“ฮ่าฮ่าฮ่า! นายท่าน ผมบอกแล้วว่าไอ้หนุ่มคนนี้เป็นคนบ้า เขาคงจะบ้าไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว!”ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นพร้อมใจกันหัวเราะเสียงดัง แม้แต่ยีลีนเองก็ยังมองเจอรัลด์ราวกับเขาเป็นคนโง่ต้องมีบางอย่างผิดปกติกับสมองของชายคนนี้แน่เขาน่าจะฉลาดกว่านี้อีกหน่อย และคุกเข่าอ้อนวอนไทล่าเพื่อขอความเมตตาจากเขา แต่ถึงกระนั้น เขากลับพูดเรื่องไร้สาระโดยไม่ใช้สมองคิดไตร่ตรองเลยสักนิด ไม่ อันที่จริงเขากำลังพูดเหมือนเขาเป็นคนบ้าเสียด้วยซ้ำเขาใกล้จะตายอยู่แล้ว! เดิมทียีลีนรู้สึกสงสารเขา แต่ตอนนี้เธอกลับไม่รู้สึกเห็นใจเขาอีกต่อไปแล้ว'มันเป็นคนโง่ และมันก็สมควรตายจริง ๆ!' ยีลีนคิดกับตัวเอง“อาจารย์ดาริโอ ฉันหัวเราะมามากพอแล้ว ตอนแรกฉันคิดว่าการฆ่าเขาควรจะเป็นเรื่องที่โหดร้าย อย่างไรก็ตาม ฉันไม่เคยคาดคิดเลยว่าไอ้หนุ่มคนนี้จะเปลี่ยนเรื่องที่น่ากลัวนี้ให้กลายเป็นเรื่องที่น่าขบขันไปได้ ลืมมันซะเถอะ! ฆ่ามันซะเดี๋ยวนี้ แล้วให้ยีลีนเป็นพยานการตายของมันด้วยตาของเธอเอง!”ไทล่าส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวบนใบหน้าของเขาปากของดาริโอโค้งเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ในตอนนี้เอง ดาริโอเดินตรงไ
เขาดูไม่ต่างอะไรกับปีศาจ ปีศาจที่สามารถฆ่าใครก็ได้อย่างง่ายดายด้วยการสะบัดนิ้วเพียงครั้งเดียว!“อย่าขยับ! ไม่ต้องขยับแล้ว! ฉันอยากให้ทุกคนถอยกลับไป!”ไทล่ายกมือส่งสัญญาณให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหยุดทำอะไรที่ผลีผลามจากนั้นไทล่าก็ค่อย ๆ เดินไปข้างหน้าเจอรัลด์ ก่อนที่เขาจะคุกเข่าลงตรงหน้าเขาเสียงดังตุ๊บ“นายท่าน ผม… ผมผิดไปแล้ว!”ไทล่าโค้งคำนับเจอรัลด์ด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพ"ดีมาก แกฉลาดมากจริง ๆ พูดคุยกับฉันดี ๆ แบบนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีและฉลาดที่สุดที่แกเคยทำมาตลอดทั้งชีวิตของแก!”เจอรัลด์ไม่เคยนึกถึงความยุติธรรมหรือความชอบธรรม เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องเผชิญหน้ากับคนประเภทนี้มีเพียงความกลัว ความหวาดกลัวจากส่วนลึกภายในร่างกายและจิตใจเท่านั้นที่จะโน้มน้าวให้บุคคลยอมจำนนอย่างแท้จริง“ผม… ผมก็ผิดเหมือนกัน! ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย! ผมเต็มใจที่จะจงรักภักดีต่อคุณและรับใช้เคียงข้างคุณนับจากนี้เป็นต้นไป!”สำหรับดาริโอ เมื่อเขาเห็นว่าไทล่าหาวิธีเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิดหลังจากที่เขาคุกเข่าต่อหน้าเจอรัลด์ ดาริโอจึงรีบคุกเข่าคำนับต่อหน้าเขาเช่นกัน"แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกคิดจริง ๆ เ
ในห้องรับแขกของคฤหาสน์แซนด์ทอสชายวัยกลางคนและชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟา ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกับคนอีกเจ็ดคนที่สวมเครื่องแบบสีดำทั้งหมดด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโบราณสถานแห่งนั้นโดยตรง และจะเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะทำให้โลกทั้งใบต้องสั่นสะเทือน ครั้งนี้เราจึงต้องระมัดระวังและพิถีพิถันเป็นพิเศษ สำหรับคุณทั้งเจ็ดคน คุณมีทักษะและความสามารถที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องพึ่งพาอาจารย์อย่างพวกคุณให้มาช่วยเราในอนาคต”ชายวัยกลางคนกล่าว ขณะที่เขาหัวเราะพร้อมกับถือถ้วยชาในมือชายวัยกลางคนคนนี้คือเวสสัน แซนด์ทอส และเขายังเป็นผู้นำของตระกูลแซนด์ทอสอีกด้วย เขาถือเป็นกองกำลังของครอบครัวที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง เวสสันเป็นคนโหดร้ายและไร้ความปรานี แต่เขาก็เป็นคนที่เคารพบูชาในศาสนามาโดยตลอด เขาขยายและสร้างครอบครัวอย่างต่อเนื่องด้วยความช่วยเหลือและความเชื่อมโยงจากกองกำลังใต้ดินต่าง ๆ ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เขาคือสโลน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่านายน้อยแซนด์ทอส ดูเหมือนว่าเขาจะสืบทอดคุณลักษณะทั้งหมดของเวสสันมา และเขายังเหนือกว่าพ่อของเขาในบางด้
“นี่คือคุณคลอฟอร์ด คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด!” ไทล่ากล่าวด้วยความเคารพ ในขณะที่เขาแนะนำเจอรัลด์"คุณคลอฟอร์ดเดินทางมาที่นี่ในวันนี้เพื่อตามหาอาจารย์สองสามคนที่ประธานแซนด์ทอสเชิญมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อนของคุณคลอฟอร์ด ในขณะเดียวกัน คุณคลอฟอร์ดก็อยากจะเห็นและต้องการที่จะตรวจสอบปาฏิหาริย์ที่พวกเราค้นพบด้วย!”ในเวลานี้ ไทล่าพยายามปฏิบัติตัวเหมือนลูกกตัญญูต่อหน้าเจอรัลด์ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเข้าลึกด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่อยู่ภายในในขณะเดียวกัน เวสสันเองก็เพิ่งจะได้รับข้อมูลและเบาะแสที่สำคัญบางอย่างเขาเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าคนที่อยู่ในถ้ำที่กำลังจะถูกเขาวางยานั้น แท้จริงแล้วเป็นเพื่อนของชายหนุ่มคนนี้และสิ่งนี้ก็ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย"โอ้! งั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เราจะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้! กลายเป็นว่าคุณเป็นเพื่อนของอาจารย์เหล่านั้นนี่เอง!” เวสสันพูดพร้อมกับส่งยิ้ม เขายื่นมือออกไปเพื่อที่จะขอจับมือกับเจอรัลด์“หยุดพูดจาไร้สาระ และพาฉันไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้!”เจอรัลด์ใช้สายตาอันเฉียบคมของเขากวาดไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว จากนั
หลังจากนั้นไม่นาน เจอรัลด์ ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนรถที่เวสสันให้คนของเขาขับไปส่ง ก็รู้สึกว่าจู่ ๆ รถได้หยุดอย่างกะทันหัน เมื่อเขาหันไปมองคนขับ เจอรัลด์ก็เห็นว่าเขากำลังจุดบุหรี่และชำเลืองมองที่กระจกมองหลัง ก่อนจะยิ้มให้เจอรัลด์อย่างเย็นชา เมื่อเห็นท่าทางที่แปลกประหลาดของคนขับรถ เจอรัลด์จึงถามเขาว่า “เรามาถึงครึ่งทางแล้วใช่ไหม? นายหยุดรถทำไมกัน?” “โอ้ ผมทราบครับ ผมก็แค่รู้สึกเหนื่อย ผมขอพักสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ!” คนขับตอบกลับด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม "เหนื่อยงั้นเหรอ? ขอร้องล่ะ นายไม่ได้ขับรถมานานขนาดนั้น ฟังนะ นายจะทำอะไรก็ได้ตอนที่ไปส่งฉันจนถึงที่หมายแล้ว แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น นายควรจะขับต่อไปให้ดี!” เจอรัลด์พูด ขณะที่เขาส่ายหัว หากจะให้พูดตามตรง เจอรัลด์ไม่ได้อยากฆ่าคนโดยที่ไม่มีเหตุจำเป็นนัก เพราะทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น หากเขาไม่ได้มีมุมมองเกี่ยวกับชีวิตแบบนั้น เขาก็คงใช้เวลาน้อยลงในการพูดจาไร้สาระกับคนพวกนี้ และฆ่าพวกเขาให้หมดเท่าที่เขาจะทำได้ “ฮะ! คุณคิดว่าคุณใหญ่โตมาจากไหนเหรอ?” คนขับเยาะเย้ย ในขณะที่เขาหันไปมองกระจกมองหลังอีกครั้ง ในตอนนั้นเอง เขาก็หันไปเห็นร
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเย้ยหยันเจอรัลด์ แต่ทั้งหกก็ต้องรีบถอยหลังไปสองสามก้าวทันทีด้วยความตกใจ เจอรัลด์เองก็ส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ผมบอกพวกคุณแล้วใช่ไหมว่าผู้คนจะชอบชะล่าใจและคิดว่าพวกเขาสามารถฆ่าผมได้ง่าย ๆ พวกคุณก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนเหล่านั้นเลย เอาตามตรงเลยนะ พวกคุณมันก็แค่เศษฝุ่นสำหรับผม... และผมก็ทนเห็นเศษฝุ่นไม่ได้!” หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็ตวัดนิ้วใส่พวกเขา จากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ในขณะที่มีลมหมุนที่รุนแรงพุ่งเข้าหาคนทั้งหกอย่างรวดเร็ว! ในขณะนี้ ฝุ่นกำลังฟุ้งกระจายไปทุกทิศทุกทางจากแรงระเบิดของอากาศที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก คนทั้งหกหันหนีทันทีโดยสัญชาตญาณ พวกเขาตั้งใจที่จะหลบหนี! ท้ายที่สุด พวกเขารู้ความจริงว่าหากพวกเขาถูกโจมตีโดยพลังอันมหาศาลนั้น พวกเขาก็จะต้องตายในทันที ช่างเป็นพลังที่โหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรม! ในขณะที่การวิ่งหนีเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาคิดได้ในตอนนี้ แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครสามารถที่จะยกขาขึ้นได้ด้วยซ้ำ! ราวกับว่าครึ่งล่างของร่างกายของพวกเขาไร้ความรู้สึก และกำลังถูกบางอย่างครอบงำอยู่! พวกเขาทั้งหกคนไม่สามารถที่จะหลบหนีไปไหนได้ ร่างของพวกเขาหยุดนิ่งอยู่กับที
ไม่นานหลังจากที่เธอพูดเช่นนั้น ทุกคนก็มองเห็นร่างร่างหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้า ๆ จากระยะไกล... และทันทีที่เขาเข้าใกล้มากพอ ตาของลีโอก็เป็นประกายในขณะที่เขาตะโกนเสียงดังว่า “นั่นคุณจริง ๆ ด้วย คุณคลอฟอร์ด!” เมื่อรู้ว่าเจอรัลด์มาถึงแล้ว ปีเตอร์ก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยเช่นกัน… จนกระทั่งเขาได้มองเห็นเจอรัลด์ใกล้ ๆ ปีเตอร์ก็ถึงกับตกตะลึงและเบิกตากว้างก่อนจะพึมพำออกมาว่า “…เจอรัลด์… เกิดอะไรขึ้นกับทักษะและพลังของคุณ…?” เวลาผ่านมาเพียงไม่กี่วันนับตั้งแต่ที่เขาได้พบกับเจอรัลด์เป็นครั้งสุดท้าย… เจอรัลด์สามารถพัฒนาพละกำลังของเขาให้มีความแข็งแกร่งจนน่ากลัวเป็นอย่างมากภายในระยะเวลาสั้น ๆ แบบนั้นได้อย่างไร…? 'ก็อย่างที่คุณล็อคแลนด์พูด เป็นไปได้ไหมว่าเจอรัลด์อาจจะไม่ใช่แค่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไปแล้ว...?' "เป็นไปตามนั้น ผมถามทุกคนมาตลอดทางจนในที่สุดก็ได้พบกับทุกคนที่นี่ครับ! คุณไซล่า!” เจอรัลด์ตอบในขณะที่เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปมองโลกที่สามารถมองเห็นได้อย่างเลือนลางซึ่งกำลังลอยอยู่เหนือเขาในตอนนี้... หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ตั้งสติจากอาการประหลาดใจก่อนจะพูดว่า “… ผ
หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเจอรัลด์แล้ว ปีเตอร์ก็พูดขึ้นว่า “นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ทักษะและพลังของคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงสามวัน!” “นั่นคือเรื่องราวทั้งหมด… ในท้ายที่สุด ฉันเดาว่าบางสิ่งมักจะจบลงด้วยการถูกเปิดเผยเสมอ ไม่ว่าเราจะพยายามปิดบังมันมากแค่ไหนก็ตาม… ทุกอย่างเป็นไปตามที่โชคชะตากำหนด… คุณรู้ไหม ลีมิสเคยบอกกับฉันว่า แม้แต่ผู้ที่ปกครองดินแดนแห่งจาเอลตราซึ่งมีอำนาจมากที่สุด ก็ไม่สามารถที่จะหลีกหนีชะตากรรมของตัวเองได้… และก็เป็นจริงตามที่เขาพูด เพราะแม้แต่ตัวลีมิสเองก็ยังไม่สามารถปฏิเสธชะตากรรมของตัวเองได้เช่นกัน! ไม่คิดเลยว่าวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังจะเป็นพลังที่แข็งแกร่งจนสามารถทำลายขีดจำกัดสูงสุดได้!” ไซล่าอธิบาย “…ทำลาย… ขีดจำกัดสูงสุด…?” ทั้งลีโอและปีเตอร์พึมพำพร้อมกัน "ใช่แล้ว คุณเห็นไหมว่าขีดจำกัดสูงสุดนั้นไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุด… มันมีความสามารถในการคงความแข็งแกร่งอย่างไม่มีขีดจำกัด และไม่ควรมีใครที่มีความสามารถมากพอที่จะเข้าถึงมันได้! แต่เคยมีตำนานเล่าว่า วิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังสามารถทำลายมันได้!” เมื่อได้ยินคำอธิบายของไซล่า ทุกคนก็รู้สึกประหลาดใจและ