“…เขาทำได้อย่างไรกัน…? ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถฟื้นฟูกำลังภายในได้แล้ว แต่เขาก็ไม่น่าจะซ่อนพลังหยางของเขาจากฉันได้เลยนี่นา…! ต้องมีใครบางคนช่วยพาเขาหนีแน่! ทำไม…ทำไมจะต้องมีคนช่วยพาเขาหนีไปจากฉันด้วยล่ะ?! คนคนนั้น…คนคนนั้นจะต้องรู้แน่ ๆ ว่าฉันขาดเขาไม่ได้! คนคนนั้นกำลังท้าทายฉัน เขาต้องการให้ฉันทนทุกข์ทรมานต่อไป! แต่ฉันจะไม่ยอมให้นายหนีฉันไปได้หรอก เจอรัลด์! ถึงแม้ฉันจะต้องตามล่านายจนสุดหล้าฟ้าเขียวก็ตาม!” ควีนน่าบ่นพึมพำ ในขณะที่ตัวเธอสั่นจากอาการโมโหจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยความรู้สึกขมขื่นที่เกิดจากภายในใจแรงอาฆาตแค้นของเธอนั้นรุนแรงจนส่งผลให้บรรยากาศรอบ ๆ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โบสถ์ทั้งโบสถ์เหมือนกำลังถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกตอนที่เจอรัลด์เดินลงมาถึงเชิงเขา เขาก็ตัดสินใจหันหลังกลับไปมองโบสถ์แลงเวิร์นเป็นครั้งสุดท้าย…แต่เขากลับพบว่ามันกำลังถูกเผา เปลวไฟนั้นโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง จนแผ่กระจายไปทั่งทั้งบริเวณของภูเขาเจอรัลด์คาดเดาเอาไว้แล้วว่า โบสถ์แห่งนี้จะต้องถูกทำลายก่อนฟ้าสาง ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกเคารพนับถือในตัวเจ้าแห่งวิญญาณมากขึ้นกว่าเด
สิ่งที่เขาอยากจะทำมาตลอดก็คือ ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไปแต่ตอนนี้เขาได้มาอยู่ในเมืองลูเกาแล้ว เขาต้องเริ่มออกตามหาคนที่มีร่างกายหยินที่แข็งแรงให้พบ ที่เขารู้ก็คือ เขาจะต้องไปเดินดูตามสถานที่ ๆ มีคนไปรวมตัวกันจำนวนมาก หรือจะพูดอีกอย่างว่า สถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น สถานีรถไฟ และย่านการค้าที่มีคนพลุกพล่านเมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มต้นการค้นหาสิ่งที่เจอรัลด์สังเกตเห็นได้ก็คือ เมืองลูเกาเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เขาเห็นร้านค้าที่ขายจี้ ที่ดูเหมือนจะเป็นของบรรพบุรุษอยู่มากมายหลายร้าน นอกจากนั้นแล้ว เขาก็ยังเห็นร้านที่ขายวิทยุจากยุคเจ็ดศูนย์อีกด้วยตอนที่เขากำลังมองสำรวจไปรอบ ๆ เขาก็สังเกตเห็นผู้คนมากมายไปยืนออกันอยู่ที่หน้าร้านค้าร้านหนึ่งอย่างตื่นเต้น หลังจากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมาว่า “ท่านครับ ได้โปรดเถอะ! ผมต้องการนำเงินไปรักษาลูกของผมที่กำลังป่วยอย่างเร่งด่วน! ถึงแม้ว่าจี้หยกชิ้นนี้จะเป็นของบรรพบุรุษ และแม่ของผมก็ส่งต่อมันมาให้ผม แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะขายมัน! ผมขายมันในราคาแปดพัน! แปดพันเท่านั้นเองครับ!”ถึงแม้จะมีผู
“บ้าจริง! นายรนหาที่ตายซะแล้ว! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”หญิงสาวรู้สึกฉุนเฉียวทันทีที่เธอถูกใครบางคนดึงผมเธอเริ่มแกว่งกระเป๋าในมือไปมา และพยายามจะตีคนที่กำลังดึงผมเธออยู่แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น เธอก็ถูกตบเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงเสียงตบนั้นดังสนั่นหวั่นไหวหญิงสาวรู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน และเธอก็รู้สึกมึนงงเป็นอย่างมาก เธอเดินเซเข้าไปหาร้านขายขนมปังที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นเธอก็ล้มลงพร้อมกับกวาดเอาขนมปังที่อยู่บนแผงขายลงพื้นจนหมดคนที่เพิ่งจะตบหน้าเธอคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจอรัลด์หลังจากที่เขาได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นทั้งหมด เขาก็ไม่สามารถระงับความรู้สึกโมโหไว้ได้อีกต่อไปเขาเคยพบเจอคนที่ชอบข่มเหงรังแกคนอื่นมามากมายในชีวิต แต่เขาไม่เคยเจอใครที่โอหังเท่าเธอมาก่อนผู้หญิงคนนี้หาความบันเทิงและความตื่นเต้นจากความทุกข์ยากของคนอื่น แล้วเขายังจะปล่อยผู้หญิงที่โหดร้ายเช่นนี้ให้เที่ยวไประรานใครต่อใครได้ตามอำเภอใจอยู่อีกเหรอ?!“โธ่เอ๊ย! ยูมิ!”ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนเขายังไม่ทันได้ตั้งตัวผู
คุณกรอสอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมาอย่างได้ใจ“จัดการเขาซะ!”คุณกรอสหันไปตะโกนใส่บอดี้การ์ดของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลังพวกบอดี้การ์ดที่เหลือรีบพุ่งเข้าไปหาเจอรัลด์ในทันที หมายจะจัดการเขาให้สิ้นซากตามคำสั่งของเจ้านาย“หยุดเดี๋ยวนี้!”ทันใดนั้นเอง บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำสองคนก็เดินเข้ามาและหยุดพวกเขาไว้“พวกแกเป็นใครกัน!” คุณกรอสตะคอกพร้อมกับมองไปที่พวกเขา“ตระกูลสมิท” บอดี้การ์ดตอบ“ว่าอย่างไรนะ?”คุณกรอสตัวสั่นไปทั้งตัว แล้วรีบวางปืนลงในทันที“หมายความว่า ครอบครัวสมิทมาที่นี่จริง” แอปเนอร์พูดพร้อมกับยิ้มเจื่อนตระกูลสมิทถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ตระกูลที่มีอำอาจและมีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองลูเกา เมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลกรอสถึงแม้ว่าแอปเนอร์จะร้ายกาจเพียงใด แต่เขาก็รู้จักโลกนี้เป็นอย่างดี เขารู้ว่าต้องปฏิบัติตามกฏเกณฑ์อย่างเคร่งครัด และเขารู้อยู่แก่ใจว่าใครที่เขาสามารถตอแยได้ หรือว่าใครที่เขาไม่ควรจะตอแยด้วยเป็นอันขาด“นายห้ามแตะต้องผู้ชายคนนี้ และห้ามยุ่งกับเด็กคนนั้นกับพ่อของเธอเป็นอันขาด! เพราะว่าพวกเขาทั้งสามคนอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหนูคนใหญ่ของตระกูลสมิท!” บอดี้การ์ดในสูทสีดำพูด
บอดี้การ์ดหลายคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกละลึง เมื่อเห็นเจอรัลด์กำลังวิ่งตามรถของคุณหนูใหญ่พวกเขาไม่ทันได้ยินว่าเจอรัลด์กำลังตะโกนว่าอะไร แต่พวกเขาเกรงว่าคุณหนูใหญ่จะตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจึงรีบขึ้นรถเพื่อไล่ตามเจอรัลด์ในทันทีเจอรัลด์ยังคงวิ่งตามรถของคุนดรี้ที่กำลังแล่นด้วยความเร็วภายในรถคันนั้น“พี่คะ พี่สังเกตเห็นผู้ชายคนนั้น ที่อยู่ข้างหน้าเราก่อนจะขึ้นรถไหมคะ?” ไรเลย์ถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า“เธอพูดถึงผู้ชายคนไหนเหรอ?” คุนดรี้ถาม ขณะที่เธอขมวดคิ้ว และเผยอปากด้วยความสงสัย“ฉันก็กำลังพูดถึงเด็กหนุ่ม คนที่เข้าไปช่วยสองพ่อลูกคู่นั้น แล้วโดนแอปเนอร์เล็งปืนใส่ยังไงล่ะ!” ไรเลย์พูด ในขณะที่เอามือปิดปากที่กำลังหัวเราะ“เขาน่ะเหรอ? ไม่นะ ทำไมเหรอ?”“พี่อาจจะไม่ได้สังเกตนะ แต่เขาดูมึนงงและสับสนมาก ตอนที่เขาเห็นพี่น่ะ! เขายืนนิ่งอยู่กับที่ ฉันว่าเขาดูตลกมากเลย! ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันหันไปเห็นสีหน้าของเขา ก่อนที่ฉันจะเดินขึ้นรถ และฉันก็รู้สึกขำมาก! ดีนะที่พี่ไม่ได้ถอดหน้ากากออก ไม่อย่างนั้น เขาคงจะตกตะลึงในความสวยของพี่ จนเป็นลมล้มพับไปตรงนั้นเลยหรือเปล่านะ” ไรเลย์อดไม่ได้ที่จะขำออกมาจนเส
ดูเหมือนว่าเขาไม่มีทีท่ายอมแพ้ที่จะวิ่งตามรถคันนั้นให้ได้ไรเลย์เอามือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ก่อนจะพูดว่า “โอ้พระเจ้า! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนที่รักเดียวใจเดียวหลงเหลืออยู่บนโลกนี้จริง ๆ! พี่คะ ดูเหมือนว่าพี่จะเป็นรักแรกพบของเขาจริง ๆ!”คุนดรี้อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงเพราะเขินอายนั่นก็เป็นเพราะว่ามีชายหนุ่มมากมายมาตกหลุมรักในความงดงาม และนิสัยใจคอที่น่ารักของเธอ แต่เธอก็ไม่เคยเจอใครที่เหมือนกับเจอรัลด์มาก่อนมันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่คุนดรี้จะไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลย“พี่คะ ทำไมเราไม่หยุดรถแล้วลองฟังว่าเขาอยากจะพูดอะไร! ฮ่าฮ่าฮ่า! ดูเขาสิ เขาทำให้ฉันคิดถึงนิทานเรื่องหนึ่ง มันเป็นเรื่องของขอทานคนหนึ่ง ที่ตกหลุมรักหญิงสาวที่ร่ำรวยคนหนึ่งตั้งแต่แรกพบ จากนั้นเขาก็เขียนจดหมายรักให้เธอฉบับหนึ่ง และวิ่งตามรถซีดานของเธอ เพื่อที่จะให้เธอได้อ่านความในใจของเขาบนกระดาษแผ่นนั้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขากลับถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิต จากคนในครอบครัวของหญิงสาวผู้ร่ำรวยคนนั้น! อนิจจา น่าเสียดายที่เรื่องนี้ได้ถูกกับหนดให้มีจุดจบที่น่าเศร้ามาตั้งแต่ต้นแล้ว…” ไรเลย์พูด“ทำไมเราจะต้องหยุดรถด้วยล่ะ? อย่าทำตั
ไรเลย์ได้แต่เอามือของเธอขึ้นมาปิดปากเอาไว้ เมื่อเธอเห็นบทละครชีวิตที่กำลังถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อหน้าเธอยังหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพนั้นเอาไว้ เพื่อที่เธอจะได้ไม่พลาดเหตุการณ์สำคัญไม่มีใครคาดคิดเลยว่า เด็กหนุ่มคนนี้จะทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อได้ถึงเพียงนี้ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะปรี่เข้าไปหาคุนดรี้ทันทีที่เขาเห็นเธอ? นี่มันเป็นเหตุการณ์ที่ยากจะเหลือเชื่อจริง ๆ! นี่มันบ้าไปแล้ว!“ฉัน…ฉันไม่ใช่…”หลังจากที่เธอนิ่งไปสักพัก คุนดรี้ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่ม พร้อมกับทำท่าทีขัดขืนเขาเล็กน้อยน้ำเสียงของเธอทำให้เจอรัลด์ได้สติขึ้นมานี่ไม่ใช่เสียงของมิล่าเจอรัลด์รีบผละออกจากเธอทันทีคุนดรี้ทำสีหน้าแปลก ๆ ในขณะที่เธอกำลังหันหลังกลับมา ราวกับว่าเธอรู้สึกผิดเล็กน้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้นและตอนนี้เอง ที่เจอรัลด์ได้เห็นเธออย่างเต็มตาด้านหลังของเธอ รูปร่างของเธอ หรือแม้แต่ดวงตา ทุกส่วนเหมือนมิล่าหมดอย่างไรก็ตาม ถึงแม้เธอจะเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง…แต่เธอก็ไม่ใช่มิล่า เขาจำคนผิดเจอรัลด์นิ่งไปชั่วครู่ แววตาของเขาเผยให้เห็นถึงความพ่ายแพ้และสิ้นหวังอย่างชัดเจนเขาเพิ่งจะรู้สึกว่า
เมื่อเขานึกถึงความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นภายในใจ ตอนที่เขากำลังโอบกอดคุนดรี้ สิ่งที่เขาคิดเอาไว้ก็น่าจะเป็นเรื่องจริงพอถึงจุดนี้ เจอรัลด์จึงสรุปได้ว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาในตอนนี้ คือคนที่มีร่างกายหยินที่แข็งแกร่งเขาได้พบเธอแล้วในที่สุดตราบใดที่เขาสามารถเอาหยดเลือดเสริมกำลังจากเธอได้ เขาก็จะเดินทางกลับไปที่เมืองเมย์เบอรี่ได้อย่างปลอดภัยแน่นอนตอนนี้เจอรัลด์เริ่มตั้งสติได้“คุนดรี้ ไรเลย์ ลูกทั้งสองคนควรจะอยู่ที่บ้าน ลูก ๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหนอีกแล้วนะ ดูคนที่ลูกเข้าไปพัวพันด้วยสิ! เดี๋ยวแม่จะต้องไปตามตัวพ่อของลูกมาเสียแล้ว เขากำลังทำงานอยู่ เพราะฉะนั้น ทั้งสองคนต้องพักผ่อนอยู่ที่นี่ ห้ามออกไปไหน คุณสไนเดอร์จะจัดงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ เขาเชิญแต่แขกกิตติมศักดิ์มาร่วมงาน ทุกคนในตระกูลสไนเดอร์ก็จะมาร่วมงานด้วย เพราะฉะนั้น มันจะเป็นการดี หากลูกจะไปร่วมงานนี้ด้วย ลูกควรจะเตรียมตัวเอาไว้ก่อนนะจ๊ะ!” คุณหญิงสมิทตบไหล่คุนดรี้เบา ๆแต่ก่อนที่เธอจะออกไป เธอนึกขึ้นได้ว่าเจอรัลด์ยังไม่ได้กลับไป“ไบรอน! นายไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยซะ ฉันไม่อยากเห็นผู้ชายคนนี้อ