เจอรัลด์รู้จักนิสัยของนาโอมิดี หากเธอตั้งใจจะแก้ปัญหาด้วยตัวเองแล้ว เธอจะไม่เรียกร้องให้ใครยื่นมือเข้าไปช่วยเป็นอันขาด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถึงเธอจะแก้ปัญหาไม่สำเร็จในตอนสุดท้าย เธอก็จะไม่ร้องขอให้ใครช่วยอยู่ดี!เขายังรู้อีกว่า เธอคงจะรู้สึกไม่ดีที่จะขอความช่วยเหลือจากเขาหรือแซค เพราะเธอได้รับเงินจากเขาไปเยอะแล้ว จากการเจอกันเมื่อครั้งก่อน‘สำหรับคนที่มีอาชีพเป็นครู เธอยังคงทำตัวเหมือนเด็กโง่อยู่ดี…’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง ในขณะที่เขากำลังขับรถพานาโอมิไปที่โรงเรียนมัธยมเมย์เบอร์รี่ เฟิร์สหลังจากที่พวกเขาเอารถเข้าไปจอดในโรงเรียน และก้าวเข้าไปข้างในได้เพียงไม่กี่ก้าว เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งก็สังเกตเห็นนาโอมิและตะโกนเรียกเธอ “ครูนาโอมิ! สวัสดีค่ะ!”ฟังจากคำพูดทักทาย ก็เดาได้ไม่ยากว่าเธอคือนักเรียนคนหนึ่งของนาโอมิ ถึงแม้เธอจะเป็นเด็กที่แต่งตัวเรียบร้อยและมีใบหน้าที่งดงาม แต่เจอรัลด์ก็ดูออกว่าเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นเวลาที่คุยกับคนอื่น ในขณะที่เขากำลังสังเกตท่าทีของเธอ เจอรัลด์ก็สังเกตเห็นว่ากระเป๋าสะพายของเธอมีรอยฉีกขาดเล็กน้อย“เธอยังไม่กลับบ้าน
ยาสมินไม่ได้อิจฉาริษยาในความสามารถของนาโอมิเท่านั้น ความจริงแล้ว เธออิจฉาเรื่องที่นาโอมิได้รับเลือกให้เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโรงเรียนมากกว่า!ทันทีที่เธอรู้เรื่อง เธอก็เกิดอาการบ้าคลั่งเพราะไฟแค้นที่สุมอยู่ภายในใจ ตราบใดที่นาโอมิยังคงอยู่ที่นี่ เธอก็คงจะเป็นได้แค่เงาของนาโอมิเท่านั้น“...ฮึ่ม! ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่ามาสายแค่ไหน? ฉันเกือบจะคิดว่าเธอกลัวจนหัวหดที่จะต้องถูกลากเข้าคุก จนไม่กล้าจะโผล่หน้ามาซะแล้ว! แถมเธอยังพาผู้ชายมาด้วยอีก! คิดจะเอาเขามาขู่ให้ฉันกลัวหรืออย่างไร? แล้วดูความโกโรโกโสของเขาสิ!” ยาสมินพูดโพล่งขึ้นมาทันทีนาโอมิเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดของยาสมิน เธอได้แต่เดินเข้าไปอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาจารย์ใหญ่ฟังท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบอกกับทุกคนว่า พวกเขาจะกลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และยังย้ำกับนาโอมิอีกว่า เธอควรจะเตรียมตัวเอาไว้ตลอดเวลา ถ้าพวกเขายังสามารถติดต่อเธอได้ เธอก็จะไม่เป็นอะไรหลังจากที่พวกเจ้าหน้าที่กลับไปแล้ว ยาสมินก็หันมาหานาโอมิ และตะคอกใส่เธออย่างเลือดเย็น “ฮึ่ม! ถีงแม้วันนี้จะย
เจอรัลด์เชี่ยวชาญเรื่องการอ่านใจคนเป็นอย่างดี ตราบใดที่คนคนนั้นไม่ได้มีวิชาที่แกร่งกล้าไปกว่าเขา เขาก็สามารถอ่านใจได้เพียงแค่มองผ่าน ๆ เท่านั้นด้วยเหตุนี้เอง ตอนที่เขาได้พบกับเชอรี่ครั้งแรก เขาจึงรู้ทันทีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นอย่างไรยาสมินเป็นผู้หญิงใจร้าย ที่มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างแท้จริง เจอรัลด์สัมผัสได้ว่าความตายก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากผู้หญิงคนนั้นเกิดรู้สึกอิจฉาริษยาใครสักคนขึ้นมา เขาเกรงว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเชอรี่ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงอยากให้นาโอมิพาเขาไปที่บ้านของเธอหลังจากที่เจอรัลด์อ่านใจเชอรี่ เขาก็ได้รู้ว่ายาสมินมาที่หน้าบ้านของเธอเมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น ทั้ง ๆ ที่เธอควรจะอยู่ระหว่างการเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดหลังจากที่เรียกเชอรี่ออกมานอกบ้าน ยาสมินก็สั่งให้เธอคอยสะกดรอยตามนาโอมิ และขโมยเงินทุนการศึกษาก้อนนั้นมาให้ได้ เธอยังอธิบายอย่างแจ่มแจ้งอีกว่า ถ้าเชอรี่ทำสำเร็จ เธอก็จะเอาเรื่องนี้ไปใส่ร้ายป้ายสีนาโอมิ! เธอยังพูดเพิ่มเติมอีกว่า ลูกน้องของสามีเธอจะคอยแอบช่วยเหลือเชอรี่ ขณะะที่เธอปฏิบัติภารกิจ และหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จ
“ฉันขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ต้องห่วงนะสาวน้อย! เราจะทำให้มันเร็ว ถ้าเธอเชื่อฟังเราเป็นอย่างดี แล้วฉันก็ยังจะจ่ายเงินให้เธอด้วยนะ… ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจแค่นั้นแหละ! เธอจะได้เอาเงินนี้ไปช่วยชีวิตแม่ของเธอ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ฉันจะให้เธอทำมันก็สมเหตุสมผลดีนะ!” หัวหน้าตะโกน ก่อนจะกระชากแขนของเชอรี่ จนกระติกน้ำร้อนของเธอร่วงลงพื้นทันที!อาหารที่เชอรี่เตรียมไว้ให้แม่ของเธอหกกระจัดกระจายเต็มพื้น จากนั้นหัวหน้าแก๊งก็เอามือปิดปากเชอรี่ แล้วลากตัวเธอขึ้นรถคันหนึ่งของพวกเขาไป!เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายอีกห้าคนที่เหลือก็หัวเราะด้วยความตื่นเต้นและสะใจอย่างไรก็ตาม เสียงหัวเราะของชายคนหนึ่งก็ต้องหยุดชะงักอย่างฉับพลัน เมื่อเขาถูกใครบางคนดึงใบหูข้างขวาอย่างแรง! และก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบอะไร เสียงของเนื้อที่ฉีกขาดก็ดังขึ้น เขาส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด และใบหน้าซีกหนึ่งของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด!จากนั้นเจอรัลด์ก็โยนใบหูที่เขาดึงหลุดออกมาลงบนพื้น มือข้างหนึ่งของเขากำลังถือแท่งเหล็กที่เก็บมาได้จากข้างทางเขาเอาแท่งเหล็กนั้นฟาดไปที่หัวของชายคนนั้นจนร่วงลงไปกองกับพื้น จนเขาก็ชักกระตุกพร้อมกับมีน้ำลายฟูมป
หลังจากที่จัดการกับคู่ต่อสู้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เจอรัลด์ก็โยนแท่งเหล็กทิ้งไป จากนั้นนาโอมิก็รีบวิ่งไปที่รถเพื่อช่วยพยุงเชอรี่ออกมาเชอรี่ที่กำลังอ่อนแรง ตกใจสุดขีดที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่หากชายเหล่านั้นได้แตะต้องตัวเธอ และทำให้เธอต้องแปดเปื้อน เธอคงไม่มีหน้าที่จะอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป เพราะความทรงจำที่เลวร้ายเหล่านั้นคงจะตามหลอกหลอนเธอไปจนชั่วชีวิต!การที่เธอถูกบังคับให้ทำหลายสิ่งหลายอย่างโดยไม่เต็มใจบ่อยครั้ง ส่งผลให้สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่พออยู่แล้ว หากคนพวกนั้นมาทำเรื่องเลวร้ายกับเธออีก เชอรี่คิดว่าการฆ่าตัวตายเพื่อหนีความทุกข์ก็คงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเธออย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ คุณครูของเธอมาอยู่ตรงนี้กับเธอแล้ว เชอรี่ที่กำลังหลั่งน้ำตาก็โผเข้ากอดนาโอมิ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ค คุณครูนาโอมิ! ค คุณดีกับหนูมาตลอด แต่หนูก็ยัง หนู…หนู…หนูมันเป็นคนโง่เง่า! โง่เง่า อย่างไม่น่าให้อภัย…!”นาโอมิปลอบโยนเด็กหญิงที่กำลังร้องไห้ ก่อนจะตอบว่า “ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ครูเข้าใจ… ครูไม่โทษหนูหรอกนะ…ที่หนูทำแบบนี้ ก็เพราะว่าคุณแม่ของหนูล้มป่วยใช่ไหม? ทำไมหนูถึงไม่เล่าใ
ทันใดนั้นเอง จี้หยกที่เจอรัลด์นำติดตัวมาด้วยก็เหมือนจะจับสัญญาณอะไรบางอย่างได้เจอรัลด์ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่มีพลังหยินแข็งแกร่งน่าจะกำลังอยู่ใกล้กับบริเวณนี้!เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว เจอรัลด์ก็รีบเดินสำรวจไปทั่วบริเวณอย่างไรก็ตาม จู่ ๆ จี้หยกก็หยุดตอบสนองอย่างกะทันหัน ทำให้เจอรัลด์รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก หรือเขาอาจจะแค่คิดไปเอง?“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…? ทำไมจู่ ๆ มันก็หยุดสั่นไปอย่างรวดเร็วแบบนั้น?” เจอรัลด์ที่กำลังรู้สึกงุนงงบ่นกับตัวเอง เขาแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาอย่างเห็นได้ชัดในเมื่อจี้หยกมีการตอบสนองอย่างรุนแรงเมื่อสักครู่นี้ เจอรัลด์จึงมั่นใจว่า เหตุผลที่มันหยุดอย่างกะทันหันก็คงจะเป็นเพราะหญิงสาวคนนั้นได้ออกไปจากบริเวณนี้แล้ว เมื่อคิดเช่นนั้น เจอรัลด์ก็รีบเดินลงไปข้างล่าง และมองหาหญิงสาวไปทั่วทั้งบริเวณ ด้วยหวังว่าจี้หยกจะสั่นอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใด ๆ จากจี้หยกอีกเลยในขณะที่เขาเดินกลับมาที่ห้องผู้ป่วย นาโอมิก็เพิ่งจะปิดประตูและเดินออกมา“เรากลับกันก่อนดีกว่าเจอรัลด์… พักหลังเชอรี่คงจะเหน็ดเหนื่อยมามากกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น ตอนนี้เธอกำลั
วันต่อมา ยาสมินก็เดินทางไปที่โรงเรียนพร้อมกับสามีของเธอเนื่องจากวันก่อน นาโอมิยังพาผู้ชายมาช่วยเธอ วันนี้เธอก็เลยพาผู้ชายของเธอมาช่วยด้วยเช่นกัน ยาสมินมั่นใจมากว่า แค่เห็นรถของสามีเธอ ชายคนนั้นก็คงจะกลัวจนหัวหดแล้ว! ฮึ่ม!ถึงกระนั้น ยาสมินก็คงจะโกหก ถ้าเธอบอกว่า เธอไม่ได้คิดมากเรื่องข้อความแปลก ๆ และเรื่องที่เทียโก้และพรรคพวกหายตัวไปเมื่อวานนี้ เธอลองโทรหาพวกเขา แต่ไม่มีใครรับสาย และก็ไม่มีใครอยู่ที่บ้านของเชอรี่เลยสักคน พวกเขาจะหายไปไหนได้…?ถึงแม้ว่าเทียโก้กับพรรคพวกจะชอบหาความสุขใส่ตัว แต่ยาสมินก็รู้ว่าพวกเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่ส่งข้อความมารายงานเธอ หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้วเธอรู้สึกแปลกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เธอพาสามีมาด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยาสมินก็รู้จักที่มาที่ไปของเชอรี่เป็นอย่างดี และเธอก็รู้ว่าเชอรี่คงไม่กล้าสร้างปัญหาที่น่าหนักใจอะไรให้เธออย่างแน่นอนไม่นานนัก พวกเขาก็เดินทางมาถึงหน้าตึกของโรงเรียน เนื่องจากสามีของยาสมินขับรถบีเอ็มดับเบิลยู เจนเนอเรชั่นเจ็ดรุ่นล่าสุด มันจึงดึงดูดนักเรีย
“ถ้าฉันจะบอกว่า เขาดูค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐาน มันก็คงจะฟังดูเกินไปหน่อย! แต่ดูจากสภาพของเขาแล้ว ก็คงจะไม่ใช่คนรวยอะไร ใช่ไหม? ฉันคิดว่าเขาคงจะเป็นพวกพนักงานทั่วไปนั่นแหละ!”เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว ยาสมินก็มั่นอกมั่นใจมากว่า คนแบบนั้นคงไม่สามารถเทียบอะไรกับสามีของเธอได้ก่อนที่เพื่อนร่วมงานของเธอจะได้ตอบโต้อะไร จู่ ๆ เสียงกรี๊ดของนักเรียนกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้น! นักเรียนบางคนกรี๊ดอย่างสุดแรง จนเกือบจะเป็นลมล้มพับกันเลยทีเดียว!“... นั่นมันบ้าอะไรกัน?” ยาสมินบ่นพึมพำ จากนั้นเธอกับเพื่อนร่วมงานก็หันไปมองตรงประตูทางเข้าของโรงเรียน เพื่อจะดูว่าเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นกันแน่ทันทีที่พวกเขาหันไปเห็นต้นเหตุของความวุ่นวายนั้น เพื่อนร่วมงานก็พากันสบถออกมาด้วยความตกใจ ยาสมินดูจะสับสนกว่าใครในกลุ่ม เธอเอามือขึ้นมาปิดปากด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น“ม มันเป็นรถที่เท่สุด ๆ ไปเลย!” ทุกคนตะโกนออกมา ก่อนจะอ้าปากค้างรถ ‘เท่ ๆ’ ที่พวกเขาพูดถึง คือรถที่มีราคาสูงหลายล้านดอลลาร์ ความจริงแล้ว เรียกได้ว่ารถคันนี้เท่กว่ารถสปอร์ต ลัมโบร์กีนีเป็นหลายร้อยเท่า มันกำลังเคลื่อนจากเขตโรงเรียนมุ่งตรงไปยังตึกใหญ่ของโรง
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ