โจนาสเล็งหมัดไปที่หัวของเจอรัลด์ เขามั่นใจว่ากะโหลกของเจอรัลด์จะต้องแตกทันทีที่โดนหมัดอันทรงพลังของเขา! อย่างไรก็ตาม เขาคงเป็นคนโง่ถ้าคิดว่าเจอรัลด์จะปล่อยให้เขามีโอกาสที่จะทำแบบนั้น ด้วยเหตุนั้น เจอรัลด์จึงก้าวไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย! ถึงกระนั้น ขณะที่หมัดของโจนาสพุ่งผ่านหน้าของเจอรัลด์ไป เจอรัลด์ก็สัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลจากหมัดของเขา... ในฐานะผู้ที่ได้เข้าสู่จิตวิญญาณระดับหนึ่งของอาณาจักรแห่งนักปราชญ์แล้ว โจนัสจึงถือเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย... เป็นเรื่องน่าเสียดายที่คู่ต่อสู้ของเขาคือ เจอรัลด์ เมื่อตระหนักว่าการโจมตีของเขาไม่สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ได้ โจนาสก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดเลยว่าเจอรัลด์จะคล่องแคล่วถึงเพียงนี้! หลังจากที่ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว โจนาสก็หันหลังกลับเพื่อเตะเจอรัลด์อย่างเต็มแรง! อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์สามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้อีกครั้งโดยไม่มีปัญหาใด ๆ เพียงเท่านั้นก็เห็นความแตกต่างในความสามารถของทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ คนที่เร็วกว่าย่อมได้เปรียบเสมอ และนี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
หลังจากนั้น ออกัสตัสก็รีบพาโจนาสเข้าไปในรถคันหนึ่งของพวกเขา ก่อนจะรีบขับรถออกไปจากสถานที่เกิดเหตุทันที เมื่อเห็นว่าพวกเลเกอร์กลับไปกันหมดแล้ว โนริก็ส่งเสียงเชียร์อย่างร่าเริงว่า “คุณทำได้แล้ว เจอรัลด์! คุณแข็งแกร่งมาก แม้แต่โจนาสก็ยังสู้คุณไม่ได้เลย!” ขณะที่โนริยังคงยกย่องเจอรัลด์ต่อไป โยชัวและสมาชิกตระกูลซาห์นคนอื่น ๆ ก็ได้แต่จ้องมองไปที่เด็กหนุ่ม พวกเขายังคงรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์ของการต่อสู้ในครั้งนี้ เมื่อสังเกตเห็นว่าเหล่าสมาชิกในครอบครัวของเธอพากันตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก โนริจึงถือโอกาสแนะนำเจอรัลด์ให้พ่อของเธอได้รู้จัก “พ่อคะ นี่คือคนที่หนูพูดถึงก่อนหน้านี้! เขาชื่อเจอรัลด์ คลอฟอร์ดค่ะ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น โยชัวก็พยักหน้าก่อนจะส่งสัญญาณให้ทุกคนกลับไปที่ห้องโถง... เมื่อนั่งลงแล้ว เจอรัลด์ก็เริ่มกล่าวคำทักทาย "ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบคุณครับ อาจารย์ซาห์น!" "ยินดีที่ได้พบเธอเช่นกัน เธอรู้ไหมว่าโนริเล่าเรื่องความสามารถของเธอให้ฉันฟังมาสักพักหนึ่งแล้ว… หลังจากได้เห็นเหตุการณ์ในวันนี้ ฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าฉันเห็นด้วยกับเธอ!” โยชัวตอบพร้อมกับมองเจอรัลด์ด้วยสี
ไม่นานหลังจากนั้น ชายชราที่สวมเสื้อคลุมยาวคนหนึ่งก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลซาห์น ด้วยป้ายชื่อสีทองที่ปักไว้บนหน้าอกของเขา บุคคลนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก อาจารย์เชส ฮ้นท์ ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านยันต์วิชาลับขั้นที่สองแห่งสหภาพยันต์... “อ๊า นายมาถึงแล้วเชส!” โยชัวพูด ขณะที่เขารีบเดินไปทักทายชายชราเมื่อเห็นเขา “แล้วนายต้องการพบฉันด้วยเรื่องอะไรกันแน่ล่ะ โยชัว?” เชสถามอย่างไม่อ้อมค้อม การพูดคุยกันแบบสบาย ๆ ของพวกเขาทั้งสองคนบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนเก่ากัน “ฉันอยากจะแนะนำให้นายรู้จักกับคนที่สนใจอยากจะเรียนรู้วิธีสร้างยันต์วิชาลับ และฉันคิดว่านายกับเขาน่าจะคุยเรื่องรายละเอียดได้ดีกว่าถ้าได้พบกันแบบตัวต่อตัว ดังนั้นฉันก็เลยเชิญนายมาที่นี่ยังไงล่ะ!” โยชัวตอบด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เชสก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดติดตลกว่า “อย่าบอกนะว่านายอยากจะขอให้ฉันรับลูกสาวคนโปรดของนายมาเป็นศิษย์น่ะ!” โยชัวหัวเราะเป็นการตอบกลับทันที “ฉันคงจะดีใจมากถ้าเธอสนใจเรื่องการสร้างยันต์จริง ๆ! อย่างไรก็ตามเธอมีแผนของเธอเองอยู่แล้ว คนที่ฉันอยากจะแนะนำให้นายรู้จักก็คือชายห
ไม่กี่วินาทีต่อมา เชสก็วางพู่กันของเขาลงก่อนจะโยนยันต์ขึ้นสู่ท้องฟ้า… และทันใดนั้น ยันต์ก็กลายร่างเป็นนกฟีนิกซ์สีทองที่พุ่งทะยานออกไป! “ยันต์นี้เรียกว่าฟีนิกซ์เหินฟ้า!” เชสอธิบาย ในขณะที่เขาส่งสัญญาณให้เจอรัลด์เริ่มต้นการทดสอบ เมื่อได้รับคำใบ้ เจอรัลด์จึงหลับตาลงก่อนที่จะนึกถึงฝีแปรงก่อนหน้านี้ของเชสอย่างละเอียดทุกขั้นตอน เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์ไม่ได้เขียนอะไรลงไปบนแผ่นยันต์ เชสจึงพูดว่า "เธอรู้ไหม เธอจะยอมแพ้ก็ได้นะถ้าเธอทำไม่ได้!" 'ยอมแพ้งั้นเหรอ…?' เจอรัลด์คิดกับตัวเอง เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขาเป็นคนที่ยอมรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่เมื่อไหร่? การยอมแพ้ไม่ได้ถูกเขียนไว้ในในพจนานุกรมของเขาด้วยซ้ำ! หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เจอรัลด์ก็ลืมตากว้างก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบพู่กัน และเริ่มวาดยันต์ที่คล้ายกับของเชส ด้วยการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลของเขา มันเกือบจะรู้สึกเหมือนเจอรัลด์กำลังไหลไปสายน้ำ ในขณะที่เขาวาดยันต์แผ่นนั้น อันที่จริงแล้ว การเคลื่อนไหวของเขาดูลื่นไหลมากจนท่าทีของเชสเปลี่ยนจากการดูถูกเหยียดหยามเป็นความประหลาดใจอย่างรวดเร็ว เขาอดไม่ได้ที่จะยอมรับว่าเจอรัลด์มีพรสวรรค์ในการสร้า
เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงสหภาพยันต์ เชสก็พาเจอรัลด์เข้าไปในห้องโถงใหญ่ชายคนหนึ่งซึ่งสวมชุดเหมือนเชสก็เข้ามาทักทายพวกเขา และมีชายหนุ่มอีกคนหนึ่งติดตามเขามาด้วย“ท่านอาจารย์ฮันท์ ดูเหมือนว่าในที่สุดท่านก็มีลูกศิษย์เป็นของตัวเองแล้ว!”ชายคนนั้นทักทายเชสด้วยรอยยิ้มอันสดใส“อาจารย์กริฟฟิน นี่คุณกำลังจะไปไหน?”ชื่อของเขาคือ ลอยด์ กริฟฟิน เช่นเดียวกับเชส เขายังเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านยันต์วิชาลับขั้นที่สองแห่งสหภาพยันต์ จึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาเปรียบเสมือนพี่น้องกันอย่างไรก็ตาม ลอยด์เริ่มรับลูกศิษย์เร็วกว่าเชสมาก“ฮ่าฮ่า อาจารย์กริฟฟิน ว่าแต่ว่าคุณกำลังจะไปไหน?”ลอยด์ยิ้มอย่างอ่อนโยนและตอบเชส“อาจารย์ฮันท์ ลูกศิษย์ของผมได้สร้างยันต์คุณภาพปานกลางขึ้นมา ผมกำลังจะพาเขาไปพบกับปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อขอให้ท่านมอบตำแหน่งอาลักษณ์ยันต์ระดับหนึ่งให้กับเขา!”ลอยด์บอกกับเชสอย่างภาคภูมิใจโครงสร้างลำดับขั้นของสหภาพยันต์ถูกแบ่งออกเป็นสี่ระดับ ซึ่งไล่จากระดับล่างขึ้นบน คือตำแหน่งอาลักษณ์ยันต์ ตำแหน่งนักวิชาการยันต์ ตำแหน่งอาจารย์ยันต์ และตำแหน่งปรมาจารย์ยันต์เมื่อศิษย์ได้รับการยอมรับจากอาจ
เมื่อมองดูตราสมาชิกที่เปล่งแสงแวววาว เจอรัลด์ก็รู้สึกตื้นตันใจในที่สุดเขาก็กลายเป็นสมาชิกของสหภาพยันต์ และเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เชส ฮันท์ ผู้เก่งกาจ ตอนนี้เขาสามารถเรียนรู้วิธีสร้างยันต์วิชาลับได้แล้ว“เจอรัลด์ เธอจะต้องอยู่ที่นี่กับฉันอีกสองสามวัน ฉันจะสอนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับยันต์วิชาลับและวิธีการวาดลายเส้นต่าง ๆ ให้ แม้ว่าเธอจะมีความสามารถมาก แต่ก็ยังมีหลายสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้เพื่อที่จะพัฒนาทักษะในการสร้างยันต์ ความสามารถพิเศษถือเป็นข้อได้เปรียบโดยกำเนิด แต่เธอก็ยังต้องเรียนรู้อีกหลายสิ่งหลายอย่าง อย่าทนงตัวจนเกินไป เข้าใจไหม?”อาจารย์ฮันท์มองเจอรัลด์ และแนะนำเขาอย่างจริงใจ“ครับ อาจารย์ฮันท์ ผมเข้าใจทุกอย่าง ผมจะทำตามที่คุณบอก และตั้งใจเรียนรู้วิธีสร้างยันต์วิชาลับ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังเป็นอันขาด!”เจอรัลด์มองไปที่เชสด้วยสายตาที่มุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งอาจารย์ฮันท์ตั้งความหวังในตัวเขาเอาไว้สูงมาก แน่นอนว่าเขาจะไม่ทำให้อาจารย์ของเขาต้องผิดหวังหลังจากนั้น เชสก็พาเจอรัลด์ไปที่บ้านพักของเขา และพวกเขาก็เริ่มการเรียนการสอนทันทีเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วันต่อมาระหว่างท
ในความพยายามครั้งที่สาม เจอรัลด์ได้เปลี่ยนวิธีการสะบัดพู่กันบอกตามตรง ลายมังกรสีทองนี้ดูไม่ธรรมดาเลย การเริ่มวาดตามจุดต่าง ๆ จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป เมื่อเขาพบจุดที่เหมาะสมในการเริ่มต้นเท่านั้น เขาจึงจะสามารถสร้างยันต์คุณภาพสูงขึ้นมาได้ไม่กี่นาทีต่อมา เจอรัลด์ก็วาดภาพเสร็จเป็นครั้งที่สามครั้งนี้ฝีมือของเขาพัฒนาขึ้นมากแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถผลิตยันต์ที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้ แต่เขาก็สามารถผลิตยันต์ที่มีคุณภาพดีจนไม่มีใครเทียบได้สำเร็จมังกรสีเงินที่ดูแวววาวและถูกล้อมรอบด้วยแสงสีทองพุ่งออกมาจากยันต์ และล้อมตัวเจอรัลด์เอาไว้“เจอรัลด์ การฝึกซ้อมของเธอเป็นยังไงบ้าง?”ทันใดนั้น เชสก็กลับมาจากที่ทำงาน และเขาก็เดินเข้าไปในสวนพร้อมกับถามเจอรัลด์ถึงความคืบหน้าในการฝึกฝนวินาทีต่อมา เชสก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “ยันต์คุณภาพหายาก!”เชสก้าวไปข้างหน้าและตะโกน ขณะที่เขามองไปที่มังกรสีเงินตัวนั้นขณะที่เขาพูด มังกรสีเงินก็หายตัวไปต่อหน้าเจอรัลด์ ยันต์ของเขาหมดฤทธิ์ลงแล้วยันต์ทุกอันที่ถูกสร้างขึ้นมาจะสามารถคงอยู่ได้เพียงไม่กี่สิบวินาที และอยู่ได้สูงสุดหนึ่งหรือสองนาทีเท่านั้
เชสรู้สึกปวดหัวทุกครั้งที่ได้พบกับลอยด์ เพราะผู้ชายคนนี้ชอบหาเรื่องกลั่นแกล้งเขาอยู่เสมอ และลอยด์ก็มักจะพูดจาเยาะเย้ยเขาอยู่บ่อยครั้ง ในทางกลับกัน ลอยด์จะชอบคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับตัวเอง และนั่นก็เป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากสำหรับเชส“ท่านปรมาจารย์ยันต์ได้เก็บตัวฝึกสมาธิมาหลายวันแล้ว และนั่นเป็นสาเหตุที่ลูกศิษย์ของผมยังไม่ได้รับตำแหน่ง ผมได้ยินมาว่าเขากำลังจะออกมาวันนี้ ผมก็เลยรีบไปพบเขา อาจารย์ฮันท์ คุณจะพาลูกศิษย์ของคุณไปขอรับตำแหน่งด้วยงั้นเหรอ?”ลอยด์อธิบายให้เชสฟังก่อนที่เขาจะถามอย่างสงสัย"ถูกต้อง! ลูกศิษย์ของผมเก่งมาก ฝีมือของเขาพัฒนาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผมจึงพาเขามาที่นี่เพื่อขอรับตำแหน่ง!”เชสตอบด้วยความมั่นใจลอยด์ผงะเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด เขารู้ว่าเชสเพิ่งรับลูกศิษย์คนนี้มาดูแลเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้ ลูกศิษย์ของเขากำลังจะได้รับตำแหน่งแล้ว เขารู้สึกว่ามันเร็วเกินไป เนื่องจากลูกศิษย์ของเขาเองต้องใช้เวลาเกือบสองเดือนในการเรียนรู้ ก่อนที่เขาจะมีคุณสมบัติที่จะได้รับตำแหน่ง“อาจารย์ฮันท์ การขอรับตำแหน่งไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย คุณจะทำเป็นเรื่องเล่น ๆ ไม่ได้ คุณแน่ใจหรือว่
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ