หลังจากที่หยุดนิ่งไปชั่วครู่ เจอรัลด์ก็สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดว่า “…งั้นก็ได้ เนื่องจากคุณไม่มีเด้ด แอนนี่ อยู่ที่ตัวแล้ว อย่างน้อยผมก็มั่นใจได้ว่าถ้าคุณคิดจะทำอะไรที่น่าสงสัย คุณได้ตายไปพร้อมกับผมแน่!”เมื่อพูดจบ เจอรัลด์ก็คว้าไหล่ยูเมะ ก่อนที่จะพาเธอกระโดดไปพร้อมกัน! เมื่อพวกเขาขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย ยูเมะก็บอกเจอรัลด์ว่าที่ซ่อนตัวอยู่ตรงไหน และเจอรัลด์ก็จับตัวเธอไว้แน่น ขณะที่ทั้งคู่รีบตรงไปที่นั่นเมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาขาดความแข็งแกร่งที่จะต่อกรกับทั้งควีนน่า และราชาของกลุ่มประตูแห่งการพิพากษา เจอรัลด์จึงอดไม่ได้ที่จะระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่า เขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับพวกกันเทอร์ผู้ลึกลับด้วยไม่นานพวกเขาก็มาถึงถ้ำที่ตั้งอยู่บริเวณชานเมือง เมื่อเข้ามาด้านในถ้ำ เจอรัลด์ได้ผนึกหลอดเลือดใหญ่สองสามเส้นในร่างกายของยูเมะทันที!“…คุณเอาจริงเหรอเนี่ย? คุณยังไม่เชื่ออีกเหรอว่าฉันไม่ได้วางแผนที่จะทำร้ายคุณ?” ยูเมะพูด ขณะที่เธอหายใจเข้าลึก เพื่อพยายามระงับความรู้สึกผิดหวังของเธอเอาไว้“ผมจะทำให้คุณรู้ว่า ผมจะไม่ให้โอกาสเป็นครั้งที่สองกับใครก็ตามที่ทำลายความไว้วางใจของผม!
เมื่อจบเรื่องนั้นแล้ว ยูเมะก็เริ่มเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ให้เขาฟังอย่างช้า ๆปรากฎว่าพวกเขามีแผนการที่พุ่งเป้าไปที่เจอรัลด์ตั้งแต่แรกแล้ว ภายใต้คำสั่งของครอบครัว ยูเมะมีวัตถุประสงค์หลักสองประการ ประการแรกคือการตามหาผู้หญิงชุดขาวที่ราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทร และอีกประการหนึ่งคือจับตัวเจอรัลด์อย่างลับ ๆ ก่อนจะนำเขากลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลกันเทอร์มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงแสร้งทำเป็นอ่อนแอกว่าที่เป็นตอนที่ 'ได้รับบาดเจ็บ' เพราะเธอรู้ว่า ในที่สุดเธอจะได้รับความสงสารจากเจอรัลด์แม้ว่าเธอจะได้รับความสงสารจากเขาจริง แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าการกระทำของเจอรัลด์นั้นจะทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจได้ถึงขนาดนั้น เธอไม่สามารถบังคับตัวเองให้ทำร้ายเขาได้เลยในที่สุด ทั้งคู่ก็ออกเดินทางไปราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทรด้วยกัน แน่นอนว่าหญิงชราที่พวกเขาพบไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคุณย่าทวดของยูเมะ และยังเป็นผู้นำของตระกูลกันเทอร์อีกด้วย เธอคือคุณหญิงกันเทอร์นั่นเองเธอรู้ดีถึงความอ่อนแอของเจอรัลด์ที่มีต่อเด้ด แอนนี่ และด้วยความรู้นั้น จึงทำให้เธอสามารถสร้างบาดแผลห
จากน้ำเสียงของเธอที่ฟังดูจริงจังและน่ากลัว เจอรัลด์จึงสามารถบอกได้ว่าคำเตือนของยูเมะนั้นเป็นความจริง“…ถึงอย่างนั้น เหตุใดราชาของกลุ่มประตูแห่งการพิพากษาถึงพยายามตามหาพวกกันเทอร์ล่ะ? เขาจะคาดคั้นกับพวกคุณว่าผมจะมาที่นี่จริงหรือเปล่า อย่างนั้นเหรอ?” เจอรัลด์ถามอย่างสงสัย“นั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยแน่ใจนัก... แต่ฉันรู้ถึงจุดประสงค์อื่นของพวกเขา จากที่ฉันได้ยินมา ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะมุ่งหน้าไปยังภูเขาโบราณในเมืองโบราณ! เผื่อคุณยังไม่รู้ มักจะมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบนภูเขาลูกนั้นทุก ๆ สองสามปี!” ยูเมะอธิบาย“เหตุการณ์ประหลาดอะไร…?” เจอรัลด์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น“ฉันเองไม่แน่ใจเหมือนกัน” ยูเมะตอบพร้อมกับส่ายหัวอย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ก็เริ่มที่จะประสบความสำเร็จในการปะติดปะต่อชิ้นส่วนปริศนาต่าง ๆ เข้าด้วยกันมากขึ้นเรื่อย ๆจากสิ่งที่เจอรัลด์รู้ตอนนี้ มีกลุ่มผู้มีอำนาจสามกลุ่มกำลังตามล่าตัวเขา แม้ว่าเขาจะได้รับศีลจุ่มจากสวรรค์แล้ว แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าเขายังไม่ปลอดภัยจากคนเหล่านั้นเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยสภาวะร่างกายที่แข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เจอร
"พอได้แล้ว! เอาเธอไปขังไว้ในห้องของเธอ และคอยเฝ้าดูอย่าให้คลาดสายตา! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามเธอออกจากห้องเด็ดขาด!” อีเร็ตตะโกน เมื่อได้ยินเช่นนั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยสองสามคนก็วิ่งเข้ามา และพายูเมะไปที่ห้องของเธอทันที ตามคำสั่งของคุณหญิงกันเทอร์ตอนนี้หลานสาวของเธอได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอเรียบร้อยแล้ว อีเร็ตจึงมั่นใจว่า เธอจะต้องได้ในสิ่งที่เธอต้องการจากเจอรัลด์อย่างแน่นอน เจอรัลด์เองก็กำลังวิ่งหนีออกจากถ้ำในความมืดอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการของคนทั้งสามกลุ่มที่ต้องการจะจับตัวเขา เขาจึงไม่กล้าที่จะอยู่ที่นั่นนานเกินความจำเป็นอีกต่อไปแผนการของเขาในตอนนี้คือตามหาเชสเตอร์ก่อน แล้วจึงออกจากที่นี่ไปพร้อมกับเขาอย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังจะออกจากชานเมือง และกลับเข้าสู่เขตเมือง จู่ ๆ เจอรัลด์ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเหยียบหญ้าดังมาจากป่ารอบ ๆ เสียงนั้นทั้งดังและรวดเร็วจนใคร ๆ ก็อาจจะคิดว่ามันเป็นเสียงของสัตว์ที่ว่องไวมากชนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์มีความรู้สึกว่านั่นอาจจะไม่ใช่เสียงของสัตว์ เจอรัลด์หยุดนิ่งอยู่กับที่ จากนั้นเขาก็เริ่มระวังตัวอย่างเต็มที
ไม่มีทางที่เจอรัลด์จะสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีนั้นได้เลย เสี้ยววินาทีต่อมา เขาพบว่าตัวเองกำลังลอยกระเด็นถอยหลัง ในขณะที่ร่างกายทุกตารางนิ้วของเขาสั่นด้วยความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก! เจอรัลด์สัมผัสได้ถึงรสหวานในปากของเขา ก่อนที่จะกระอักเลือดออกมาหลังจากนั้นไม่นาน!ในที่สุด เจอรัลด์ก็ล้มลงกับพื้น และกลิ้งอยู่หลายตลบก่อนจะหยุดในที่สุด ถ้าเขาต้องอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ เขากำลังรู้สึกว่าอวัยวะภายในทั้งหมดของเขาได้เคลื่อนจากตำแหน่งเดิม จากการถูกชกเพียงครั้งเดียวเท่านั้นถึงกระนั้น นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมัวหมกมุ่นกับความเจ็บปวดที่ได้รับ เจอรัลด์พยายามรวบรวมกำลังภายในของเขา แต่ไม่นานนัก เขาก็รู้ตัวว่าเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส!‘นี่คือจุดจบของฉันจริงหรือ? ฉันจะต้องพ่ายแพ้ที่นี่ ในเมืองเคอร์ตันอย่างนั้นเหรอ? จี้หยก ถ้าเจ้ายังอยู่ โปรดช่วยฉันด้วยเถิด…!'แม้ว่าเจอรัลด์จะคาดหวังว่าจี้หยกจะสามารถช่วยชีวิตเขาได้ เนื่องจากตอนนี้เขากำลังตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่วิกฤต แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากครั้งก่อนที่เขาพยายามเรียกใช้จี้หยก เจอรัล์ต้องพบกับความผิดหวังอี
ไม่นานต่อมา หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งน่าจะมีอายุประมาณสิบเก้าปีก็ร้องออกมาว่า “คุณลุงพบตัวเขาแล้วจริงๆ!”หญิงสาวคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างประตูบ้าน ในกระท่อมร้างแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของชานเมือง ดูจากลักษณะ เธอน่าจะยืนรออยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานพอสมควรแล้วคนที่เธอกำลังพูดคุยด้วยนั้น เป็นชายวัยกลางคนที่เพิ่งขี่รถสามล้อเข้ามาในบริเวณบ้าน ด้านหลังรถสามล้อของเขามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนจมกองเลือดและหมดสติอยู่เธอลุกขึ้นทันทีเพื่อเดินเข้าไปหาชายคนนั้น หลังจากที่ทักทายเขาเสร็จเรียบร้อยเมื่อเธอเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มที่ดูสะบักสะบอม หญิงสาวธรรมดาทั่วไปก็คงจะอดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากแล้วร้องกรี๊ดออกมา อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านต่อภาพที่เห็นตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เธอกลับตบไปที่ใบหน้าที่หมดสติของเขาสองสามครั้ง ก่อนที่จะหันไปมองหน้าชายวัยกลางคน!“ต้องบอกว่าเพื่อนของเราคนนี้โชคดีมากทีเลยเดียว! เพราะเขายังคงมีลมหายใจหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้! แต่นั่นยังไม่พอ ร่างกายของเขายังได้รับพิษที่รุนแรงมากเข้าไปอีกด้วย!” ผู้หญิงคนนั้นพูด ขณะที่เธอจับคางของเด็กหนุ่มด้วยความอยา
หลังจากที่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาก็เริ่มต่อกระดูกที่แยกออกจากกันของเจอรัลด์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพันแผลบนร่างกายทั้งหมดด้วยความชำนาญ“หนูยอมรับว่าเมื่อก่อนหนูไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่ตอนนี้หนูรู้สึกทึ่งกับมันมาก! และเขาก็ดูค่อนข้างจะซับซ้อนจริง ๆ!” ผู้หญิงคนนั้นตอบ“ฮะ! ศิลปะการต่อสู้ที่เธอสนใจจะเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งที่นักรบธรรมดาทั่วไปจะทำได้! ข้อกำหนดในการบรรลุอาณาจักรหมอกเพลิงแห่งเนบิวลานั้นมีความเคร่งครัดจนเกินไป! แม้แต่การครอบครองสายเลือดที่ถูกต้อง ก็ไม่ได้ทำให้เธอเข้าถึงอาณาจักรนั้นได้อย่างง่ายดายนะ! ตอนนี้เธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าหลายครอบครัวที่นี่มีกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างจากคนทั่วไป และนั่นก็เป็นเพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมลับ ผู้คนจากสมาคมลับต้องพึ่งพาร่างกายที่ไม่ธรรมดาของพวกเขาในการฝึกฝน และพวกเขาจะเข้าใกล้ขีดจำกัดของมนุษย์มากกว่าคนอื่นอยู่หนึ่งก้าวเสมอ ถึงกระนั้น มีเพียงผู้ที่ขยันขันแข็งจากครอบครัวเหล่านั้นเท่านั้น ที่จะสามารถควบคุมความแข็งแกร่งภายในของพวกเขา และอาจจะบรรลุถึงอาณาจักรหมอกเพลิงแห่งเนบิวลาได้!“อย่างไรก็ตาม ในสายตาของตระกูลลึกลับบางตระกูล สมาคมลับนั้นไม่ใช่พวกท
“แต่มันคือเรื่องจริงนะคะคุณลุง! หนูไม่ได้ล้อเล่น! ลองดูสิคะ ถ้าคุณลุงไม่เชื่อ! หนูกำลังจะบอกคุณว่าดวงตาของสาวน้อยผู้มีเสน่ห์คนนี้คล้ายกับดวงตาของคุณลุงมาก!” ผู้หญิงคนนั้นยืนยัน ขณะที่เขามองดูเธอส่งสัญญาณให้เขาหยิบรูปจากมือที่ยื่นออกมาของเธอ ชายชราก็มองมาที่เธอครู่หนึ่ง ก่อนที่จะยอมรับมันจากเธอ วินาทีที่เขามองเห็นบุคคลในรูปถ่ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เขาก็ถึงกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เขาตกใจมากจนไม่สามารถจะถือรูปถ่ายใบนั้นไว้ในมือได้อีกต่อไป ส่งผลให้มันตกลงบนพื้น หากยังชัดเจนไม่พอ ผู้หญิงในภาพก็คือเควต้า หญิงสาวเพิ่งเคยเห็นชายวัยกลางคนตัวสั่นเป็นครั้งแรก เธอสังเกตเห็นสีหน้าของเขาที่เปลี่ยนไปอย่างมากมาย ในขณะที่เขาจ้องมองที่ภาพนั้น หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “…คุณลุง? มีอะไรหรือเปล่าคะ…?” เขารีบหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วตอบว่า “…ฉันไม่เป็นไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี… เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันพันผ้าพันแผลให้เจอรัลด์เสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย ระหว่างนี้ฝากเธอดูแลเขาหน่อยนะ!” พอพูดจบ เขาก็รีบหันหลังกลับก่อนจะจากไป “…เขาทำตัวแปลกจัง …” ผู้หญิงคนนั้นพึมพำกั
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ