จากการที่พวกเขายกย่องเฟเดริโก้ให้เป็นไอดอล เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าคนในกลุ่มนั้นมองคนอื่นว่าเป็นแค่คนงี่เง่าเท่านั้น หลังจากได้ยินพวกเขาตะคอกใส่อาจารย์ของเธอ เพอร์ลาก็โต้กลับด้วยความโกรธว่า “แล้วพวกเธอเป็นใคร ถึงมาบอกให้คนอื่นหลบให้น่ะ?” "ฉันเป็นใคร? แล้วเธอล่ะเป็นใคร? นี่ หลบไปได้แล้ว! เราไม่สามารถถ่ายรูปนายน้อยดันจากตรงนี้ได้จริง ๆ! แค่นี้ทำไม่ได้หรือยังไง?!” "ใช่! เธอคิดว่าเธอรวยมากหรือไง? ถ้าแน่จริง เธอก็ไปแข่งประมูลกับนายน้อยดันของเราสิ ถ้าเธอกล้านะ!” ผู้หญิงที่คลั่งไคล้ตอบโต้อย่างดูถูก "นี่เธอ…!" เพอร์ลาคำราม ตอนนี้เธอรู็สึกโกรธมาก “พวกเขาอยากพูดอะไรก็ปล่อยให้เขาพูดไปเถอะ ช่วยผมเสนอราคาหน่อย คุณเชอร์วิน” เจอรัลด์พูด ขณะที่เขาหันไปมองเทอร์แรนซ์ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพยายามที่จะเพิ่มราคาประมูลอีก “ได้ครับ อาจารย์คลอฟอร์ด คุณตั้งใจจะเสนอราคาเพิ่มเป็นเท่าไหร่ครับ?” เทอร์เเรนซ์ถาม เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ยกนิ้วขึ้นนิ้วเดียว เทอร์แรนซ์ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ด้วยความเคารพ ท่านอาจารย์ เพิ่มเงินแค่หนึ่งแสนดอลลาร์ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนักนะครับ!” “ฮะ! ฉันเกือบจะ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฟเดริโก้ก็นิ่งชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเย้ยหยัน “…ผมเข้าใจแล้วครับ ท่านอาจารย์! ผมรู้แล้วว่าผมจะต้องทำอะไรหลังจากนี้!” เขามีแผนการบางอย่างในใจอยู่แล้ว เนื่องจากเจอรัลด์ได้เสนอราคาที่สูงลิบลิ่ว จึงไม่มีใครกล้าที่จะแข่งขันกับเขา แม้แต่แฟนคลับของเฟเดริโก้เองก็ยังจ้องมองเจอรัลด์ด้วยความประหลาดใจ ท้ายที่สุด ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าคนหน้าตาธรรมดาคนนี้จะเป็นเจ้าของเงินจำนวนมากขนาดนี้! เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจอรัลด์ร่ำรวยเพียงใด ผู้หญิงบางคนก็ขยิบตาให้เขาแล้ว และพยายามอย่างมากที่จะทำให้เขาสนใจ กลวิธีดังกล่าวเคยใช้ได้ผลกับเจอรัลด์ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ? ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด แม้ว่าเงินจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา แต่เจอรัลด์ก็ไม่ใช่คนที่จะใช้จ่ายตามอำเภอใจ เขาเต็มใจที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้มาซึ่งแส้หางม้าแห่งสวรรค์เท่านั้น เนื่องจากเขาต้องการที่จะสอบถามผู้จัดงานประมูลว่าเขาได้แส้มาจากที่ไหนและอย่างไร ด้วยเหตุนี้ เขาจึงขอพบกับผู้จัดการเมื่องานประมูลจบลงแล้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้น พนักงานบริการก็วิ่งออกไปทันทีเพื่อเชิญผู้จัดการออกมาพบเขา และหลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนรูป
หลังจากที่ประตูห้องถูกเปิดออก เจอรัลด์ เทอร์แรนซ์ และทุกคนก็เดินเข้าไป วินาทีที่พวกเขาเข้าไปข้างใน พวกเขาได้รับการต้อนรับทันทีด้วยสายตาของเฟเดริโก้ ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่หัวโต๊ะ เฟเดริโก้ยิ้มกว้างขณะที่เขายืนขึ้น จากนั้นเขาก็พูดว่า “สวัสดีครับ คุณลุงเชอร์วิน! ไม่คิดเลยว่าจะได้พบคุณอีกเร็วขนาดนี้!” “คุณนั่นเองที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ เฟเดริโก้!” เทอเเรนซ์คำรามด้วยความโกรธ “เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องโกรธกันเลย ลุงเชอร์วิน! นอกจากผมอยากจะระลึกถึงคุณแล้ว วันนี้ที่ผมเรียกพวกคุณมาก็เพราะว่าผมต้องการที่จะทักทาย และต้อนรับคุณคลอฟอร์ดอย่างอบอุ่นที่สุดอีกด้วย!” เฟเดริโก้ตอบ หลังจากนั้น เขาก็ตบมือก่อนจะออกคำสั่ง “เสิร์ฟชาให้แขก!” หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานเสิร์ฟก็เดินมาพร้อมกับกาน้ำชาในมือ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เปิดฝากาน้ำชาออก ก็พบว่าข้างในมีแต่ผงชา! ยิ่งไปกว่านั้น ผงชาเองก็มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างมากลอยออกมา! เพียงเท่านั้นก็ดูออกแล้วว่าเฟเดริโก้กำลังจะสื่อว่าพวกเขาไม่คู่ควรที่จะมาร่วมโต๊ะอาหารกับเขา แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายเชิญก็ตาม! “ทำอย่างนี้หมายความว่ายังไ
หลังจากนั้น ทั้งเฟเดริโก้และผู้จัดการเวเฟอร์เรอร์ก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น แม้แต่พนักงานเสิร์ฟ ซึ่งกำลังเสิร์ฟอาหารอยู่ ก็ดูเหมือนจะจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างเย็นชาเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว การตกเป็นเป้าหมายของเฟเดริโก้ก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกปีศาจคัดเลือกเป็นการส่วนตัว ให้ต้องมาพบกับจุดจบที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง... “คุณต้องล้อเล่นแน่นอน นายน้อยดัน คุณไม่ได้พูดจริงใช่ไหมที่จะขอซื้อมันด้วยเงินแค่สิบเหรียญ?” เจอรัลด์ตอบอย่างไม่แน่ใจว่าเฟเดริโก้ไปเอาความมั่นใจทั้งหมดนี้มาจากไหน มันอาจจะเป็นเพราะเขามีชายชุดดำอยู่เคียงข้างหรือไม่…? “ผมรับรองว่าผมจริงจังกับเรื่องนี้มาก! ไม่มากไปกว่านี้ และไม่น้อยไปกว่านี้อย่างแน่นอน!” เฟเดริโก้กล่าว “…ดีมาก ถ้าอย่างนั้น! ผมจะยอมตกลงภายใต้เงื่อนไขเพียงข้อเดียวเท่านั้น!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้ม “บอกมาได้เลย!” “มันง่ายนิดเดียว หากคุณยังต้องการให้ข้อตกลงนี้ดำเนินต่อไป คุณเพียงแค่ต้องสังเวยชีวิตของสมาชิกในครอบครัวของคุณ! เมื่อคุณตกลงตามนั้น ผมจะขายแส้หางม้าแห่งสวรรค์ให้คุณในราคาสิบดอลลาร์ตามที่คุณเสนอ นั่นน่าจะฟังดูเป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ ใช่ไหม นายน้อย
การที่ชายคนนี้เรียกชื่อเขาแบบนั้น… บวกกับน้ำเสียงของเขา ทั้งสองสิ่งนี้บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขารู้เกี่ยวกับอดีตและภูมิหลังของเจอรัลด์เป็นอย่างดี… “…เราเคยพบกันมาก่อนหรือเปล่า? ฉันไม่คิดว่าฉันเคยรู้จักอาจารย์คนไหนที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางวิญญาณแบบแกมาก่อน!” เจอรัลด์กล่าวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งชายในชุดดำและเฟเดริโก้ก็หัวเราะออกมาทันที “นี่ก็เป็นอีกครั้งที่แกทำตัวโง่เขลาเช่นเคย...! ฉันไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าแกจะยังทำเป็นนิ่งเฉยได้ถึงขนาดนี้ แม้ว่าฉันจะเปิดโปงธาตุแท้ของแกให้ทุกคนรู้แล้วก็ตาม! ไม่ว่าอย่างไร… แกอยากจะรู้จริง ๆ ใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันเกรงว่าแกจะตกใจอย่างมากเมื่อรู้ตัวตนที่แท้จริงของฉัน!” ชายชุดดำตอบด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ หลังจากมองไปที่เฟเดริโก้ที่กำลังทำหน้าดูถูกดูแคลนเขาแล้ว เจอรัลด์ก็หันไปเผชิญหน้ากับชายในชุดดำที่กำลังเยาะเย้ยเขาอยู่ เขาไม่รู้เลยว่าทั้งสองคนหัวเราะทำไม แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเจอรัลด์ที่จะใช้นิมิตจากสวรรค์ เพื่อค้นหาว่าชายในชุดดำผู้นี้เป็นใคร แต่หลังจากที่พิจารณาจากผ้าคลุมสีดำโกโรโกโสของเขาแล้ว เจอรัล
“ฟังจากที่แกเล่าแล้ว ฉันสามารถพูดได้เลยว่าแกเป็นคนที่โชคดีจริง ๆ ถึงกระนั้นก็เถอะ ทำไมถึงใช้ชื่อว่าอาจารย์หยินหยางล่ะ?” เจอรัลด์ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “ชื่อมักจะถูกตั้งตามลักษณะและตัวตนของคนคนนั้น ไม่ว่าอย่างไร แกยังคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีพลังแข็งแกร่งอยู่อีกเหรอ เจอรัลด์?” หยินหยางเย้ยหยัน “ฉันคงไม่ฝันไปถึงขั้นนั้นหรอก!” เจอรัลด์ตอบ ในขณะที่เขาส่ายหัว “เลิกแสดงต่อหน้าฉันได้แล้ว! แม้ว่าฉันจะยอมรับว่าแกมีพลังและพรสวรรค์อย่างมากจากการเผชิญหน้าครั้งก่อนของเรา แต่ฉันจะบอกให้รู้เอาไว้ว่าในตอนนั้นเราได้เห็นโลกเพียงส่วนน้อยเท่านั้น! ฉันจะบอกไว้ตอนนี้เลยว่า เหล่าอาจารย์ที่เก่งกาจที่ควบคุมโลกเอาไว้คือผู้ที่ฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางวิญญาณเท่านั้น! ด้วยพลังและความสามารถที่ยิ่งใหญ่และหาที่เปรียบไม่ได้ พวกเขาสามารถครองโลกได้อย่างง่ายดายหากต้องการ! ความจริงก็คือ ในทุก ๆ ประเทศทั่วโลกนั้น จะมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่ฝึกฝนตนเองเพื่อหมายจะบรรลุการตรัสรู้ทางวิญญาณ!” “ถึงฉันจะเป็นหนึ่งในผู้ฝึกเหล่านั้น และได้รับฉายาว่าอาจารย์หยินหยาง ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นว่าฉันเป็นหนึ่งในบุคคลชั้นนำของโลกแล้ว แต่ฉ
เจอรัลด์เลือกที่จะไม่โต้ตอบเขาด้วยวาจา เขาเพียงแค่เลียนแบบสิ่งที่หยินหยางทำก่อนหน้านี้ เขาใช้กลยุทธ์ดาบปลิดวิญญาณ ก่อนที่จะเล็งแบบสุ่มเป้าหมาย... ทันใดนั้น ห้องก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทำให้กำแพงโดยรอบแตกร้าวและพังทลายลงมา! หลังจากนั้น ดาบขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงสีม่วงและสีดำก็ปรากฏขึ้น! แค่พลังที่แท้จริงของกระบวนการอัญเชิญดาบเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้เกิดลมพัดแรงไปทั่วทั้งบริเวณ ในเวลาต่อมา เทอร์แรนซ์และผู้จัดการเวเฟอร์เรอร์ ซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง ก็รู้สึกได้ว่ามุมปากของพวกเขามีเลือดออกเนื่องจากแรงลมอันแหลมคมที่ปะทะเข้ามา! อย่างไรก็ตาม พวกเขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการจ้องมองดาบแห่งแสงที่ดูทรงพลังด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ก่อนที่พวกเขาจะสังเกตเห็นว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บ! มันดูทรงพลังมาก จนอาจจะส่งผลให้ร้านอาหารทั้งหมดพังทลายได้อย่างง่ายดาย ด้วยการแกว่งดาบเพียงครั้งเดียว! ด้วยการขยับเขยื้อนเพียงเล็กน้อย เจอรัลด์ทำให้ดาบหายไปชั่วขณะ… เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันก็มีขนาดเล็กลง อย่างไรก็ตาม เมื่อดาบแห่งแสงพุ่งผ่านใบหน้าของหยินหยาง มันก็ทำให้เลือดไหลลงมาอาบที่แก้มขวาของเขาอย่างต่อเนื่อง... เมื
“ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย คุณคลอฟอร์ด…! ผมขอร้อง…!" หยินหยางอ้อนวอนและพยายามขอความเมตตาจากเจอรัลด์ ถึงแม้ว่าเฟเดริโก้จะยังคงคุกเข่าอ้อนวอนอยู่ แต่เขาก็ยังสงสัยว่าทำไมคนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาถึงมีอำนาจมากขนาดนี้ หลังจากกลายเป็นศิษย์ของหยินหยาง และเข้าสู่ขั้นตอนแห่งการฝึกฝน เฟเดริโก้ก็ค่อนข้างหยิ่งยโสเป็นธรรมดาอยู่แล้ว และไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะยอมจำนนต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งจากก้นบึ้งของหัวใจ ด้วยความคิดนั้น เขาฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว และเริ่มคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ! ไม่มีทางที่เขาจะยอมอ่อนข้อให้คนที่อายุเท่าเขา! 'ฉันไม่ค่อยมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้เลย...! แม้ว่าอาจารย์จะยอมคุกเข่าต่อหน้าแก แต่ฉันก็ยอมรับในการกระทำของเขาไม่ได้! ตอนนี้ฉันกลายเป็นลูกผู้ชายตัวจริงแล้ว ด้วยการยอมจำนนอย่างมีชั้นเชิง! จำคำพูดของฉันเอาไว้ให้ดี สักวันหนึ่ง ฉันจะกลับมาแก้แค้นแกอย่างแน่นอน…!' เฟเดริโก้คิดกับตัวเอง เมื่อคิดในใจแล้วว่านี่เป็นการล่าถอยเชิงกลยุทธ์ เฟเดริโก้จึงเต็มใจที่จะร้องขอความเมตตาต่อไป “ฉันยินดีที่จะไว้ชีวิตพวกแก เพราะฉันเองก็ไม่เคยแม้แต่จะบอกว่าฉันจะฆ่าพ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ