“ดี ดีมาก! เจ้าหนู ฝากไว้ก่อนเถอะ!”ขณะที่เฉินฮั่นกำลังพูดอยู่ เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วถ่ายรูปเย่เทียนหยู่ จากนั้นเขาก็มองไปที่จางฉีแล้วพูดว่า “จางฉี สิ่งที่ฉันบอกคุณยังคงใช้ได้จนถึงทุกวันนี้”“มาที่นี่วันนี้ อย่าหาว่าฉันหยาบคายนะ”หลังจากทิ้งคำพูดเหล่านี้ เขาก็เดินจากไปด้วยความโกรธเมื่อรู้ว่านามสกุลของเขาคือเย่และรูปถ่าย มันง่ายเกินไปที่จะหาอีกคนเด็กคนนี้เขาจะทำให้อีกฝ่ายต้องชดใช้ราคาอันแสนสาหัสอย่างแน่นอนเมื่อเห็นเฉินฮั่นจากไป จางฉีก็พูดอย่างกังวลทันที: “คุณเย่ทำอะไรอยู่ ถ้าคุณทำให้ผู้จัดการเฉินในบริษัทขุ่นเคืองมีหวังซี้แหงแก๋”“คุณกลัวผมจะทำคุณติดร่างแหเหรอ” เย่เทียนหยู่ถาม“ไม่ใช่แบบนั้น!”จางฉีปฏิเสธทันทีและพูดว่า: “นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน นอกจากนี้ผู้จัดการเฉินจะยังไม่ปล่อยฉันไปหากไม่มีคุณ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่สามารถอยู่ในบริษัทนี้ได้”“ทำไม?”“คนนิสัยไม่ดีนั่นแค่อยากซ่อนกฎของเขาเพื่อคุณหรือเปล่า?” เย่เทียนหยู่เดาสิ่งนี้จากสายตาของเฉินฮั่นและคำพูดที่เขาเพิ่งทิ้งไว้เพียงแต่จางฉีไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะพูดตาแก่ลามกเห
“เอ่อ”“คุณช่วยบอกผมเพิ่มเติมเกี่ยวกับความลับของบริษัท โดยเฉพาะความลับที่สืบทอดมาเป็นการส่วนตัวได้ไหม” เย่เทียนหยู่ถามอย่างสงสัย“จะพูดเรื่องนั้นไปทำไม”“ผมอยากรู้!”“รอก่อนเถอะ ยังไงฉันก็จะลาออกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันเริ่มสายแล้ว เรารีบขึ้นไปก่อนเถอะ”“ก็ได้”เมื่อฉันมาถึงทางเข้าชั้น 1 ฉันต้องรูดการ์ดที่นี่เย่เทียนหยู่ดูหมดหนทาง เขาไม่ติดขัดเลยจางฉีมองเขาอย่างสงสัย และสงสัยว่าคุณไม่ใช่พนักงานของบริษัท ทำไมคุณถึงไม่มีบัตรด้วยซ้ำ“คือ วันนี้ผมลืมเอามาน่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็มากับฉัน” จางฉีพูดอย่างเร่งรีบ เธอบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าเป็นลูกค้าแล้วพาเขาเข้ามาทันทีอาคารหลังนี้ค่อนข้างใหม่และลิฟต์ก็สะอาดและมีลิฟต์จำนวนมากถึงชั้นที่สิบห้าอย่างรวดเร็วเมื่อเขามาถึงประตู เย่เทียนหยู่ยังไม่มีบัตรเข้า ดังนั้นเขาจึงเดินตามจางฉีเข้าไปจางฉีไม่ได้คิดมาก ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอรู้สึกว่าคุณชายเย่ไม่ใช่คนเลว อาจเพราะเขาหล่อและใจดีแต่เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปอีก จางฉีเริ่มสับสนและพูดว่า “คุณเย่ ที่นี่คือแผนกดีไซน์นะ คุณตามฉันมาทำไมคะ”“เอ่อ ผมก็มาจากที่นี่เหมือนกัน”เย่เทียนหยู่กล่าว
โดยไม่คาดคิด เย่เทียนหยู่ยังคอยให้คำแนะนำพวกเธออย่างใจเย็น ทำเอาสาวสวยหลายคนรู้สึกเหมือนว่าพวกเธอได้รู้อะไรเพิ่มมากขึ้น แถมยังได้ความรู้เชิงลึกมาอีกไม่น้อยทุกคนเริ่มตื่นเต้นมากขึ้น นี่คืออัจฉริยะด้านการออกแบบชัดๆจางฉีตกตะลึง เธอแค่แก้ตัวให้กับศิษย์พี่ของเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าการออกแบบของคุณชายเย่จะสุดยอดถึงขนาดนี้ แค่พริบตาก็สามารถทำให้ทุกคนถูกสยบคุณชายเย่สุดยอดขนาดนี้เลยเหรอ หรือเธอแอบชอบเขามาแต่แรกและที่แท้พวกเขาเป็นคนประเภทเดียวกันอย่างนั้นเหรอ“นี่พี่เรียนจบมาจากมหาลัยไหน ทำงานที่ไหนเหรอคะ ทำไมถึงเก่งขนาดนี้”“พี่มีแฟนหรือยัง ถ้าไม่มีคุณว่าฉันเป็นยบังไงคะ? ไม่ต้องห่วง ขอแค่คุณคบกับฉัน คุณไม่ต้องทำอะไรเลย ฉันจะจัดการให้ทุกอย่าง”“ฉันก็เหมือนกัน ฉันดูแลงานบ้านได้หมดเลย ฉันจะไม่ทำงานแล้วออกมาอยู่ทำงานบ้านปรนิบัติรับใช้คุณก็ได้นะ”“ฉันก็เหมือนกัน ฉันคลอดลูกสี่คนให้คุณได้นะ ถ้าสี่คนไม่พอจะห้าคนหรือหกคนก็ได้เหมือนกัน”“……”ยิ่งพูดก็ยิ่งเกินจริง จางฉีฟังจนหน้าแดงก่ำแต่บางทีเสียงดังเกินไปและทำให้หนิงเกอตกใจ หลังจากที่หนิงเกอออกมา เขาก็ตะคอกอย่างเย็นชา: “คุณกำลังทำอะไรอยู่ พวกคุณ
“ให้ฉันออกไปจากฝ่ายออกแบบเหรอ?” “ไม่ต้อนรับงั้นเหรอ?” เย่เทียนหยู่ได้ฟังคำพูดนี้ก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดเสียงเรียบ “คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ อีกอย่างพวกเธอควรจะต้อนรับฉันถึงจะถูก” “ต้อนรับคนอย่างแกน่ะเหรอ?” “แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?” “ไอ่คนนามสกุลเย่ ฉันขอเตือนไว้เลยนะว่าความอดทนฉันต่ำ ถ้าแกยังไม่เลิกตามมา ฉันจะแจ้งตำรวจแล้วนะ” หนิงเกอโมโห ตั้งแต่ครั้งก่อนแล้วที่เธอไม่พอใจเย่เทียนหยู่ วันนี้เธอได้ระบายมันออกมาจนหมดแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะลูกน้องของเธอถูกคนคนนี้ล้างสมองเธอจะทำให้ทุกคนคิดว่าเธอผิดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเธอไม่มีทางพูดดีๆแบบนี้หรอก จางฉีได้ฟังก็รีบเข้ามาพูด “คุณเย่ คุณบุกรุกเข้ามาในบริษัทของเรามันไม่ถูกต้อง รีบออกไปเถอะค่ะ” “ไม่ได้ วันนี้ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น” เย่เทียนหยู่พูด วันนี้เขามารับหน้าที่ประธานบริษัทคนใหม่ จะมาบอกให้เขาออกไปแล้วเขาก็จะออกไปแบบนี้ได้ยังไงกัน “ไม่ไปเหรอ?” “ฉันก็คิดอยู่ว่าใคร ที่แท้ก็แกนี่เอง ฉันตามหาแกจนทั่วตอนนี้ยังกล้าจะมาสร้างเรื่องที่ฝ่ายออกแบบอีก” “ใครก็ได้ มีขโมยแอบบุกรุกเข้ามาในบริษัทเรา รีบมาจับตัวไว้แล้วส่งตัวไปสถานีตำรวจที” เฉ
“นี่!” เฉินฮั่นโมโหจนแทบบ้า เขาไม่เคยคิดจะไล่โจวม่านออกจึงได้แต่เอาความโกรธไปลงที่เย่เทียนหยู่แทน “รปภ. รปภ.ไปอยู่ที่ไหนกันหมด!” “ยะ…อยู่นี่ครับ!” ไม่นานรปภ.ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เห็นรปภ.ที่วิ่งเข้ามา เฉินฮั่นก็ตะโกนออกมาอย่างโมโห “จะยึกยักอยู่ทำไม จัดการมันสิ ฉันรับผิดชอบเอง เสร็จแล้วก็ส่งมันให้ตำรวจ บอกว่ามันขโมยความลับของฝ่ายออกแบบไป” รปภ.ฟังจบก็ตั้งท่าจะพุ่งเข้าไปลงมือ จางฉีตกใจจนหน้าซีดแต่กลับทำอะไรไม่ได้ หนิงเกอมองไปทางเย่เทียนหยู่ด้วยสายตาเย็นชา ไอ่หมอนี่สมควรโดนแล้วล่ะ ก็ไม่เชื่อฟังเขาเอง ถ้ารีบไปก็ไม่เป็นอะไรแล้ว เอาแต่อวดดีอยู่นั่นแหละ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาเสียงดังมากไป จึงทำให้หลิวชั่วรองประธานบริษัทเดินเข้ามาพร้อมกับหวงเจวียนที่เป็นผู้ช่วยเดินมาดู เพราะวันนี้ท่านประธานคนใหม่จะเข้ามารับตำแหน่ง บริษัทจะเกิดปัญหาอะไรไม่ได้เด็ดขาด “หยุดนะ!” ในตอนนี้หวงเจวียนรีบเดินเข้ามาก่อนจะออกปากห้ามเฉินฮั่น“หัวหน้าเฉินนี่มันอะไรกัน วันนี้ท่านประธานคนใหม่จะเข้ามารับตำแหน่ง จะให้มีปัญหาไม่ได้นะคะ” ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของเฉินฮั่นก็เปลี่ยนไป ถ้าเกิดว่าจัดการไอ่หมอ
ได้เห็นภาพนี้จางฉีก็หน้าซีด ไม่มีที่ไหนให้เธอหลบได้เธอจึงหลับตาแน่น โชคดีที่เย่เทียนหยู่ยืนอยู่ข้างๆ อีกฝ่ายพ่นลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินไปข้างหน้า แค่ไม่กี่ท่าทางก็จัดการหักแขนของรปภ.ไปแล้วสองคน เจ็บจนอีกฝ่ายต้องส่งเสียงร้องออกมา ก่อนจะพากันล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น ถึงแม้จะไม่ได้ขาหัก แต่ก็เจ็บจนลุกไม่ไหว ทุกคนตรงนั้นต่างพากันตกใจไม่คิดว่าเย่เทียนหยู่จะฝีมือดีขนาดนี้ จางฉีเบิกตากว้างมองอีกฝ่ายอย่างตกตะลึง ถึงได้เห็นว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด ในตอนนี้เธอไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์สักเท่าไหร่ เฉินฮั่นเองก็หน้าถอดสีแต่ก็ยังคงตะโกนออกมาอย่างโมโห “ว่าแล้วเชียวทำไมแกถึงได้กร่างขนาดนี้ที่แท้ก็เป็นมวยนี่เอง แต่แกคิดว่าที่นี่คือที่ไหนกัน รอดูเถอะฉันจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้แหละ” เย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แต่หวงเจวียนอดไม่ได้ที่จะพูด “หัวหน้าเฉินอีกเดี๋ยวท่านประธานก็มาแล้ว…” “มาแล้วแล้วยังไง ต่อให้จะมาหรือไม่มาผมก็จะจัดการมัน” เฉินฮั่นไม่สนใจคำเตือนของหวงเจวียน ก่อนจะรีบกดโทรศัพท์ หวงเจวียนเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะหัวหน้าเฉินกับรองประธานหลิวสนิทสนมกัน เธอจึงไม่กล้าไปหาเรื่องมากนัก ไม
เมื่อพูดคำนี้ออกไป คนอื่นๆต่างก็พากันตกตะลึง สายตาของทุกคนรวมถึงหนิงเกอต่างก็บ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อ ส่วนจางฉี โจวม่านและคนในฝ่ายออกแบบอื่นๆต่างก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเช่นกัน ใครจะไปคิดว่าเด็กหนุ่มที่ดูหล่อเหลาคนนี้จะเป็นประธานบริษัทคนใหม่ เพราะปกติแล้วคนที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทถ้าไม่ใช่คนที่มีอายุสักหน่อยก็ควรจะดูโตกว่านี้ มีคนที่เด็กขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ โดยเฉพาะเฉินฮั่น เมื่อได้เห็นท่าทีของหวงเจวียนก็ตกใจ และยิ่งได้ฟังคำพูดของหวงเจวียนก็หน้าถอดสี สองขาอ่อนแรงจนแทบจะกองลงไปอยู่ที่พื้น สีหน้าของเขาเหมือนคนอมทุกข์มานานแสนนาน ยิ่งเมื่อนึกถึงท่าทีของตัวเองเมื่อสักครู่ที่เขาเอาแต่ดูถูกและพูดจาประชดประชันอีกฝ่าย แย่แล้ว! ตอนนี้แย่แน่ๆแล้ว “ประ…ประธานเย่ ผม…” “ว่าไงครับ ยังจะให้ผมไสหัวออกไปอีกเหรอ?” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา “ไม่ …ไม่ใช่นะครับ ประธานเย่เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่รู้ว่าคุณคือท่านประธานคนใหม่ ให้โอกาสผมสักครั้งนะครับ ผมจะปรับปรุงตัวแน่นอน” “ไม่รู้ว่าผมเป็นประธานบริษัทเหรอ หรือว่าถ้าผมไม่ใช่ประธานบริษัทคุณจะทำยังไงก็ได้เหรอ?” “ไม่ใช่ครับ คือผม…”
“ค่ะ” หวงเจวียนรับคำด้วยท่าทีอ่อนน้อม เธอต้องรีบเอาเรื่องนี้ไปรายงานให้ท่านรองประธานได้ฟัง “ได้ งั้นรีบไปจัดการเถอะ จำไว้นะครับว่าสิบนาที ทุกคนในบริษัทจะต้องอยู่ที่นั่น ถ้าไม่อย่างนั้นเกิดอะไรขึ้นก็รับผิดชอบตัวเอง” เย่เทียนหยู่พูดเสียงเย็นชา “ค่ะ!” หวงเจวียนเองก็รีบไปจัดการ หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปแล้ว หนิงเกอก็ได้สติกลับมา เธอมองไปทางเย่เทียนหยู่ ในสายตาเห็นได้ชัดเลยว่ามีความอึดอัดและอับอายปนอยู่ เธอคิดถึงตอนที่เธอไม่เคยเชื่อคำพูดของเขาแล้วยังจะดูถูกเขาตลอดเวลาอีก ที่แท้เขาก็คือคนของหงหม่ากรุ๊ปจริง ไม่ใช่พนักงานทั่วไป แต่เป็นประธานบริษัทคนใหม่ แต่เธอกลับเอาแต่ดูถูกอีกฝ่าย ตอนนี้จึงได้แต่แสดงสีหน้าสำนึกผิดก่อนจะพูดออกมาอย่างระวัง “ประธานเย่คะ คือฉัน…” “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ต่อจากนี้ตั้งใจทำงานก็พอ” หนิงเกอคนนี้ถึงจะไม่มีมารยาทกับตนเองอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้แต่พูดจาดูถูกบ้างแต่ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แค่เป็นคนไม่ชอบยอมอ่อนข้อให้ใครก็เท่านั้น สำหรับเรื่องนี้แล้วเห็นแก่ความสามารถของเธอเย่เทียนหยู่พอทนได้ แต่ถ้าอยากจะเลื่อนตำแหน่งคงเป็นไปไม่ได้ ต้องรอดูเธอในอนาคตแล้วล