Share

บทที่ 675

Penulis: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
“อะไร คุณกลัวเหรอ?”

เย่เทียนหยู่ถามอย่างใจเย็น

หากซ่งหลิงไม่เต็มใจจะกลับมาไป เขาก็ไม่อยากช่วยตระกูลซ่งแล้วจริง ๆ ผู้หญิงที่ทิ้งความปลอดภัยของครอบครัวเพราะความเห็นแก่ตัวแบบนั้น จะอยู่บนโลกนี้ต่อไปทำไม

โชคดีที่ซ่งหลิงสะดุ้งตัวเล็กน้อยและตอบทันที: “เปล่าค่ะ คือฉัน ฉันแค่กลัว แต่ฉันจะกลับไปค่ะ ฉันจะไม่มีทางหนีไปแล้วทิ้งให้ตระกูลซ่งต้องทนลำบากหรอกค่ะ”

“ดีมาก เพราะถ้าคุณเลือกไม่กล้ากลับไปจริง ๆ ผมก็ไม่จำเป็นต้องช่วยคนแบบนี้”

เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ

ซ่งหลิงตกตะลึงด้วยความกลัวอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าถ้าเมื่อกี้เธอตอบผิดไปละก็ คนที่จะช่วยพวกเขาเพียงคนเดียวก็จะหายวับไป

แม้เธอจะยังไม่แน่ใจว่าคนที่จะช่วยพวกเขาคนนี้จะต้านอำนาจของตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลงตูได้หรือไม่ก็ตาม

ซ่งหลิงเหลือบมองตู้อิ๋งและพูดอย่างเร่งรีบ: “พี่อิ๋ง หลี่ว์เจิ้งจากเมืองหลงตูมาถึงแล้ว ฉันต้องกลับไปจัดการเรื่องของเขาก่อนเลยอยู่เป็นเพื่อนพี่ที่นี่ไม่ได้แล้ว”

“อย่ารู้สึกแย่เลยนะคะ ถ้าพี่เป็นอะไรไปอีกคนคุณน้าหลี่แม่พี่จะทำยังไง”

“อือ ฉันเข้าใจแล้ว”

เพียงแค่พริบตา แต่ดูเหมือนตู้อิ๋งจะโตขึ้นมาก อย่างน้อย เธอก็ไม่ได้สิ้นหวั
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 676

    “อ่า เธอจะกลับมาทำไม หลี่ว์เจิ้งนั่นไม่ธรรมดาเลยแถมยังพาพวกเป็นวรยุทธ์มากฝีมือมาด้วย เกิดเขาอยากแย่งตัวเธอไปเราก็คงห้ามไม่อยู่”ซ่งหยางอธิบายด้วยความกังวลทันที“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรายังมีคุณชายเย่อยู่ไม่ใช่เหรอคะ” ซ่งหลิงกล่าว“ถ้าคุณชายเย่อยู่ที่นี่ก็คงไม่เป็นไร แต่คุณชายเย่ยังไม่มา พี่ไม่รู้ว่าเขาจะมาถึงเมื่อไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะมาถึงหรือเปล่า” ซ่งหยางอธิบาย“พี่ นี่ที่ผ่านมาไม่เคยเชื่อคุณชายเย่เลยเหรอคะ?”“พี่น่ะเชื่อคุณชายเย่อยู่แล้ว แต่พี่เป็นห่วงเธอมากกว่า เราจะผ่านไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นโอกาสจะเสียใจยังไม่มีเลย”“ฮ่าฮ่า พี่ไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ คุณชายเย่กำลังขับรถอยู่ค่ะ ฉันบังเอิญอยู่กับเขา และเขาก็พาฉันกลับมาด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาบอกแล้วละค่ะว่าเราไม่ต้องกังวล”“สำหรับคุณชายเย่ จัดการนายน้อยหลี่ว์ง่ายอย่างกับปอกกล้วยเข้าไปปากเลยละ”หลังจากที่ซ่งหลิงพูดจบ เธอก็เหลือบมองเย่เทียนหยู่ แล้วเอาโทรศัพท์แนบหูแล้วถามว่า “คุณชายเย่ เป็นแบบนั้นใช่ไหมคะ?”ยัยเด็กนี่เมื่อกี้กลัวเขาอยู่แท้ ๆ ตอนนี้ดันมาล้อเล่นกับเขา แต่เกรงว่าคงไม่ใช่แค่การล้อเล่นหรอก เด็กนี่ฉลาดไม่เบาแต่เ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 677

    “ฟังเสียงคุณแล้วไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นะ เป็นอะไรไป?”เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นความผิดปกติจึงถามทันทีแม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ติดต่อกันมากนัก แต่ หยางเฉียนเฉียนก็มีสำคัญกับเขาไม่น้อย หากตอนนั้นไม่ใช่เพราะเธอได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลถัง เขาอาจจะหยุดรั้งเธอ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” หยางเฉียนเฉียนรีบปฏิเสธ“จริง ๆ นะ ถ้าคุณมีปัญหาบอกกับผมได้เลย ด้วยความสามารถของผมไม่มีปัญหาไหนที่ผมแก้ไม่ได้” เย่เทียนหยู่กล่าว“อย่างนั้นเหรอคะ ถ้างั้นฉันชอบพี่เย่ ไม่อยากแต่งงานกับนายน้อยถังได้ไหมคะ”“เรื่องนั้น...”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะยิ้มแห้ง“ทำไม หมดหนทางแล้วเหรอ อยู่แล้วเชียวว่าพี่น่ะขี้โม้”หยางเฉียนเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงทรงเสน่ห์ “แต่พี่อย่าคิดมากนะคะ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ”แต่เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าหยางเฉียนเชียนไม่ได้ล้อเล่น โดยเฉพาะตอนนี้ที่เธอเริ่มรู้สึกหดหู่อย่างเห็นได้ชัดดังนั้นเขาจึงพูดทันที: “แต่ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ถ้าคุณไม่ชอบนายน้อยถัง มันก็ไม่ได้หมดหนทางซะทีเดียว”หยางเฉียนเฉียนตกใจเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้ม: “พี่เย่พูดเรื่องไร้สาระอีกแล้ว ฉันสงสัยว่าคุณจะไม่รู้ว่าควา

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 678

    ดังนั้นเธอจึงมีเพียงทางเลือกเดียว นั่นคือยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตยิ่งหยางเฉียนเฉียนได้รู้เรื่องนี้ เธอก็ยิ่งไม่อยากโทรหาเย่เทียนหยู่ ระงับความคิดถึงในหัวใจ ไม่เคยโทรหาเขาเลยสักครั้งเพราะเธอรู้ว่าพี่เย่อาจไม่ได้ชอบเธอขนาดนั้น แต่ถ้าเธอมีปัญหา เขาก็จะช่วยเธอแน่นอนแม้เธอจะเสียใจมากที่เขาไม่เคยติดต่อหาเธอเลยทั้งที่เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ก็ตามสรุปแล้ว เธอไม่อยากทำร้ายพี่เย่เพราะยิ่งเธอเข้าใกล้ก็ยิ่งตระหนักว่านายน้อยถังเป็นคนเลวทรามน่ากลัว และทุกคนเกรงกลัวเขา ถ้าเขารู้ว่าเธอชอบพี่เย่ มีหวังได้หั่นพี่เย่เป็นชิ้น ๆ แน่เพื่อความปลอดภัยของพี่เย่ เธอต่อต้านความยากติดต่อพี่เย่นับครั้งไม่ถ้วนของตัวเองแต่ ความทรมานทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ในใจมันทรมานเธอเกินไปเพราะอย่างนั้น มารในตัวก็เอาชนะใจเธอ เธออดไม่ได้ที่จะโทรหาเย่เทียนหยู่ในที่สุด แต่ไม่ใช่เพื่อบอกทุกอย่างกับเขา เพียงแค่พูดคุยกับเขาและฟังเสียงของเขาเท่านั้นเพราะเธอคิดถึงพี่เย่มากจริง ๆ“เฉียนเฉียน ฟังอยู่หรือเปล่า?”เย่เทียนหยู่ไม่ได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายเป็นเวลานาน เขาจึงถามขึ้นเรื่องนี้ทำเอาซ่งหลิงตื่นเต้นเล็กน้อย ผู้หญิง

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 679

    ณ ตระกูลซ่ง!หลี่ว์เจิ้งซึ่งทำหน้ายโสกำลังเอ่ยวาจาเยาะเย้ย: “ซ่งเหวินป๋อ ผมให้โอกาสคุณแล้ว ถ้าคุณไม่คว้ามันไว้ ถึงตอนนั้นมันก็สายเกินจะมาคุกเข่าขอความเมตตา”ซ่งเหวินป๋อทั้งหวาดกลัวและวิตกกังวล เขาไม่รู้ว่าคุณชายเย่จะมาหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ประวิงเวลาต่อไป: “นายน้อยหลี่ว์ อย่าเพิ่งใจร้อนเลย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ให้เราได้หารือกันสักหน่อยเถอะ”“เอาล่ะ ผมจะให้เวลาคุณอีก 20 นาที แต่ 20 นาทีนี้คงให้ผมนั่งเฉย ๆ ไม่ได้หรอกใช่ไหม ไปเรียกซ่งหลิงให้ออกอยู่เป็นเพื่อนผมซะ”หลี่ว์เจิ้งชอบความร้อนแรงบนตัวของซ่งหลิงเป็นอย่างมากผู้หญิงแบบนี้ตอนอยู่บนเตียงจะต้องร้อนเร่ามากแน่ ๆสีหน้าของซ่งเหวินป๋อเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเขาก็พูดอย่างรวดเร็ว: “นายน้อยหลี่ว์ ขอโทษจริง ๆ ครับ พอดีมีเพื่อนคนหนึ่งนัดหลิงหลิงออกไปข้างนอก ตอนนี้เธอไม่อยู่บ้าน”“ถูกนัดออกไปหรือซ่อนไว้กันแน่?”“ซ่งเหวินป๋อ คุณอยากบังคับให้ผมลงมือจริง ๆ เหรอ? ถ้าผมลงมือ ตระกูลซ่งของคุณจะไม่มีทางให้หันหลังกลับอีก แล้วพวกคุณจะได้กลายเป็นแค่ประวัติศาสตร์แน่”หลี่ว์เจิ้งเตือนพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ยซ่งเหวินป๋อยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะรีบตอบเขาว่า:

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 680

    เพียะ!เสียงตบดังขึ้นหลี่ว์เจิ้งลุกยืนและตบหน้าซ่งเหวินป๋ออย่างแรงซ่งเหวินป๋อรู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้า พลังของเขามากกว่าคนธรรมดาทั่วไปเล็กน้อย แต่ความเจ็บปวดนั้นมากจนเขาแทบจะกรีดร้องออกมาเขาพยายามพยุงตัวเองเพื่อไม่ให้ล้มลงกับพื้น“ซ่งเหวินป๋อ รู้ไหมว่าคุณกำลังพูดอะไรออกมา”“ปล่อยซ่งหลิงไปหมายความว่ายังไง? นี่ผมกำลังขืนใจพวกคุณอยู่งั้นสินะ?”“ทั้งที่ผมให้โอกาสที่เหมือนสวรรค์ประทานมาให้แท้ ๆ การที่ผมชอบเธอมันเป็นพรจากฟ้า เธอควรจะขอบคุณผมเสียด้วยซ้ำ”หลี่ว์เจิ้งเผยท่าทางเย่อหยิ่งเอาแต่ใจก่อนจะพูดด้วยความโกรธท่าทางของเขา การกระทำของเขาและคำพูดทุกคำของเขากำลังทำให้สมาชิกตระกูลซ่งเดือดดาล แม้พวกเขาจะมีคนมากกว่า และทุกคนก็อยู่ภายในห้องโถงแต่ต่อให้พวกเขาโกรธก็ไม่กล้าพูด ไม่มีทางที่พวกเขาจะกล้าพูดซ่งหยางเริ่มอดไม่ได้ที่จะเข้าสู้กับเขา แต่น่าเสียดายที่ซ่งเหวินป๋อหยุดเขาไว้ แน่นอนว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะหุนหันพลันแล่นคนที่อยู่ข้าง ๆ นายน้อยหลี่ว์มีพลังมาก เมื่อกี้ที่บุกเข้ามา พวกทหารพิเศษเกษียณแล้วที่เขาจ้างมาสู้อีกฝ่ายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย“ซ่งเหวินป๋อ อย่าหาว่าผมไม่ให้โอกาสคุณ ผม

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 681

    ไม่ว่าคุณชายเย่จะสามารถเอาชนะหลี่ว์เจิ้งได้หรือไม่ ในขณะนี้ พวกเขาก็ไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้วหลังจากได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่ ในที่สุดหลี่ว์เจิ้งก็มองไปที่เย่เทียนหยู่พร้อมสีหน้าดูถูกเยาะเย้ย: “ไอ้หนู รู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไร คิดว่าตัวเองพูดกับใครอยู่?”“อย่างแกน่ะเหรอ คิดจะออกหน้าเพื่อเธอ รู้หรือเปล่าว่าผมเป็นใคร”“รู้สิ” เย่เทียนหยู่ตอบเสียงเรียบ“รู้แล้วยังกล้าทำตัวผยองอีกเหรอ แกคงอยากตายมากเลยสินะ” หลี่ว์เจิ้งยิ่งโกรธมากกว่าเดิม นี่มันไม่สนหัวเขาเลยนี่“คนที่อยากตายมันคุณต่างหาก”“คุณเพิ่งให้โอกาสผู้นำตระกูลซ่ง ส่วนตอนนี้ผมจะให้โอกาสคุณ”“ถ้าคุณออกจากตระกูลซ่งเดี๋ยวนี้และเลิกหาเรื่องตระกูลซ่งอีก ผมก็จะไว้ชีวิตคุณสักครั้ง”เย่เทียนหยู่ส่งเสียงเหอะออกมาอย่างเย็นชาอะไรนะ ให้โอกาส ไว้ชีวิตสักครั้งเหรอ?หลี่ว์เจิ้งที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกเหมือนได้ยินเรื่องเพ้อฝัน ในเมืองเทียนไห่เล็ก ๆ มีคนกล้าทำตัวผยองใส่เขาขนาดนี้ได้ยังไงกันแถมยังเป็นแค่ชายหนุ่มซ่งเหวินป๋อกับซ่งหยางต่างก็ตกตะลึง คุณชายเย่คนนี้จะเฉิดฉายเกินไปหรือเปล่า เดิมนึกว่าคุณชายเย่แค่อวดตัวต่อหน้าพวกเขา พ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 682

    ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสสวี่จะถูกโจมตีด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว เขาส่งเสียงดังอักออกมา จากนั้นก็กระเด็นถอยหลังแล้วล้มลงกระแทกพื้น จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากเขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่แล้วก็มองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงและพูดว่า “ค...คุณพลังระดับไหนกันแน่”“ไม่ว่าพลังของผมจะคืออะไร แต่มันคงมากเกินพอจะจัดการคุณได้ คุณคงไม่ปฏิเสธใช่ไหม?” เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ“แน่นอน เมื่อครู่ถ้าคุณไม่ได้ยอมอ่อนข้อให้ ข้าคงพิการไปแล้ว ข้าสกุลสวี่คนนี้ขอบคุณจริง ๆ”จากนั้นผู้อาวุโสสวี่ก็หันกลับมาและพูดว่า: “นายน้อยหลี่ว์ขออภัย แต่ความสามารถของเขาเกินขอบเขตของข้าไปมาก ต่อหน้าเขาแล้วข้าสู้ไม่ได้กระทั่งเด็กหัดเดินด้วยซ้ำ”จากนั้นเขาก็เดินตรงไปด้านข้างแล้วนั่งขัดสมาธิเพื่อซ่อมแซมอาการบาดเจ็บเขาเป็นเจ้านายที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลหลี่ว์ด้วยเงินจำนวนมาก เขาไม่ใช่ทาสของตระกูล หลี่ว์และมีอิสระในระดับหนึ่งแต่ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกใจมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกของตระกูลซ่ง พวกเขาเคยเห็นความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของคู่ต่อสู้มาก่อน แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าเย่เทียนหยู่จะดูแลพวกเขาได้ง่ายขนาดนี้

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 683

    ในทางกลับกัน ซ่งเหวินป๋อและคนอื่น ๆ แอบยิ้มอย่างขมขื่น ด้วยนิสัยของคุณชายเย่ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยอมรับสิ่งนี้ แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาจะก่อปัญหามากแค่ไหนทุกอย่างในวันนี้ก็จะจบลงแบบนี้ในที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณชายเย่ใช้ประโยชน์จากทักษะที่ดีของเขาและฆ่าคุณชายลู เขาอาจก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่จริง ๆแน่นอนว่า เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเขาได้ยินคำพูดของ หลี่ว์เจิ้งส่ายหัวแล้วพูดว่า “หลี่ว์เจิ้งผมไม่เข้าใจเลยว่าคุณที่เป็นแค่ชายหนุ่มจากตระกูลเล็ก ๆ ไปเอาความกล้าสร้างเรื่องอย่างบ้าบิ่นขนาดนี้มาจากไหน”“ตระกูลเล็ก ๆ เหรอ?”หลี่ว์เจิ้งพูดไม่ออกและด่าเขาด้วยความเดือดดาล “มึงรู้ด้วยซ้ำว่ากูเป็นใคร กูคือหลี่ว์เจิ้งลู กชายคนโตของตระกูลหลี่ว์เมืองหลงตู ตระกูลหลี่ว์ในเมืองหลงตูไม่ใช่ตระกูลเล็ก ๆ”ทุกคนยิ้มเหยเก แต่เย่เทียนหยู่ยังคงพูดว่า: “ตระกูลหลี่ว์ในเมืองหลงตูเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ ไม่ใช่รึไง?”“หรือว่าพวกคุณมีพลังเท่าตระกูลเย่ ตระกูลมู่หรง หรือตระกูลหลิวเหรอ?”ให้ตายเถอะ ทุกคนถึงกับพูดไม่ออกแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มาจากหลงตู แต่พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับสี่ตระกูลสุดยอดชั้นนำ

Bab terbaru

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1241

    ปฏิกิริยาของทุกคนตอบสนองขึ้นพร้อมกัน และอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเย่เทียนหยู่เจ้าตำหนักหยู่คนนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้านายของประมุกหยาง ทำไมถึงรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลกันเลยล่ะ ดูปลอมเกินไปรึเปล่าเยว่เหลียนหานตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอเคยตรวจสอบความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินมาแล้ว เกรงว่าคงไม่ได้ด้วยไปกว่าตนเลย ส่วนเรื่องที่ว่าเขาแข็งแกร่งมากแค่ไหนนั้น เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างน้อยก็คงแข็งแกร่งกว่าเจ้าตำหนักหยู่แน่นอนแต่ที่คาดไม่ถึงเลยก็คือ เขาจะเป็นลูกน้องของเจ้าตำหนักหยู่ได้ ทั้งยังเคารพเจ้าตำหนักหยู่มากอีกด้วย นี่กำลังเข้าใจอะไรผิดไปอยู่รึเปล่านะ?ยิ่งไปกว่านั้น ประมุกมู่หรงเองก็เป็นคนพูดเอง ว่าพวกเธอและประมุกราชาปีศาจได้ทำการร่วมมือกับตำหนักซิวหลัวเรียบร้อยแล้ว หรือพวกเขาต้องการที่จะช่วยให้เจ้าตำหนักหยู่ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำจริง ๆ?อย่าว่าแต่พวกเขาเลย หลินเจวี๋ยเองก็สับสนเช่นกัน เขาเคยตรวจสอบความแข็งแกร่งมาแล้ว เขาไม่สามารถคาดเดาหยางผั่วจวินคนนี้ได้เลยจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายจะต้องแข็งแกร่งกว่าตนแน่นอนหลังจากที่เจวี๋ยเทียนถูกด่า สีหน้าก็ดูน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ใ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1240

    “ใช่!”ครั้งนี้ มู่หรงอินพยักหน้าโดยที่ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเยว่เหลียนหานตกตะลึงไปชั่วขณะ เรื่องเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง เดี๋ยวนะ หรือว่ามู่หรงอินไม่คิดที่จะให้เย่เทียนหยู่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้เธอเลือกคนใหม่แล้วงั้นเหรอและคนที่เธอเลือกก็คือเจ้าตำหนักหยู่!แต่คำถามก็คือ เจ้าตำหนักหยู่เป็นแค่ปรมาจารย์ขั้นสุดท้าย เขาจะทำอะไรได้ ใช้เขาเป็นโล่กำบังให้ตัวเองอย่างนั้นเหรอ?“ประมุกเยว่ คุณล่ะ คุณเองก็สนับสนุนเจ้าตำหนักหยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ?” เจวี๋ยเทียนค่อย ๆ ไล่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปเรื่อย ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร ราวกับว่าถ้าเธอยอมรับ อนาคตเธอก็จะต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของสำนักเจวี๋ยฉิงยังไงอย่างงั้นสีหน้าของเยว่เหลียนหานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรู้สึกลังเล ก่อนจะเหลือบมองไปที่มู่หรงอินมู่หรงอินไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้นนี่เป็นการส่งสัญญาณว่า เยว่เหลียนหานควรเลือกสนับสนุนเจ้าตำหนักซิวหลัวเจวี๋ยเทียนเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน จิตสังหารฉายแววออกมาจากดวงตาของเขา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาออกมาว่า “ประมุกเยว่ ทางที่ดีคุณก็ลองพิจารณาดูให้ดีก่อนเถอะ โดยเฉพาะ ตัวของคุณตอน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1239

    หลังจากที่พูดจจบ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่สายตาของทุกคนจะจ้องมองไปทางเขาเจ้าตำหนักคนนี้พูดพล่ามอะไรอยู่ เขามาเพื่อเป็นผู้นำสำนักงั้นเหรอ?นี่มันไร้สาระสิ้นดี!หลินเจวี๋ยรู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก เมื่อเขาได้ยินคำพูดที่เจ้าตำหนักพูดกับเจวี๋ยเทียน เขาก็คิดแล้วว่า ทุกอย่างคงจบสิ้นแล้วจริง ๆ จบเห่แล้วแน่ ๆ เจ้าตำหนักอย่าได้พูดเหลวไหลอีกเลยนะกลับคิดไม่ถึงเลยว่า คำพูดต่อมาของเจ้าตำหนักจะบ้าบิ่นมากขึ้นกว่าเดิม เขากล้าพูดว่าตนจะขึ้นรับตำแหน่งผู้นำสำนักจริง ๆ นี่เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่เห็นทุกคนอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยรวมถึงสำนักเจวี๋ยงฉิงเองก็ด้วยราชาสวรรค์ทั้งสองที่มากับหลินเจวี๋ยเองก็สับสนด้วยเช่นกัน นี่ใช่เจ้าตำหนักของพวกเขาจริง ๆ น่ะเหรอ นี่เขากำลังรนหาที่ตายชัด ๆเมื่อเห็นสายตาอันน่าสะพรึงกลัวของทุกคนที่มองมา ซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาลแผ่ซ่านออกมาพวกเขาต่างก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่น!วันนี้ เกรงว่าคงได้ตายจริง ๆ แน่!เยว่เหลียนหานและคนอื่น ๆ จากสำนักดอกไม้เองก็รู้สึกตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกัน บุตรแห่งสวรรค์ผู้ที่มู่หรงอินภาคภูมิใจยังไม่ทันได้ปรากฏตัว ก็กลับมีเจ้าตำหนักที่ไม่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1238

    “เพราะเหตุนี้ ผมจึงได้เชิญทุกท่านมาที่นี่ในวันนี้ เพื่อจัดการประชุมศักดิ์สิทธิ์นี้ขึ้น!”คำพูดง่าย ๆ เหล่านี้ นับว่าเป็นการอธิบายเรื่องทั้งหมดได้อย่างคร่าว ๆ เจวี๋ยเทียนยิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “นอกจากนี้ ทุกท่านสบายใจได้ ที่ผมเชิญทุกท่านมา ไม่ใช่เพื่อให้ทุกท่านมาก้มหัวเคารพผมโดยตรง”“แต่เราจะเลือกผู้ที่มีความสามารถสูงสุดในหมู่พวกเรา เพื่อขึ้นเป็นผู้ชี้นำทุกคนให้ก้าวไปข้างหน้าต่างหาก นั่นหมายความว่า ทุกคนจะได้รับความยุติธรรมและโอกาสที่เท่าเทียมกัน”หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ เยว่เหลียนหานกลับแอบส่ายหัวเบา ๆ การแข่งขันที่ยุติธรรมอะไรกัน ทุกคนต่างก็มีโอกาสเท่ากันงั้นเหรอ พวกเขามีโอกาสที่ไหนกันถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็คือเจวี๋ยเทียนเชื่อมั่นในพลังของตัวเองอย่างมาก ว่าจะไม่มีใครที่สามารถหยุดเขาจากการขึ้นเป็นผู้นำของสำนักศักดิ์สิทธิ์ได้สิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรม ก็แค่การที่ปล่อยให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อให้ถูกโจมตีเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้นทุก ๆ คนต่างก็มีความคิดที่คล้าย ๆ กัน แต่อีกฝ่ายก็มีความแข็งแกร่งมากจริง ๆ พวกเขาแทบไม่มีทางเลือกเลยด้วยซ้ำการประชุมในวันนี้ หากพวกเขาไม่มาก็ต้องตายสถานเดียว แ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1237

    “ฮ่า ๆ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะ พอดีเมื่อกี้มีธุระนิดหน่อย เลยทำให้มาช้า”ทั้งสองคนแต่งตัวค่อนข้างเรียบร้อย ทั้งดูดีและมีเกียรติมากโดยเฉพาะเจวี๋ยเทียน เขาสวมชุดสีม่วง ท่าเดินก็ดูองอาจ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยรัศมีแห่งความยิ่งใหญ่และความสง่างามเครื่องแต่งกายของเขาค่อนข้างคล้ายคลึงกับชุดที่มู่หรงชิงเคยสวมใส่ในตอนนั้น ซึ่งทำให้สีหน้าของมู่หรงอินดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เมื่อเห็นทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น ดวงตาของหยางผั่วจวินก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังพวกเขาในทันที และพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อร่องรอยที่เจวี๋ยเทียนเคยทิ้งเอาไว้ในตอนที่เขาไปเยือนสำนักราชาผี ซึ่งนั่นก็ทำให้หยางผั่วจวินตกตะลึงอย่างมากหยางผั่วจวินเองก็สัมผัสได้ ไม่ว่ายังไงตนในตอนนั้นก็ไม่มีทางสู้อีกฝ่ายได้แต่ก่อนที่จะมาที่นี่ หลังจากที่เย่เทียนหยู่ใช้ของวิเศษของพรรคมารช่วยให้เขาพัฒนาตนเอง เขาก็สามารถทะลุจนเลื่อนขั้นสู่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้แล้ว แถมยังทะลุไปถึงคอขวด จนเกือบจะถึงจุดที่สามารถเลื่อนขั้นได้แล้วด้วยซ้ำตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขา นับว่าอยู่ในจุดที่ไม่ธรรมดาแล้วดังนั้น เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้เห็นคู่ต่อสู้ที

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1236

    เขาไม่อาจเรียกเธอว่านายน้อยได้ แต่ให้เรียกว่าคุณหนูก็ถือยังทำได้อยู่อีกสองคนยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็กลับยืนนิ่ว และกว่าวทักทายออกมาว่า “คารวะคุณหนู!”มู่หรงอินขมวดคิ้วอย่างเย็นชา ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีที่ดูเมินเฉยว่า “เหอะ ในสายตาของพวกท่านยังเห็นข้าเป็นคุณหนูอยู่ด้วยงั้นเหรอ?”เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็มืดมนลงเล็กน้อย โดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เขาพูดอย่างเย็นชาออกไปว่า “มู่หรงอิน การที่พวกเรายอมเรียกเธอว่าคุณหนู ก็เพื่อเป็นการไว้หน้าผู้นำคนเก่า อย่าได้เหลิงไปหน่อยเลย!”หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ มู่หรงอินก็กลับไม่ได้โกรธอะไร กลับกัน สีหน้าของเย่เทียนหยู่กลับดูเย็นชาขึ้นมา จิตสังหารที่เย็นยะเยือกก็เกือบจะเผลอทะลักออกมา หากยังต้องทนฟังคำพูดของตู๋เปียนฝูต่อไป มู่หรงอินเกรงว่าเย่เทียนหยู่อาจจะเผลอทำอะไรที่หุนหันพันแล่นออกไปได้ เธอจึงรีบส่งสัญญาณด้วยสายตาเพื่อหยุดเขาในทันที เพราะตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาเปิดเผยความแข็งแกร่งออกมาเมื่อเห็นสายตาแจ้งเตือนให้ยั้งมือของแม่ เย่เทียนหยู่ก็รีบระงับพลังเอาไว้ทันที ทันใดนั้นจิตสังหารก็หายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากพลังที่เขาใช้ปกปิดนั้นค่อ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1235

    “ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอก หากตอนนั้นพวกเราทั้งสี่คนร่วมมือกัน พวกเราคงครอบครองโลกใบนี้ไปแล้ว ใครกันจะกล้าขวาง!”ในขณะเดียวกันนี้เอง ชายชรารูปร่างผอมบางคนหนึ่ง ใบหน้าดูเศร้าหมอง ริมฝีปากเรียวเล็กก็ปรากฏตัวขึ้น“ตู๋เปียนฝู?”ในใจทูตใหญ่รู้สึกตกตะลึง“ยังมีข้าอีกคน บรรพจารย์หวงเฉวียน!”หลังจากที่ทั้งสี่ก้าวออกมาพูด สีหน้าของทูตใหญ่ก็ดูไม่ค่อนสู้ดีมากนัก สมญานามของพวกเขาในปีนั้นคือสี่ทูตใหญ่แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์ แต่ละคนต่างก็มีความแข็งแกร่งที่ทรงพลังมากการดำรงอยู่ของอำนาจพวกเขาเป็นรองก็แค่ผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้นำสำนักเลยแม้แต่น้อย กระทั่งอาจจะแข็งแกร่งกว่าเสียด้วยซ้ำคิดไม่ถึงเลยว่าอีกสามคนที่เหลือจะอยู่ที่นี่กันหมด และดูจากท่าทีของพวกเขาแล้ว เหมือนว่าพลังจะมีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ละคนต่างก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดกันทั้งนั้นในกรณีนี้ แทบจะเท่ากับว่าผู้นำของนิกายจืดจางคือผู้นำที่แท้จริงของนิกายศักดิ์สิทธิ์แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ แทบจะเท่ากับว่าตำแหน่งผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์จะต้องตกเป็นของผู้นำสำนักเจวี๋ยฉิงยังไงอย่างงั้นเมื่อสองพี่น้อง

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1234

    นี่เป็นการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวและทรงพลังระดับไหนกันแน่ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็คือ เธอรู้สึกขาดความมั่นใจอย่างมาก และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมช่วงนี้พวกเธอจึงเอาแต่กักตัวบำเพ็ญตนแต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจเลยก็คือ เหตุใดมู่หรงอินถึงได้มั่นใจมากขนาดนั้น โดยเฉพาะลูกชายของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าก็แข็งแกร่งมากจริง ๆแต่เมื่อเทียบกับสองพี่น้องเจวี๋ยเทียนแล้ว เกรงว่าความแต่งต่างอาจจะยังห่างชั้นกันอยู่แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงทำได้แค่เดินหน้าทำตามแผนต่อไป หากยังไม่ได้ผล ก็คงต้องสู้ตายเท่านั้นเวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่าณ ภูเขารกร้าง!สถานที่แห่งนี้อยู่หากจากเมืองตงเฉิงออกไปกว่าสามร้อยกิโลเมตร ซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขารกร้าง เป็นที่ที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่สำนักศักดิ์ กลับตั้งหลักอยู่จุดที่ลึกที่สุดของภูเขาเช่นนี้ซึ่งมีทางเข้าและทางออกเพียงสองทางเท่านั้นแน่นอน หากพูดถึงทางเข้าออกลับที่มีอยู่ ไม่ได้มีเพียงแค่สองทางอย่างแน่นอน ซึ่งมันเป็นทางที่คนธรรมดาไม่สามารถหาเจอได้อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะบริเวณทางเข้ามีม่านพลังปิดเอาไว้อยู่ หากเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกับ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1233

    เย่เทียนหยู่รู้สึกตกใจนิดหน่อย เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายด้วยซ้ำ จึงได้แต่ยักไหล่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เคยสู้ด้วยสักหน่อย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”“แต่ฉันรู้ค่ะ!”“ราชามังกรแห่งพรรคมังกร ผู้นำแห่งสำนักเงา หรือจะให้ฉันเรียกว่าคุณชายเย่ดีคะ?” เยว่เหลียนเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง อีกฝ่ายน่าจะมาจากสำนักดอกไม้ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สถานะพวกนี้ของเขาแน่นอน เขาจึงพูดขึ้นอย่างเร่งรีบออกไปว่า “คุณน่าจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักดอกไม้สินะ?”“ผู้อาวุโสอะไรกันคะ ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ฉันชื่อว่าเยว่เหลียนเวยค่ะ คุณเรียกฉันว่าพี่เยว่ก็ได้!” เยว่เหลียนเวยยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่เธอเผยรอยยิ้มออกมา เสน่ห์ในตัวเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเยว่หลิงตกตะลึงไปชั่วขณะ อาจารย์รองเป็นอะไรไป เรียกว่าพี่เยว่งั้นเหรอ ไอ้เด็กนั่นมันเป็นใครกันแน่“เอ่อ สวัสดีครับ พี่เยว่!” ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากถูกเรียกแบบนั้น เย่เทียนหยู่จึงทำได้แค่เริ่มทักทายใหม่อีกครั้ง“ค่ะ คุณชายเย่ไม่เลวเลยนะคะ ฉันชอบค่ะ”เยว่เหลียนเวยเ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status