ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงอยากจะหัวเราะที่พวกมันพยายามจับตัวเขา“เฮอะ! ขนาดแกกำลังจะตายยังอวดดีอยู่อีกเหรอ? หน้าด้านจริง ๆ! ฉันอยากให้แกรู้เอาไว้ว่าที่ฉันพ่ายแพ้ให้กับแกในวันนั้น เพราะฉันประมาทไป! คิดไม่ถึงว่านับตั้งแต่ที่ฉันแพ้ ฉันรู้ตัวว่าฉันจะไม่มีวันลืมความอัปยศที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นไปตลอดชีวิต! รู้เอาไว้ซะ ฉันสาบานว่าฉันจะฆ่าแกในไม่ช้าก็เร็ว เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของฉันคืนมา และในตอนนี้แกก็มาอยู่ในเงื้อมมือของฉันแล้ว!” เฟอร์นันโดพูดขึ้นก่อนจะไอเบา ๆ จากอาการในตอนนั้น เป็นสัญญาณชี้ชัดว่าอาการบาดเจ็บที่เจอรัลด์ทำร้ายเขาในตอนนั้นยังไม่หายดีด้วยซ้ำ“เขาพูดถูก! เราต้องสะสางความแค้นระหว่างเราให้สิ้นซาก! คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยแกไปง่าย ๆ แน่นอน!” มาทิลดาพูดเย้ย ก่อนจะหัวเราะอย่างชั่วร้ายแต่ทว่าการตอบโต้ของเจอรัลด์มีเพียงส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยพูดขึ้น “น่าเสียดายจริง ๆ...” เฟอร์นันโดหรี่ดวงตาลงจากนั้นจึงเอ่ยถาม “...แกพูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง? แล้วทำไมแกถึงส่ายหน้า? เมื่อฉันรู้จักแกดีแล้ว ฉันก็แค่คนธรรมดาที่แกเคยเอาชนะ ซึ่งตอนนี้ใช้แผนสกปรกที่ทำให้ความนับถือที่แกมีให้ฉันในตอนแรกลดน้อยลงไปอีก ฉ
“...เกิด...เรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง...?” เฟอร์นันโดพูดพึมพำเสียงเบาเป็นกระซิบ“ก็ผมบอกแล้วว่าปืนพวกนั้นเป็นแค่ของเล่นสำหรับผม ส่วนพวกบอดี้การ์ดของคุณ พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจากตุ๊กตาผ้า! คุณไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่ามรู้ไหม? ที่ทำร้ายเพื่อนผม... คุณกำลังรนหาที่ตายใช่ไหม?” เจอรัลด์ตอบกลับพลางยิ้มจาง ๆ“...ฉัน...ฉันไม่เชื่อว่าแกจะทรงพลังอย่างนี้! พวกแก! มาช่วยกันฆ่าเขา!” เฟอร์นันโดสั่ง ขณะที่กัดฟันด้วยความแค้นใจ‘เราก็อายุเท่ากัน... ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งมากกว่าฉันได้ขนาดนี้...?!’เมื่อถึงจุดนั้น บอดี้การ์ดทุกคนต่างรู้แล้วว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาอันตรายแค่ไหน สิ่งที่พวกเขารู้สึกได้ในตอนนี้ ราวกับพวกเขาได้หลงเข้าไปในถ้ำที่เย็นยะเยือกโดยไม่มีทางออก ด้วยความหนาวเหน็บที่สั่นสะท้านไปจนถึงกระดูกสันหลัง พวกบอดี้การ์ดรู้แล้วว่าความตายพร้อมจะย่างกรายเข้ามาหาพวกเขาได้ทุกเมื่อ แต่ทว่าพวกเขาไม่เต็มใจจะออกไปแบบนี้! เพราะอยากจะมีชีวิตรอดต่อไป และความต้องการในการเอาชีวิตรอดทำให้พวกบอดี้การ์ดเปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นแรงอาฆาต!ขณะที่พวกเขาชักดาบออกจากฝัก ก่อนจะวิ่งเข้าใส่เจอรัลด์ ตั้งใจจะแทงเขา เจอรัลด
เป็นดังที่เจอรัลด์พูด ในตอนนี้เฟอร์นันโดใกล้จะตายแล้ว เมื่อเจอรัลด์ชี้นิ้วมาที่เขา เฟอร์นันโดก็กระอักเลือดออกมาทันที ก่อนจะล้มลงสิ้นใจกับพื้น มาทิลดากรีดเสียงออกมาด้วยความหวาดกลัว ขณะที่เธอทึ้งผมตัวเองเธอคุกเข่าลงต่อหน้าเจอรัลด์ แล้วเริ่มอ้อนวอนขึ้นทันที “ดะ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย...! ฉันสาบานว่าสิ่งที่ฉันทำลงไปฉันไม่ได้เจตนา...! ได้โปรด ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน...!”“คุณได้รับโอกาสมามากพอแล้ว หยุดได้แล้ว!” เจอรัลด์โต้กลับ ขณะที่เขาชี้นิ้วไปที่เธอเช่นกัน ส่งใบคมมีดปาดคอหญิงสาวผู้น่าสงสาร เมื่อล้มลงกับพื้น เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น มาทิลดาก็สิ้นใจทันทีหลังจากที่ได้เห็นทุกสิ่งประจักษ์แก่สายตา โรซี่รู้สึกได้ว่าร่างของตัวเองสั่นสะท้าน ขณะที่เธอเอ่ยพูดขึ้น “...น่า...น่ากลัวมาก ที่เห็นคุณฆ่าคนได้มากมายขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ...!”“ผมฆ่าคนที่สมควรตายเท่านั้น” เจอรัลด์ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจในตอนนั้นเอง จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วหันมองไปที่ด้านหลัง ดวงตาของเขากระตุกเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงเอ่ยพูดขึ้น “...เซต ซูริ พานายท่านกับคุณสโลว์เข้าบ้านไปก่อน ตอนนี้ผมมีเรื่องบางอย่างต้องจัดการ จำเอาไว้นะ ห้
‘ตอนนั้นเจอรัลด์แทบต้านทานการโจมตีจากฉันได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว... จึงไม่แปลกที่เมื่อหลายวันก่อนเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดสำหรับฉัน! ถึงอย่างนั้น เมื่อเห็นว่าเขากลายเป็นคนเก่งในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่เขาหายไป... ฉันไม่อยากยอมรับมัน! แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ เขาไม่ได้ห่างไกลจากสิ่งที่ฉันทำได้เลย... ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะมั่นใจขนาดนี้...!’ ควีนน่าคิดในใจ‘ถึงมันจะไม่น่ายากเกินไปสำหรับฉันที่จะเอาชนะเขาด้วยพลังที่มีตอนนี้ แต่การจับตัวและควบคุมเขานั้น ในตอนนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย! ถึงอย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่ฉันบอกได้ ในตอนนี้เขาหลบหนีจากฉันไปได้อย่างง่ายดาย!’เมื่อมองดูไปที่ควีนน่าที่ยังวิเคราะห์สถานการณ์อยู่ เจอรัลด์แค่มองไปที่เธอก่อนจะพูดขึ้น “ถึงผมจะฆ่าคุณไม่ได้ในตอนนี้ แต่ผมอยากให้คุณรู้เอาไว้ว่า การจับตัวผมไม่ใช่เรื่องง่าย!”“...แก... แกพูดอะไรของแก? อยากให้ฉันฆ่าแกหรือไง...?” ควีนน่าโต้กลับอย่างไม่เชื่อ‘ฉันรักคุณมาหลายหมื่นปี...! บอกฉันทีว่าจะหาผู้หญิงคนอื่นที่ซื่อสัตย์และคลั่งรักได้อย่างที่ฉันเป็นได้ไหม?! เมื่อเห็นว่าคุณคิดจะฆ่าฉันได้ลงคอ...!’ ควีนน่ารำพันกับตัวเอง ขณะที่ขบฟันแน่
“พูดต่อไปสิ...”“ได้ ฉันขอความร่วมมือระหว่างเราทั้งสองคน คุณเข้าใจไหม ต้องพึ่งพลังหยางบริสุทธิ์ที่อยู่ในร่างของคุณ ฉันก็จะได้เป็นเหมือนเธอ และมีโอกาสได้ฝึกวิชาท้องฟ้าพิโรธอีกด้วย เมื่อฉันทำได้สำเร็จแล้ว ฉันจะเดินทางไปทาระหว่างโลกกับจาเอลตราได้! หรืออีกนัยหนึ่ง ฉันจะได้เข้าใกล้ความฝันที่จะได้เกิดใหม่จริง ๆ อีกก้าว!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม “...ผมเข้าใจ จากสิ่งที่ผมเข้าใจในตอนนี้ พวกคุณทั้งคู่อยากจะกลับเข้าไปในจาเอลตราอีกครั้ง... ถ้าเป็นเรื่องนั้น ถึงเจรจาต่อรองไปก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี!”“เจรจาต่อรองอย่างนั้นเหรอ? เงื่อนไขของคุณคืออะไรล่ะ?”“ก็สำหรับตอนนี้ ผมขอแนะนำให้เราเป็นพันธมิตรต่อกัน เพื่อโค่นล้มราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษา ผมมีเหตุผลสองข้อในการสนับสนุน ประการแรก ผมอาจจะตายด้วยน้ำมือของเขา ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือที่มากพอ ประการที่สองจากสิ่งที่ผมได้รู้ เขาคงจะไม่ยอมปล่อยให้คุณได้ทำตามที่คุณต้องการเหมือนกันใช่ไหม?” เจอรัลด์ยื่นข้อเสนอ“ตราบใดที่เราอยู่ด้วยกัน คุณต้องจะเป็นสามีของฉัน และฉันจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายคุณได้! ด้วยข้อเสนอนี้ ฉันถึงจะยอมตกลงเป
“แน่นอน ฉันจะไปด้วย! เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่คุณเสนอให้ฉันอยู่เคียงข้างคุณ!” ควีนน่าตอบด้วยรอยยิ้มยั่วยวนเมื่อได้ยินดังนั้น เจอรัลด์จึงพยักหน้ารับให้เธอพลางส่งยิ้มจาง ๆเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่บอกเรื่องที่เขากำลังจะไปช่วยผู้หญิงในชุดขาวในคืนนี้ ถึงอย่างไรก็ตาม เขาเองก็รู้ดีว่า ถ้าเขาไม่ยอมประนีประนอมแม้แต่น้อย เขาก็คงต้องพบกับความทุกข์ทรมานยิ่งกว่านี้เป็นแน่ หากควีนน่าทำลายความพยายามของเขา ในขณะที่เขากำลังอัญเชิญจิตวิญญาณของหญิงสาวในชุดขาวล่ะก็...ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่เจอรัลด์เอ่ยถามขึ้น “เซต นายจำได้จริง ๆ ใช่ไหมว่าถ้ำอสรพิษอยู่ที่ไหน...?”ทั้งสามคนที่ตามเซตอยู่ตอนนี้ หลังจากที่ทั้งสี่คนเข้าไปในภูเขาแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วยโรซี่ ผู้ที่อยากเห็นถ้ำอสรพิษ ควีนน่า ผู้ที่ตกลงติดตามมาด้วยเพราะเจอรัลด์ชวนเธอ และเจอรัลด์“ผมจำได้แน่นอน! ถึงอย่างไรก็ตาม เพราะสถานที่นี้ค่อนข้างอยู่ในที่ลับ ผมยังต้องหาตำแหน่งที่แน่นอนให้ดีอีกสักนิด!” เซตตอบขณะที่เขาเกาท้ายทอยก่อนจะเดินไปบนกองก้อนหินที่อยู่ใกล้ ๆไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ร้องอุทานขึ้น “ผมเจอแล้ว! มันอยู่ตรงนั้นครับ!”หลังจากนั้นเขาจึงกระโดดลงไปอย่
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีภาพวาดนกขนาดใหญ่ และสัตว์วิเศษอีกหลายภาพ และไม่มีใครบอกได้ว่าพวกเขาตั้งใจวาดภาพนั้นเมื่อกวาดสายตามองผ่าน ๆ ไม่นานนัก เจอรัลด์ก็พบภาพที่ค่อนข้างคุ้นตา เป็นภาพสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับค้างคาวร่างมหึมา ‘...ฉันเจอบางอย่างที่คล้ายกับที่เหมืองที่ฉันเคยช่วยยูเมะเอาไว้ และได้ศิลาสะท้อนน้ำกลับมาใช่ไหม...? เป็นค้างคาวยักษ์ที่มีศีรษะเป็นมนุษย์... ถึงตอนแรกฉันจะคิดว่ามันเป็นปีศาจค้างคาวที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างโชกโชน เพราะถูกจารึกไว้บนผนังนี้คงจะไม่เกิดคำถามอย่างเรื่องมีสัตว์โบราณบางชนิดที่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้... แต่...จะเป็นไปได้อย่างไร...? ชักจะมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นมากเกินไปซะแล้ว...’เมื่อหันไปมองที่ควีนน่า ที่หลงใหลกับทุกสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำมาสักระยะหนึ่งแล้ว เจอรัลด์จึงเอ่ยถามขึ้น “...บอกได้ไหมว่าเป็นโลกแบบไหนที่จารึกเอาไว้บนกำแพง...? มันเป็นโลกมนุษย์จริงเหรอ?”เมื่อได้ฟังคำถามของเจอรัลด์ เธอจึงเอ่ยตอบ “จริงสิ เห็นได้ชัดว่ามันดูเหมือนเป็นโลกในตำนานที่ดำรงอยู่เมื่อหลายหมื่นปีก่อน! ฉันเรียนรู้การดำรงอยู่ของมันจากข้อมูลที่ได้รับกลับมาตอนที่ฉันยังอยู่ในจาเอลตรา ถ้าให้บอกช
ควีนน่าพยักหน้ารับแล้วตอบ “ใช่ ดูนะ กายอมตะเป็นอาณาจักรที่เคยดำรงอยู่ในตำนานเท่านั้น ว่ากันว่าใครที่เคยเข้าไปในอาณาจักรแห่งนั้น พวกเขาสามารถอยู่ได้ทั้งบนสวรรค์และโลก หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่มีอะไรที่จะฆ่าพวกเขาได้จริง ๆ แม้จะว่ากันว่ามีคน ๆ หนึ่งสามารถไปถึงอาณาจักรในตำนานได้ในยุคนั้น แต่มันก็เป็นแค่ตำนานเท่านั้น!”“...หากสมมุติว่าตำนานนั้นเป็นเรื่องจริง นั่นก็น่าจะบอกเป็นนัยว่าผู้วิเศษท่านนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ถูกไหม? แต่นั่นคงเป็นไปไม่ได้หรอกใช่ไหม? เขาควรจะตายไปพร้อมกับยุคของเขา!” เจอรัลด์พูดขึ้นด้วยความสงสัย“อย่างน้อยฉันก็เชื่อว่าเขาตาย ฉันเดาว่าเขาคงไม่เคยเข้ามาในอาณาจักรแห่งกายอมตะจริง ๆ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นผู้วิเศษที่มีพลังแข็งแกร่ง จนท้าทายกฎของธรรมชาติได้ ทำไมผู้คนมากมายถึงเคารพเขาและเลื่อมใสเขา...” ควีนน่าอธิบาย“ผมเข้าใจแล้ว... พูดถึงจาเอลตรา คุณรู้เรื่องสมาพันธ์ซันลีกมากแค่ไหน? สมาพันธ์นั้นควรจะเป็นของจาเอลตราใช่ไหม?” เจอรัลด์ถาม ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจถามคำถามที่เขาสงสัยมากที่สุด“...สมาพันธ์ซันลีกเหรอ? ถึงดูเหมือนพวกเขาจะมีฐานทัพในจาเอลตรา แต่พวกเขาไม่มีความเกี่ย
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ