“ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่านายเป็นใครกันแน่?” เจอรัลด์ถาม ในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นและหรี่ตาไปที่ชายผู้กำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายให้เขา จากสิ่งที่เขาสัมผัสได้ ฝีมือในการฝึกฝนวิชาของบุคคลลึกลับผู้นี้มีพลังมากกว่าของจูเลียนมาก เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่อยากจะรู้จักชายชราคนนี้ให้มากขึ้น บอกตามตรงว่าตั้งแต่เจอรัลด์ออกจากคฤหาสน์ตระกูลแวดดี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของบุคคลที่ฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางวิญญาณ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่นั่นมีคนเป็นจำนวนมากที่ต้องการมาเข้าร่วมงานเทศกาลใต้ดิน และดูเหมือนคนเหล่านั้นจะไม่สนใจที่จะเปิดเผยตัวตนในเวลานั้น เจอรัลด์จึงเลิกสนใจพวกเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อชายชราปลดปล่อยพลังลมปราณที่จำเป็นออกมาก่อนหน้านี้ เจอรัลด์ก็รู้สึกได้ว่าชายชราต้องการให้เขาตามมา ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์ซึ่งต้องการจะค้นหาคำตอบว่าชายผู้นั้นต้องการอะไรจากเขากันแน่ เขาจึงตัดสินใจตามชายชรามาที่นี่ และนั่นก็คือที่มาของสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ถึงกระนั้นก็ตาม ชายชรากลับเพิกเฉยต่อคำถามของเจอรัลด์ เขาหัวเราะเสียงดังก่อนจะพูดว่า “วันนี้ฉันไม่นึกเลยว่าจะได้เจอค
เสียงหัวเราะสั่นสะท้านไปทั่วบริเวณอยู่พักหนึ่ง และเมื่อคาร์ลอสหยุดหัวเราะ เขาก็วางมือทั้งสองข้างไว้ที่เอวด้วยความพึงพอใจ ราวกับว่าเขาพร้อมที่จะเขมือบอาหารของเขาอย่างเต็มที่... อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาหันไปมองเจอรัลด์อีกครั้ง เขาก็ถึงกับตกตะลึงทันที ในตอนแรก เขาสันนิษฐานว่าเจอรัลด์คงจะไม่สามารถต้านทานพลังอันยิ่งใหญ่ของเสียงหัวเราะของเขาได้ เนื่องจากมันสามารถเอาชนะเสียงทุกเสียงที่ดังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย และเมื่อมาถึงจุดนี้ เจอรัลด์ก็ควรจะเสียสติไปแล้วด้วยซ้ำ ถึงกระนั้น ไม่เพียงแต่เจอรัลด์จะดูสบายดีเท่านั้น แต่เขายังล้วงมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกงของเขาขณะที่เขาจ้องกลับไปที่คาร์ลอสโดยไม่สะทกสะท้านอะไรเลย! “…นี่มัน…เป็นไปได้ยังไงเนี่ย…?!” ชายชราพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่เชื่ออย่างที่สุด เจอรัลด์มองดูชายชราอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาจึงถือโอกาสถาม “เอาอย่างนี้ ท่านอาจารย์ซีนส์ โปรดหยุดหัวเราะก่อน… ฉันแค่มีอะไรอยากจะถาม” และเป็นอีกครั้งที่คาร์ลอสตัดบทเจอรัลด์ด้วยการหัวเราะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และคราวนี้มันรุนแรงกว่าครั้งที่แล้วหลายเท่า! “นายเป็นโรคจิตหรือยังไง?
'ฉันใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัดมาโดยตลอด...! จากที่กล่าวมา ไม่มีทางที่ฉันจะพ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและไม่มีประสบการณ์คนนี้! มันเป็นไปไม่ได้เลย!' คาร์ลอสคิดกับตัวเอง สีหน้าของเขาดูน่ากลัวอย่างยิ่งขณะที่เขายื่นมือออกไป! เมื่อเล็บยาวสีดำห้าเล็บยื่นออกมาจากฝ่ามือของเขา คาร์ลอสก็คำรามว่า “ไปลงนรกซะ!” “นายทำให้ฉันเบื่อ” เจอรัลด์ตอบ ในขณะที่เขามองไปที่การโจมตีของคาร์ลอสก่อนจะส่ายหัว จากนั้นรอยยิ้มอันบิดเบี้ยวก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา ก่อนที่การโจมตีของคาร์ลอสจะสร้างความเสียหาย เขาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเจอรัลด์สะบัดนิ้วมาทางเขาเบา ๆ… และส่งลำแสงพุ่งเข้าหาเขา! คาร์ลอสไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทัน แสงสีทองพุ่งตรงเข้ามาในความมืดที่ปกคลุมรอบกายเขา ลำแสงนั้นปะทะกับการโจมตีของคาร์ลอสอย่างจัง พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังตามมาในทันที! สิ่งต่อมาที่ชายชรารู้ เขากำลังลอยกระเด็นถอยหลังเหมือนว่าวที่ยับยู่ยี่ เสื้อผ้าที่ปกคลุมบริเวณหน้าอกถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเลือดก็ไหลทะลักออกจากปากของเขาเป็นจำนวนมาก คาร์ลอสมองเจอรัลด์ด้วยความไม่อยากเชื่อ ในขณะที่เขากำลังทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปว
เสียงนั้นดังมาจากเด็กหนุ่มที่หมดเรี่ยวแรง ซึ่งเพิ่งล้มลงกับพื้นไม่ไกลจากเจอรัลด์นัก หลังจากทรุดตัวลงสักพัก และแม้เขาจะล้มลง เด็กหนุ่มก็ยังคงพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะปกป้องผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เมื่อเห็นเหตุการณ์นั้น เจอรัลด์ก็เปลือกตากระตุกเล็กน้อย ในขณะที่เด็กหนุ่มที่เพิ่งสังเกตเห็นเจอรัลด์ตะโกนว่า “คะ คุณครับ…! ได้โปรดช่วยเราด้วย…! ผมขอร้อง…! โทรหาใครมาช่วย หรืออะไรสักอย่างเถอะครับ…!” ขณะที่เขาพยายามจะก้าวไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว เสียงตะโกนของเด็กหนุ่มก็ฟังดูตื่นตระหนกมากขึ้น เมื่อเขาตระหนักว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังหายใจแผ่วเบาเพียงใด “เมแกน? เมแกน! ได้โปรด อย่าเพิ่งหลับ!” เด็กหนุ่มตะโกนออกมา ในขณะที่แสงจันทร์ส่องไปที่ทั้งคู่จนสว่างไสวมากพอที่จะทำให้เจอรัลด์มองเห็นใบหน้าของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน… และเมื่อเขาเห็นหน้าเธอ หัวใจของเขาก็เริ่มสั่นสะท้านทันที ผู้หญิงคนนั้น… เธอดูเหมือนมิล่ามากเมื่อมองแวบแรก! ขณะที่เขาคิดว่าผู้หญิงคนนั้นดูคล้ายมิล่ามากเพียงใด ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนของใครบางคนที่ฟังดูชัดเจนและเย็นชา “พวกมันอยู่ข้างหน้านั่น!” เมื่อเจอรัลด์หลุดจากภวังค์
ขณะที่พวกเขาหัวเราะเยาะเจอรัลด์เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว ตอนนี้พวกเขากลับจ้องมองใบวิลโลว์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ และต้องรู้สึกประหลาดใจอย่างเหนือคำบรรยายเมื่อจู่ ๆ ใบไม้ใบนั้นก็เริ่มเปล่งแสงสีทองออกมา! ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเพิ่มขนาดของมันขึ้นอีกด้วย! ไม่นานหลังจากนั้น เสียงระเบิดก็ดังตามมา และด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ใบวิลโลว์กลับกลายเป็นใบมีดขนาดมหึมา! “…อะไรกันเนี่ย?!” ชายทั้งแปดตะโกน ขณะที่พวกเขาจ้องมองใบมีดที่เปล่งรัศมีแห่งการสังหารออกมา แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะตอบสนองด้วยการหลบหนี แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว ด้วยการสะบัดของใบมีดอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว มันก็เฉือนคอทั้งแปดของพวกเขา… และสิ่งต่อมาที่ชายเหล่านั้นรู้ก็คือ หัวของพวกเขาร่วงลงไปอยู่บนพื้นแล้ว! ในขณะเดียวกัน ยูลที่กำลังตกใจสุดขีดก็กรีดร้องด้วยความสยดสยอง เมื่อเห็นหัวของชายทั้งแปดถูกตัดจนขาดต่อหน้าต่อตา! อย่างไรก็ตาม เขาหยุดกรีดร้องอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลืนน้ำลายลงคอ แม้จะเป็นผู้ที่มีฝีมือเก่งกาจ แต่ชายทั้งแปดกลับถูกเขาตัดศีรษะในเวลาอันสั้น… หากเขาไม่ได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตาของตัวเอง ยูลคงไม่มีวันเชื่
ในขณะที่เจอรัลด์มองยูล ซึ่งเพิ่งคุกเข่าต่อหน้าเขาด้วยความสงสัย ยูลจึงอธิบายว่า “ไม่เพียงแต่ท่านจะเป็นผู้มีพระคุณของทั้งผมและน้องสาวของผมแล้ว แต่ท่านยังเป็นผู้ที่มีความสามารถที่โดดเด่นอีกด้วย! จากที่กล่าวมา ผมจึงอยากขอให้ท่านช่วยมาปกป้อง และเป็นแขกผู้มีเกียรติของครอบครัวแควนท็อคครับ!” แม้ว่าแควนท็อคจะเป็นหนึ่งในครอบครัวลึกลับ แต่พวกเขาก็ยังไม่มีผู้อุปถัมภ์ในตอนนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงถูกขับออกจากเมืองเจนน่าในตอนแรก ยูลจำได้ว่าเขาเคยได้ยินว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่มีความสามารถเกินระดับของนักสู้ที่เก่งกาจทั่วไป และหลังจากได้เห็นทักษะของเจอรัลด์แล้ว เขาก็แน่ใจว่าอาจารย์ของเขาต้องเป็นหนึ่งในนั้น หากครอบครัวของเขามีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาคอยให้การสนับสนุน ตระกูลแควนท็อคจะต้องแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม และก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วแน่นอน หากเขาโชคดี ข้อตกลงของเจอรัลด์จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นผลดีมาสู่อนาคตของครอบครัวเขาอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะถามว่า “แขกผู้มีเกียรติงั้นเหรอ…?” “ความจริงแล้ว สิ่งที่ผมคาดหวังคือให้ท่านตกลงที่
ซีลอน ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า เริ่มสงสัยขึ้นมาทันที เมื่อเขาเห็นว่าเจอรัลด์อายุน้อยเพียงใด ท้ายที่สุด แม้ว่าลูกชายของเขาจะเรียกเจอรัลด์ว่า 'อาจารย์' ตลอดเวลา แต่ซีลอนก็มองชายหนุ่มคนนั้นเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ลูกชายของเขาอาจเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า…? แต่ถึงแม้ว่าซีลอนจะคิดเช่นนั้น แต่เขายังคงจับมือทักทายกับเจอรัลด์อย่างเป็นมิตรเพื่อแสดงความขอบคุณ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้พูดคุยกับเจอรัลด์ไม่นาน ซีลอน ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของครอบครัว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดูถูกเขาอยู่บ้างเล็กน้อย หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเสร็จแล้ว ซีลอนก็พาเจอรัลด์ อาจารย์คนใหม่ของตระกูล และทุกคนไปเดินเล่นรอบคฤหาสน์ ในระหว่างมื้ออาหาร ซีลอนได้พูดถึงหินขนาดใหญ่ และแข็งแรงที่เรียกว่าเซคเทอไรท์ และเห็นได้ชัดว่าเขากระตือรือร้นที่จะแสดงมันให้ทุกคนได้เห็น เมื่อพวกเขาเดินมาถึงหินก้อนดังกล่าว ซีลอนก็หัวเราะออกมา ก่อนจะประกาศว่า “นี่คือ หินเซคเทอไรท์ที่ผมพูดถึง น้องชายเจอรัลด์! อย่างที่ผมบอก มันเป็นหินที่แข็งที่สุดในบรรดาสวรรค์และโลก! ด้วยเหตุนี้ ผมจึงนำมันติดตัวไปด้วยทุกที่ ไม่ว่าจะย้ายไปอยู
เมื่อได้ยินคำตอบของเจอรัลด์ ดวงตาของพวกแควนท็อคทั้งหมดก็เบิกกว้างทันทีด้วยความโกรธเกรี้ยว "นี่คุณ…!" ซีลอนคำราม ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก “…ในเมื่อคุณพูดแบบนั้น ก็แสดงว่าคุณสามารถแยกหินได้ใช่หรือไม่ น้องเจอรัลด์? ถ้าเป็นเช่นนั้น โปรดช่วยเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้นทีเถอะ…!” ชายชราอีกคนพูดเสริม ขณะที่เขาและทุกคนในกลุ่มกัดฟันด้วยความโกรธ "แน่นอนผมทำได้ ก็แค่ทำให้หินแตก มันจะไปยากอะไร?” เจอรัลด์ถามก่อนที่จะส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับเซคเทอไรท์คือ มันสามารถต้านฟ้าผ่าได้ เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น มีวัตถุทางจิตวิญญาณหลายอย่างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติระหว่างสวรรค์และโลก จากที่กล่าวมา วุตถุเหล่านั้นจะมีความสามารถในการต้านทานตามองค์ประกอบที่มันได้รับมา ทั้งนี้ทั้งนั้น เวทมนตร์จะสามารถทำลายเซคเทอไรท์ได้ เนื่องจากมันมีพลังที่เหนือกว่าสายฟ้าทั่วไป!” เจอรัลด์อธิบาย “เจ้าเด็กโง่! แกกล้าโอ้อวดเรื่องไร้สาระอย่างศิลปะเวทมนตร์ได้อย่างไร้ยางอายยิ่งนัก!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งตอบโต้ เนื่องจากรับไม่ได้ในความ