แต่กับคนที่ไร้ประโยชน์อย่างเย่เทียนหยู่ ไม่ฆ่าเขาก็บุญเท่าไหร่แล้ว ถ้าปล่อยให้เขาได้กับหลิวเมิ่งจริง ๆ ก็หวานหมูเขาน่ะสิ เพราะฉะนั้นเธอเลยตอบไปว่า “เขาเข้าไปพักผ่อนแล้ว”“พักผ่อน?”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องคุณปู่ตระกูลหลินถลึงตาใส่แม่ตระกูลหลินอย่างดุเดือด ไม่ให้เวลาสักหน่อยล่ะ เกิดสองคนนั้นยังไม่ได้ทำอะไรกันเลยจะทำยังไงแต่มันก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว และต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นถ้าหลิวเมิ่งไม่ออกมาหลังจากเข้าไปแล้วเมื่อมาถึงจุดนี้ คุณปู่ตระกูลหลินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดตรงๆ: “เทียนหยู่ดื่มกับฉันสองสามแก้ว ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ดูเหมือนว่าเขาจะดื่มได้ไม่ดีเป็นพิเศษในวันนี้ เขาเมาหลังจากนั้นเพียงเล็กน้อย นิดหน่อยแล้วไปนอนซะ”“ใช่ ๆ ไม่ต้องกังวล เขาขอให้เสี่ยวเมิ่งพาเขากลับไปที่ห้องนอนแล้วละ น่าจะยังพอไหวนะ” แม่ตระกูลหลินพูดทันที“คุณหมายความว่ายังไงที่เขาขอให้เสี่ยวเมิ่งพาเขากลับไปที่ห้อง”หลินหว่านหรูงงงวย เธอมองไปรอบ ๆ และถามว่า “แล้วเสี่ยวเมิ่งอยู่ไหน?”“นั่นสิ ทำไมเสี่ยวเมิ่งยังไม่ออกมาอีก? พวกเขายังอยู่ข้างในหรือเปล่า?” จู่ ๆ คุณพ่อห
“เย่เทียนหยู่ แกนี่มันสมควรตายจริง ๆ รีบไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ”แม่ตระกูลหลินโกรธจัด หลังจากด่าทอเขาแล้ว เธอก็รีบตามลูกสาวไปทันทีในเวลานี้ คุณปู่ตระกูลหลินเห็นหลินหว่านหรูกลับออกมาด้วยสีหน้าเศร้าและเจ็บปวด ก่อนจะถามราวกับว่าเขาไม่รู้อะไรเลย: “หว่านหรู เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น?”แม่ตระกูลหลินวิ่งกลับอย่างรวดเร็วและด่าทอด้วยความโกรธ: “เย่เทียนหยู่ ให้ตายเถอะ ให้ตายเถอะ ถ้าเจ้าปฏิบัติต่อเขาอย่างดี เจ้าทำแบบนั้นได้ยังไง และเธอยังเป็นน้องสาวของเจ้าอยู่”“อะไรนะ!”หลินหงตกใจและโกรธและถามว่า: “คุณกำลังพูดถึงอะไร?เย่เทียนหยู่และ หลิวเมิ่งอยู่ข้างในหรือไม่?”แม่ตระกูลหลินพยักหน้าทันที“ให้ตายเถอะ ไอ้เวรนี่ เขากล้าทำแบบนี้กับลูกสาวของฉัน ฉันจะฆ่าเขา!” หลินหงโกรธจัดและเกือบจะฆ่าเย่เทียนหยู่“พอสักที!”คุณปู่ตระกูลหลินหยุดหลินหงและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม: “เร่งรีบอะไร มาเคลียร์เรื่องกันก่อน หยุนซิ่ว คุณแน่ใจหรือว่าคุณมองเห็นชัดเจน”“อือ!”แม่ตระกูลหลินพูดด้วยความโกรธ: “ทั้งหมดเป็นความผิดของแม่เอง แม่ไม่น่าให้หลิวเมิ่งมาอยู่ที่นี่ด้วยเลย ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็คงทำเรื่องน่าไม่อายพรรคนี้ไม่สำเร็จ มิ
ในบรรดาพวกเขาไม่มีคนสู้คนที่มีพลังแบบนั้นได้แต่หลังจากที่เขาทำทุกอย่างไปแล้ว ผลที่ได้กลับมามันคืออะไรกันเขาเพิ่งพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยตระกูลหลินแต่เขาถูกพวกเขาล้อมกรอบด้วยวิธีนี้ แต่ผู้หญิงที่เขารักไม่ไว้วางใจเขาครั้งแล้วครั้งเล่าในขณะนี้ เย่เทียนหยู่รู้สึกเหนื่อยล้าจริง ๆหัวใจเขาเหนื่อยพอแล้ว!แต่เขายังคงมีความคาดหวังสุดท้ายอยู่ในใจ เขาเพิกเฉยต่อตระกูลหลินที่ทำให้เขาอับอายและพูดช้าๆ: “หว่านหรู ถ้าผมบอกว่าผมโดนวางยาคุณจะเชื่อผมมั้ย”“ยาเหรอ?”“เย่เทียนหยู่ นี่แกหมายความว่ายังไง? แกตั้งใจจะบอกว่าเราจะวางยาแกรึไงฮะ” แม่ตระกูลหลินเริ่มกังวลทันที“เย่เทียนหยู่ อย่ามาใส่ร้ายคนอื่นหน้าด้าน ๆ แบบนี้นะ”ใบหน้าของคุณปู่ตระกูลหลินเย็นชาและพูดด้วยความโกรธ: “ฉันไม่ใจดีกับคุณเกินไป คุณตีตราเราแบบนี้ได้ยังไง!”“หว่านหรู หลานคิดว่าปู่จะทำแบบนั้นเหรอ”“ใช่ หว่านหรู คุณรู้มั้ยว่าแม่รักเสี่ยวเมิ่งมากแค่ไหน ฉันจะปล่อยให้เสี่ยวเมิ่งต้องทนทุกข์กับความอยุติธรรมเช่นนี้ได้ยังไง หากคุณไม่เชื่อจริง ๆ คุณสามารถปล่อยให้เสี่ยวเมิ่งออกมาได้ เซียวเหมิงประพฤติตนดีมาโดยตลอด และเธอก็ดีกับคุณมาก ฉัน
ต่อมาไม่มีใครพูดอะไรกับเขาอีกนอกจากคุณปู่ตระกูลหลินที่เข้ามาถามเขาว่าเขาพกทะเบียนบ้านกับทะเบียนสมรสมาด้วยหรือเปล่าเอกสารสำคัญเขามักจะพกติดตัวอยู่เสมอ เพราะว่าเขามักจะมีช่วงโอกาสที่คนทั่วไปไม่ค่อยพบเจออยู่เป็ยประจำหลินหว่านหรูมาพร้อมกับคุณปู่ตระกูลหลินและไม่ได้พูดอะไรกับเย่เทียนหยู่สักคำแม่ตระกูลหลินเข้าไปติดตามหลิวเมิ่ง และหลิวเมิ่งก็ออกมาหลังจากนั้นไม่นานหลิวเมิ่งเหลือบมองที่เย่เทียนหยู่แต่เย่เทียนหยู่ก็เหลือบมองเขาและสีหน้าของเขาก็สั่นเทา แต่โชคดีที่เย่เทียนหยู่ไม่ได้ถามอะไรไม่อย่างนั้นถึงแม้ป้าจะเข้าไปเล่าต่อแต่เธอก็คงอดไม่ได้ที่จะพูดความจริงหลิวเมิ่งเดินไปหาหลินหว่านหรูก่อนจะเรียกเธอเบา ๆ : “พี่คะ!”หลินหว่านหรูเหลือบมองเธอ สีหน้าของเธอดูเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเธอก็ไม่พูดอะไรสักคำหลิวเมิ่งรู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอกำลังโทษตัวเอง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกละอายใจและเสียใจเล็กน้อย ยังไงก็ตาม มันเป็นเช่นนี้แล้ว และเห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถล่าถอยได้อีกต่อไปมิฉะนั้น หากลูกพี่ลูกน้องของฉันไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับตระกูลเย่ของเมืองหลงตูนั่นก็หมายความว่าเธอได้ทำสิ่งเลวร้ายและไม
หลินหว่านหรูหยุดเย่เทียนหยู่ เธอเดินเข้าไปและพูดอย่างเย็นชา: “เย่เทียนหยู่ คุณไม่มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอ?”“หย่ากันแล้ว ผมมีอะไรต้องพูดอีก?” เย่เทียนหยู่ยกใบหย่าในมือขึ้นแล้วถาม“ดี จากนี้ไปคุณกับฉันเราจบกัน ไม่ต้องมีอะไรข้องเกี่ยวกันอีก!” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างเย็นชา“ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะต่อไปผมจะไม่มาให้คุณเห็นอีก”เย่เทียนหยู่ทิ้งคำพูดเอาไว้ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่ลังเลใจแต่ถ้าคุณสังเกตดีๆ คุณจะพบว่าฝีเท้าของเขาแตกต่างไปจากปกติเล็กน้อย และร่างกายของเขาก็สั่นเล็กน้อยเช่นกันเขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาทั้งคู่จะมาถึงจุดนี้แต่ตอนนี้ ในเมื่อเรื่องมันก็มาถึงจุดนี้แล้ว การหย่าร้างอาจเป็นเรื่องดีก็ได้ เพราะถึงยังไงคู่ต่อสู้ที่เขาเผชิญหน้าจะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาจมีคนที่มีพลังระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ ยังไม่มีทางจัดการกับพวกมันได้ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือเขายังไม่พบวิธีการที่จะทำให้เขาสามารถฟื้นความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วและไม่แน่ว่าเขาอาจจะตายไปเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเวลาไม่เคยคอยใครเมื่อเห็นแผ่นหลังของเย่เทียนหยู่หายไปที่ประตู หลินหว่านหรู
หลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวด เธอระบายมันออกมาจากตอนแรกก็หลิวเจี๋ย ตามมาด้วยนายน้อยหลี่ว์จากในเมือง มาคราวนี้ก็เย่เซวียนจากตระกูลเย่เมืองหลงตูต้นตระกูลของพวกเขาแต่ละคนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็สร้างอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกันถ้าปู่และคนอื่นๆ ไม่ทะเลาะกันซ้ำแล้วซ้ำอีก พวกเขาจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไงเมื่อเขากลับมาวันนี้ เขาได้รับโทรศัพท์จากเย่เซวียน อีกฝ่ายแสดงอย่างชัดเจนว่าเขาหวังว่าจะได้พบเขาที่เมืองหลงตูภายในสามวัน มิฉะนั้นตระกูลหลินจะถูกทำลายยิ่งไปกว่านั้น เย่เซวียนยังรู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของเย่เทียนหยู่และกล่าวว่าหากเขาไม่ทำตามคำขอของเขาเย่เทียนหยู่จะต้องตายอย่างแน่นอนหากไม่มีสถานที่ฝังศพ ซึ่งจะน่าสังเวชมากปรากฎว่าคุณปู่ตระกูลหลินแกล้งทำเป็นเย่เซวียนและขู่ว่าจะหลอกลวงหลินว่านหรู แต่วันนี้ หลินหว่านหรูถูก เย่เซวียนคุกคามจริง ๆเห็นได้ชัดว่า เย่เซวียนใจร้อนและเดิมทีวางแผนที่จะใช้เสน่ห์และพลังของเขาเพื่อพิชิตเขา แต่หลังจากรับสายจากคุณปู่ตระกูลหลินไม่กี่ครั้ง เขาก็เปลี่ยนใจและคิดว่านี่คงจะดีเขาสามารถหา หลินหว่านหรูได้เร็วโดยไม่ต้องแต่งงานกับบ้านของเธอ
ขอแค่เธอยังยื้อเวลาได้ เธอก็จะยื้อเวลาให้นานที่สุดเมื่อเธอทำไม่ได้จริง ๆ แม้ว่าเธอจะตาย เธอก็ไม่มีทางปล่อยให้เย่เซวียนประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของเธอเพื่อเย่เทียนหยู่สำหรับครอบครัวหลิน เธอทำมามากพอแล้ว ดังนั้นปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตาเมื่อฟังคำกล่าวหาที่ตีโพยตีพายของ หลินหว่านหรูนาย หลิน ก็ดูน่าเกลียดและไม่พูดอะไรเลย ทันใดนั้นเขาก็สงสัยว่าเขาคิดถูกหรือผิดแต่เขาบอกตัวเองอย่างรวดเร็วว่าเขาพูดถูกความผิดอยู่ที่หลานสาวของฉัน เธอยังเด็กเกินไปและไม่เข้าใจว่าเธอต้องการอะไร เมื่อเธอแต่งงานกับตระกูลเย่ในหลงตูจริง ๆ เธอจะเข้าใจความตั้งใจที่ดีของเธอฉันทำทั้งหมดนี้เพื่อประโยชน์ของเธอเองแม่ตระกูลหลินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะถูกด่า แต่เธอก็รีบพูดขึ้นทันที: “นี่ลูกพูดอะไร อะไรที่เรียกว่าจะพาหายนะมาให้ลูก นี่พวกลูกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยหรือไง โดยเฉพาะไอ้คนไร้ค่านั่นวัน ๆ เอาแต่อวดตัวเองกับหาเรื่องคนใหญ่คนโต”“ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ตระกูลเราจะมีปัญหามากมายแบบนี้ได้ไง แล้วลูกยังมาโทษเราอีกเหรอ?”“นอกจากนี้ เราเป็นพ่อแม่และผู้อาวุโสของคุณ ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เราท
หลังจากที่หลินจื่อตงพูดจบ เขาก็ดึงหลินหว่านหรูและพูดว่า: “พี่ ไม่ต้องสนใจพวกเขา ไปหาพี่เขยของผมกันเถอะ!”เมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินแบบนั้น เธอก็โกรธมาก แม้ว่าลูกสาวของเธอจะถูกเย่เทียนหยู่หลอกลวง แต่ลูกชายของเธอก็ถูกหลอกเช่นกันครั้งที่แล้วเขาไม่ได้ถูกหลอกหรอก และเขาก็ทำให้เย่เทียนหยู่พอใจได้มากขนาดนี้เหรอ? มันน่าอายจริง ๆ เขาตะโกนด้วยความโกรธทันที: “หลินจื่อตงหยุด!”หลินจื่อตงไม่สนใจเธอเลยและยังคงมองดูต่อไปแต่หลินหว่านหรูหยุด ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ ฉันได้รับใบหย่าแล้ว ทำไมคุณถึงตามหาเขา”“แต่...” หลินจื่อตงอยากจะพูดอย่างอื่น“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”หลินหว่านหรูทิ้งคำพูดเหล่านี้และจากไปเพื่อกลับไปที่ห้องของเธอหลังจากเข้ามา เธอก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลอาบหน้า และแม้แต่หมอนก็เปียกไปด้วยน้ำตาความเจ็บปวดและความสิ้นหวังที่ถูกระงับทั้งหมดได้ถูกปลดปล่อยออกไปอย่างสมบูรณ์ในขณะนี้หลังจากนั้นไม่นาน หลินหว่านหรูก็ลุกขึ้นและหยิบจี้หยกที่เธอสะสมมาออกมาด้วยเหตุผลบางอย่าง ทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เธอก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมันออกมาดูดูเหมือนว่าด้วยวิธีนี้เธอจะมีพลังและกล้าหาญมา
“ครับ เจ้านาย!”เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่ หยางผั่วจวินก็กลับไม่โต้แย้งเลยแม้แต่คำเดียว เขาเพียงก้มตัวและโน้มศีรษะด้วยท่าทีเคารพเท่านั้น ก่อนจะถอยกลับไปฉากนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอีกครั้งอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อกี้ท่าทีของหยางผั่วจวินดูหยิ่งยโสอย่างมาก แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงเขาได้เลย แต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าตำหนักหยู่ กลับแสดงท่าทีเคารพออกมาเสียอย่างนั้น ให้เกียรติมากถึงขั้นเรียกว่าเจ้านายเลยด้วยที่สำคัญเลยก็คือ ดูเหมือนว่าเขาจะทำเพราะความเต็มใจเสียด้วยซ้ำนี่จึงยิ่งทำให้ในใจของเจวี๋ยเทียนเกิดความมืดมนขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อลองนึกดูอีกที ต่อให้เจ้าตำหนักหยู่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็คงไม่มีทางแข็งแกร่งถึงขั้นนั้นแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า เขาจะเลื่อนขั้นถึงระดับเทพยดาแดนดินแล้วแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในวัยแค่นี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถทำได้ส่วนหยางผั่วจวิน เจ้าเด็กนั่นมีร่างกายที่แปลกประหลาด เขามีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง นั่นจึงไม่อาจมองเขาเป็นแค่คนธรรมดาได้เพราะด้วยเหตุนี้ เจวี๋ยเทียนจึงคิดว่าเย่เทียนห
แต่สีหน้าของเจวี๋ยซินกลับเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาถึงขั้นยอมสละทุกอย่างออกไปจนหมดแล้วแท้ ๆ แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยไม่มีกระทั่งบาดแผลเลยแม้แต่น้อย!เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งออกจากปาก ก่อนจะสลบไปในทันที“เจวี๋ยซิน!”เจวี๋ยเทียนตกใจมาก เขาจึงรีบตรวจสอบร่างกายของเขาโชคดี ที่มันเป็นแค่ผลข้างเคียงจากการใช้ยาจนร่างกายอ่อนแอลงก็เท่านั้น ก่อนจะนำยาสองสามเม็ดให้เขากิน จากนั้นจึงเรียกให้ยอดฝีมือคนอื่นพาไปดูแลต่อเมื่อเห็นเจวี๋ยซินกำลังถูกยกลงไปจากสนาม แววตาของหยางผั่วจวินก็เป็นประกาย ก่อนจะพูดว่า “เจวี๋ยเทียน เจวี๋ยซินถูกฉันจัดการจนอยู่ในสภาพนี้แล้ว มันกลายเป็นสวะไปแล้ว งั้นแกก็รีบขึ้นมาแก้แค้นแทนเขาเถอะ มาจัดการฉันซะสิ?”“......”คนอื่น ๆ ต่างก็หมดคำจะพูด หยางผั่วจวินคนนี้ต้องการจะทำให้เจวี๋ยเทียนโกรธจนตายเลยรึไง อวดดีเกินไปแล้วพวกเขาคิดแค่ว่าหยางผั่วจวินกำลังตั้งใจจะดูถูกเจวี๋ยเทียน แต่จริง ๆ แล้วหยางผั่วจวินแค่ต้องการต่อสู้เท่านั้นทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจวี๋ยเทียน เพื่อดูว่าจะรับมือกับอีกฝ่ายอย่างไรหากเขาปฏิเสธ นั่นก็เท่ากับ
เจวี๋ยซินส่งเสียงคำรามออกมาเสียงดัง ร่างกายของเขากลับมามีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ทำให้ท่าทีของเขาดูเหมือนคนบ้ายิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเขาแดงก่ำสีหน้าของหยางผั่วจวินดูมืดลง เขารู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังจะใช้ท่าไม้ตายแล้วหลังจากท่านี้ถูกปล่อยออกมา อีกฝ่ายจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแน่นอนตัวเขาเองก็ทำการรวบรวมกำลังภายในของตนด้วยเช่นกัน ความน่าสะพรึงกลัวของชี่แท้ถูกหลอมรวมเอาไว้ที่หมัดทั้งสองข้างทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่ดีที่สุดทุกคนต่างจ้องมองฉากตรงหน้าด้วยความตั้งใจ เพราะพวกเขารู้ดีว่าหลังจากทำการปล่อยท่านี้ออกไป ผลแพ้ชนะของทั้งสองก็จะปรากฏออกมาแล้วเป็นอย่างที่คิด เวลาหลังจากนั้นผ่านไปเพียงชั่วขณะ ความแข็งแกร่งอันทรงพลังทั้งสองก็เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงทันใดนั้น บรรยากาศรอบ ๆ ราวกับฟ้าถล่มดินทลาย เสียงระเบิดที่น่ากลัวดังขึ้นซ้อนกันเป็นระยะ ๆ ทั่วทั้งพื้นที่โดยรอบมีเพียงกระแสของกำลังภายในที่น่าทึ่งลอยเต็มไปหมดพื้นที่ทั้งหมดถูกฉีกขาดอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นพายุหมุนที่พัดผ่านไปมาทั้งสองคนติดอยู่ด้านในกับสถานการณ์ที่ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนผลกระทบที่เกิดจากพลังอันน
“สายเกินว่าที่แกจะเข้าไปขวางแล้วล่ะ”“ก็แล้วแต่แกจะคิด เสร็จรึยัง ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วเนี่ย” หยางผั่วจวินพูดด้วยความตื่นเต้น รู้สึกราวกับว่าคนตรงหน้าคือสาวงามที่หาใดเปรียบแทบอยากกระโจนเข้าไปกระชากเสื้อผ้าออกจนเกลี้ยงเขาแทบรอไม่ไหวแล้วจริง ๆคนอื่น ๆ ต่างมองฉากนี้ด้วยความงงงวย และหมดคำจะพูดไปโดยสิ้นเชิงบางครั้งพวกเขาก็อยากจะพูดออกไปว่า เจ้าเด็กนี่กำลังรนหาที่ตายอยู่รึไง ในตอนแรกพวกเขาอาจจะคิดแบบนี้ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าหมัดที่ทรงพลังนั้นได้ตอบคำถามทั้งหมดกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าพวกเขาคิดผิด กระทั่งผิดจนไม่อาจให้อภัยได้เลยทีเดียวแต่คำพูดนี้ กลับทำให้เจวี๋ยซินโกรธจัดทันทีเห็นเพียงกำลังภายในของเจวี๋ยซินที่กำลังพุ่งสูงขึ้นจนถึงจุดที่น่ากลัว ดวงตาสองข้างแดงก่ำ จ้องมองไปทางหยางผั่วจวินอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เจ้าหนู แกตายซะเถอะ!”หลังจากที่เขาพูดจบ เจวี๋ยซินก็พุ่งตรงเข้าหาหยางผั่วจวินทันที พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวจนน่าตกใจ“เข้ามาเลย!”หยางผั่วจวินเองก็ตรงเข้าไปเผชิญหน้าโดยตรงเช่นกัน เมื่อเขาเห็นพลังที่เพิ
เมื่อเห็นว่าหยางผั่วจวินไม่ได้รับบาดแผลเลยแม้แต่น้อย แถมยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก เจวี๋ยซินกลับแทบพังทลายอยู่รอมร่อ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองมาโดยตลอด จะให้ทนอับอายอยู่แบบนี้ได้อย่างไรเมื่อเจวี๋ยเทียนเห็นฉากนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแย่แล้ว! สถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่ เกรงว่าเขาคงจะเปิดใช้เวทอาคมเป็นแน่ จะทำอย่างไรดีเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงแววตาแดงก่ำของเจวี๋ยซิน เขาบ่นพึมพำขึ้นมาว่า “เวรเอ้ย ฉันไม่มีทางยอมแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนอย่างแกแน่!”ทันทีที่เขาพูดจบ มือขวาของเขาก็ยาเม็ดหนึ่งออดมา ก่อนจะกลืนมันลงไปทันทีสีหน้าเจวี๋ยเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ แต่เขากลับรู้ดีว่าเจวี๋ยซินคิดจะทำอะไรเขาต้องการที่จะหยุดยั้งเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ทันแม้แต่จะได้เอ่ยปาก เพราะนอกจากสิ่งนี้ ก็แทบจะไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกแล้วทุกคนต่างพากันชะงักไปชั่วขณะ การที่เลือกกินยารักษาบาดแผลในเวลานี้ เกรงว่าคงจะไม่ช่วยอะไรมากนักแต่ในเวลาต่อมา เจวี๋ยซินก็ได้เริ่มทำการใช้วิชามารที่คนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้อย่าง วิชามหาเวทสลายชีพจรทันที ผ่านไป
“เข้ามาเลย!”สีหน้าหยางผั่วจวินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็เริ่มด้วยเช่นกันในชั่วพริบตา ทั้งสองต่างก็นำพาพลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ในเวลาอันสั้น ทั้งสองกลับมีการแลกกระบวนท่ากันไปแล้วกว่าสิบกระบวนท่าภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้มีการปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมาเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ชมต้องตกตะลึงไปกับความตื่นตาตื่นใจทุกคนต่างจ้องมองการต่อสู้บนสนามโดยไม่ละสายตาหลัก ๆ แล้วการต่อสู้ของทั้งสองนั้นน่ากลัวและแข็งแกร่งมาก ทั้งชีวิตนี้ เกรงว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นการต่อสู้แบบนี้อีกแล้วนอกจากนี้ พวกเขาต่างก็มีผู้สนับสนุนของตนเองเวลาผ่านไปนานพอสมควร ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันหลังจากการเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง หยางผั่วจวินหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดอย่างมีความสุขออกไปว่า “สะใจ นี่สิ ถึงจะเรียกว่าการต่อสู้!”“คนเมื่อกี้ มารโลหิตอะไรนั่นก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้นแหละ!”“......”ทุกคนที่กำลังตั้งใจดูการต่อสู้ จู่ ๆ พูดแบบนี้ขึ้นมา เสียมารยาทเกินไปไหมถ้าบอกว่ามารโลหิตคือขยะ เช่นนั้นพวกเราล่ะ?สีหน้าเจวี๋ยซินดูเคร่งเครียด แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็แทบจะใช
ฉากนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์พากันตกตะลึงไปตาม ๆ กันทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนพวกเขาไม่มีเวลาให้ได้ตอบสนองเลยด้วยซ้ำในเวลาอันสั้น เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ สถานการณ์ในสนามก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก มารโลหิตถูกสังหารในทันทีไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าหยางผั่วจวินจะลงมือได้อย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนี้ แถมยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมอีกต่างหากบอกได้เลยว่า ในตอนนั้นมารโลหิตเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าตนจะต้องมาพบกับชะตากรรมเช่นนี้ในใจของตู๋เปียนฝูและบรรพจารย์หวงเฉวียนต่างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน พลังของพวกเขาต่างจากมารโลหิตก็จริง กระทั่งยังแข็งแกร่งกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาบุกเข้าไป ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ในเวลานี้ พวกเขารู้สึกโชคดีมากจริง ๆโดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เมื่อกี้เขาเองก็กำลังคิดที่จะลงมือเช่นกันถ้าหากเขาลงมือจริง ๆ ตอนนี้คนที่นอนกองอยู่บนพื้นก็คงเป็นเขาไปแล้วปรมาจารย์ที่แท้จริง น่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ?พวกเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าระดับปรมาจารย์ที่ตนมีอยู่ตอนนี้จะเป็นของปลอมรึเปล่าเย
พลังทั้งสองปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง แรงกดดันมหาศาลกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง น่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจอย่างมากอึก!มารโลหิตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากปาก ก่อนที่ตัวเขาจะเดินถอยหลังอย่างควบคุมไม่ได้เพียงแค่หมัดเดียว อวัยวะภายในของเขาก็ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงจนไม่เหลือชิ้นดี สภาพดูน่าอนาถมาก เห็นได้ชัดว่าภายในได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงต้องเข้าใจก่อนว่า ความสามารถของเขาเองก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเช่นกันแม้ว่าระยะเวลาในการบรรลุจะเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้วพูดตามตรง ความแข็งแกร่งของเขายังห่างจากหยางผั่วจวินอยู่มาก ซึ่งความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินตอนนี้ก็ได้ไปถึงคอขวดของระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว บวกกับร่างกายที่ไม่เหมือนใครของหยางผั่วจวินที่ทำการโจมตีอย่างฉับพลันนั่นอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะสามารถรับกระบวนท่านี้ของอีกฝ่ายได้ ช่างเป็นความเร็วที่น่าทึ่งจริง ๆ!เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก!ทุกคนที่เห็นฉากนี้ ต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้วเมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงทันที!สามหาว!สามหาวเกินไปแล้ว!นี่มันสามหาวจนเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ!เยว่เหลียนหานและคนจากสำนักดอกไม้ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน จนเกือบคิดว่าตัวเองประสาทหลอนไปแล้วเสียอีก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหยางผั่วจวินคนนี้แข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่นี่มันก็บ้าเกินไปแล้ว คิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองจะมีความสามารถมากขนาดนั้น ถึงคิดที่จะสู้กับปรมาจารย์ยอดฝีมือพร้อมกันทีเดียวหลาย ๆ คนอีกอย่าง แค่เจวี๋ยซินคนเดียวก็อาจเพียงพอที่จะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานได้แล้ว ยังไงซะ นั่นก็เป็นถึงคนที่มีฝีมือเทียบเท่ากับชิงหลงอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่มู่หรงอินเองก็ยังชะงักไปชั่วขณะ ความรู้สึกตกใจเผยออกมาจากแววตาของเธอลูกน้องของลูกชายตนช่างอวดเก่งเสียจริง ไม่เห็นเจวี๋ยเทียนอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ คิดจะลุยเดี่ยวเลยรึไงดวงตาของทูตใหญ่เบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจจูเก่อหลิวหลีกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก สมแล้วที่เป็นลูกน้องของคุณชาย ยอดเยี่ยมจริง ๆอย่าว่าแต่พวกเขาเลย เย่เทียนหยู่เองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกันเชี่ย!เจ้าเด็กนี่ เพื่อที่จะแย่งคู่ต่อสู้มาให้ได้ จำเป็นต้องขนาดนี้เ