ไม่นานต่อมา หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งน่าจะมีอายุประมาณสิบเก้าปีก็ร้องออกมาว่า “คุณลุงพบตัวเขาแล้วจริงๆ!”หญิงสาวคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างประตูบ้าน ในกระท่อมร้างแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของชานเมือง ดูจากลักษณะ เธอน่าจะยืนรออยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานพอสมควรแล้วคนที่เธอกำลังพูดคุยด้วยนั้น เป็นชายวัยกลางคนที่เพิ่งขี่รถสามล้อเข้ามาในบริเวณบ้าน ด้านหลังรถสามล้อของเขามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนจมกองเลือดและหมดสติอยู่เธอลุกขึ้นทันทีเพื่อเดินเข้าไปหาชายคนนั้น หลังจากที่ทักทายเขาเสร็จเรียบร้อยเมื่อเธอเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มที่ดูสะบักสะบอม หญิงสาวธรรมดาทั่วไปก็คงจะอดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากแล้วร้องกรี๊ดออกมา อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านต่อภาพที่เห็นตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เธอกลับตบไปที่ใบหน้าที่หมดสติของเขาสองสามครั้ง ก่อนที่จะหันไปมองหน้าชายวัยกลางคน!“ต้องบอกว่าเพื่อนของเราคนนี้โชคดีมากทีเลยเดียว! เพราะเขายังคงมีลมหายใจหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้! แต่นั่นยังไม่พอ ร่างกายของเขายังได้รับพิษที่รุนแรงมากเข้าไปอีกด้วย!” ผู้หญิงคนนั้นพูด ขณะที่เธอจับคางของเด็กหนุ่มด้วยความอยา
หลังจากที่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาก็เริ่มต่อกระดูกที่แยกออกจากกันของเจอรัลด์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพันแผลบนร่างกายทั้งหมดด้วยความชำนาญ“หนูยอมรับว่าเมื่อก่อนหนูไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่ตอนนี้หนูรู้สึกทึ่งกับมันมาก! และเขาก็ดูค่อนข้างจะซับซ้อนจริง ๆ!” ผู้หญิงคนนั้นตอบ“ฮะ! ศิลปะการต่อสู้ที่เธอสนใจจะเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งที่นักรบธรรมดาทั่วไปจะทำได้! ข้อกำหนดในการบรรลุอาณาจักรหมอกเพลิงแห่งเนบิวลานั้นมีความเคร่งครัดจนเกินไป! แม้แต่การครอบครองสายเลือดที่ถูกต้อง ก็ไม่ได้ทำให้เธอเข้าถึงอาณาจักรนั้นได้อย่างง่ายดายนะ! ตอนนี้เธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าหลายครอบครัวที่นี่มีกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างจากคนทั่วไป และนั่นก็เป็นเพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมลับ ผู้คนจากสมาคมลับต้องพึ่งพาร่างกายที่ไม่ธรรมดาของพวกเขาในการฝึกฝน และพวกเขาจะเข้าใกล้ขีดจำกัดของมนุษย์มากกว่าคนอื่นอยู่หนึ่งก้าวเสมอ ถึงกระนั้น มีเพียงผู้ที่ขยันขันแข็งจากครอบครัวเหล่านั้นเท่านั้น ที่จะสามารถควบคุมความแข็งแกร่งภายในของพวกเขา และอาจจะบรรลุถึงอาณาจักรหมอกเพลิงแห่งเนบิวลาได้!“อย่างไรก็ตาม ในสายตาของตระกูลลึกลับบางตระกูล สมาคมลับนั้นไม่ใช่พวกท
“แต่มันคือเรื่องจริงนะคะคุณลุง! หนูไม่ได้ล้อเล่น! ลองดูสิคะ ถ้าคุณลุงไม่เชื่อ! หนูกำลังจะบอกคุณว่าดวงตาของสาวน้อยผู้มีเสน่ห์คนนี้คล้ายกับดวงตาของคุณลุงมาก!” ผู้หญิงคนนั้นยืนยัน ขณะที่เขามองดูเธอส่งสัญญาณให้เขาหยิบรูปจากมือที่ยื่นออกมาของเธอ ชายชราก็มองมาที่เธอครู่หนึ่ง ก่อนที่จะยอมรับมันจากเธอ วินาทีที่เขามองเห็นบุคคลในรูปถ่ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เขาก็ถึงกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เขาตกใจมากจนไม่สามารถจะถือรูปถ่ายใบนั้นไว้ในมือได้อีกต่อไป ส่งผลให้มันตกลงบนพื้น หากยังชัดเจนไม่พอ ผู้หญิงในภาพก็คือเควต้า หญิงสาวเพิ่งเคยเห็นชายวัยกลางคนตัวสั่นเป็นครั้งแรก เธอสังเกตเห็นสีหน้าของเขาที่เปลี่ยนไปอย่างมากมาย ในขณะที่เขาจ้องมองที่ภาพนั้น หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “…คุณลุง? มีอะไรหรือเปล่าคะ…?” เขารีบหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วตอบว่า “…ฉันไม่เป็นไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี… เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันพันผ้าพันแผลให้เจอรัลด์เสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย ระหว่างนี้ฝากเธอดูแลเขาหน่อยนะ!” พอพูดจบ เขาก็รีบหันหลังกลับก่อนจะจากไป “…เขาทำตัวแปลกจัง …” ผู้หญิงคนนั้นพึมพำกั
“เขาได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยใครบางคนที่แข็งแกร่งมาก! ถ้าผมเคลื่อนไหวช้ากว่านี้ ผมคงจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว!” โฮแกนอธิบายด้วยความรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง “แล้วใครกันแน่ที่เป็นคนทำร้ายเธอ” อีเร็ตถาม ขณะที่เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ตอนนั้นผมกำลังจดจ่ออยู่กับการหลบหนีการโจมตีของเขา ผมจึงมองเห็นเขาไม่ชัด!” “…เป็นไปได้ไหมว่ามีกองกำลังอื่นที่แอบช่วยเจอรัลด์อยู่…?” อีเร็ตพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เธอจมดิ่งลงไปในความคิด ใครก็ตามที่สามารถเอาชนะโฮแกนได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น อย่างน้อยพวกเขาต้องมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขั้นสุดท้ายของอาณาจักรแห่งโลกวิญญาณ แม้ว่าเธอจะอนุมานได้มากน้อยเพียงใด อีเร็ตก็ไม่สามารถสรุปได้ว่า กองกำลังของใครที่เข้ามาช่วยเหลือเจอรัลด์เอาไว้ในครั้งนี้ ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงของใครบางคนพูดขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าเจอรัลด์เป็นคนที่สร้างปัญหาให้กับคุณย่าทวดหรือเปล่าครับ?” เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลามากคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาทางประตูทางออก มือทั้งสองของเขาที่ประสานกันไว้ด้านหลัง เมื่อเขาก้าวเข้าไปข้างใน ปฏิกิริยาแรกของเขาคือการมองผ่านห้องโถงด้
ด้วยเหตุนี้ พวกกันเทอร์และสมาชิกจากกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษาจึงตกลงร่วมมือกันเพื่อตามล่าเจอรัลด์ เห็นได้ชัดว่าการตามหาเจอรัลด์เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทั้งอีเร็ต และราชาแห่งกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ในเวลาเดียวกัน กองกำลังทั้งสองก็รู้ดีว่า แม้แต่ควีนน่า ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังที่ร้ายกาจก็กำลังมองหาเจอรัลด์เหมือนกัน แต่เป้าหมายของควีนน่าในการตามหาเจอรัลด์นั้นแตกต่างจากพวกเขา คือเธอต้องการให้เขาแต่งงานกับเธอ แม้จะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในการตามหาเจอรัลด์ แต่ทั้งคุณหญิงกันเทอร์และราชาแห่งกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ก็ยังคงจับตาดูการกระทำของควีนน่าอย่างใกล้ชิด ส่วนภารกิจในการตามหาตัวเจอรัลด์ได้ตกเป็นหน้าที่ของเฟลตันและโฮแกน ในขณะที่พวกกันเทอร์มีอำนาจในการควบคุมเมืองโบราณได้อย่างเต็มที่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อิทธิพลของพวกเขาได้แผ่ขยายไปทั่วทั้งเมืองเคอร์ตัน ด้วยเหตุนี้ พวกกันเทอร์จึงสั่งให้พวกไซมม์จากเมืองเคอร์ตันช่วยเหลือพวกเขาในการค้นหาตัวเจอรัลด์ โดยใช้คนกลุ่มใหญ่และจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้พวกเขา แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากระดมกำลังกันเพื่อตามล่าเจอรัลด์ แต่อีเร
“ด้วยความน่ารักของเธอในตอนนี้ ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องเติบโตเป็นผู้หญิงที่สวยมากแน่ ๆ” โมนิก้าพูดด้วยรอยยิ้ม "ผมเห็นด้วย ผมแน่ใจว่าเธอจะค่อนข้างคล้ายกับคุณในแง่ของความงาม!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็เอาผ้าขนหนูสีขาวที่ถืออยู่ขึ้นมาปิดปาก ก่อนที่จะเริ่มไออย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าผ้าขนหนูผืนนั้นเริ่มเปื้อนเลือด โมนิก้าก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ทางที่ดีคุณอย่าเพิ่งเดินไปเดินมาดีกว่านะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว อาการบาดเจ็บของคุณก็ยังไม่หายดี รู้ไหมล่ะ? พูดตามตรง ฉันยังทำใจยอมรับเกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกายคุณไม่ค่อยได้เลยนะ!” หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็หันมามองเธอและพบว่าเธอกำลังจ้องไปที่หน้าอกของเขาอย่างตั้งใจ เจอรัลด์จึงรู้สึกแปลก และถามเธอออกมาว่า “…ทำไมคุณถึงจ้องหน้าอกผมแบบนั้น…?” “อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดสิ! ฉันแค่มองจี้หยกของคุณน่ะ! มันกลับมาเปล่งประกายอีกแล้วนะ รู้ไหม? ตั้งแต่วันที่คุณถูกพาตัวมาที่นี่ จี้จะส่องสว่างในเวลาเดียวกันทุกเช้าและทุกคืน เมื่อคิดย้อนกลับไป มันน่าจะทำแบบนั้นหลายสิบครั้งแล้ว!” โมนิก้าตอบ ในขณะที่เธอกลอกตาใส่เจอรัลด์ ก่อนจะชี้ไปที่จี้หยกทร
“ฉัน… ฉันไม่รู้จริง ๆ!” เซียร่าร้องออกมา ขณะที่เฟลตันยกเธอขึ้นไปในอากาศ ไม่ว่าเขาจะข่มขู่เธอมากแค่ไหน เซียร่าก็ยังคงปฏิเสธว่าเธอไม่รู้อะไรเลย เมื่อเขาเข้าใจแล้วว่าเขาไม่สามารถเอาข้อมูลอะไรมาจากเธอได้ เขาจึงหันไปจ้องพ่อและแม่ของเซียร่าด้วยสายตาที่เย็นชาแทน ก่อนจะถามว่า “แล้วแกสองคนล่ะ? รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?” เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่กระตือรือร้นที่จะตอบ เขาจึงจับคอของเซียร่า แล้วค่อย ๆ เพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น ทั้งเอเลียสและภรรยาของเขา ซึ่งกำลังร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก ก็ได้แต่กัดฟันตัวเองอย่างตื่นตระหนก ในขณะที่ทั้งคู่รู้ความจริงว่าเฟลตันกำลังตามหาเจอรัลด์ ชายหนุ่มที่ได้รับการช่วยเหลือจากชายวัยกลางคน แต่พวกเขาก็ภักดีต่อชายคนนั้นเป็นอย่างมาก และไม่เคยคิดที่จะทรยศเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ทั้งสองก็เอาแต่ส่ายหัว "…ฮึ! ฉันรู้อยู่แล้วแหละ! พวกแกมันเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! งั้นฉันจะแสดงให้พวกแกดู!” เฟลตันหัวเราะเยาะ ขณะยกแขนขึ้นช้า ๆ... ก่อนจะลดระดับลงมาด้วยการรูดลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง! ในขณะนั้น ทุกคนตัวแข็งทื่อ พวกเขาไม่แน่ใจนักว่
หากยังไม่ชัดเจนพอ เขาคือคนที่เพิ่งกลับมาจากเก็บสมุนไพรให้เจอรัลด์นั่นเอง เขาสัมผัสได้ถึงสถานการณ์อันตรายที่กำลังเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปในสลัมด้วยซ้ำ เมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้ทันเวลา เขาจึงใช้พลังจิตอันศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพื่อบังคับมีดให้ลอยมาปลดมีดของเฟลตันที่กำลังจะเฉือนคอของเซียร่าออกไป อนิจจา เมื่อเขาเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ เขาถึงได้รู้ว่าเฟลตันได้แยกชิ้นส่วนแขนของเซียร่าออกจากร่างของเธอแล้ว! “ส่งเธอมาให้ฉัน และเก็บรักษาแขนที่ขาดของเธอให้ดี! เธอยังมีสิทธิ์ที่จะหายได้!” ชายคนนั้นสั่ง ขณะที่เขารีบประคองเด็กสาวที่หมดสติก่อนจะรีบวิ่งกลับบ้านไป เนื่องจากระยะทางระหว่างบ้านของเขากับบ้านของเซียร่าค่อนข้างห่างไกลกัน ชายผู้นี้จึงรู้ว่าเขาไม่มีเวลามากนัก เมื่อมาถึงบ้านของเขา ทั้งเจอรัลด์และโมนิก้าต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเซียร่าตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว และเริ่มช่วยเหลือเด็กหญิงที่กำลังบาดเจ็บ เนื่องจากเจอรัลด์มีความรู้เรื่องศิลปะการจัดกระดูก และชายวัยกลางคนก็มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์อย่างล้นห
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ