เสียงนั้นดังมาจากเด็กหนุ่มที่หมดเรี่ยวแรง ซึ่งเพิ่งล้มลงกับพื้นไม่ไกลจากเจอรัลด์นัก หลังจากทรุดตัวลงสักพัก และแม้เขาจะล้มลง เด็กหนุ่มก็ยังคงพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะปกป้องผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เมื่อเห็นเหตุการณ์นั้น เจอรัลด์ก็เปลือกตากระตุกเล็กน้อย ในขณะที่เด็กหนุ่มที่เพิ่งสังเกตเห็นเจอรัลด์ตะโกนว่า “คะ คุณครับ…! ได้โปรดช่วยเราด้วย…! ผมขอร้อง…! โทรหาใครมาช่วย หรืออะไรสักอย่างเถอะครับ…!” ขณะที่เขาพยายามจะก้าวไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว เสียงตะโกนของเด็กหนุ่มก็ฟังดูตื่นตระหนกมากขึ้น เมื่อเขาตระหนักว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังหายใจแผ่วเบาเพียงใด “เมแกน? เมแกน! ได้โปรด อย่าเพิ่งหลับ!” เด็กหนุ่มตะโกนออกมา ในขณะที่แสงจันทร์ส่องไปที่ทั้งคู่จนสว่างไสวมากพอที่จะทำให้เจอรัลด์มองเห็นใบหน้าของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน… และเมื่อเขาเห็นหน้าเธอ หัวใจของเขาก็เริ่มสั่นสะท้านทันที ผู้หญิงคนนั้น… เธอดูเหมือนมิล่ามากเมื่อมองแวบแรก! ขณะที่เขาคิดว่าผู้หญิงคนนั้นดูคล้ายมิล่ามากเพียงใด ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนของใครบางคนที่ฟังดูชัดเจนและเย็นชา “พวกมันอยู่ข้างหน้านั่น!” เมื่อเจอรัลด์หลุดจากภวังค์
ขณะที่พวกเขาหัวเราะเยาะเจอรัลด์เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว ตอนนี้พวกเขากลับจ้องมองใบวิลโลว์ที่ลอยอยู่กลางอากาศ และต้องรู้สึกประหลาดใจอย่างเหนือคำบรรยายเมื่อจู่ ๆ ใบไม้ใบนั้นก็เริ่มเปล่งแสงสีทองออกมา! ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเพิ่มขนาดของมันขึ้นอีกด้วย! ไม่นานหลังจากนั้น เสียงระเบิดก็ดังตามมา และด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ใบวิลโลว์กลับกลายเป็นใบมีดขนาดมหึมา! “…อะไรกันเนี่ย?!” ชายทั้งแปดตะโกน ขณะที่พวกเขาจ้องมองใบมีดที่เปล่งรัศมีแห่งการสังหารออกมา แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะตอบสนองด้วยการหลบหนี แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว ด้วยการสะบัดของใบมีดอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว มันก็เฉือนคอทั้งแปดของพวกเขา… และสิ่งต่อมาที่ชายเหล่านั้นรู้ก็คือ หัวของพวกเขาร่วงลงไปอยู่บนพื้นแล้ว! ในขณะเดียวกัน ยูลที่กำลังตกใจสุดขีดก็กรีดร้องด้วยความสยดสยอง เมื่อเห็นหัวของชายทั้งแปดถูกตัดจนขาดต่อหน้าต่อตา! อย่างไรก็ตาม เขาหยุดกรีดร้องอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลืนน้ำลายลงคอ แม้จะเป็นผู้ที่มีฝีมือเก่งกาจ แต่ชายทั้งแปดกลับถูกเขาตัดศีรษะในเวลาอันสั้น… หากเขาไม่ได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตาของตัวเอง ยูลคงไม่มีวันเชื่
ในขณะที่เจอรัลด์มองยูล ซึ่งเพิ่งคุกเข่าต่อหน้าเขาด้วยความสงสัย ยูลจึงอธิบายว่า “ไม่เพียงแต่ท่านจะเป็นผู้มีพระคุณของทั้งผมและน้องสาวของผมแล้ว แต่ท่านยังเป็นผู้ที่มีความสามารถที่โดดเด่นอีกด้วย! จากที่กล่าวมา ผมจึงอยากขอให้ท่านช่วยมาปกป้อง และเป็นแขกผู้มีเกียรติของครอบครัวแควนท็อคครับ!” แม้ว่าแควนท็อคจะเป็นหนึ่งในครอบครัวลึกลับ แต่พวกเขาก็ยังไม่มีผู้อุปถัมภ์ในตอนนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงถูกขับออกจากเมืองเจนน่าในตอนแรก ยูลจำได้ว่าเขาเคยได้ยินว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่มีความสามารถเกินระดับของนักสู้ที่เก่งกาจทั่วไป และหลังจากได้เห็นทักษะของเจอรัลด์แล้ว เขาก็แน่ใจว่าอาจารย์ของเขาต้องเป็นหนึ่งในนั้น หากครอบครัวของเขามีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาคอยให้การสนับสนุน ตระกูลแควนท็อคจะต้องแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม และก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วแน่นอน หากเขาโชคดี ข้อตกลงของเจอรัลด์จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นผลดีมาสู่อนาคตของครอบครัวเขาอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะถามว่า “แขกผู้มีเกียรติงั้นเหรอ…?” “ความจริงแล้ว สิ่งที่ผมคาดหวังคือให้ท่านตกลงที่
ซีลอน ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า เริ่มสงสัยขึ้นมาทันที เมื่อเขาเห็นว่าเจอรัลด์อายุน้อยเพียงใด ท้ายที่สุด แม้ว่าลูกชายของเขาจะเรียกเจอรัลด์ว่า 'อาจารย์' ตลอดเวลา แต่ซีลอนก็มองชายหนุ่มคนนั้นเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ลูกชายของเขาอาจเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า…? แต่ถึงแม้ว่าซีลอนจะคิดเช่นนั้น แต่เขายังคงจับมือทักทายกับเจอรัลด์อย่างเป็นมิตรเพื่อแสดงความขอบคุณ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้พูดคุยกับเจอรัลด์ไม่นาน ซีลอน ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของครอบครัว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดูถูกเขาอยู่บ้างเล็กน้อย หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเสร็จแล้ว ซีลอนก็พาเจอรัลด์ อาจารย์คนใหม่ของตระกูล และทุกคนไปเดินเล่นรอบคฤหาสน์ ในระหว่างมื้ออาหาร ซีลอนได้พูดถึงหินขนาดใหญ่ และแข็งแรงที่เรียกว่าเซคเทอไรท์ และเห็นได้ชัดว่าเขากระตือรือร้นที่จะแสดงมันให้ทุกคนได้เห็น เมื่อพวกเขาเดินมาถึงหินก้อนดังกล่าว ซีลอนก็หัวเราะออกมา ก่อนจะประกาศว่า “นี่คือ หินเซคเทอไรท์ที่ผมพูดถึง น้องชายเจอรัลด์! อย่างที่ผมบอก มันเป็นหินที่แข็งที่สุดในบรรดาสวรรค์และโลก! ด้วยเหตุนี้ ผมจึงนำมันติดตัวไปด้วยทุกที่ ไม่ว่าจะย้ายไปอยู
เมื่อได้ยินคำตอบของเจอรัลด์ ดวงตาของพวกแควนท็อคทั้งหมดก็เบิกกว้างทันทีด้วยความโกรธเกรี้ยว "นี่คุณ…!" ซีลอนคำราม ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก “…ในเมื่อคุณพูดแบบนั้น ก็แสดงว่าคุณสามารถแยกหินได้ใช่หรือไม่ น้องเจอรัลด์? ถ้าเป็นเช่นนั้น โปรดช่วยเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้นทีเถอะ…!” ชายชราอีกคนพูดเสริม ขณะที่เขาและทุกคนในกลุ่มกัดฟันด้วยความโกรธ "แน่นอนผมทำได้ ก็แค่ทำให้หินแตก มันจะไปยากอะไร?” เจอรัลด์ถามก่อนที่จะส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับเซคเทอไรท์คือ มันสามารถต้านฟ้าผ่าได้ เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น มีวัตถุทางจิตวิญญาณหลายอย่างที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติระหว่างสวรรค์และโลก จากที่กล่าวมา วุตถุเหล่านั้นจะมีความสามารถในการต้านทานตามองค์ประกอบที่มันได้รับมา ทั้งนี้ทั้งนั้น เวทมนตร์จะสามารถทำลายเซคเทอไรท์ได้ เนื่องจากมันมีพลังที่เหนือกว่าสายฟ้าทั่วไป!” เจอรัลด์อธิบาย “เจ้าเด็กโง่! แกกล้าโอ้อวดเรื่องไร้สาระอย่างศิลปะเวทมนตร์ได้อย่างไร้ยางอายยิ่งนัก!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งตอบโต้ เนื่องจากรับไม่ได้ในความ
ในขณะที่สมาชิกครอบครัวแควนท็อคกำลังคุกเข่าต่อหน้าเจอรัลด์ ชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเข้าร่วมในงานเทศกาลก็ปรากฏตัวต่อหน้าชายวัยกลางคน ในห้องทำงานของคฤหาสน์เลดเลอร์ “บอกพ่อมาสเต็ดสัน ความสัมพันธ์ของลูกกับลูกสาวคนโตของตระกูลแวดดี้เป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้?” ชายวัยกลางคนถาม “ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของผมแล้วครับ คุณพ่อ! ด้วยความที่ซีเรียลหลงใหลในตัวผมมาก แล้วมันจะมีปัญหาอะไรในการตามจีบเธออีกล่ะครับ!” สเต็ดสันตอบพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ฮ่าฮ่าฮ่า! ดีมาก สเต็ดสัน! เดิมทีพวกแวดดี้เองก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก และพลังที่หนุนหลังพวกเขาก็ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด พ่อเชื่อว่าลูกจะสามารถจัดการกับทุกอย่างได้ และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เราจะสามารถใช้ความสัมพันธ์ของลูกกับกับตระกูลแวดดี้ เพื่อส่งให้เลดเลอร์ได้ก้าวไปสู่ชัยชนะในที่สุด! นอกจากนี้ ลูกควรจะเคร่งครัดเรื่องการฝึกฝนอยู่เสมอ เทศกาลใต้ดินจะจัดขึ้นในอีกสองวัน และครอบครัวของเราจะต้องได้รับตำแหน่งผู้ชนะในปีนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!” คุณเลดเลอร์สั่ง เมื่อได้ยินเช่นนั้น สเต็ดสันก็ตอบทันทีว่า “ครับพ่อ! แต่ว่า…" "…อืม? มีอะไรเหรอ?" คุณเลดเลอร์ถาม “เ
ไม่ว่าในกรณีใด ยาคอฟเชื่อในความเข้าใจและการรับรู้ของลูกสาวของเขา จากที่กล่าวมา เขามั่นใจว่าเธอจะไม่ตกหลุมรักผู้ชายอย่างเจอรัลด์อย่างแน่นอน “พ่อเข้าใจ… ไม่เป็นไรหรอก พ่อสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่พ่อก็หวังว่าลูกจะเข้าใจว่าในที่สุดลูกก็ต้องลงเอยด้วยการแต่งงานกับสเต็ด… เพราะเขาเป็นคนที่มีอนาคต! เมื่อเข้าใจแล้ว พ่อก็หวังว่าลูกจะเตรียมใจให้พร้อมสำหรับสิ่งนั้น…” ยาคอฟกล่าว เนื่องจากซีเรียลไม่มีท่าทีที่จะต่อต้านความคิดของเขา ยาคอฟจึงออกจากห้องไปอย่างสบายใจ หลังจากที่ซีเรียลเฝ้าดูพ่อของเธอเดินจากไป เธอก็รู้สึกใจสั่นขณะที่พึมพำว่า “…เจอรัลด์…” พ่อมาที่นี่เพื่อที่จะบอกเธอเรื่องนั้นเองเหรอ... ขณะที่เธอพึมพำชื่อของเขาด้วยความรู้สึกเสียดาย เธอแทบจะจินตนาการร่างของเขาในความคิดของเธอได้... อีกสองวันต่อมา เทศกาลใต้ดินก็ดำเนินไปตามกำหนดการณ์ ในวันนั้นเอง ครอบครัวที่มีชื่อเสียงและอิทธิพลจากทั่วทุกมุมโลกต่างมารวมตัวกันที่สถานที่จัดงาน แน่นอนว่ามีแขกจำนวนมากที่มาร่วมอย่างลับ ๆ หลังจากได้รับบัตรเชิญพิเศษ พวกเขาทุกคนเดินทางมาที่นี่ เนื่องจากพวกเขารู้ข้อมูลจากเทศ
ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงตามซาเวอรี่ไป ขณะที่เธอเดินนำเขาไปที่ไหนสักแห่ง… แต่แล้วเขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าเธอต้องการให้เขาช่วยอุ้มนกแก้ว โดยปกติแล้ว นกแก้วจะรู้วิธีเลียนแบบคำพูดของมนุษย์ได้อย่างชัดเจน แต่นกแก้วตัวนี้กลับไม่พูดอะไรสักคำเมื่อมาถึงที่นั่นด้วยเหตุผลบางประการ เมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่ายาโกรรอคก็กลัวเจอรัลด์ ซาเวอรี่จึงอนุมานได้ว่านกตัวนี้จะต้องหวาดกลัวเกินกว่าจะพูดต่อหน้าเจอรัลด์เช่นกัน! ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงขอร้องให้เขาช่วยแบกมัน ด้วยความที่เขาไม่ต้องการให้ซาเวอรี่กวนใจเขาอีกต่อไป เจอรัลด์เพียงแค่ส่ายหัวกับความคิดของเธอ ก่อนที่จะตกลงช่วยเหลือเธอในที่สุด “ว่าแต่ ฉันไม่คิดเลยว่านายจะไปสนิทสนมกับพวกแควนท็อคแบบนั้น! ไม่ว่ายังไง ครั้งนี้ฉันต้องขอบคุณนายด้วยนะเจอรัลด์! แต่ที่ฉันเรียกนายมาก็ไม่ใช่เพราะนกแก้วตัวนี้อย่างเดียวหรอกนะ…” ซาเวอรี่พูดหลังจากที่ทั้งคู่ลงมายังพื้นที่จัดงานใต้ดิน "โอ้? เธอหมายความว่าอย่างไรเหรอ?" เจอรัลด์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “นายอาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่ตระกูลแควนท็อคกับตระกูลแวดดี้มีเรื่องผิดใจกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว… สิ่งที