แต่เมื่อหลิวเจี้ยนเห็นแบบนั้น เขาก็โกรธมากและโจมตีอย่างบ้าคลั่งต่อไปซึ่งนั่นทำให้เย่เทียนหยู่ดูน่าสมเพชไม่น้อยหลินหว่านหรูกังวลมากยิ่งขึ้นแต่หลิวเจี้ยนกลับภาคภูมิใจมากขึ้นเรื่อย ๆ และการโจมตีของเขาก็รุนแรงมากขึ้นหลิวเจี๋ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเพราะเขาจะสามารถแก้แค้นได้ในไม่ช้าแต่ในขณะนี้ จู่ๆ เย่เทียนหยู่ก็ไม่หลีกเลี่ยงฝ่ามือของหลิวเจี้ยน และคว้ามันอย่างเข้มแข็ง ในเวลาเดียวกัน มือขวาของเขาก็กลายเป็นหมัดและโจมตีไปที่ตำแหน่งสำคัญของคู่ต่อสู้หลิวเจี้ยน รู้สึกภาคภูมิใจมากเมื่อเห็นว่าเขาโจมตีคู่ต่อสู้ได้ยังไง เขาได้รับการโจมตีอย่างหนักและส่งเสียงครวญคราง รู้สึกว่าร่างกายของเขาสั่นไปหมดความเจ็บปวดในร่างกายของเขารุนแรงมากจนแทบจะล้มลงทันทีแต่เย่เทียนหยู่จะปล่อยโอกาสดีๆ ที่เขาได้รับจากความพยายามทั้งหมดของเขาไปได้อย่างง่ายดาย และโจมตีต่อไปในขณะที่เขาป่วยและฆ่าเขาได้ยังไงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังงานที่แท้จริงได้ แต่ร่างกายของเขายังคงเบามากและการเคลื่อนไหวของเขาได้รับการขัดเกลามาก นี่เป็นเพราะร่างกายที่ไม่ธรรมดาของเขาด้วยนั่นเป็นเพราะตอนนี้เขาอ่อนแอมาก และความแข็งแกร่งทางกายข
หลินหว่านหรูเดินออกไป แต่เห็นได้ชัดว่าเธอยังคงกังวลอย่างสถานการณ์ภายใน และก็อดไม่ได้ที่จะอยากหยุดและกลับไปดูอีกครั้ง แต่เมื่อคิดว่าตัวเองเคยไม่เชื่อฟังเย่เทียนหยู่มาก่อน แถมยังเป็นความผิดพลาดทุกครั้งในที่สุดเธอก็รั้งไว้และลงไปชั้นล่าง หลังจากที่เธอนั่งได้ไม่ถึงนาที เย่เทียนหยู่ก็ลงมาเร็วมากหลินหว่านหรูรีบก้าวไปข้างหน้าและถามด้วยความกังวล: “เจรจาสรุปแล้วเหรอ”“ครับ เรียบร้อยแล้ว”“พวกเขาจะไม่สร้างปัญหาให้เราอีก”เย่เทียนหยู่ยิ้ม ก่อนจะคิดกับตัวเองว่า เพราะทุกคนตายแล้ว ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่สร้างปัญหาอีกเมื่อมองจากภายนอกเขาดูผ่อนคลายมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการบาดเจ็บภายในของเขารุนแรงขึ้นจากนัดที่แล้วแม้ว่าจะไม่ได้ใช้พลังงานที่แท้จริง แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพยังคงสร้างความเสียหายได้มากในความเป็นจริง เป็นการดีที่สุดสำหรับเขาที่จะนอนราบและพักผ่อนอย่างเต็มที่ในเวลานี้ หรือนั่งขัดสมาธิเพื่อให้ลมปราณเริ่มไหลเวียนอย่างช้าๆ และฟื้นฟูร่างกายของเขาอย่างช้าๆหลินหว่านหรู ไม่เคยฝึกฝนและไม่เข้าใจนักรบเลย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ทั้งหมดนี้ เธอแค่ถามอย่างสงสัย: “ดีเลย คุ
แต่ตอนนี้เพื่อเอาใจเย่เทียนหยู่ ลูกเขยผู้ไม่มีใครเทียบได้ ทุกอย่างสามารถอดทนได้ต่อไปความสนุกสนานยังคงดำเนินต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติและการต้อนรับก็สนุกสนานมากเกือบจะเหมือนวีไอพีมากกว่าวีไอพีแม้ว่าเธอจะอับอายเล็กน้อยที่โต๊ะอาหารเย็น แต่แม่หลินก็ไม่สนใจเลย เขาจงใจดึงลูกสาวออกไปข้างนอกและเตือนเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าบอกลูกสาวของคุณให้คว้าโอกาสและมีความสัมพันธ์กับเย่เทียนหยู่ฉันหวังว่าฉันจะตั้งครรภ์โดยเร็วที่สุด เพื่อที่ฉันจะได้รักษาตำแหน่งของฉันในฐานะภรรยาของราชามังกรได้อย่างสมบูรณ์หลินหว่านหรู ดูหมดหนทางมาดามราชามังกร ถ้าแม่ของฉันตื่นจากความฝันอันแสนหวานนี้หากเธอรู้ว่าเทียนหยู่ไม่ใช่ราชามังกรองค์ใหม่เลย เธอก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากขนาดไหนเธอยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเขาเป็นราชามังกรแห่งประตูมังกรจริงๆ แล้วเขาจะอยู่เคียงข้างเธอและทำให้ครอบครัวของเธออับอายในทุกรูปแบบได้ยังไงฉันจะมีคุณสมบัติเป็นภรรยาของราชามังกรด้วยตัวเองได้ยังไงมันเป็นเพียงการคิดปรารถนา“สีหน้าของคุณเป็นยังไงบ้าง”“อย่าบอกนะว่าไม่อยากทำ” แม่ตระกูลหลินมองดูรูปร่างหน้าตาของลูกสาว เธอมักจะรู้สึก
เมื่อฟังเสียงที่เคลื่อนไหวนั้น เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆแต่ในขณะนี้ จู่ ๆ หลินหว่านหรูก็อุทานว่า “เดี๋ยวก่อน!”“มีอะไรเหรอครับ”เย่เทียนหยู่รีบถามจนแทบลืร่างกายอ่อนนุ่มที่ถูกเขากดทับอยู่ด้านล่าง“ฉ..ฉันจะอาบน้ำก่อน”“นี่มันกี่โมงแล้ว ทำไมต้องอาบน้ำด้วย...” เย่เทียนหยู่พูดไม่ออกและเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง“ไม่ ฉันอาจจะอยู่ที่นี่” หลินหว่านหรูไม่แน่ใจ เธอจึงบอกว่าเธออยากอาบน้ำ"อะไร"เย่เทียนหยู่ตกตะลึง: "จริงเหรอ" เขาถามอย่างสงสัย"อือ!"หลินหว่านหรูตอบกลับจู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็น้ำตาไหล ยังคงเป็นไปได้ไม่ใช่หรือว่าเขาไม่สามารถแตะต้องมันได้อย่างน้อยหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ในที่สุดเขาก็บรรลุเป้าหมายหลินหว่านหรูลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบ ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอาย เธอจึงเดินตรงไปหาเสื้อผ้าแล้ววิ่งไปอาบน้ำเย่เทียนหยู่ถูกทิ้งให้นอนอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง ยุ่งวุ่นวายท่ามกลางสายลมในที่สุดหลินหว่านหรูก็รู้สึกถูกและก็อยู่ที่นี่จริงๆจริง ๆ แล้วเธอไม่ต้องการ แต่เธอก็ควบคุมมันไม่ได้หลังจากนอนไม่หลับมาทั้งคืนหลินหว่านหรูตื่นเช้าวันรุ่งขึ้นและไปทำงานทันที เธอเขินอายเก
หลังจากโทรศัพท์ดังกล่าว คุณหลินก็เข้าใจทุกอย่างทันทีครั้งสุดท้ายที่เราจัดการกับตระกูลหลี่ว์ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเย่เทียนหยู่เลยหลินหว่านหรูเป็นผู้ที่แอบโทรมาขอความช่วยเหลือจากเย่เซวียนนายน้อยของตระกูลเย่ใน เมืองหลงตูจากนั้นหลินหว่านหรูก็จงใจมอบเครดิตทั้งหมดให้กับ เย่เทียนหยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกสิ่งที่พวกเขารู้ได้รับการบอกเล่าจากหลินหว่านหรูรวมถึงราชามังกรเย่เทียนหยู่แบบไหนด้วยสัญญาณทั้งหมดรวมกันบ่งชี้ว่าทั้งหมดนี้เป็นการหลอกลวงที่เกิดจากการสมรู้ร่วมคิดของหลินหว่านหรูและ เย่เทียนหยู่หลังจากพิจารณาทุกอย่างจนเสร็จสิ้น คุณปู่ตระกูลหลินหน้าดำคร่ำเครียด ความโกรธพวยพุ่งอยู่ภายใจใน นี่มันลูกไม้ที่เอามาหลอกลวงพวกเขาทั้งเพเมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินสิ่งคุณปู่บอก เธอก็ตกตะลึงทันทีและตบตัวเองหลายครั้งด้วยความสำนึกผิดเธอบอกว่าไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอมักจะรู้สึกเสมอว่าท่าทางของลูกสาวเธอผิดอย่างสิ้นเชิงหลายครั้ง แม้ว่าเธอจะมีความสุขมากที่ได้ทำตัวปกติ แต่เธอก็ดูเหมือนคนกังวลตลอดเวลาปรากฏว่านี่เป็นการหลอกลวงตั้งแต่ต้นจนจบสิ่งนี้ทำให้พวกเขาแต่ละคนรู้สึกอับอายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพ
เย่เทียนหยู่ต้องการการฝึกฝนตนเองเป็นอย่างมาก ดังนั้นหลังจากที่เขาออกจากบ้านพักของตระกูลหลิน เขาก็ไม่ได้ไปที่บริษัทโดยธรรมชาติ แต่ไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งนั่นเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขาในการปลูกฝังถ้าฉันไม่ย้ายมาอยู่บ้านหลิน ฉันคงเขินอายที่จะไม่ย้ายในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ เขาต้องการอยู่กับหลินหว่านหรูดังนั้นเขาจึงมาที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งเพื่อพักฟื้นแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้เมื่อคืนนี้ อาการบาดเจ็บของเขาไม่เพียงแต่ไม่หายเท่านั้น แต่ยังแย่ลงอีกด้วย และเวลาที่เขาไม่สามารถดำเนินการได้ก็ยาวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้อีกครั้งขณะที่เขาเข้าไปในวิลล่าและกำลังจะพักผ่อนและพักฟื้น เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากหลินหว่านหรู“เทียนหยู่ ตอนนี้คุณว่างแล้วหรือยัง คุณช่วยฉันหน่อยได้มั้ย” หลินหว่านหรูถาม เธอมีบางอย่างที่เธอไม่สามารถออกไปได้ และพ่อแม่ของเธอก็ไม่ว่างเป็นไปไม่ได้ ลูกพี่ลูกน้องของฉันซึ่งฉันสนิทสนมด้วยเดินทางมาที่บ้านของฉัน และไม่มีแม้แต่ใครที่จะไปรับเธอที่สนามบินและจากความประทับใจของเธอ เย่เทียนหยู่เป็นคนสบายๆ เสมอ และแม้ว่าเขาจะไปที่บริษัท เขาก็มักจะอยู่ที่นั่นเพื่
หลิวเมิ่งจงใจเข้าใกล้เย่เทียนหยู่มากขึ้นขณะที่กำลังพูดจนกระทั่งจับมือเขาเย่เทียนหยู่ตกตะลึง ลูกพี่ลูกน้องคนนี้จะเป็นมิตรเกินไปหรือเปล่านะ ทำเอาจู่ ๆ เขาก็ทำอะไรไม่ถูกเลยการกระทำของเธอทำเอาชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังหงุดงหงิด สีหน้าของเขาแย่มาก เขามองเย่เทียนหยู่ด้วยสายตาโหดเหี้ยมและพูดเยาะเย้ยว่า “ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย แค่หน้าตาดีจะมีประโยชน์อะไร ที่สำคัญมันคือความสามารถ”“ใช่ ที่เขาพูดน่ะถูกต้องแล้วละ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ชายคือการมีความสามารถ หลิวเมิ่ง ทำไมคุณไม่แนะนำสักหน่อยล่ะ” เย่เทียนหยู่เปลี่ยนเรื่องทันที“เขาชื่อหม่าจวิ้น ไล่ตามจีบฉันมานานแล้วค่ะ แล้วก็ตามปกป้องฉันมาถึงเมืองเทียนไห่ จริงสิ พี่เขย ได้ยินมาว่าพี่เก่งกังฟูถึงขั้นไร้คู่ต่อสู้เลยเหรอคะ” หลิวเมิ่งถามอย่างสงสัยเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้น เขาก็กำลังจะปฏิเสธแต่หม่าจวิ้นกลับเยาะเย้ยทันที: “รูปร่างผอมเพรียวแบบนี้จะเก่งกังฟูจริงเหรอ? ถ้าจริง สงสัยจะเจอพวกขยะมาเยอะ ถ้ามาถึงมือผมนะ แค่นาทีก็จัดการได้แล้ว”“หม่าจวิ้น เลิกขี้โม้เถอะน่า พี่เขยฉันน่ะเก่งสุด ๆ อีกพักโดนชกจนลงไปคุกเข่าอย่าร้องไห้ซะละ”“จะเป็นไปได้
หลิวเมิ่งพูดไม่หยุดตลอดทาง: “พวกคุณสู้ก็สู้นะแต่ต้องระวังตัวกันด้วย อย่าทำเอาบาดเจ็บกันละ โดยเฉพาะหม่าจวิ้น ห้ามทำร้ายพี่เขยฉันนะ”คำที่เธอพูดทำให้หม่าจวิ้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีกเย่เทียนหยู่ยังสังเกตเห็นว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะพูดแทนเขาครั้งแล้วครั้งเล่าก็จริง แต่กลับเป็นการรดน้ำมันบนกองเพลิง ยิ่งพูดเรื่องยิ่งใหญ่กว่าเดิมตลอดในขณะนี้ พวกเขามาถึงสถานที่ซึ่งรกร้างอย่างรวดเร็ว“คุณแน่ใจเหรอ”เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ“แน่อยู่แล้ว!” หม่าจวิ้นพูดอย่างมั่นใจ“งั้นมาเริ่มกันเถอะ”ทันทีที่เย่เทียนหยู่พูดจบ เขาก็พุ่งเข้าไปยกหมัดขวาขึ้นโจมตี หมัดนี้ดูอ่อนแอราวกับปุยหนุนไม่ต้องพูดถึงหม่าจวิ้น แม้แต่หลิวเมิ่งก็ตกตะลึงหมัดแบบนี้ กังฟูของเขาแข็งแกร่งจริงๆ เหรอ?"ฮ่าฮ่า ท่าสวยแต่ใช้การไม่ได้!"“ขยะแบบแก ต่อให้ฉันไม่ขยับ แกก็ทำร้ายฉันไม่ได้แม้แต่มิลเดียว”หม่าจวิ้นแทบจะระเบิดหัวเราะออกมาทันทีในเวลานี้ เย่เทียนหยู่เข้าใกล้เขาแล้ว ทว่าจู่ ๆ แรงที่มือขวาของเขากลับเพิ่มขึ้น จากนั้นก็โจมตีอย่างแรงในทันที โดยเลือกโจมตีจุดสำคัญของอีกฝ่ายหม่าจวิ้นตั้งท่าจะลงมือบดขยี้อีกฝ่าย แต่ไม่คิด
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้