ร่างเล็กทว่าอวบอิ่มได้สัดส่วนส่ายพลิ้วอยู่ใต้ร่างแกร่งซึ่งเปลือยเปล่าไม่แพ้กันด้วยความเสียวซ่านรัญจวนจากฤทธิ์ลิ้นร้ายของชายหนุ่มผู้ซึ่งกำลังจะเป็นเจ้าบ่าวของเธอในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หนูเล็ก หรือ ชลิตา หลับตาพริ้มบิดกายเปลือยเปล่าหลบสายตาคมอย่างเอียงอายเมื่อเขาละลิ้นร้อนจากยอดอกสีหวานมามองใบหน้าแดงก่ำของเธอด้วยประกายตาพราวพรายของเขา ก่อนจะวกลงไปไล้เลียลิ้นร้อนตามผิวกายขาวละเอียดอ่อนของเธอจนถึงกึ่งกลางกายสาวก่อนจะละเลิงลิ้นร้อนลงบนกลีบดอกไม้สดฉ่ำที่มีเขาเพียงคนเดียวที่ดื่มกินหยาดน้ำหวานหอมละมุนลิ้นนี้แต่เพียงผู้เดียว ...
พี่โดม อัครวัฒน์ ดีแลนด์ หรือ คุณโดมแห่งดีแลนด์แอร์ไลน์ หนุ่มหล่อไฮโซวัยสามสิบเอ็ดเจ้าของสายการบินกระดับโลกผู้โด่งดังด้วยเสน่ห์อันล้นเหลือทั้งยังร่ำรวยมหาศาล เขาเพียบพร้อมและเป็นที่หมายปองของสาวๆ ครึ่งค่อนโลก แต่หญิงสาวผู้โชคดีกลับเป็นเธอและตอนนี้เขาก็ทำให้เธอต้องทรมานเพราะเพลิงเสน่หาจากปลายลิ้นร้อนของเขาจนร่างสาวแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่สุดท้ายเธอก็เหาะเหินไปบนอากาศร้อนระอุแต่ก็หนาวสะท้านละลิ่วลอยไปยังดินแดนงดงามของเกมสวาทที่เขาเป็นผู้ปรนเปรอจนเธอสุขสมทุกครั้งคราไป...
“พี่โดมพอแล้วค่ะ หนูเล็กไม่ให้พี่โดมจูบอีกแล้วนะคะจนกว่าเราจะแต่งงานกัน...”
ชลิตายกมือป้องปิดอกอวบจากสายตาร้อนแรงแล้วพลิกกายหนีมือร้อนผ่าวของเขาที่ทำท่าว่าจะรุกไล่โลมเล้าเธอให้หลงเตลิดไปกับจุมพิตของเขาอีกครั้ง หญิงสาวเง้างอดรีบคว้าหมอนใบใหญ่มาปกปิดร่างเปลือยเปล่าจากสายตาคม เมื่อชายหนุ่มดึงผ้าห่มโยนทิ้งไปข้างเตียงเหมือนกลั่นแกล้งเสียอย่างนั้น....
“โธ่... ก็พี่โดมคิดถึงหนูเล็กนี่นา... ไปทำงานตั้งหลายวันคิดถึงจะแย่แล้วจนแทบจะลงแดงแล้วครับที่รัก...”
“คนหื่น... พูดจาน่าเกลียด...” หญิงสาวกล่าวหน้าแดงแต่ก็อดเห็นใจเขาไม่ได้ช่วงนี้พี่โดมของเธอเดินทางไปมาระหว่างประเทศบ่อยๆ ทั้งที่ใกล้วันแต่งงานของเขากับเธอแล้ว แต่เธอก็เข้าใจว่ามันคืองาน อัครวัฒน์รีบเคลียร์งานทุกอย่างจนลงตัวเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ประตูวิวาห์อันหรูเริดอลังการกับเธอ แค่คิดชลิตาก็ภูมิใจแล้ว...
เธอเป็นเพียงเด็กกำพร้าคนหนึ่งที่โชคดีได้รับการอุปการะจากคุณลุงคุณป้าที่ร่ำรวยมีหน้ามีตาในสังคมและท่านทั้งสองก็ไม่มีลูกจึงขอเธอมาเลี้ยงเป็นลูกของท่านตั้งแต่แบเบาะ ดังนั้นเด็กบ้านนอกจนๆ ซึ่งมีพ่อแม่ที่หาเช้ากินค่ำที่ไม่อาจจะเลี้ยงดูเธอได้ดีจึงยกให้เธอเป็นลูกบุญธรรมของ คุณวิลสัน กับคุณพิสมัย ซึ่งนับได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกคนหนึ่ง
ชลิตาจึงมีชีวิตและอนาคตที่สดใสกว่าพี่น้องคนอื่นๆ อีกทั้งเธอเองก็รักดีมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยทำตัวเหลวไหลและไม่เคยทำให้ท่านทั้งสองผิดหวังทั้งเรื่องผลการเรียน เรื่องความสามารถด้านกีฬาหรือการทำงาน ชลิตาจึงเป็นที่รักดังแก้วตาดวงใจของคุณวิลสันกับคุณพิสมัยรวมไปถึงทุกคนในครอบครัวของเธอ เพราะคุณพิสมัยซึ่งเป็นป้าของเธอนั้นไม่เคยลืมว่าตนเองนั้นก็เคยเป็นเพียงสาวชาวบ้านแสนธรรมดามาก่อน จึงไม่คิดทอดทิ้งญาติๆ ที่ยังคงมีอยู่ที่เป็นคนรักดีเอาการเอางานและไม่เคยปิดบังความจริงที่ว่าเธอไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของท่าน ความรักดีของชลิตายังพลอยทำให้บรรดาพ่อแม่ที่แท้จริงกับพี่ๆ น้องๆ ของเธอสุขสบายไปด้วยซึ่งทุกคนก็มีอนาคตที่ดีและสดใสไม่ต่างกัน...
อัครวัฒน์กับชลิตาเจอกันบ่อยๆ เพราะต้องร่วมงานกันทั้งในส่วนของธุรกิจของคุณลุงคุณป้าของชลิตาและทั้งเรื่องส่วนตัวเพราะชลิตาเป็นเพื่อนสนิทของ บารนี ซึ่งเป็นภรรยาของ อัคนี พี่ชายคนรองของเขา แต่เขากับเธอก็ไม่ค่อยกินเส้นกันนักเพราะเขาต่างก็ชอบพูดจากวนโทสะกันและคอยแหย่เย้าชิงไหวชิงพริบกันอยู่เสมอ แต่นั่นก็เป็นเหมือนการผูกเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอจนแยกไม่ออกและกว่าจะรู้ตัวว่ารักกันก็เกือบแย่...
แต่ในที่สุดพวกเขาก็ตกลงหมั้นหมายกันท่ามกลางความยินดีของทั้งสองตระกูลเมื่อกลางปีที่แล้วและจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ แต่ว่าที่เจ้าบ่าวก็มักขโมยตัวว่าที่เจ้าสาวมาสอนงานซ้อมคิวเข้าหออยู่เรื่อยๆ จนเธอแทบขาดทุนป่นปี้แม้เธอจะยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ก็ตามที...
“ก็คนมันรัก คนมันคิดถึงนี่ครับใครจะอดใจไหว ว่าที่เจ้าสาวก็ทั้งขาว ทั้งอวบอิ่มน่ากอดน่า... ขนาดนี้...”
“กรี๊ด พี่โดมน่ะ คนบ้า...”
เขาเว้นวรรคอย่างมีเลศนัยก่อนจะลุกขึ้นทั้งกายเปลือยเปล่าไปคว้าเสื้อคลุมมาสวมต่อหน้าเธอ หญิงสาวหน้าแดงก่ำจนอยากหาอะไรมาทุ่มหัวคนตัวโตนัก ท่าทางของเธอทำให้เขาหัวเราะอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินมาใกล้ๆ แล้วก้มลงจุ๊บแก้มนวลแดงก่ำของว่าที่เจ้าสาวคนสวยแรงๆ อย่างมันเขี้ยว...
“เอาล่ะคนสวยหากไม่อยากโดนพี่โดมพาเข้าหอก่อนแต่งจริงๆ ก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วครับ”
“พี่โดมสุดหล่อก็หยิบเสื้อคลุมให้หนูเล็กหน่อยสิคะ นะคะ...” หญิงสาวออดอ้อนเมื่อเสื้อคลุมมันอยู่เกินเอื้อม...
“พี่ว่าหนูเล็กจะขี้เกียจไปแล้วนะ เป็นผู้หญิงขี้เกียจไม่ดีนะ เดี๋ยวว่าที่สามีพาทำอย่างอื่นแทนน้า...”
ชายหนุ่มกล่าวล้อเธอทั้งที่รู้ว่าคนอย่างชลิตานั้นเป็นหญิงสาวยุคใหม่ที่ทำงานได้หลากหลายและเก่งเทียบเท่าผู้ชายคนหนึ่งเลยทีเดียวและเธอก็เป็นคนที่เคี่ยวกับทุกๆ งานอย่างน่าทึ่งแต่เธอก็ยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่องไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขารักและชื่นชมเธอ
“พี่โดมแกล้งหนูเล็กนี่คะ จะให้หนูเล็กเดินแก้ผ้าหน้าไม่อายเหมือนพี่โดมได้ยังไงกันล่ะ นะคะ นะพี่โดมคนดีพี่โดมสุดหล่อของหนูเล็ก...”
“โอเคๆ เห็นว่าชมกันหรอกนะพี่โดมจะหยิบเสื้อคลุมให้...”
ว่าแล้วอัครวัฒน์ก็เดินไปหยิบเสื้อคลุมสีหวานของเธอมาให้แต่เขากลับยืนห่างจากเตียงกว้างตั้งเป็นวาและกางเสื้อคลุมไว้รอเธอให้เดินไปสวมใส่ต่อหน้าเขาเสียอย่างนั้น ชลิตาหน้างอเมื่อรู้ดีว่าเขาแกล้งเธออีกแล้ว...
“พี่โดม คนบ้า แกล้งหนูเล็กอีกแล้วนะ”
“เอาล่ะ พี่จะนับหนึ่งถึงสิบ หากหนูเล็กไม่มาสวมเสื้อคลุม นั่นแสดงว่าเต็มใจให้พี่พาเข้าหอก่อนแต่งจริงๆ”
“พี่โดม...”
“เอาล่ะ พี่โดมจะนับแล้วนะ... หนึ่ง สอง...”
“กรี๊ดดด คนบ้า พี่โดมคนทุเรศ...”
ปากก็ว่าเขาปาวๆ แต่สุดท้ายชลิตาก็วิ่งมาสอดแขนใส่เสื้อคลุมที่กางรอรับร่างเปลือยของตนอย่างรวดเร็วเพียงแค่เขานับถึงสามเท่านั้นแต่กระนั้นก็ไม่วายที่แก้มนุ่มจะถูกเขาฉกชิงความหอมไปอีกหนึ่งฟอด ส่วนเจ้าของแก้มก็ได้แต่หน้าแดงก่ำทั้งเขินทั้งโมโหคนชอบเอาเปรียบที่หัวเราะชอบใจกับท่าทางงอนๆ ของเธอ...
อัครวัฒน์หัวเราะชอบใจเมื่อคนตัวเล็กเดินกระแทกส้นเท้าเข้าห้องน้ำไปหลังจากหยิกเขาไปหนึ่งที ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์อ่อนโยนน่าหลงใหลซึ่งหากหญิงสาวคนใดมาเห็นใบหน้าและแววตาหวานเชื่อมราวจะกลืนกินสิ่งที่มองก็คงระทดระทวยอยู่แทบเท้าเขา แต่หัวใจของคุณโดมมีเพียงหนูเล็กคนนี้
หญิงสาวผู้โชคดีที่ได้ครอบครองหัวใจรักของเขาเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าก่อนหน้านี้เขาจะได้รับฉายาว่าเป็นเพลย์บอย เป็นคาสโนว่า เป็นซาตานหน้าหยกที่ทำให้หญิงสาวแทบคลั่งตายเพราะเสน่ห์อันเหลือล้นของเขาอย่างไร ตอนนี้เขาละทิ้งมันไปสิ้นกับสิ่งที่เคยทำหรือเป็นมาเพื่อ ชลิตาเพียงคนเดียว...
อัครวัฒน์ยิ้มกับตนเอง ตอนนี้เขากำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนเช่นพี่ๆ ทั้งสอง ที่ต่างก็มีคนรักและแต่งงานมีครอบครัวและมีทายาทตัวน้อยๆ น่ารักน่าชังกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคงตามหลังพี่ๆ อยู่ แต่เขาสัญญากับตนเองว่าเขาจะต้องตาม พี่เด่น กับ พี่เดียว ของเขาให้ทัน เขาจะมีลูกแฝดสามแค่นี้ก็สามารถจะแซงพี่ๆ ของเขาได้แล้ว และปีหน้าเขาจะมีลูกอีกหนึ่งหรือสองคน... ชายหนุ่มวางแผนครอบครัวของตนอย่างมีความสุข...
บทที่ 1 “ให้พี่ไปส่งดีกว่าไหมครับ ผู้หญิงเดินทางคนเดียวได้ยังไงมันอันตรายนะ...” อัครวัฒน์เดินตามมาคลอเคลียคู่หมั้นสาวเมื่อช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันสิ้นสุดลงวันนี้ทั้งวันเขากับเธอควงคู่กันไปมอบการ์ดเชิญตามบ้านของเพื่อนสนิทจนครบหมดทุกคน ก่อนจะถึงเวลาที่เธอจะต้องไปดูชุดเจ้าสาวกับเพื่อนรัก ความจริงเขาอยากจะไปกับเธอด้วยเพราะรู้สึกแปลกๆ ในใจอย่างไรไม่รู้ แต่ก็รู้ดีว่าชลิตานั้นดื้อดึงและมีความเป็นตัวของตัวเองสูงหากเธอคิดจะทำอะไรเธอจะต้องตั้งใจทำอย่างนั้นซึ่งข้อนี้เขาเข้าใจดีและยอมรับได้เพราะคนที่จะเคียงข้างเขาก็จะต้องเป็นผู้หญิงแบบเธอนี่ล่ะ... “พี่โดมทำงานไปเถอะค่ะ นี่มันเพิ่งสี่โมงเย็นเองนะคะไม่ใช่สี่ทุ่ม หนูเล็กโตแล้วกลับบ้านเองได้ค่ะ ทำงานดีๆ ล่ะ แล้วก็เอาของชำร่วยไปจัดการให้เรียบร้อยด้วย แล้วหนูเล็กก็ไปดูชุดเจ้าสาวกับบีค่ะไม่ได้ไปคนเดียวเสียหน่อย”“ครับๆ พี่โดมผิดเองที่ห่วงว่าที่คุณเมียมากไป”“พี่โดมน่ะ พูดน่าเกลียดจัง...”หญิงสาวเอียงอายแล้วเดินไปขึ้นรถของตัวเองหน้าแดงก่ำแต่ก็หันมาโบกมือให้คู่หมั้นหนุ่มอย่างสดใส อัครวัฒน์โบกมือตอบด้วยรอยยิ้มละลายหัวใจที่แม้ว่าเขากำลังจะแต่งานแ
บทที่ 2 “แต่พวกพี่เป็นหนักกว่านี้เพราะเมียหนี เมียเชิดใส่ น่ะสิ เลยไม่เข้าใจว่าการที่เมียเต็มใจจะแต่งงานงานด้วยเป็นแบบไหน อย่างว่าล่ะนะ เสน่ห์ของคนเรามันต่างกัน ผมน่ะแต่งงานกันด้วยความรักที่เปิดเผยจริงใจไม่ขี้เก๊ก ไม่เหมือนพี่ๆ หรอก ท่ามากเรื่องเยอะจนเมียพากันหอบลูกหนีเดือนร้อนงอนง้อกันอุตลุด”“ไอ้โดม พูดแบบนี้หาเรื่องนี่หว่า ไอ้นี่มันปีนเกลียวพี่ แบบนี้ต้องโดนนน...” ว่าแล้วสามพี่น้องแห่งดีแลนด์ที่ความหล่อเหลาแข็งแกร่งไม่เป็นรองกันก็พากันวิ่งไล่จับเหมือนเด็กชายวัยเก้าขวบสิบขวบมากกว่าชายหนุ่มที่อายุอานามก็ต่างเลยเลขสามกันมาแล้วหลายปีทั้งนั้น...“ดูเอาเถอะ เล่นกันเป็นเด็กๆ” ยอดรัก ภรรยาของอัคราซึ่งกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกได้แปดเดือนแล้วกล่าวยิ้มๆ กับบารนีภรรยาของอัคนีซึ่งจูงลูกน้อยคนที่สอง น้องนาเดีย หรือ หนูเดีย วัยสามขวบออกมาเยี่ยมหน้ามองบรรดาสามีที่รัก“ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ พวกไม่รู้จักโต” สองสาวหัวเราะให้กัน หนูน้อยนาเดียนึกสนุกที่เห็นคุณพ่อ คุณลุงและคุณอาเล่นสนุกกันอยู่บนสนามหญ้าก็สะบัดมือเล็กๆ ออกจากอุ้งมือคุณแม่คนสวยแล้ววิ่งตื๋อไปร่วมวงด้วย นี่ถ้าหาก พี่บูม พี่ชายของเธออยู่ก็
บทที่ 3 เปลือกตาบางค่อยๆ ขยับยุกยิกเมื่อฤทธิ์ยาที่เธอได้รับเริ่มหมดไปก่อนที่มันจะเบิกกว้างอย่างตกใจ หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่งทันทีด้วยความตื่นตระหนก แล้วก้มลงสำรวจตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเธอยังไม่ได้รับอันตรายหรือถูกล่วงเกินใดๆ แต่ เธอก็ไม่ได้รู้สึกปลอดภัยสักนิด เมื่อรู้สึกถึงสายตาของใครสักคนมองมาที่ตน ขนอ่อนในกายของเธอลุกชันเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เธอรู้สึกว่าเขากำลังจ้องมองเธอด้วยแววตาหื่นกระหาย...“คุ คุณ เนวิน...” ชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากแห้งผากนั้นเบาราวกระซิบ...“ขอบคุณครับ แหม.. ดีใจจังที่คุณหนูเล็กอุตส่าห์จำกันได้...”เนวิน...ชายหนุ่มผู้มีรูปกายสูงโปร่ง ผิวขาวสะอาดใบหน้าหล่อเหลาแบบที่สาวๆ กำลังชื่นชมนิยมกันว่า หล่อแบบหนุ่มเกาหลีนั้นเขาเป็นหนึ่งในนักธุรกิจรุ่นเดียวกับอัครวัฒน์และมีชื่อเสียงพอสมควรทั้งในด้านดีและลบแต่จะออกไปด้านลบเสียมากกว่า และเธอก็รู้มาบ้างว่าเขากับอัครวัฒน์นั้นไม่ค่อยกินเส้นกันแต่เธอไม่นึกว่าเนวินจะต้องทำลายหรือเอาชนะกันด้วยวิธีการแบบนี้...ชลิตาหน้าซีดกวาดตามองหาทางหนีทีไล่เมื่อรับรู้ถึงกระแสความไม่ปลอดภัย แต่ก็จนปัญญาเมื่อเธอไม่รู้เลยว่าตนเองอ
บทที่ 4“โอเค เราจะขับรถไปตามถนนทุกสายในกรุงเทพฯ และรอบนอก เอาเป็นว่าเราแยกกันไปก็แล้วกัน...” อัคนีกล่าวซึ่งทั้งสองหนุ่มก็พยักหน้าเห็นด้วยในใจของอัครวัฒน์ก็นึกถึงแต่อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ชื่อเนวิน ซึ่งคอยขัดแข้งขัดขาและหาเรื่องทำร้ายเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเรื่องของปมแค้นใจของเนวินมันเกิดจากความเข้าใจผิดล้วนๆ ซึ่งเขาเองก็จนปัญญาจะทำให้คนโง่เขลาอย่างเนวินเข้าใจ และเขามั่นใจว่าการหายตัวไปของชลิตามันเกิดจากการแก้แค้นของเนวินแน่ๆ แต่การที่เนวินเอาตัวชลิตาไปหรือทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างนี้ มันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี...แต่ก่อนที่ทั้งสามหนุ่มจะเดินไปยังรถของตนเองเสียงโทรศัพท์ของอัครวัฒน์ก็ดังขึ้นและเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอทำให้เขาตัวเย็นเฉียบไม่รู้ด้วยความยินดีหรือเพราะอะไร... แต่เขารู้สึกไม่ดีเลย อัครวัฒน์รีบรับสายทันที...“หนูเล็ก หนูเล็กอยู่ไหนครับ พี่โดมเป็นห่วงหนูเล็กมากนะ...”“ตอนนี้คุณหนูเล็กอยู่ที่ถนน... หากคุณรักเธอรีบมารับตัวเธอด่วน เธอเสียเลือดมาก... ผมขอโทษ...”เสียงผู้ชายที่พูดมาตามสายนั้นฟังดูร้อนรนทว่าแฝงไว้ด้วยความเศร้าสร้อย แต่สิ่งที่กระตุกหัวใจของเขาคือเขารู้ได้ทันทีว่าเธ