เมื่อคิดเช่นนั้น ทันใดนั้นเอง ยูเมะก็รู้สึกเริ่มอิจฉาผู้หญิงที่เจอรัลด์ตกหลุมรักขึ้นมา เธอสลัดความคิดนั้นออกแล้วเอ่ยถามขึ้น “...แล้ว...คุณย่าพาผู้หญิงในชุดขาวมา เพื่อให้เจอรัลด์คิดที่จะมาหาเราอย่างนั้นเหรอคะ...?”“ใช่ เพราะสุดท้ายแล้ว นั่นก็เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการล่อเจอรัลด์ให้มาติดกับเรา! ถ้าโชคดี เราคงจับตัวเขาได้ในที่สุด! แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขาจะหลบหนีไปจากเราได้หลายครั้งแบบนี้! ฉันรอรับข่าวดีจากเฟลตันนานแล้วนะ แต่คิดว่าเขาคงหนีไปได้อีกแล้ว!”“...จะว่าไป คุณย่าคะ... วิญญาณบรรพกาลอันทรงพลัง...ซ่อนอยู่ในร่างของเขาเหรอคะ...? นั่นก็หมายความว่าพอคุณย่าจับเขาได้ คุณย่าจะทำร้าย หรือฆ่าเจอรัลด์เหรอคะ...?” ยูเมะถามขึ้นอีเร็ตส่ายหน้าเบา ๆ จากนั้นจึงตอบกลับมา “อย่างที่แกบอก เราต้องการแค่วิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังเท่านั้น ไม่ว่าเราจะฆ่าเขาหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเขาทุกอย่าง!”เมื่อเธอได้ยินดังนั้น ยูเมะก็ทรุดลงเสียงดัง ‘ตุบ’ ทันที ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น “ได้โปรดเถอะค่ะคุณย่า หนูขอร้อง... ได้โปรดอย่าฆ่าเจอรัลด์! เขาไม่เพียงแต่เป็นคนดีเท่านั้น แต่เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้อ
“เพราะแบบนี้ ตอนนี้ฉันถึงหวังให้แกเข้าใจสิ่งที่ฉันกังวลมาโดยตลอด! ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนว่าต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างแล้ว!” อีเร็ตพูดเสริมขึ้น สีหน้าของเธอเคร่งขรึมเมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว ยูเมะที่อ้าปากค้างอยู่สักพักในสภาพตกตะลึง ทำได้เพียงพยักหน้ารับเท่านั้นหลังจากได้รู้เรื่องทั้งหมดนี้แล้ว ยูเมะรู้สึกราวกับว่าได้เปิดโลก หลังจากงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นเธอจึงเอ่ยถามขึ้น “แล้ว... ต้นกำเนิดของตระกูลเราเป็นมายังไงคะคุณย่า...? นอกจากนั้นหนูยังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หลบหนีมาจากอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่มาได้... พวกเขาหนีไปที่ไหนคะ...?”“อ๋อ พวกเขาหนีกระจัดกระจายกันไป! ขณะที่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่บางคนยังคงอยู่บนโลกนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะหนีไปสถานที่ที่เรียกว่าจาเอลตราแทน เพราะมีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มากพอที่จะทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ได้เพียงพอ!”“...จาเอลตราเหรอคะ? เป็นไปได้ไหมคะว่ามันไม่ได้อยู่บนโลกนี้...? ยูเมะถามด้วยความสงสัยอีเร็ตส่ายหน้าจากนั้นจึงตอบกลับไป “ถึงจะอยู่บนโลก แต่มันก็ตั้งอยู่ระหว่างช่องแคบบนโลกนี้ ! แต่ก็น้อยคนน
“อย่าได้กังวลไปเลย ตราบใดที่เจ้าช่วยจับเจอรัลด์ ข้าจะต้องได้รับความสามารถในการเดินทางไปมาระหว่างโลกกับเจลเอลตรา เพราะเหตุนี้ ข้ามั่นใจว่าจะเปลี่ยนตระกูลของเจ้าให้มีพลังอำนาจมากที่สุดได้แน่นอนโดยไม่มีปัญหาอะไรเลย! อีกทั้งเจ้าก็รู้ภูมิหลังข้าแล้วไม่ใช่หรือ? ฮ่า ๆ ๆ! รู้สึกว่าการที่เจอรัลด์บังเอิญปลดปล่อยข้าออกมาในตอนนั้น... คงเป็นรางวัลที่พระเจ้าประทานให้ข้า สำหรับการที่ข้าต้องถูกกักขังมานานนับพันปีเป็นแน่!”เมื่อหันกลับมา อีเร็ตมองชิ้นหยกที่ก่อนหน้านี้วางอยู่ใกล้กับกระถางธูป ขณะที่หยกเปล่งประกายแสงสีดำออกมา หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีดำก็เริ่มหมุนวนอยู่ในอากาศ ก่อนจะกลายร่างเป็นเงาเลือนรางคล้ายวิญญาณเมื่อมองดูใกล้ ๆ วิญญาณที่ปรากฏนั้นเป็นชายหนุ่มที่มีจมูกงองุ้ม และคิ้วเรียวโกงอยู่เหนือดวงตาที่ฉายแววชั่วร้ายออกมาเป็นครั้งคราว ใครจะไปคาดคิดว่าวิญญาณตนนี้ ซึ่งคาดว่าอยู่มานับหมื่นปีแล้ว จะยังคงรักษารูปลักษณ์ของชายหนุ่มเอาไว้ได้!“ฉันขอพูดตรง ๆ ว่าฉันรู้สึกเสียใจที่ยอมตกลงให้ความร่วมมือกับท่านตั้งแต่แรก ท่านราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษา... แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ฉันไม่เคยเต็มใจในการตัดสินใจท
เมื่อได้ฟังดังนั้น หญิงสาวในชุดขาวจึงทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างจำยอมเฝ้ามองร่างของหญิงสาวค่อย ๆ เลือนหายไป เมื่อนางกลับเข้าไปในโลงศพอมตะ ราชาแห่งการพิพากษา ซึ่งตอนนี้เดือดดาลไปด้วยความโกรธแผดเสียงคำรามลั่น “...นางหมายความว่าอย่างไรกัน? นางไม่ได้ฟังสิ่งที่ข้าพูดหรือ?!”“ฉันคิดว่าเธอแสดงออกชัดเจนมาก ตรงไปตรงมา” อีเร็ตซึ่งยืนเอามือไขว้หลังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเอ่ยพูดขึ้น“...เจ้าพูดถึงอะไร?”“ท่านก็รู้ว่าฉันหมายถึงอะไร ผู้หญิงที่เคยอยู่กับนกอินทรีย์จะมาตกหลุมรักกับตั๊กแตนได้ยังไง?” อีเร็ตตอบกลับ โดยไม่ได้คิดทบทวนถึงคำพูดของเธอ“...เจ้าพูดอะไร...?! สารเลว!” ราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษาคำราม ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธในตอนนั้นเองอีเร็ตจึงได้รู้ว่าเธอไม่ควรพูดสิ่งที่เธอคิดกับเขา! เมื่อรู้ว่าเธอทำผิดพลาดมากเพียงใด หญิงชราจึงรีบขอโทษทันที “ฉันควรระวังคำพูด ราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษา! ได้โปรดยกโทษให้ฉัน...!”“...เฮอะ! รีบจัดการให้เรียบร้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าได้ผนึกนางไว้ด้วยวิชากลายร่าง ข้าจะให้นางได้ประจักษ์แก่สายตาว่า ข้าจะทำทุกอย่างที่ข้าพูดไปก่อนหน้าได้สำเร็จ!” ร
เซตจึงวิ่งไปที่ประตู เมื่อเปิดประตูออก เขาก็ได้รับการทักทายด้วยการถูกปลายกระบอกปืนสั้นจ่อมาที่หน้าผาก!เมื่อฟื้นคืนสติจากอาการตกใจ เขาจึงค่อย ๆ ก้าวถอยออกไป ขณะที่บอร์ดี้การ์ดในชุดสูทหลายคนรีบออกจากบ้านไปพร้อมกับซูริและคุณปู่ของเซต ทั้งคู่ถูกจ่อด้วยปากกระบอกปืน“อย่าขยับ ไม่อย่างนั้นฉันจะยิง!” ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนหัวหน้ากลุ่มตะโกนขึ้น ขณะที่บอดี้การ์ดผู้คอยคุ้มกันอีกหลายสิบคนวิ่งออกมาจากโรงเก็บไม้หลังบ้านในตอนนี้เอง ทุกคนที่ไม่ใช่ผู้คุ้มกันถูกปืนหลายกระบอกเล็งมาที่พวกเขา แต่เจอรัลด์ตกเป็นเป้าหมายมากที่สุด หลังจากนั้น ชายวัยกลางคนก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “เป็นไปตามคาดที่คุณคาดเอาไว้ว่าเจอรัลด์จะมาที่นี่ คุณคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำจนไม่น่าเชื่อ คุณหนูใหญ่! คราวนี้เราประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่แล้วจริง ๆ”ในตอนนั้นเอง หญิงสาวและชายหนุ่มที่ดูหล่อเหลาเดินออกมายืนข้างกัน แล้วเผยยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ขณะที่พวกเขามองดูเหตุการณ์ตรงหน้า“ต้องยกความสำเร็จนี้ให้เฟอร์นันโด! ในที่สุดเขาก็เดาถูกว่าใครเป็นสาเหตุของการตายของบอดี้การ์ดตระกูลไซม์ทุกคน! หลังจากนั้นพวกเราจึงมาที่นี่เพื่อซุ่มโจมตีเจอ
ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงอยากจะหัวเราะที่พวกมันพยายามจับตัวเขา“เฮอะ! ขนาดแกกำลังจะตายยังอวดดีอยู่อีกเหรอ? หน้าด้านจริง ๆ! ฉันอยากให้แกรู้เอาไว้ว่าที่ฉันพ่ายแพ้ให้กับแกในวันนั้น เพราะฉันประมาทไป! คิดไม่ถึงว่านับตั้งแต่ที่ฉันแพ้ ฉันรู้ตัวว่าฉันจะไม่มีวันลืมความอัปยศที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นไปตลอดชีวิต! รู้เอาไว้ซะ ฉันสาบานว่าฉันจะฆ่าแกในไม่ช้าก็เร็ว เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของฉันคืนมา และในตอนนี้แกก็มาอยู่ในเงื้อมมือของฉันแล้ว!” เฟอร์นันโดพูดขึ้นก่อนจะไอเบา ๆ จากอาการในตอนนั้น เป็นสัญญาณชี้ชัดว่าอาการบาดเจ็บที่เจอรัลด์ทำร้ายเขาในตอนนั้นยังไม่หายดีด้วยซ้ำ“เขาพูดถูก! เราต้องสะสางความแค้นระหว่างเราให้สิ้นซาก! คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยแกไปง่าย ๆ แน่นอน!” มาทิลดาพูดเย้ย ก่อนจะหัวเราะอย่างชั่วร้ายแต่ทว่าการตอบโต้ของเจอรัลด์มีเพียงส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น “น่าเสียดายจริง ๆ...” เฟอร์นันโดหรี่ดวงตาลงจากนั้นจึงเอ่ยถาม “...แกพูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง? แล้วทำไมแกถึงส่ายหน้า? เมื่อฉันรู้จักแกดีแล้ว ฉันก็แค่คนธรรมดาที่แกเคยเอาชนะ ซึ่งตอนนี้ใช้แผนสกปรกที่ทำให้ความนับถือที่แกมีให้ฉันในตอนแรกลดน้อยลงไปอีก ฉ
“...เกิด...เรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง...?” เฟอร์นันโดพูดพึมพำเสียงเบาเป็นกระซิบ“ก็ผมบอกแล้วว่าปืนพวกนั้นเป็นแค่ของเล่นสำหรับผม ส่วนพวกบอดี้การ์ดของคุณ พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตาผ้า! คุณไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่ามรู้ไหม? ที่ทำร้ายเพื่อนผม... คุณกำลังรนหาที่ตายใช่ไหม?” เจอรัลด์ตอบกลับพลางยิ้มจาง ๆ“...ฉัน...ฉันไม่เชื่อว่าแกจะทรงพลังอย่างนี้! พวกแก! มาช่วยกันฆ่าเขา!” เฟอร์นันโดสั่ง ขณะที่กัดฟันด้วยความแค้นใจ‘เราก็อายุเท่ากัน... ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งมากกว่าฉันได้ขนาดนี้...?!’เมื่อถึงจุดนั้น บอดี้การ์ดทุกคนต่างรู้แล้วว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาอันตรายแค่ไหน สิ่งที่พวกเขารู้สึกได้ในตอนนี้ ราวกับพวกเขาได้หลงเข้าไปในถ้ำที่เย็นยะเยือกโดยไม่มีทางออก ด้วยความหนาวเหน็บที่สั่นสะท้านไปจนถึงกระดูกสันหลัง พวกบอดี้การ์ดรู้แล้วว่าความตายพร้อมจะย่างกรายเข้ามาหาพวกเขาได้ทุกเมื่อ แต่ทว่าพวกเขาไม่เต็มใจจะออกไปแบบนี้! เพราะอยากจะมีชีวิตรอดต่อไป และความต้องการในการเอาชีวิตรอดทำให้พวกบอดี้การ์ดเปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นแรงอาฆาต!ขณะที่พวกเขาชักดาบออกจากฝัก ก่อนจะวิ่งเข้าใส่เจอรัลด์ ตั้งใจจะแทงเขา เจอรัลด
เป็นดังที่เจอรัลด์พูด ในตอนนี้เฟอร์นันโดใกล้จะตายแล้ว เมื่อเจอรัลด์ชี้นิ้วมาที่เขา เฟอร์นันโดก็กระอักเลือดออกมาทันที ก่อนจะล้มลงสิ้นใจกับพื้น มาทิลดากรีดเสียงออกมาด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เธอทึ้งผมตัวเองเธอคุกเข่าลงต่อหน้าเจอรัลด์ แล้วเริ่มอ้อนวอนขึ้นทันที “ดะ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย...! ฉันสาบานว่าสิ่งที่ฉันทำลงไปฉันไม่ได้เจตนา...! ได้โปรด ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน...!”“คุณได้รับโอกาสมามากพอแล้ว หยุดได้แล้ว!” เจอรัลด์โต้กลับ ขณะที่เขาชี้นิ้วไปที่เธอเช่นกัน ส่งใบคมมีดปาดคอหญิงสาวผู้น่าสงสาร เมื่อล้มลงกับพื้น เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น มาทิลดาก็สิ้นใจทันทีหลังจากที่ได้เห็นทุกสิ่งประจักษ์แก่สายตา โรซี่รู้สึกได้ว่าร่างของตัวเองสั่นสะท้าน ขณะที่เธอเอ่ยพูดขึ้น “...น่า...น่ากลัวมาก ที่เห็นคุณฆ่าคนได้มากมายขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ...!”“ผมฆ่าคนที่สมควรตายเท่านั้น” เจอรัลด์ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจในตอนนั้นเอง จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วหันมองไปที่ด้านหลัง ดวงตาของเขากระตุกเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงเอ่ยพูดขึ้น “...เซต ซูริ พานายท่านกับคุณสโลว์เข้าบ้านไปก่อน ตอนนี้ผมมีเรื่องบางอย่างต้องจัดการ จำเอาไว้นะ ห้