แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เธอเข้าใจเย่เทียนหยู่ผิดทุกครั้งเลยไม่ใช่เหรอ เพราะอย่างนั้นในครั้งนี้ เธออดไม่ได้ที่จะเชื่อในเย่เทียนหยู่มากกว่าเธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “คุณชายเย่ คุณจัดการพวกเขาแล้วจริงเหรอคะ เป็นคุณฆ่าพวกเขาเองเหรอ?”คำถามนี้ถามเย่เซวียน แต่เขาก็ตอบยืนยันอย่างรวดเร็ว: “แน่นอนสิครับ ประธานหลินไม่เชื่อเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ!”หลินหว่านหรูรีบพูด “ฉันแค่อยากจะยืนยันน่ะค่ะ เพราะคนของตระกูลกงซุนอันตรายเกินไป”“เป็นแบบนั้นจริงๆ ถึงตระกูลกงซุนจะเป็นแค่มดสำหรับผมก็เถอะ แต่เทียบกับตระกูลหลินก็คงจะเป็นยักษ์ใหญ่ทีเดียว”เย่เซวียนพูดเป็นนัยถึงพลังของตระกูลเย่แล้วถามว่า: “คุณหลิน คุณสนใจไปที่หลงตูเพื่อหาความก้าวหน้าหรือเปล่าครับ ถ้าไปที่นั่น ผมคนนี้สามารถให้ความช่วยเหลือคุณได้มาก”หลินหว่านหรูได้ฟังดังนั้นแล้วจะไม่รู้ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร “ขอบคุณคุณชายเย่นะคะ แต่ตอนนี้ธุรกิจของตระกูลฉันยังแข็งแกร่งไม่พอ เราเลยยังไม่มีแผนการนั้นเลยค่ะ!” เธอรีบตอบ“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะ”เขาพูดไปขนาดนั้นแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับยังไม่รู้จักน้อมรับอีก เย่เซวียนจึงไม่อยากอยู่ที่น
“ขอความเมตตาอะไร? เห็นด้วยตาตัวเองหรือเปล่า” ท่านปู่หลินถาม“ไม่ได้เห็นหรอกค่ะ”“แค่นั้นแหละ เขาคงหาบันทึกเสียงมาหลอกหลาน อีกอย่าง ถ้าหลานเชื่อเขามาก ทำไมเมื่อกี้หลานไม่ถามคุณชายเย่ล่ะ? แค่เปรียบเทียบทั้งสองคน ความจริงก็ปรากฏออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” ท่านปู่หลินถามกลับ“หนูก็เคนคิดแบบนั้นค่ะ แต่เห็นได้ชัดว่าคุณชายเย่กำลังโกหก ถ้าหนูเปิดเผยเขา ก็เป็นการทำให้เขาอับอายไม่ใช่เหรอคะ?” หลินหว่านหรูถามอันที่จริงเธอยังมีข้อกังวลอีกประการหนึ่ง นั่นคือ เย่เทียนหยู่บอกเธอว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร การบอกคนในตระกูลถือเป็นการละเมิดไปแล้วหากเขาบอกคุณชายเย่อีก ก็ไม่รู้ว่ามันจะนำมาปัญหาแบบไหนไปหาเทียนหยู่ อีกอย่างถ้าคุณชายเย่ถูกเปิดเผยว่าเป็นคนพูดโกหก แล้วเกิดโกรธจัด ก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้างคุณปู่หลินโกรธและทำอะไรไม่ถูก หลานสาวคนนี้ถูกเย่เทียนหยู่หลอกจนจมปลักไปแล้ว แต่เด็กนั่นก็เก่งวรยุทธ์มาก ขนาดหาคนไปจัดการเขายังทำไม่สำเร็จดูท่าคงมีแต่ต้องทำให้หลินหว่านหรูมองแผนการหลอกลวงของเย่เทียนหยู่ออกเท่านั้นในเมื่อตระกูลกงซุนก็เกิดเรื่องไปแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องจากไปไหน หลินหว่านหรูกลับไปที่ห้อ
เป็นสาวพราวเสน่ห์ที่ช่างดึงดูดจริงๆ“คุณคงเป็นเย่เทียนหยู่สินะ?” ถึงหญิงสาวจะไม่เคยเจอตัวจริงของเย่เทียนหยู่ แต่เธอเคยเห็นรูปถ่าย วันนี้เธอจึงจงใจมาหาเขาถึงที่เย่เทียนหยู่ชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้สักหน่อย เขาพยักหน้า “ผมเองครับ คุณคือ?”“คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นใคร ยังจะทำมาบอกว่าช่วยตระกูลของฉันได้ แถมยังหลอกเอาวิลล่าระดับไฮเอนด์ของตระกูลซ่งเราไปอีก”หญิงสาวถามด้วยความโกรธทันทีเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยู่ก็รู้ที่มาของหญิงสาว อีกทั้งท่าทางโหดเหี้ยมและโดดเด่นเช่นนี้ เกรงว่าคงเป็น ซ่งหลิง ต้นเหตุของปัญหาครั้งนี้สินะ“อะไร นายไม่มีอะไรจะพูดเหรอ?” ซ่งหลิงตะคอกอย่างเย็นชาชายที่อยู่ข้างๆ เขาถึงกับพูดว่า: “เจ้าหนู กล้าจริงๆ ถึงกับกล้าหลอกเอาวิลล่าของตระกูลซ่ง ไม่กลัวตายอยู่ในนั้นหรือไง?”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วและถามว่า “คุณเป็นใครอีก”“ผมเป็นใคร บอกไปคงทำนายกลัว”ชายหนุ่มเผยสีหน้าเย่อหยิ่ง “แต่จะบอกให้ก็ได้ ฉันคือหม่าเผิง ทายาทของหงหม่ากรุ๊ป หงหม่ากรุ๊ปเคยได้ยินหรือเปล่า ทรัพย์สินมากกว่าห้าพันล้านเลยนะ”“หลายพันล้านนั่นเยอะแล้วเหรอ?” เย่เทียนหยู่ตอยเสียงเรีย
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ซ่งหลิงก็ลังเลและถามว่า “หม่าเผิง คุณบอกว่าคุณชอบฉันและเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อฉันใช่ไหม?”“แน่นอน สำหรับคุณ ผมเต็มใจทำทุกอย่าง จะให้บุกน้ำลุยไฟผมก็ไม่ลังเลเลย” หม่าเผิงสัญญาทันทีก็ผู้หญิงชอบฟังคำพูดแบบนี้ทุกคนไม่ใช่รึไงแน่นอนว่าเมื่อฟังคำพูดเหล่านี้ ซ่งหลิงก็รู้สึกประทับใจมากทั้งสองมักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน แม้จะไม่เคยยอมรับความรักของหม่าเผิง แต่หม่าเผิงก็หน้าตาดี ตระกูลของเขาถือว่าร่ำรวยและมีอำนาจ เป็นคู่ครองที่เหมาะสมกับเธอ แต่เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะรักเธอมากขนาดนี้“หลิงหลิง ทำไมคุณไม่พูดต่อ?” หม่าเผิงมองไปที่ซ่งหลิง เห็นได้ชัดว่าเธอประทับใจ เขาจึงแอบภูมิใจ หากได้แต่งงานกับลูกสาวของตระกูลซ่งละก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาธุรกิจของเขา ยิ่งกว่านั้น ระนะนี้ธุรกิจที่บ้านเขาไม่ราบรื่นสักเท่าไร“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ไม่คิดว่าคุณจะชอบฉันมากขนาดนี้ จริงๆ แล้วครั้งนี้ฉันประสบปัญหาใหญ่น่ะ”“ปัญหาใหญ่เหรอ?”“เรื่องยุ่งยากอะไรกัน คุณบอกผม ต่อให้ผมต้องใช้อำนาจของคนทั้งตระกูลผมก็จะช่วยคุณ คงไม่ใช่เรื่องหลี่ว์เจิ้งนั่นหรอกใช่ไหม?” หม่าเผิงถามทันที“เป็นเขาค่ะ เขาเป็
หมายความว่า พี่ชายก็ไม่เห็นด้วยกับการให้วิลล่าไปหลังจากกลับบ้านแม้ว่าจะสายไปหน่อย แต่ซ่งหลิงก็ยังไปหาซ่งหยางด้วยท่าทางลึกลับ ก่อนที่เธอจะพูดอย่างมีความสุขว่า “พี่คะ รู้ไหมว่าวันนี้ฉันไปทำอะไรมา”“ทำอะไร ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญนะ อย่าเพิ่งทำเรื่องวุ่นวาย” ซ่งหยางรู้สึกหวาดหวั่นอย่างไม่อาจอธิบาย“ไม่ต้องกังวล ฉันเป็นคนประเภทที่ยุ่งวุ่นวายรึไงคะ วันนี้ฉันไปหา เย่เทียนหยู่ นักต้มตุ๋นคนนั้นมาค่ะ” ซ่งหลิงพูดอย่างมีความสุข“อะไรนะ!”ซ่งหยางตกใจกลัว ใบหน้าของเขาซีดเผือด: “หลิงหลิง คุณกำลังพูดเรื่องอะไร คุณไปหาคุณชายเย่แล้วเหรอ ไปเขาทำไม ไม่ได้ทำอะไรมั่วซั่วไปใช่ไหม” เขาพูดรีบพูดด้วยความวิตกกังวล“จะไปทำมั่วซั่วได้ยังไงละคะ หนูไปหาเขาเพื่อขอวิลล่าคืน ไม่สิ วิลล่าไม่ได้คืน แต่เขาโอนเงินมาให้ร้อยห้าสิบล้านค่าวิลล่าค่ะ พี่ว่า ฉันเก่งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมคะ”ซ่งหลิงพูดอย่างตื่นตระหนก“อะไรนะ!”“……”ซ่งหยางตกตะลึงสุดขีดพร้อมกับชะงักอยู่กับที่ด้วยสีหน้าคร่ำเครียด เขายกมือขวาขึ้นมาและอยากจะตบเธอแรงๆตั้งแต่เด็กจนโตเขารักน้องสาวคนนี้มากที่สุด แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะไปสร้างหายนะครั้งใหญ่เช่นนี้“พี
ขอแค่สามารถปัญหาที่เกิดจากหลี่ว์เจิ้งได้ ซ่งเหวินป๋อก็ไม่ลังเลที่จะจ่ายทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลซ่ง แน่นอนว่า ก่อนอื่นคืออีกฝ่ายต้องจัดการหลี่ว์เจิ้งได้จริงๆไม่อย่างนั้น ตระกูลซ่งคงไม่เหลืออะไรให้เขาอีกแล้วแต่เมื่อซ่งหลิงได้ยินแบบนั้น เธอก็กังวลทันทีและพูดว่า “พ่อ พ่อพูดอะไรกันคะ ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลซ่ง นั่นมันเงินตั้งกี่หมื่นล้านกันคะ”“กี่หมื่นล้าน?”“ยังมีหน้าพูดอีกเหรอ ถ้าไม่เพราะแกไปทำอะไรบ้าบิ่นขนาดนี้ เราจะถูกบีบบังคับมาถึงจุดนี้ได้ยังไง” ซ่งเหวินป๋อพูดด้วยความโกรธ“แต่เขาดูธรรมดามากเลยนะคะ และฉันก็ขอให้คนตรวจสอบแล้ว เขาแค่มีวรยุทธ์เล็กน้อย ไม่มีผู้หนุนหลัง ขนาดแม่สามีตัวเองเขายังจัดการไม่ได้ จะมาช่วยเราได้ยังไง?”ดูเหมือนว่าซ่งหลิงจะไม่ได้ไร้สมอง แถมเธอยังสืบเรื่องเย่เทียนหยู่ด้วย“แก!”“พ่อโกรธแกจริงๆ!”“แกคิดว่าเขาไร้ประโยชน์ใช่ไหม? ในสายตาของแก ประธานหยางแห่งหอการค้าหลงเถิงมีประโยชน์ไหม?”“แน่อยู่แล้วคต่ะ เขาเป็นถึงประธานหอการค้าหลงเถิง คนที่รวยที่สุดในเมืองเทียนไห่ เขามีอำนาจทุกอย่างและเป็นแบบอย่างของหนูด้วยค่ะ” ซ่งหลิงพูดทันที“งั้นเหรอ ถ้าแกบอกแบบน
ซ่งหยางอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เขารู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าน้องสาวของเขาทำให้คุณชายเย่โกรธมากทำยังไงดีนี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ ว่ากันว่าหลี่ว์เจิ้งจะมาถึงเมืองเทียนไห่ในคืนพรุ่งนี้ เมื่อเขามาจริงๆ ตระกูลอาจไม่มีทางเลือกนอกจากต้องประนีประนอม“โทรไปอีก!”ซ่งเหวินป๋อกัดฟันพูด เกรงว่าคราวนี้คงต้องสละทรัพย์สินตระกูลซ่งครึ่งหนึ่งจริงๆซ่งหยางพยักหน้าแล้วโทรอีกครั้งเย่เทียนหยู่เห็นหมายเลขจึงขมวดคิ้วและวางสายอีกครั้งหากเป็นครั้งแรกอาจเป็นการวางสายผิด แต่ในสายที่สอง นั่นหมายความว่าเขาไม่มีความสุขและไม่ต้องการรับสายหากการยังโทรไปอีก อาจส่งผลตรงกันข้าม“พ่อ ผมควรทำยังไงดีครับ” ซ่งหยางหมดหนทาง“จะทำอะไรได้อีก พรุ่งนี้พ่อจะไปเยี่ยมเขาด้วยตัวเอง” ซ่งเหวินป๋อพูดอย่างหมดหนทาง เย่เทียนหยู่คือฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเขาได้จะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาดซ่งหลิงสีหน้าย่ำแย่ เธอกังวลว่าตัวเองจะรับมือกับหลี่ว์เจิ้งที่อยากได้ตัวเธอไม่ได้ และเธอก็เจ็บปวดด้วยเช่นกันที่คราวนี้เป็นความผิดของเธอเองที่นำเรื่องราวมาเป็นแบบนี้เธอกัดฟันแล้วพูดว่า "พ่อ พรุ่งนี้หนูจะไปหาเขาเพื่อขอโทษเองค่ะ ต่อให
คำใบ้นี้ชัดเจนเกินไปเย่เทียนหยู่ไม่ได้โง่ ต่อให้เธอไม่พูด แต่เพียงมองดูแก้มที่แดงระเรื่อกับร่างกายที่สั่นเทาของเธอ เขาพอจะเดาได้แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดตรงเกินไป เขาเพียงแค่พูดว่า: “เรื่องนั้น ตอนนี้คุณคงรู้ว่าประธานหลินหว่านหรูเป็นภรรยาของผม และมันหมายถึงบริษัทนี้เป็นของผมด้วย”“เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากตอบแทนผมจริงๆ ผมก็มีเรื่องหนึ่งอยากให้คุณทำอยู่ครับ”“เรื่องอะไรคะ พี่เย่บอกมาได้เลย” หัวใจของหลิวซือซือเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ พี่เย่จะไม่ร้องขอแต่ทำในออฟฟิศจะไม่น่าอายไปหน่อยเหรอ เกิดมีคนมาได้ยินเข้า ต่อไปจะมีหน้าไปเจอใครอีก?แต่ในเมื่อเธอก็พูดไปแล้ว ว่าจะฟังพี่เย่ทุกอย่าง ไม่สนละ ถ้าพี่เย่ให้เธอทำเธอก็จะทำ เมื่อคิดว่ามันน่าตื่นเต้นแค่ไหนถ้าทำตอนอยู่ในออฟฟิศ มันก็ทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกร้อนขึ้นมาเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่กล่าวต่อ: “ถ้าคุณทำงานหนักและสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทมากขึ้น นี่คือการตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับผม”“แค่นั้นเหรอคะ?”หลิวซือซือสับสนเล็กน้อย เธอบอกไปชัดเจนขนาดนั้น แถมยังบอกด้วยว่าจะไม่ก่อปัญหา หรือว่าพี่เย่ไม่เข้าใจ“อือมีแค่นี้ละ คุณมีอะไรอีกหรือเปล่า?”เย่เทียนห