เมื่อทุกสายตาจ้องไปที่คุณปู่ตระกูลหลิน เขาก็รู้สึกเหงื่อไหลเยิ้มถ้าบรรดาประธานตระกูลเหล่านี้รู้ว่าเมื่อก่อนตระกูลหลินปฏิบัติต่อเย่เทียนหยู่อย่างไร ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถึงแม้ว่าจะไม่รู้ แต่ถ้ารู้ว่าเย่เทียนหยู่กับหลินหว่านหรูหย่ากันแล้วและได้ออกจากบ้านหลิน ผลลัพธ์ก็คงจะเหมือนเดิมจะทำยังไงดี!ตอนนี้จะทำยังไง?หยางต้าฝู เห็นความผิดปกติของคุณปู่ตระกูลหลินแล้วรู้สึกชะงักเล็กน้อย "ไม่ใช่เถอะ นี่ไม่ได้หมายความว่า ผมเดาผิดหรือ? ราชามังกรไม่ได้คิดที่จะคืนดีกับเธอหรือ?"เพราะถ้าไม่ใช่ เช่นนั้นทำไมถึงได้มีอาการตึงเครียดอยู่ด้วยในขณะที่คนอื่นในตระกูลหลินต่างก็ดูแปลกไปอย่างชัดเจนแล้วทำไมสถานะของราชามังกรถึงสามารถกระจายข่าวได้อย่างรวดเร็ว และทำไมทุกคนถึงมารวมตัวกันที่บ้านหลินในเวลาเดียวกัน ถ้าผู้ที่อยู่เบื้องหลังไม่ใช่ราชามังกร?โชคดีที่ในขณะนี้ เฉินฉางเหอก็หัวเราะแล้วพูดว่า "ราชามังกรคือบุคคลระดับไหน เราทุกคนมายืนรอตรงนี้ก็เป็นเรื่องสมควร"“แต่ท่านประธานถาน คุณกลับดูไม่เหมือนคนพิเศษเลย ดูเหมือนมือจะว่างเปล่าไม่ได้นำอะไรมาเสนอต่อราชามังกรเลย ไม่มีการเตรียมอะไรเลยหรือ?”คำถามนี้
เพราะพวกเขาอยู่ห่างออกไปนิดหน่อย จึงไม่สามารถได้ยินการสนทนาของถานล่างกับคนอื่น ๆ แม้ว่าคำพูดของพวกเขาจะดัง แต่ก็มีเพียงคนใกล้เคียงที่ได้ยินชัดเจน"ใครบอกว่าราชามังกรเป็นผู้สูงอายุ" หวังชิ่งส่ายหัว "ลองคิดให้ดีอีกที เขายังหนุ่ม มีความสามารถ และก็ทรงพลังมากด้วย""อะไรนะ ประธานหวัง คุณอย่าเล่นตลกเลย" โจวม่านพูดด้วยน้ำเสียงหมดหวังในช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าเป็นคนที่ทำงานอย่างเด็ดขาด แต่หวังชิ่งก็มีอัธยาศัยดีมาก ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น จริงๆ แล้วนี่คือความรู้ที่หวังชิ่งมีต่อคนที่เขาทำงานด้วย เขารู้ว่าเย่เทียนหยู่ชอบผู้หญิงประเภทไหน โดยเฉพาะสองคนนี้ที่เป็นสาวสวยที่น่าดึงดูดโดยเฉพาะจางฉี ที่มีใบหน้าสวยสมบูรณ์แบบ รูปร่างดี และยิ้มอ่อนหวาน ที่สามารถดึงดูดใจผู้ชายได้มากจริงๆเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจเต้น แต่ก็รู้ว่า มีบางคนที่ไม่ใช่เขาจะต้องคิดมากนักอย่างเช่นจางฉี ที่จะต้องกลายเป็นคนของราชามังกรในสักวันหนึ่งหวังชิ่งหัวเราะเบาๆ แล้วกำลังจะพูด แต่จางฉีดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดอย่างตกใจว่า "ท่านประธาน คุณไม่ใช่หมายถึงคุณเย่ใช่ไหม?""ใช่แล้ว ไม่คิดเลยว่าคุณจะเด
หลินหงก็ดูเหมือนจะไม่ดีไปกว่ากันเท่าไหร่ เขาตกตะลึงจนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เกือบไม่สามารถเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้หลังจากผ่านไปสักพัก ในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างล้นพ้นทุกสิ่งทุกอย่างนี้ จะกลายเป็นของพวกเขา เป็นของเขาในฐานะพ่อแม่ของหลินหว่านหรูหลินหงเชื่อมั่นในใจเสมอว่า เย่เทียนหยู่คงตั้งใจทำแบบนั้นเพื่อสั่งสอนพวกเขาเท่านั้นจากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งเมื่อคืนนี้ เย่เทียนหยู่ก็ยังคงรักและทะนุถนอมหว่านหรูเป็นพิเศษ เขาไม่มีทางจากไปกะทันหันแบบนี้ได้ขอเพียงแค่พวกเขารีบคว้าโอกาสนี้ไว้ รีบขอโทษเขาแม้ต้องก้มหัวอ้อนวอน เย่เทียนหยู่ก็ต้องกลับมาแน่นอนในขณะเดียวกัน รอบๆ ก็เริ่มวุ่นวายไปหมด ชัดเจนว่าคำพูดของถานล่างทำให้ทุกคนตกตะลึง แต่ละคนสงสัยว่าตัวเองกำลังเห็นภาพหลอนหรือหูมีปัญหาไปแล้ว"โอ้โห!""ประธานถานพูดอะไรน่ะ เขาจะมอบบริษัทเทียนมู่กรุ๊ปทั้งหมดเป็นของขวัญทักทายงั้นเหรอ?""จริงหรือเปล่า ผมไม่เชื่อเท่าไหร่เลย ตามที่ผมรู้มา ตอนนี้บริษัทเทียนมู่กรุ๊ปมีมูลค่าหลายแสนล้านนะ และโดยทั่วไปบริษัทแบบนี้ มักจะมีเจ้าของหลายคนอยู่เบื้องหลัง ถานล่างคนเดียวจะตัดสินใจ
ถ้าเป็นเช่นนั้น เกียรติยศอันยิ่งใหญ่นี้ก็ยังคงเป็นของตระกูลหลินของพวกเขาอยู่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คุณปู่ตระกูลหลินก็รู้สึกผ่อนคลายลงมาก และกำลังจะเชิญทุกคนเข้าไปนั่งข้างในทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก ร้องอุทานว่า "นั่นไม่ใช่รัฐมนตรีหวงของเมืองเทียนไห่ของเราหรอกหรือ แม้แต่รัฐมนตรีหวงก็มาด้วย"ท่ามกลางผู้คนที่เปิดทางให้ หวงหงเจี้ยนค่อยๆ เดินมาด้านหน้า เขาก็เห็นเหล่าผู้มีอิทธิพลของเมืองเทียนไห่ที่ยืนอยู่ที่นี่คนเหล่านี้ในเมืองเทียนไห่ แค่ขยับตัวนิดหน่อย เศรษฐกิจทั้งเมืองเทียนไห่ก็จะได้รับผลกระทบอย่างมหาศาล ไม่คิดว่าวันนี้จะมารวมตัวกันที่นี่เพราะคนๆ เดียวหวงหงเจี้ยนก็ไม่คิดเลยว่า เย่เทียนหยู่จะเป็นราชามังกรที่เล่าลือกัน ในเมื่อเป็นราชามังกร การที่เขามาเยี่ยมที่นี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยโดยปกติแล้วตัวเขาเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับเทพเซียนเย่ การไม่ปรากฏตัวในงานใหญ่เช่นนี้จะดูไม่เหมาะสม แต่เมื่อคิดถึงตำแหน่งของตัวเอง ก็ยังมีความกังวลอยู่บ้างแต่เมื่อเทพเซียนเย่เป็นราชามังกร ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาใดๆ เลยเพราะราชามังกรนั้นมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่มากในแวดวงราชการ ซึ่งเรื่องนี
เมื่อสายเชื่อมต่อแล้ว หยางเฉียนเฉียนก็รีบถามทันทีว่า "พ่อ ตอนนี้พ่อว่างไหม?"ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหรือของจริง เรื่องนี้จำเป็นต้องปรึกษากับพ่อก่อน ดังนั้นเย่เทียนหยู่จึงให้เขามาที่วิลล่าตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ เย่เทียนหยู่อยู่ที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งตลอด ไม่ได้ออกไปไหนเลย จึงไม่รู้ความเคลื่อนไหวภายนอกหยางต้าฝูเมื่อได้ยินก็ส่ายหน้าพูดว่า "มีอะไรกัน ตอนนี้คงไม่ได้หรอก ผมกำลังเยี่ยมคารวะราชามังกรที่บ้านตระกูลหลิน ยังไม่รู้ว่าจะว่างเมื่อไหร่""อะไรนะ?""เยี่ยมคารวะราชามังกร?"หยางเฉียนเฉียนตกใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าเย่เทียนหยู่คือราชามังกร แปลกใจที่พี่เย่อยู่กับเธอ ทำไมพ่อต้องไปบ้านตระกูลหลิน"ใช่ ดังนั้นผมไปไหนไม่ได้จริง ๆ เพราะเราจะไม่ละเลยราชามังกรไม่ได้" หยางต้าฝูพูด"ที่พ่อพูดฉันเห็นด้วย แต่ปัญหาคือพี่เย่อยู่กับฉันที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่ง" หยางเฉียนเฉียนสงสัย"อะไรนะ ลูกไม่ได้หลอกพ่อใช่ไหม?"หยางต้าฝูงงงันถามว่า "ตอนนี้บ้านตระกูลหลินครึกครื้นจริง ๆ ท่านรัฐมนตรีหวง ท่านประธานตระกูลทั้งสี่ แล้วยังมีบุคคลสำคัญในเมืองเทียนไห่""พวกเขาไปทำอะไรที่นั่น?" เย่เทียนหยู่ขมวด
ส่วนเรื่องจัดการพ่อแม่ของเธอเอง เพื่อให้บทเรียนบ้างก็คงเป็นไปได้ แต่จะไม่รุนแรงเกินไป เธอไม่ใช่คนที่คิดแก้แค้นในทุกเรื่อง และในใจเธอเก็แข็งแกร่งมากจนไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้แต่ตอนนี้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ บอกเธอเว่า เทียนหยู่อยู่กับหยางเฉียนเฉียนจริง ๆ หรือว่าเขาชอบหยางเฉียนเฉียนจริง ๆนอกจากนี้ ความรู้สึกที่หยางเฉียนเฉียนมีต่อเทียนหยูนั้น แม้แต่คนโง่ก็ยังมองออก เธอทุ่มเทให้เขาทุกอย่าง ไม่ต่างจากตัวเองเลย และยิ่งกว่าด้วยซ้ำเมื่อหยางต้าฝูวางสาย เฉินฉางเหอก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า "ท่านประธานหยาง คุณเพิ่งจะคุยกับราชามังกรหรือเปล่า?""ฮ่า ๆ ใช่แล้ว ราชามังกร ไม่สิ โทรจากลูกสาวผม เธออยู่กับราชามังกรตลอดเวลา" หยางต้าฝูยิ้มพูดทันทีที่สิ้นเสียง ทุกคนในที่นั้นก็ตกใจข้อมูลนี้เยอะเกินไปจริง ๆถ้าเป็นคนทั่วไปพูด ทุกคนอาจจะไม่เชื่อ แต่ท่านประธานหยางไม่มีทางโกหกในเรื่องแบบนี้แน่นอน และไม่มีทางกล้าทำเช่นนั้นถานล่างเองก็ตกใจเล็กน้อย หรือว่าเขาเข้าใจผิดความตั้งใจของคุณชาย?ถ้าเป็นเช่นนี้ กลับไปคงไม่พ้นถูกตำหนิ เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า "ท่านประธานหยาง ราชามังกรได้ฝากอะไรไหม?""โอ้ ใช่สิ เขาบอกให้ทุกค
"อะไรนะ!"เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น ทุกคนในที่นั้นต่างหยุดนิ่งด้วยความตกใจโดยเฉพาะเสียงที่เธอพูดขึ้นมานั้น กลับทำให้คนส่วนใหญ่ได้ยิน และคนที่ยังไม่ได้ยินก็รีบถามจนทำให้ทุกคนรู้เรื่องเมื่อทุกสายตามองไปยังต้นเสียง พบว่าเป็นหญิงวัยห้าสิบกว่าปี ดูจากการแต่งกายแล้วน่าจะเป็นคนใช้ของตระกูลหลินคุณแม่ตระกูลหลินเมื่อได้ยินก็โกรธจัด ตะคอกใส่ด้วยความโมโหว่า "ชิวเหม่ย แกพูดมั่วเรื่องอะไร ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่แกจะมากล่าวอะไรมั่ว ๆ""ฉันไม่ได้พูดมั่ว คุณทั้งหลายดูถูกราชามังกรมาตลอด คิดว่าเขาไม่มีค่า ทำให้เขาอับอายและหาทางขับไล่เขาตลอด""เมื่อวันก่อน ราชามังกรทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยคุณหนูกลับมา แต่พวกคุณตอบแทนความเมตตาด้วยความเกลียดชัง วางแผนเชิงชั่วร้ายขับไล่ราชามังกรไป""ราชามังกรจำยอมต้องหย่าและออกจากตระกูลหลินไป เมื่อคืนตระกูลหลินเกิดอันตราย ราชามังกรกลับมาช่วยเพราะเห็นแก่คุณหนู""แกพูดเหลวไหลอะไร เรียกคนมานี่แล้วเอาตัวเธอออกไป" คุณแม่ตระกูลหลินรีบสั่งคนด้วยความโกรธแต่เหล่าคนของเธอไม่มีอะไรสามารถทำได้เลย ใจจริงแล้วทุกคนอยากฟังความจริงจากปากของจางฟาง พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
ในขณะนี้ ทุกคนต่างเข้ามาหาหยางต้าฝูและแสดงความยินดีหยางต้าฝูรีบแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน บอกว่าสิ่งที่ทุกคนพูดเป็นเพียงข่าวลือ สถานการณ์ที่แท้จริงยังไม่แน่ชัดแต่เหล่าคนของตระกูลหลินกลับมีสีหน้าที่ดูแย่ยิ่งขึ้นใบหน้าของคุณปู่ตระกูลหลินซีดเซียว นอกจากความอับอายแล้ว เขายังรู้ด้วยว่าตระกูลหลินอาจพลาดโอกาสพัฒนาอันยิ่งใหญ่เขารู้สึกเสียใจอย่างมากในตอนนี้คุณแม่ตระกูลหลินยิ่งเสียใจไม่รู้จะทำอย่างไร พูดออกมาด้วยความโกรธว่า "แก แก..." พูดไม่ออกถึงกับเกือบเป็นลมไปแต่พอได้สติกลับมา ก็รีบพูดว่า "ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างนั้น ท่านราชามังกรเพียงแค่ทะเลาะกับลูกสาวฉัน คำพูดที่พูดตอนนั้นเชื่อถือไม่ได้""พวกคุณต้องเชื่อนะ เอาอย่างนี้ พวกคุณส่งของขวัญให้ฉันก่อน ถ้าฉันไม่สามารถเชิญท่านราชามังกรกลับมาตระกูลหลินได้ในหนึ่งวัน ฉันจะคืนทั้งหมดให้พวกคุณ""นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ถ้าพวกคุณกลับไปแล้ว จะไม่มีโอกาสส่งของขวัญอีก จะพลาดโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้ไป"คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของเฉินฉางเหอและคนอื่น ๆ เย็นชา ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสมองหรืออย่างไร ดูสิว่าเธอพูดอะไรออกมา แม้พวกเขาต้องการจะประจบท่านราชามังกร แต่ก็ไม่ใ
ผั๊วะ!คุณนายไป๋สวมรองเท้าส้นสูง ก้าวไปข้างหน้า แล้วเตะไปที่ตัวของเหอฉุนอย่างแรง พร้อมกับด่าทอออกไปว่า “นางสารเลวอย่างแก ยังกล้ามาขวางฉันอีกเหรอ ฉันจะเตะแกให้ตายไปซะ!”เธอพูดพลางเหวี่ยงเท้าออกไป ที่แท้เพราะเฉินเฟยเฟยพยายามขัดขืน เลยถูกพวกนั้นรุมทำร้ายเหอฉุนทนไม่ไหว จึงรีบไปนอนขวางเฉินเฟยเฟย เพื่อช่วยป้องกันการโจมตีให้กับเธอพยัคฆ์ทมิฬที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ คุณนายไป๋ในตอนยังเป็นวัยรุ่นดุร้ายและเอาแต่ใจเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่ออายุมากขึ้นแล้ว เธอกลับยิ่งดื้อรั้นและเอาแต่ใจมากกว่าเดิมเสียอีกโชคดีที่ตนไม่ได้เผลอไปทำตัวเป็นศัตรูกับเธอ!การที่หญิงสาวเหล่านี้เผลอไปยั่วโมโหเธอเข้า เกรงว่าคงต้องเตรียมตัวเจอกับผลลัพธ์ที่น่าสลดใจแล้วล่ะเฮ้อ ยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ดันไปยุ่งกับตระกูลไป๋เสียได้!คุณนายไป๋รู้สึกโกรธมาก สำหรับลูกชายสุดที่รักของเธอแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตก็ตามใจเขามาตลอด เขาอยากได้อะไรอยากซื้ออะไร เธอก็แทบจะประเคนให้ทุกอย่างและไม่ว่านอกบ้านเขาจะทำผิดพลาดมากแค่ไหน คุณนายไป๋ก็ไม่เคยดุด่าเขา แต่จะพูดแค่ว่า “ไม่เป็นไร แม่จะจัดการทุกอย่างเอง”จากนั้นก็จะช่วย
ท่ามกลางฝูงชนด้านนอก มีหนึ่งคนในนั้นที่ตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เธอจำผู้หญิงคนนั้นได้ นี่ไม่ใช่ดารานักแสดงหญิงที่ชื่อเฉินเฟยเฟยรึไง แต่ในเวลานี้ เธอก็กลับไม่กล้าพูดอะไรออกไปผู้จัดการรู้ตัวตนของเฉินเฟยเฟยเป็นอย่างดี แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อคืนที่ผ่านมา สถานที่ที่เฉินเฟยเฟยพักอยู่ก็เกิดปัญหาเขาเองก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉินเฟยเฟย มีแต่ปัญหาเต็มไปหมดเมื่อเฉินเฟยเฟยได้ยินคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า เธอก็รีบพูดด้วยความโกรธขึ้นทันทีว่า “คุณพูดบ้าอะไร ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าลูกชายของคุณคือใคร?”“แกยังกล้าพูดว่าไม่รู้จัดลูกชายของฉันอีกเหรอ หากไม่ใช่เพราะแก แกคิดว่าลูกชายของฉันจะถูกตีขาหัก จนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นได้รึไง?”คุณนายไป๋พูดด้วยความโกรธออกไปอีกว่า “ใครก็ได้ ไปลากตัวผู้หญิงคนนี้มาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะให้มันไปคุกเข่าขอโทษต่อหน้าลูกชายของฉัน!”เมื่อได้ยินคำสั่ง ก็มีคนรีบตรงเข้าไปจับตัวของเธอทันที“พวกคุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”เหอฉุนรีบพูดขึ้นมา จะเกิดเรื่องขึ้นกับเฉินเฟยเฟยไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นคุณเย่จะต้องโกรธมากแน่ ๆ เธอจึงตะโกนออกไปอีกว่า “พวกคุณรู้ไหมว่าเธอคือใคร ถึงกล้าทำ
พอคุณนายไป๋มาถึง พวกเฉินเฟยเฟยก็สังเกตเห็นได้ในทันที เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายไป๋ สีหน้าของพวกเธอก็เปลี่ยนไปแม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาด้วยเหตุผลอะไร แต่ดูท่าทางแล้ว ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียวเหอฉุนรีบพูดขึ้นว่า “เฟยเฟย เร็วเข้า รีบติดต่อคุณเย่เร็ว!”“เอ่อ ฉันว่าเราลองอ้างชื่อพี่เย่กันก่อนดีไหม?” เฉินเฟยเฟยกลัวว่าจะสร้างปัญหาให้เย่เทียนหยู่มากเกินไป“ไม่ได้ รีบโทรหาเขาด่วนเลย ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวเกินไป ดูจากท่าทีโกรธเกรี้ยวของเธอแล้ว เกรงว่าแค่อ้างชื่อออกไปจะไม่ได้ผลกับเธอแน่” “อีกอย่าง เกิดว่าเธอไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของราชามังกร แล้วยังโกรธเกรี้ยวอยู่เหมือนเดิม เราจะทำอย่างไรดี” เหอฉุนรีบพูดขึ้นมาอันที่จริงเฉินเฟยเฟยเองก็คิดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เพียงแค่กลัวว่าจะทำให้เย่เทียนหยู่ลำบากก็เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้ไปสนใจเรื่องพวกนั้นอีกแล้ว เธอจึงรีบกดเบอร์โทรศัพท์โทรหาเย่เทียนหยู่ทันทีเพียงแต่ตอนนี้เย่เทียนหยู่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ จึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ เนื่องจากตอนที่หลินหว่านหรูตื่นเช้าขึ้นมา แล้วบอกว่าอยากกินบะหมี่เหมือนเมื่อวานอีกครั้งในเ
แถมยังเป็นดาราอีกต่างหาก!แม้ว่าจะยังไม่ทราบสถานการณ์ที่แน่ชัด แต่เฉินเฟยเฟยคนนี้ เธอจะต้องตายอย่างแน่นอนไม่ว่าเธอจะเป็นดาราดังมากแค่ไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลไป๋ที่มีทรัพย์สินเป็นพันล้าน เธอก็เป็นได้แค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น!คุณนายไป๋หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดโทรออกเพื่อจัดการวางแผนต่าง ๆ ในขณะเดียวกันเธอก็พูดด้วยความโกรธขึ้นว่า “พยัคฆ์ทมิฬ ไปสืบมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ถ้าหากไม่สามารถหาที่อยู่ของนางนั่นมาได้ภายในเช้าของวันพรุ่งนี้ พวกแกก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อแล้ว”“แล้วก็ยังมีไอ้ฆาตกรอีกคน เดี๋ยวฉันจะส่งวิดีโอไปให้ พวกแกก็ลองตรวจสอบมันดูด้วย แต่ภารกิจหลักคือการตามหาที่อยู่ของเฉินเฟยเฟยมาให้ได้!”เพราะขอแค่หาเฉินเฟยเฟยเจอ ก็จะสามารถหาคนที่ทำร้ายหยางหยางเจอได้เช่นกัน ซึ่งก็คือไอ้ฆาตกรคนนั้นพยัคฆ์ทมิฬที่ได้ยินคำสั่ง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ตั้งแต่ที่ตระกูลไป๋ชุบตัวขึ้นมาใหม่ เขาก็ยังไม่เคยเห็นเธอโกรธจัดเพียงแค่ต้องการให้สืบเรื่องของคนคนหนึ่งมาก่อนเลย เพราะงั้นเขาจึงได้รีบจัดการในทันทีพยัคฆ์ทมิฬเป็นหัวหน้าแก๊งพยัคฆ์ทมิฬ หนึ่งในแก๊งแห่งวงการอาชญากรรม การที่พวกเขาสามารถค
“เป็นอะไรไป ไม่อร่อยเหรอ?” ท่าทีของหลินหว่านหรูดูแปลก ๆ จึงทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนเล็กน้อย หรือว่าฝีมือทำครัวของตนจะแย่ลงรึเปล่านะแต่ถึงยังไง ก็คงไม่อร่อยจนถึงขั้นร้องไห้ออกมาหรอกมั้ง“เปล่าหรอก!”“อร่อยมาก อร่อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ!”หลินหว่านหรูร้องไห้ฮือออกมาเย่เทียนหยู่รู้สึกทำอะไรไม่ถูก จึงพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ถึงจะอร่อยก็ต้องค่อย ๆ กินนะ ไม่ต้องรีบ ผมก็คิดว่าคุณร้องไห้เพราะทนกับรสชาติที่ไม่อร่อยอยู่เสียอีก”คำพูดนี้ทำให้หลินหว่านหรูอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “อย่าทำให้ฉันขำสิ เอาซะฉันเกือบจะพ่นเส้นบะหมี่ออกมาแล้วเนี่ย”รอยยิ้มของหลินหว่านหรูนี้ ก็ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่รอบตัวเปลี่ยนไปทันที ราวกับว่ามีดอกไม้สวยงามนับไม่ถ้วนกำลังบานสะพรั่ง ทำให้เย่เทียนหยู่ถึงกับต้องมองตาค้างกันเลยทีเดียว“มัวเหม่ออะไรอยู่”“ก็มองคุณอยู่ไง”“โกหก”หลินหว่านหรูหน้าแดงเล็กน้อย เธอกินต่ออีกสองสามคำ ก่อนเธออดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “เมื่อก่อนคุณเคยทำบะหมี่บ่อยมากเลยเหรอ?”“ก็ไม่ได้ทำบ่อยนักหรอก ผมยังทำอย่างอื่นเป็นด้วยนะ”“คุณทำอย่างอื่นเป็นด้วยงั้นเหรอ?”“แน่นอ
“คุณทำอาหารเป็นด้วยเหรอ?”หลินหว่านหรูถามด้วยความสงสัย แต่เมื่อลองคิดอีกที บะหมี่เองก็ค่อนข้างที่จะต้มง่าย แทบไม่มีความยากเลยด้วยซ้ำ แค่ไม่เผลอใส่เกลือมากเกินไปก็พอแต่อีกเดี๋ยว ไม่ว่าจะเค็มหรือไม่ก็ตาม เธอจะต้องอดทนกินมันให้หมด แม้ว่าจะรสชาติแย่แค่ไหนก็ตามถึงยังไง การที่คนอย่างเย่เทียนหยู่ยอมลงมือทำบะหมี่ให้เธอด้วยตัวเองแบบนี้ เธอก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว“อีกเดี๋ยวก็รู้แล้ว”เย่เทียนหยู่ยิ้มเล็กน้อย การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็ว และดูคล่องแคล่วมาก ไข่ไก่ที่อยู่ในมือของเขา ไม่นานก็ถูกตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนจะถูกผสมลงไปกับเส้นบะหมี่ภายใต้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและน่าตื่นตาตื่นใจของเขา ทั้งเส้นบะหมี่ไข่ผักก็ได้ถูกปรุงจนเสร็จเรียบร้อยแล้วหากรวมเวลาตั้งแต่ที่เขาเริ่มลงไปซื้อของด้วย เมื่อกี้มันเพิ่งจะผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเองหลินหว่านหรูมองไปยังชามและตะเกียบที่วางอยู่ตรงหน้า ความสุขอันล้นหลามก็ห่อหุ้มตัวเธอเอาไว้ จากนั้นเธอก็รีบก้มหน้าคีบเส้นบะหมี่เข้าปากทันทีเดิมเธอคิดว่ามันไม่น่าจะกินได้แน่ ๆแต่ทันทีที่เธอได้สูดเส้นบะหมี่เข้าไป หลินหว่านหรูก็รู้สึกเหมือนถูกมนต์ส
“อือ งานยุ่งจนดึกมากขนาดนี้ คงหิวแล้วใช่ไหม?” เย่เทียนหยู่ถาม“ยังไหว ยังไม่หิวเท่าไหร่!”แต่ทันทีที่หลินหว่านหรูพูดจบ ท้องของเธอก็ส่งเสียงดังออกมา ซึ่งทำให้เธอหน้าแดงเล็กน้อย“ยังจะบอกว่าไม่หิวอีก ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปกินมื้อดึก”“มันดึกมากแล้ว ไม่ต้องไปหรอก สั่งเดลิเวอรีมาก็ได้” หลินหว่านหรูนึกขึ้นได้ว่าแถวนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้กินสักเท่าไหร่ นอกเสียจากต้องเดินออกไปไกลอีกหน่อย หรือไม่ก็ขับรถไปแบบนั้นมันดูจะยุ่งยากไปหน่อย ที่สำคัญคือกลัวว่ามันจะดึกเกินไป จนทำให้ส่งผลกระทบกับการทำงานของเธอในวันพรุ่งนี้เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วและส่ายหัว ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ของข้างนอกสามารถกินได้ แต่ก็ไม่ควรกินบ่อย ๆ ถ้าคุณกลัวว่ามันจะยุ่งยากจริง ๆ งั้นคุณก็รอผมเดี๋ยวนะ”เมื่อพูดจบ เขาก็เดินออกไปทันทีเขาจำได้ว่าข้างล่างห่างไปไม่ไกลนัก มีร้านขายของชำเล็ก ๆ อยู่ร้านหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะมีบะหมี่อะไรแบบนั้นขายอยู่ด้วยด้วยความเร็วของเขา ไม่นานเขาก็กลับมา แถมยังซื้อของกลับมาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยไข่ไก่ บะหมี่ ผงปรุงรสรสไก่ แล้วก็ซีอิ๊วขาว ส่วนอย่างอื่นก็ไม่ได้ซื้ออะไรมาอีกแต่ถึงอย่างนั้น เจ้าของร้านท
ทันใดนั้น เหอฉุนก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เกรงว่าคุณเย่เองก็น่าจะมองออกตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเธอจะไม่กล้าทำอะไรแบบนั้น ถึงได้กล้ามอบเงินกว่าห้าหมื่นล้านให้กับเฟยเฟยโดยไม่คิดอะไรเกรงว่าคุณเย่อาจจะเดาได้แต่แรกแล้ว ว่าเฉินเฟยเฟยจะมอบเงินให้ตนเป็นคนจัดการ เขาไม่กลัวว่าตนจะฉ้อโกงเลยแม้แต่น้อยคุณเย่คนนี้ ช่างเป็นคนที่มีความสามารถมากจริง ๆ!คุณเย่คะ วางใจเถอะค่ะ ฉันรับรองว่าฉันจะทำให้สุดความสามารถ ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วให้ได้ และทำให้เงินลงทุนของคุณได้กำไรคืนทุนมากกว่าสิบเท่าให้ได้!แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย เย่เทียนหยู่ไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น เขาแค่อยากให้เฉินเฟยเฟยได้มีที่ที่ปลอดภัยก็เท่านั้น จะหาเงินได้ไหม หรือว่าจะถูกฉ้อโกงรึเปล่า มันไม่สำคัญเลยสักนิดสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความสุขและความเป็นอิสระ!เงินแค่ห้าหมื่นล้าน ก็เป็นเพียงเศษเงินของเขาเท่านั้น หายไปก็ไม่เสียดายหลังจากที่เย่เทียนหยู่ออกจากโรงแรม เขาก็ตรงกลับไปยังที่พักทันที เกี่ยวกับห้องชุดนี้ เขาก็ได้ส่งกุญแจห้องให้หลินหว่านหรูตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วพร้อมทั้งบอกที่อยู่กับเธอแล้วด้วย และให้เธอเลิกงานเร็วหน่
สีหน้าของจางผิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นต่อไปนี้ จะไม่มีใครกล้ามารังแกพี่เฟยเฟยได้อีกแล้ว พวกเธอก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไปเมื่อเห็นว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว ทุกอย่างก็สามารถเริ่มดำเนินการได้ในทันที หลังจากนี้ก็คงต้องคิดชื่อบริษัทให้ดี ๆ แล้วล่ะเหอฉุนคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จู่ ๆ จะพูดขึ้นว่า “ฉันนึกออกแล้วหนึ่งชื่อ ไม่งั้นเราก็ใช้ชื่อว่าเฟยเทียนมิวสิคคัลเจอร์กันเถอะ!”“เฟยเทียนงั้นเหรอ?”เฉินเฟยเฟยถามด้วยความอยากรู้ขึ้นว่า “ทำไมถึงต้องเรียกว่าเฟยเทียน หมายถึงการบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอะไรทำนองนั้นน่ะเหรอ?”เหอฉุนที่ได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ก่อนจะอธิบายออกไปว่า “อันที่จริงก็มีความหมายแบบนั้นแหละ แต่อักษรเฟยตัวนี้ไม่ได้หมายถึงอักษรที่แปลว่าบินทยานหรอก!”เฉินเฟยเฟยรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทันใดนั้นเธอก็คิดออก แววตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น ชื่อนี้ไม่เลวเลยจริง ๆ“ฉันรู้แล้ว เป็นอักษรเฟยที่มาจากชื่อของพี่เฟยเฟยนี่เอง!”ครั้งนี้ จางผิงเองก็เข้าใจเช่นกัน ก่อนจะพูดด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “เฟยที่หมายถึงพี่เฟยเฟย เทียนก็หมายถึงคุณเย่ เป็นการรวมเอาชื่อของพวกพี่มารวมกันได้พอดีเลย