่านผู้หญิงเยลแมนด้วยท่าทางที่เคารพ“ไม่ ไม่มีความจำเป็นสำหรับเรื่องนั้น! ฉันไม่จำเป็นต้องต้องดูมันอีกต่อไปแล้ว! โปรดขอบคุณคุณคลอฟอร์ดสำหรับของขวัญเหล่านี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม คุณต้องบอกเขาว่าของขวัญเหล่านี้แพงมากเกินไปจริง ๆ! ยังไงซะ ฉันก็ไม่คิดว่าฉันเคยพบคุณคลอฟอร์ดคนนี้ที่คุณกำลังพูดถึงอยู่มาก่อนเลย คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าเจ้านายของค
“หืมม? แต่สิ่งที่เธอพูดมาก็สมเหตุสมผลเหมือนกัน นายน้อยหนุ่มจากตระกูลระดับสูงจะไม่มีวันยุ่งยากในการทำเรื่องเช่นนี้หรอก และพวกเขาจะไม่มีวันแสดงเจตนาที่ตรงไปตรงมาและชัดเจนเหมือนกัน มีความเป็นไปได้จริง ๆ ที่คุณคลอฟอร์ดจะตกหลุมรักหนึ่งในหญิงสาวจากตระกูลเยลแมน!”“อิซาเบล เธอเพิ่งเริ่มทำงานให้กับบริษัทเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่เรียนต่างประเทศมาหลายปี ย่าเชื่อว่าเธอคงพบผู้คนมามากมายและมีส่วนร่วมในงาน และโอกาสที่แตกต่างกันอย่างมากมายใช่ไหม? เธอจำได้บ้างไหมว่าได้พบกับนายน้อยที่มีอำนาจและน่าเกรงขามเช่นนี้?” ท่านผู้หญิงเยลแมน ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็รู้ดีว่าอิซาเบลเป็นที่ต้องตาแค่ไหน ใช่ เบก็เทียบเท่าได้กับความงามของเธอ แต่เธอแทบจะไม่ได้สัมผัสเหตุการ์ณที่ยิ่งใหญ่กว่าหรือโลกภายนอกมากนักเมื่อเทียบกับอิซาเบลอิวาเบลใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อคิดถึงประสบการณ์ของเธอก่อนจะตอบกลับ “หนูก็คิดอย่างนั้นนะคะ คุณย่า!” “เอาล่ะ ถ้าเป็นอย่างงั้นล่ะก็ งั้นพวกเราจะถือซะว่ามันเป็นความกรุณาสำหรับตระกูลเยลแมน! อิซาเบล ถ้ามีอะไรที่เธอต้องการหรือจำเป็นในอนาคต ก็ไม่ต้องลังเลใจที่จะขอย่านะ!” ท่านผู้หญิงเยลแมนกล่าว“ขอบคุณค่
“พ่อคะ หนูมันไร้ประโยชน์ หนูไม่สามารถพูดปกป้องแม่ได้ด้วยซ้ำเมื่อทุกคนโจมตีเธอ! หนูมันน่าผิดหวัง! หนูขอโทษจริง ๆ ที่หนูไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวังของพ่อ!” เบกล่าว ขณะที่เธอร้องไห้“แม่มอบกำไลอันโปรดและล้ำค่าให้หนูด้วยความตั้งใจที่จะมอบมันเป็นของขวัญวันเกิดให้คุณย่า เพื่อให้เธอกรุณาและทำให้เธอมีความสุข แม่ทำแบบนี้ก็ด้วยความหวังว่าหนูจะก้าวหน้าในบริษัทได้! แต่ยูราทำกำไลนั้นพัง! เขาทำมันอย่างจงใจ หนูรู้ว่าเขาทำ! ทุกคนก็เห็นด้วยตาของพวกเขาเองว่าทำแบบนั้น!” “แต่พ่อคะ คุณย่ากลับเมินเฉยต่อคำดูถูกและกล่าวหาคุณแม่ว่าทำเกินกว่าเหตุ เธอพูดว่ามันไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่ากำไลหยก พ่อคะ เป็นไปได้ไหมว่าในสายตาของคุณย่า ไม่มีใครที่จะสามารถเทียบได้กับยูราเลยหรือเปล่า?” เบรู้สึกเสียใจอย่างจริงจังในวันนี้ตามปกติแล้ว เธอจะเพียงทนมันเอาไว้เมื่อคนอื่น ๆ เยาะเย้ยเธอหรือแม่ของเธอแต่อย่างไรก็ดี คราวนี้มีการแสดงความไม่เป็นธรรมอย่างโจ่งแจ้งเกิดขึ้นโดยไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไปแล้ว เธอจึงวิ่งกลับมาบ้าน“พ่อไม่รู้หรอกเหรอว่าโรสเกลียดพ่อ หนู และแม่ของหนูมากแค่ไหน? ทุก ๆ วัน เธอจะพยายามที่จะหาเหตุผลทุกรูปแบบเพ
“มีบางอย่างเกิดขึ้นงั้นเหรอ?” เบอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลเยลแมนให้เจอรัลด์ต่อไปพูดสั้น ๆ ตระกูลเยลแมน ที่ไม่มีความสุขกันอยู่แล้ว เพิ่งจะถูกตระกูลหลงแทงข้างหลังอีกครั้งตระกูลหลงได้ตั้งเป้าหมายไว้กับแหล่งรายได้หลักของตระกูลเยลแมน ซึ่งเป็นโครงการการพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเหลืออยู่ในมือแม้ว่าในข้อเท็จจริงที่การเงินของตระกูลเยลแมนจะมีโครงสร้างที่ดีพอสำหรับพวกเขาที่จะตอบโต้กลับได้แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งคู่ได้ควบคุมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งกระตุ้นความต้องการเงินทุนเพิ่มเติมที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพวกเขานี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจประเภทที่ตระกูลของพวกเขาเกี่ยวข้องโดยตรง มันเป็นวิถีจรรโลงชีวิตของตระกูลเยลแมน ซึ่งถ้าไม่มีมันพวกเขาก็จะไม่มีตัวตนอีกต่อไปโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ถูกแย่งไปจากมือของพวกเขามันจึงเป็นปกติที่พวกเขาจะรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างแรกเมื่อท่านผู้หญิงเยลแมนตำหนิโรสสำหรับความผิดพลาดของเธอ เธอก็โยนความผิดให้คนอื่นไปถ้าจะพูดให้ถูก เธอกดดันเบในการให้ได้โครงการใหม่เพื่อบริษัทแทนท่านผู้หญิงเยลแมนหงุดหงิดมากจนเธอเอ่ยปากว่าใครก็ตามที่เกียจคร้าน และไม่เต็มใจที
“เป็นพวกคุณเหรอ?” เบขมวดคิ้วทันทีที่เห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ตรงนั่นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากครอบครัวลุงคนโตและยังมครอบครัวของป้าสองเช่นกันสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก่อให้เกิดความเกลียดชังที่เบมีต่อโรส และคนที่เหลือของตระกูลเยลแมน“เธอช่างหยาบคายเสียจริงนะ เบ เธอไม่ควรกล่าวทักทายผู้ใหญ่เมื่อเธอเห็นพวกเขาหรอกเหรอ? เธอไม่มีมารยาทหรือแม้แต่มารยาทพื้นฐานบ้างเลยหรือไง!?” การตอบสนองของโรสก็เย็นชาเหมือนอย่างเคยยูม่าก็เหลือบมองเธอด้วยสีหน้าโกรธ“เธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” เขาซักถาม“หนูมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องโครงการให้พวกเราค่ะ!” เบมีกระเป๋าที่เธอกำลังถืออยู่ ทุกคนในพื้นที่วีไอพีทั้งหมดต่างก็เป็นเจ้านายหรือผู้ประกอบการท้องถิ่นกันทั้งนั้น หรือไม่พวกเขาก็เป็นเจ้าของสถานประกอบการชั้นรองตามลำดับ ก็เหมือนลุงใหญ่ของเธอเธอเป็นเพียงคนเดียวที่แต่งตัวเหมือนพนักงานธรรมดา ๆ คนหนึ่ง“ฮึ่ม! เธอพูดว่าไงนะ? เธอมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องโครงการงั้นเหรอ?” โรสถาม ในขณะที่หัวเราะใส่หน้าของเธอเธอจ้องไปที่เบราวกับว่าเธอกำลังมองคนโง่อยู่“เธอรู้ไหมว่านี่คือทรัสเดค กรุ๊ป ที่พวกเรากำลังพูดถึงอยู่? ทำไมเธอไม่มองไปรอบ ๆ
เบกล่าวอย่างประหม่าเล็กน้อย“ลูกพี่ลูกน้องของคุณเหรอคะ? ดิฉันขอทราบได้ไหมคะว่าเขาเป็นใคร? เขาขอให้คุณมามองหาใครที่นี่เหรอคะ?” พนักงานต้อนรับที่ทำงานแผนกต้อบรับมีการแสดงออกทางอารมณ์ที่ดีมาก และมันชัดเจนว่าเธอได้รับการฝึกสำหรับการให้บริการลูกค้าของพวกเขา เธอปฏิบัติต่อทุกคนในห้องด้วยความเคารพ แม้แต่เบที่แต่งกายอย่างเรียบง่าย“เขาชื่อเจอรัลด์ คลอฟอร์ดค่ะ เขาบอกให้ฉันมาที่นี่ และมองหาผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าคุณเคย์เดน เซลลี!”พนักงานต้อนรับตรงแผนกต้อนรับส่ายหัวของเธอและด้วยรอยยิ้มเวทนา เธอบอกเบว่า “ดิฉันขอโทษค่ะแต่ไม่มีใครที่ชื่อเคย์เดน เซลลีที่นี่ พวกเราไม่เคยได้ยินใครก็ตามชื่อเจอรัลด์ คลอฟอร์ดเหมือนกัน คุณแน่ใจใช่ไหมคะว่าคุณไม่ได้จำผิด?” “อะไรนะ?”ความตื่นกลัวของเบพุ่งขึ้นเมื่อได้ยินการตอบสนองของพนักงานต้อนรับ นี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเพราะทุกคนจับจ้องสายตามายังเธอ เธอจึงเริ่มหน้าแดงขึ้นมาด้วยความอับอาย“พระเจ้า! ฉันเพิ่งพูดอะไรไปนะ? พระเจ้า ข่างน่าอายเสียจริง! เธอช่างโง่อะไรอย่างงี้ที่มาถึงที่นี่น่ะ!” อย่างพูดไม่ออก อิซาเบลปิดหน้าของเธอเพื่อซ่อนตัวเองจากบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้
“เป็นใครกัน?” ขณะที่คนอื่น ๆ มองกันและกันด้วยความตกตะลึง ผู้จัดการฮัดเดล ที่ใช้ประโยชน์ในเวลาว่างของเขา ก็เข้ามาในห้องวีไอพี ทันทีที่ยูม่าเห็นเขา เขาก็มอบรอยยิ้มจาง ๆ ให้ก่อนจะพูดขึ้นมา “ผู้จัดการฮัดเดลครับ!” “ขอโทษจริง ๆ นะครับสำหรับการละเลยขนาดนี้ต่อคุณในวันนี้ ประธานเยลแมน มีหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำน่ะครับ! ผมจึงหวังว่าคุณจะรอผมได้สักครู่หนึ่ง” ผู้จัดการฮัดเดลตอบกลับ เมื่อได้ยินแบบนั้น จากนั้นยูม่าก็กล่าว “คุณกำลังทำตัวจริงใจมากเกินไปแล้วครับ ผมรู้ดีว่าทรัสเดค กรุ๊ป นั้นยุ่งกันมากในทุก ๆ วัน! แม้จะเป็นอย่างงั้น แต่คุณก็ยังคงใช้เวลาในการเข้าร่วม และผมก็ขอบคุณจริง ๆ!” ในการตอบสนอง ผู้จัดการฮัดเดลถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้นมา “เมื่อพูดแล้วก็ ประธานเยลแมนครับ ผมถามไปทั่วเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คุณเอ่ยถึงในตอนนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามันเกี่ยวข้องกับการประมูลและข้อเสนอ ประธานเซลลี ผู้บังคับบัญชาของผม ไม่มีเวลาที่จะตรวจเช็คดูในเวลานี้! คุณอาจต้องรอไปสักพักก่อนที่เขาจะสนใจฟังในเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นนะครับ!” “ไม่เป็นไรครับ ผู้จัดการฮัดเดล! ผมไว้วางใจในความสามารถของคุณที่จะทำการจัดเตรียมนี