“ศิลาจารึกงั้นเหรอ?”“ใช่ มีภาพเขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โบราณบางอย่างถูกจารึกไว้บนนั้น เมื่อได้ใช้เวลาศึกษามันอยู่สักพัก ซีเอียนก็บอกได้แค่เพียงว่า มันเป็นภาพที่เกี่ยวกับพิธีกรรมฝังศพอะไรสักอย่าง เขาไม่เข้าใจภาษาที่เขียนกำกับเอาไว้เลยแม้แต่น้อย และไม่นานนัก เขาก็เลิกสนใจมัน ทำให้ศิลาจารึกพวกนั้นถูกเก็บเป็นผลงานศิลปะในห้องส่วนตัวของข้า!” เจ้าแห่งวิญญาณอธิบายภาพจิตรกรรมประวัติศาสตร์อีกแล้วเหรอ…?เมื่อใดที่เจอรัลด์ได้ยินเกี่ยวกับงานจิตรกรรม มันมักจะทำให้เขาหวนนึกถึงสิ่งที่เขาได้เห็นในสุสานโบราณหลายคนรู้ดีว่าภาพจิตรกรรมโบราณมักจะบอกเล่าประวัติศาสตร์ของชีวิตคนโบราณ ที่สะท้อนให้เห็นเรื่องราวทางสังคม การเมืองการปกครอง การเงิน วรรณกรรม งานศิลปะต่าง ๆ รวมถึงความสามารถทางด้านเทคโนโลยีของผู้คนในอดีต จิตรกรรมแต่ละแห่งที่ค้นพบมักจะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี และแนวคิดทางรสนิยมของศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานบางครั้งภาพจิตรกรรมเหล่านี้อาจเล่าเรื่องราวที่ยาวดั่งแม่น้ำ และมันมักจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นฉากที่สวยงามและชัดเจน จากความทรงจำและเรื่องราวที่ถูกถ่
เมื่อหันไปมองแผ่นศิลาจารึกแผ่นที่สอง เจอรัลด์ก็เห็นเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีฝังศพของผู้หญิงชุดขาว ดูเหมือนว่าจะมีพายุเกิดขึ้นในวันงานพีธีในรูปถัดมา เจอรัลด์นับคนที่อยู่ในนั้น รวมถึงขอทานชราได้ทั้งหมดสามสิบเจ็ดคน มีคนเก้าคนยืนเรียงกัน ในแต่ละแถวที่มีทั้งหมดสี่แถว ดูเหมือนจะมีแค่คนกลุ่มนี้ที่ถูกเลือกให้เดินทางไปพระราชวังของนางฟ้าพอเดินทางได้ถึงครึ่งทาง พวกเขาก็หยุดพักบนเกาะเกาะหนึ่งภาพต่อมาบนแผ่นศิลาแผ่นที่สาม ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นทันทีที่พวกเขาถึงเกาะพวกกลุ่มคนที่หยุดพักบนเกาะมองเห็นเรือลำใหญ่กำลังลอยเข้ามาหาพวกเขานี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอรัลด์เห็นเรือลำนั้นเช่นกัน มันดูเหมือนเรือลำที่เขาเห็นบนจิตรกรรมฝาผนัง ในสุสานโบราณไม่มีผิดเมื่อเห็นเรือรูปร่างแปลกประหลาดขนาดมหึมากำลังลอยข้ามเกาะ คนทั้งสามสิบหกคนที่ขอทานชราพามาด้วยก็คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเกรงกลัว และเริ่มที่เคารพบูชาเรือลำนั้นทันที เจอรัลด์คาดเดาว่า พวกเขาน่าจะเข้าใจว่าเป็นเทพลงมาจากสวรรค์เจอรัลด์ทำตาโตในทันทีที่เขาเห็นชายที่สวมเสื้อคลุมสีดำและหน้ากากแปลกประหลาดลอยลงมากจากเรือลำนั้น ก่อนที่เขาจะชี้นิ้วไปที่โล
หลังจากที่เจอรัลด์ได้อ่านเรื่องราวของภาพจิตรกรรมจบหมดแล้ว เขาก็อธิบายทุกอย่างที่เขาได้เรียนรู้ให้เจ้าแห่งวิญญาณฟัง“...เข้าใจแล้ว ข้าสงสัยอย่างหนึ่ง ท่านคลอฟอร์ด ท่านคิดว่าเรื่องของเรือยักษ์ที่เหนือธรรมชาติในภาพจิตรกรรมนั้นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อหรือไม่… หากอ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ยานพาหนะที่ลอยได้ และมีขนาดมหึมาแบบนั้นจะเคยมีอยู่จริงในอดีต แม้แต่ท่านอาจารย์ของข้าก็ยังเห็นว่าเรื่องเรือนั่นเป็นเรื่องเกินจริงตอนที่พวกเราได้เห็นภาพจิตรกรรมเมื่อสี่สิบปีก่อน” เจ้าแห่งวิญญาณพูด“ผมเชื่อครับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นมัน ทันทีที่ผมได้เห็นมันเป็นครั้งแรก ผมก็เกิดข้อกังขาเช่นกัน ถึงตอนนี้แล้ว ผมมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าภาพวาดจิตรกรรมเหล่านี้อาจจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า ครั้งหนึ่ง โลกของเราอาจจะเคยถูกปกครองโดยเผ่าพันธ์ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ร่วมกันกับเหล่ามังกรที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ใต้มหาสมุทรพวกนั้น!” เจอรัลด์ตอบ“ดูเหมือนว่าท่านจะเชื่อเรื่องราวในภาพจิตรกรรมเหล่านั้นนะท่านคลอฟอร์ด ท่านรู้หรือไม่ ทั้งข้าและท่านอาจารย์ของข้าเองก็รู้สึกสับสนกับเรื่องราวของมังกรเหล่านั้น และเรือยั
หากความจริงเป็นเช่นนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลมินแชลก็ตกมาเป็นของเจอรัลด์แล้วในตอนนี้“แกควรจะเซ็นสัญญาให้เรียบร้อย ทันทีที่ฉันหาหินนั่นเจอ เข้าใจใช่ไหม?” เจอรัลด์พูด ขณะที่โยนเซลด้าลงบนพื้นต่อหน้าสมาชิกมินแชลคนอื่น ๆทันทีที่เจอรัลด์กลับออกไป หัวหน้าอาวุโสก็ปล่อยโฮออกมาพร้อมกับตะโกนว่า “ไอ… ไอคนเลวนั่น…! มันกล้าดียังไงถึงมาเอาทุกอย่างที่เป็นของเราไปหมด…!”เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์เมื่อวานมาได้อย่างไร พวกเขาเคยมีช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขมากในอดีตที่ผ่านมา… แต่ตอนนี้ ทุกอย่างมันหายไปหมดแล้ว และการที่เจอรัลด์มาข่มเหงพวกเขาบ่อยครั้ง ก็ยิ่งทำให้มันแย่ลงกว่าเดิมหากแต่หลานสาวผู้ไร้ความคิดของเขา ไม่ได้ไปยั่วยุชายผู้นั้นแล้ว ทุกอย่างก็ยังคงเป็นปกติเหมือนเดิม ใครจะไปคาดคิดว่าชายคนนี้จะเป็นคนที่ไร้ซึ่งเหตุผลถึงเพียงนี้? เขาเป็นมากกว่ามหาโจร เมื่อเทียบกับพวกมินแชลรวมกันเสียอีก! เขาฉกฉวยเอาทุกอย่างที่เขาเห็นไปเป็นของเขา!หลายปีที่ผ่านมา ตระกูลมินแชลเป็นที่รู้จักในฐานะตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองฮาลิมาร์ค พวกเขาไม่เคยรู้สึกตกต่ำถึงเพียงนี้มาก่อนเลยในชีวิต!“หินก
ขณะที่เกิดเหตุการณ์โกลาหลขึ้นที่คฤหาสน์ของมินแชล อีกฟากหนึ่ง เจ้าแห่งวิญญาณก็กำลังจ้องมองไปที่ศิลาจารึกทั้งหกแผ่น เขายังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เจอรัลด์แปลออกมาจากภาพวาดเหล่านั้นมันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง…ไม่กี่วินาทีต่อมา ลูกศิษย์ของเขาคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาก่อนจะพูดว่า “ท ท่านอาจารย์ครับ! ด้านนอกมีเด็กสาวคนหนึ่ง เธอกำลังพยายามจะพังเข้ามาในโบสถ์! เธอได้แต่พูดว่า ต้องการให้ท่านทำนายชะตาชีวิตให้เธอครับ! ถึงแม้พวกเราจะพยายามห้ามเธอแล้ว แต่เธอก็ยังยืนยันจะเข้ามาข้างในให้ได้! พวกเรา… พวกเราต้านเธอไม่อยู่จริง ๆ ครับ! และที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอบอกว่า ถ้าท่านไม่ยอมให้เธอเข้าพบ เธอจะเผาโบสถ์นี้ทิ้งครับ!”เจ้าแห่งวิญญาณขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็โบกมือก่อนจะตอบ “เดี๋ยวข้าจัดการเอง ไปบอกนางให้รอที่ห้องด้านหน้า!”ขณะที่มองดูลูกศิษย์ของเขาวิ่งออกไป ท่านอาจารย์ก็ส่ายหัว ก่อนที่จะออกไปพบเด็กสาวคนนั้นอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก“ท ท่านอาจารย์บอกให้คุณรอท่านอยู่ในห้องนี้! เดี๋ยวท่านออกมา!” ลูกศิษย์คนนั้นลากเสียงยาว ในขณะที่เจ้าแห่งวิญญาณเดินเข้ามาในห้องทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง เขาก็มองเห็นหญิงสาวที่งดงามกำ
หินคริสตัลนั้นมีความสูงประมาณครึ่งเมตรได้ ยูเมะคิดว่ามันเป็นหินที่ดูมหัศจรรย์ยิ่งนัก ราวกับว่ามันส่งพลังดึงดูดบางอย่างออกมาให้กับผู้ที่จ้องมองมันยูเมะห้ามใจไม่ไหวจนต้องเอื้อมมือไปลูบไล้หินนั้นเบา ๆ อย่างอ่อนโยนและระมัดระวัง หลังจากที่เธอลูบมันไปได้สักพัก ทันใดนั้น หินก็เปล่งประกายขึ้นกว่าเดิม มันส่องแสงที่มีหลากสีออกมาปกคลุมไปทั่วร่างของยูเมะ!ยูเมะก้าวถอยหลังออกมา แล้วรีบเอามือปิดตาตัวเอง เนื่องจากแสงที่ส่องออกมานั้นเจิดจ้าจนเกินไป จนทำให้เธอมองอะไรไม่เห็นเลยจากนั้นแสงหลากสีที่เจิดจ้าออกมาก็เริ่มหรี่แสงลง จนกระทั่งแสงของหินคริสตัลกลับคืนสู่สภาพปกติเหมือนตอนก่อนที่ยูเมะจะเอามือไปลูบมัน แต่กระนั้น ดูเหมือนว่าจะมีลายเส้นที่ดูซับซ้อนหลายเส้นปรากฏขึ้นบนหิน“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า คุณกันเทอร์?” เจ้าแห่งวิญญาณถาม ขณะที่เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูชอบกลนัก การทำนายของเขาเสร็จสิ้นแล้ว“...ฉ ฉันไม่เป็นอะไร…ว่าแต่ว่า นี่มันคือหินอะไรกันแน่…? เหตุใดมันจึงเปล่งแสงออกมาได้ด้วยตัวเองเช่นนั้น?” ยูเมะถาม หน้าเธอแดงก่ำเพราะรู้สึกว่า เมื่อสักครู่เธอเพิ่งทำเรื่องที่ค่อนข้างจะน่าอับอาย“ฮ่าฮ
หินนั้นเปล่งแสงสว่างออกมา เจอรัลด์สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของมัน แม้จะมองจากระยะไกลก็ตาม“ช่างเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อะไรเช่นนี้?” เจอรัลด์บ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความรู้สึกปิติยินดีขณะที่เขากำลังจะเดินไปหยิบหินกันน้ำก้อนนั้น ทันใดนั้น หูของเขาก็ได้ยินเสียงเชือกที่หล่นลงบนพื้นจากอุโมงค์ด้านบน…มีคนมา?ไม่กี่วินาทีต่อมา เจอรัลด์ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังไต่เชือกลงมา เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบซ่อนตัวเพื่อจะแอบดูว่าคนคนนั้นคือใครไม่นานนัก ผู้หญิงคนหนึ่งก็กระโดดลงมาจากเชือก และทันทีที่เธอเห็นหินกันน้ำ เธอก็ยิ้มพร้อมกับปรบมือด้วยความดีใจ“มันอยู่ที่นี่จริงด้วย! พอได้หินนี้มาแล้ว เราก็จะได้ออกเดินทางเสียที!” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน“...นั่นเธอหรือเปล่า?” เจอรัลด์พูดขึ้นมาลอย ๆ ขณะที่กำลังแอบมองหญิงสาวจากที่ซ่อนของเขาและแน่นอน หญิงสาวที่เขากำลังสงสัยก็คือ ยูเมะ!หลังจากที่เขากลับมาจากภูเขาแลงเวิร์น เจอรัลด์ก็หวนกลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลยาร์นอีกครั้ง เพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญอีกหลายเรื่องกับแวกเนอร์ และตอนนั้นเองที่คนรับใช้ได้บอกกับเขาว่า ยูเมะไปจากที่นั่นแล้วขณะที่เจอรัลด์พอจะดู
เจอรัลด์มองไปที่ยูเมะพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ“นั่น…นั่นคุณ!” ยูเมะตะโกนก่อนหน้านี้ ใบหน้าของยูเมะซีดเผือดจากอาการตื่นตระหนก แต่เมื่อเธอได้เห็นเจอรัลด์ ใบหน้าของเธอตอนนี้กลายเป็นสีแดงเหมือนลูกมะเขือเทศ ถึงแม้ว่าเธอจะมีท่าทีเขินอาย แต่เจอรัลด์ก็สัมผัสได้ถึงความเกลียดชัง และความดุดันจากแววตาของเธอ“ใช่แล้ว ผมเอง…นอกจากเราจะมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์เดียวกันแล้ว ผมยังได้ยินคุณพูดว่า คุณมีแผนจะเดินทางไปราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทรด้วยอย่างนั้นเหรอ?” เจอรัลด์ถามด้วยความรู้สึกแปลกใจ เมื่อเขาได้ยินเธอบ่นพึมพำเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อสักครู่“ฉัน…ฉันไม่รู้! เลิกถามฉันได้แล้วน่า!” ยูเมะตอบ จากนั้นเธอก็ยืนขึ้นพร้อมกับหันหลังให้เขาทันที เมื่อเธอหวนนึกถึงคำทำนายของเจ้าแห่งวิญญาณเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานของเธอ…“จากคำทำนายของหินวิวาห์ มันดูเหมือนว่า คุณได้พบกับคนที่คุณจะตกหลุมรักแล้วนะ คุณกันเทอร์! จากที่ผมมองเห็นคือ คุณสองคนเพิ่งจะแยกจากกันเมื่อไม่นานมานี้เอง!” เจ้าแห่งวิญญาณพูดตอนที่เธอยังอยู่ที่โบสถ์“คนที่ฉันจะตกหลุมรักเหรอ…? เขาจะเป็นใครไปได้? ความจริงแล้ว…มัน…คงจะเป็นเขาไปไม่ได้หรอก หรือไม่ใช่? คน
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ