“ถึงมันจะเป็นเรื่องดีที่เรารู้ทุกอย่าง แต่เราจะผ่านการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดของสหภาพฮัลเกอโรอิกไปได้อย่างไรล่ะ? แม้แต่จากที่นี่ เราก็ยังเห็นได้ว่าตอนนี้พวกมันได้จัดเวรยามไว้ป้องกันอย่างแน่นหนา! ให้ตายเถอะ พวกมันยังจัดตั้งทีมลาดตระเวนด้วยซ้ำ! เพราะฉะนั้น เราจะต้องโดนจับได้อย่างแน่นอน หากเราโผล่เข้าไปในนั้นแบบสุ่มสี่สุ่มห้า!” เรย์พึมพำ เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็เห็นด้วยกับคำพูดของเรย์ ด้วยความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของสหภาพฮัลเกอโรอิกในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าคนในสหภาพนั้นคาดการณ์เอาไว้ว่าเจอรัลด์จะต้องมาช่วยเพื่อนของเขา มันเป็นกับดักแห่งความตายที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง... “…มีใครคิดออกไหมว่าเราควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร? คุณหนูใหญ่ซอร์นพอจะคิดออกไหม?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขามองไปที่จูโน่ เมื่อได้ยินคำถามของเขา จูโน่ก็เริ่มคิดไตร่ตรองเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าตัวประกันถูกคุมขังไว้ที่ไหน แต่การช่วยเหลือพวกเขานั้นถือเป็นเรื่องที่ยากมาก... “…วิธีเดียวที่ฉันคิดได้ คือเราต้องล่อพวกมันออกจากฐาน… นอกเหนือจากนั้น ฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าเราจะเข้าไปในฐานของพวกม
เมื่อพวกเขาข้ามกำแพงไปแล้ว ทั้งสามก็ตรวจตราพื้นที่อย่างรวดเร็ว หลังจากยืนยันว่าคนในสหภาพยังคงถูกไฟไหม้โจมตีอย่างหนัก เจอรัลด์และพรรคพวกของเขาก็รีบลอบผ่านห้องโถงใหญ่ของสหภาพไปก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปยังคุกใต้ดิน... เมื่อใกล้ถึงจุดที่จะนำไปสู่คุกใต้ดิน เจอรัลด์และอีกสองคนก็สอดส่ายสายตาดูว่ามีใครเฝ้าทางเข้าคุกใต้ดินอยู่หรือไม่ โชคดีที่มีทหารยามเพียงสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่ที่นั่น เมื่อได้รู้เช่นนั้น หลังจากที่แน่ใจว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขาแล้ว เจอรัลด์จึงชักดาบแอสตราบิซของเขาออกมา... หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็พุ่งเข้าหาทหารยามคนหนึ่ง ก่อนที่จะเชือดคอของเขาอย่างช่ำชอง! ในตอนที่มีเลือดไหลออกมาจากลำคอของทหารยามที่เฝ้าอยู่ อีกฝ่ายแทบไม่ทันได้รู้ตัวได้ซ้ำ… ชั่วขณะนั้นเขาล้มลงกับพื้นและสิ้นใจตาย เมื่อตระหนักได้ว่าสหายของเขาไร้ลมหายใจไปแล้ว ชายอีกคนก็ชักดาบของตัวเองออกมาทันที และพยายามจะตัดหัวเจอรัลด์! แน่นอนว่าเจอรัลด์สามารถหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้น เขาก็เตะดาบของชายคนนั้นออก ก่อนที่จะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นอีกครั้ง! ขณะที่ชายคนนั้นกุมท้องด้วยความเจ็บปวดอยู่นั้น เจอรัลด์ก็ใ
“นั่นเขา! จับไอ้เด็กสาระเลวนั่น และจัดการเขาให้สิ้นซาก!” ไทเกอร์กัดฟันออกคำสั่งด้วยความโกรธเกรี้ยว เนื่องจากไทเกอร์และคนอีกสิบคนของเขาค่อนข้างเร็ว พวกเขาจึงสามารถเข้าโจมตีเจอรัลด์ได้อย่างรวดเร็ว ที่เลวร้ายไปกว่านั้น เพียงชั่วพริบตา เจอรัลด์ก็พบว่าตัวเองติดอยู่ระหว่างสหภาพฮัลเกอโรอิกกับหน้าผาซึ่งเป็นเหวลึกไร้ก้น... “ยอมแพ้เสียเถอะเด็กน้อย! ไม่มีที่ให้นายหนีไปไหนอีกแล้ว!” ไทเกอร์เยาะเย้ยก่อนที่จะตะคอก เจอรัลด์ไม่เคยคิดเลยว่าไทเกอร์จะตามเขามาได้ทันด้วยความเร็วขนาดนี้ เจอรัลด์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองที่ไทเกอร์แล้วเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะที่เขาเย้ยหยัน “ยอมแพ้งั้นเหรอ? อะไรกัน คุณคิดว่าคุณจะฆ่าผมได้จริง ๆ เหรอ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไทเกอร์ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นั่นก็เพราะว่า ไม่มีทางที่เจอรัลด์จะสามารถหลีกหนีจากสถานการณ์ปัจจุบันของเขาได้ “คนที่เลือกได้แค่ระหว่างถูกทุบตีจนตายกับตกเหวตาย มีสิทธิ์อะไรมาพูดจาใหญ่โตขนาดนี้! จริงอยู่นายอาจจะกระโดดลงไปได้ด้วยความแน่วแน่ แต่วิธีนั้นจะทำให้นายประสบกับความตายเพียงเท่านั้น!” ไทเกอร์คำราม "งั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ขอลองดูหน่อย!” เจอ
“คุณทำแบบนั้นไม่ได้หรอก! มันอันตรายเกินไป! อย่าลืมสิว่าสหภาพฮัลเกอโรอิกกำลังตามล่าเราอย่างหนักในตอนนี้! เพราะฉะนั้น ถ้าคุณกลับไปตามหาเขา คุณจะต้องถูกจับอย่างแน่นอน!” จูโน่ตอบแทบจะในทันที “ด้วยความเคารพนะ คุณซอร์น ถ้าเขาตาย เราเองก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร!” เรย์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนที่จูโน่จะทันได้ตอบโต้ เรย์และโนริก็เดินห่างออกไป ออกไปเรื่อย ๆ... เมื่อเห็นเช่นนั้น จูโน่ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ถึงกระนั้นเธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เธอรู้สึกประทับใจเล็กน้อย เจอรัลด์มีมิตรสหายที่ดีและภักดีอย่างแท้จริง... หลังจากตามหาเจอรัลด์มาสักระยะหนึ่ง ในที่สุดเรย์และโนริก็มาถึงหน้าผาที่เจอรัลด์กระโดดลงไป… และที่น่าตกใจก็คือ การที่พวกเขามองเห็นจี้หยกของเจอรัลด์วางอยู่บนใกล้ ๆ ก้อนหิน…! ขณะที่หัวใจของเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ โนริก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบแก้มในที่สุด... “…ไม่… มัน… มันเป็นไปไม่ได้…!” โนริพึมพำกับตัวเองขณะที่เธอรีบหยิบจี้หยกขึ้นมา ก่อนจะจ้องมองไปยังหุบเหวอยู่เบื้องล่างด้วยความไม่เชื่อ... แต่เพราะว่าจี้หยกนี่อยู่ใกล้กับหน้าผามาก ดังนั้นเจอรัลด์…
“แล้ว… ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน…?” เจอรัลด์ถาม เมื่อเขารู้ว่าพวกเขาอยู่ในสถานที่ที่ดูคล้ายถ้ำ แม้ว่าชายชราจะดูโทรมและสกปรก แต่ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ชายชราก็ตอบด้วยเสียงแหบห้าว “…ฉันเป็นแค่คนที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษบนภูเขาลูกนี้” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะมีคนมาอาศัยในสถานที่เช่นนี้ได้! “…ผมขอทราบชื่อของคุณได้หรือเปล่า…?” “เรียกฉันว่าผู้เฒ่าฮิวจ์ก็ได้…” ชายคนนั้นตอบ หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็พาเจอรัลด์ออกจากถ้ำที่พวกเขาอยู่... เมื่อมองดูท้องฟ้า เจอรัลด์ก็ได้พบกับพระจันทร์เสี้ยวอันแสนสงบ... แม้ว่าเวลาค่ำคืนจะทำให้เขารู้สึกสงบ แต่เมื่อตระหนักว่าพวกเขากำลังมุ่งตรงเข้าไปในป่าทึบ เจอรัลด์ก็เอ่ยถามขึ้น “…ช่วยบอกผมหน่อยได้รึเปล่าว่าเราจะไปไหนกัน ผู้เฒ่าฮิวจ์…?” ด้วยใบไม้ที่หนาทึบ พวกเขาถูกความมืดมิดปกคลุมอยู่ในนั้น และการอยู่ในป่าที่ไม่มีแสงสว่างในตอนกลางคืนก็ถือเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเขาพยายามจะมองชายชราให้ออก ผู้เฒ่าฮิวจ์คนนี้ก็ยิ่งลึกลับมากขึ้นสำหรับเจอรัลด์ ไม่ว่าอย่างไร ผู้เฒ่าฮิว
“นี่มันอะไรกัน…?” เจอรัลด์ถามอย่างสงสัย “…ก่อนอื่น สถานที่นี้เรียกว่าถ้ำฟิชกัท และสิ่งที่ถูกผนึกไว้ภายในเสาหินนี้เป็นดาบยาวโบราณที่รู้จักกันในชื่อ ดาบฟิชกัท” ผู้เฒ่าฮิวจ์อธิบาย ขณะที่เขามองไปที่เจอรัลด์ “…ดาบฟิชกัท?” เจอรัลด์ถามด้วยความงุนงงที่ได้ยินชื่อแปลก ๆ ของดาบยาว หลังจากนั้น ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็หยิบกระดาษม้วนขึ้นมาจากใต้เสื้อคลุมของเขา ขณะเปิดมันออกต่อหน้าเจอรัลด์ ภาพแรกที่เด็กหนุ่มเห็นคือชายหนุ่มรูปหล่อ แข็งแกร่ง รวมไปถึงชายชราที่ยืนอยู่ด้วยกันในสถานที่ที่ดูคล้ายกับที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบันอย่างน่าทึ่ง… เรียกได้ว่ามันเป็นภาพวาดของทั้งสองคนที่กำลังอยู่ในถ้ำฟิชกัท! “…นั่น… พวกเราเหรอ?” เจอรัลด์ถามด้วยความสับสนเต็มที่ในขณะนี้ ผู้เฒ่าฮิวจ์เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างช้า ๆ จากนั้นจึงตอบว่า “บิงโก มันแสดงให้เห็นว่าเราทั้งคู่ยืนอยู่ ณ จุดนี้แน่นอน... รู้ไหม ตอนที่ฉันเจอกระดาษแผ่นนี้ที่นี่ครั้งแรก และเห็นเนื้อหาภายใน ฉันจะรู้ได้ทันทีว่าฉันถูกลิขิตให้พาใครบางคนมาที่นี่… และในที่สุดนายก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว!” แน่นอนว่าเจอรัลด์ต้องประหลาดใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่เมื่อพิจารณาว่าผู้เ
ใช้เวลาไม่นานสายน้ำไหลก็มาพันรอบมือของเจอรัลด์ ด้วยสายน้ำอันโปร่งแสง เจอรัลด์จึงมองเห็นโครงร่างที่คลุมเครือของมือตัวเองในตอนนี้... ทั้งคู่ก็ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงระเบิดที่บริเวณด้านหลังของพวกเขา โดยปราศจากการเตือนล่วงหน้า! หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้เห็นดาบฟิชกัทที่พุ่งออกมาจากเสาพอดี! ตอนนั้นเองที่เจอรัลด์ตระหนักได้ว่ากระแสน้ำไหลกลับไปยังจุดเดิมแล้ว... อย่างไรก็ตาม ความคิดของเขาต้องหยุดชะงักลง เมื่อเขาได้ยินผู้เฒ่าฮิวจ์ร้องตะโกนว่า "ไปเอาดาบมา เจอรัลด์!" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็หันไปมองชายชราก่อนจะเดินไปหยิบดาบขึ้นมา… วินาทีที่เขาคว้ามันไว้ พลังอันมหาศาลก็พุ่งออกมาจากดาบ ก่อนจะทะลักไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา ขณะที่พลังอันมหาศาลเริ่มแพร่กระจายจากฝ่ามือของเขาไปทั่วร่างกาย เจอรัลด์สัมผัสได้ถึงความอึดอัดอันแปลกประหลาดที่คุ้นเคยในน้ำอมฤตแห่งชีวิตของเขา... ด้วยพลังมากมายที่ล้นอยู่ในน้ำอมฤตแห่งชีวิต เจอรัลด์ก็รู้ได้เลยว่าเขากำลังจะก้าวข้ามไปอีกระดับแล้ว! “ผม… ผมรู้สึกได้ถึงระดับพลังที่สูงขึ้นอีกระดับแล้ว” เจอรัลด์อุทานด้วยความประหลาดใจปนยินดี ดูเหมือนว่าดาบฟิชกัทนั้นทรงพลังพ
“พูดถึงเรื่องนั้น… คุณรู้จักชื่อของดาบศักดิ์สิทธิ์โบราณอีกเก้าเล่มหรือไม่? คุณรู้ไหมว่าพวกมันอยู่ที่ไหน? ผมอยากได้ดาบพวกนั้น!” เจอรัลด์กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าสนใจดาบ นั่นก็เพราะว่าตอนนี้เขามีหนึ่งในนั้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่อยากได้อีกเก้าเล่มที่เหลือ "หืม? ถ้านายสนใจฉันจะบอกให้ก็ได้ ดาบเล่มแรกเรียกกันว่าเซียน เป็นดาบแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเล่มที่สองและสาม ก็เรียกว่าเซียน เป็นดาบแห่งความกรุณา และเซนิธ ดาบแห่งอธิปไตย… ดาบเล่มที่สี่คือเอ็มไพเรียน ฉันเชื่อว่ามันคือดาบแห่งพลัง ในทางกลับกัน ดาบแห่งอำนาจคือไททัน ซึ่งเป็นดาบเล่มที่ห้า” “สำหรับดาบเล่มที่หกและเจ็ด ทั้งคู่คือดาบแห่งความรัก มีชื่อเรียกว่ากเวน และมอร์เกน ดาบเล่มที่แปดคือดาบที่คุณกำลังถืออยู่ ฟิชกัท ดาบแห่งความกล้าหาญ และถ้าฉันจำไม่ผิด ดาบเล่มที่เก้ามีชื่อเรียกว่าโจเชม ดาบแห่งความโดดเดี่ยว และดาบเล่มสุดท้ายนั้นมีชื่อว่าชาร์เมลลา ดาบแห่งความสง่างาม!” “ดาบแต่ละเล่มมีพลังพิเศษ และใครก็ตามที่สามารถรวบรวมดาบทั้งสิบเล่มได้จะมีพลังมากเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะเข้าถึง! นั่นก็หมายความว่า ผู้ใช้ดาบเหล่านั้นจะกลายเป็นผู้ที