ไม่นานต่อมา หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งน่าจะมีอายุประมาณสิบเก้าปีก็ร้องออกมาว่า “คุณลุงพบตัวเขาแล้วจริงๆ!”หญิงสาวคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างประตูบ้าน ในกระท่อมร้างแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของชานเมือง ดูจากลักษณะ เธอน่าจะยืนรออยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานพอสมควรแล้วคนที่เธอกำลังพูดคุยด้วยนั้น เป็นชายวัยกลางคนที่เพิ่งขี่รถสามล้อเข้ามาในบริเวณบ้าน ด้านหลังรถสามล้อของเขามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนจมกองเลือดและหมดสติอยู่เธอลุกขึ้นทันทีเพื่อเดินเข้าไปหาชายคนนั้น หลังจากที่ทักทายเขาเสร็จเรียบร้อยเมื่อเธอเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มที่ดูสะบักสะบอม หญิงสาวธรรมดาทั่วไปก็คงจะอดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากแล้วร้องกรี๊ดออกมา อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านต่อภาพที่เห็นตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เธอกลับตบไปที่ใบหน้าที่หมดสติของเขาสองสามครั้ง ก่อนที่จะหันไปมองหน้าชายวัยกลางคน!“ต้องบอกว่าเพื่อนของเราคนนี้โชคดีมากทีเลยเดียว! เพราะเขายังคงมีลมหายใจหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้! แต่นั่นยังไม่พอ ร่างกายของเขายังได้รับพิษที่รุนแรงมากเข้าไปอีกด้วย!” ผู้หญิงคนนั้นพูด ขณะที่เธอจับคางของเด็กหนุ่มด้วยความอยา
หลังจากที่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาก็เริ่มต่อกระดูกที่แยกออกจากกันของเจอรัลด์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพันแผลบนร่างกายทั้งหมดด้วยความชำนาญ“หนูยอมรับว่าเมื่อก่อนหนูไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่ตอนนี้หนูรู้สึกทึ่งกับมันมาก! และเขาก็ดูค่อนข้างจะซับซ้อนจริง ๆ!” ผู้หญิงคนนั้นตอบ“ฮะ! ศิลปะการต่อสู้ที่เธอสนใจจะเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งที่นักรบธรรมดาทั่วไปจะทำได้! ข้อกำหนดในการบรรลุอาณาจักรหมอกเพลิงแห่งเนบิวลานั้นมีความเคร่งครัดจนเกินไป! แม้แต่การครอบครองสายเลือดที่ถูกต้อง ก็ไม่ได้ทำให้เธอเข้าถึงอาณาจักรนั้นได้อย่างง่ายดายนะ! ตอนนี้เธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าหลายครอบครัวที่นี่มีกรุ๊ปเลือดที่แตกต่างจากคนทั่วไป และนั่นก็เป็นเพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมลับ ผู้คนจากสมาคมลับต้องพึ่งพาร่างกายที่ไม่ธรรมดาของพวกเขาในการฝึกฝน และพวกเขาจะเข้าใกล้ขีดจำกัดของมนุษย์มากกว่าคนอื่นอยู่หนึ่งก้าวเสมอ ถึงกระนั้น มีเพียงผู้ที่ขยันขันแข็งจากครอบครัวเหล่านั้นเท่านั้น ที่จะสามารถควบคุมความแข็งแกร่งภายในของพวกเขา และอาจจะบรรลุถึงอาณาจักรหมอกเพลิงแห่งเนบิวลาได้!“อย่างไรก็ตาม ในสายตาของตระกูลลึกลับบางตระกูล สมาคมลับนั้นไม่ใช่พวกท
“แต่มันคือเรื่องจริงนะคะคุณลุง! หนูไม่ได้ล้อเล่น! ลองดูสิคะ ถ้าคุณลุงไม่เชื่อ! หนูกำลังจะบอกคุณว่าดวงตาของสาวน้อยผู้มีเสน่ห์คนนี้คล้ายกับดวงตาของคุณลุงมาก!” ผู้หญิงคนนั้นยืนยัน ขณะที่เขามองดูเธอส่งสัญญาณให้เขาหยิบรูปจากมือที่ยื่นออกมาของเธอ ชายชราก็มองมาที่เธอครู่หนึ่ง ก่อนที่จะยอมรับมันจากเธอ วินาทีที่เขามองเห็นบุคคลในรูปถ่ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เขาก็ถึงกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เขาตกใจมากจนไม่สามารถจะถือรูปถ่ายใบนั้นไว้ในมือได้อีกต่อไป ส่งผลให้มันตกลงบนพื้น หากยังชัดเจนไม่พอ ผู้หญิงในภาพก็คือเควต้า หญิงสาวเพิ่งเคยเห็นชายวัยกลางคนตัวสั่นเป็นครั้งแรก เธอสังเกตเห็นสีหน้าของเขาที่เปลี่ยนไปอย่างมากมาย ในขณะที่เขาจ้องมองที่ภาพนั้น หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “…คุณลุง? มีอะไรหรือเปล่าคะ…?” เขารีบหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วตอบว่า “…ฉันไม่เป็นไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี… เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันพันผ้าพันแผลให้เจอรัลด์เสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย ระหว่างนี้ฝากเธอดูแลเขาหน่อยนะ!” พอพูดจบ เขาก็รีบหันหลังกลับก่อนจะจากไป “…เขาทำตัวแปลกจัง …” ผู้หญิงคนนั้นพึมพำกั
“เขาได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยใครบางคนที่แข็งแกร่งมาก! ถ้าผมเคลื่อนไหวช้ากว่านี้ ผมคงจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว!” โฮแกนอธิบายด้วยความรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง “แล้วใครกันแน่ที่เป็นคนทำร้ายเธอ” อีเร็ตถาม ขณะที่เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ตอนนั้นผมกำลังจดจ่ออยู่กับการหลบหนีการโจมตีของเขา ผมจึงมองเห็นเขาไม่ชัด!” “…เป็นไปได้ไหมว่ามีกองกำลังอื่นที่แอบช่วยเจอรัลด์อยู่…?” อีเร็ตพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เธอจมดิ่งลงไปในความคิด ใครก็ตามที่สามารถเอาชนะโฮแกนได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น อย่างน้อยพวกเขาต้องมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขั้นสุดท้ายของอาณาจักรแห่งโลกวิญญาณ แม้ว่าเธอจะอนุมานได้มากน้อยเพียงใด อีเร็ตก็ไม่สามารถสรุปได้ว่า กองกำลังของใครที่เข้ามาช่วยเหลือเจอรัลด์เอาไว้ในครั้งนี้ ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงของใครบางคนพูดขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าเจอรัลด์เป็นคนที่สร้างปัญหาให้กับคุณย่าทวดหรือเปล่าครับ?” เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลามากคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาทางประตูทางออก มือทั้งสองของเขาที่ประสานกันไว้ด้านหลัง เมื่อเขาก้าวเข้าไปข้างใน ปฏิกิริยาแรกของเขาคือการมองผ่านห้องโถงด้
ด้วยเหตุนี้ พวกกันเทอร์และสมาชิกจากกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษาจึงตกลงร่วมมือกันเพื่อตามล่าเจอรัลด์ เห็นได้ชัดว่าการตามหาเจอรัลด์เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทั้งอีเร็ต และราชาแห่งกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ในเวลาเดียวกัน กองกำลังทั้งสองก็รู้ดีว่า แม้แต่ควีนน่า ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังที่ร้ายกาจก็กำลังมองหาเจอรัลด์เหมือนกัน แต่เป้าหมายของควีนน่าในการตามหาเจอรัลด์นั้นแตกต่างจากพวกเขา คือเธอต้องการให้เขาแต่งงานกับเธอ แม้จะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในการตามหาเจอรัลด์ แต่ทั้งคุณหญิงกันเทอร์และราชาแห่งกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ก็ยังคงจับตาดูการกระทำของควีนน่าอย่างใกล้ชิด ส่วนภารกิจในการตามหาตัวเจอรัลด์ได้ตกเป็นหน้าที่ของเฟลตันและโฮแกน ในขณะที่พวกกันเทอร์มีอำนาจในการควบคุมเมืองโบราณได้อย่างเต็มที่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อิทธิพลของพวกเขาได้แผ่ขยายไปทั่วทั้งเมืองเคอร์ตัน ด้วยเหตุนี้ พวกกันเทอร์จึงสั่งให้พวกไซมม์จากเมืองเคอร์ตันช่วยเหลือพวกเขาในการค้นหาตัวเจอรัลด์ โดยใช้คนกลุ่มใหญ่และจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้พวกเขา แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากระดมกำลังกันเพื่อตามล่าเจอรัลด์ แต่อีเร
“ด้วยความน่ารักของเธอในตอนนี้ ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องเติบโตเป็นผู้หญิงที่สวยมากแน่ ๆ” โมนิก้าพูดด้วยรอยยิ้ม "ผมเห็นด้วย ผมแน่ใจว่าเธอจะค่อนข้างคล้ายกับคุณในแง่ของความงาม!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็เอาผ้าขนหนูสีขาวที่ถืออยู่ขึ้นมาปิดปาก ก่อนที่จะเริ่มไออย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าผ้าขนหนูผืนนั้นเริ่มเปื้อนเลือด โมนิก้าก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ทางที่ดีคุณอย่าเพิ่งเดินไปเดินมาดีกว่านะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว อาการบาดเจ็บของคุณก็ยังไม่หายดี รู้ไหมล่ะ? พูดตามตรง ฉันยังทำใจยอมรับเกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกายคุณไม่ค่อยได้เลยนะ!” หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็หันมามองเธอและพบว่าเธอกำลังจ้องไปที่หน้าอกของเขาอย่างตั้งใจ เจอรัลด์จึงรู้สึกแปลก และถามเธอออกมาว่า “…ทำไมคุณถึงจ้องหน้าอกผมแบบนั้น…?” “อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดสิ! ฉันแค่มองจี้หยกของคุณน่ะ! มันกลับมาเปล่งประกายอีกแล้วนะ รู้ไหม? ตั้งแต่วันที่คุณถูกพาตัวมาที่นี่ จี้จะส่องสว่างในเวลาเดียวกันทุกเช้าและทุกคืน เมื่อคิดย้อนกลับไป มันน่าจะทำแบบนั้นหลายสิบครั้งแล้ว!” โมนิก้าตอบ ในขณะที่เธอกลอกตาใส่เจอรัลด์ ก่อนจะชี้ไปที่จี้หยกทร
“ฉัน… ฉันไม่รู้จริง ๆ!” เซียร่าร้องออกมา ขณะที่เฟลตันยกเธอขึ้นไปในอากาศ ไม่ว่าเขาจะข่มขู่เธอมากแค่ไหน เซียร่าก็ยังคงปฏิเสธว่าเธอไม่รู้อะไรเลย เมื่อเขาเข้าใจแล้วว่าเขาไม่สามารถเอาข้อมูลอะไรมาจากเธอได้ เขาจึงหันไปจ้องพ่อและแม่ของเซียร่าด้วยสายตาที่เย็นชาแทน ก่อนจะถามว่า “แล้วแกสองคนล่ะ? รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?” เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่กระตือรือร้นที่จะตอบ เขาจึงจับคอของเซียร่า แล้วค่อย ๆ เพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น ทั้งเอเลียสและภรรยาของเขา ซึ่งกำลังร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก ก็ได้แต่กัดฟันตัวเองอย่างตื่นตระหนก ในขณะที่ทั้งคู่รู้ความจริงว่าเฟลตันกำลังตามหาเจอรัลด์ ชายหนุ่มที่ได้รับการช่วยเหลือจากชายวัยกลางคน แต่พวกเขาก็ภักดีต่อชายคนนั้นเป็นอย่างมาก และไม่เคยคิดที่จะทรยศเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ทั้งสองก็เอาแต่ส่ายหัว "…ฮึ! ฉันรู้อยู่แล้วแหละ! พวกแกมันเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! งั้นฉันจะแสดงให้พวกแกดู!” เฟลตันหัวเราะเยาะ ขณะยกแขนขึ้นช้า ๆ... ก่อนจะลดระดับลงมาด้วยการรูดลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง! ในขณะนั้น ทุกคนตัวแข็งทื่อ พวกเขาไม่แน่ใจนักว่
หากยังไม่ชัดเจนพอ เขาคือคนที่เพิ่งกลับมาจากเก็บสมุนไพรให้เจอรัลด์นั่นเอง เขาสัมผัสได้ถึงสถานการณ์อันตรายที่กำลังเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปในสลัมด้วยซ้ำ เมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้ทันเวลา เขาจึงใช้พลังจิตอันศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพื่อบังคับมีดให้ลอยมาปลดมีดของเฟลตันที่กำลังจะเฉือนคอของเซียร่าออกไป อนิจจา เมื่อเขาเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ เขาถึงได้รู้ว่าเฟลตันได้แยกชิ้นส่วนแขนของเซียร่าออกจากร่างของเธอแล้ว! “ส่งเธอมาให้ฉัน และเก็บรักษาแขนที่ขาดของเธอให้ดี! เธอยังมีสิทธิ์ที่จะหายได้!” ชายคนนั้นสั่ง ขณะที่เขารีบประคองเด็กสาวที่หมดสติก่อนจะรีบวิ่งกลับบ้านไป เนื่องจากระยะทางระหว่างบ้านของเขากับบ้านของเซียร่าค่อนข้างห่างไกลกัน ชายผู้นี้จึงรู้ว่าเขาไม่มีเวลามากนัก เมื่อมาถึงบ้านของเขา ทั้งเจอรัลด์และโมนิก้าต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเซียร่าตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว และเริ่มช่วยเหลือเด็กหญิงที่กำลังบาดเจ็บ เนื่องจากเจอรัลด์มีความรู้เรื่องศิลปะการจัดกระดูก และชายวัยกลางคนก็มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์อย่างล้นห