“เป็นอะไรไปครับคุณแมน ช่วงนี้หน้าตาดูไม่ค่อยสดชื่นเลย” เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำทักทายจากหัวหน้าแผนกอย่างคุณรอยด์ดังขึ้นด้านหลัง
เมื่อเขาหมุนเก้าอี้มาก็เห็นอีกฝ่ายยืนอยู่ไม่ไกล รอยด์เป็นชายหนุ่มรูปร่างสันทัด อายุน้อยกว่าเขาประมาณหนึ่งถึงสามปี รอยด์เป็นลูกครึ่งสัญชาติรัสเซียจึงทำให้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมสีบรอนด์ทองแสนสะดุดตาหรือดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล
ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็น ‘คุณรอยด์’ มักทำให้พนักงานสาวในบริษัทหลงใหลกันมากมาย ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่แมนนับถือในตัวอีกฝ่าย เขาให้เกียรติรอยด์ตามฐานะที่เป็นหัวหน้าและยอมรับในศักยภาพการบริหารงานที่อีกฝ่ายทำได้ดีเสมอมา
“สวัสดีครับคุณรอยด์ ผมดูออกขนาดนั้นเลยเหรอครับ” แมนอดไม่ได้ที่จะถามอีกฝ่ายด้วยความกระตือรือร้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า! สัปดาห์นี้คุณแมนได้ส่องกระจกบ้างไหมครับเนี่ย หน้าตาอิดโรยขนาดนี้ ระวังสาว ๆ จะหนีหมดนะครับ” และคำตอบที่ได้มาทำเอารู้สึกเจ็บแปลบไปในอกทว่าชายวัยสามสิบก็ได้แต่ทำใจ
“เป็นอย่างนั้นเองเหรอครับ เพราะผมเป็นแบบนี้เองสินะ เธอถึงไม่มาเจอผมอีก” ก่อนที่แมนจะเผลอพึมพำออกมาเสียงเบา
“ใครไม่มาเหรอครับ” รอยด์ที่ได้ยินลูกน้องในแผนกพูดถึงใครบางคนก็ถามโพล่งออกไปตามประสาคนเป็นหัวหน้า
“อ่าา ไม่มีอะไรครับ” แมนส่ายหัวปฏิเสธ ก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับไปทำงานเพราะคิดว่าอีกฝ่ายแค่มาทักทาย
“โอเคครับ ความจริงแล้วผมจะมาขอเอกสารงานประชุมสำหรับวันนี้ครับ ทำเสร็จแล้วใช่ไหม” แต่รอยด์มาหาเขาเพราะต้องการงานที่มอบหมายไว้ต่างหาก
“เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ นี่ครับ”
“คุณแมนเก่งสมกับเป็นพนักงานคนโปรดของผมเลยครับ ขอบคุณมาก” รอยด์เอ่ยชมแมนทันทีที่ได้รับสิ่งที่ต้องการมาไว้ในมือ
“ด้วยความยินดีครับ” ชายวัยสามสิบที่รู้สึกดีใจก็คลี่ยิ้มบางเพื่อเป็นการตอบรับคำชมนั้น
“อ้อจริงสิ! ช่วงบ่ายก่อนเริ่มงานรบกวนคุณแมนตามสมาชิกในแผนกมารวมตัวกันให้หน่อยนะครับ ผมจะแนะนำพนักงานใหม่ให้ทุกคนรู้จักน่ะ”
“ได้เลยครับคุณรอยด์”
.
.
.
ทุกวินาที ทุกนาที ทุกชั่วโมงผ่านไปไวมากราวกับสายน้ำไหล เหล่าพนักงานบริษัทแต่ละคนต่างก็มีภาระหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองซึ่งต้องจัดการให้เสร็จก่อนถึงเวลาพัก...เพราะช่วงบ่ายจะมีงานชิ้นใหม่เดินทางมาถึงพวกเขา
จนกระทั่งตัวเลขที่ระบุอยู่ในนาฬิกาบนผนังห้องบ่งบอกถึงช่วงเวลาพักกลางวัน ร่างกายที่เกือบจะไร้วิญญาณของพนักงานก็ทยอยกันเดินออกจากโต๊ะทำงานเพื่อไปพัก บางคนนำข้าวกล่องมา บางคนเพียงแค่ดื่มกาแฟ ขณะที่บางคนออกไปทานข้าวที่ร้านใกล้ ๆ
ซึ่งแน่นอนว่าช่วงเวลาพักที่แสนสั้นหมดลงอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเองที่แมนก็แจ้งให้ทุกคนในแผนกทราบว่าคุณรอยด์ต้องการรวมตัวก่อนทำงานช่วงบ่ายเพื่อแจ้งข่าวให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกัน
“เอาล่ะ ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม ผมขอรบกวนเวลาสักห้าถึงสิบนาทีเพื่อแจ้งข่าวบางอย่างครับ”
คุณรอยด์เลือกใช้น้ำเสียงโทนปกติเพื่อให้พนักงานไม่ตกใจและรับรู้ว่านี่ไม่ใช่การเรียกรวมตัวเพื่อตำหนิ...แต่ถ้าหากเขาใช้น้ำเสียงโทนต่ำกว่านี้ ทุกคนจะเริ่มเสียวสันหลังกันไม่มากก็น้อย
“เชิญครับ” ก่อนที่เขาจะหันไปมองใครบางคนนอกห้องและพยักหน้าเชื้อเชิญให้เข้ามาด้านใน
วินาทีนั้น แมนรู้สึกได้เลยว่าเหตุการณ์นี้เป็นโชคชะตานำพา ราวกับว่าสวรรค์กำลังเข้าข้างชายวัยสามสิบอย่างเขาอยู่ในขณะนี้ เพราะบุคคลที่ปรากฏตัวคือเธอคนนั้น คนที่เขาเฝ้ารอที่สถานีรถไฟ
ตอนนี้ใจของแมนเต้นระรัวจนเหมือนจะหลุดออกมานอกอก ในที่สุดเขาก็ได้เจอเธอแล้วแถมยังมาในรูปแบบของเพื่อนร่วมงาน ซึ่งแปลว่าหลังจากนี้เขาจะได้เจอเธอทุกวันและครั้งนี้เขาจะจีบเธอ!!
“น้องคนนี้ชื่อกวาง เธอจะมาเป็นพนักงานใหม่ของแผนกเราตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฝากทุกคนช่วยดูแลเธอด้วยนะครับ” คุณรอยด์กล่าวแนะนำพนักงานใหม่ให้พนักงานในทีมได้รู้จัก
“สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาวภัตธารา เรียกกวางได้เลยนะคะ รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาทำงานร่วมกับทุกคนค่ะ หลังจากนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” หญิงสาวตรงหน้ากล่าวทักทายทุกคนอีกครั้งและโน้มศีรษะลงเพื่อแสดงความเคารพ
“ชื่อเพราะมากเลยนะคะน้องกวาง พี่ชื่อแยมค่ะ เป็นเลขาของคุณรอยด์ มีอะไรสงสัยปรึกษาพี่ได้นะคะ” ก่อนจะตามมาด้วยการต้อนรับของคุณเลขาสุดสวยประจำแผนก
“ขอบคุณค่ะ” กวางยิ้มกว้างเมื่อรับรู้ได้ว่าแผนกนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของการต้อนรับที่อบอุ่น
“ส่วนคนที่ผมอยากให้รับผิดชอบหน้าที่สอนงานน้องกวาง คงต้องรบกวนคุณแมนด้วยนะครับ” เมื่อได้ยินคุณรอยด์พูดแบบนี้ ทุกคนในแผนกต่างก็พยักหน้างึกงักเห็นด้วยอย่างอัตโนมัติ
“เอ๊ะ? ผมเหรอครับ” ทว่ามีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่ตกใจเพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะมองเห็นศักยภาพในตัวเขา
“ครับ ผมเชื่อมั่นว่าคุณแมนจะสอนงานเด็กใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน รบกวนด้วยนะครับ” รอยด์จึงยืนยันคำพูดและความคิดของตัวเองออกมาอีกครั้งแบบเสียงดังฟังชัด
“ด้วยความยินดีครับคุณรอยด์” ตอนนี้แมนไม่รู้จะอธิบายความตื้นตันใจออกมาเป็นคำพูดยังไง ชีวิตของเขาเริ่มสดใสขึ้นแล้ว
“เอ่อ พี่ชื่อภูริทัตนะครับ จะเรียกพี่แมนก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องกวาง” ชายหนุ่มเดินไปหาพนักงานใหม่พร้อมกล่าวแนะนำตัวและยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย
“แหมมม ช่างเป็นเรื่องบังเอิญอะไรอย่างนี้คะ” ก่อนจะมีเสียงเล็กแหลมแสบแก้วหูของคุณเลขาสาวดังขึ้น
“อะไรครับคุณแยม” แมนพยายามข่มเสียงไม่ให้มีอารมณ์ขุ่นมัวเจือปน เขาจำไม่ได้แล้วว่าต้นตอมาจากอะไร จำได้แค่ว่าตั้งแต่เขามาทำงานที่บริษัทนี้พร้อมอีกฝ่ายก็ไม่มีวันไหนที่จะไม่โดนอีกฝ่ายพูดจาถากถางหรือเหน็บแนมเลยสักวันเดียว
“จะไม่ให้พูดว่าบังเอิญได้ยังไงกันคะ ในเมื่อคนหนึ่งชื่อภูริทัต อีกคนหนึ่งชื่อภัตธารา ฟังแล้วคล้องจองกันมากเลยค่ะ สงสัยจะทำงานเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะคะ” คนฟังถึงกับคิ้วกระตุกเล็กน้อย ทว่ายังคงโต้กลับไปด้วยความใจเย็น
“ผมทำงานร่วมกับทุกคนได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยอยู่แล้วนะครับ ว่าแต่คุณแยมเถอะ...ไม่ทราบว่าเข้ากับคนอื่นได้ดีหรือเปล่าครับ” พูดจบก็จ้องลึกไปในดวงตาสีน้ำตาลที่กำลังสั่นระริกของอีกฝ่าย
“ชิ!” เลขาสาวที่ไม่สามารถเถียงต่อได้ก็ต้องยอมล่าถอยไป ก่อนจะมีเสียงของคุณรอยด์พูดแทรกเข้ามา
“เอาล่ะทุกคน แยกย้ายกันไปทำงานกันเถอะครับ”
เพียงแค่ประโยคนี้ประโยคเดียว กลุ่มคนนับสิบก็แตกสลายและกระจายตัวกลับไปทำงานที่โต๊ะของตัวเองทันที เหลือเพียงแมน กวางและรอยด์ที่ยังยืนอยู่ตำแหน่งเดิม
“ผมขอโทษนะครับคุณรอยด์แต่ผมอดไม่ได้จริง ๆ” แมนหันไประบายกับหัวหน้าทันทีด้วยความรู้สึกคับข้องหมองใจ ซึ่งรอยด์ที่ได้เห็นสถานการณ์แบบเมื่อครู่นี้มาเกือบนับร้อยครั้งก็เข้าใจ
“ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วกันครับ...แต่คราวหน้าผมว่าคุณแมนเบาลงอีกสักหน่อยก็ดีครับ ยังไงซะเธอก็เป็นผู้หญิง” หัวหน้าอย่างรอยด์ก็ทำได้เพียงพูดปลอบอย่างปลง ๆ ขณะที่แมนพยักหน้ารับและหันมาพูดกับพนักงานสาวคนใหม่
“เราสองคนก็ไปทำงานกันเถอะ”
“ค่ะ”
ครึ่งวันที่เหลือนี้ แมนไม่ได้สอนงานกวางมากนัก เขาเพียงเดินพากวางไปเยี่ยมเยือนสถานที่และห้องต่าง ๆ ที่อีกฝ่ายควรรู้ไว้และบอกถึงกระบวนการหรือขั้นตอนการขอใช้งานของแต่ละห้อง ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านหลังเลิกงาน
.
.
.
“อรุณสวัสดิ์ครับ” แมนเอ่ยทักทายกวางทันทีที่มาถึงแผนก เขารู้สึกว่าการเดินทางมาทำงานในช่วงนี้ เริ่มกลับมามีความสุขและทำให้เขาร่าเริงสดใสอีกครั้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“สวัสดีค่ะพี่แมน” น้ำเสียงหวานขานรับพร้อมใบหน้ามนที่คลี่ยิ้มกว้างมาให้ทำเอาแมนมีแรงใจในการทำงานขึ้นมาเลยเขาวางกระเป๋าเอกสารไว้บนโต๊ะและนั่งลงเปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายก็ทำเช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเพราะทั้งคู่ต้องเรียนรู้งานด้วยกันเลยทำให้ตอนนี้พวกเขาต้องนั่งทำงานใกล้กัน เรียกได้ว่าโต๊ะทำงานติดกันเลยมากกว่า“ช่วงนี้ไม่เห็นไปขึ้นรถไฟเลย พี่กะว่าจะทักทายสักหน่อย” แมนที่อยากสนิทกับอีกฝ่ายมากขึ้นก็ชวนคุยด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ“ปกติแล้วกวางไม่ขึ้นรถไฟค่ะพี่แมนแต่วันนั้นรถเสีย แถมยังไม่มีรถแท็กซี่คันไหนจอดรับอีก กวางเลยต้องไปใช้บริการรถไฟค่ะ” หญิงสาวตอบกลับมาพร้อมยิ้มแห้งหน่อย ๆ ราวกับว่าเธอรู้สึกปลงในความโชคร้ายของตัวเองแล้ว“วันนั้นรถพี่ก็เสียเหมือนกัน เซ็งมาก พี่ไม่ชอบขึ้นรถไฟฟ้าที่คนอัดแน่นกันเป็นปลากระป๋องแบบนั้นเลยครับ” ชายวัยสามสิบก็พูดต่อด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ“แย่เลยค่ะ ว่าแต่รถซ่อมได้ไหมคะ”“ตอนนี้ยังซ่อมอยู
หลังจากที่แมนได้รับรู้ว่าตัวเองเผลอทำตามคำแนะนำของวิธีการจีบสาววัยทำงานไปแล้วถึงสองข้อโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้มหรือการเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลืออีกฝ่าย เขาก็ส่งเสียงดีใจอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพังที่โต๊ะทำงาน“ข้อแรกผ่านไปแล้ว งั้นข้อถัดไปล่ะ คืออะไร” เมื่อทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีก็ไม่มีอะไรจะฉุดรั้งความมุ่งมั่นตั้งใจนี้ของเขาได้ สายตาคมเริ่มไล่อ่านเนื้อหาอีกครั้ง จนกระทั่งหัวข้อที่สามปรากฏขึ้น“ถามเรื่องแฟน คุณต้องถามให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายยังโสดอยู่ก่อนที่จะเริ่มการเริ่มต้นรุกจีบอย่างจริงจัง” อ่านจบปุ๊บ แมนก็รู้สึกเครียดขึ้นมาทันที“แล้วจู่ ๆ จะไปถามน้องยังไงล่ะเนี่ย” ก่อนจะต้องยกมือขึ้นกุมขมับ เขาเป็นถึงพนักงานผู้มากความสามารถ เรื่องแค่นี้ต้องทำได้“ถึงข้อนี้อาจจะยากแต่มันก็ค่อนข้างสำคัญมากเพราะถ้าน้องมีแฟนแล้ว เราก็คงต้องจำใจถอยออกมา” คิดมาถึงตรงนี้สีหน้าของชายวัยทำงานก็หม่นลงเล็กน้อย ทว่าเขาเองก็ยังไม่อยากยอมแพ้ตั้งแต่แรก เห็นทีคงต้องงัดวิชาความรู้เรื่องการทำงานมาประยุกต์ใช้“โอ๊ยยย ไอ้แมนคนนี้อยากจะมีแฟนสักคน ทำไมมันถึงได้ยากเย็นแบบนี้กันนะ” ก่อนจะเผลอพึมพำออกมาแบบกัดฟันเพราะไม่อย
“พี่ใกล้ถึงแล้วนะครับ” เสียงแมนพูดบอกคนในสาย ตอนนี้เขากำลังขับรถมุ่งหน้าไปรับกวางที่บ้านเพื่อเข้าบริษัทพร้อมกันและกำลังโทรบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้“ค่ะ เดี๋ยวกวางออกไปรอด้านนอกเลยนะคะ” ได้ยินเสียงหวานตอบรับมาจากปลายสาย แมนก็รู้สึกชื่นใจก่อนกดวางตั้งแต่เมื่อวานที่เขาได้เบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่ายมา ชายหนุ่มก็รู้สึกตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับทั้งคืน ทำได้แค่พลิกตัวไปมาและจ้องมองเลขสิบหลักที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมเช้าวันนี้ยังได้มีโอกาสโทรหาอีกฝ่ายด้วย ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าสวรรค์จะเป็นใจให้เขาขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่เกิดคาดมากสำหรับแมน และแล้วตอนนี้รถเก๋งของชายหนุ่มก็จอดเทียบริมรั้วบ้านของกวางเรียบร้อย“พี่แมนคะ นี่ขนมค่ะ” ทันทีที่หญิงสาวขึ้นมาบนรถ เธอก็ยื่นขนมมาให้เขาและนั่นสร้างความประทับใจให้แมนเป็นอย่างมาก“ของพี่เหรอครับ” น้ำเสียงที่ตอบกลับไปดูเหมือนจะไม่ค่อยมั่นใจนักและออกรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัททันที ทว่าเมื่อได้ยินคำยืนยันจากเจ้าของขนม แมนก็ยิ้มร่าออกมาอย่างห้าไม่อยู่
“พี่แมนชอบกวางเหรอคะ”“อะไรนะครับ!” ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มของแมนเบิกกว้างด้วยความตกใจ นี่เขาเป็นคนดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ว่าจะเป็นน้องชาย หัวหน้า เพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่คนที่เขากำลังจะจีบก็เข้าใจการกระทำของเขาได้ง่ายขนาดนี้“สงสัยกวางคงจะคิดมากไปเอง ขอโทษด้วยนะคะพี่แมน” เมื่อคนโดนถามส่งเสียงตกใจกลับมาก็ทำเอาคนรอฟังคำตอบถึงกับเสียความรู้สึกเล็กน้อย ตอนนี้กวางคงทำได้แค่ทำใจ ทว่าเธอก็ต้องหยุดความคิดนั้นเพราะ...“ชอบครับ” แมนตอบชัดถ้อยชัดคำและน้ำเสียงหนักแน่นราวกับกำลังพิสูจน์ความจริงใจที่มีต่ออีกฝ่ายผ่านคำพูดนี้ เขาไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้อีกฝ่ายถามแบบนี้แต่เขาจะคว้ามันไว้ โอกาสที่จะได้บอกความในใจให้หญิงสาวได้รับรู้“คะ?” กวางเหมือนจะยังรู้สึกสับสนเล็กน้อย“พี่ชอบกวาง” จนกระทั่งได้ยินคำตอบเดิมจากแมนอีกครั้งตึกตัก ตึกตักหัวใจสองดวงเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ทั้งคู่เงียบลงพร้อมกันโดยไม่มีสาเหตุและปล่อยให้ห้วงเวลานี้ดำเนินต่อไป ชายห
“มื้อเที่ยงนี้อิ่มอร่อยมากค่ะ ขอบคุณนะคะ” กวางเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังอยู่ในลิฟต์เพื่อกลับขึ้นไปทำงาน“ด้วยความยินดีครับ” แมนเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ปกติเขามักจะกินข้าวคนเดียวจนชินไปแล้วแต่การได้กินข้าวกับใครบางคนทำให้อาหารมื้อนั้นอร่อยขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนที่ความรู้สึกนั้นจะหยุดชะงักลงเพราะคำทักทายจากคุณเลขาสาว“อ๊ะ! ตายจริง ทั้งสองคนกลับเข้าบริษัทมาพร้อมกันแบบนี้ ไม่ทราบว่าแอบไปทานข้าวด้วยกันมาหรือเปล่าคะเนี่ย”“ผมไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้คุณแยมคิดแบบนั้น ทำไมพวกเราต้องแอบไปทานข้าวกันด้วยครับ” นี่สินะที่เขาเรียกว่าตัวขัดอารมณ์ คิ้วของแมนย่นเข้าหากันทันทีเพราะไม่เข้าใจหญิงสาวตรงหน้า“แหม คุณแมนอย่าคิดมากสิคะ แยมแค่พูดเล่นเองค่ะ” เสียงแหลมของคุณเลขาที่พูดอธิบายออกมาไม่ได้ช่วยให้เหตุการณ์นี้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย“ผมกับน้องกวางไปกินข้าวด้วยกันจริง ๆ ครับ ผมไปร้านนี้เพราะเห็นว่าเป็นร้านอาหารเปิดใหม่และดูน่าอร่อย ว่าง ๆ คุณแยมก็ลองชวนเพื่อนร่วมงานไปเปิดหูเปิดตาดูบ้างนะครับ” ไม่ว่า
ใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมงทั้งคู่ก็มาถึงสวนสนุก Fun Park ที่จัดตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่ไกลมากนัก นับว่าเป็นสถานที่แห่งเดียวในละแวกนี้ที่มีเครื่องเล่นผาดโผดและกิจกรรมให้หลายคนมาร่วมสนุกกันในวันหยุดหลังจากเลือกซื้อตั๋วที่เหมาะสมกับช่วงวัยและเหมาะสมกับเงินในกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว แมนก็เดินนำกวางเข้าประตูสวนสนุก เครื่องเล่นมากมายปรากฏแก่สายตา ผู้คนต่างก็หลั่งไหลกันมาที่นี่เพื่อมาใช้เวลาวันหยุดกับคนในครอบครัวเสียงจอแจเจี๊ยวจ๊าวของเด็ก ๆ ตั้งแต่วัยเตาะแตะไปจนถึงเสียงผู้คนในวัยทำงานมีให้ได้ยินตลอดเส้นทาง จนกระทั่งสายตาคมของแมนเห็นของหวานในวัยเด็กที่เขาชอบ เจ้าก้อนน้ำตาลที่ฟูฟ่องราวกับปุยเมฆหลากสีกำลังทำตัวเชื้อเชิญให้เขาไปชิม“กินขนมสายไหมกันครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามคนที่มาด้วย ทว่าสายตายังคงจดจ่อไปยังเจ้าก้อนหลากสีกวางเห็นแบบนั้นก็พยักหน้าพร้อมเดินตามอีกฝ่ายไปยังรถเข็นที่ขายขนมสายไหมทันที พ่อค้าเทเม็ดน้ำตาลลงในเครื่องอะไรสักอย่างที่ทั้งคู่ไม่รู้จัก ก่อนจะมีเส้นใยบางเบาค่อย ๆ โผล่ออกมาให้เก็บโดยใช้ก้านพลาสติกเป็นตัวยึด แล้วย
เช้าวันจันทร์ที่แสนสดใส พนักงานทุกคนกลับมาทำงานที่ตัวเองรักด้วยความรู้สึกเหมือนเช่นเดิม ทว่ามีสาวคนหนึ่งที่ร่าเริงสดใสมากกว่าปกติ เธอสวมชุดสีเดรสรัดรูปสีดำแสนสั้น ปล่อยผมสีน้ำตาลแผ่สยายออก เรียวขาขาวเดินฉับไวไปหาพนักงานคนสนิท“ตามมา ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” น้ำเสียงเล็กแหลมที่บ่งบอกได้เลยว่าผู้พูดนั้นเป็นคนจิกกัดและปากคอเราะร้ายขนาดไหน“ค่ะคุณแยม” พนักงานสาวที่ถูกเรียกตัวก็ทำได้เพียงลุกขึ้นและเดินตามเธอไปเพราะไม่อยากมีปัญหา เมื่อสองสาวมาถึงจุดลับมุมอับสายตาแล้ว เลขานุการสาวก็ซักไซ้ไล่ความทันที“ช่วงนี้คุณแมนกับพนักงานสาวหน้าใหม่เป็นยังไงบ้างล่ะ เหมือนฉันจะไม่ค่อยเห็นสองคนนั้นอยู่ที่โต๊ะทำงานในแผนกเลยนะ”“เอ่อ สองคนนั้นก็ทำงานได้ดีนะคะ” เสียงตอบอึกอักไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่ได้ยินมาจากเสียงลือเสียงเล่าอ้าง“หึ พูดออกมาซะ อย่าคิดนะว่าฉันมองคนอย่างเธอไม่ออก” แยมใช้ส้นเข็มของรองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่ทิ่มแทงลงไปตรงหลังเท้าของหญิงสาวที่แสนน่าสมเพช“อึก! คะ คือว่าตอนนี
เรื่องราวความอึดอัดใจนี้ยังคงดำเนินต่อไป กวางเลือกที่จะทำหน้าที่และงานของตัวเองให้ออกมาดีที่สุดเพราะเธออยากผ่านการประเมินพนักงาน ขณะที่แมนก็พยายามวางตัวใหม่และปกป้องหญิงสาวจากการกลั่นแกล้งของคุณเลขาจนกระทั่งวันแห่งการตัดสินโชคชะตาของบรรดาพนักงานทั้งหมดในแผนกได้มาถึง ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้ราวหลายสิบคนพร้อมโต๊ะที่เรียงกันเป็นวงรียาวตามพื้นที่ภายในห้อง บรรยากาศแสนอึมครึมบวกกับลมหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ทุกคนกระอักกระอ่วนใจไปหมด“สวัสดีครับทุกคน มากันครบแล้วใช่ไหมครับ” คุณรอยด์เอ่ยทักทายเหล่าพนักงานที่นั่งรอเขาอยู่ในห้องประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะโปรยยิ้มให้ทุกคนเพื่อบ่งบอกว่าทุกอย่างโอเคจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้เพื่อการประชุมโดยเฉพาะเริ่มมีแสงสว่างวาบขึ้นมาและเผยให้เห็นข้อมูลที่ทุกคนจะต้องทราบโดยทั่วกัน ตามมาด้วยร่างของเลขานุการสาวที่นำเอกสารมาวางไว้ตรงหน้าคุณรอยด์“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา งั้นผมขอเริ่มการประชุมและประเมินพนักงานประจำแผนกเราเลยนะครับ” รอยด์พูดเพียงแค่นั้นแล้วก็เริ่มชี้แจงภาพร
เรื่องราวความอึดอัดใจนี้ยังคงดำเนินต่อไป กวางเลือกที่จะทำหน้าที่และงานของตัวเองให้ออกมาดีที่สุดเพราะเธออยากผ่านการประเมินพนักงาน ขณะที่แมนก็พยายามวางตัวใหม่และปกป้องหญิงสาวจากการกลั่นแกล้งของคุณเลขาจนกระทั่งวันแห่งการตัดสินโชคชะตาของบรรดาพนักงานทั้งหมดในแผนกได้มาถึง ห้องประชุมขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้ราวหลายสิบคนพร้อมโต๊ะที่เรียงกันเป็นวงรียาวตามพื้นที่ภายในห้อง บรรยากาศแสนอึมครึมบวกกับลมหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ทุกคนกระอักกระอ่วนใจไปหมด“สวัสดีครับทุกคน มากันครบแล้วใช่ไหมครับ” คุณรอยด์เอ่ยทักทายเหล่าพนักงานที่นั่งรอเขาอยู่ในห้องประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะโปรยยิ้มให้ทุกคนเพื่อบ่งบอกว่าทุกอย่างโอเคจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้เพื่อการประชุมโดยเฉพาะเริ่มมีแสงสว่างวาบขึ้นมาและเผยให้เห็นข้อมูลที่ทุกคนจะต้องทราบโดยทั่วกัน ตามมาด้วยร่างของเลขานุการสาวที่นำเอกสารมาวางไว้ตรงหน้าคุณรอยด์“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา งั้นผมขอเริ่มการประชุมและประเมินพนักงานประจำแผนกเราเลยนะครับ” รอยด์พูดเพียงแค่นั้นแล้วก็เริ่มชี้แจงภาพร
เช้าวันจันทร์ที่แสนสดใส พนักงานทุกคนกลับมาทำงานที่ตัวเองรักด้วยความรู้สึกเหมือนเช่นเดิม ทว่ามีสาวคนหนึ่งที่ร่าเริงสดใสมากกว่าปกติ เธอสวมชุดสีเดรสรัดรูปสีดำแสนสั้น ปล่อยผมสีน้ำตาลแผ่สยายออก เรียวขาขาวเดินฉับไวไปหาพนักงานคนสนิท“ตามมา ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” น้ำเสียงเล็กแหลมที่บ่งบอกได้เลยว่าผู้พูดนั้นเป็นคนจิกกัดและปากคอเราะร้ายขนาดไหน“ค่ะคุณแยม” พนักงานสาวที่ถูกเรียกตัวก็ทำได้เพียงลุกขึ้นและเดินตามเธอไปเพราะไม่อยากมีปัญหา เมื่อสองสาวมาถึงจุดลับมุมอับสายตาแล้ว เลขานุการสาวก็ซักไซ้ไล่ความทันที“ช่วงนี้คุณแมนกับพนักงานสาวหน้าใหม่เป็นยังไงบ้างล่ะ เหมือนฉันจะไม่ค่อยเห็นสองคนนั้นอยู่ที่โต๊ะทำงานในแผนกเลยนะ”“เอ่อ สองคนนั้นก็ทำงานได้ดีนะคะ” เสียงตอบอึกอักไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่ได้ยินมาจากเสียงลือเสียงเล่าอ้าง“หึ พูดออกมาซะ อย่าคิดนะว่าฉันมองคนอย่างเธอไม่ออก” แยมใช้ส้นเข็มของรองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่ทิ่มแทงลงไปตรงหลังเท้าของหญิงสาวที่แสนน่าสมเพช“อึก! คะ คือว่าตอนนี
ใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมงทั้งคู่ก็มาถึงสวนสนุก Fun Park ที่จัดตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่ไกลมากนัก นับว่าเป็นสถานที่แห่งเดียวในละแวกนี้ที่มีเครื่องเล่นผาดโผดและกิจกรรมให้หลายคนมาร่วมสนุกกันในวันหยุดหลังจากเลือกซื้อตั๋วที่เหมาะสมกับช่วงวัยและเหมาะสมกับเงินในกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว แมนก็เดินนำกวางเข้าประตูสวนสนุก เครื่องเล่นมากมายปรากฏแก่สายตา ผู้คนต่างก็หลั่งไหลกันมาที่นี่เพื่อมาใช้เวลาวันหยุดกับคนในครอบครัวเสียงจอแจเจี๊ยวจ๊าวของเด็ก ๆ ตั้งแต่วัยเตาะแตะไปจนถึงเสียงผู้คนในวัยทำงานมีให้ได้ยินตลอดเส้นทาง จนกระทั่งสายตาคมของแมนเห็นของหวานในวัยเด็กที่เขาชอบ เจ้าก้อนน้ำตาลที่ฟูฟ่องราวกับปุยเมฆหลากสีกำลังทำตัวเชื้อเชิญให้เขาไปชิม“กินขนมสายไหมกันครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามคนที่มาด้วย ทว่าสายตายังคงจดจ่อไปยังเจ้าก้อนหลากสีกวางเห็นแบบนั้นก็พยักหน้าพร้อมเดินตามอีกฝ่ายไปยังรถเข็นที่ขายขนมสายไหมทันที พ่อค้าเทเม็ดน้ำตาลลงในเครื่องอะไรสักอย่างที่ทั้งคู่ไม่รู้จัก ก่อนจะมีเส้นใยบางเบาค่อย ๆ โผล่ออกมาให้เก็บโดยใช้ก้านพลาสติกเป็นตัวยึด แล้วย
“มื้อเที่ยงนี้อิ่มอร่อยมากค่ะ ขอบคุณนะคะ” กวางเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังอยู่ในลิฟต์เพื่อกลับขึ้นไปทำงาน“ด้วยความยินดีครับ” แมนเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ปกติเขามักจะกินข้าวคนเดียวจนชินไปแล้วแต่การได้กินข้าวกับใครบางคนทำให้อาหารมื้อนั้นอร่อยขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนที่ความรู้สึกนั้นจะหยุดชะงักลงเพราะคำทักทายจากคุณเลขาสาว“อ๊ะ! ตายจริง ทั้งสองคนกลับเข้าบริษัทมาพร้อมกันแบบนี้ ไม่ทราบว่าแอบไปทานข้าวด้วยกันมาหรือเปล่าคะเนี่ย”“ผมไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้คุณแยมคิดแบบนั้น ทำไมพวกเราต้องแอบไปทานข้าวกันด้วยครับ” นี่สินะที่เขาเรียกว่าตัวขัดอารมณ์ คิ้วของแมนย่นเข้าหากันทันทีเพราะไม่เข้าใจหญิงสาวตรงหน้า“แหม คุณแมนอย่าคิดมากสิคะ แยมแค่พูดเล่นเองค่ะ” เสียงแหลมของคุณเลขาที่พูดอธิบายออกมาไม่ได้ช่วยให้เหตุการณ์นี้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย“ผมกับน้องกวางไปกินข้าวด้วยกันจริง ๆ ครับ ผมไปร้านนี้เพราะเห็นว่าเป็นร้านอาหารเปิดใหม่และดูน่าอร่อย ว่าง ๆ คุณแยมก็ลองชวนเพื่อนร่วมงานไปเปิดหูเปิดตาดูบ้างนะครับ” ไม่ว่า
“พี่แมนชอบกวางเหรอคะ”“อะไรนะครับ!” ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มของแมนเบิกกว้างด้วยความตกใจ นี่เขาเป็นคนดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่ว่าจะเป็นน้องชาย หัวหน้า เพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่คนที่เขากำลังจะจีบก็เข้าใจการกระทำของเขาได้ง่ายขนาดนี้“สงสัยกวางคงจะคิดมากไปเอง ขอโทษด้วยนะคะพี่แมน” เมื่อคนโดนถามส่งเสียงตกใจกลับมาก็ทำเอาคนรอฟังคำตอบถึงกับเสียความรู้สึกเล็กน้อย ตอนนี้กวางคงทำได้แค่ทำใจ ทว่าเธอก็ต้องหยุดความคิดนั้นเพราะ...“ชอบครับ” แมนตอบชัดถ้อยชัดคำและน้ำเสียงหนักแน่นราวกับกำลังพิสูจน์ความจริงใจที่มีต่ออีกฝ่ายผ่านคำพูดนี้ เขาไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้อีกฝ่ายถามแบบนี้แต่เขาจะคว้ามันไว้ โอกาสที่จะได้บอกความในใจให้หญิงสาวได้รับรู้“คะ?” กวางเหมือนจะยังรู้สึกสับสนเล็กน้อย“พี่ชอบกวาง” จนกระทั่งได้ยินคำตอบเดิมจากแมนอีกครั้งตึกตัก ตึกตักหัวใจสองดวงเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ทั้งคู่เงียบลงพร้อมกันโดยไม่มีสาเหตุและปล่อยให้ห้วงเวลานี้ดำเนินต่อไป ชายห
“พี่ใกล้ถึงแล้วนะครับ” เสียงแมนพูดบอกคนในสาย ตอนนี้เขากำลังขับรถมุ่งหน้าไปรับกวางที่บ้านเพื่อเข้าบริษัทพร้อมกันและกำลังโทรบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้“ค่ะ เดี๋ยวกวางออกไปรอด้านนอกเลยนะคะ” ได้ยินเสียงหวานตอบรับมาจากปลายสาย แมนก็รู้สึกชื่นใจก่อนกดวางตั้งแต่เมื่อวานที่เขาได้เบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่ายมา ชายหนุ่มก็รู้สึกตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับทั้งคืน ทำได้แค่พลิกตัวไปมาและจ้องมองเลขสิบหลักที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมเช้าวันนี้ยังได้มีโอกาสโทรหาอีกฝ่ายด้วย ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าสวรรค์จะเป็นใจให้เขาขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่เกิดคาดมากสำหรับแมน และแล้วตอนนี้รถเก๋งของชายหนุ่มก็จอดเทียบริมรั้วบ้านของกวางเรียบร้อย“พี่แมนคะ นี่ขนมค่ะ” ทันทีที่หญิงสาวขึ้นมาบนรถ เธอก็ยื่นขนมมาให้เขาและนั่นสร้างความประทับใจให้แมนเป็นอย่างมาก“ของพี่เหรอครับ” น้ำเสียงที่ตอบกลับไปดูเหมือนจะไม่ค่อยมั่นใจนักและออกรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัททันที ทว่าเมื่อได้ยินคำยืนยันจากเจ้าของขนม แมนก็ยิ้มร่าออกมาอย่างห้าไม่อยู่
หลังจากที่แมนได้รับรู้ว่าตัวเองเผลอทำตามคำแนะนำของวิธีการจีบสาววัยทำงานไปแล้วถึงสองข้อโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้มหรือการเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลืออีกฝ่าย เขาก็ส่งเสียงดีใจอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพังที่โต๊ะทำงาน“ข้อแรกผ่านไปแล้ว งั้นข้อถัดไปล่ะ คืออะไร” เมื่อทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีก็ไม่มีอะไรจะฉุดรั้งความมุ่งมั่นตั้งใจนี้ของเขาได้ สายตาคมเริ่มไล่อ่านเนื้อหาอีกครั้ง จนกระทั่งหัวข้อที่สามปรากฏขึ้น“ถามเรื่องแฟน คุณต้องถามให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายยังโสดอยู่ก่อนที่จะเริ่มการเริ่มต้นรุกจีบอย่างจริงจัง” อ่านจบปุ๊บ แมนก็รู้สึกเครียดขึ้นมาทันที“แล้วจู่ ๆ จะไปถามน้องยังไงล่ะเนี่ย” ก่อนจะต้องยกมือขึ้นกุมขมับ เขาเป็นถึงพนักงานผู้มากความสามารถ เรื่องแค่นี้ต้องทำได้“ถึงข้อนี้อาจจะยากแต่มันก็ค่อนข้างสำคัญมากเพราะถ้าน้องมีแฟนแล้ว เราก็คงต้องจำใจถอยออกมา” คิดมาถึงตรงนี้สีหน้าของชายวัยทำงานก็หม่นลงเล็กน้อย ทว่าเขาเองก็ยังไม่อยากยอมแพ้ตั้งแต่แรก เห็นทีคงต้องงัดวิชาความรู้เรื่องการทำงานมาประยุกต์ใช้“โอ๊ยยย ไอ้แมนคนนี้อยากจะมีแฟนสักคน ทำไมมันถึงได้ยากเย็นแบบนี้กันนะ” ก่อนจะเผลอพึมพำออกมาแบบกัดฟันเพราะไม่อย
“อรุณสวัสดิ์ครับ” แมนเอ่ยทักทายกวางทันทีที่มาถึงแผนก เขารู้สึกว่าการเดินทางมาทำงานในช่วงนี้ เริ่มกลับมามีความสุขและทำให้เขาร่าเริงสดใสอีกครั้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“สวัสดีค่ะพี่แมน” น้ำเสียงหวานขานรับพร้อมใบหน้ามนที่คลี่ยิ้มกว้างมาให้ทำเอาแมนมีแรงใจในการทำงานขึ้นมาเลยเขาวางกระเป๋าเอกสารไว้บนโต๊ะและนั่งลงเปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายก็ทำเช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเพราะทั้งคู่ต้องเรียนรู้งานด้วยกันเลยทำให้ตอนนี้พวกเขาต้องนั่งทำงานใกล้กัน เรียกได้ว่าโต๊ะทำงานติดกันเลยมากกว่า“ช่วงนี้ไม่เห็นไปขึ้นรถไฟเลย พี่กะว่าจะทักทายสักหน่อย” แมนที่อยากสนิทกับอีกฝ่ายมากขึ้นก็ชวนคุยด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ“ปกติแล้วกวางไม่ขึ้นรถไฟค่ะพี่แมนแต่วันนั้นรถเสีย แถมยังไม่มีรถแท็กซี่คันไหนจอดรับอีก กวางเลยต้องไปใช้บริการรถไฟค่ะ” หญิงสาวตอบกลับมาพร้อมยิ้มแห้งหน่อย ๆ ราวกับว่าเธอรู้สึกปลงในความโชคร้ายของตัวเองแล้ว“วันนั้นรถพี่ก็เสียเหมือนกัน เซ็งมาก พี่ไม่ชอบขึ้นรถไฟฟ้าที่คนอัดแน่นกันเป็นปลากระป๋องแบบนั้นเลยครับ” ชายวัยสามสิบก็พูดต่อด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ“แย่เลยค่ะ ว่าแต่รถซ่อมได้ไหมคะ”“ตอนนี้ยังซ่อมอยู
“เป็นอะไรไปครับคุณแมน ช่วงนี้หน้าตาดูไม่ค่อยสดชื่นเลย” เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำทักทายจากหัวหน้าแผนกอย่างคุณรอยด์ดังขึ้นด้านหลังเมื่อเขาหมุนเก้าอี้มาก็เห็นอีกฝ่ายยืนอยู่ไม่ไกล รอยด์เป็นชายหนุ่มรูปร่างสันทัด อายุน้อยกว่าเขาประมาณหนึ่งถึงสามปี รอยด์เป็นลูกครึ่งสัญชาติรัสเซียจึงทำให้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมสีบรอนด์ทองแสนสะดุดตาหรือดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็น ‘คุณรอยด์’ มักทำให้พนักงานสาวในบริษัทหลงใหลกันมากมาย ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่แมนนับถือในตัวอีกฝ่าย เขาให้เกียรติรอยด์ตามฐานะที่เป็นหัวหน้าและยอมรับในศักยภาพการบริหารงานที่อีกฝ่ายทำได้ดีเสมอมา“สวัสดีครับคุณรอยด์ ผมดูออกขนาดนั้นเลยเหรอครับ” แมนอดไม่ได้ที่จะถามอีกฝ่ายด้วยความกระตือรือร้น“ฮ่าฮ่าฮ่า! สัปดาห์นี้คุณแมนได้ส่องกระจกบ้างไหมครับเนี่ย หน้าตาอิดโรยขนาดนี้ ระวังสาว ๆ จะหนีหมดนะครับ” และคำตอบที่ได้มาทำเอารู้สึกเจ็บแปลบไปในอกทว่าชายวัยสามสิบก็ได้แต่ทำใจ“เป็นอย่างนั้นเองเหรอครับ เพราะผมเป็นแบบนี้เองสินะ เธอถึงไม่มาเจอผมอีก” ก่อนที่แมนจะเผลอพึมพำออกมา