เมื่อได้ยินคำพูดของเซนนี่ เจอรัลด์ก็ตอบทันทีว่า “…อะไรนะ? ฉันจะกลายเป็นอาจารย์ของเจ้าแห่งวิญญาณอย่างนั้นเหรอ? เธอช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม” "ได้สิ! ท่านอาจารย์เคยพูดเรื่องนี้กับฉันหลายครั้งแล้ว เขารอคอยมานานแสนนาน ให้ใครบางคนเข้ามารับเขาเป็นศิษย์ และจากความคืบหน้าของสิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนว่าเธอคือคนที่เขารอคอย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังส่งคำอวยพรและของขวัญมากมายให้เธอ เมื่อเธอมาถึงเมืองเจนน่า! ฉันสงสัยว่าเมื่อเธอจัดการกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างเทศกาลใต้ดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่นอน เจอรัลด์! ไม่สิ ท่านอาจารย์!” เซนนี่กล่าว “ไร้สาระสิ้นดี! ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันต้องรบกวนเจ้าแห่งวิญญาณเมื่อฉันพบเขา เขาจะพูดแบบนั้นทำไมว่าเขาจะทักทายฉันในฐานะอาจารย์?” เจอรัลด์ตอบ “ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าฉันจะพบกับปาฏิหาริย์สองสามอย่างก็จริง แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันมีประโยชน์กับฉันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!” เจอรัลด์เสริม “อืม… ยังไงก็ตาม เธอควรอ่านจดหมายให้จบก่อนนะ… ฉันไม่คิดว่าเธอสังเกตเห็นแผนภาพห้าองค์ประกอบที่อยู่ด้านหลังมัน…” เซนนี่พูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็พลิกจดห
“เทศกาลใต้ดินมีมานานแล้ว และทุกครั้งที่เทศกาลนี้จัดขึ้นก็มักจะมาพร้อมกับการค้นพบทรัพยากรที่ทรงพลังบางอย่าง!” จูเลียนอธิบาย “ทรัพยากรที่ทรงพลัง? นายหมายถึงทรัพยากรการฝึกอบรมที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนตนเอง เพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางจิตวิญญาณอย่างนั้นเหรอ?” เจอรัลด์ถามพร้อมกับพยักหน้า ดูเหมือนเขาจะเข้าใจว่าจูเลียนกำลังหมายถึงอะไร “ใช่ครับ แต่เหตุผลที่เทศกาลนี้ถูกจัดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การค้นพบของทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการฝึกฝนทั่วไปเท่านั้นครับท่าน! ในบางครั้ง เทศกาลนี้ยังจัดขึ้นเมื่อมีการค้นพบวัตถุทางเวทมนตร์ที่สามารถทำลายล้างโลกได้อีกด้วย! แม้ว่าสิ่งของดังกล่าวจะดึงดูดให้คนทั่วไปอยากซื้อและนำไปโอ้อวด แต่พวกมันก็เป็นสมบัติอันล้ำค่าสำหรับการฝึกเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางจิตวิญญาณด้วยเช่นกัน!” “จากที่กล่าวมา มันมักจะมีการแข่งขันที่สูงเพื่อแย่งชิงทรัพยากรดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางจิตวิญญาณจึงเลือกที่จะเพิกเฉยต่อการสมานฉันท์ของพวกเขาในช่วงเวลาเช่นนี้ และเข้าร่วมสังคมทันทีเพื่อแย่งชิงทรัพยากร!” “โดยปกติแล้ว ยังมีคนธรรมดาที่ต้องการจะครอบครองสิ่งประด
“ที่คฤหาสน์ฮาร์ทสโตนในเมืองเจนน่าครับ! ณ เวลานี้ น่าจะมีคนมากมายที่ฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางจิตวิญญาณรวมตัวกันอยู่ที่นั่นแล้ว!” จูเลียนตอบ "เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปที่นั่นเพื่อดูสถานการณ์ก่อน!” เจอรัลด์พูดพร้อมกับพยักหน้า “ให้ผมไปเป็นเพื่อนนะครับ นายท่าน!” จูเลียนตอบ “ไม่จำเป็นหรอก นายเป็นเเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป และฉันเชื่อว่าคนอื่น ๆ ที่ฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางจิตวิญญาณจะค้นพบตัวตนของนายได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันสามารถใช้เทคนิคการสกัดกั้นลมปราณได้ และนั่นจะทำให้ฉันดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ฉันจะให้เพอร์ลามากับฉันแทน” เจอรัลด์พูดก่อนจะหันไปมองเทอร์แรนซ์ “สำหรับคุณ คุณเชอร์วิน ผมเกรงว่าจะต้องรบกวนอะไรคุณบางอย่าง…” “บอกมาได้เลยครับ นายท่าน!” “เอาล่ะ ผมอยากให้คุณช่วยหาบัตรเข้างานเทศกาลใต้ดินให้ผมหน่อย!” “นั่นจะไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดครับ นายท่าน!” เทอร์แรนซ์ได้ตอบกลับ เมื่อถึงจุดนี้ เทอร์แรนซ์และจูเลียนรู้สึกชื่นชมในตัวเจอรัลด์อย่างสุดซึ้ง ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งคู่รู้สึกว่าอนาคตของพวกเขาจะสดใสอย่างแน่นอน ตราบเท่าที่พวกเขาติดตามชายคนนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่ฟัง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสามคนจึงตกลงที่จะเดินทางไปคฤหาสน์ฮาร์ทสโตนด้วยกันก่อน เหตุผลที่ยูลตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือจากเพอร์ลาตั้งแต่แรก นั่นก็เป็นเพราะว่าตระกูลเชอร์วินเป็นตระกูลที่ค่อนข้างมีเกียรติและมีอิทธิพลในเมืองเจนน่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแผนการร้ายของตระกูลดัน ตระกูลเชอร์วินจึงล่มสลายลงหลังจากนั้นไม่นาน เป็นเหตุให้เพอร์ลาที่เคยขับรถหรูที่มีมูลค่าอย่างน้อยเจ็ดแสนห้าหมื่นดอลลาร์ ต้องเปลี่ยนมาขับบีเอ็มดับเบิลยูเจ็ด ซีรี่ส์ธรรมดาแทน แน่นอนว่าเจอรัลด์ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย ระหว่างทาง เพอร์ลาเริ่มเล่าความเป็นมาเกี่ยวกับคฤหาสน์ฮาร์ทสโตนให้เจอรัลด์ฟัง เมื่อปรากฏว่าคฤหาสน์แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี และการพรรณนาที่เก่าแก่ที่สุดระบุว่าคฤหาสน์นี้ได้รับการสถาปนาขึ้นครั้งแรก โดยเจ้าชายและขุนนางตั้งแต่สมัยโบราณ ต่อมาตระกูลแวดดี้ได้เข้ามาเซ็นสัญญารับช่วงต่อในฐานะผู้พัฒนาคฤหาสน์ในที่สุด หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มดำเนินโครงการท่องเที่ยวขนาดใหญ่หลายโครงการขึ้นที่นั่น นอกจากนั้น คฤหาสน์ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลใต้ดินอีกด้วย แม้ว่าคฤหาสน์ฮาร์ทสโตนกำลังจะถูกปิดในอีกเพียงหนึ
หลังจากนั้น เจนนี่และคนอื่น ๆ ก็เอามือขึ้นมาปิดปากและหัวเราะ แม้ว่าเธอจะไม่รู้อย่างแน่ชัดว่าเจอรัลด์เป็นคนอนาถาที่น่าสมเพชจริงหรือไม่ แต่เธอก็สันนิษฐานว่ามันน่าจะเป็นความจริง เพราะเขาดูไม่เหมือนคนที่มาจากพื้นเพที่ดี เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว เธอจึงเบะปากอย่างไม่แคร์โลก “เจนนี่! เธอจะดูถูกฉันยังไงก็ได้เท่าที่เธอต้องการ แต่เธอห้ามมาดูถูกอาจารย์ของฉัน!” เพอร์ลาที่กำลังโกรธแค้นตอบโต้ "…อะไรนะ? เขาเป็นอาจารย์ของเธองั้นเหรอ?!” เจนนี่ตะโกน ขณะที่เธอและกลุ่มเพื่อนหัวเราะออกมา “พูดถึงพวกอาจารย์… ฉันได้ยินจากแม่ของฉันว่าคุณปู่ของเธอดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องธุรกิจของตัวเองอีกต่อไปแล้ว แม่ยังบอกอีกว่าเขาพาเธอไปตามหาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเพื่อให้มาสอนศิลปะการต่อสู้หรืออะไรสักอย่างให้เธอ… เป็นไปได้ไหมว่า… ผู้ชายคนนั้นคืออาจารย์ชื่อดังที่ปู่ของเธอหามาให้?!” เจนนี่พูด ขณะที่ยังคงเอามือปิดปากเพราะหัวเราะมากจนเกินไป ไม่กี่วินาทีหลังจากที่เธอพูดอย่างนั้น ชายที่ดูแข็งแรงและมีกล้าม ซึ่งสวมแว่นกันแดดก็เดินออกมาจากทางด้านหลังของเจนนี่ ก่อนจะพูดว่า “โอ้? พี่ชายคนนี้น่ะเหรอเป็นอาจารย์? ดูจากรูปร่างที่ผอมบางข
“มะ ไม่…! หยุดนะ…!" เจนนี่ร้องออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ขณะที่เธอกลิ้งไปบนพื้นด้วยความเจ็บปวด ในที่สุด เมื่อตระหนักได้ว่าเจนนี่กำลังเจ็บปวดเพียงใด เบนสันก็ปล่อยมือของเจอรัลด์ทันที ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปหาเจนนี่ “เป็นอะไรไป?!” เบนสันถาม ในขณะที่เขาจ้องมองเจนนี่ที่กำลังหน้าซีด เธอไม่สามารถแม้แต่จะซ่อนความเจ็บปวดอันแสนทรมานของเธอได้เลย “มัน มันเจ็บ…! ฉันรู้สึกเจ็บปวดทรมานเหมือนกำลังจะตาย…!” เจนนี่ร้องออกมา เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นไม่ได้พยายามที่จะหยุดเขาอีกต่อไปแล้ว เจอรัลด์เพียงแค่ส่ายหัวพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะจากไปพร้อมกับเพอร์ลาและยูล ในขณะเดียวกัน ป๊อปปี้ก็เข้ามาถามว่า “มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมจู่ ๆ เธอถึงเจ็บปวดโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้” “ฉันก็ไม่รู้! ความจริงแล้วพวกเธอไม่สังเกตบ้างหรือว่า หน้าอกของเจนนี่เริ่มเจ็บตอนที่เบนสันเริ่มออกแรงมากขึ้นก่อนหน้านี้?” “มันฟังดูประหลาดจัง! ว่าแต่ว่า เดี๋ยวก่อนนะ พวกมันไปไหนแล้วล่ะ?” เบนสันซึ่งตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อถาม ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ “ฉันคิดว่าพวกมันคงจะหนีไปแล้ว เพราะพวกมันคงจะกลัวว่าเราจะสร้างปัญหา
เสียงตะโกนที่ดังขึ้นอยู่ไม่ไกลมากนัก และเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้พื้นที่บริเวณนั้นยังคงแออัดไปด้วยผู้คน แต่ตอนนี้ทุกคนได้ขยับออกจนเกิดพื้นที่ให้เดินตรงกลางได้ แน่นอนว่าคนที่พวกเขาต่างก็รู้สึกเกรงขามไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสเต็ดสัน ชายหนุ่มที่เจอรัลด์สังเกตเห็นเมื่อตอนที่เขาอยู่ที่มหาวิทยาลัย! ไม่คิดว่าเขาจะปรากฏตัวที่คฤหาสน์ฮาร์ทสโตนเช่นกัน... แต่มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจมากนัก เพราะคนที่กำลังฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางวิญญาณต่างก็แห่กันไปที่คฤหาสน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ จากที่กล่าวมา สเต็ดสัน ซึ่งคนทั่วไปมักจะเรียกกันว่า "เด็กฝึกหัด" ก็เป็นบุคคลที่ฝึกฝนเพื่อให้ได้มาซึ่งการตรัสรู้ทางวิญญาณเช่นกัน จากสิ่งที่เจอรัลด์ได้ยินมา สเต็ตสันได้เปิดรากฐานทางจิตวิญญาณของเขาตั้งแต่อายุสามขวบ และสิ่งนั้นก็ทำให้สเต็ตสันกลายเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง ในเรื่องของความแข็งแกร่ง เจอรัลด์สามารถประเมินได้ว่าเขาน่าจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับจูเลียน บุคคลที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางจิตวิญญาณเช่นกัน! ด้วยเหตุนี้ จึงถือได้ว่าสเต็ดสันเป็นหนึ่งในอาจารย์ยอดฝีมือเลยก็ว่าได้ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ก
ในที่สุดคนที่เธอรอคอยมานานกว่าสิบปีก็ปรากฏตัวขึ้น ดังนั้นซีเรียลจึงอยากจะทะนุถนอมช่วงเวลาที่เธอใฝ่หามาตลอดเอาไว้ในขณะที่พวกเขาทั้งสองยังคงพูดคุยกันต่อ ทั้งคู่ก็เริ่มเดินไปที่ด้านในของคฤหาสน์เดิมทีเหตุผลที่สเต็ดสันมาที่นี่ก็เพื่อเดินสำรวจรอบ ๆ และดูสถานการณ์เมื่อเขาเห็นว่าซีเรียลมีหน้าตาที่สวยมาก เขาก็ยินดีที่จะเดินไปกับเธออย่างไม่มีข้อแม้ในเวลานี้ มีเสียงของความโกลาหลดังมากจากทุ่งกว้างและว่างเปล่าที่อยู่ไม่ไกลนัก"เกิดอะไรขึ้น?"สเต็ดสันถามคนรับใช้ที่เดินตามหลังเขามาไม่ไกลนัก“นายน้อยครับ ตรงนั้นคือสังเวียนการต่อสู้ ไม่นานมานี้ มีคนจากแอฟริกาเหนือจับกระทิงดุมาได้ และส่งพวกมันมาที่นี่เพื่อต่อสู้ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าดึงดูดของคฤหาสน์ฮาร์ทสโตนครับ!” คนรับใช้ตอบ“ชิ! มันน่าเบื่อจะตาย การดูสัตว์ร้ายเหล่านี้ต่อสู้กันมันน่าสนใจตรงไหน? คนพวกนี้น่าเบื่อและไร้สาระมาก!”สเต็ดสันพูด ในขณะที่เขาส่ายหัวและหัวเราะอย่างขมขื่นอย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านี้ดูเหมือนจะทำให้ซีเรียลรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเดิมทีคำพูดของสเต็ดสันไม่ได้มุ่งเป้าไปที่เธอ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สถานะของซีเรียล