เป็นสาวพราวเสน่ห์ที่ช่างดึงดูดจริงๆ“คุณคงเป็นเย่เทียนหยู่สินะ?” ถึงหญิงสาวจะไม่เคยเจอตัวจริงของเย่เทียนหยู่ แต่เธอเคยเห็นรูปถ่าย วันนี้เธอจึงจงใจมาหาเขาถึงที่เย่เทียนหยู่ชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้สักหน่อย เขาพยักหน้า “ผมเองครับ คุณคือ?”“คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นใคร ยังจะทำมาบอกว่าช่วยตระกูลของฉันได้ แถมยังหลอกเอาวิลล่าระดับไฮเอนด์ของตระกูลซ่งเราไปอีก”หญิงสาวถามด้วยความโกรธทันทีเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยู่ก็รู้ที่มาของหญิงสาว อีกทั้งท่าทางโหดเหี้ยมและโดดเด่นเช่นนี้ เกรงว่าคงเป็น ซ่งหลิง ต้นเหตุของปัญหาครั้งนี้สินะ“อะไร นายไม่มีอะไรจะพูดเหรอ?” ซ่งหลิงตะคอกอย่างเย็นชาชายที่อยู่ข้างๆ เขาถึงกับพูดว่า: “เจ้าหนู กล้าจริงๆ ถึงกับกล้าหลอกเอาวิลล่าของตระกูลซ่ง ไม่กลัวตายอยู่ในนั้นหรือไง?”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วและถามว่า “คุณเป็นใครอีก”“ผมเป็นใคร บอกไปคงทำนายกลัว”ชายหนุ่มเผยสีหน้าเย่อหยิ่ง “แต่จะบอกให้ก็ได้ ฉันคือหม่าเผิง ทายาทของหงหม่ากรุ๊ป หงหม่ากรุ๊ปเคยได้ยินหรือเปล่า ทรัพย์สินมากกว่าห้าพันล้านเลยนะ”“หลายพันล้านนั่นเยอะแล้วเหรอ?” เย่เทียนหยู่ตอยเสียงเรีย
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ซ่งหลิงก็ลังเลและถามว่า “หม่าเผิง คุณบอกว่าคุณชอบฉันและเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อฉันใช่ไหม?”“แน่นอน สำหรับคุณ ผมเต็มใจทำทุกอย่าง จะให้บุกน้ำลุยไฟผมก็ไม่ลังเลเลย” หม่าเผิงสัญญาทันทีก็ผู้หญิงชอบฟังคำพูดแบบนี้ทุกคนไม่ใช่รึไงแน่นอนว่าเมื่อฟังคำพูดเหล่านี้ ซ่งหลิงก็รู้สึกประทับใจมากทั้งสองมักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน แม้จะไม่เคยยอมรับความรักของหม่าเผิง แต่หม่าเผิงก็หน้าตาดี ตระกูลของเขาถือว่าร่ำรวยและมีอำนาจ เป็นคู่ครองที่เหมาะสมกับเธอ แต่เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะรักเธอมากขนาดนี้“หลิงหลิง ทำไมคุณไม่พูดต่อ?” หม่าเผิงมองไปที่ซ่งหลิง เห็นได้ชัดว่าเธอประทับใจ เขาจึงแอบภูมิใจ หากได้แต่งงานกับลูกสาวของตระกูลซ่งละก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาธุรกิจของเขา ยิ่งกว่านั้น ระนะนี้ธุรกิจที่บ้านเขาไม่ราบรื่นสักเท่าไร“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ไม่คิดว่าคุณจะชอบฉันมากขนาดนี้ จริงๆ แล้วครั้งนี้ฉันประสบปัญหาใหญ่น่ะ”“ปัญหาใหญ่เหรอ?”“เรื่องยุ่งยากอะไรกัน คุณบอกผม ต่อให้ผมต้องใช้อำนาจของคนทั้งตระกูลผมก็จะช่วยคุณ คงไม่ใช่เรื่องหลี่ว์เจิ้งนั่นหรอกใช่ไหม?” หม่าเผิงถามทันที“เป็นเขาค่ะ เขาเป็
หมายความว่า พี่ชายก็ไม่เห็นด้วยกับการให้วิลล่าไปหลังจากกลับบ้านแม้ว่าจะสายไปหน่อย แต่ซ่งหลิงก็ยังไปหาซ่งหยางด้วยท่าทางลึกลับ ก่อนที่เธอจะพูดอย่างมีความสุขว่า “พี่คะ รู้ไหมว่าวันนี้ฉันไปทำอะไรมา”“ทำอะไร ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญนะ อย่าเพิ่งทำเรื่องวุ่นวาย” ซ่งหยางรู้สึกหวาดหวั่นอย่างไม่อาจอธิบาย“ไม่ต้องกังวล ฉันเป็นคนประเภทที่ยุ่งวุ่นวายรึไงคะ วันนี้ฉันไปหา เย่เทียนหยู่ นักต้มตุ๋นคนนั้นมาค่ะ” ซ่งหลิงพูดอย่างมีความสุข“อะไรนะ!”ซ่งหยางตกใจกลัว ใบหน้าของเขาซีดเผือด: “หลิงหลิง คุณกำลังพูดเรื่องอะไร คุณไปหาคุณชายเย่แล้วเหรอ ไปเขาทำไม ไม่ได้ทำอะไรมั่วซั่วไปใช่ไหม” เขาพูดรีบพูดด้วยความวิตกกังวล“จะไปทำมั่วซั่วได้ยังไงละคะ หนูไปหาเขาเพื่อขอวิลล่าคืน ไม่สิ วิลล่าไม่ได้คืน แต่เขาโอนเงินมาให้ร้อยห้าสิบล้านค่าวิลล่าค่ะ พี่ว่า ฉันเก่งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมคะ”ซ่งหลิงพูดอย่างตื่นตระหนก“อะไรนะ!”“……”ซ่งหยางตกตะลึงสุดขีดพร้อมกับชะงักอยู่กับที่ด้วยสีหน้าคร่ำเครียด เขายกมือขวาขึ้นมาและอยากจะตบเธอแรงๆตั้งแต่เด็กจนโตเขารักน้องสาวคนนี้มากที่สุด แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะไปสร้างหายนะครั้งใหญ่เช่นนี้“พี
ขอแค่สามารถปัญหาที่เกิดจากหลี่ว์เจิ้งได้ ซ่งเหวินป๋อก็ไม่ลังเลที่จะจ่ายทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลซ่ง แน่นอนว่า ก่อนอื่นคืออีกฝ่ายต้องจัดการหลี่ว์เจิ้งได้จริงๆไม่อย่างนั้น ตระกูลซ่งคงไม่เหลืออะไรให้เขาอีกแล้วแต่เมื่อซ่งหลิงได้ยินแบบนั้น เธอก็กังวลทันทีและพูดว่า “พ่อ พ่อพูดอะไรกันคะ ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลซ่ง นั่นมันเงินตั้งกี่หมื่นล้านกันคะ”“กี่หมื่นล้าน?”“ยังมีหน้าพูดอีกเหรอ ถ้าไม่เพราะแกไปทำอะไรบ้าบิ่นขนาดนี้ เราจะถูกบีบบังคับมาถึงจุดนี้ได้ยังไง” ซ่งเหวินป๋อพูดด้วยความโกรธ“แต่เขาดูธรรมดามากเลยนะคะ และฉันก็ขอให้คนตรวจสอบแล้ว เขาแค่มีวรยุทธ์เล็กน้อย ไม่มีผู้หนุนหลัง ขนาดแม่สามีตัวเองเขายังจัดการไม่ได้ จะมาช่วยเราได้ยังไง?”ดูเหมือนว่าซ่งหลิงจะไม่ได้ไร้สมอง แถมเธอยังสืบเรื่องเย่เทียนหยู่ด้วย“แก!”“พ่อโกรธแกจริงๆ!”“แกคิดว่าเขาไร้ประโยชน์ใช่ไหม? ในสายตาของแก ประธานหยางแห่งหอการค้าหลงเถิงมีประโยชน์ไหม?”“แน่อยู่แล้วคต่ะ เขาเป็นถึงประธานหอการค้าหลงเถิง คนที่รวยที่สุดในเมืองเทียนไห่ เขามีอำนาจทุกอย่างและเป็นแบบอย่างของหนูด้วยค่ะ” ซ่งหลิงพูดทันที“งั้นเหรอ ถ้าแกบอกแบบน
ซ่งหยางอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เขารู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าน้องสาวของเขาทำให้คุณชายเย่โกรธมากทำยังไงดีนี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ ว่ากันว่าหลี่ว์เจิ้งจะมาถึงเมืองเทียนไห่ในคืนพรุ่งนี้ เมื่อเขามาจริงๆ ตระกูลอาจไม่มีทางเลือกนอกจากต้องประนีประนอม“โทรไปอีก!”ซ่งเหวินป๋อกัดฟันพูด เกรงว่าคราวนี้คงต้องสละทรัพย์สินตระกูลซ่งครึ่งหนึ่งจริงๆซ่งหยางพยักหน้าแล้วโทรอีกครั้งเย่เทียนหยู่เห็นหมายเลขจึงขมวดคิ้วและวางสายอีกครั้งหากเป็นครั้งแรกอาจเป็นการวางสายผิด แต่ในสายที่สอง นั่นหมายความว่าเขาไม่มีความสุขและไม่ต้องการรับสายหากการยังโทรไปอีก อาจส่งผลตรงกันข้าม“พ่อ ผมควรทำยังไงดีครับ” ซ่งหยางหมดหนทาง“จะทำอะไรได้อีก พรุ่งนี้พ่อจะไปเยี่ยมเขาด้วยตัวเอง” ซ่งเหวินป๋อพูดอย่างหมดหนทาง เย่เทียนหยู่คือฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเขาได้จะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาดซ่งหลิงสีหน้าย่ำแย่ เธอกังวลว่าตัวเองจะรับมือกับหลี่ว์เจิ้งที่อยากได้ตัวเธอไม่ได้ และเธอก็เจ็บปวดด้วยเช่นกันที่คราวนี้เป็นความผิดของเธอเองที่นำเรื่องราวมาเป็นแบบนี้เธอกัดฟันแล้วพูดว่า "พ่อ พรุ่งนี้หนูจะไปหาเขาเพื่อขอโทษเองค่ะ ต่อให
คำใบ้นี้ชัดเจนเกินไปเย่เทียนหยู่ไม่ได้โง่ ต่อให้เธอไม่พูด แต่เพียงมองดูแก้มที่แดงระเรื่อกับร่างกายที่สั่นเทาของเธอ เขาพอจะเดาได้แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดตรงเกินไป เขาเพียงแค่พูดว่า: “เรื่องนั้น ตอนนี้คุณคงรู้ว่าประธานหลินหว่านหรูเป็นภรรยาของผม และมันหมายถึงบริษัทนี้เป็นของผมด้วย”“เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากตอบแทนผมจริงๆ ผมก็มีเรื่องหนึ่งอยากให้คุณทำอยู่ครับ”“เรื่องอะไรคะ พี่เย่บอกมาได้เลย” หัวใจของหลิวซือซือเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ พี่เย่จะไม่ร้องขอแต่ทำในออฟฟิศจะไม่น่าอายไปหน่อยเหรอ เกิดมีคนมาได้ยินเข้า ต่อไปจะมีหน้าไปเจอใครอีก?แต่ในเมื่อเธอก็พูดไปแล้ว ว่าจะฟังพี่เย่ทุกอย่าง ไม่สนละ ถ้าพี่เย่ให้เธอทำเธอก็จะทำ เมื่อคิดว่ามันน่าตื่นเต้นแค่ไหนถ้าทำตอนอยู่ในออฟฟิศ มันก็ทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกร้อนขึ้นมาเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่กล่าวต่อ: “ถ้าคุณทำงานหนักและสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทมากขึ้น นี่คือการตอบแทนที่ดีที่สุดสำหรับผม”“แค่นั้นเหรอคะ?”หลิวซือซือสับสนเล็กน้อย เธอบอกไปชัดเจนขนาดนั้น แถมยังบอกด้วยว่าจะไม่ก่อปัญหา หรือว่าพี่เย่ไม่เข้าใจ“อือมีแค่นี้ละ คุณมีอะไรอีกหรือเปล่า?”เย่เทียนห
แน่นอนว่าหลิวซือซือรีบปฏิเสธทันที พี่เย่บอกเป็นนัยอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีเรื่องเกินเลยกับเธอ แล้วเธอจะยังอาศัยอำนาจของพี่เย่รับของพวกนี้มาได้ยังไงหลังจากที่ซ่งหลิงรู้เรื่องนี้ เธอก็รีบเตรียมตัวและรีบตรงดิ่งมาถึงประตูห้องทำงานของเย่เทียนหยู่โดยมีหลิวซือซือนำทางหลิวซือซือเคาะประตู และแจ้งเย่เทียนหยู่ว่าซ่งหลิงมาถึงแล้วก่อนที่เธอจะเดินออกไปทันทีซ่งหลิงหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็เดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ทันทีที่เธอเข้ามา เธอก็เห็นเย่เทียนหยู่นั่งอยู่ด้วยท่าทางสบายๆถ้าเป็นเมื่อวาน เธอคงจะคิดว่าเขาเป็นชายไร้ความสามารถที่ไม่รู้กาลเทศะเอาเสียเลย หรือเธออาจจะอดพูดเยาะเย้ยเขาไม่ได้ด้วยซ้ำแต่วันนี้กลับรู้สึกว่า เขาทำทางมั่นใจขนาดนั้นราวกับไม่มีสิ่งใดที่เขาทำไม่ได้หรือก็คือ มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง“ค...คุณชายเย่!”ซ่งหลิงก้าวไปข้างหน้า เธอก้มลงและพูดด้วยความเค่ารพยำเกรง“อือ มีอะไรหรือเปล่า?”เย่เทียนหยู่ถามอย่างใจเย็นขณะที่เลื่อนดูโทรศัพท์โดยไม่เงยหน้าขึ้น“มีค่ะ!”“เมื่อวาน ฉันโง่เขลาไม่รู้ความเองค่ะ ฉันไม่รู้ความสามารถอันทรงพลังของคุณ
“อย่างนั้นเหรอ ที่แท้ผมเก่งขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ถ้าอย่างนั้น คุณมานั่งบนตักผม” เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบซ่งหลิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ และเธอก็ลังเลและถามว่า “คุณชายเย่ คุณแน่ใจใช่ไหมว่าจะปกป้องฉันได้”“คุณไม่เชื่อผมเหรอ?”“ในเมื่อคุณไม่เชื่อ แล้วจะมาขอโทษผมทำไม” เย่เทียนหยู่ถาม“เพราะฉันไม่มีทางเลือกอื่น”“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็เอาไว้ก่อน รอผมจัดการปัญหาเรื่องหลี่ว์เจิ้งได้ค่อยว่ากัน” เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าทีไม่แยแสเมื่อซ่งหลิงได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเธอก็แสดงความดีใจและเธอก็รีบถามว่า: “คุณชายเย่ ความหมายของคุณคือจะยกโทษเรื่องความผิดพลาดครั้งก่อนให้ฉันใช้ไหมคะ”“ถือว่านะ”“มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีอะไร คุณออกไปได้แล้ว” เย่เทียนหยู่กล่าว“ได้ค่ะ แต่คุณเย่ คุณช่วยบอกหมายเลขบัญชีให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ แล้วฉันจะให้ครอบครัวของฉันโอนเงินให้”“ไม่ต้องรีบหรอก รอจนกว่าเรื่องหลี่ว์เจิ้งจะเสร็จสิ้นค่อยว่ากัน”ซ่งหลิงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับสิ่งที่เธอพูด และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “คุณชายเย่ คุณไม่กลัวตระกูลซ่งจะผิดนัดจ่ายเงินเหรอคะ”“ผิดนัดจ่ายเงิน?”“ถ้ามีความสามารถ