“พูดถึงเรื่องนั้น… คุณรู้จักชื่อของดาบศักดิ์สิทธิ์โบราณอีกเก้าเล่มหรือไม่? คุณรู้ไหมว่าพวกมันอยู่ที่ไหน? ผมอยากได้ดาบพวกนั้น!” เจอรัลด์กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าสนใจดาบ นั่นก็เพราะว่าตอนนี้เขามีหนึ่งในนั้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่อยากได้อีกเก้าเล่มที่เหลือ "หืม? ถ้านายสนใจฉันจะบอกให้ก็ได้ ดาบเล่มแรกเรียกกันว่าเซียน เป็นดาบแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเล่มที่สองและสาม ก็เรียกว่าเซียน เป็นดาบแห่งความกรุณา และเซนิธ ดาบแห่งอธิปไตย… ดาบเล่มที่สี่คือเอ็มไพเรียน ฉันเชื่อว่ามันคือดาบแห่งพลัง ในทางกลับกัน ดาบแห่งอำนาจคือไททัน ซึ่งเป็นดาบเล่มที่ห้า” “สำหรับดาบเล่มที่หกและเจ็ด ทั้งคู่คือดาบแห่งความรัก มีชื่อเรียกว่ากเวน และมอร์เกน ดาบเล่มที่แปดคือดาบที่คุณกำลังถืออยู่ ฟิชกัท ดาบแห่งความกล้าหาญ และถ้าฉันจำไม่ผิด ดาบเล่มที่เก้ามีชื่อเรียกว่าโจเชม ดาบแห่งความโดดเดี่ยว และดาบเล่มสุดท้ายนั้นมีชื่อว่าชาร์เมลลา ดาบแห่งความสง่างาม!” “ดาบแต่ละเล่มมีพลังพิเศษ และใครก็ตามที่สามารถรวบรวมดาบทั้งสิบเล่มได้จะมีพลังมากเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะเข้าถึง! นั่นก็หมายความว่า ผู้ใช้ดาบเหล่านั้นจะกลายเป็นผู้ที
“…คุณซอร์น? นั่นคุณเหรอ?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขาหันหน้าไปทางต้นไม้ “…เจอรัลด์? นั่นคุณจริง ๆ ด้วย!” จูโน่อุทานด้วยความตื่นเต้นมขณะที่เธอรีบก้าวออกจากต้นไม้พร้อมกับลูกน้องของเธอ “ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ คุณซอร์น” เจอรัลด์ถามด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เขามองดูเธอ “ลมอะไรหอบพวกเรามาน่ะเหรอ? คุณหายไปสองวันแล้ว! แต่ฉันรู้ว่าคุณต้องยังไม่ตายแน่! ฉันดีใจที่ในที่สุดฉันก็สามารถหาคุณเจอได้! ว่าแต่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อได้ยินคำถามของจูโน่ เจอรัลด์ก็หันไปมองผู้เฒ่าฮิวจ์ชั่วครู่ ก่อนจะตอบอย่างเชื่องช้าว่า "...เรื่องนั้น... กลับไปค่อยคุยกัน จะว่าไปคนอื่นเป็นยังไงบ้าง?” “ไม่ต้องห่วง พวกเขาทั้งหมดสบายดี ตอนนี้พวกเขากำลังพักอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลซอร์น!” จูโน่ตอบด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เจอรัลด์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แล้วนี่… เขาเป็นใครกัน…?” จูโน่เอ่ยถาม ขณะที่เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย เมื่อมองไปที่ผู้เฒ่าฮิวจ์ เมื่อมองไปที่ชายชราครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็หันกลับมามองจูโน่แล้วตอบว่า "นี่คือผู้เฒ่าฮิวจ์ และเขาคือคนที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้!" "…งั้นเหรอ? เข้าใจแล้ว! ถ้าอย่างนั้นยินดีที่ได้พบท่าน ผู้เฒ่าฮิว
“ฮึ! แน่สิ! ถึงอย่างนั้นต้องยอมรับเลยว่าคุณก็มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจริง ๆ นายท่านฮิวจ์… ทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณทำนายไว้จริง ๆ!” “เฮอะ! ไทเกอร์ทรยศฉันก่อน ถ้างั้นเขาไม่มีสิทธิ์โทษว่าฉันใจร้าย! ฉันจะเข้ายึดสหภาพฮัลเกอโรอิกอย่างแน่นอน เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง!” ผู้เฒ่าฮิวจ์เย้ยหยัน ขณะที่เขายิ้มอย่างพอใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "แน่นอน! ว่าแต่ แล้วเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ล่ะ? คุณต้องการให้ผมจัดการพวกนั้นให้สิ้นซากด้วยไหม?” ร่างเงาเอ่ยถาม ผู้เฒ่าฮิวจ์ยกฝ่ามือขึ้นแล้วพูดว่า "ปล่อยพวกเขาไปเพราะว่าเจอรัลด์และพรรคพวกของเขายังมีประโยชน์สำหรับเรา อีกอย่างตอนนี้ดาบฟิชกัทอยู่ในมือของเขาแล้ว อย่างน้อยเราก็ควรรอให้เขาฆ่าไทเกอร์แทนเราก่อนสิ” “รับทราบครับ นายท่านฮิวจ์!” ร่างเงาตอบรับด้วยการพยักหน้าด้วยความเคารพ... เจอรัลด์ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าร่างเงาและผู้เฒ่าฮิวจ์อยู่ฝ่ายเดียวกัน... ในที่สุด ทั้งเจอรัลด์และจูโน่ก็มาถึงบ้านพักของตระกูลซอร์นในไม่ช้า ในตอนนั้นพระอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งที่สูงเหนือหัวไปแล้ว... เมื่อก้าวเข้าไปในบ้านของจูโน่ เจอรัลด์ก็ตะโกนเรียกเพื่อน ๆ ของเขาทันที แม้ว่าทั้งส
ในขณะเดียวกัน ก็สามารถมองเห็นว่าผู้เฒ่าฮิวจ์กำลังนำร่างเงาและชายอีกสองสามคนข้ามเทือกเขาที่รายล้อมไปด้วยเปลวเพลิงจากลาวาไปทั่วบริเวณ ไม่เพียงแต่ทำให้ภูเขาทั้งลูกร้อนระอุ แต่ยังน่าหวาดหวั่นอีกด้วย... คนกลุ่มนี้มาเพื่อช่วยให้ร่างเงาได้รับดาบแห่งอำนาจ ซึ่งเป็นอาวุธโบราณเช่นเดียวกับดาบฟิชกัทที่เกิดในยุคเดียวกัน ในขณะที่ดาบเล่มดังกล่าวมีข้อจำกัดว่าใครบ้างที่สามารถใช้ดาบเหล่านั้นได้ หากดาบนั้นถือว่าผู้ใช้คู่ควร ผู้ครอบครองก็จะได้รับพลังของดาบ และดาบแต่ละเล่มก็มีพลังที่แตกต่างกันโดยธรรมชาติ แม้ว่าตอนนี้ดาบฟิชกัทจะอยู่ในมือของเจอรัลด์แล้ว แต่มันก็ถึงเวลาที่ร่างเงาจะต้องได้รับดาบของเขาเอง เมื่อได้รับดาบแห่งอำนาจแน่นอนว่าเขาจะแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าจะอยู่เหนือเมืองเลือดมังกรได้… ไม่นานพวกเขาก็มาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง… และเมื่อเข้าไป ทุกคนก็สามารถเห็นกระแสลาวาที่มีลักษณะคล้ายเส้นเลือดคืบคลานไปทั่วผนังถ้ำได้ หลังจากเดินไปได้สักพัก ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็หันหน้าไปทางร่างเงา ก่อนที่จะมองไปที่เสาหินและพูดว่า "ถ้ำที่เราอยู่นั้นเรียกว่าถ้ำไททัน และดาบแห่งอำนาจก็อยู่ภายในเสาหินตรงหน้าเรา!” พูดตามตรง แผนผังของถ้
สำหรับร่างเงาเนี่ย การเป็นเจ้าของดาบไททันนั้นหมายความว่าเขาเพิ่งได้รับพลังอันมากมายมหาศาล เนื่องจากความสามารถของดาบแห่งอำนาจ ที่จะละลายร่างของใครก็ตามที่ถูกฆ่าได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่ร่างเงาจะสามารถสังหารคนได้ในพริบตาเท่านั้น แม้แต่กระดูกหรือเลือดของเหยื่อเหล่านั้นไม่อาจหลงเหลืออยู่ด้วยซ้ำ! มันเป็นอาวุธที่น่ากลัวจริงๆ… เมื่อเห็นว่าร่างเงานั้นถือดาบได้สำเร็จ ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็เดินไปหาเขาก่อนจะพูดว่า "ในเมื่อตอนนี้นายได้รับดาบแห่งอำนาจแล้ว นายต้องอย่าลืมรักษาสัญญาที่จะให้ฉันดูแลเมืองเลือดมังกรล่ะ หลังจากที่นายพิชิตที่นั่นได้แล้ว” แน่นอนว่าผู้เฒ่าฮิวจ์ไม่ได้นำบุคคลลึกลับเหล่านี้มาที่นี่ด้วยความเมตตาแต่อย่างใด ความจริงก็คือ เขาเพียงทำเช่นนั้นเพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้นำสูงสุดของเมืองเลือดมังกร ในตอนที่ร่างเงาได้รับพลังของดาบ สำหรับสาเหตุที่เขาอนุญาตให้เจอรัลด์ได้รับดาบฟิชกัทไปก่อนนั้น ก็เพื่อที่จะให้พวกเขาสามารถดึงดาบไททันออกมาได้ตั้งแต่แรก กล่าวกันตามตรงก็คือ ดาบฟิชกัททำหน้าที่เป็นผนึกที่ป้องกันไม่ให้ดาบไททันถูกปลดปล่อยออกมาได้ นั่นหมายความว่าดาบไททันจะหลุดออกจากผนึกได้ก็ต่อเมื่อดาบฟิ
คืนนั้น ความโกลาหลเกิดขึ้นภายในเมืองเลือดมังกร สหภาพฮัลเกอโรอิกถูกกวาดล้างลงจนสิ้น และไทเกอร์ซึ่งเป็นผู้นำของสหภาพก็พบกับจุดจบอันน่าสยดสยองแขนขาของเขาถูกเชือดเฉือนออกจากร่างกายจนหมด แน่นอนว่าข่าวดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนในเมือง ไม่เพียงเท่านั้นยังลุกลามถึงกองกำลังหลัก ๆ ทั้งหมดที่นั่นด้วย... เมื่อเวลาเช้ามาถึง เจอรัลด์และคนอื่น ๆ กำลังพักผ่อนอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลซอร์น แต่ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้รับการสัญญาณเตือน เมื่อมีหลายชีวิตเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นพวกเขาจึงรีบตระเตรียมอาวุธ ก่อนจะได้เห็นร่างเงาดำลงมาจากท้องฟ้า ตามมาด้วยชายชุดดำอีกหลายคน “…พวกเขาทั้งแข็งแกร่งและมีเจตนาร้าย เจอรัลด์ระวังตัวด้วย…!" จูโน่กระซิบ เจอรัลด์เองก็ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะเพียงพยักหน้าตอบ แต่จากที่เขาเห็น เจ้าของร่างเงาปล่อยไอสังหารรุนแรงออกมาไม่น้อย อย่างน้อยเขาก็น่าจะเข้าสู่ระดับที่สามของอาณาจักรอวาตาร์เข้าไปแล้ว… หลังจากชะงักไปชั่วครู่ เจอรัลด์ก็กระแอมก่อนจะถามว่า “…คุณเป็นใคร? มาที่นี่ทำไม?” เจอรัลด์รู้สึกว่าเขาไม่เคยเจอบุคคลนี้มาก่อน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสงสัยว
“อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำสอง! ส่งดาบฟิชกัทมา แล้วฉันจะไว้ชีวิตนาย! ไม่อย่างนั้นพวกนายทุกคนจะได้ลิ้มรสดาบไททัน!” ร่างเงาเริ่มข่มขู่อีก แน่นอนว่าเจอรัลด์ย่อมไม่ยอมมอบมันให้อีกฝ่ายโดยง่าย อย่างไรเสียดาบฟิชกัทก็เป็นหนึ่งในสิบดาบศักดิ์สิทธิ์โบราณ ไม่ง่ายเลยที่เขาจะได้รับมันมา เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ กล่าวกันตามตรง เจอรัลด์ยังรู้สึกว่าร่างเงานั้นไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะเขาได้ ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงนึกสงสัยว่าเขาจะได้รับดาบไททันหรือไม่หลังจากเอาชนะอีกฝ่ายได้แล้ว... เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจอรัลด์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตะโกนขึ้นว่า “ทุกคน หาที่หลบภัยก่อน! ฉันจะจัดการกับเขาเอง!” ไม่ว่าอย่างไร จูโน่และคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของร่างเงา ด้วยเหตุนี้ การที่พวกเขารั้งอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะทำให้พวกเขาถูกฆ่าเท่านั้น แปลว่าพวกเขาเป็นเพียงภาระในสถานการณ์ดังกล่าว พรรคพวกของเจอรัลด์จึงทำได้เพียงแลกเปลี่ยนสายตากัน ก่อนที่จะพยักหน้าและรีบออกไป เมื่อเจอรัลด์แน่ใจว่าพวกเขาจากไปแล้ว เขาก็หันไปเผชิญหน้ากับร่างเงา ก่อนที่จะประกาศออกไปว่า "ผมขอเสนอให้เราดวลกันให้ตายไปข้างหนึ่ง! แค่เราสอง
เมื่อร่างเงานั้นตายไปแล้ว คนของเขาก็มองหน้ากันทันที ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ไป! ในเมื่อผู้เป็นนายของพวกเขาตายไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะอยู่ที่นั่นอีกต่อไป เมื่อตระหนักว่ามีสัญลักษณ์บางอย่างอยู่ในขี้เถ้าของร่างเงานั้น เจอรัลด์จึงหยิบมันขึ้นมาเพื่อดูว่ามีอะไรเขียนไว้บนนั้น... คำว่า 'นิกายวิญญาณ' ได้รับการแกะสลักไว้อย่างประณีตบนป้ายประจำตัว และเจอรัลด์ทำได้เพียงเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนั้น นิกายวิญญาณอาจเป็นองค์กรลึกลับแบบไหน…? ความคิดของเขาหยุดชะงักลง เมื่อจู่ ๆ เขาก็ได้ยินโนริตะโกนออกมาว่า “เจอรัลด์!” เขาหันกลับมาเห็นเหล่าสหายวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจอรัลด์ได้ โนริก็ถามด้วยน้ำเสียงกังวลว่า “มันเป็นยังไงบ้าง เจอรัลด์? ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” เจอรัลด์เพียงยิ้มตอบพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันสบายดี!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น โนริและคนอื่น ๆ ก็โล่งใจทันที สำหรับพวกเขา ตราบใดที่เจอรัลด์ไม่เป็นอะไร ทุกอย่างในโลกนี้ก็ไม่เป็นอะไรไปด้วย... เมื่อสิ่งต่าง ๆ คลี่คลายลง เจอรัลด์ก็หันไปมองดาบไททันที่ลอยอยู่ในอากาศอย่างน่ากลัว... ขณะที่เดินไปหามัน