หมู่บ้าวินเทอร์บอร์นอยู่ระยะใกล้มากกับเขตโฮเวิร์ดพวกเขาหาตำแหน่งของครอบครัวที่มินดี้ระบุให้พวกเขาค้นหาได้แล้ว เมื่อพวกเขามาถึงยังจุดหมายผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเปิดประตูให้พวกเขา สิ่งที่ทำให้เธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกันก็คือ รอยแผลเป็นจากไฟไหม้ที่แห้งเกรียมไปทั้งใบหน้าของเธอเธอดูเหมือนค่อนข้างหวาดกลัวกับการปรากฏตัวของพวกเขา“คุณกำลังตามหาใครอยู่เหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดกับการมาถึงอย่างเงียบ ๆ ของเจอรัลด์และเพื่อนของเขาเธอก้มหน้าเพื่อปิดบังรอยแผลของเธอ บางทีอาจเป็นเพราะความอับอาย หรืออาจเป็นความหวาดกลัวว่าจะทำให้คนแปลกหน้ากลัวก็ได้“คุณคะ ยินดีที่ได้พบคุณนะคะ ฉันขอทราบได้ไหมว่าคุณคือพี่ลูกน้องของเซเนียหรือเปล่า? เธอพูดว่าเธอขอให้คุณเก็บของพิเศษบางอย่างไว้ให้เธอ พวกเราจึงมาที่นี่เพื่อรับมันคืน เธอบอกพวกเราว่าคุณจะเข้าใจมันเองหลังจากที่อ่านจดหมายนี้” แจสมินเดินไปหาและพูด ในขณะที่เธอยื่นจดหมายให้เธอผู้หญิงคนนั้นมองไปที่จดหมาย จากนั้นเธอก็เหลือบมองแจสมินอยู่สองสามครั้งก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ“ดีมาก ฉันเข้าใจแล้วตอนนี้ คุณเอามันไปได้” ผู้หญิงค
เจอรัลด์แฝงตัวอยู่ด้านในทางผ่านที่คับแคบ เขาเหลือบมองไปที่ใบหน้าของสเตลล่าจากนั้นเขาก็ฟังเสียงภายนอก เห็นได้ชัดคนเหล่านั้นจะไม่ล้มเลิกการค้นหาของพวกเขาในเร็ว ๆ นี้แน่ พวกเขาพลิกก้อนหินทุกก้อนในการค้นหาเป้าหมายของพวกเขาแจสมินวิตกกังวลมากจนหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อจากความกลัวไม่มีทางที่จะหนีไปได้เลย ถ้าพวกเขาปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินต่อไปโดยไม่ลงมือทำอะไรเจอรัลด์อยู่ข้างหลังของกลุ่ม และสเตลล่าก็อยู่ข้างเจอรัลด์ขณะนั้น เจอรัลด์จัดหาอุปกรณ์ที่ประณีตแต่กะทัดรัดออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาสเตลล่ารู้สึกประหลาดใจเมื่อเธอเห็นอุปกรณ์นั้น เธอบอกได้เลยว่ามันคือบางอย่างที่พิเศษ บางอย่างซึ่งไม่สามารถหาได้จากตลาดผู้บริโภคทั่วไปจากนั้นเจอรัลด์ก็ส่งสัญญาณให้เธอเงียบไว้หลังจากนั้น เขาก็กดปุ่มบนอุปกรณ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะทำให้เกิดสัญญาณขอความช่วยเหลือได้“นี่…นี่คืออะไร? สิ่งนี้จะช่วยชีวิตของพวกเราได้ใช่ไหม?”สเตลล่าถามด้วยสายตาที่เบิกกว้างขึ้นเจอรัลด์กดลงบนหัวของเธอและกระซิบในหูของเธอ “ลืมอะไรก็ตามที่เธอเพิ่งเห็นไปซะ อย่าพล่ามไร้สาระเด็ดขาด!”สเตลล่าพยักหน้าอย่าง
“ผมเหรอครับ?” เจอรัลด์ชี้ตัวเอง“ฉันเห็นว่าคุณเฉลียวฉลาดมากแค่ไหน หนุ่มน้อย! คุณช่วยฉันบางอย่างได้ไหม?” ผู้หญิงคนนั้นเก็บอารมณ์ของเธอได้ทันเวลา“แน่นอนค่ะ ฉันมั่นใจว่าเจอรัลด์สามารถอยู่ต่อเพื่อช่วยคุณได้!” มินดี้กล่าวเธอปฏิบัติต่อเจอรัลด์ราวกับว่าเขาเป็นคนรับใช้ของเธอจริง ๆ!หมดทางไปสำหรับเรื่องนี้เหมือนกัน เจอรัลด์ไม่สามารถปฏิเสธคำขอของผู้หญิงคนนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงสัญญาที่จะช่วยเหลือเธออย่างไม่เต็มใจนักหลังจากพวกเขาจากไป ผู้หญิงคนนั้นก็คว้ามือของเจอรัลด์ทั้งสองข้างของเจอรัลด์ไว้ทันทีการกระทำฉับพลันของเธอทำให้เจอรัลด์รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา“คุณครับ เป็นอะไรไปหรือเปล่า?” เจอรัลด์ถามทันที“หนุ่มน้อย ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ฉันเห็นได้ว่าคุณมีจิตใจดี คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าคุณได้จี้หยกนี้มาจากไหน?”จากนั้นเธอก็ชูจี้หยกที่เธอหยิบขึ้นมาจากพื้นไม่ต้องสงสัยเลย นั่นคือจี้หยกที่เควต้ามอบให้เธอด้วยชื่อเซร่าสลักไว้บนนั้นเจอรัลด์ตกใจเล็กน้อยกับการที่ผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นรู้สึกสะเทือนอารมณ์ขึ้นมาอย่างไรแต่เขายังคงตอบกลับ “นี่เป็นของน้องสาวของผม เป็นอะไรไปครับ คุณ?” ผู้หญ
และตอนนี้ ผู้หญิงที่ดูเหมือนกับเควต้าเป๊ะ ๆ ก็อยู่ต่อหน้าเขาแล้วสิ่งที่ยืนยันความสงสัยของเขาก็คือ การที่เห็นเธอรู้สึกกระวนกระวายใจมากแค่ไหน เมื่อเธอเห็นจี้หยกนั่น มีอะไรบ้างที่สามารถอธิบายปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเธอได้ล่ะ?“คุณจะบอกว่าชื่อของเธอคือเควต้าเหรอคะ? เธอดูเหมือนฉันจริง ๆ เหรอคะ?” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างตื่นเต้น“ใช่ครับ เธอมอบจี้หยกนี้ให้ผม เธออยากตามหาแม่ของเธอเอง ซึ่งเธอแยกจากมานานหลายปีก่อน เธออยู่ตามลำพังเสมอมาตั้งแต่นั้น ชีวิตของเธอจึงเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก ไม่มีทั้งอาหารดี ๆ และเสื้อผ้าที่เหมาะสม เธอเติบโตขึ้นมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เกิดแล้ว!” เจอรัลด์กล่าวผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ออกมาอีกครั้งขณะที่เธอกำลังร้องไห้ เธอก็ทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง“ในที่สุดคุณพร้อมที่จะยอมรับมันจริง ๆ หรือเปล่า? คุณคือเซร่า ใช่ไหมครับ?”เจอรัลด์ถามและผู้หญิงคนนั้นก็เอาฝ่ามือปิดหน้าของเธอขณะที่เธอพยักหน้า “ใช่ ฉันเอง!”หลังจากนั้น เธอก็ลุกยืนขึ้นทันที เธอคว้าแขนของเจอรัลด์ “ฉันขอร้องคุณนะ โปรดให้ฉันพบเควต้าด้วย ฉันไม่สนว่าคุณอยู่ฝ่ายไหน ฉันสัญญาว่าฉันจะไปกับคุณตราบ
เจอรัลด์รับปากเธอทันทีเขารู้ว่าตระกูลเฟนเดอร์สันยังคงตามหาเซร่าอยู่ แน่นอนเขาไม่ได้โง่ และก็ไม่ต้องการก่อเรื่องที่ไม่จำเป็นให้ตัวเองแต่ในเวลาเดียวกัน เจอรัลด์ก็ค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเซร่าและครอบครัวของตัวเธอเองตลอดหลายปีก่อนนั้นเขาต้องการจะรู้ว่าเขาเกี่ยวข้องกับเควต้าในทางไหนยังไงเมื่อตระหนักได้ว่าเจอรัลด์จะถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซร่าจึงกลายเป็นค่อนข้างตรงไปตรงมา และเธอก็เริ่มเปิดเผยความจริงโดยไม่ปิดบังใดเลยกลายเป็นว่ามันก็คือประมาณว่าแบบนี้ปีเตอร์ คลอฟอร์ดที่เซร่าเอ่ยถึง คือนายน้อยรองจากตระกูลคลอฟอร์ดในตอนนั้น เขาเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง เขายังเป็นพ่อของเควต้าเช่นกัน‘โดยการคาดเดาที่มีเหตุผล ผู้ชายที่ชื่อปีเตอร์ก็น่าจะเป็นอาของเขา ที่พ่อของเขาพูดถึงเมื่อฉันเป็นเด็ก’‘ตอนนั้น พ่อมักจะบอกเขาว่า อาของเขาออกไปทำงานนอกเมืองอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยกลับมาเยี่ยมบ้าน’‘ไม่แปลกที่มีความรู้สึกของความคุ้นเคยเมื่อเขาพบเควต้าครั้งแรก’‘กลับกลายเป็นว่าเควต้าคือ ลูกพี่ลูกน้องของเขานั่นเอง’แต่เห็นได้ชัด ความขุ่นแค้นระหว่างตระกูลคลอฟอร์ดและตระกูลเฟนเดอร์สันนั้
บางอย่างในตัวเจอรัลด์บอกเขาว่านี่ยังคงไม่ใช่เวลาที่จะเปิดเผยตัวตนของเขาในฐานะนายน้อยของตระกูลคลอฟอร์ด“ถูกต้อง ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ งั้นดีแลนก็คงจะไม่รุกรานตระกูลเฟนเดอร์สันด้วยวิธีการที่บ้าคลั่งเช่นนั้นหรอก!” เซร่ากล่าวดีแลนคือชื่อพ่อของเจอรัลด์หัวใจของเจอรัลด์เต้นระส่ำเมื่อเขาได้ยินเธอพูดถึงชื่อของพ่อของเขา เขาไม่ได้พูดอะไรและฟัง เซร่าเงียบ ๆ “เป็นเพราะสิ่งอื่นเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้น…”“หลังจากนั้น หัวหน้าแห่งตระกูลคลอฟอร์ด ดีแลนจึงกักบริเวณปีเตอร์ไว้ในบ้าน แต่ปีเตอร์เป็นห่วงฉันและลูกสาวของฉันมาก ดังนั้น ในคืนหนึ่งเขาบอกฉันว่าเขาต้องการจะหนีตามไปกับฉัน เควต้าเกิดแล้วในตอนนั้นและพวกเราก็จะกบดานอยู่สักที่ที่ไม่มีใครสามารถตามหาพวกเราเจอ และเป็นที่ที่พวกเราจะได้ใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม!”เซร่ากล่าว…มันเป็นคืนที่เซร่าพาเซเนีย สาวใช้ของเธอ ไปหาห้องโรงแรมด้วยความเร่งรีบแม้เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลเฟนเดอร์สัน แต่หลังจากที่เธอเนรเทศตัวเองไป แต่ตระกูลเฟนเดอร์สันก็ยังคงจ้างคนมาจับตาดูเธอ เพราะปัญหาที่ซับซ้อนบางอย่างคืนนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมาก เซร่ายังคงอุ้มลูกสาวของเธอไว
“รอเดี๋ยว!” ทันใดนั้น เซร่าก็พูดขึ้นมา“เจอรัลด์ ฉันน่าขยะแขยงมากตอนนี้ เธอคิดว่าฉันจะทำให้เควต้าหวาดกลัวไหมถ้าฉันไปที่นั่นโดยไม่บอกกล่าว เพื่อพบเธอ? นอกจากนี้ ฉันก็ไม่เคยอยู่เคียงข้างเธอเลยหลังจากผ่านไปหลายปีขนาดนี้ ฉันยังละทิ้งเธออีกด้วยซ้ำ เธอจะเกลียดฉันไหม? เธอจะเกลียดที่ได้เห็นแม่ที่น่าเกลียดมากขนาดนี้หรือเปล่า?” ความกลัวของเซร่าชัดเจนในน้ำเสียงของเธอ“เธอจะปฏิเสธที่จะยอมรับฉันเป็นแม่ของเธออย่างแน่นอน เพราะฉันเป็นผู้หญิงที่โหดร้ายและน่าเกลียดเช่นนี้!” “นอกจากนี้ มันก็กะทันหันมากเกินไป เควต้าจะสามารถยอมรับมันได้ไหม?” เซร่าสัมผัสใบหน้าของเธอ ขณะที่เธอพูดเจอรัลด์เกาหัวของเขา “ถ้าผมบอกเควต้าว่าคุณเป็นแม่ของเธอ เธอจะตื่นเต้นมากอย่างแน่นอน ผมคิดว่าคุณแค่ไม่รู้จักเธอดีพอ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมากคนหนึ่งนะครับ!”“นั่นคงใช้ไม่ได้ เจอรัลด์ เอางี้ไหม? แค่ทำการเตรียมการบางอย่างให้ฉัน เพื่อไปเป็นพี่เลี้ยงให้เควต้า ฉันรู้ว่ามีโอกาสที่เธอจะดูหมิ่นฉันในฐานะพี่เลี้ยงของเธอ แต่ฉันแค่ต้องการทำอะไรบางอย่างให้เควต้า! ฉันเต็มใจที่จะทำอะไรก็ตามเพื่อเธอ! อะไรก็ได้!” เซร่ากล่าว“เอาล่ะ ผ
นั่นคือไดอารี่ของเควต้าหลายปีที่ผ่านมานี้ เธอมักจะมีนิสัยชอบจดบันทึกอยู่เสมอเซร่าพลิกไปหน้าแรก และมันก็เป็นตั้งแต่ก่อนเควต้าพบเจอรัลด์“ฉันได้มาเป็นครูอนุบาลแล้วในวันนี้ ฉันค่อนข้างพอใจเพราะฉันจะได้เห็นเด็ก ๆ มีความสุขและร่าเริงในทุก ๆ วัน ฉันไม่เคยมีแม่ตั้งแต่ฉันยังเด็กแล้ว บางทีฉันอาจจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวขนาดนี้ก็ได้เมื่อได้อยู่กับเด็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและร่าเริงกลุ่มนี้”“วันนี้ฉันแอบได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดลับหลังฉัน ครูคนนั้นพูดว่าฉันเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและฉันก็ถูกพ่อแม่ทิ้งเมื่อฉันยังเด็ก ฉันแกล้งทำเป็นราวกับว่าฉันไม่ได้ยิน แต่ฉันก็เศร้าและเสียใจมาก ฉันหวังว่าฉันสามารถพบพ่อแม่ของฉันในวันหนึ่ง ดังนั้นฉันจะได้ถามพวกเขาใ่าทำไมถึงทิ้งฉันไป ทำไมพวกเขาไม่สามารถมอบวัยเด็กที่สวยงามและมีความสุขให้ฉันได้? ทำไมกัน?” “…”“ฉันทำงานในร้านอาหารตอนนี้ ฉันทำบางอย่างผิดพลาดไป ดังนั้นฉันจึงถูกหัวหน้าดุ มีชายหนุ่มร่ำรวยคนหนึ่งมาช่วยฉันไว้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรู้ว่าเขามีจิตใจที่ดีทันทีที่ฉันเห็นเขา” “ฉันพบเขาอีกครั้ง และเขาช่วยฉันไว้อีกครั้งแล้ว แต่ฉันเริ่มประหม่าทุกครั้งที่ฉ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ