“แล้ว… ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน…?” เจอรัลด์ถาม เมื่อเขารู้ว่าพวกเขาอยู่ในสถานที่ที่ดูคล้ายถ้ำ แม้ว่าชายชราจะดูโทรมและสกปรก แต่ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ชายชราก็ตอบด้วยเสียงแหบห้าว “…ฉันเป็นแค่คนที่อาศัยอยู่อย่างสันโดษบนภูเขาลูกนี้” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะมีคนมาอาศัยในสถานที่เช่นนี้ได้! “…ผมขอทราบชื่อของคุณได้หรือเปล่า…?” “เรียกฉันว่าผู้เฒ่าฮิวจ์ก็ได้…” ชายคนนั้นตอบ หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็พาเจอรัลด์ออกจากถ้ำที่พวกเขาอยู่... เมื่อมองดูท้องฟ้า เจอรัลด์ก็ได้พบกับพระจันทร์เสี้ยวอันแสนสงบ... แม้ว่าเวลาค่ำคืนจะทำให้เขารู้สึกสงบ แต่เมื่อตระหนักว่าพวกเขากำลังมุ่งตรงเข้าไปในป่าทึบ เจอรัลด์ก็เอ่ยถามขึ้น “…ช่วยบอกผมหน่อยได้รึเปล่าว่าเราจะไปไหนกัน ผู้เฒ่าฮิวจ์…?” ด้วยใบไม้ที่หนาทึบ พวกเขาถูกความมืดมิดปกคลุมอยู่ในนั้น และการอยู่ในป่าที่ไม่มีแสงสว่างในตอนกลางคืนก็ถือเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเขาพยายามจะมองชายชราให้ออก ผู้เฒ่าฮิวจ์คนนี้ก็ยิ่งลึกลับมากขึ้นสำหรับเจอรัลด์ ไม่ว่าอย่างไร ผู้เฒ่าฮิว
“นี่มันอะไรกัน…?” เจอรัลด์ถามอย่างสงสัย “…ก่อนอื่น สถานที่นี้เรียกว่าถ้ำฟิชกัท และสิ่งที่ถูกผนึกไว้ภายในเสาหินนี้เป็นดาบยาวโบราณที่รู้จักกันในชื่อ ดาบฟิชกัท” ผู้เฒ่าฮิวจ์อธิบาย ขณะที่เขามองไปที่เจอรัลด์ “…ดาบฟิชกัท?” เจอรัลด์ถามด้วยความงุนงงที่ได้ยินชื่อแปลก ๆ ของดาบยาว หลังจากนั้น ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็หยิบกระดาษม้วนขึ้นมาจากใต้เสื้อคลุมของเขา ขณะเปิดมันออกต่อหน้าเจอรัลด์ ภาพแรกที่เด็กหนุ่มเห็นคือชายหนุ่มรูปหล่อ แข็งแกร่ง รวมไปถึงชายชราที่ยืนอยู่ด้วยกันในสถานที่ที่ดูคล้ายกับที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบันอย่างน่าทึ่ง… เรียกได้ว่ามันเป็นภาพวาดของทั้งสองคนที่กำลังอยู่ในถ้ำฟิชกัท! “…นั่น… พวกเราเหรอ?” เจอรัลด์ถามด้วยความสับสนเต็มที่ในขณะนี้ ผู้เฒ่าฮิวจ์เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างช้า ๆ จากนั้นจึงตอบว่า “บิงโก มันแสดงให้เห็นว่าเราทั้งคู่ยืนอยู่ ณ จุดนี้แน่นอน... รู้ไหม ตอนที่ฉันเจอกระดาษแผ่นนี้ที่นี่ครั้งแรก และเห็นเนื้อหาภายใน ฉันจะรู้ได้ทันทีว่าฉันถูกลิขิตให้พาใครบางคนมาที่นี่… และในที่สุดนายก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว!” แน่นอนว่าเจอรัลด์ต้องประหลาดใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่เมื่อพิจารณาว่าผู้เ
ใช้เวลาไม่นานสายน้ำไหลก็มาพันรอบมือของเจอรัลด์ ด้วยสายน้ำอันโปร่งแสง เจอรัลด์จึงมองเห็นโครงร่างที่คลุมเครือของมือตัวเองในตอนนี้... ทั้งคู่ก็ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงระเบิดที่บริเวณด้านหลังของพวกเขา โดยปราศจากการเตือนล่วงหน้า! หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้เห็นดาบฟิชกัทที่พุ่งออกมาจากเสาพอดี! ตอนนั้นเองที่เจอรัลด์ตระหนักได้ว่ากระแสน้ำไหลกลับไปยังจุดเดิมแล้ว... อย่างไรก็ตาม ความคิดของเขาต้องหยุดชะงักลง เมื่อเขาได้ยินผู้เฒ่าฮิวจ์ร้องตะโกนว่า "ไปเอาดาบมา เจอรัลด์!" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็หันไปมองชายชราก่อนจะเดินไปหยิบดาบขึ้นมา… วินาทีที่เขาคว้ามันไว้ พลังอันมหาศาลก็พุ่งออกมาจากดาบ ก่อนจะทะลักไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา ขณะที่พลังอันมหาศาลเริ่มแพร่กระจายจากฝ่ามือของเขาไปทั่วร่างกาย เจอรัลด์สัมผัสได้ถึงความอึดอัดอันแปลกประหลาดที่คุ้นเคยในน้ำอมฤตแห่งชีวิตของเขา... ด้วยพลังมากมายที่ล้นอยู่ในน้ำอมฤตแห่งชีวิต เจอรัลด์ก็รู้ได้เลยว่าเขากำลังจะก้าวข้ามไปอีกระดับแล้ว! “ผม… ผมรู้สึกได้ถึงระดับพลังที่สูงขึ้นอีกระดับแล้ว” เจอรัลด์อุทานด้วยความประหลาดใจปนยินดี ดูเหมือนว่าดาบฟิชกัทนั้นทรงพลังพ
“พูดถึงเรื่องนั้น… คุณรู้จักชื่อของดาบศักดิ์สิทธิ์โบราณอีกเก้าเล่มหรือไม่? คุณรู้ไหมว่าพวกมันอยู่ที่ไหน? ผมอยากได้ดาบพวกนั้น!” เจอรัลด์กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าสนใจดาบ นั่นก็เพราะว่าตอนนี้เขามีหนึ่งในนั้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่อยากได้อีกเก้าเล่มที่เหลือ "หืม? ถ้านายสนใจฉันจะบอกให้ก็ได้ ดาบเล่มแรกเรียกกันว่าเซียน เป็นดาบแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเล่มที่สองและสาม ก็เรียกว่าเซียน เป็นดาบแห่งความกรุณา และเซนิธ ดาบแห่งอธิปไตย… ดาบเล่มที่สี่คือเอ็มไพเรียน ฉันเชื่อว่ามันคือดาบแห่งพลัง ในทางกลับกัน ดาบแห่งอำนาจคือไททัน ซึ่งเป็นดาบเล่มที่ห้า” “สำหรับดาบเล่มที่หกและเจ็ด ทั้งคู่คือดาบแห่งความรัก มีชื่อเรียกว่ากเวน และมอร์เกน ดาบเล่มที่แปดคือดาบที่คุณกำลังถืออยู่ ฟิชกัท ดาบแห่งความกล้าหาญ และถ้าฉันจำไม่ผิด ดาบเล่มที่เก้ามีชื่อเรียกว่าโจเชม ดาบแห่งความโดดเดี่ยว และดาบเล่มสุดท้ายนั้นมีชื่อว่าชาร์เมลลา ดาบแห่งความสง่างาม!” “ดาบแต่ละเล่มมีพลังพิเศษ และใครก็ตามที่สามารถรวบรวมดาบทั้งสิบเล่มได้จะมีพลังมากเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะเข้าถึง! นั่นก็หมายความว่า ผู้ใช้ดาบเหล่านั้นจะกลายเป็นผู้ที
“…คุณซอร์น? นั่นคุณเหรอ?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขาหันหน้าไปทางต้นไม้ “…เจอรัลด์? นั่นคุณจริง ๆ ด้วย!” จูโน่อุทานด้วยความตื่นเต้นมขณะที่เธอรีบก้าวออกจากต้นไม้พร้อมกับลูกน้องของเธอ “ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ คุณซอร์น” เจอรัลด์ถามด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เขามองดูเธอ “ลมอะไรหอบพวกเรามาน่ะเหรอ? คุณหายไปสองวันแล้ว! แต่ฉันรู้ว่าคุณต้องยังไม่ตายแน่! ฉันดีใจที่ในที่สุดฉันก็สามารถหาคุณเจอได้! ว่าแต่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อได้ยินคำถามของจูโน่ เจอรัลด์ก็หันไปมองผู้เฒ่าฮิวจ์ชั่วครู่ ก่อนจะตอบอย่างเชื่องช้าว่า "...เรื่องนั้น... กลับไปค่อยคุยกัน จะว่าไปคนอื่นเป็นยังไงบ้าง?” “ไม่ต้องห่วง พวกเขาทั้งหมดสบายดี ตอนนี้พวกเขากำลังพักอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลซอร์น!” จูโน่ตอบด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เจอรัลด์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แล้วนี่… เขาเป็นใครกัน…?” จูโน่เอ่ยถาม ขณะที่เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย เมื่อมองไปที่ผู้เฒ่าฮิวจ์ เมื่อมองไปที่ชายชราครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็หันกลับมามองจูโน่แล้วตอบว่า "นี่คือผู้เฒ่าฮิวจ์ และเขาคือคนที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้!" "…งั้นเหรอ? เข้าใจแล้ว! ถ้าอย่างนั้นยินดีที่ได้พบท่าน ผู้เฒ่าฮิว
“ฮึ! แน่สิ! ถึงอย่างนั้นต้องยอมรับเลยว่าคุณก็มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจริง ๆ นายท่านฮิวจ์… ทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณทำนายไว้จริง ๆ!” “เฮอะ! ไทเกอร์ทรยศฉันก่อน ถ้างั้นเขาไม่มีสิทธิ์โทษว่าฉันใจร้าย! ฉันจะเข้ายึดสหภาพฮัลเกอโรอิกอย่างแน่นอน เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง!” ผู้เฒ่าฮิวจ์เย้ยหยัน ขณะที่เขายิ้มอย่างพอใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "แน่นอน! ว่าแต่ แล้วเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ล่ะ? คุณต้องการให้ผมจัดการพวกนั้นให้สิ้นซากด้วยไหม?” ร่างเงาเอ่ยถาม ผู้เฒ่าฮิวจ์ยกฝ่ามือขึ้นแล้วพูดว่า "ปล่อยพวกเขาไปเพราะว่าเจอรัลด์และพรรคพวกของเขายังมีประโยชน์สำหรับเรา อีกอย่างตอนนี้ดาบฟิชกัทอยู่ในมือของเขาแล้ว อย่างน้อยเราก็ควรรอให้เขาฆ่าไทเกอร์แทนเราก่อนสิ” “รับทราบครับ นายท่านฮิวจ์!” ร่างเงาตอบรับด้วยการพยักหน้าด้วยความเคารพ... เจอรัลด์ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าร่างเงาและผู้เฒ่าฮิวจ์อยู่ฝ่ายเดียวกัน... ในที่สุด ทั้งเจอรัลด์และจูโน่ก็มาถึงบ้านพักของตระกูลซอร์นในไม่ช้า ในตอนนั้นพระอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งที่สูงเหนือหัวไปแล้ว... เมื่อก้าวเข้าไปในบ้านของจูโน่ เจอรัลด์ก็ตะโกนเรียกเพื่อน ๆ ของเขาทันที แม้ว่าทั้งส
ในขณะเดียวกัน ก็สามารถมองเห็นว่าผู้เฒ่าฮิวจ์กำลังนำร่างเงาและชายอีกสองสามคนข้ามเทือกเขาที่รายล้อมไปด้วยเปลวเพลิงจากลาวาไปทั่วบริเวณ ไม่เพียงแต่ทำให้ภูเขาทั้งลูกร้อนระอุ แต่ยังน่าหวาดหวั่นอีกด้วย... คนกลุ่มนี้มาเพื่อช่วยให้ร่างเงาได้รับดาบแห่งอำนาจ ซึ่งเป็นอาวุธโบราณเช่นเดียวกับดาบฟิชกัทที่เกิดในยุคเดียวกัน ในขณะที่ดาบเล่มดังกล่าวมีข้อจำกัดว่าใครบ้างที่สามารถใช้ดาบเหล่านั้นได้ หากดาบนั้นถือว่าผู้ใช้คู่ควร ผู้ครอบครองก็จะได้รับพลังของดาบ และดาบแต่ละเล่มก็มีพลังที่แตกต่างกันโดยธรรมชาติ แม้ว่าตอนนี้ดาบฟิชกัทจะอยู่ในมือของเจอรัลด์แล้ว แต่มันก็ถึงเวลาที่ร่างเงาจะต้องได้รับดาบของเขาเอง เมื่อได้รับดาบแห่งอำนาจแน่นอนว่าเขาจะแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าจะอยู่เหนือเมืองเลือดมังกรได้… ไม่นานพวกเขาก็มาถึงถ้ำแห่งหนึ่ง… และเมื่อเข้าไป ทุกคนก็สามารถเห็นกระแสลาวาที่มีลักษณะคล้ายเส้นเลือดคืบคลานไปทั่วผนังถ้ำได้ หลังจากเดินไปได้สักพัก ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็หันหน้าไปทางร่างเงา ก่อนที่จะมองไปที่เสาหินและพูดว่า "ถ้ำที่เราอยู่นั้นเรียกว่าถ้ำไททัน และดาบแห่งอำนาจก็อยู่ภายในเสาหินตรงหน้าเรา!” พูดตามตรง แผนผังของถ้
สำหรับร่างเงาเนี่ย การเป็นเจ้าของดาบไททันนั้นหมายความว่าเขาเพิ่งได้รับพลังอันมากมายมหาศาล เนื่องจากความสามารถของดาบแห่งอำนาจ ที่จะละลายร่างของใครก็ตามที่ถูกฆ่าได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่ร่างเงาจะสามารถสังหารคนได้ในพริบตาเท่านั้น แม้แต่กระดูกหรือเลือดของเหยื่อเหล่านั้นไม่อาจหลงเหลืออยู่ด้วยซ้ำ! มันเป็นอาวุธที่น่ากลัวจริงๆ… เมื่อเห็นว่าร่างเงานั้นถือดาบได้สำเร็จ ผู้เฒ่าฮิวจ์ก็เดินไปหาเขาก่อนจะพูดว่า "ในเมื่อตอนนี้นายได้รับดาบแห่งอำนาจแล้ว นายต้องอย่าลืมรักษาสัญญาที่จะให้ฉันดูแลเมืองเลือดมังกรล่ะ หลังจากที่นายพิชิตที่นั่นได้แล้ว” แน่นอนว่าผู้เฒ่าฮิวจ์ไม่ได้นำบุคคลลึกลับเหล่านี้มาที่นี่ด้วยความเมตตาแต่อย่างใด ความจริงก็คือ เขาเพียงทำเช่นนั้นเพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้นำสูงสุดของเมืองเลือดมังกร ในตอนที่ร่างเงาได้รับพลังของดาบ สำหรับสาเหตุที่เขาอนุญาตให้เจอรัลด์ได้รับดาบฟิชกัทไปก่อนนั้น ก็เพื่อที่จะให้พวกเขาสามารถดึงดาบไททันออกมาได้ตั้งแต่แรก กล่าวกันตามตรงก็คือ ดาบฟิชกัททำหน้าที่เป็นผนึกที่ป้องกันไม่ให้ดาบไททันถูกปลดปล่อยออกมาได้ นั่นหมายความว่าดาบไททันจะหลุดออกจากผนึกได้ก็ต่อเมื่อดาบฟิ