“แล้ว… ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน…?” เจอรัลด์ถาม เมื่อเขารู้ว่าพวกเขาอยู่ในสถานที่ที่ดูคล้ายถ้ำ แม้ว่าชายชราจะดูโทรมและสกปรก แต่ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ชายชราก็ตอบด้วยเสียงแหบห้าว “…ฉันเป็นแค่คนที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษบนภูเขาลูกนี้” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะมีคนมาอาศัยในสถานที่เช่นนี้ได้! “…ผมขอทราบชื่อของคุณได้หรือเปล่า…?” “เรียกฉันว่าผู้เฒ่าฮิวจ์ก็ได้…” ชายคนนั้นตอบ หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็พาเจอรัลด์ออกจากถ้ำที่พวกเขาอยู่... เมื่อมองดูท้องฟ้า เจอรัลด์ก็ได้พบกับพระจันทร์เสี้ยวอันแสนสงบ... แม้ว่าเวลาค่ำคืนจะทำให้เขารู้สึกสงบ แต่เมื่อตระหนักว่าพวกเขากำลังมุ่งตรงเข้าไปในป่าทึบ เจอรัลด์ก็เอ่ยถามขึ้น “…ช่วยบอกผมหน่อยได้รึเปล่าว่าเราจะไปไหนกัน ผู้เฒ่าฮิวจ์…?” ด้วยใบไม้ที่หนาทึบ พวกเขาถูกความมืดมิดปกคลุมอยู่ในนั้น และการอยู่ในป่าที่ไม่มีแสงสว่างในตอนกลางคืนก็ถือเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเขาพยายามจะมองชายชราให้ออก ผู้เฒ่าฮิวจ์คนนี้ก็ยิ่งลึกลับมากขึ้นสำหรับเจอรัลด์ ไม่ว่าอย่างไร ผู้เฒ่าฮิว
“นี่มันอะไรกัน…?” เจอรัลด์ถามอย่างสงสัย “…ก่อนอื่น สถานที่นี้เรียกว่าถ้ำฟิชกัท และสิ่งที่ถูกผนึกไว้ภายในเสาหินนี้เป็นดาบยาวโบราณที่รู้จักกันในชื่อ ดาบฟิชกัท” ผู้เฒ่าฮิวจ์อธิบาย ขณะที่เขามองไปที่เจอรัลด์ “…ดาบฟิชกัท?” เจอรัลด์ถามด้วยความงุนงงที่ได้ยินชื่อแปลก ๆ ของดาบยาว หลังจากนั้น ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็หยิบกระดาษม้วนขึ้นมาจากใต้เสื้อคลุมของเขา ขณะเปิดมันออกต่อหน้าเจอรัลด์ ภาพแรกที่เด็กหนุ่มเห็นคือชายหนุ่มรูปหล่อ แข็งแกร่ง รวมไปถึงชายชราที่ยืนอยู่ด้วยกันในสถานที่ที่ดูคล้ายกับที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบันอย่างน่าทึ่ง… เรียกได้ว่ามันเป็นภาพวาดของทั้งสองคนที่กำลังอยู่ในถ้ำฟิชกัท! “…นั่น… พวกเราเหรอ?” เจอรัลด์ถามด้วยความสับสนเต็มที่ในขณะนี้ ผู้เฒ่าฮิวจ์เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างช้า ๆ จากนั้นจึงตอบว่า “บิงโก มันแสดงให้เห็นว่าเราทั้งคู่ยืนอยู่ ณ จุดนี้แน่นอน... รู้ไหม ตอนที่ฉันเจอกระดาษแผ่นนี้ที่นี่ครั้งแรก และเห็นเนื้อหาภายใน ฉันจะรู้ได้ทันทีว่าฉันถูกลิขิตให้พาใครบางคนมาที่นี่… และในที่สุดนายก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว!” แน่นอนว่าเจอรัลด์ต้องประหลาดใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่เมื่อพิจารณาว่าผู้เ
ใช้เวลาไม่นานสายน้ำไหลก็มาพันรอบมือของเจอรัลด์ ด้วยสายน้ำอันโปร่งแสง เจอรัลด์จึงมองเห็นโครงร่างที่คลุมเครือของมือตัวเองในตอนนี้... ทั้งคู่ก็ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงระเบิดที่บริเวณด้านหลังของพวกเขา โดยปราศจากการเตือนล่วงหน้า! หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้เห็นดาบฟิชกัทที่พุ่งออกมาจากเสาพอดี! ตอนนั้นเองที่เจอรัลด์ตระหนักได้ว่ากระแสน้ำไหลกลับไปยังจุดเดิมแล้ว... อย่างไรก็ตาม ความคิดของเขาต้องหยุดชะงักลง เมื่อเขาได้ยินผู้เฒ่าฮิวจ์ร้องตะโกนว่า "ไปเอาดาบมา เจอรัลด์!" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็หันไปมองชายชราก่อนจะเดินไปหยิบดาบขึ้นมา… วินาทีที่เขาคว้ามันไว้ พลังอันมหาศาลก็พุ่งออกมาจากดาบ ก่อนจะทะลักไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา ขณะที่พลังอันมหาศาลเริ่มแพร่กระจายจากฝ่ามือของเขาไปทั่วร่างกาย เจอรัลด์สัมผัสได้ถึงความอึดอัดอันแปลกประหลาดที่คุ้นเคยในน้ำอมฤตแห่งชีวิตของเขา... ด้วยพลังมากมายที่ล้นอยู่ในน้ำอมฤตแห่งชีวิต เจอรัลด์ก็รู้ได้เลยว่าเขากำลังจะก้าวข้ามไปอีกระดับแล้ว! “ผม… ผมรู้สึกได้ถึงระดับพลังที่สูงขึ้นอีกระดับแล้ว” เจอรัลด์อุทานด้วยความประหลาดใจปนยินดี ดูเหมือนว่าดาบฟิชกัทนั้นทรงพลังพ
“พูดถึงเรื่องนั้น… คุณรู้จักชื่อของดาบศักดิ์สิทธิ์โบราณอีกเก้าเล่มหรือไม่? คุณรู้ไหมว่าพวกมันอยู่ที่ไหน? ผมอยากได้ดาบพวกนั้น!” เจอรัลด์กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าสนใจดาบ นั่นก็เพราะว่าตอนนี้เขามีหนึ่งในนั้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่อยากได้อีกเก้าเล่มที่เหลือ "หืม? ถ้านายสนใจฉันจะบอกให้ก็ได้ ดาบเล่มแรกเรียกกันว่าเซียน เป็นดาบแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเล่มที่สองและสาม ก็เรียกว่าเซียน เป็นดาบแห่งความกรุณา และเซนิธ ดาบแห่งอธิปไตย… ดาบเล่มที่สี่คือเอ็มไพเรียน ฉันเชื่อว่ามันคือดาบแห่งพลัง ในทางกลับกัน ดาบแห่งอำนาจคือไททัน ซึ่งเป็นดาบเล่มที่ห้า” “สำหรับดาบเล่มที่หกและเจ็ด ทั้งคู่คือดาบแห่งความรัก มีชื่อเรียกว่ากเวน และมอร์เกน ดาบเล่มที่แปดคือดาบที่คุณกำลังถืออยู่ ฟิชกัท ดาบแห่งความกล้าหาญ และถ้าฉันจำไม่ผิด ดาบเล่มที่เก้ามีชื่อเรียกว่าโจเชม ดาบแห่งความโดดเดี่ยว และดาบเล่มสุดท้ายนั้นมีชื่อว่าชาร์เมลลา ดาบแห่งความสง่างาม!” “ดาบแต่ละเล่มมีพลังพิเศษ และใครก็ตามที่สามารถรวบรวมดาบทั้งสิบเล่มได้จะมีพลังมากเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะเข้าถึง! นั่นก็หมายความว่า ผู้ใช้ดาบเหล่านั้นจะกลายเป็นผู้ที
“…คุณซอร์น? นั่นคุณเหรอ?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขาหันหน้าไปทางต้นไม้ “…เจอรัลด์? นั่นคุณจริง ๆ ด้วย!” จูโน่อุทานด้วยความตื่นเต้นมขณะที่เธอรีบก้าวออกจากต้นไม้พร้อมกับลูกน้องของเธอ “ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ คุณซอร์น” เจอรัลด์ถามด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เขามองดูเธอ “ลมอะไรหอบพวกเรามาน่ะเหรอ? คุณหายไปสองวันแล้ว! แต่ฉันรู้ว่าคุณต้องยังไม่ตายแน่! ฉันดีใจที่ในที่สุดฉันก็สามารถหาคุณเจอได้! ว่าแต่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อได้ยินคำถามของจูโน่ เจอรัลด์ก็หันไปมองผู้เฒ่าฮิวจ์ชั่วครู่ ก่อนจะตอบอย่างเชื่องช้าว่า "...เรื่องนั้น... กลับไปค่อยคุยกัน จะว่าไปคนอื่นเป็นยังไงบ้าง?” “ไม่ต้องห่วง พวกเขาทั้งหมดสบายดี ตอนนี้พวกเขากำลังพักอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลซอร์น!” จูโน่ตอบด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เจอรัลด์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แล้วนี่… เขาเป็นใครกัน…?” จูโน่เอ่ยถาม ขณะที่เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย เมื่อมองไปที่ผู้เฒ่าฮิวจ์ เมื่อมองไปที่ชายชราครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็หันกลับมามองจูโน่แล้วตอบว่า "นี่คือผู้เฒ่าฮิวจ์ และเขาคือคนที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้!" "…งั้นเหรอ? เข้าใจแล้ว! ถ้าอย่างนั้นยินดีที่ได้พบท่าน ผู้เฒ่าฮิว
“ฮึ! แน่สิ! ถึงอย่างนั้นต้องยอมรับเลยว่าคุณก็มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจริง ๆ นายท่านฮิวจ์… ทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณทำนายไว้จริง ๆ!” “เฮอะ! ไทเกอร์ทรยศฉันก่อน ถ้างั้นเขาไม่มีสิทธิ์โทษว่าฉันใจร้าย! ฉันจะเข้ายึดสหภาพฮัลเกอโรอิกอย่างแน่นอน เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง!” ผู้เฒ่าฮิวจ์เย้ยหยัน ขณะที่เขายิ้มอย่างพอใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "แน่นอน! ว่าแต่ แล้วเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ล่ะ? คุณต้องการให้ผมจัดการพวกนั้นให้สิ้นซากด้วยไหม?” ร่างเงาเอ่ยถาม ผู้เฒ่าฮิวจ์ยกฝ่ามือขึ้นแล้วพูดว่า "ปล่อยพวกเขาไปเพราะว่าเจอรัลด์และพรรคพวกของเขายังมีประโยชน์สำหรับเรา อีกอย่างตอนนี้ดาบฟิชกัทอยู่ในมือของเขาแล้ว อย่างน้อยเราก็ควรรอให้เขาฆ่าไทเกอร์แทนเราก่อนสิ” “รับทราบครับ นายท่านฮิวจ์!” ร่างเงาตอบรับด้วยการพยักหน้าด้วยความเคารพ... เจอรัลด์ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าร่างเงาและผู้เฒ่าฮิวจ์อยู่ฝ่ายเดียวกัน... ในที่สุด ทั้งเจอรัลด์และจูโน่ก็มาถึงบ้านพักของตระกูลซอร์นในไม่ช้า ในตอนนั้นพระอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งที่สูงเหนือหัวไปแล้ว... เมื่อก้าวเข้าไปในบ้านของจูโน่ เจอรัลด์ก็ตะโกนเรียกเพื่อน ๆ ของเขาทันที แม้ว่าทั้งส
ในขณะเดียวกัน ก็สามารถมองเห็นว่าผู้เฒ่าฮิวจ์กำลังนำร่างเงาและชายอีกสองสามคนข้ามเทือกเขาที่รายล้อมไปด้วยเปลวเพลิงจากลาวาไปทั่วบริเวณ ไม่เพียงแต่ทำให้ภูเขาทั้งลูกร้อนระอุ แต่ยังน่าหวาดหวั่นอีกด้วย... คนกลุ่มนี้มาเพื่อช่วยให้ร่างเงาได้รับดาบแห่งอำนาจ ซึ่งเป็นอาวุธโบราณเช่นเดียวกับดาบฟิชกัทที่เกิดในยุคเดียวกัน ในขณะที่ดาบเล่มดังกล่าวมีข้อจำกัดว่าใครบ้างที่สามารถใช้ดาบเหล่านั้นได้ หากดาบนั้นถือว่าผู้ใช้คู่ควร ผู้ครอบครองก็จะได้รับพลังของดาบ และดาบแต่ละเล่มก็มีพลังที่แตกต่างกันโดยธรรมชาติ แม้ว่าตอนนี้ดาบฟิชกัทจะอยู่ในมือของเจอรัลด์แล้ว แต่มันก็ถึงเวลาที่ร่างเงาจะต้องได้รับดาบของเขาเอง เมื่อได้รับดาบแห่งอำนาจแน่นอนว่าเขาจะแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าจะอยู่เหนือเมืองเลือดมังกรได้… ไม่นานพวกเขาก็มาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง… และเมื่อเข้าไป ทุกคนก็สามารถเห็นกระแสลาวาที่มีลักษณะคล้ายเส้นเลือดคืบคลานไปทั่วผนังถ้ำได้ หลังจากเดินไปได้สักพัก ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็หันหน้าไปทางร่างเงา ก่อนที่จะมองไปที่เสาหินและพูดว่า "ถ้ำที่เราอยู่นั้นเรียกว่าถ้ำไททัน และดาบแห่งอำนาจก็อยู่ภายในเสาหินตรงหน้าเรา!” พูดตามตรง แผนผังของถ้
สำหรับร่างเงาเนี่ย การเป็นเจ้าของดาบไททันนั้นหมายความว่าเขาเพิ่งได้รับพลังอันมากมายมหาศาล เนื่องจากความสามารถของดาบแห่งอำนาจ ที่จะละลายร่างของใครก็ตามที่ถูกฆ่าได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่ร่างเงาจะสามารถสังหารคนได้ในพริบตาเท่านั้น แม้แต่กระดูกหรือเลือดของเหยื่อเหล่านั้นไม่อาจหลงเหลืออยู่ด้วยซ้ำ! มันเป็นอาวุธที่น่ากลัวจริงๆ… เมื่อเห็นว่าร่างเงานั้นถือดาบได้สำเร็จ ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็เดินไปหาเขาก่อนจะพูดว่า "ในเมื่อตอนนี้นายได้รับดาบแห่งอำนาจแล้ว นายต้องอย่าลืมรักษาสัญญาที่จะให้ฉันดูแลเมืองเลือดมังกรล่ะ หลังจากที่นายพิชิตที่นั่นได้แล้ว” แน่นอนว่าผู้เฒ่าฮิวจ์ไม่ได้นำบุคคลลึกลับเหล่านี้มาที่นี่ด้วยความเมตตาแต่อย่างใด ความจริงก็คือ เขาเพียงทำเช่นนั้นเพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้นำสูงสุดของเมืองเลือดมังกร ในตอนที่ร่างเงาได้รับพลังของดาบ สำหรับสาเหตุที่เขาอนุญาตให้เจอรัลด์ได้รับดาบฟิชกัทไปก่อนนั้น ก็เพื่อที่จะให้พวกเขาสามารถดึงดาบไททันออกมาได้ตั้งแต่แรก กล่าวกันตามตรงก็คือ ดาบฟิชกัททำหน้าที่เป็นผนึกที่ป้องกันไม่ให้ดาบไททันถูกปลดปล่อยออกมาได้ นั่นหมายความว่าดาบไททันจะหลุดออกจากผนึกได้ก็ต่อเมื่อดาบฟิ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ