เมื่อพวกเขาข้ามกำแพงไปแล้ว ทั้งสามก็ตรวจตราพื้นที่อย่างรวดเร็ว หลังจากยืนยันว่าคนในสหภาพยังคงถูกไฟไหม้โจมตีอย่างหนัก เจอรัลด์และพรรคพวกของเขาก็รีบลอบผ่านห้องโถงใหญ่ของสหภาพไปก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปยังคุกใต้ดิน... เมื่อใกล้ถึงจุดที่จะนำไปสู่คุกใต้ดิน เจอรัลด์และอีกสองคนก็สอดส่ายสายตาดูว่ามีใครเฝ้าทางเข้าคุกใต้ดินอยู่หรือไม่ โชคดีที่มีทหารยามเพียงสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่ที่นั่น เมื่อได้รู้เช่นนั้น หลังจากที่แน่ใจว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขาแล้ว เจอรัลด์จึงชักดาบแอสตราบิซของเขาออกมา... หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็พุ่งเข้าหาทหารยามคนหนึ่ง ก่อนที่จะเชือดคอของเขาอย่างช่ำชอง! ในตอนที่มีเลือดไหลออกมาจากลำคอของทหารยามที่เฝ้าอยู่ อีกฝ่ายแทบไม่ทันได้รู้ตัวได้ซ้ำ… ชั่วขณะนั้นเขาล้มลงกับพื้นและสิ้นใจตาย เมื่อตระหนักได้ว่าสหายของเขาไร้ลมหายใจไปแล้ว ชายอีกคนก็ชักดาบของตัวเองออกมาทันที และพยายามจะตัดหัวเจอรัลด์! แน่นอนว่าเจอรัลด์สามารถหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้น เขาก็เตะดาบของชายคนนั้นออก ก่อนที่จะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นอีกครั้ง! ขณะที่ชายคนนั้นกุมท้องด้วยความเจ็บปวดอยู่นั้น เจอรัลด์ก็ใ
“นั่นเขา! จับไอ้เด็กสาระเลวนั่น และจัดการเขาให้สิ้นซาก!” ไทเกอร์กัดฟันออกคำสั่งด้วยความโกรธเกรี้ยว เนื่องจากไทเกอร์และคนอีกสิบคนของเขาค่อนข้างเร็ว พวกเขาจึงสามารถเข้าโจมตีเจอรัลด์ได้อย่างรวดเร็ว ที่เลวร้ายไปกว่านั้น เพียงชั่วพริบตา เจอรัลด์ก็พบว่าตัวเองติดอยู่ระหว่างสหภาพฮัลเกอโรอิกกับหน้าผาซึ่งเป็นเหวลึกไร้ก้น... “ยอมแพ้เสียเถอะเด็กน้อย! ไม่มีที่ให้นายหนีไปไหนอีกแล้ว!” ไทเกอร์เยาะเย้ยก่อนที่จะตะคอก เจอรัลด์ไม่เคยคิดเลยว่าไทเกอร์จะตามเขามาได้ทันด้วยความเร็วขนาดนี้ เจอรัลด์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองที่ไทเกอร์แล้วเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะที่เขาเย้ยหยัน “ยอมแพ้งั้นเหรอ? อะไรกัน คุณคิดว่าคุณจะฆ่าผมได้จริง ๆ เหรอ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไทเกอร์ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นั่นก็เพราะว่า ไม่มีทางที่เจอรัลด์จะสามารถหลีกหนีจากสถานการณ์ปัจจุบันของเขาได้ “คนที่เลือกได้แค่ระหว่างถูกทุบตีจนตายกับตกเหวตาย มีสิทธิ์อะไรมาพูดจาใหญ่โตขนาดนี้! จริงอยู่นายอาจจะกระโดดลงไปได้ด้วยความแน่วแน่ แต่วิธีนั้นจะทำให้นายประสบกับความตายเพียงเท่านั้น!” ไทเกอร์คำราม "งั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ขอลองดูหน่อย!” เจอ
“คุณทำแบบนั้นไม่ได้หรอก! มันอันตรายเกินไป! อย่าลืมสิว่าสหภาพฮัลเกอโรอิกกำลังตามล่าเราอย่างหนักในตอนนี้! เพราะฉะนั้น ถ้าคุณกลับไปตามหาเขา คุณจะต้องถูกจับอย่างแน่นอน!” จูโน่ตอบแทบจะในทันที “ด้วยความเคารพนะ คุณซอร์น ถ้าเขาตาย เราเองก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร!” เรย์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนที่จูโน่จะทันได้ตอบโต้ เรย์และโนริก็เดินห่างออกไป ออกไปเรื่อย ๆ... เมื่อเห็นเช่นนั้น จูโน่ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เธอรู้สึกประทับใจเล็กน้อย เจอรัลด์มีมิตรสหายที่ดีและภักดีอย่างแท้จริง... หลังจากตามหาเจอรัลด์มาสักระยะหนึ่ง ในที่สุดเรย์และโนริก็มาถึงหน้าผาที่เจอรัลด์กระโดดลงไป… และที่น่าตกใจก็คือ การที่พวกเขามองเห็นจี้หยกของเจอรัลด์วางอยู่บนใกล้ ๆ ก้อนหิน…! ขณะที่หัวใจของเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ โนริก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบแก้มในที่สุด... “…ไม่… มัน… มันเป็นไปไม่ได้…!” โนริพึมพำกับตัวเองขณะที่เธอรีบหยิบจี้หยกขึ้นมา ก่อนจะจ้องมองไปยังหุบเหวอยู่เบื้องล่างด้วยความไม่เชื่อ... แต่เพราะว่าจี้หยกนี่อยู่ใกล้กับหน้าผามาก ดังนั้นเจอรัลด์…
“แล้ว… ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน…?” เจอรัลด์ถาม เมื่อเขารู้ว่าพวกเขาอยู่ในสถานที่ที่ดูคล้ายถ้ำ แม้ว่าชายชราจะดูโทรมและสกปรก แต่ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ชายชราก็ตอบด้วยเสียงแหบห้าว “…ฉันเป็นแค่คนที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษบนภูเขาลูกนี้” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะมีคนมาอาศัยในสถานที่เช่นนี้ได้! “…ผมขอทราบชื่อของคุณได้หรือเปล่า…?” “เรียกฉันว่าผู้เฒ่าฮิวจ์ก็ได้…” ชายคนนั้นตอบ หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็พาเจอรัลด์ออกจากถ้ำที่พวกเขาอยู่... เมื่อมองดูท้องฟ้า เจอรัลด์ก็ได้พบกับพระจันทร์เสี้ยวอันแสนสงบ... แม้ว่าเวลาค่ำคืนจะทำให้เขารู้สึกสงบ แต่เมื่อตระหนักว่าพวกเขากำลังมุ่งตรงเข้าไปในป่าทึบ เจอรัลด์ก็เอ่ยถามขึ้น “…ช่วยบอกผมหน่อยได้รึเปล่าว่าเราจะไปไหนกัน ผู้เฒ่าฮิวจ์…?” ด้วยใบไม้ที่หนาทึบ พวกเขาถูกความมืดมิดปกคลุมอยู่ในนั้น และการอยู่ในป่าที่ไม่มีแสงสว่างในตอนกลางคืนก็ถือเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเขาพยายามจะมองชายชราให้ออก ผู้เฒ่าฮิวจ์คนนี้ก็ยิ่งลึกลับมากขึ้นสำหรับเจอรัลด์ ไม่ว่าอย่างไร ผู้เฒ่าฮิว
“นี่มันอะไรกัน…?” เจอรัลด์ถามอย่างสงสัย “…ก่อนอื่น สถานที่นี้เรียกว่าถ้ำฟิชกัท และสิ่งที่ถูกผนึกไว้ภายในเสาหินนี้เป็นดาบยาวโบราณที่รู้จักกันในชื่อ ดาบฟิชกัท” ผู้เฒ่าฮิวจ์อธิบาย ขณะที่เขามองไปที่เจอรัลด์ “…ดาบฟิชกัท?” เจอรัลด์ถามด้วยความงุนงงที่ได้ยินชื่อแปลก ๆ ของดาบยาว หลังจากนั้น ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็หยิบกระดาษม้วนขึ้นมาจากใต้เสื้อคลุมของเขา ขณะเปิดมันออกต่อหน้าเจอรัลด์ ภาพแรกที่เด็กหนุ่มเห็นคือชายหนุ่มรูปหล่อ แข็งแกร่ง รวมไปถึงชายชราที่ยืนอยู่ด้วยกันในสถานที่ที่ดูคล้ายกับที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบันอย่างน่าทึ่ง… เรียกได้ว่ามันเป็นภาพวาดของทั้งสองคนที่กำลังอยู่ในถ้ำฟิชกัท! “…นั่น… พวกเราเหรอ?” เจอรัลด์ถามด้วยความสับสนเต็มที่ในขณะนี้ ผู้เฒ่าฮิวจ์เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างช้า ๆ จากนั้นจึงตอบว่า “บิงโก มันแสดงให้เห็นว่าเราทั้งคู่ยืนอยู่ ณ จุดนี้แน่นอน... รู้ไหม ตอนที่ฉันเจอกระดาษแผ่นนี้ที่นี่ครั้งแรก และเห็นเนื้อหาภายใน ฉันจะรู้ได้ทันทีว่าฉันถูกลิขิตให้พาใครบางคนมาที่นี่… และในที่สุดนายก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว!” แน่นอนว่าเจอรัลด์ต้องประหลาดใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่เมื่อพิจารณาว่าผู้เ
ใช้เวลาไม่นานสายน้ำไหลก็มาพันรอบมือของเจอรัลด์ ด้วยสายน้ำอันโปร่งแสง เจอรัลด์จึงมองเห็นโครงร่างที่คลุมเครือของมือตัวเองในตอนนี้... ทั้งคู่ก็ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงระเบิดที่บริเวณด้านหลังของพวกเขา โดยปราศจากการเตือนล่วงหน้า! หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้เห็นดาบฟิชกัทที่พุ่งออกมาจากเสาพอดี! ตอนนั้นเองที่เจอรัลด์ตระหนักได้ว่ากระแสน้ำไหลกลับไปยังจุดเดิมแล้ว... อย่างไรก็ตาม ความคิดของเขาต้องหยุดชะงักลง เมื่อเขาได้ยินผู้เฒ่าฮิวจ์ร้องตะโกนว่า "ไปเอาดาบมา เจอรัลด์!" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็หันไปมองชายชราก่อนจะเดินไปหยิบดาบขึ้นมา… วินาทีที่เขาคว้ามันไว้ พลังอันมหาศาลก็พุ่งออกมาจากดาบ ก่อนจะทะลักไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา ขณะที่พลังอันมหาศาลเริ่มแพร่กระจายจากฝ่ามือของเขาไปทั่วร่างกาย เจอรัลด์สัมผัสได้ถึงความอึดอัดอันแปลกประหลาดที่คุ้นเคยในน้ำอมฤตแห่งชีวิตของเขา... ด้วยพลังมากมายที่ล้นอยู่ในน้ำอมฤตแห่งชีวิต เจอรัลด์ก็รู้ได้เลยว่าเขากำลังจะก้าวข้ามไปอีกระดับแล้ว! “ผม… ผมรู้สึกได้ถึงระดับพลังที่สูงขึ้นอีกระดับแล้ว” เจอรัลด์อุทานด้วยความประหลาดใจปนยินดี ดูเหมือนว่าดาบฟิชกัทนั้นทรงพลังพ
“พูดถึงเรื่องนั้น… คุณรู้จักชื่อของดาบศักดิ์สิทธิ์โบราณอีกเก้าเล่มหรือไม่? คุณรู้ไหมว่าพวกมันอยู่ที่ไหน? ผมอยากได้ดาบพวกนั้น!” เจอรัลด์กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าสนใจดาบ นั่นก็เพราะว่าตอนนี้เขามีหนึ่งในนั้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่อยากได้อีกเก้าเล่มที่เหลือ "หืม? ถ้านายสนใจฉันจะบอกให้ก็ได้ ดาบเล่มแรกเรียกกันว่าเซียน เป็นดาบแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเล่มที่สองและสาม ก็เรียกว่าเซียน เป็นดาบแห่งความกรุณา และเซนิธ ดาบแห่งอธิปไตย… ดาบเล่มที่สี่คือเอ็มไพเรียน ฉันเชื่อว่ามันคือดาบแห่งพลัง ในทางกลับกัน ดาบแห่งอำนาจคือไททัน ซึ่งเป็นดาบเล่มที่ห้า” “สำหรับดาบเล่มที่หกและเจ็ด ทั้งคู่คือดาบแห่งความรัก มีชื่อเรียกว่ากเวน และมอร์เกน ดาบเล่มที่แปดคือดาบที่คุณกำลังถืออยู่ ฟิชกัท ดาบแห่งความกล้าหาญ และถ้าฉันจำไม่ผิด ดาบเล่มที่เก้ามีชื่อเรียกว่าโจเชม ดาบแห่งความโดดเดี่ยว และดาบเล่มสุดท้ายนั้นมีชื่อว่าชาร์เมลลา ดาบแห่งความสง่างาม!” “ดาบแต่ละเล่มมีพลังพิเศษ และใครก็ตามที่สามารถรวบรวมดาบทั้งสิบเล่มได้จะมีพลังมากเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะเข้าถึง! นั่นก็หมายความว่า ผู้ใช้ดาบเหล่านั้นจะกลายเป็นผู้ที
“…คุณซอร์น? นั่นคุณเหรอ?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขาหันหน้าไปทางต้นไม้ “…เจอรัลด์? นั่นคุณจริง ๆ ด้วย!” จูโน่อุทานด้วยความตื่นเต้นมขณะที่เธอรีบก้าวออกจากต้นไม้พร้อมกับลูกน้องของเธอ “ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ คุณซอร์น” เจอรัลด์ถามด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เขามองดูเธอ “ลมอะไรหอบพวกเรามาน่ะเหรอ? คุณหายไปสองวันแล้ว! แต่ฉันรู้ว่าคุณต้องยังไม่ตายแน่! ฉันดีใจที่ในที่สุดฉันก็สามารถหาคุณเจอได้! ว่าแต่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อได้ยินคำถามของจูโน่ เจอรัลด์ก็หันไปมองผู้เฒ่าฮิวจ์ชั่วครู่ ก่อนจะตอบอย่างเชื่องช้าว่า "...เรื่องนั้น... กลับไปค่อยคุยกัน จะว่าไปคนอื่นเป็นยังไงบ้าง?” “ไม่ต้องห่วง พวกเขาทั้งหมดสบายดี ตอนนี้พวกเขากำลังพักอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลซอร์น!” จูโน่ตอบด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เจอรัลด์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แล้วนี่… เขาเป็นใครกัน…?” จูโน่เอ่ยถาม ขณะที่เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย เมื่อมองไปที่ผู้เฒ่าฮิวจ์ เมื่อมองไปที่ชายชราครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็หันกลับมามองจูโน่แล้วตอบว่า "นี่คือผู้เฒ่าฮิวจ์ และเขาคือคนที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้!" "…งั้นเหรอ? เข้าใจแล้ว! ถ้าอย่างนั้นยินดีที่ได้พบท่าน ผู้เฒ่าฮิว