ในห้องรับแขกของคฤหาสน์แซนด์ทอสชายวัยกลางคนและชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟา ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกับคนอีกเจ็ดคนที่สวมเครื่องแบบสีดำทั้งหมดด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโบราณสถานแห่งนั้นโดยตรง และจะเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะทำให้โลกทั้งใบต้องสั่นสะเทือน ครั้งนี้เราจึงต้องระมัดระวังและพิถีพิถันเป็นพิเศษ สำหรับคุณทั้งเจ็ดคน คุณมีทักษะและความสามารถที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องพึ่งพาอาจารย์อย่างพวกคุณให้มาช่วยเราในอนาคต”ชายวัยกลางคนกล่าว ขณะที่เขาหัวเราะพร้อมกับถือถ้วยชาในมือชายวัยกลางคนคนนี้คือเวสสัน แซนด์ทอส และเขายังเป็นผู้นำของตระกูลแซนด์ทอสอีกด้วย เขาถือเป็นกองกำลังของครอบครัวที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง เวสสันเป็นคนโหดร้ายและไร้ความปรานี แต่เขาก็เป็นคนที่เคารพบูชาในศาสนามาโดยตลอด เขาขยายและสร้างครอบครัวอย่างต่อเนื่องด้วยความช่วยเหลือและความเชื่อมโยงจากกองกำลังใต้ดินต่าง ๆ ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เขาคือสโลน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่านายน้อยแซนด์ทอส ดูเหมือนว่าเขาจะสืบทอดคุณลักษณะทั้งหมดของเวสสันมา และเขายังเหนือกว่าพ่อของเขาในบางด้
“นี่คือคุณคลอฟอร์ด คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด!” ไทล่ากล่าวด้วยความเคารพ ในขณะที่เขาแนะนำเจอรัลด์"คุณคลอฟอร์ดเดินทางมาที่นี่ในวันนี้เพื่อตามหาอาจารย์สองสามคนที่ประธานแซนด์ทอสเชิญมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาทั้งหมดเป็นเพื่อนของคุณคลอฟอร์ด ในขณะเดียวกัน คุณคลอฟอร์ดก็อยากจะเห็นและต้องการที่จะตรวจสอบปาฏิหาริย์ที่พวกเราค้นพบด้วย!”ในเวลานี้ ไทล่าพยายามปฏิบัติตัวเหมือนลูกกตัญญูต่อหน้าเจอรัลด์ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเข้าลึกด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่อยู่ภายในในขณะเดียวกัน เวสสันเองก็เพิ่งจะได้รับข้อมูลและเบาะแสที่สำคัญบางอย่างเขาเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าคนที่อยู่ในถ้ำที่กำลังจะถูกเขาวางยานั้น แท้จริงแล้วเป็นเพื่อนของชายหนุ่มคนนี้และสิ่งนี้ก็ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย"โอ้! งั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เราจะพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้! กลายเป็นว่าคุณเป็นเพื่อนของอาจารย์เหล่านั้นนี่เอง!” เวสสันพูดพร้อมกับส่งยิ้ม เขายื่นมือออกไปเพื่อที่จะขอจับมือกับเจอรัลด์“หยุดพูดจาไร้สาระ และพาฉันไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้!”เจอรัลด์ใช้สายตาอันเฉียบคมของเขากวาดไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว จากนั
หลังจากนั้นไม่นาน เจอรัลด์ ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนรถที่เวสสันให้คนของเขาขับไปส่ง ก็รู้สึกว่าจู่ ๆ รถได้หยุดอย่างกะทันหัน เมื่อเขาหันไปมองคนขับ เจอรัลด์ก็เห็นว่าเขากำลังจุดบุหรี่และชำเลืองมองที่กระจกมองหลัง ก่อนจะยิ้มให้เจอรัลด์อย่างเย็นชา เมื่อเห็นท่าทางที่แปลกประหลาดของคนขับรถ เจอรัลด์จึงถามเขาว่า “เรามาถึงครึ่งทางแล้วใช่ไหม? นายหยุดรถทำไมกัน?” “โอ้ ผมทราบครับ ผมก็แค่รู้สึกเหนื่อย ผมขอพักสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ!” คนขับตอบกลับด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม "เหนื่อยงั้นเหรอ? ขอร้องล่ะ นายไม่ได้ขับรถมานานขนาดนั้น ฟังนะ นายจะทำอะไรก็ได้ตอนที่ไปส่งฉันจนถึงที่หมายแล้ว แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น นายควรจะขับต่อไปให้ดี!” เจอรัลด์พูด ขณะที่เขาส่ายหัว หากจะให้พูดตามตรง เจอรัลด์ไม่ได้อยากฆ่าคนโดยที่ไม่มีเหตุจำเป็นนัก เพราะทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น หากเขาไม่ได้มีมุมมองเกี่ยวกับชีวิตแบบนั้น เขาก็คงใช้เวลาน้อยลงในการพูดจาไร้สาระกับคนพวกนี้ และฆ่าพวกเขาให้หมดเท่าที่เขาจะทำได้ “ฮะ! คุณคิดว่าคุณใหญ่โตมาจากไหนเหรอ?” คนขับเยาะเย้ย ในขณะที่เขาหันไปมองกระจกมองหลังอีกครั้ง ในตอนนั้นเอง เขาก็หันไปเห็นร
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเย้ยหยันเจอรัลด์ แต่ทั้งหกก็ต้องรีบถอยหลังไปสองสามก้าวทันทีด้วยความตกใจ เจอรัลด์เองก็ส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ผมบอกพวกคุณแล้วใช่ไหมว่าผู้คนจะชอบชะล่าใจและคิดว่าพวกเขาสามารถฆ่าผมได้ง่าย ๆ พวกคุณก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนเหล่านั้นเลย เอาตามตรงเลยนะ พวกคุณมันก็แค่เศษฝุ่นสำหรับผม... และผมก็ทนเห็นเศษฝุ่นไม่ได้!” หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็ตวัดนิ้วใส่พวกเขา จากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ในขณะที่มีลมหมุนที่รุนแรงพุ่งเข้าหาคนทั้งหกอย่างรวดเร็ว! ในขณะนี้ ฝุ่นกำลังฟุ้งกระจายไปทุกทิศทุกทางจากแรงระเบิดของอากาศที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก คนทั้งหกหันหนีทันทีโดยสัญชาตญาณ พวกเขาตั้งใจที่จะหลบหนี! ท้ายที่สุด พวกเขารู้ความจริงว่าหากพวกเขาถูกโจมตีโดยพลังอันมหาศาลนั้น พวกเขาก็จะต้องตายในทันที ช่างเป็นพลังที่โหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรม! ในขณะที่การวิ่งหนีเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาคิดได้ในตอนนี้ แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครสามารถที่จะยกขาขึ้นได้ด้วยซ้ำ! ราวกับว่าครึ่งล่างของร่างกายของพวกเขาไร้ความรู้สึก และกำลังถูกบางอย่างครอบงำอยู่! พวกเขาทั้งหกคนไม่สามารถที่จะหลบหนีไปไหนได้ ร่างของพวกเขาหยุดนิ่งอยู่กับที
ไม่นานหลังจากที่เธอพูดเช่นนั้น ทุกคนก็มองเห็นร่างร่างหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้า ๆ จากระยะไกล... และทันทีที่เขาเข้าใกล้มากพอ ตาของลีโอก็เป็นประกายในขณะที่เขาตะโกนเสียงดังว่า “นั่นคุณจริง ๆ ด้วย คุณคลอฟอร์ด!” เมื่อรู้ว่าเจอรัลด์มาถึงแล้ว ปีเตอร์ก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยเช่นกัน… จนกระทั่งเขาได้มองเห็นเจอรัลด์ใกล้ ๆ ปีเตอร์ก็ถึงกับตกตะลึงและเบิกตากว้างก่อนจะพึมพำออกมาว่า “…เจอรัลด์… เกิดอะไรขึ้นกับทักษะและพลังของคุณ…?” เวลาผ่านมาเพียงไม่กี่วันนับตั้งแต่ที่เขาได้พบกับเจอรัลด์เป็นครั้งสุดท้าย… เจอรัลด์สามารถพัฒนาพละกำลังของเขาให้มีความแข็งแกร่งจนน่ากลัวเป็นอย่างมากภายในระยะเวลาสั้น ๆ แบบนั้นได้อย่างไร…? 'ก็อย่างที่คุณล็อคแลนด์พูด เป็นไปได้ไหมว่าเจอรัลด์อาจจะไม่ใช่แค่มนุษย์ธรรมดาอีกต่อไปแล้ว...?' "เป็นไปตามนั้น ผมถามทุกคนมาตลอดทางจนในที่สุดก็ได้พบกับทุกคนที่นี่ครับ! คุณไซล่า!” เจอรัลด์ตอบในขณะที่เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปมองโลกที่สามารถมองเห็นได้อย่างเลือนลางซึ่งกำลังลอยอยู่เหนือเขาในตอนนี้... หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ตั้งสติจากอาการประหลาดใจก่อนจะพูดว่า “… ผ
หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเจอรัลด์แล้ว ปีเตอร์ก็พูดขึ้นว่า “นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ทักษะและพลังของคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงสามวัน!” “นั่นคือเรื่องราวทั้งหมด… ในท้ายที่สุด ฉันเดาว่าบางสิ่งมักจะจบลงด้วยการถูกเปิดเผยเสมอ ไม่ว่าเราจะพยายามปิดบังมันมากแค่ไหนก็ตาม… ทุกอย่างเป็นไปตามที่โชคชะตากำหนด… คุณรู้ไหม ลีมิสเคยบอกกับฉันว่า แม้แต่ผู้ที่ปกครองดินแดนแห่งจาเอลตราซึ่งมีอำนาจมากที่สุด ก็ไม่สามารถที่จะหลีกหนีชะตากรรมของตัวเองได้… และก็เป็นจริงตามที่เขาพูด เพราะแม้แต่ตัวลีมิสเองก็ยังไม่สามารถปฏิเสธชะตากรรมของตัวเองได้เช่นกัน! ไม่คิดเลยว่าวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังจะเป็นพลังที่แข็งแกร่งจนสามารถทำลายขีดจำกัดสูงสุดได้!” ไซล่าอธิบาย “…ทำลาย… ขีดจำกัดสูงสุด…?” ทั้งลีโอและปีเตอร์พึมพำพร้อมกัน "ใช่แล้ว คุณเห็นไหมว่าขีดจำกัดสูงสุดนั้นไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุด… มันมีความสามารถในการคงความแข็งแกร่งอย่างไม่มีขีดจำกัด และไม่ควรมีใครที่มีความสามารถมากพอที่จะเข้าถึงมันได้! แต่เคยมีตำนานเล่าว่า วิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังสามารถทำลายมันได้!” เมื่อได้ยินคำอธิบายของไซล่า ทุกคนก็รู้สึกประหลาดใจและ
หลังจากนั้น เขาก็ฟังคำอธิบายของไซล่าว่าแท้จริงแล้วฐานพลังเดเลอร์คืออะไร แท้ที่จริงแล้ว ฐานพลังเดเลอร์เป็นส่วนพื้นฐานของผู้ฝึกฝน ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือ มันทำหน้าที่เหมือนแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานที่สุด หากรากฐานของพลังเดเลอร์ถูกทำลาย แม้ว่าคน ๆ นั้นจะฝึกตนให้อยู่ในระดับสูงได้โดยอาศัยความพยายามของพวกเขาเอง พวกเขาก็ไม่มีทางบรรลุถึงร่างและพลังที่แข็งแกร่งที่สุดได้อย่างแท้จริง สำหรับวิธีการปลุกฐานพลังเดเลอร์ขึ้นมานั้น ผู้ฝึกฝนจะต้องผ่านพิธีศีลจุ่มจากสวรรค์ ซึ่งเจอรัลด์ได้ผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว ตามคำแนะนำของผู้นำวิญญาณ ตามที่ไซล่าได้กล่าวเอาไว้ เจอรัลด์ควรปลุกทั้งฐานพลังเดเลอร์และพลังหยิน ซึ่งตอนนี้เขาสามารถควบคุมได้แล้ว หลังจากทำพิธีศีลจุ่มจากสวรรค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฐานพลังเดเลอร์ของเขาถูกทำลายตั้งแต่เริ่มต้น เขาจึงไม่สามารถปลุกสิ่งใดขึ้นมาใช้งานได้เลย นั่นจึงอธิบายได้ว่าทำไมต่อให้ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเขาได้ปลดล็อกศักยภาพขั้นแรกของเขาแล้ว แต่พลังของเขาก็ยังห่างไกลจากความคาดหวังของไซล่า “แล้วผมควรจะทำอย่างไรดีล่ะครับ…? ผมเข้าใกล
“…ตั้งแต่วินาทีที่ฝ่ามือของผมได้สัมผัสกับมัน ผมก็รู้สึกได้ถึงพลังของสิ่งที่ดูเหนือธรรมชาตินี้… คุณรู้ไหมว่าครอบครัวของผมมีภาพวาดของดวงอาทิตย์ที่สามารถทำนายอนาคตได้… แมคคิวชั่นมีพลังที่จะทำนายอนาคตได้เช่นกันหรือไม่?" เจอรัลด์ถามด้วยความสงสัย “มันทำได้ แม้ว่านั่นจะไม่ใช่ความสามารถเดียวของมันก็ตาม ลองใช้จี้หยกเลือดมังกรเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับมันดู ลองถามคำถามที่คุณต้องการที่จะรู้คำตอบอย่างแท้จริง และถ้าคุณโชคดี มันจะให้คำตอบกับคุณ! นี่เป็นโอกาสที่เราจะได้รู้ว่าตำนานที่กล่าวถึงเรื่องพลังเวทย์มนตร์อันยิ่งใหญ่ของแมคคิวชั่นได้แม่นยำเพียงใด” ไซล่าตอบ “เข้าใจแล้วครับ” เจอรัลด์ตอบขณะหลับตาและทำตามที่ไซล่าแนะนำ หลังจากนั้นไม่นาน ลำแสงก็พุ่งออกมาจากจี้ และเคลื่อนเข้าสู่แมคคิวชั่น! แต่หลังจากที่เจอรัลด์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น… เขาและไซล่าตั้งตารอคอยในความเงียบอีกสักพัก และหลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ถึงกับเบิกตากว้าง เมื่อพวกเขาเห็นแมคคิวชั่นซึ่งก่อนหน้านี้เคยวางอยู่บนฝ่ามือของเจอรัลด์ ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ… หลังจากนั้นไม่นาน จู่ ๆ แมคคิวชั่