เมื่อได้ยินคำยืนยันจากเย่เทียนหยู่ หลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า: “ก็ใช่นะ ปากนายน่ะอย่างกับพวกปากอัปมงคลเลยละ บอกว่าใครจะโชคร้ายเป็นได้โชคร้ายจริง ๆ ทุกที”“นี่จะเรียกว่าปากอัปมงคลได้ยังไง นี่เรียกว่าทำนายดุจเทพเจ้าต่างหาก”“ค่ะ ๆ ฉันใช้คำผิดเอง น่าจะบอกว่าเป็นคำทำนายแสนอัศจรรย์มากกว่าสินะ” หลินหว่านหรูพูดด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อได้ยินเย่เทียนหยู่พูดแบบนั้น แม้เธอจะไม่ค่อยเชื่อว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับหลี่ว์เจิ้ง แต่ไม่รู้ว่าทำไม เธออดไม่ได้ที่จะเชื่อสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดเย่เทียนหยู่วางสายโทรศัพท์ ความเย็นชาวาดผ่านดวงตาของเขา หลี่ว์เจิ้งนะหลี่ว์เจิ้ง รังควานแค่ตระกูลซ่งไม่พอ ยังดันหันปากกระบอกปืนมาทางผมเสียได้ รนหาที่ตายจริงๆแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจัดการคนคนหนึ่งก่อน เย่เทียนหยู่โทรหาหวงหงเจี้ยนทันที“คุณชายเย่!”“ว่ามา เรื่องที่เกิดกับหลินซื่อกรุ๊ปวันนี้มันเรื่องอะไรกัน” เย่เทียนหยู่ถามเขาตามตรง กระทั่งใช้น้ำเสียงหยาบคายแฝงด้วยความสงสัยอย่างชัดเจนหากคนธรรมดากล้าทำแบบนี้กับหวงหงเจี้ยนคงจบเห่ไปนานแล้วแต่เมื่อเผชิญหน้ากับเย่เทียนหยู่ผู้ทรงอิทธิพล หว
สำหรับตู้อีฝานที่ถูกจับ ในสถานการณ์ปกติเขาคงหมดโอกาสได้กลับออกมาด้านนอกแล้วเมื่อต้องเผชิญกับเซอร์ไพรส์ใหญ่ที่เข้ามากะทันหันเช่นนี้ สื่อเฉียงจึงตั้งใจโทรไปขอบคุณเย่เทียนหยู่โดยเฉพาะ ในคำพูดของเขาเผยนัยพิเศษบางอย่างออกมาแต่เย่เทียนหยู่ไม่สนใจ เขาเพียงขอให้อีกฝ่ายทำประโยชน์เพื่อประชาชน ไม่อย่างนั้น เย่เทียนหยู่ทำให้เขาขึ้นตำแหน่งได้ ก็ทำให้เขาลงมาได้เหมือนกันสื่อเฉียงตอบตกลงทันที เดิมทีนี่ก็เป็นอุดมคติของเขาเอง และเพราะมีความคิดแบบเดียวกัน เขากับหวงหงเจี้ยนจึงร่วมมือกันได้อย่างมีความสุขหลังจากได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่ เขาก็รู้สึกว่าคนอย่างคุณเย่เป็นคนที่มีความเมตตาอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงในทางตรงกันข้าม ตู้อีฝานกลับต้องย่อยยับไป แต่เขาก็พอจะเดาออกว่าทำไมถึงเกิดเรื่อง อาจเป็นเพราะเรื่องที่เขาในช่วงนี้ไปล่วงเกินผู้ทรงอิทธิพลเข้ารวมกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลหม่า ในที่สุด ตู้อีฝานก็เดาทุกอย่างได้ นี่อาจเป็นเพราะปัญหาที่เกิดจาก ตู้อิ๋ง ลูกสาวของเขาด้วยเหตุนี้ เขาจึงให้ตู้อิ๋งได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดโดยการส่งต่อข้อความตู้อิ๋งแทบไม่เชื่อเรื่องทั้งหมดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่
“คุณชายเย่ คุณมาแล้ว เชิญนั่งก่อนสิคะ”แม้ว่าซ่งหลิงจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง แต่เธอก็ยังลุกขึ้นทักทายเขาอย่างรวดเร็วตู้อิ๋งลุกยืนพร้อมมองดูเย่เทียนหยู่อย่างหวาดกลัว การเจอหน้ากันหนนี้ต่างออกไปจากครั้งที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดเย่เทียนหยู่ไม่มองซ่งหลิงเลย เขาก้าวไปข้างหน้าและนั่งลงตรงตำแหน่งของตนเอง “บอกมาว่ามีเรื่องอะไร”เมื่อตู้อิ๋งได้ยินแบบนั้น เธอก็พุ่งตัวเข้าไปพูดทันทีว่า “คุณชายเย่ เป็นฉันเองค่ะ ฉันมาเพื่อขอโทษคุณ”“ซ่งหลิงถูกฉันบังคับให้พาฉันมาพบคุณ อย่าตำหนิเธอเลยนะคะ” เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้นเขาก็ไม่ได้ตอบ เขายังคงนั่งทำหน้าไร้อารมณ์ บ่งบอกว่าให้เธอพูดต่อได้“ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้วค่ะ!”“ฉันไม่ควรให้พ่อใช้อำนาจของเขาทำร้ายคุณ และยังให้คนอื่นไปสอบสวนหลินซื่อกรุ๊ป ทั้งหมดเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุของฉันเองค่ะ”“ตอนนี้ฉันรู้ว่าฉันผิดเอง โปรดให้โอกาสฉันด้วย ขอแค่คุณปล่อยพ่อของฉันไป ฉันจะยอมทำทุกอย่างที่คุณขอ” ตู้อิ๋งขอร้องอย่างน่าสงสารเธอรู้ว่าขณะที่อีกฝ่ายกำลังโกรธ เธอจะต้องแสดงความจริงใจการยอมรับทุกคำขอของเขาจึงเป็นความจริงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่ทุกคนหรอกท
เย่เทียนหยู่พูดไม่ออก ปกติเขามักจะใจอ่อนกับผู้หญิง เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า “ตู้อิ๋ง คุณไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก ผมจะให้อภัยคุณเมื่อไรก็ได้”“หรือจะให้พูดว่าผมขี้เกียจเอาความคุณแต่แรกก็ยังได้ เพราะอย่างนั้นผมถึงไม่ได้เอาความคุณ แล้วก็ไม่ได้หาเรื่องใส่คุณด้วย”“แต่เรื่องพ่อของคุณ มันเป็นเรื่องของราชการ ผมช่วยอะไรไม่ได้หรอก”“ไม่ คุณมี คุณต้องมีแน่ ฉันรู้มาหมดแล้วว่าหงหม่ากรุ๊ปล้มละลายเพราะหม่าเผิงล่วงเกินคุณ พ่อของฉันก็ล่วงเกินคุณ ตำแหน่งที่ควรจะเข้ารับก็ถูกแย่งไป คุณต้องมีสักวิธีสิ”“คุณผิดแล้ว ถ้าพ่อคุณไม่มีปัญหาก็ไม่มีใครพาเขาไปได้หรอก แต่ในเมื่อตอนนี้เขามีปัญหา ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ และผมก็ช่วยเขาออกมาไม่ได้ด้วย”“ไม่อย่างนั้น ผมจะต่างอะไรกับพ่อคุณละ?”“นี่มันหลักการ ต่อให้คนทั้งตระกูลคุณมาคุกเข่าให้ผมก็ไร้ประโยชน์”เย่เทียนหยู่ส่ายหัวเมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งหลิงก็รีบพูดขึ้นมาว่า: “ตู้อิ๋ง ช่างมันเถอะ ที่คุณชายเย่พูดถูกต้องแล้วล่ะ ถึงเขาจะมีอำนาจมากแต่เขาก็มีขอบเขต ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่”“แล้วฉันควรทำยังไง ถ้าไม่มีพ่อ ตระกูลของเราก็จะต้องพินาศ”“มันเป็นความผิดของฉันเอง ทุกอย่างมั
“อะไร คุณกลัวเหรอ?”เย่เทียนหยู่ถามอย่างใจเย็นหากซ่งหลิงไม่เต็มใจจะกลับมาไป เขาก็ไม่อยากช่วยตระกูลซ่งแล้วจริง ๆ ผู้หญิงที่ทิ้งความปลอดภัยของครอบครัวเพราะความเห็นแก่ตัวแบบนั้น จะอยู่บนโลกนี้ต่อไปทำไมโชคดีที่ซ่งหลิงสะดุ้งตัวเล็กน้อยและตอบทันที: “เปล่าค่ะ คือฉัน ฉันแค่กลัว แต่ฉันจะกลับไปค่ะ ฉันจะไม่มีทางหนีไปแล้วทิ้งให้ตระกูลซ่งต้องทนลำบากหรอกค่ะ”“ดีมาก เพราะถ้าคุณเลือกไม่กล้ากลับไปจริง ๆ ผมก็ไม่จำเป็นต้องช่วยคนแบบนี้”เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบซ่งหลิงตกตะลึงด้วยความกลัวอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าถ้าเมื่อกี้เธอตอบผิดไปละก็ คนที่จะช่วยพวกเขาเพียงคนเดียวก็จะหายวับไปแม้เธอจะยังไม่แน่ใจว่าคนที่จะช่วยพวกเขาคนนี้จะต้านอำนาจของตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลงตูได้หรือไม่ก็ตามซ่งหลิงเหลือบมองตู้อิ๋งและพูดอย่างเร่งรีบ: “พี่อิ๋ง หลี่ว์เจิ้งจากเมืองหลงตูมาถึงแล้ว ฉันต้องกลับไปจัดการเรื่องของเขาก่อนเลยอยู่เป็นเพื่อนพี่ที่นี่ไม่ได้แล้ว”“อย่ารู้สึกแย่เลยนะคะ ถ้าพี่เป็นอะไรไปอีกคนคุณน้าหลี่แม่พี่จะทำยังไง”“อือ ฉันเข้าใจแล้ว”เพียงแค่พริบตา แต่ดูเหมือนตู้อิ๋งจะโตขึ้นมาก อย่างน้อย เธอก็ไม่ได้สิ้นหวั
“อ่า เธอจะกลับมาทำไม หลี่ว์เจิ้งนั่นไม่ธรรมดาเลยแถมยังพาพวกเป็นวรยุทธ์มากฝีมือมาด้วย เกิดเขาอยากแย่งตัวเธอไปเราก็คงห้ามไม่อยู่”ซ่งหยางอธิบายด้วยความกังวลทันที“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรายังมีคุณชายเย่อยู่ไม่ใช่เหรอคะ” ซ่งหลิงกล่าว“ถ้าคุณชายเย่อยู่ที่นี่ก็คงไม่เป็นไร แต่คุณชายเย่ยังไม่มา พี่ไม่รู้ว่าเขาจะมาถึงเมื่อไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะมาถึงหรือเปล่า” ซ่งหยางอธิบาย“พี่ นี่ที่ผ่านมาไม่เคยเชื่อคุณชายเย่เลยเหรอคะ?”“พี่น่ะเชื่อคุณชายเย่อยู่แล้ว แต่พี่เป็นห่วงเธอมากกว่า เราจะผ่านไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นโอกาสจะเสียใจยังไม่มีเลย”“ฮ่าฮ่า พี่ไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ คุณชายเย่กำลังขับรถอยู่ค่ะ ฉันบังเอิญอยู่กับเขา และเขาก็พาฉันกลับมาด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาบอกแล้วละค่ะว่าเราไม่ต้องกังวล”“สำหรับคุณชายเย่ จัดการนายน้อยหลี่ว์ง่ายอย่างกับปอกกล้วยเข้าไปปากเลยละ”หลังจากที่ซ่งหลิงพูดจบ เธอก็เหลือบมองเย่เทียนหยู่ แล้วเอาโทรศัพท์แนบหูแล้วถามว่า “คุณชายเย่ เป็นแบบนั้นใช่ไหมคะ?”ยัยเด็กนี่เมื่อกี้กลัวเขาอยู่แท้ ๆ ตอนนี้ดันมาล้อเล่นกับเขา แต่เกรงว่าคงไม่ใช่แค่การล้อเล่นหรอก เด็กนี่ฉลาดไม่เบาแต่เ
“ฟังเสียงคุณแล้วไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นะ เป็นอะไรไป?”เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นความผิดปกติจึงถามทันทีแม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ติดต่อกันมากนัก แต่ หยางเฉียนเฉียนก็มีสำคัญกับเขาไม่น้อย หากตอนนั้นไม่ใช่เพราะเธอได้แต่งงานกับชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลถัง เขาอาจจะหยุดรั้งเธอ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” หยางเฉียนเฉียนรีบปฏิเสธ“จริง ๆ นะ ถ้าคุณมีปัญหาบอกกับผมได้เลย ด้วยความสามารถของผมไม่มีปัญหาไหนที่ผมแก้ไม่ได้” เย่เทียนหยู่กล่าว“อย่างนั้นเหรอคะ ถ้างั้นฉันชอบพี่เย่ ไม่อยากแต่งงานกับนายน้อยถังได้ไหมคะ”“เรื่องนั้น...”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะยิ้มแห้ง“ทำไม หมดหนทางแล้วเหรอ อยู่แล้วเชียวว่าพี่น่ะขี้โม้”หยางเฉียนเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงทรงเสน่ห์ “แต่พี่อย่าคิดมากนะคะ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ”แต่เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าหยางเฉียนเชียนไม่ได้ล้อเล่น โดยเฉพาะตอนนี้ที่เธอเริ่มรู้สึกหดหู่อย่างเห็นได้ชัดดังนั้นเขาจึงพูดทันที: “แต่ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ถ้าคุณไม่ชอบนายน้อยถัง มันก็ไม่ได้หมดหนทางซะทีเดียว”หยางเฉียนเฉียนตกใจเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้ม: “พี่เย่พูดเรื่องไร้สาระอีกแล้ว ฉันสงสัยว่าคุณจะไม่รู้ว่าควา
ดังนั้นเธอจึงมีเพียงทางเลือกเดียว นั่นคือยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตยิ่งหยางเฉียนเฉียนได้รู้เรื่องนี้ เธอก็ยิ่งไม่อยากโทรหาเย่เทียนหยู่ ระงับความคิดถึงในหัวใจ ไม่เคยโทรหาเขาเลยสักครั้งเพราะเธอรู้ว่าพี่เย่อาจไม่ได้ชอบเธอขนาดนั้น แต่ถ้าเธอมีปัญหา เขาก็จะช่วยเธอแน่นอนแม้เธอจะเสียใจมากที่เขาไม่เคยติดต่อหาเธอเลยทั้งที่เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ก็ตามสรุปแล้ว เธอไม่อยากทำร้ายพี่เย่เพราะยิ่งเธอเข้าใกล้ก็ยิ่งตระหนักว่านายน้อยถังเป็นคนเลวทรามน่ากลัว และทุกคนเกรงกลัวเขา ถ้าเขารู้ว่าเธอชอบพี่เย่ มีหวังได้หั่นพี่เย่เป็นชิ้น ๆ แน่เพื่อความปลอดภัยของพี่เย่ เธอต่อต้านความยากติดต่อพี่เย่นับครั้งไม่ถ้วนของตัวเองแต่ ความทรมานทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ในใจมันทรมานเธอเกินไปเพราะอย่างนั้น มารในตัวก็เอาชนะใจเธอ เธออดไม่ได้ที่จะโทรหาเย่เทียนหยู่ในที่สุด แต่ไม่ใช่เพื่อบอกทุกอย่างกับเขา เพียงแค่พูดคุยกับเขาและฟังเสียงของเขาเท่านั้นเพราะเธอคิดถึงพี่เย่มากจริง ๆ“เฉียนเฉียน ฟังอยู่หรือเปล่า?”เย่เทียนหยู่ไม่ได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายเป็นเวลานาน เขาจึงถามขึ้นเรื่องนี้ทำเอาซ่งหลิงตื่นเต้นเล็กน้อย ผู้หญิง
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก